ตอนที่แล้วตอนที่ 24 ฉีเหิงปะทะมารเฮยเย่
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 26 ระฆังฮุ่นหยวน

ตอนที่ 25 โม่ซื่อ


ตอนที่ 25 โม่ซื่อ

ทันใดนั้น เจตจำนงดาบที่เกือบจะไร้ที่สิ้นสุดระเบิดออกมาจากร่างกายของฉีเหิง

เจตจำนงดาบนั้นแข็งแกร่ง และทรงพลังมากจนเรียกได้ว่าเป็นอันดับหนึ่งในสายตาของมารเฮยเย่!

แม้แต่ในบรรดาปรมาจารย์แห่งวิถีมารเมื่อหลายพันปีก่อน ก็ไม่มีใครครอบครองเจตจำนงดาบที่น่าสะพรึงกลัวเช่นนี้ได้

ราวกับว่าคนที่อยู่ตรงหน้าเขาไม่ใช่มนุษย์ แต่เป็นร่างอวตารของดาบ จักรพรรดิดาบ!

ทั้งตระกูลลู่ถูกห่อหุ้มด้วยเจตจำนงดาบอันน่าอัศจรรย์นี้ แม้แต่ลู่ซวน และผู้อาวุโสสามที่กำลังพักฟื้นอยู่ในความสันโดษก็ลืมตาขึ้น

“หมื่นดาบหวนคืน ผู้อาวุโสฉีกำลังต่อสู้กับใคร?” ลู่ซวนขมวดคิ้ว และหายตัวไปจากในห้องของเขาในพริบตาเดียว

เคร้ง เคร้ง

ดาบนับไม่ถ้วนเริ่มสั่นเล็กน้อย จากนั้นลอยขึ้นจากพื้น กลายเป็นริ้วแสง และพุ่งเข้าหาจุดที่ฉีเหิงยืนอยู่

ศิษย์ตระกูลลู่หลายคนที่กำลังหลับก็ตื่นขึ้นด้วยความตกใจ พวกเขาเฝ้าดูดาบของตนบินออกจากฝัก และหายไปในพริบตา

“ไม่ ผู้อาวุโสฉี ท่านเอาอีกแล้วเหรอ ไม่รู้เหรอว่าต้องใช้ความพยายามมากขนาดไหนในการเก็บดาบเหล่านั้นคืนให้เหล่าศิษย์ทีละคน!” ชายวัยกลางคนที่กวาดพื้นอยู่หันมองสิ่งที่เกิดขึ้นแล้วพร่ำบ่น แม้จะมีใบหน้าที่แก่ชรา แต่ก็เต็มไปด้วยพลัง

ที่ด้านหน้าของฉีเหิง ดาบหลายร้อยเล่มมารวมตัวกันในขณะนี้ แต่ละเล่มส่องแสงเย็น กลายเป็นมังกรที่ก่อตัวจากดาบจำนวนมาก เวียนว่ายอยู่ในอากาศรอบตัวเขา

ใบหน้าของฉีเหิงซีดลงเล็กน้อย เขามองไปที่มารเฮยเย่ที่อยู่ตรงหน้า จากนั้นเขาก็ชี้ดาบเข้าใส่ และเคลื่อนตัวไปข้างหน้าเล็กน้อย

จากนั้น มังกรซึ่งก่อตัวจากดาบยาวหลายร้อยเล่มก็พุ่งเข้าหามารเฮยเย่ ด้วยแรงผลักดันอันยิ่งใหญ่ ปะทุออกมาด้วยพลังอันน่าอัศจรรย์ที่ไม่มีใครเทียบได้

“ไม่เลว” มารเฮยเย่มองดูฉีเหิงด้วยความชื่นชม รอยยิ้มปรากฏขึ้นที่มุมปากของเขา จากนั้นเขาก็ยื่นมือขวาออกมาแล้วโบกออกไปเบาๆ

พลังปราณสีดำปะทุออกมาจากมือของมารเฮยเย่ กลายเป็นเหมือนหมอก และควบแน่นเป็นฝ่ามือขนาดยักษ์ตรงหน้าเขา

ปัง

เมื่อมังกรดาบปะทะเข้ากับฝ่ามือยักษ์ มันก็ส่งเสียงคมชัด ดาบยาวจำนวนนับไม่ถ้วนร่วงหล่นกับพื้นทีละเล่ม และดาบระดับต่ำบางส่วนก็หักกลาง กลายเป็นเพียงเศษเหล็ก

เมื่อดาบยาวหลายร้อยเล่มร่วงลงกับพื้น และฝ่ามือยักษ์ที่ควบแน่นจากพลังปราณของมารเฮยเย่ก็สลายหายไป

ฉีเหิงยืนอยู่ที่นั่นด้วยสายตาว่างเปล่า เขาคิดไม่ถึงเลยว่าการโจมตีเต็มกำลังของตนจะยังคงไม่สามารถสั่นคลอนชายที่อยู่ตรงหน้าได้ ซึ่งทำให้ความหงุดหงิดเล็กน้อยปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา

เด็กคนนี้ทรงพลังมาก!

