ตอนที่แล้วบทที่ 109 ความบังเอิญ!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 111 แค่ขยะชิ้นหนึ่ง 

บทที่ 110 แม่น้ำหลัวเอี้ยน


เช้าวันรุ่งขึ้น หลัวเฉิงก็ได้หยุดการบ่มเพาะพลังของตน

เมื่อคืนนี้ เขาได้หลอมสมุนไพรสามดาวทั้งแปดชนิด และได้รับโอสถสามดาวสิบเม็ด

นอกจากนี้ หลัวเฉิงยังได้หลอมรวมปราณแท้มังกรเข้ากับวังวนในตันเถียนอีกด้วย

ในขณะนี้ แสงวังวนจางๆ ในตันเถียนเขาก็ค่อยๆ ถูกหลอมรวมจนตอนนี้เริ่มเป็นวังวนที่ชัดเจนขึ้น ภายในคล้ายดั่งมีงูตัวเล็กๆ แหวกว่ายอย่าอิสระภายในวังวนนั้น

“ด้วยการหลอมรวมปราณมังกร นี่สิจึงถือว่าข้าเริ่มฝึกฝนวิชามังกรแท้ ตราบใดที่ข้าบ่มเพาะมันจนเกิดการเปลี่ยนแปลงเก้าครั้งแล้วกลายเป็นมังกรที่แท้จริง นั่นจะเป็นวันที่ข้าสำเร็จในเคล็ดวิชา!”

หลัวเฉิงปรากฏรอยยิ้มอย่างสำราญบนใบหน้า

เมื่อใดที่ฝึกฝนจนสำเร็จเคล็ดวิชา เขาจะได้ครอบครองพลังของมังกรแท้ ซึ่งมีความแข็งแกร่งเกินสองแสนจิน!

ในเวลานั้น ต่อให้เป็นซุนซวนหวู่ ศิษย์ฝ่ายนอกสิบอันดับแรกของสำนักเมฆาอัสนี ก็ไม่มีทางรับการโจมตีจากหมัดของเขาได้อย่างแน่นอน!

“ถึงเวลาที่ข้าต้องออกเดินทางแล้ว!”

หลังเงยหน้ามองดูฟากฟ้าแล้ว หลัวเฉิงก็ยืนขึ้นแล้วกำลังจะมุ่งหน้าไปยังท่าเรือ

ฮะ!

ขณะที่เขาหยิบกระบี่ทลายสวรรค์ขึ้นมา ดวงตาของหลัวเฉิงก็ฉายแววประหลาดใจทันที

เพียงชั่วข้ามคืน เขากลับรู้สึกว่ากระบี่ทลายสวรรค์เล่มนี้ มีน้ำหนักเบากว่าเมื่อวานเล็กน้อย

หลัวเฉิงคาดเดาในใจว่า นี่คงเป็นเพราะเขาบ่มเพาะปราณแท้มังกรเมื่อคืนนี้อย่างแน่นอน

ครั้นหายใจคลายปอด หลัวเฉิงก็เปิดประตูแล้วเดินลงไปชั้นล่าง

“คุณชาย มีคนมาสอบถามเกี่ยวกับเรื่องของท่านเมื่อวานนี้”

ระหว่างกำลังจะออกจากโรงเตี๊ยม เสี่ยวเอ้อที่ให้หลัวเฉิงเข้ามาพักเมื่อวานนี้ ก็กล่าวเตือนด้วยเสียงทุ้มต่ำ

“ถามเกี่ยวกับข้างั้นหรือ?”

หลัวเฉิงรู้สึกประหลาดใจทันที เพราะเขามิได้รู้จักกับผู้ใดเลยในเมืองหลินเจียง จึงถามกลับว่า “เจ้ารู้หรือไม่ว่าเขาเป็นใคร”

“คิดว่าเขาน่าจะมีอายุสามสิบแล้ว หากดูจากเสื้อผ้าที่สวมใส่ คงจะเป็นคนรับใช้ของบางตระกูลอย่างแน่นอนขอรับ”

คนรับใช้……

จู่ๆ หลัวเฉิงก็นึกถึงลู่เหยียนและคนอื่นๆ ที่เขาเจอเมื่อวานนี้

“ข้านึกออกแล้ว นี่สำหรับเจ้า!”

หลัวเฉิงพยักหน้าจากนั้นหยิบเศษเงินออกมาแล้วโยนให้ผู้ดูแลทันที

“ขอบคุณคุณชาย!”

เมื่อได้รับเงินเป็นการตอบแทน เสี่ยวเอ้อก็แสดงสีหน้าปีติยินดียิ่ง

เงินเพียงไม่กี่ตำลึงนี้ เทียบได้กับเงินที่เขาทำงานมาหลายเดือนทีเดียว

“คนพวกนี้ตามเกาะแกะยิ่งกว่าผีสิงเสียอีก”

ระหว่างกำลังเดินบนถนน ดวงตาเหลือเฉิงก็ทอประกายแสงเย็นวาบ

แม้นเขาจะไม่อยากสร้างปัญหา แต่เขาก็ไม่กลัวที่จะต้องเผชิญกับปัญหาเช่นเดียวกัน

ในหมู่พวกเขา มีเพียงฉินหยวนเฟิงเท่านั้น ที่ทำให้เขาหวาดหวั่นเล็กน้อย

อย่างไรก็ตาม ด้วยกระบี่ทลายสวรรค์และเพลงกระบี่ทลายสวรรค์ ต่อให้ฉินหยวนเฟิงจะเป็นผู้ฝึกยุทธ์ในขั้นเปลี่ยนแปลงมนุษย์ระดับสี่ แต่หลัวเฉิงก็มั่นใจว่าจะสามารถเอาชนะเขาได้อย่างแน่นอน

เพียงว่า การเอาชนะเขานั้นย่อมไม่ง่ายเป็นแน่

ผู้ฝึกยุทธ์ในขั้นเปลี่ยนแปลงมนุษย์ระดับสี่ สามารถขัดเกลาไขกระดูกได้ด้วยปราณแท้ ตัดต่อชะล้างไขกระดูก ทำให้ไขกระดูกบริสุทธิ์ประดุจน้ำแข็งค้าง มีพลังเทียบเท่ากับวัวเก้าตัวและเสือสองตัว ซึ่งสามารถเอาชนะคนนับพันได้อย่างง่ายดาย

ด้วยเหตุนี้ หลัวเฉิงจึงตัดสินใจที่จะทะลวงเข้าสู่ขั้นเปลี่ยนแปลงมนุษย์ระดับสามให้เร็วที่สุด

เมื่อระดับการบ่มเพาะพัฒนาสูงขึ้น ความแข็งแกร่งโดยรวมก็จะเพิ่มขึ้นด้วยเช่นเดียวกัน

“มีปรมาจารย์มากมายขนาดนี้เชียวหรือ!”

ครั้นย่างเท้ามาจนถึงท่าเรือ หลัวเฉิงก็พบว่ามีผู้คนยืนรออยู่ที่นั่นจำนวนมาก

ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชายหนุ่มและหญิงสาว เห็นได้ชัดว่าพวกเขามาที่นี่เพื่อรอการทดสอบเข้าสามสำนักหลัก

หลัวเฉิงสังเกตเห็นว่า คนเหล่านี้ส่วนใหญ่ล้วนอยู่ในขั้นเปลี่ยนแปลงมนุษย์

มีผู้ฝึกยุทธ์จำนวนมากที่อยู่ในขั้นเปลี่ยนแปลงมนุษย์ระดับสามและระดับสี่

ทั้งยังมีคนที่อายุไล่เลี่ยกับเขาอีกหลายคน ไม่ว่าผู้ใดก็โดดเด่นกว่าเขาผู้เป็นอัจฉริยะจากเมืองฉีซาน

“หากข้าไม่ได้ออกมา ก็คงต้องเป็นกบก้นบ่อน้ำตลอดไป”

หลัวเฉิงรู้สึกสะเทือนใจเมื่อเห็นเราอัจฉริยะมากมายจากเมืองอื่น

ท่าเรือยิ่งแออัดมากขึ้นเรื่อยๆ ตอนนี้มีผู้คนรออยู่ที่นั่นมาตรว่าหมื่นคนเห็นจะได้ ดูไปก็คล้ายดั่งมวลคลื่นน้ำสีดำสนิท

เรือสำเภาของสามสำนักหลักยังไม่ทันมาถึง ดังนั้นหลัวเฉิงจึงหาที่นั่งรอ ก่อนพบเข้ากับสถานที่หนึ่งซึ่งมีทิวทัศน์งดงามมองเห็นได้อย่างกว้างขวาง

มหานทีแห่งนี้กว้างใหญ่ไพศาลจนไม่อาจมองเห็นอีกฟากฝั่งได้

แม่น้ำสายนี้ถูกเรียกว่าแม่น้ำหลัวเอี้ยน ซึ่งทอดยาวผ่านหลายอาณาจักรอันยิ่งใหญ่ทางฝั่งตะวันออก ว่ากันว่าแม้แต่หงส์ป่าก็มิอาจบินข้ามฟากได้ในคราเดียว นั่นจึงเป็นที่มาของชื่อมหานทีแห่งนี้

“ข้าเห็นแล้วเรือสำเภากำลังแล่นมาทางนี้!”

ทันใดนั้น ก็มีเสียงตะโกนสายหนึ่งดังขึ้นอย่างกะทันหัน

บนผิวน้ำยามนี้ ปรากฏเรือสำเภาขนาดใหญ่สามลำ ซึ่งแต่ละลำมีความสูงหลายสิบฉื่อ ที่หัวเรือเป็นทรงแหลมสามารถแทงทะลวงผ่านคลื่นกระแสน้ำได้

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด