ตอนที่แล้วChapter 990 กงจื่อ ปะทะ ซา
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 992 บรรพชนโพธิ

Chapter 991 พลังของคันศรเสวียนหยวน.


พื้นที่รอบ ๆ นี้มีผู้ฝึกตนมากมายที่เดินทางมารวมกัน.

มีตั้งแต่ปุถุชนระดับก่อตั้งวิญญาณไปจนถึงเซียนโบราณ มากมายนับไม่ถ้วน ต้องไม่ลืมว่าการต่อสู้ของปราชญ์เทพนั้นหาดูได้ยากมาก.

บนพื้นที่แห่งหนึ่ง มีนักบวชกลุ่มหนึ่ง พวกเขาที่ไม่ได้ทำตัวโดดเด่นนัก ทว่ากลุ่มของพวกเขากลับไม่ธรรมดา ในเวลานี้อย่างน้อยก็ไม่มีใครกล้าเข้าไปหาเรื่องพวกเขา แม้แต่หลบเลี่ยงด้วยซ้ำ.

ที่ด้านหน้านั้นมีนักบวชสองคน หนึ่งอ้วนอีกหนึ่งผอมทำให้กลายเป็นจุดสังเกตได้ง่าย.

นักบวชอ้วนนั้น ดูเหมือนว่าจะใช้ชีวิตค่อนข้างสุขสำราญ เพราะจีวรของเขานั้นดูประณีตโอ่อ่าหรูหราเป็นอย่างมาก.

"หลันเติ้ง  ที่บนยอดเขานั่น จงซานไม่ใช่รึ?"นักบวชอ้วนที่เผยยิ้มกล่าวสอบถามออกมา.

อรหันต์โบราณหลันเติ้ง ที่มีรูปร่างผอม หลังจากที่คนของวิหารหลันเติ้ง ได้หายไปทั้งหมด คาดไม่ถึงเลยว่าจะกลับมาปรากฎตัวขึ้นที่นี่.

หลันเติ้งจ้องมองขึ้นไปบนยอดเขา แสดงท่าทางหวั่นเกรงออกมา จงซาน?

"กังวลอะไรกัน ที่นี่ไม่ใช่อาณาเขตเฟิงจง จงซานไม่มีทางที่จะล่วงเกินวิหารใต้เหล่ยหยินแน่ มีปัญหาอะไร? ไม่คิดที่จะชำระแค้นในอดีตอย่างงั้นรึ?"นักบวชอ้วนที่กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.

หลันเติ้ง ที่จ้องมองจงซานที่อยู่ไกลออกไป ภายในใจที่รู้สึกเย็นยะเยือบเช่นกัน.

ขณะที่ส่ายหน้าไปมา "ความหวังดีของหมี่เล่อ ข้านั้นไม่ต้องการให้เขามายุ่งเกี่ยว ไม่ต้องการให้คนอื่นเปื้อนกรรมไปกับข้า!"

ไม่ใช่อะไรทั้งนั้นหลันเติ้ง ไม่กล้าลองอีกแล้ว?ก่อนหน้านี้แสงสีน้ำเงินนั่นทำให้หลันเติ้ง เกินพอกับความทุกข์ทน เพราะเรื่องในวันนั้น เขาต้องพบกับความซวยซ้ำซวยซ้อน แม้แต่ต้องหนีหัวซุกหัวซุน จวบจนถึงวันนี้ ความซวยเหล่านั้นก็ค่อย ๆ สลายหายไป ทว่าเขาที่ได้ยินข่าวมาว่าซือหม่าหยวนและประมุขนิกายจื่อเซียวถึงกับต้องตายไปเพราะความโชคร้าย.

หลันเติ้ง ในเวลานี้เขายังต้องการสัมผัสความซวยเหล่านั้นอีกทำไมกัน.

เขาที่ปฏิเสธหมี่เล่อโดยตรง!

"ตกลง ในเมื่อเจ้าต้องการจบ ข้าก็จะไม่เอ่ยอีก!"หมี่เล่อที่หัวเราะออกมาเบา ๆ .

----------------------------

"ใต้อ๋อง เป็นพวกเขา!"บนยอดเขาแห่งหนึ่งที่มีคนเอ่ยปากออกมาในทันที.

บนยอดเขาดังกล่าวนั้นมีกลุ่มของเผ่าปิศาจ! มีสองคนด้านหน้าที่มีเขาควายทมิฬและอีกคนมีเขาวัว ส่วนอีกคนที่ใบหน้าประณีต เป็นชายที่ดูหล่อเหลา.

รอบ ๆ เทือกเขานั้นมีเหล่าปิศาจอยู่เป็นจำนวนมาก พวกเขาได้ทำการปักธงบัญชาการบนยอดเขาด้วย.

บนธงบัญชาการนั้นมีอักษร"หนิว"อยู่!

ปิศาจวัวน้อยที่เป็นคนเอ่ยออกมา.

ทำให้เหล่าปิศาจทุกตนจดจ้องมองไปยังเทือกเขาดังกล่าวพร้อม ๆ กัน.

กลุ่มนี้ที่เต็มไปด้วยความอหังการจดจ้องมองตาขวาง.

"พวกเขาที่เป็นคนรุกรานเทือกเขาโห่วเหยี่ยนของข้าอย่างงั้นรึ?"ปิศาจวัวที่เอ่ยออกมาในทันที.

"จงซาน?"ชายที่ใบหน้าหล่อเหลาดวงตาหดเกร็งขึ้นมาในทันที.

"ซุนเฉิน เจ้ารู้จักอย่างงั้นรึ?"ชายหัววัวกล่าวออกมาด้วยความสงสัย.

"อ๋องพันปิศาจ คนผู้นี้มีความแค้นกับข้ามาก่อน ดูเหมือนว่าการเดินทางมายังตำหนักไป่โหยวในครั้งนี้ จะทำให้ข้าได้ชำระแค้น!"ใบหน้าของซุนเฉินที่เปลี่ยนเป็นดำมืด.

"อืม พลังฝึกตนของเจ้านับว่าเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วทว่าตอนนี้รอบ ๆ เทือกเขาเซิ่งซือนั้นยังตึงเครียด รอคอยให้เหล่าคนนิกายหงหรูลงมือก่อน เจ้าค่อยออกไปตัดสินกับมัน!"อ๋องพันปิศาจที่พยักหน้ารับ.

"หลายร้อยปีมาแล้วนับตั้งแต่ยังเป็นปุถุชน จะอีกนานเท่าไหร่ที่ข้าต้องรอคอย?"ซุนเฉินที่เผยท่าทางเหยียดหยัน ก่อนที่จะพุ่งบินออกมาในทันที.

--------------------------

จงซานรับรู้ว่าสถานที่ที่ตัวเองยืนอยู่นั้นค่อนข้างแปลกประหลาด ดังนั้นจึงยืนอยู่บนที่สูง.

"เซิ่งหวัง พวกเราจะเข้าไปข้างในหรือไม่?"เซียนเซิงซือสอบถามออกไป.

"คงจะหลีกเลี่ยงไม่ได้ มีผู้ฝึกตนมากมายอยู่ที่นี่ แม้แต่กลุ่มศิษย์ 71คนของกงจื่อก็ด้วย บางทีพวกเขาอาจต้องการอะไรบางอย่างที่อยู่ด้านในตำหนักไป่โหยว?"จงซานที่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.

"กงจื่อถึงกับลงมือด้วยตัวเอง บางทีสิ่งของด้านในต้องไม่ธรรมดาแน่."หนานกงเซิ่งกล่าว.

"อืม!"จงซานพยักหน้ารับ.

ทว่าในเวลาเดียวกันนั้น ที่ไกลออกไปนั้นมีผู้ฝึกตนบางคนที่รอไม่ไหวเร่งรีบบินออกมาด้วยความเร็ว.ออกไปคนแรก.

ร่างกายของเขาที่มุดลงเข้าไปด้านในปราณศพ.

ในเวลานั้นทุกคนที่มองเห็นปราณทมิฬรูปกระบี่ที่ส่องประกายแสงสีดำทมิฬออกมา.

"อ๊ากกกกก~~~~~~~~~~~~~~~~! ”

เสียงของเขาที่ดังโหยหวน ก่อนที่จะเห็นเพียงหัวของเขาที่ลอยโด่งออกมา ร่างกายของเขาที่บิดเบี้ยวแตกสลายแหลกออกเป็นชิ้น ๆ  มีเพียงแค่ศีรษะของเขาเท่านั้นที่ถูกปราณกระบี่ตัดหัวลอยออกมา.

"ครืนนน!"

ศีรษะของเขาที่แตกออกเป็นเสี่ยง ๆ .