แล้วเมื่อคืนทำไม อีกฝ่ายถึงหนีไปล่ะ?

“ผู้อาวุโสฉี ถึงตาของข้าแล้วหรือยัง?” มารเฮยเย่ดูเหมือนจะจำสิ่งที่น่าสนใจได้ และมุมปากของเขาก็โค้งงอ

ผู้ฝึกยุทธ์มารมักจะไม่เก็บงำความโกรธ และจะคิดหาทางแก้แค้นเสมอ ชายชราคนนี้ล้อเลียนตัวเขาครั้งแล้วครั้งเล่า ถ้าเขาไม่สอนบทเรียนให้อีกฝ่าย เขาคงจะนอนไม่หลับ

ฉีเหิง มองไปที่มารเฮยเย่ที่อยู่ตรงหน้า และถอยหลังไปครึ่งก้าวโดยไม่รู้ตัว

"พวกเจ้ากำลังทำอะไรกันอยู่?"

เมื่อมารเฮยเย่กำลังจะลงมือ จู่ๆ ร่างๆ หนึ่งก็ปรากฏขึ้นตรงหน้าพวกเขาทั้งสอง จากนั้นก็ถามออกมาเสียงดัง

“ผู้นำตระกูล?” พวกเขาทั้งสองหันไปมองลู่ซวน

“พวกเจ้าทำเสียงดังอะไรกัน มันกำลังรบกวนคนอื่นอยู่ กลับไปนอนได้แล้ว” ลู่ซวนจ้องมองที่พวกเขาสองคนแล้วพูดอะไรบางอย่างด้วยน้ำเสียงที่แฝงด้วยความไม่พอใจ

เขายังมีอาการบาดเจ็บอยู่ และต้องการนอนพัก แต่จู่ๆ ก็ถูกปลุกให้ตื่นจากการเคลื่อนไหวภายนอก ซึ่งจะทำเขาโกรธเล็กน้อย

มารเฮยเย่มองไปที่ลู่ซวนที่อยู่ตรงหน้า คิดอย่างลึกซึ้งในใจ เขารู้ว่าคงไม่อาจต่อสู้ต่อไปได้ ดังนั้นเขาจึงได้แต่ถอนหายใจอย่างลับๆ

"แยกย้ายกันกลับไปนอนซะ!" หลังจากที่ลู่ซวนพูดจบ เขาก็หันหลังกลับ และจากไปโดยไม่สนใจทั้งสองคนที่กำลังนิ่งเงียบ

ใบหน้าของฉีเหิงเต็มไปด้วยความหงุดหงิด เขาหยิบดาบของตนขึ้นมาแล้วจากไปโดยไม่หันกลับมามอง

สำหรับมารเฮยเย่ เขาครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง และในที่สุดก็ถอนหายใจเบาๆ แล้วเดินจากไปเช่นกัน

“เอ่อ...ผู้อาวุโสฉี กำแพงนี้จะยังคงต้องซ่อมอยู่หรือเปล่า?” ศิษย์คนเดิมมองไปที่ผู้อาวุโสฉีที่อยู่ข้างๆ ตนอย่างระมัดระวัง แล้วถามออกมาดังๆ

“จัดการตามเดิม ไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับข้า” ฉีเหิงค่อยๆ หลับตาลง และไม่มีอารมณ์จะพูดอพไรอีกต่อไป

ไม่มีคำพูดใด ๆ ตลอดทั้งคืน ยกเว้นชายวัยกลางคนที่หยิบดาบขึ้นมาอย่างเงียบๆ จากบนพื้นด้านนอกด้วยสีหน้าหดหู่บนใบหน้าของเขา

“เฮ้อ มีเรื่องประดังเข้ามาไม่เว้นวันเลยจริงๆ!” ชายวัยกลางคนพร่ำบ่นช้าๆ พร้อมกับถูเอวที่เจ็บของตน ใบหน้าของเขาเข้มขึ้นเล็กน้อย

เช้าวันรุ่งขึ้น ฉีเหิงมาที่ห้องของลู่ซวน

“นายน้อย ดูเหมือนว่าลู่เอ้อร์เฮยจะอยู่ในขอบเขตแก่นทองคำเท่านั้น ทำไมเขาถึงแข็งแกร่งขนาดนี้ แม้แต่ข้าก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา!” ฉีเหิงถามลู่ซุน ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความสับสน

“ผู้อาวุโสฉี ท่านไม่จำเป็นต้องคิดมากเกี่ยวกับเรื่องนี้ ที่ลู่เอ้อร์เฮยแข็งแกร่งถึงขนาดนั้นก็เพราะครั้งหนึ่งเขาเคยเป็นมารเฮยเย่ ในชีวิตนี้เขาเกิดใหม่ในตระกูลลู่ การที่เขาแข็งแกร่งถึงขนาดนั้นไม่ใช่เรื่องแปลก” ลู่ซวนเห็นความทุกข์บนใบหน้าของฉีเหิง เขาจึงเลือกที่จะปลอบใจอีกฝ่าย

“มารเฮยเย่? ปรมาจารย์มารที่ถือกำเนิดเมื่อหลายพันปีก่อน และเกือบจะกลายเป็นจักรพรรดิมาร?” จู่ๆ ฉีเหิงก็เบิกตากว้างขึ้น และเขาก็พูดด้วยสีหน้าตกตะลึง

เด็กคนนั้นไม่ได้บ้าหรอกเหรอ? อีกฝ่ายเป็นมารเฮยเย่จริงๆเหรอ? ยักษ์ใหญ่ที่เคยมีชื่อเสียงดังก้องไปทั่วโลก!

“เรื่องมันยาว ไม่ว่าตัวตนเดิมของเขาจะเป็นอย่างไร ตอนนี้เขาเป็นเพียงศิษย์ของตระกูลลู่ ท้ายที่สุดแล้ว ทุกคนต่างก็มีความลับเล็กๆ น้อยๆ ของตัวเอง ท่านไม่คิดอย่างนั้นหรอ ผู้อาวุโสโม่ซื่อ?”

ลู่ซวนยิ้มมุมปาก เขาจ้องมองไปที่ฉีเหิงด้วยรอยยิ้มจางๆ แต่สิ่งที่เขาพูดทำให้ฉีเหิงแข็งค้าง

“นี่ นี่น...” ฉีเหิงไม่รู้ว่าจะพูดอะไร เขาพึมพำเบาๆ เพื่อปกปิดความเขินอาย

“เมื่อใดกันที่ผู้นำตระกูลค้นพบตัวตนของข้า” หลังจากนั้นไม่นาน ฉีเหิงก็ถามขึ้น

“อันที่จริง มันไม่ยากเกินคาดเดา มีคนเพียงไม่กี่คนในโลกนี้ที่เชี่ยวชาญในด้านการหลอมศพ ยิ่งกว่านั้น ท่านคุ้นเคยกับดินแดนศักดิ์สิทธิ์หลายแห่ง และมีทักษะทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยม”

“นอกจากนี้ แม้ท่านจะสูญเสียพลังยุทธ์ไปโดยสิ้นเชิง แต่ก็ยังมีวิสัยทัศน์ที่สูงส่ง นอกเหนือจากโม่ซื่อที่ถูกกล่าวขานว่าตายไปแล้วจากการรุกรานดินแดนศักดิ์สิทธิ์ฮั่วเทียนเมื่อหลายสิบปีก่อน ยังมีใครได้อีก?” ลู่ซวนพูดอย่างสบายๆ โดยดูเฉยเมยเป็นอย่างมาก

คนอย่างฉีเหิงซึ่งไม่ทราบที่มาได้เข้าร่วมตระกูลลู่ และรับหน้าที่สำคัญอย่างการดูแลบรรพบุรุษ ลู่ซวนจะไม่ตรวจสอบภูมิหลังของอีกฝ่ายได้อย่างไร

นอกจากนี้ ฉีเหิงดูเหมือนจะไม่มีความตั้งใจที่จะซ่อนตัวตนเดิม ดังนั้น ลู่ซวนจึงเดาที่มาที่แท้จริงของฉีเหิงได้อย่างรวดเร็ว

โม่ซื่อคือ ทายาทของตระกูลหลอมศพ เขามีชื่อเสียงไปทั่วโลกในด้านนี้ ว่ากันว่าทักษะทางการแพทย์ของเขาก็ยอดเยี่ยมมากเช่นกัน และความแข็งแกร่งของเขาก็น่าสะพรึงกลัวยิ่งกว่านั้นอีก

เมื่อร้อยปีก่อน เขาได้บุกเข้าไปในดินแดนศักดิ์สิทธิ์ฮั่วเทียนเพียงลำพัง และต้องการขโมยศพบรรพบุรุษของอีกฝ่าย ดังนั้นเขาจึงถูกตามล่าโดยดินแดนศักดิ์สิทธิ์ และล้มลงในท้ายที่สุด

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด