Chapter 996 เมืองยามา(ยมโลก)
หลังจากนั้นสามวัน ยามจื่อ ลานกลางเมืองเฟิงตู!
[ยามจื่อ (子时) คือเวลา 23.00 น. – 01.00]
มีเหล่าผู้ฝึกตนมากมายที่มารวมตัวกันอยู่ที่นี่ เพราะว่ากลางเดือนมาถึงแล้ว ประตูนรกจะเปิดนั่นเอง.
ปราณความมืดที่ปกคลุมพื้นที่รอบ ๆ สภาพแวดล้อมที่เย็นเยือบ อุณหภูมิที่เหมือนจะลดลงในทันทีทันใด กระแสลมเย็นที่ปกคลุมไปรอบ ๆ แม้แต่บนต้นไม้ใบหญ้ายังเริ่มจับตัวเป็นน้ำแข็ง ดูมืดครึ้มเย็นยะเยือบ.
ประตูขนาดใหญ่ขนาดร้อยจั้ง เปิดออกมาเป็นพื้นที่ครึ่งวงกลมขนาดใหญ่ ดูเหมือนว่ามันจะสามรถข้ามเข้าไปยังภพหยินได้.
ทันทีที่ประตูนรกเปิดออกมา เหล่าผู้ฝึกตนมากมายก็เคลื่อนที่เข้าไปยั้วเยี้ยเต็มไปหมด เร่งรีบเข้าไป ทำให้เกิดความสับสนเช่นกัน.
กลุ่มของจงซานที่นำโลงศพยักษ์ ค่อย ๆ เคลื่อนที่เข้าไปในประตูพร้อมกับฝูงชนช้า ๆ .
แม้นว่าฝูงชนจะมากมาย ทว่าทำไมไม่รู้ รอบ ๆ กลุ่มของจงซาน ไม่มีใครกล้าเข้าใกล้ ราวกับว่ามีพลังที่แข็งแกร่งเป็นอย่างมากผลักดันพวกเขาออกไปอยู่.
ที่ประตูทางเขานั้นจงซานที่รู้สึกคุ้นเคย เหมือนกับประตูทางเขาแดนเทพอมตะในโลกใบเล็ก.
ทั้งสี่คนยกโลงศพก้าวเข้าไปด้านใน.
ทันทีที่เข้าไป พื้นที่รอบ ๆ บรรยากาศสภาพภูมิประเทศที่เปลี่ยนไปในทันที.
พื้นที่รอบ ๆ เต็มไปด้วยของเหลวสีเหลือง ดูเหมือนว่านี่จะเป็นน้ำพุเหลือง น้ำพุเหลืองที่เต็มไปด้วยพลังฟ้าดิน เป็นกระแสน้ำที่ยืดยาวทะลวงสวรรค์ มีเส้นทางที่นำไปด้านล่างเป็นเหมือนกับคลองน้ำที่ไหลแยกออกเป็นช่อง ๆ ไป น้ำพุเหลืองที่ดูคล้ายกับทะเลทว่ากลับไหลเป็นลายเส้นก้นหอย เป็นเส้นทางน้ำเลื้อยที่หมุนวนบิดเกลี้ยวยืดยาวนำพวกเขาลึกลงไปด้านล่าง.
เหล่าผู้ฝึกตนที่เข้ามาด้านในหลายคนที่แยกกันไปยังเส้นทางที่แตกต่างกันไป.
กลุ่มของจงซานเองก็เลือกเส้นทางเส้นหนึ่ง ซึ่งเป็นเส้นทางที่มีคลื่นค่อนข้างแรงเช่นกัน ทำให้ทุกคนเผยท่าทางประหลาดใจ.
"นี่คือเส้นทางแม่น้ำพุเหลืองอย่างงั้นรึ?"จงซานที่เอ่ยออกมาด้วยความประหลาดใจ.
"เส้นทางน้ำพุเหลืองนั้นแตกต่างกันออกไป ที่นี่ก็นับว่าเป็นส่วนหนึ่งของเส้นทางน้ำพุเหลืองเช่นกัน!"เซียนเซิงซือกล่าว.
ทุกคนที่พยักหน้ารับนำโลงศพเดินทางลงไปยังด้านล่าง.
ที่ด้านหน้าของพวกเขานั้นมีกลุ่มผู้ฝึกตนภูตที่เพิ่งเดินทางมา ขณะที่เห็นกลุ่มคนของจงซาน พวกเขาที่เผยท่าทางประหลาดใจ.
คนกลุ่มนี้กำลังจะนำโลงศพลงไปในนรกอย่างงั้นรึ?
เส้นทางน้ำพุเหลืองนั้นไม่ได้ยาวนัก คนทั้งสี่ใช้เวลาครึ่งชั่วยามก็สามารถผ่านทะเลน้ำพุเหลืองมาได้.
อย่างไรก็ตามน้ำพุเหลืองนั้นยังคงยืดยาวลงไปด้านล่างอีก.
จากบนท้องฟ้าน้ำพุเหลือง สามารถมองเห็นบรรยากาศของภพหยินได้.
พื้นที่มืดครึ้ม ดูเหมือนว่าจะมืดมนยิ่งกว่าอาณาเขตจวงหลุนสะอีก.
นอกจากนี้ยังมีเสียงโหยหวนดังผ่านออกมาเป็นระยะ ๆ ดังกระหึ่มรุนแรงอีกด้วย.
ที่ด้านล่างมีเหล่าเจตภูตมากมายที่ร้องโหยหวน กระจายเต็มไปหมด มีบางตนที่สามารถบินได้ บางตนที่บินไม่ได้กำลังเคลื่อนที่ตรงมุ่งไปยังเส้นทางน้ำพุเหลือง.
เหล่าเจตภูตเป็นภูตที่ยังไม่เปิดภูตปัญญา ไร้ซึ่งเหตุผล ดูแล้วไม่ต่างจากเหล่าเจตภูตในโลกใบเล็กในนรกหมื่นจั้ง.
"นี่คือนรกแห่งเสียงหวีดร้องอย่างหนัก(มหาโรรุวนรก )อย่างงั้นรึ?"หนานกงเซิ่งที่ขมวดคิ้วไปมา.
ท้ายที่สุดก็รับรู้แล้วว่าเสียงหวีดร้องโหยหวนนั้น เป็นชื่อลักษณะของนรก ดูเหมือนว่าที่นี่จะมีความกว้างใหญ่ยิ่งกว่าในโลกใบเล็กสะอีก แม้แต่พื้นที่ของเจตภูตยังกินพื้นที่มากมายหลายเท่า.
นรกแห่งเสียงหวีดร้องอย่างหนัก(มหาโรรุวนรก ) ดูเหมือนว่าจะเป็นดินแดนที่แสงแดดส่องไปไม่ถึง พื้นที่แห่งนี้เต็มไปด้วยความมืดมิด.
เส้นทางน้ำพุเหลืองนั้นเชื่อมต่อไปยังเมืองใหญ่ที่แตกต่างกันหลายแห่ง.
พวกเขายังเดินทางไปไม่ถึงเมืองเลย ทว่าเวลานี้ได้ยินเสียงกลองที่ดังก้องกังวานส่งมาถึง.
พื้นที่แห่งนี้เหมือนว่าจะดูคึกคักเป็นอย่างมาก.
กลุ่มของจงซานที่ออกมาจากน้ำพุเหลืองก็ได้มาหยุดที่ประตูเมืองแห่งหนึ่ง.
ที่ประตูเมืองนั้นมีตัวอักษรขนาดใหญ่.
เมืองยามา!
ที่ด้านนอกเมืองยามานั้น มีภูตที่ตั้งแถวสองแถว พวกเขาที่เริ่มตีกลองไม่หยุด บางกลุ่มที่กำลังติดผ้าแถมแขวนตะเกียง ดูเหมือนว่าจะค่อนข้างยุ่งวุ่นวายทีเดียว.
และต่อจากนั้นก็ยังมีโครงกระดูกที่เล่นดนตรีแตกต่างกันไป เป็นวงดนตรีขนาดใหญ่ดูน่าสนใจเป็นอย่างมาก.
"ดูเหมือนว่าจะยังไม่เริ่ม เข้าไปในเมืองกันก่อน!"จงซานกล่าว.
"ครับ!"
------------------------------------------------------------------
เมืองยามา นับเป็นหนึ่งในเมืองที่ใหญ่ที่สุดในนรกแห่งเสียงหวีดร้องอย่างหนัก(มหาโรรุวนรก ) และยังมีตำหนักยามาที่เป็นหนึ่งในซือตาน.
วันพรุ่งนี้ อ๋องยามากำลังจะแต่งงาน ทั่วทั้งเมืองยามาจึงได้จัดงานเฉลิมฉลองรื่นเริง.
หากอ๋องยามาต้องการผู้หญิง เขาก็สามารถมีมากมาย ในเวลานี้ก็มีสนมมากมายนับไม่ถ้วนทว่าเขาก็ไม่เคยมีหวังโห่ว(ราชินี)ที่แท้จริง ในเวลานี้คาดไม่ถึงเลยว่าเขาต้องการหวังโห่ว?
นอกจากนี้ยังได้ยินมาว่าหวังโห่วผู้นี้รู้จักกับอ๋องยามาเพียงหนึ่งเดือน.
ผู้คนมากมายในเมืองยามาต่างก็คาดเดากันว่าสตรีผู้นี้เป็นใครกัน ถึงได้ทำให้อ๋องยามาหลงใหลได้ขนาดนี้?
ตำหนักยามา ภายในห้องโถงแห่งหนึ่ง.
ภายในห้องโถงแห่งนี้มีคนอยู่สามคน.
ชายสองคนสตรีหนึ่งคน.
เนี่ยนโหยวโหยวสตรีที่จงซานคุ้นเคยรู้จักกันดี ทว่าชายอีกสองคน หากจงซานอยู่ที่นี่หนึ่งคนในนั้นก็คือไท่จื่อสามของศาลเทพอู๋เซี่ยง ที่ในอดีตถูกขับออกไปจากอาณาเขตจวงหลุนโดยจงซาน ส่วนอีกคนเป็นชายหนุ่มหล่อเหลาในชุดสีม่วงใบหน้าที่เย็นชาเคร่งขรึม เต็มไปด้วยความสูงศักดิ์.
"พี่ใหญ่ พรุ่งนี้พวกเราจะหนีได้อย่างงั้นรึ?"เนี่ยนเปิ่นที่กล่าวสอบถามออกมา.
คนที่เนียนเปิ่นเรียกว่าพี่ใหญ่ หรือก็คือไท่จื่อใหญ่ของศาลเทพอู๋เซี่ยงนั่นเอง.
"เรื่องนี้ต้องขึ้นอยู่กับน้องเล็ก!"ไท่จื่อใหญ่ที่จ้องมองไปยังเนี่ยนโหยวโหยว.
เนี่ยนโหยวโหยวที่ดูเหมือนว่าไร้ซึ่งจิตวิญญาณ
"พี่ใหญ่ พี่สาม? ท่านต้องการที่จะสังเวยข้าจริง ๆ รึ?"เนี่ยนโหยวโหยวที่จ้องมองไปยังคนทั้งสอง.
"สังเวยอะไรกัน ตราบเท่าที่เจ้าสามารถได้รับของสิ่งนั้นมา พวกเราจะเร่งรีบหนีไปในทันที อ๋องยามานั้นเป็นตาเฒ่าเจ้าเล่ห์ อย่างไรก็ตาม หากว่าพวกเราได้สิ่งของมาแล้ว ไม่มีทางที่เขาจะขวางเราได้!"เนียนเปิ่นที่กล่าวออกมาในทันที.
เนี่ยนโหยวโหยวไม่สามารถรับมือเขาได้ ทว่าได้แต่จ้องมองไปยังไท่จื่อใหญ่.
"พี่ใหญ่ ท่านจะไม่พูดอะไรอย่างงั้นรึ?"เนี่ยนโหยวโหยวที่จ้องมองไปยังไท่จื่อใหญ่.
ไท่จื่อใหญ่ที่ขมวดคิ้วไปมาเล็กน้อย "ความจริงการที่เราจากไปเวลานี้ก็นับว่าเป็นปัญหา ทว่าท่านพ่อให้พวกเรามาแย่งชิงตำราชีวิตและความตาย พวกเราควรจะทำงานให้เสร็จ!"
"ทำงานให้สำเร็จ? แล้วใช้ร่างกายของข้าเข้าไปเสี่ยงอย่างงั้นรึ?"เนี่ยนโหยวโหยวที่เผยใบหน้าเจ็บปวดเศร้าใจ.
"พวกเราต้องทำให้สำเร็จ หากข้านั้นมีความสามารถเช่นน้องหญิง ข้าย่อมต้องช่วยแบ่งเบาภาระท่านพ่ออย่างแน่นอน!"เนียนเปิ่นที่กล่าวกระตุ้น.
เนี่ยนโหยวโหยวถึงกับมองบน นั่งปวดหัวแต่ไม่กล่าวอะไรออกมา.
ในเวลานี้ ไท่จื่อใหญ่ที่ขมวดคิ้วกล่าวออกมาว่า "น้องเล็ก เจ้าอย่าได้อารมณเสีย เจ้าควรรู้ว่าเซิ่งหวังต้องการสิ่งใด ไม่ว่าอย่างไร ก็ต้องนำตำราชีวิตและความตายมาให้ได้ เรื่องนี้เป็นสิ่งจำเป็นที่เซิ่งหวังต้องการ!"
"แต่มันก็ไม่ใช่หน้าที่ของข้าเพียงคนเดียว!"เนี่ยนโหยวโหยวที่เอ่ยออกมา.
"เจ้าก็รู้ว่าตำหนักยามานั้นคุ้มกันอย่างหนาแน่น ไม่มีใครสามารถเข้าไปได้ ในเวลานี้พวกเราได้เริ่มแผนการแล้ว ไม่สามารถหันหลังกลับได้แล้ว ตราบเท่าที่เจ้าได้ตำราชีวิตและความตายมา ข้ามั่นใจว่าจะพาเจ้าหนีได้ ทว่าหากไม่สามารถได้มันมาครอง ก็ไม่มีใครสามารถช่วยเจ้าได้ มีแต่เจ้าต้องแต่งงานกับเจ้าแก่เฒ่าเท่านั้น!"ไท่จื่อใหญ่ที่เอ่ยข่มขู่.
"เจ้า เจ้าเลวมาก!"เนี่ยนโหยวโหยวที่เต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยว.
แม้นว่าจะมีสายโลหิตเดียวกัน ทว่าก็มีความสัมพันธ์พี่น้องเพียงในนามเท่านั้น คาดไม่ถึงเลยว่าจะกล้ากระทำเช่นนี้กับนางได้.
"ดังนั้น น้องเล็ก เจ้าควรที่จะตั้งใจค้นหาตำราชีวิตและความตาย ตราบเท่าที่เจ้าได้ตำราดังกล่าวมา พวกเราจะได้หนีไปด้วยกันในทันที!"ไท่จื่อใหญ่ที่กล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงอ่อนนุ่มอีกครั้ง.
"ฮึ!"เนี่ยนโหยวโหยวที่แค่นเสียงเย็นชาไม่สนใจคนทั้งสองต่อไป ก่อนที่จะสะบัดหน้าเข้าไปในห้องโถงด้านในทันที.
ภายในห้องโถงนั้นมีเพียงไท่จื่อใหญ่และเนี่ยนเปิน.
"พี่ใหญ่ ท่านไม่ควรที่จะยั่วยุเนี่ยนโหยวโหยวเช่นนี้หรือไม่? หรือก็ไม่ใช่ในเวลานี้ ไม่ใช่รึ?"เนี่ยนเปินที่กล่าวออกมาด้วยความกังวลเล็กน้อย.
"โปรดวางใจ เนี่ยนโหยวโหยวจะพยายามอย่างหนักเพี่อที่จะได้รับตำราชีวิตและความตาย!"ไท่จื่อใหญ่เอ่ย.