ทุกคนที่สูดหายใจที่เย็นเยือบเข้าไป ก่อนหน้านี้ที่ต้องการเข้าไป นี่คือค่ายกลอย่างงั้นรึ? ร้ายกาจเกินไปแล้ว!

"ค่ายกลกระบี่สังหารเซียน?"จงซานที่เอ่ยออกมาด้วยความประหลาดใจอีกครั้ง.

"เซิ่งหวัง พวกเราจะเข้าไปอย่างงั้นรึ?"เซียนเซิงซือที่สอบถามออกไป.

จงซานที่กวาดตามอง ครุ่นคิดและกล่าวออกมา "รอให้คนอื่น ๆ ลงมือ เริ่มโจมตีค่ายกลกระบี่สังหารเซียนก่อน แล้วข้าจะนำพวกเจ้าเข้าไป!"

"ครับ!"

ทุกคนที่ไม่สงสัยในตัวจงซาน ที่บอกว่าข้าจะนำเจ้าเข้าไป เพราะว่าทุกคนเชื่อว่าเมื่อเซิ่งหวังเอ่ยปาก แสดงว่ามีวิธีอย่างแน่นอน.

"ไป!"จงซานที่เอ่ยออกมา.

"จงซาน!"เสียง ๆ หนึ่งที่ตะโกนลั่นทำลายแผนการของจงซาน.

ขณะที่จงซานและพวกกำลังจะบินออกไป เสียงคำรามที่โกรธเกรี้ยวก็ดังขึ้นมาในทันที.

บนท้องฟ้าปราชญ์เทพกำลังต่อสู้กันอยู่ อย่างไรก็ตาม พวกเขามองเห็นได้เพียงแค่จุดแสงสองจุดที่เข้าปะทะกัน ไม่สามารถมองเห็นรายละเอียดใด ๆ ได้เลย ทว่าแตกต่างกันกับเหตุการณ์ที่อยู่บนพื้น เกิดอะไรขึ้น มีคนกำลังจะแก้แค้นกันรึ? ใครกัน?

"ซุนเฉิน!"ไม่รู้ว่าใครที่เอ่ยออกมาในทันที.

ทุกคนที่มองเห็นได้ ชายในชุดสีขาวที่ลอยอยู่บนอากาศ สายตาที่โกรธเกรี้ยวกำลังจ้องมองไปยังยอดเขาแห่งหนึ่ง.

"ซุนเฉิน? ในอดีตนั้นเขาเป็นศิษย์ของซุนต้าเซิ่ง กล่าวได้ว่า เขาบอกว่าจริง ๆ เขาคือซุนเต้าเซิ่ง หลังจากที่ซุนต้าเซิ่งตาย ก็ปรากฎผู้สืบทอด เพียงเวลาไม่นาน เขาก็กลายเป็นเซียนโบราณ!"

"เป็นใครกันที่เขากำลังไปหาเรื่อง?"

"ซุนเฉิน เขาที่เป็นเซียนโบราณ ไม่ว่าจะเป็นใครที่ล่วงเกินเขา คงจบไม่สวยแน่!"

"ใครกันบนยอดเขานั่น? ไม่เคยเห็นคนเหล่านี้มาก่อนเลย?"

"เจ้ารู้จักคนสี่คนหรือไม่?"

"ไม่เคยเห็นมาก่อน!"

..............................

..................

......

เสียงดังเซ็ทงแซ่ ไม่มีคนรู้จักจงซาน?

แน่นอนว่าอาณาเขตเฟิงจงนั้นอยู่ไกลมาก แม้แต่กลุ่มอิทธิพลอื่น ๆ ของอาณาเขตเฟิงจงยังไม่มีคนรู้เช่นกัน แล้วพวกเขาจะรู้จักจงซานได้อย่างไร?

จงซานเป็นตำนานอย่างงั้นรึ? ใต้สวรรค์แห่งนี้ก็มีตำนานมากมาย คนเช่นจงซานจะบอกว่ามากก็มาก จะบอกว่าน้อยก็น้อย ดังนั้นกับพื้นที่ห่างไกลเช่นนั้นพวกเขาย่อมไม่รู้จัก.

ที่ไกลออกไป บนหุบเขาแห่งหนึ่ง หลันเติ้ง และหมี่เล่อจ้องมองภาพการประจันหน้าของทั้งคู่ในทันที.

"เฮ้เฮ้ หลันเติ้ง  ดูเหมือนว่าจะมีคนที่ช่วยเจ้าแก้แค้นแล้ว เจ้าไม่จำเป็นต้องลงมือเลย!"หมี่เล่อที่หัวเราะออกมา.

หลันเติ้งที่จ้องมองออกไป ไม่กล่าวสิ่งใด ภายในใจที่กำลังขบคิดอยู่.

จงซานขณะที่จะนำคนของเขาสามคน เข้าจับปลาน้ำขุ่นบนเทือกเขาเซิ่งซือ ทันใดนั้นก็มีคนออกมาขวาง ซ้ำยังเรียกชื่อเขาด้วย?

จงซานที่เงยหน้าจ้องมอง.

เฉินฉีเทียน? ไม่ใช่ เฉินฉีเทียนได้ตายแล้ว นี่คือซุนเฉิน? ใบหน้าที่เหมือนกัน เขารึ? คาดไม่ถึงเลยว่าจะมาเจอที่นี่?

"จงซาน ความแค้นที่โลกใบเล็กถึงเวลาชำระแค้นแล้ว!"ซุนเฉินที่กล่าวออกมาด้วยเสียงเย็นชา.

ซุนเฉินที่ยื่นมือออกไป นำกระบองออกมา เป็นกระบองมีห่วงทองสองหวง ที่ตรงกลางเป็นเหล็กดำ และมีอักษรสีทองสลักอยู่แถวหนึ่ง.

"ห่วงทองสมปรารถนา"(เสาค้ำสมุทร)

"ห่วงทองคำ!?"จงซานที่เผยท่าทางประหลาดใจ.

กับความลึกล้ำที่ผสมปนเปได้ปรากฎขึ้นในใจของจงซาน.

"เพียงแค่แก้แค้น ถึงกับใช้ไม้เท้าห่วงทองคำเลย!"ที่ไกลออกไปหลายคนที่อุทานเสียงดัง.

"ใช้กระบองห่วงทองคำ ซุนเฉินที่มีระดับเซียนโบราณและยังใช้ห่วงทองคำอีก ไม่ใช่ว่าจงซานเป็นคนที่แข็งแกร่งอย่างงั้นรึ?"

"แล้วอย่างไร ใครก็ตามถูกไม้เท้านี่ฟาดเข้าไปคงกลายเป็นผีไปแล้ว!"

..............................

..................

......

เสียงดังอื้ออึ้ง ทุกคนต่างก็รู้จักซุนเฉิน แต่ไม่รู้จักจงซาน ดังนั้นต่างก็คิดว่าจงซานต้องตาย เพราะเขาคือคนที่ไร้ชื่อนั่นเอง การที่คิดว่าคนแปลกหน้าที่ไม่เคยเห็นต้องตายย่อมไม่ใช่เรื่องแปลก.

ซุนเฉินที่เตรียมสังหารจังซานในทันที ไม่ปล่อยให้จงซานได้กล่าวใด ๆ ทั้งนั้น.

ความแค้นนับตั้งแต่อยู่บนโลกใบเล็กนั้นมากมายนัก เพื่อที่จะบรรเทาความเกลียดชังนี้เขาจะต้องสังหารจงซานไปในทันที.

โหลวซิงเฉินที่รู้งาน ก้าวออกมาหนึ่งก้าว พร้อมกับนำคันศรสีทองออกมา.

พริบตาเดียวที่คันศรสีทองโผล่ออกมา มีใครคนหนึ่งที่จำได้.

"คันศรเสวียนหยวน? ดูเหมือนกับคนศรเสวียนหยวนของตระกูลหลี่เลย?"

"คงเป็นของเลียนแบบ!"

"อย่างไร คิดว่าจะชนะชุนเฉินได้อย่างงั้นรึ?"

........................

............

......

เป็นเรื่องดีที่นาจาไม่ได้มา ไม่เช่นนั้นใบหน้าของเขาคงบิดเบี้ยวบูดบึ้งอย่างแน่นอน.

"คิดว่าจะชนะได้อย่างงั้นรึ?"ซุนเฉินที่กล่าวออกมาด้วยท่าทางเหยียดหยัน.

จงซานที่ชำเลืองมองเล็กน้อยแต่ไม่สนใจแม้แต่นิดเดียว.

โหลวซิงเฉินเป็นไปไม่ได้ที่จะพ่ายแพ้ มันเป็นสิ่งที่เขาต้องทำ เพื่อที่จะแบ่งเบาภาระของราชา โดยสังหารซุนเฉินซะ.

โหลวซิงเฉินที่ง้างคันศรสีทอง ซึ่งจากนั้นพลังฟ้าดินมากมายมารวมตัวกันที่ลูกศรสีทอง กลายเป็นลูกศรที่ทรงพลังน่าเกรงขามเป็นอย่างมาก.

ฟิ้ว!

โหลวซิงเฉินที่ยิงออกไป ริ้วแสงสีทองที่พุ่งออกไปอย่างรวดเร็ว ตรงดิ่งไปยังทิศทางของซุนเฉิน.

ความเร็วนั้นเกินจะพรรณนา ไม่มีทางที่ซุนเฉินจะหลบ พริบตาเดียวก็ปรากฎด้านหน้าซุเฉินแล้ว.

ซุนเฉินที่ยกกระบองหวงทองคำขึ้นป้องกันได้เท่านั้น.

"ตูมมม~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~!”

เกิดระเบิดเสียงดังสนั่น กระแทกซุนเฉินลอยออกไปร้อยลี้ หลังจากลอยออกไปไกลร้อยลี้ก็หยุดลง.

เพียงแค่การโจมตีแรก คาดไม่ถึงเลยว่าซุนเฉินจะเสียเปรียบ?

ผู้คนมากมายที่ไม่รู้จักจงซานถึงกับดวงตาเบิกกว้างกลมโต.

เพียงแค่กระโจมตีครั้งแรก ก็ทำให้ซุนเฉินถอยห่างออกไปไกล ทว่าก็ไม่ได้ทำให้เขาเป็นอะไรนัก ซุนเฉินที่อาบไปด้วยจิตสังหารที่ปะทุขึ้นมา พร้อมกับกวัดแกว่งกระบองห่วงทองคำไปมา พร้อมกับพุ่งตรงออกมาในทันที.

ทว่าในเวลาเดียวกันนั้น ความเร็วของโหลวซิงเฉินนั้นมีมากกว่า เขาที่ง้างคันศร พร้อมกับปล่อยมันพุ่งออกไปยังทิศทางของซุนเฉิน.

ลูกศรที่ขยายออกไปมีขนาดสิบจั้ง พุ่งไปด้วยความเร็ว ราวกับอุกกาบาตกระแทกร่างของซุนเฉินอีกครั้ง.

ริ้วแสงขนาดใหญ่นั้นไม่ได้บดขยี้แต่อย่างใด ทว่ากลับเป็นการเปิดช่องให้ยิงศรสีทองยิงออกไป ลูกศรมากมายที่พุ่งตรงไปยังซุนเฉิน.

ทรงพลังมาก.

"ตูมมม!" "ตูมมม!" "ตูมมม!" ............................

ซุนเฉินที่คว้ากระบองห่วงทองคำ พร้อมกับขยายขนาดของมันออกมาป้องกัน ก่อนที่ร่างของเขาจะหายไปโจมตีไปยังโหลวซิงเฉิน ทว่าหลังจากที่โหลวซิงเฉินปล่อยลูกศรแล้ว ร่างกายของเขาก็เคลื่อนถอยออกมาด้วยความเร็วสูง.

พริบตาหลังจากนั้น ลูกศรนับร้อยลูกก็ถูกยิงออกมา.

เหล่าผู้ชมที่อ้าปากค้างด้วยความตะลึงงัน ลูกศรที่ยิงไปยังทิศทางของซุนเฉินนั้น ทรงพลังมาก ถึงกับทำให้ห้วงมิติสั่นกระเพื่อมได้เลย.

นี่คือการต่อสู้อะไรกัน? เป็นอะไรที่น่ากลัวนัก! เป็นการกำราบอยู่เพียงฝั่งเดียว ทุกคนที่รับรู้ความแข็งแกร่งของซุนเฉินดี ทว่าในเวลานี้ยากที่จะตอบโต้ออกไปได้ ร่างกายของเขาในเวลานี้ที่เต็มไปด้วยบาดแผล ผมหยิกหยอย ร่างกายสั่นสะท้าน อยู่ในสภาพไม่ใคร่ดีนัก ใบหน้าที่แดงกล่ำเต็มไปด้วยความโกรธ.

"ไม่ธรรมดา เขาเป็นใครมาจากใหนกัน?"ที่ไกลออกไปอ๋องพันปิศาจที่เอ่ยออกมาด้วยความอัศจรรย์ใจ.

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด