ตอนที่แล้วตอนที่ 12: วอริเออร์เมท
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 14: คลื่นมอนสเตอร์!

ตอนที่ 13: ฝึกฝนดาบ


หยางเทียนขับรถกลับไปที่อาคารห้าชั้นหลังเล็กๆ

มีผู้คนมากมายที่เป็นเหมือนกับเขา—คนผู้ซึ่งพเนจรไปในที่ต่างๆและฝึกฝนตนเอง พวกเขาส่วนใหญ่ตั้งถิ่นฐานชั่วคราวนอกเมืองเทียนซง ในเขตพื้นที่เฝ้าระวังพิเศษ ตัวหยางเทียนอาศัยอยู่ในพื้นที่ระหว่างพื้นที่เฝ้าระวังพิเศษ และเขตอันตราย

เขาเริ่มเรียนรู้วิธีใช้ วอริเออร์เมทในทันทีที่เขาขึ้นไปชั้นด้านบน

ในเวลาเดียวกัน เจ้าดราโก้ก็โผล่ออกมาจากกระเป๋าเสื้อของหยางเทียน

มันกระโดดขึ้นไปบนไหล่ของเขามันเบิกตากว้างเพื่อมองดูอุปกรณ์ที่อยู่บนข้อมือของเขา

ด้วยความอยากรู้อยากเห็น

ตามคู่มือการใช้งาน และคำแนะนำอันชาญฉลาดของวอริเออร์เมท

หยางเทียนใช้เวลาประมาณสองชั่วโมงในการป้อนคำสั่งเสียงทุกคำสั่งไปยังวอริเออร์เมท  หลังจากนั้นเขาก็หยิบโทรศัพท์มือถือออกมา และปิดเครื่องเพื่อดึงการ์ดข้อมูลออก

จากนั้นก็นำการ์ดข้อมูลใส่เข้าไปช่องเสียบการ์ดของวอริเออร์เมท จากนั้นเขาก็หยิบหูฟังบลูทูธออกมาจากกล่อง และสวมเข้าที่หูของเขา

หลังจากใส่การ์ดข้อมูล และรีสตาร์ทวอริเออร์เมทระบบก็มีเสียงแจ้งขึ้นว่า “ขอบคุณที่ใช้ผลิตภัณฑ์ไฮเทคของทางเราจากสเตลล่าเทค วอริเออร์เมท ขณะนี้คุณมีระบบปฏิบัติการเวอร์ชั่น 1.0 คุณต้องการอัปเกรดเป็นเวอร์ชั่น 2.0 หรือไม่ ค่าธรรมเนียมการอัพเกรด: 1,000 หยวน”

“นี่มันอะไรกันวะนั่น?!”

หยางเทียนอดไม่ได้ที่จะสบถออกมา เมื่อเขาได้ยินเช่นนั้น เขาไม่คิดว่าสิ่งนี้จำเป็นที่จะต้องได้รับการอัพเกรด 'จะเป็นยังไงถ้ามีเวอร์ชั่น 3.0 หรือไม่ก็ 4.0 ในอนาคต? มันคงต้องเสียค่าใช้จ่ายไม่ใช่น้อยๆเลย?

หลอกลวงกันจริงๆ!

หยางเทียนรู้สึกเหมือนตัวเขาถูกหลอกหลังจากซื้ออุปกรณ์ชิ้นนี้

'เอางั้นก็ได้ ทนใช้มันไปแล้วกัน!' เขาทำตามคำแนะนำ โดยเชื่อมต่อระบบกับบัตรธนาคารของเขาและจ่ายเงิน 1,000 หยวน จากนั้นจึงกดยืนยัน“อัปเกรดเป็นเวอร์ชัน 2.0!”

ใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมงก่อนที่ วอริเออร์เมทจะอัปเกรดเสร็จสมบูรณ์

ระบบปฏิบัติการของเวอร์ชั่น 2.0 เทียบกับ 1.0 แล้วมีการปรับปรุงที่ค่อนข้างน่าสนใจ

เวอร์ชัน 1.0 ระบบมีความความแข็งกระด้างมาก แต่ในเวอร์ชัน 2.0 มีความเป็นมนุษย์และชาญฉลาดกว่าอย่างเห็นได้ชัด หยางเทียนคิดว่ามันคุ้มค่ากับเงินหนึ่งพันหยวนที่เขาจ่ายไป

“มาสเตอร์ ฉันคือหมายเลข 100001 คุณสามารถตั้งชื่อใหม่ให้ฉันได้ ฉันยินดีที่ได้ช่วยเหลือคุณ.”

