Chapter 992 บรรพชนโพธิ
อ๋องพันปิศาจที่อ้าปากค้างจดจ้องมองด้วยความตะลึงงัน.
เซียนโบราณที่น่าเกรงขาม คาดไม่ถึงเลยว่าจะถูกกำราบอยู่ในสภาพอนาถเช่นนี้รึ?
ปิศาจน้อยหนึ่งในกลุ่มของอ๋องพันปิศาจถึงกับหวาดกลัวสั่นสะท้าน ก่อนหน้านี้หลายเดือน พวกเขาที่เข้าไปหาเรื่อง เพื่อที่จะสังหารกลุ่มของจงซาน ไม่เท่ากับว่าพวกเขาแส่หาความตายอยู่อย่างงั้นรึ?ปิศาจหลายตนถึงกับทำอาวุธหลุดมือ.
พวกเขาที่ตื่นตะหนกตื่นตะลึง ไม่อยากเชื่อเรื่องที่เกิดขึ้น.
บนหุบเขาอีกแห่งหนึ่ง ใบหน้าของหลันเติ้งที่กระตุกไปมา ทว่าไม่ได้กล่าวอะไรออกมา.
ส่วนอรหันต์หมี่เล่อใบหน้าของเขาที่เผยท่าทางแปลกประหลาด.
คนที่อยู่ข้าง ๆ กายจงซานนั้นร้ายกาจขนาดนั้นเลยรึ?
ริ้วแสงหลากสีที่ถูกปล่อยออกไปยังร่างของซุนเฉิน จนในเวลานี้ร่างของซุนเฉินไม่เพียงแต่อยู่ในสภาพอนาถเท่านั้น มันยังสร้างบาดแผลไปทั่วร่าง ทำให้เขาได้รับบาดเจ็บอย่างหนัก.
คันศรเสวียนหยวน? ไม่ใช่ว่ามันอยู่ในมือของนาจาหรอกรึ?
ซุนเฉินที่ชำเลืองมองด้วยความอัศจรรย์ใจ.
แม้แต่นาจาก็ไม่สามารถเทียบกับโหลวซิงเฉินได้ โหลวซิงเฉินที่มีพลังฝึกตนเหนือกว่า และยังมีทักษะเทวะเวลา อีกทั้งยังเป็นผู้ฝึกตนที่ก้าวไปบนวิธีของการใช้คันศรอีกด้วย!
ด้วยมีคันศรที่ทรงพลังมาอยู่ในมือเขา ย่อมเหนือกว่านาจาโดยสมบูรณ์.
ลูกศรที่พุ่งออกไปราวกับอุกกาบาต และยังมีความแม่นยำรวดเร็วด้วยทักษะเทวะเวลา.
"ตูมม!" "ตูมม!" "ตูมม!" ..........................
นับตั้งแต่ตนจนจบลูกศรที่ถูกปล่อยออกมาไม่หยุด เป็นซุนเฉินที่ถูกกระหน่ำยิงแต่เพียงฝ่ายเดียว แรงกดดันที่โถมทับไปยังฝั่งซุนเฉินมากขึ้นและก็มากขึ้น เห็นชัดเจนว่าความพ่ายแพ้ของเขาก็มีมากขึ้นเรื่อย ๆ อีกด้วย.
บนท้องฟ้าที่กลายเป็นเวทีของโหลวซิงเฉินแต่เพียงผู้เดียว.
ซุนเฉินที่ร่วงหล่นลงบนพื้น ไม่สามารถบินขึ้นมาได้อีก ถูกกำราบกดดันอย่างหนัก เหล่าผู้ฝึกตนรอบ ๆ เองต่างก็คาดไม่ถึง เป็นเช่นนี้ได้อย่างไร?
"ตูมมมมม~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~!”
ซุนเฉินที่ร่วงหล่นบนพื้น ถูกผลักดันจนตัวเองอยู่ในหลุมลึก.
"ตูมม!" "ตูมม!" "ตูมม!" ..........................
อย่างไรก็ตามศรนับร้อยนับพัน ยังคงถูกยิงออกมาไม่หยุด ทำให้สายตาของเหล่าผู้ชมหวั่นไหว จดจ้องมองออกไปด้วยความหวาดกลัว น่าเกรงขามเกินไปแล้ว.
หลุมที่ในเวลานี้ขยายออกเป็นร้อยจั้งพันจั้ง ไม่รู้สภาพด้านล่างเป็นเช่นไร ห่าลูกศรที่ถูกยิงออกไปไม่หยุด จนทำให้ผืนปฐพีสั่นไหว.
โหลวซิงเฉินที่ลอยอยู่บนอากาศ จดจ้องมองไปยังหลุมลึก ด้วยสายตาเย็นชา.
"ตูมมมม!"
เกิดระเบิดดังสนั่น ซุนเฉินที่ดำดินผุดออกมา ลอยออกมาในสภาพยับเยิน.
เสื้อผ้าที่ขาดรุ่งริ่งไปทั้งร่าง เส้นผมหงิกงอ ใบหน้าเปื้อนโคลนและโลหิต อยู่ในสภาพน่าสังเวชเป็นอย่างมาก สิ่งสำคัญที่สุด กระบองห่วงทองคำที่แสนสำคัญของเขา.
ในเวลานี้ มันได้โค้งบิดเบี้ยว เป็นอะไรที่คาดไม่ถึงเป็นอย่างมาก.
สายตาของผู้ฝึกตนที่อยู่รอบ ๆ เวลานี้ ถึงกับสูดหายใจที่เย็นยะเยือบเข้ามา กระบองห่วงทองคำ เบี้ยวอย่างงั้นรึ?
สายตาของทุกคนที่จดจ้องมองโหลวซิงเฉิน ไม่เพียงหวั่นเกรง ทว่ายังเผยท่าทางหวาดกลัวออกมาอีกด้วย.
"เจ้าเป็นใคร?"ซุนเฉินที่ตะโกนออกมาเสียงดัง.
ซุนเฉินที่คิดว่าจงซานนั้นเป็นเหมือนหมูในอวย คาดไม่ถึงเลยว่าจะมีคนที่ทรงพลังขนาดนี้ปกป้องอยู่.
โหลวซิงเฉินที่ไม่สนใจซุนเฉินแม้แต่น้อย ทว่าเขาได้นำศรที่มีสีเขียวมรกตออกมา แววตาที่เต็มไปด้วยความเย็นชา ง้างคันศรออกมาอีกครั้ง.
ดูแตกต่างจากลูกศรสีทอง ทว่าไม่มีใครกล้ามองข้ามศรสีเขียวมรกตเลย.
เห็นโหลวซิงเฉินที่ง้างคันศร ใบหน้าของซุนเฉินที่เปลี่ยนเป็นขาวซีด มือของเขาที่กวัดแกว่ง ไม้เท้าห่วงทองคำขยายขนาดปกป้องร่างกายของเขาเอาไว้ในทันที.
แววตาของโหลวซิงเฉินที่เต็มไปด้วยความเย็นชาดุร้าย.
ฟิ้ว!
"ตูมมมม~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~!”
ซุนเฉินที่ลอยโด่งกระเด้งกระดอนอ่อกไปอีกครั้ง.
ในเวลานี้ ลูกศรทีพุ่งออกไปนั้น พริบตาเดียวก็ไปอยู่ด้านหน้าของซุนเฉิน เร็วมาก ราวกับว่าตัดผ่านมิติได้ ความเร็วนั้นแม้แต่คนรอบ ๆ ยังมองไม่เห็นชัดเจน.
แม้แต่ไม้เท้าห่วงทองคำของซุนเฉินยังไม่สามารถป้องกันได้.
ทว่าขณะที่เขาลอยโด่งออกไปนั้น ซุนเฉินถึงกับหวาดผวาจ้องมองไปยังหน้าอกของตัวเอง ปรากฎลูกศรคันหนึ่งปักอยู่.
ทุกคนที่อยู่รอบ ๆ ถึงกับหายใจเย็นเยือบเข้ามา.
อ๋องพันปิศาจที่ชักอาวุธออกมาเตรียมพุ่งออกมา ทว่าหลังจากที่เห็นลูกศรยิงออกมา ก็ถึงกับสะดุดหยุดอยู่กลางอากาศไปในทันที.
สู้? จะให้ต่อสู้อีกรึ?
ซุนเฉินที่พ่ายแพ้อย่างสมบูรณ์ นอกจากนี้ชายที่ถือคันศรสีทองในมือนั้น ไร้เทียมทาน ใครจะสามารถขวางได้? ความเร็วของลูกศรสีเขียวเมื่อสักครู่ ไม่มีใครมองเห็น หากมันถูกยิงออกมาเป็นพวกเขา คงตกตายไปแน่นอน.
ด้วยเหตุนี้ อ๋องพันปิศาจที่หวาดผวา อีกทั้งดูเหมือนว่าชายที่ถือศรนั้นจะเป็นเพียงผู้ใต้บังคับบัญชาของจงซาน.
แม้แต่ผู้ใต้บังคับบัญชายังแข็งแกร่งขนาดนั้น แล้วจงซานล่ะ? อีกทั้งยังมีผู้ใต้บังคับบัญชาอีกสองคนด้วย?
อ๋องพันปิศาจที่จ้องมองไปยังยอดเขาของจงซาน ถึงกับต้องกลืนน้ำลาย ไม่กล้าเข้าไปหาความตาย.
แน่นอน ทุกคนยังคงจดจ้องมองไปยังกลุ่มจงซานอีกสามคนที่ยังไม่ได้ลงมือ โหลวซิงเฉินที่เป็นคนลงมือคนแรก เขาเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของจงซานรึ? คนกลุ่มนี้เป็นใครมาจากใหนกัน? ดูน่าเกรงขามเกินไปแล้ว?
ภายในหุบเขาแห่งหนึ่ง หมี่เล่อที่ชำเลืองมองตาโต.
"หลันเติ้ง เจ้าเห็นความเร็วของลูกศรสีเขียวก่อนหน้านี้หรือไม่?"หมี่เล่อที่หัวเราะไม่ออก กล่าวออกมาในทันที.
"เร็วมาก เห็นแค่เพียงภาพติดตาเท่านั้น แม้แต่ข้า คงยากที่จะหลบได้!"หลันเติ้งที่ส่ายหน้าไปมา.
"ใช่ ความเร็วนี้! ไม่ใช่ความเร็วของเซียนโบราณแล้ว!"หมี่เล่อที่กล่าวสนับสนุน.
"สิ่งสำคัญ ศรสีเขียวนั้นเป็นขีดจำกัดของเขาหรือไม่?"หลันเติ้งที่ส่ายหน้าไปมา.
ใช่ศรสีเขียวนั้นคือพลังทั้งหมดของเขาหรือไม่? ดูเหมือนว่าด้านหลังของเขานั้นยังมีศรสีเหลือง? และสีม่วงอีกไม่ใช่รึ?
นอกจากนี้ อีกสองคนด้านหลังจงซาน พวกเขาทรงพลังขนาดใหน?
หมี่เล่อที่จ้องมองไปยังหลันเติ้ง ท้ายที่สุดก็เข้าใจหลันเติ้งผู้อหังการ ว่าทำไมถึงได้ต้องการหยุดความแค้นเท่านี้.
ซุนเฉินที่จ้องมองลูกศรสีเขียวบนหน้าอกตัวเอง ไม่อยากเชื่อเรื่องที่เกิดขึ้นแม้แต่น้อย? ไม่เห็นชัดเจนด้วยซ้ำ? สิ่งสำคัญที่สุดหลังจากที่ถูกยิงเข้าแล้ว พลังของเขาที่ย้อนกลับ เรี่ยวแรงหดหาย ทำให้ในเวลานี้เขาบาดเจ็บมากยิ่งขึ้นอีก.
ซุนเฉินที่เข้าใจได้ในที่สุด ว่าตัวเองไม่สามารถล้มคนผู้นี้ได้แล้ว ไม่แม้แต่โจมตีออกไป.
ในเวลาเดียวกันโหลวซิงเฉินที่นำลูกศรสีเขียวออกมาอีกครั้ง!
สายตาของผู้คนมากมายที่เฝ้ามอง ตระหนักได้ในทันที บางทีซุนเฉินคงร่วงหล่นจากสวรรค์วันนี้หรือไม่?
ซุนเฉินที่เห็นลูกศรดังกล่าว ที่สั่นสะท้านกระวนกระวาย.
ผู้ฝึกตนเซียนโบราณที่น่าเกรงขาม คาดไม่ถึงว่าจะต้องหนีผู้ใช้ธนู? นี่เป็นสิ่งที่น่าอับอายที่สุดในชีวิตของซุนเฉิน.
หนีรึ?
เขาจะหนีจากเงื้อมมือของโหลวซิงเฉินได้อย่างงั้นรึ? ความเร็วของเขานั้นด้อยกว่าโหลวซิงเฉิน และลูกศรของเขายังเหนือกว่ามาก.
"ตูมมมม!"
ลูกศรอีกหนึ่งดอกที่ยิงมา ซุนเฉินที่ได้รับบาดเจ็บหนักมาก ใบหน้าที่ตื่นตะหนกหนีตายไป.
ไม้เท้าหวงทองคำที่ขยายขนาดป้องกันด้านหลังของตัวเอง.
"ตูมมมม!"
ลูกศรอีกดอกที่ถูกยิงออกไป ไม้เท้าห่วงทองคำที่สั่นสะท้านป้องกันเขาเอาไว้.
ซุนเฉินที่ไม่กล้าอยู่อีกต่อไป ที่หน้าอกนั้นมีลูกศรสองดอกปักอยู่.
ทว่าโหลวซิงเฉินนั้นเร็วมาก พริบตาเดียวก็มาขวางซุนเฉินแล้ว ซุนเฉินที่หลบเลี่ยง แฉลบหนีออกข้าง เหมือนกับหนูที่วิ่งหนีแมว เขาที่วิ่งไปรอบ ๆ โดยมีโหลวซิงเฉินไล่ตาม.
ไม้เท้าห่วงทองคำที่ขวางกั้นลูกศรสีเขียวได้หลายดอก.
โหลวซิงเฉินที่หยุด จดจ้องมองไปยังซุนเฉินที่กำลังหนีหัวซุกหัวซุน ก่อนที่เขาจะนำลูกศรสีแดงออกมา.
ลูกศรสีแดง ที่ถูกง้าง พลังฟ้าดินสีแดงที่กำลังรวมตัวกันช้า ๆ ห้วงมิติรอบ ๆ ถึงกับสั่นไปมาเล็กน้อย.
ลูกศรลูกนี้แม้ไม่ได้ถูกปล่อยออกมา ทว่ากลับทำให้ห้วงมิติสั่นไหวไปมา หากมันมันถูกปล่อยออกมา จะทรงพลังขนาดใหน?
ที่ไกลออกไปนั้น อ๋องพันปิศาจที่เต็มไปด้วยความตะลึงงัน หลันเติ้งที่แสดงท่าทางเฉยชา หมี่เล่อที่เผยใบหน้าแปลกประหลาด.
ฟิ้ว!
ท้ายที่สุดโหลวซิงเฉินก็ยิงออกไป ลูกศรที่พุ่งออกไปด้วยความเร็ว ราวกับธารโลหิตที่ไหลบ่าพุ่งออกไปยังทิศทางของซุนเฉิน ห้วงมิติที่ย้อมสีแดง บนผืนดินที่เกิดแผ่นดินเลื่อนปรากฎรอยแตก แม้แต่มิติอากาศยังฉีกเป็นทางยาว.
พลังที่ยิ่งใหญ่ แรงกดดันที่ทรงพลังน่าเกรงขามพุ่งตรงไปยังทิศทางของซุนเฉิน.
ธารสีแดงที่เคลื่อนที่ด้วยความเร็วไล่ล่าซุนเฉินไป ใบหน้าเวลานี้ของซุนเฉินเปลี่ยนเป็นขาวซีด ในเวลานี้ภายในใจของเขาเต็มไปด้วยความเสียใจ ตัวเองทำไมถึงได้โชคร้ายขนาดนี้เลยรึ? เจ้าสารเลวจงซานไปหาคนที่แข็งแกร่งขนาดนี้มาจากที่ใหนกัน?
ซุนเฉินรู้สึกว่า แม้แต่ไม้เท้าห่วงทองคำก็คงไม่สามารถต้านทานธารโลหิตนี้ได้อย่างแน่นอน.
"ชะตาชีวิตของข้าต้องจบสิ้นแล้วรึไง!"ซุนเฉินที่โอดครวญ.
"ตูมมม~~~~~~~~~~~~~~~~~~~!”
เกิดระเบิดเสียงดังสนั่น ธารสีแดงที่ระเบิดออกมาที่ด้านหลังของซุนเฉิน คลื่นกระแทกที่หนักหน่วงสาดซัดม้วนกวาดไปทุกทิศทุกทาง พื้นที่ในรัศมีพันลี้ ต้นไม้ ใบหญ้าถูกบี้แบนติดพื้นไปในทันที.
ธารโลหิตที่ถูกกั้นขวาง ซุนเฉินที่ถูกช่วยเอาไว้!
โหลวซิงเฉินที่กุมคันศรเสวียนหยวนอยู่ ลอยอยู่บนอากาศจดจ้องมองไปยังคนที่ขวางลูกศรเขา.
เป็นพรตเต๋าชราในชุดสีขาว ถือแส้สีขาว.
ซุนเฉินที่เห็นว่าตัวเองถูกช่วย ก็จดจ้องมองด้วยความประหลาดใจ ขณะที่จ้องมองนักพรตชรา ใบหน้าที่เผยท่าทางตื่นเต้นดีใจ เร่งรีบบินไปยังทิศทางของเขาในทันที.
"บรรพชนโพธิ บรรพชนโพธิช่วยข้า!"ซุนเฉินที่ว่ากล่าวออกมา.
นักพรตเต๋าชราสะบัดแส้ออกไป ซุนเฉินที่เข้าใจในทันที ไม่พูดอะไรอีกต่อไป ก่อนที่จะเร่งรีบไปซ่อนอยู่ด้านหลัง.
โหลวซิงเฉินที่จ้องมองไปยังพรตเต๋าชราด้วยความสนใจ สามารถป้องกันลูกศรของเขาได้ แน่นอนว่าต้องไม่ใช่คนธรรมดา.
"บรรพชนโพธิ? เขามาด้วยอย่างงั้นรึ?"ทันใดนั้นมีใครคนหนึ่งที่เอ่ยออกมาทันที.
"ที่จริงบรรพชนโพธิ ไม่ใช่ว่าในอดีตรู้จักกับซุนต้าเซิ่งหรอกรึ? เขาตั้งใจออกมาช่วยอย่างงั้นรึ?"
........................
............
ผู้คนมากมายต่างพูดจากระซิบกระซาบ.
บรรพชนโพธิจ้องมองไปยังโหลวซิงเฉิน ท้ายที่สุดก็จ้องมองไปยังจงซาน.
"ได้ยินหยิงเอ่ยถึงเซิ่งหวังจง ไม่ต่างจากคำบอกเล่านัก พรตชราโพธิ ใคร่ขอให้เซิ่งหวังจงได้โปรดปล่อยศิษย์เอกของข้าในครั้งนี้ด้วย."บรรพชนโพธิที่เอ่ยกับจงซาน.
"เซิ่งหวังจง? เขาเป็นเซิ่งหวังอย่างงั้นรึ?
"ไม่แปลกใจ จงซานคาดไม่ถึงเลยว่าจะเป็นเซิ่งหวังศาลเทพ พวกเขาแข็งแกร่งขนาดนั้นเลยรึ?"
"คาดไม่ถึงเลยว่าบรรพชนโพธิจะอ่อนน้อมกับเขา? จงซานเป็นใครมาจากใหนกัน? แข็งแกร่งอย่างงั้นรึ?"
"เขาควรจะแข็งแกร่ง!"
..............................
..................
......
เหล่าผู้ฝึกตนที่อยู่รอบ ๆ ต่างพูดคุยกันไปมา เกี่ยวกับจงซาน เห็นชัดเจนว่าเวลานี้พวกเขาที่เต็มไปด้วยความสงสัยเป็นอย่างมาก.
จงซานที่จ้องมองไปยังบรรพชนโพธิ ใบหน้ากระตุกเล็กน้อย ได้ยินหยิงเอ่ยถึงอย่างงั้นรึ? หากไม่ใช่สหาย หยิงไม่มีทางเอ่ยถึงเขาอย่างแน่นอน บรรพชนโพธิและหยิงรู้จักอย่างงั้นรึ?
นอกจากนี้บรรพชนโพธิยังเป็นเซียนบรรพชน กับข้อมูลที่เขาได้มานั้น ไม่รู้ถึงคนผู้นี้มากมายนัก ไม่จำเป็นต้องสร้างความเป็นศัตรูแต่อย่างใด.
จงซานพยักหน้าและกล่าวออกมาเบา ๆ "ในเมื่อบรรพชนโพธิเอ่ยปาก เรื่องในครั้งนี้ ขอให้จบแค่นี้ก็แล้วกัน!"
"ขอบคุณเซิ่งหวังจง!"บรรพชนโพธิที่เอ่ยออกมาด้วยรอยยิ้ม.
บรรพชนโพธิที่สะบัดแขนเสื้อก่อนที่จะนำซุนเฉินหายไปในทันที.
เหล่าผู้ฝึกตนมากมายต่างก็จดจ้องมองกันและกัน จบแล้ว? จบเพียงแค่นี้นะรึ?
อ๋องพันปิศาจที่จ้องมองจงซานด้วยความลึกล้ำ หมี่เล่อเองก็เช่นกันจดจ้องมองจงซานด้วยความรู้สึกที่ลึกล้ำ แน่นอน เหล่าผู้ฝึกตนมากมายเองก็เช่นกัน จงซานกลายเป็นที่รู้จักต่อพวกเขาที่นี่แล้ว.
พวกเขาที่รับรู้ว่าแม้แต่บรรพชนโพธิกับเห็นแก่หน้าของเขา.