บทที่ 110 แม่น้ำหลัวเอี้ยน
เช้าวันรุ่งขึ้น หลัวเฉิงก็ได้หยุดการบ่มเพาะพลังของตน
เมื่อคืนนี้ เขาได้หลอมสมุนไพรสามดาวทั้งแปดชนิด และได้รับโอสถสามดาวสิบเม็ด
นอกจากนี้ หลัวเฉิงยังได้หลอมรวมปราณแท้มังกรเข้ากับวังวนในตันเถียนอีกด้วย
ในขณะนี้ แสงวังวนจางๆ ในตันเถียนเขาก็ค่อยๆ ถูกหลอมรวมจนตอนนี้เริ่มเป็นวังวนที่ชัดเจนขึ้น ภายในคล้ายดั่งมีงูตัวเล็กๆ แหวกว่ายอย่าอิสระภายในวังวนนั้น
“ด้วยการหลอมรวมปราณมังกร นี่สิจึงถือว่าข้าเริ่มฝึกฝนวิชามังกรแท้ ตราบใดที่ข้าบ่มเพาะมันจนเกิดการเปลี่ยนแปลงเก้าครั้งแล้วกลายเป็นมังกรที่แท้จริง นั่นจะเป็นวันที่ข้าสำเร็จในเคล็ดวิชา!”
หลัวเฉิงปรากฏรอยยิ้มอย่างสำราญบนใบหน้า
เมื่อใดที่ฝึกฝนจนสำเร็จเคล็ดวิชา เขาจะได้ครอบครองพลังของมังกรแท้ ซึ่งมีความแข็งแกร่งเกินสองแสนจิน!
ในเวลานั้น ต่อให้เป็นซุนซวนหวู่ ศิษย์ฝ่ายนอกสิบอันดับแรกของสำนักเมฆาอัสนี ก็ไม่มีทางรับการโจมตีจากหมัดของเขาได้อย่างแน่นอน!
“ถึงเวลาที่ข้าต้องออกเดินทางแล้ว!”
หลังเงยหน้ามองดูฟากฟ้าแล้ว หลัวเฉิงก็ยืนขึ้นแล้วกำลังจะมุ่งหน้าไปยังท่าเรือ
ฮะ!
ขณะที่เขาหยิบกระบี่ทลายสวรรค์ขึ้นมา ดวงตาของหลัวเฉิงก็ฉายแววประหลาดใจทันที
เพียงชั่วข้ามคืน เขากลับรู้สึกว่ากระบี่ทลายสวรรค์เล่มนี้ มีน้ำหนักเบากว่าเมื่อวานเล็กน้อย
หลัวเฉิงคาดเดาในใจว่า นี่คงเป็นเพราะเขาบ่มเพาะปราณแท้มังกรเมื่อคืนนี้อย่างแน่นอน
ครั้นหายใจคลายปอด หลัวเฉิงก็เปิดประตูแล้วเดินลงไปชั้นล่าง
“คุณชาย มีคนมาสอบถามเกี่ยวกับเรื่องของท่านเมื่อวานนี้”
ระหว่างกำลังจะออกจากโรงเตี๊ยม เสี่ยวเอ้อที่ให้หลัวเฉิงเข้ามาพักเมื่อวานนี้ ก็กล่าวเตือนด้วยเสียงทุ้มต่ำ
“ถามเกี่ยวกับข้างั้นหรือ?”
หลัวเฉิงรู้สึกประหลาดใจทันที เพราะเขามิได้รู้จักกับผู้ใดเลยในเมืองหลินเจียง จึงถามกลับว่า “เจ้ารู้หรือไม่ว่าเขาเป็นใคร”
“คิดว่าเขาน่าจะมีอายุสามสิบแล้ว หากดูจากเสื้อผ้าที่สวมใส่ คงจะเป็นคนรับใช้ของบางตระกูลอย่างแน่นอนขอรับ”
คนรับใช้……
จู่ๆ หลัวเฉิงก็นึกถึงลู่เหยียนและคนอื่นๆ ที่เขาเจอเมื่อวานนี้
“ข้านึกออกแล้ว นี่สำหรับเจ้า!”
หลัวเฉิงพยักหน้าจากนั้นหยิบเศษเงินออกมาแล้วโยนให้ผู้ดูแลทันที
“ขอบคุณคุณชาย!”
เมื่อได้รับเงินเป็นการตอบแทน เสี่ยวเอ้อก็แสดงสีหน้าปีติยินดียิ่ง
เงินเพียงไม่กี่ตำลึงนี้ เทียบได้กับเงินที่เขาทำงานมาหลายเดือนทีเดียว
“คนพวกนี้ตามเกาะแกะยิ่งกว่าผีสิงเสียอีก”
ระหว่างกำลังเดินบนถนน ดวงตาเหลือเฉิงก็ทอประกายแสงเย็นวาบ
แม้นเขาจะไม่อยากสร้างปัญหา แต่เขาก็ไม่กลัวที่จะต้องเผชิญกับปัญหาเช่นเดียวกัน
ในหมู่พวกเขา มีเพียงฉินหยวนเฟิงเท่านั้น ที่ทำให้เขาหวาดหวั่นเล็กน้อย
อย่างไรก็ตาม ด้วยกระบี่ทลายสวรรค์และเพลงกระบี่ทลายสวรรค์ ต่อให้ฉินหยวนเฟิงจะเป็นผู้ฝึกยุทธ์ในขั้นเปลี่ยนแปลงมนุษย์ระดับสี่ แต่หลัวเฉิงก็มั่นใจว่าจะสามารถเอาชนะเขาได้อย่างแน่นอน
เพียงว่า การเอาชนะเขานั้นย่อมไม่ง่ายเป็นแน่
ผู้ฝึกยุทธ์ในขั้นเปลี่ยนแปลงมนุษย์ระดับสี่ สามารถขัดเกลาไขกระดูกได้ด้วยปราณแท้ ตัดต่อชะล้างไขกระดูก ทำให้ไขกระดูกบริสุทธิ์ประดุจน้ำแข็งค้าง มีพลังเทียบเท่ากับวัวเก้าตัวและเสือสองตัว ซึ่งสามารถเอาชนะคนนับพันได้อย่างง่ายดาย
ด้วยเหตุนี้ หลัวเฉิงจึงตัดสินใจที่จะทะลวงเข้าสู่ขั้นเปลี่ยนแปลงมนุษย์ระดับสามให้เร็วที่สุด
เมื่อระดับการบ่มเพาะพัฒนาสูงขึ้น ความแข็งแกร่งโดยรวมก็จะเพิ่มขึ้นด้วยเช่นเดียวกัน
“มีปรมาจารย์มากมายขนาดนี้เชียวหรือ!”
ครั้นย่างเท้ามาจนถึงท่าเรือ หลัวเฉิงก็พบว่ามีผู้คนยืนรออยู่ที่นั่นจำนวนมาก
ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชายหนุ่มและหญิงสาว เห็นได้ชัดว่าพวกเขามาที่นี่เพื่อรอการทดสอบเข้าสามสำนักหลัก
หลัวเฉิงสังเกตเห็นว่า คนเหล่านี้ส่วนใหญ่ล้วนอยู่ในขั้นเปลี่ยนแปลงมนุษย์
มีผู้ฝึกยุทธ์จำนวนมากที่อยู่ในขั้นเปลี่ยนแปลงมนุษย์ระดับสามและระดับสี่
ทั้งยังมีคนที่อายุไล่เลี่ยกับเขาอีกหลายคน ไม่ว่าผู้ใดก็โดดเด่นกว่าเขาผู้เป็นอัจฉริยะจากเมืองฉีซาน
“หากข้าไม่ได้ออกมา ก็คงต้องเป็นกบก้นบ่อน้ำตลอดไป”
หลัวเฉิงรู้สึกสะเทือนใจเมื่อเห็นเราอัจฉริยะมากมายจากเมืองอื่น
ท่าเรือยิ่งแออัดมากขึ้นเรื่อยๆ ตอนนี้มีผู้คนรออยู่ที่นั่นมาตรว่าหมื่นคนเห็นจะได้ ดูไปก็คล้ายดั่งมวลคลื่นน้ำสีดำสนิท
เรือสำเภาของสามสำนักหลักยังไม่ทันมาถึง ดังนั้นหลัวเฉิงจึงหาที่นั่งรอ ก่อนพบเข้ากับสถานที่หนึ่งซึ่งมีทิวทัศน์งดงามมองเห็นได้อย่างกว้างขวาง
มหานทีแห่งนี้กว้างใหญ่ไพศาลจนไม่อาจมองเห็นอีกฟากฝั่งได้
แม่น้ำสายนี้ถูกเรียกว่าแม่น้ำหลัวเอี้ยน ซึ่งทอดยาวผ่านหลายอาณาจักรอันยิ่งใหญ่ทางฝั่งตะวันออก ว่ากันว่าแม้แต่หงส์ป่าก็มิอาจบินข้ามฟากได้ในคราเดียว นั่นจึงเป็นที่มาของชื่อมหานทีแห่งนี้
“ข้าเห็นแล้วเรือสำเภากำลังแล่นมาทางนี้!”
ทันใดนั้น ก็มีเสียงตะโกนสายหนึ่งดังขึ้นอย่างกะทันหัน
บนผิวน้ำยามนี้ ปรากฏเรือสำเภาขนาดใหญ่สามลำ ซึ่งแต่ละลำมีความสูงหลายสิบฉื่อ ที่หัวเรือเป็นทรงแหลมสามารถแทงทะลวงผ่านคลื่นกระแสน้ำได้