เนื่องจากหยางเทียนสวมหูฟังอยู่ เอไอก็เริ่มพูดเข้าหูของเขาในทันทีที่การอัพเกรดเสร็จสิ้น

มันเป็นเสียงของหญิงสาวที่คมชัด และมีความอ่อนโยน

“ฉันจะเรียกเธอว่า 'แบล็คกี้' ก็แล้วกัน!” เขามองไปที่วอริเออร์เมทเครื่องสีดำ และพูดโดยไม่ต้องคิดอะไรมาก

หลังจากนั้นหยางเทียนก็เชื่อมแบล็กกี้เข้ากับเว็บไซต์พันธมิตรนักรบ

จากนั้นก็เข้าไปยังหน้าการซื้อทักษะการต่อสู้

ตามคำแนะนำของแบล็กกี้หยางเทียนถอด วอริเออร์เมทออกจากข้อมือปิดหน้าต่างข้อมูล และวางมันลงบนโต๊ะน้ำชา

จากนั้นมีแสงฉายออกจากวอริเออร์เมทไปยังผนังสีขาวและปรากฏจอภาพที่มีความชัดเจนอย่างมาก

มีทักษะการต่อสู้มากมายให้เลือก หลังจากเรียกดูข้อมูลทั้งหมดแล้ว หยางเทียนก็เลือกทักษะที่เรียกว่า ทะลวงเงาซึ่งเป็นชุดการฝึกสำหรับขั้นพื้นฐาน

ในตอนนี้เขามีเงินประมาน 1แสนหยวนที่อยู่ในบัตรธนาคารของหยางเทียน ถ้าไม่รวม 50,000หยวนที่เขาต้องการส่งให้กับพ่อแม่ ก็เหลือไม่ถึง 50,000 หยวนที่สามารถใช้ได้ โชคดีที่ทักษะการต่อสู้ขั้นพื้นฐานนี้มีราคาเพียง 20,000 หยวนเท่านั้น เมื่อบวกค่าธรรมเนียมการดำเนินการ 10% แล้ว หยางเทียนก็จ่ายเงิน 22,000 หยวน เพื่อดาวน์โหลดมันลงในวอริเออร์เมทของเขา

หยางเทียนใช้เวลาไม่นานในการออกจากเว็บไซต์’’พันธมิตรนักรบ’’

เขาทำการซื้อทันทีเพื่อที่เขาจะได้ดูวิดีโอฝึกสอนทะลวงเงา

วิดีโอนี้มีความยาวมาก เขาเริ่มตอนดูตั้งแต่ตอนเที่ยง และดูจบในช่วงกลางคืน

เขาตรวจตรวงดูนาฬิกาหลังจากที่วิดีโอถูกปิดไป ขณะนี้เป็นเวลา 20.00 น. แล้ว

“อน 50,000 หยวนไปยังบัตรพ่อของฉัน หมายเลขบัตรธนาคารคือ ****” หยางเทียนสั่งแบล็คกี้ และเงินก็ถูกโอนเข้าบัญชีของพ่อของเขาในทันที

หลังจากการทำธุรกรรม เขาได้ให้แบล็คกี้โทรไปที่โทรศัพท์ที่บ้านของครอบครัวของเขา

เพื่อให้แน่ใจว่าพ่อของเขาได้รับแจ้งเตือนการโอนเงินจากธนาคาร พ่อแม่ของบ่นเขาอยู่สักพักก่อนจะวางสายไป

หลังจากคุยกับพ่อแม่แล้ว หยางเทียนก็โทรหาฉินเฟย และทั้งสองก็พูดคุยแลกเปลี่ยนถ้อยคำแห่งความรักอยู่พักหนึ่ง

เขาตระหนักได้ว่าตั้งแต่ฉินเฟยกล้าที่จะจูบเขา ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก็ก้าวหน้าไปมาก หยางเทียนรู้ดีว่าเมื่อได้พบกันอีกครั้ง คงจะก้าวหน้าไปอีกขั้นหนึ่ง

หยางเทียนมีรอยยิ้มโง่ ๆ อยู่ครู่หนึ่งหลังจากที่พวกเขาวางสาย

“กี๊ซ กี๊ซ กี๊ซ…”

เมื่อหยางเทียนทำภารกิจทั้งหมดเสร็จสิ้นในที่สุด มังกรเขียวตัวน้อยก็ส่งเสียงดังเพื่อประกาศการปรากฏตัวของเขา

หยางเทียนสามารถได้ยินเสียงไม่พอใจจากเสียงแหลมของเขา

“ไม่ใช่ว่าฉันเพิกเฉยต่อแกนะ ฉันมีเรื่องต้องทำมากมายจริงๆ! ฉันซื้อเนื้อดิบมา ฉันจะย่างพวกมันให้ภายในไม่กี่นาที โอเคไหม?”

ทันทีที่เขาได้ยินคำว่า 'เนื้อย่าง' มังกรก็ส่งเสียงร้องด้วยความยินดีและกระโดดขึ้นไปบนไหล่ของหยางเทียน แล้วเอาหัวลูบหน้าอย่างน่าหมั่นไส้

06.00 น. ในเวลารุ่งสาง หยางเทียนลุกขึ้นจากการหลับใหล หลังจากล้างหน้าด้วยน้ำในแม่น้ำแล้ว เขาก็กินเนื้อวัวกระป๋องหนึ่งแล้วลงไปชั้นล่างพร้อมกับทั่งต่าวของเขา

มังกรกระโดดขึ้นไปบนไหล่ของเขา หยางเทียนตระหนักว่าสิ่งมีชีวิตเล็กๆ ตัวนี้ช่างคิดมาก เพราะทุกครั้งที่มีคนนอกเขาจะซ่อนตัวไว้ไม่ให้คนอื่นเห็น

ที่จริงแล้วนั่นคือสิ่งที่หยางเทียนหวังไว้ นั่นคือการเก็บมังกรไว้เป็นอาวุธลับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในระหว่างการต่อสู้ที่ดุเดือดในอนาคต มังกรอาจปรากฏตัวขึ้นมาจากฟ้าเพื่อทำการโจมตีถึงชีวิต

ศัตรูที่นักรบต้องเผชิญในโลกนี้บางครั้งไม่ใช่แค่มอนสเตอร์เท่านั้น แต่ยังรวมถึงมนุษย์ด้วย เหมือนกับการเผชิญหน้าของเขากับหวังเหว่ย ก่อนหน้านี้ซึ่งพยายามจะฆ่าเขาเพื่อเอาแกนอสูรระดับสอง

หยางเทียนเดินไปชั้นที่หนึ่ง

ชั้นแรกเคยเป็นหน้าร้าน และมีพื้นที่ว่างขนาดใหญ่ หลังจากทำความสะอาดไปสักพัก มันก็อาจกลายเป็นสนามฝึกของหยางเทียนได้

หลังจากใช้เวลาประมาณหนึ่งชั่วโมงในการทำความสะอาด พื้นก็สะอาดหมดจด และหยางเทียนก็เริ่มฝึกท่าทะลวงเงา

ชั้นแรกมีประตูม้วน เมื่อดึงออก ห้องก็มืดสลัว หยางเทียนถอดวอริเออร์เมทของเขาออก และเปิดฟังก์ชันการฉายภาพ เขาเริ่มฝึกซ้อมในขณะที่ดูคำอธิบาย

ทะลวงเงาเป็นทักษะการต่อสู้ขั้นพื้นฐานดังนั้นจึงไม่ยากเกินไป ด้วยการฝึกฝนอย่างต่อเนื่อง มันจะออกกำลังกล้ามเนื้อส่วนใหญ่ในร่างกาย จึงเริ่มต้นความสามารถในการควบคุมพลังทางกายภาพของตนเอง

ยิ่งไปกว่านั้น แบบฟอร์มชุดนี้ยังมีวิธีการหายใจแบบเฉพาะอีกด้วย เพื่อฝึกฝนรูปแบบด้วยมัน มันสามารถกระตุ้นศักยภาพทางกายภาพในระดับสูงสุดได้

หยางเทียนคิดว่าเขาอาจจะจำอะไรไม่ได้มากเพียงแค่ดูวิดีโอสอนครั้งหนึ่งบ่ายวานนี้ ซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมเขาถึงเปิดวิดีโอระหว่างฝึกซ้อม เขาประหลาดใจมากที่เขาตระหนักว่าความทรงจำของเขาช่วยเขาได้เป็นอย่างดีเมื่อเขาเริ่มฝึกซ้อม หลังจากเริ่มต้นการเคลื่อนไหว ความทรงจำเกี่ยวกับวิธีการใช้กระบี่เริ่มไหลออกมาจากหัวของเขาราวกับสปริง

เขาสามารถแสดงฟอร์มทั้งหมดได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่เขาลอง

แม้ว่าจะยังคงไหลได้ดีขึ้น แต่การฝึกซ้อมก็ดำเนินไปอย่างราบรื่น

ถ้าผู้ประดิษฐ์ทะลวงเงาเห็นหยางเทียนแสดงฟอร์มได้ดีมากตั้งแต่ครั้งแรกที่ลอง เขาคงจะตกใจมาก!

เขาไม่เพียงแต่แปลกใจกับเรื่องนี้เท่านั้น นอกจากนี้เขายังตระหนักว่าการฝึกรูปแบบกระบี่ด้วยความถี่ในการหายใจทำให้เขารู้สึกอบอุ่นไปทั่วทั้งร่างกาย มันให้ความรู้สึกเหมือนกับว่าเขามีความแข็งแกร่งที่ไร้ขีดจำกัดในร่างกายของเขา เหมือนกระแสพลังงานหมุนเวียนอยู่ภายใน!

วิดีโอแนะนำใช้เวลาสองสามชั่วโมงจึงจะสิ้นสุด ขณะที่นักรบที่กำลังสาธิตต้องหยุดชั่วคราวเพื่ออธิบายการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญบางอย่าง และยิ่งไปกว่านั้น การเคลื่อนไหวบางอย่างจำเป็นต้องทำซ้ำสองสามครั้ง

อย่างไรก็ตาม เมื่อเรียนรู้แล้วรูปแบบดาบทั้งชุดใช้เวลาเพียงครึ่งชั่วโมงในการแสดง หากการเคลื่อนไหวเร็วขึ้นตามเวลา ก็สามารถเสร็จสิ้นได้ภายในไม่กี่นาที

เมื่อหยางเทียนดำเนินการผ่านแบบฟอร์มเสร็จเป็นครั้งที่สอง เขารู้สึกว่าการฝึกซ้อมในร่มในพื้นที่จำกัดไม่สามารถทำให้เขาพอใจได้

“ความธรรมชาติเป็นครูที่ดีที่สุด!”

ทันใดนั้นหยางเทียนก็นึกถึงคำแนะนำของฉินเจิ้งหยางซึ่งเป็นปู่ของฉินเฟย

“เจ้ามังกร ไปกันเถอะ! ไปฝึกซ้อมข้างนอกกันเถอะ!” หยางเทียนยิ้มให้มังกร

เขาปิดเครื่องฉายภาพวอริเออร์เมท แล้ววางกลับไว้บนข้อมือแล้วเดินไปที่บันได

มังกรส่งเสียงร้องด้วยความดีใจ และกระโดดขึ้นไปบนไหล่ของเขา

“ฟึ่บ… ฟึ่บ… ฟึ่บ…”

หนึ่งชั่วโมงต่อมาในป่านอกเมืองฮวางชือ หยางเทียนขยับร่างกายอย่างรวดเร็ว กระบี่ในมือของเขากลายเป็นแผ่นแสงสีขาว การเสียดสีกับอากาศทำให้เกิดเสียงขึ้น

มังกรอยู่บนต้นไม้ และกรงเล็บของมันก็ข่วนกิ่งก้านของต้นไม้เพื่อดึงใบไม้ออกมา ใบไม้รับกระแสลม และไหลไปทางหยางเทียนที่กำลังฝึกกระบี่ของเขา

ใบไม้ร่วงบางส่วนถูกผ่าครึ่งด้วยใบมีดของหยางเทียน...

อีกครู่หนึ่งต่อมา…

หยางเทียนเก็บดาบเข้าฝักแล้วหายใจออก

“เจ้ามังกร ครั้งต่อไปดึงใบไม้น้อยลงหน่อยได้ไหม? กระบี่ของฉันยังเร็วไม่พอ” หยางเทียนบอกเขาด้วยอาการหอบๆ

“กี๊ซ กี๊ซ!” มังกรร้องตอบ.

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด