เครื่องจำลองสยองขวัญ บทที่ 69 ปลดแหวนมังกร

ความมืดที่ปกคลุมสายตาจางหายไปในพริบตา

แสงสีส้มครอบครองสายตาของซูอู่อีกครั้ง

ซูอู่ลืมตาขึ้น เห็นเจียงอิงอิงอุ้มกล่องเทียนไปวางที่หน้าประตูศาลเจ้า กองไว้บนกล่องอาหารและน้ำ

อาหารกระป๋องฉุกเฉินเดินตามหลังเธอไปติดๆ

"หยุดขนของก่อน" ซูอู่บอกเจียงอิงอิง

เจียงอิงอิงได้ยินแล้วหันหน้ามา อุ้มกล่องเทียนไว้ มองเขาด้วยสายตางุนงง

เขาชี้ไปที่เก้าอี้พับในมุมห้อง พูดว่า: "มาทางนี้ นั่งลงให้ดี ปิดตาไว้ เดี๋ยวไม่ว่าจะได้ยินอะไรก็อย่าเปิดตามอง

จนกว่าฉันจะบอกว่าเปิดตาได้ ถึงค่อยเปิด"

ได้ยินคำพูดของเขา เจียงอิงอิงวางกล่องเทียนไว้ที่เดิม แล้วนั่งลงบนเก้าอี้พับในมุมห้องอย่างว่าง่าย กอดอาหารกระป๋องฉุกเฉินไว้แน่น

เธอเอาเสื้อโค้ทคลุมหน้าตัวเอง

ปิดตาทั้งของตัวเองและไก่ตัวผู้ใหญ่

ไม่ได้ถามเลยว่าทำไมซูอู่ถึงให้ทำเช่นนี้

ความไว้วางใจที่เจียงอิงอิงมีต่อซูอู่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทั้งสองคนก็เข้าใจกันมากขึ้นด้วย

เห็นเธอปิดตาเรียบร้อย ซูอู่หยิบม้วนภาพวาดข้างเท้าขึ้นมา

วัตถุที่มีคุณสมบัติเหนือธรรมชาติ แม้จะเป็นสิ่งของที่มีอยู่แล้วในโลกจริง โดยทั่วไปก็จะไม่ปรากฏในการจำลองอนาคต

ต้องซื้อเข้าไปในการจำลองโดยตรงจึงจะใช้ได้

ดังนั้นซูอู่จึงต้องเสียหยก 2 หยกโดยเฉพาะ เพื่อนำระฆังจักรพรรดิและภาพวาดที่ได้จาก 'ชีวิตอดีตของนักสู้' เข้าไปในการจำลอง

เขาเตรียมใจไว้หลายอย่าง

แล้วจึงแกะเชือกที่มัดม้วนภาพออก ค่อยๆ คลี่ภาพวาดออก

'ซ่า ซ่า...'

ม้วนภาพคลี่ออก ส่งเสียงแผ่วเบา

บนกระดาษที่เหลืองซีดเล็กน้อย มีภาพวาดดินสอ

หรืออาจจะไม่ควรเรียกว่า 'ภาพวาดดินสอภาพหนึ่ง' ภาพบนกระดาษเกิดจากเส้นและลวดลายดินสอนับไม่ถ้วนที่ทับซ้อนและหลอมรวมกัน

ภาพนี้เกิดจากภาพวาดดินสอนับไม่ถ้วนซ้อนทับกัน

เพราะเส้นในภาพมากเกินไปและหนักเกินไป จึงสะสมเป็นชั้นหนาบนผิวกระดาษ เส้นนับไม่ถ้วนที่ทับซ้อนกันค่อยๆ ก่อรูปเป็นเส้นเอ็นที่สั่นไหว

เส้นเอ็นสีดำที่เกิดจากการทับซ้อนของเส้นเหล่านี้ เป็นโครงสร้างหลักของภาพทั้งหมด

เส้นเอ็นลอยอยู่ในเส้นดินสอสีดำที่ยุ่งเหยิง ราวกับพยายามจำกัดบางสิ่งไว้ และเหมือนมังกรดำที่ว่ายอยู่ในพายุและคลื่นยักษ์

สิ่งที่มันจำกัดไว้ซ่อนอยู่ในส่วนลึกสุดของเส้นนับไม่ถ้วน

และเส้นที่ยุ่งเหยิงราวกับพายุและคลื่นยักษ์เหล่านั้น ก็ค่อยๆ แผ่ซ่านกลิ่นอายสยองขวัญออกมา

ในสายตาของซูอู่ ภาพวาดเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างพลิกฟ้าคว่ำแผ่นดินในทันทีที่กลิ่นอายสยองขวัญสร้างความเชื่อมโยงกับจิตใต้สำนึกของเขา:

เส้นยุ่งเหยิงนับไม่ถ้วนกลายเป็นตัวอักษรบิดเบี้ยวคล้ายงูและแมลง

ตัวอักษรประหลาดเหล่านี้ค่อยๆ วิวัฒนาการเป็นรูปร่างมนุษย์ที่เคลื่อนไหวได้

เส้นเอ็นสีดำเหมือนแม่น้ำสีดำสายหนึ่งไหลผ่านรูปร่างมนุษย์ที่เคลื่อนไหวเหล่านี้ พยายามรวบรวมและประกอบพวกมันเข้าด้วยกัน

ดังนั้น รูปร่างมนุษย์ที่อยู่ในท่าทางต่างๆ และดิ้นรนไม่หยุดเหล่านี้จึงเชื่อมต่อและซ้อนทับกัน กลายเป็น 'ลิง' ตัวหนึ่ง!

การมองตรงไปที่ลิงตัวนี้

ก็เท่ากับมองตรงไปที่รูปร่างมนุษย์นับไม่ถ้วนที่ดิ้นรนอยู่เหล่านั้น

รูปร่างมนุษย์หนึ่งรูป ก็ครอบครองความคิดหนึ่งความคิดของซูอู่!

ในใจของเขาเต็มไปด้วยความคิดที่ไร้ระเบียบและสับสนจำนวนมากอย่างรวดเร็ว แต่แม้จะถูกกระแสความคิดมากมายเช่นนี้ซัดสาด จิตสำนึกของเขาก็ยังคงความชัดเจน

สามารถสังเกตสถานการณ์ปัจจุบันจากมุมมองของ 'ผู้สังเกตการณ์' ได้

--- นี่คือผลของพรสวรรค์ 'ความสงบนิ่ง'

และยังเป็นผลอันทรงพลังที่เกิดจากการซ้อนทับของอี้เกินฉางหลายส่วน!

อี้เกินฉางของเขาในตอนนี้กลายเป็นภาชนะใบมหึมา ไม่ว่าความคิดที่ไร้ระเบียบจะไหลบ่าเข้ามามากเพียงใด ก็ไม่อาจเติมภาชนะนี้ให้เต็มได้!

"อี้เกินฉาง!"

"ภาพวาดนี้สามารถกระตุ้นพลังของอี้เกินฉางได้จริงๆ!"

"ถ้าเช่นนั้น ในภาพวาดนี้มี 'วิธีสมาธิ' หรือไม่?"

ความคิดหลักของซูอู่แล่นผ่านกระแสความคิดที่ไร้ระเบียบที่ไหลบ่าเข้ามาเหมือนน้ำท่วม ประกอบรูปร่างมนุษย์บิดเบี้ยวนับไม่ถ้วนที่ครอบครองความคิดของตัวเองกลับเป็นรูปร่างของ 'ลิง' อีกครั้ง

เขามองเห็น:

ลิงที่มีขนทั่วร่างบิดเบี้ยวสั่นไหว มีลักษณะใบหน้าเหมือนกับซูอู่ทุกประการ รอบตัวพันด้วยเส้นเอ็นสีดำเส้นหนึ่ง

เส้นเอ็นมัดลิงไว้แน่นหนา ทำให้มันไม่อาจหลุดพ้นได้!

จ้องมองเส้นเอ็น

ความคิดที่ไร้ระเบียบทั้งหมดของซูอู่ พลังมหาศาลที่ซ่อนอยู่ใต้กระแสจิตใต้สำนึก ต่างแทรกซึมเข้าไปใน 'เส้นเอ็น' นั้นทั้งหมด!

เส้นเอ็นกลายเป็นมังกรดำที่มีเกล็ดและกรงเล็บ!

มังกรดำพันรอบร่างของจิตวานร แล้วกลายเป็นโซ่ตรวนที่หล่อด้วยเหล็ก!

บนโซ่ตรวนหล่อด้วยอักขระลึกลับมากมาย

ตอนนี้ อักขระเหล่านั้นไหลผ่านดวงตาของซูอู่ราวกับน้ำ เขาก็เข้าใจความหมายทั้งหมดของอักขระในทันที!

'ปลดแหวนมังกร'!

ฝึกความคิดให้เป็นดั่งมังกร ปราบปรามสิ่งเหนือธรรมชาติในใจ

ควบคุมสิ่งเหนือธรรมชาติในใจ เหมือนการปลดแหวนมังกร!

อักขระที่หล่อไว้บนโซ่ตรวน เมื่อรวมกันก็คือวิชาที่มีชื่อว่า 'ปลดแหวนมังกร'

จุดประสงค์หลักของวิชานี้คือเพื่อระดมพลัง 'อี้เกินฉาง' ในร่างกายมนุษย์ ฝึกความคิดให้เป็นดั่งมังกร แล้วจึงสามารถปราบปรามสิ่งเหนือธรรมชาติที่มีชื่อว่า 'ปีศาจใจ'!

จิตวานรก็คือภาพของปีศาจใจที่ปรมาจารย์ลัทธิเชิญเทพลงร่างในอดีตวาดขึ้นมา!

ท่านผสมผสานภาพของจิตวานรกับวิชา 'ปลดแหวนมังกร' ไว้ในภาพวาดเดียวกัน รอคอยผู้มีวาสนาในอนาคตมาขุดค้น!

วิชา 'ปลดแหวนมังกร' มีความเกี่ยวข้องกับวิธีสมาธิอยู่บ้าง แต่ไม่ใช่วิธีสมาธิที่แท้จริง

วิชานี้ถูกคิดค้นขึ้นโดยปรมาจารย์ลัทธิเชิญเทพลงร่างในอดีต เพื่อปราบปราม 'ปีศาจใจ' ตนนั้นโดยเฉพาะ!

โซ่ตรวนบนร่าง 'จิตวานร' พันรัดแน่นขึ้นเรื่อยๆ

ภายใต้การพันรัดของโซ่ตรวนสีดำ ขนทั่วร่างของจิตวานรในที่สุดก็หยุดพันกัน ไม่ได้แยกออกเป็นรูปร่างมนุษย์ที่เคลื่อนไหวอีกต่อไป

รูปร่างของมันเริ่มมีเสถียรภาพ

ความคิดไร้ระเบียบนับไม่ถ้วนที่สะท้อนในอี้เกินฉางของซูอู่ ในขณะนี้ถูกจัดระเบียบทั้งหมด กลายเป็นมีระเบียบขึ้นมา

--- รูปร่างมนุษย์ที่เคลื่อนไหวกลับกลายเป็นตัวอักษรบิดเบี้ยวคล้ายงูและแมลง

ซูอู่อ่านเข้าใจความหมายที่แท้จริงของตัวอักษรคล้ายงูและแมลง!

"สามานโม ขตาโมราดาชิลากาด ดุ!

รูนูกมุดุ ฮีปาราสีดุ!

..."

ความหมายของตัวอักษรคล้ายงูและแมลงทั้งหมด เมื่อบรรยายออกมาเป็นตัวอักษรจีน ก็กลายเป็นคำที่ซับซ้อน คำเหล่านี้ไม่มีความหมายเฉพาะเจาะจงใดๆ!

ความหมายที่แท้จริงของตัวอักษรคล้ายงูและแมลกเหล่านี้ สามารถคงอยู่ในสมองของซูอู่เท่านั้น

เขาไม่หยุดทำความเข้าใจความหมายที่แท้จริงของตัวอักษรคล้ายงูและแมลงเหล่านั้น ในขณะเดียวกัน ในสมองก็ปรากฏภาพของ 'กระดาษสีแดงเข้ม' ที่เขาเคยเห็น

กระดาษแผ่นนั้นมีลักษณะคล้ายหนังสัตว์ เป็นที่สิงสถิตของ 'ปีศาจคุมศพ' บนนั้นมีตัวอักษรคล้ายงูและแมลงอยู่เต็มไปหมด

ตอนนี้ ตัวอักษรคล้ายงูและแมลงทั้งหมดบนกระดาษแผ่นนั้นปรากฏขึ้นมาจากจิตใต้สำนึกของซูอู่

เขาเข้าใจความหมายทั้งหมดของตัวอักษรเหล่านั้น!

กระดาษสีแดงเข้มเป็น 'สัญญา' ฉบับหนึ่ง

ปลายด้านหนึ่งของสัญญาเชื่อมต่อกับ 'ปีศาจใจ' เพียงแค่มี 'สิ่งใดก็ตาม' ทิ้งร่องรอยของตัวเองไว้บนกระดาษ ก็จะกลายเป็นซอมบี้ของปีศาจใจ

นี่คือเหตุผลที่ปีศาจใจถูกเรียกว่า 'ปีศาจคุมศพ'

อย่างไรก็ตาม หากเข้าใจความหมายที่แท้จริงของ 'ตัวอักษรคล้ายงูและแมลง' และใช้ตัวอักษรคล้ายงูและแมลงเซ็นชื่อของตัวเองลงบนกระดาษแผ่นนั้น ก็จะได้รับสิทธิ์ในการแย่งชิงตำแหน่ง 'นักบวช' ที่บันทึกไว้บนกระดาษ

หลังจากนั้น เพียงแค่สามารถไม่ถูกปีศาจใจมีอิทธิพล และกลับกดมันไว้ได้ ก็จะกลายเป็น 'นักบวช'

การเป็น 'นักบวช' สามารถควบคุม 'ปีศาจใจ' ทั้งตัวได้อย่างสมบูรณ์

เทียบเท่ากับการรับเอาสิ่งเหนือธรรมชาติที่เข้ากันได้กับตัวเองอย่างสมบูรณ์เข้าร่างโดยตรง!