ตอนที่แล้วChapter 984 ซา(สามสิบ)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 986 ปลุกเทียนเสิ่นจื่อ.

Chapter 985 จงซานยั่วยุจื่อลู่.


จงซานที่จัดการเรื่องนาจาเสร็จก็ไม่ได้รู้สึกผ่อนคลายแต่อย่างใด ทว่าเขาจ้องมองไปยังอีกทิศทางหนึ่ง และกล่าวออกมาว่า "ไม่ออกมาอีก ต้องการให้ข้าออกไปเชิญอย่างงั้นรึ?"

กับคำพูดของจงซาน ทำให้เสนาธิการของต้าเจิ้งถึงกับเปลี่ยนเป็นระมัดระวังขึ้นมาในทันที.

คำพูดของเซิ่งหวังที่ไม่ได้ระบุชื่อใคร และไม่สามารถสัมผัสถึงฝ่ายตรงขามได้ ในเมื่อเอ่ยออกมาแล้ว ดูเหมือนว่าจะเป็นยอดฝีมือที่ซ่อนตัวอยู่.

สายตาของจงซานที่จ้องมองไปยังฝั่งทิศใต้.

หุบเขาแห่งหนึ่งในทิศใต้.

เซอคงถึงกับสะดุ้งด้วยความตื่นตระหนกตกใจ.

"อาจารย์อา จงซานพบพวกเราแล้วอย่างงั้นรึ? นี่เขาพบพวกเราได้อย่างไร? ไม่ใช่ว่าพวกเราปกปิดกลิ่นอายด้วยวิถีสวรรค์อย่างงั้นรึ?"เซอคงที่รู้สึกกังวลไม่น้อย.

จื่อลู่ขมวดคิ้วไปมาเล็กน้อย เขาเองก็ไม่เข้าใจเช่นกันจงซานพบกับเขาได้อย่างไร ด้วยวิถีสวรรค์คลุมร่างแล้ว ต่ำกว่าระดับเซียนบรรพชนไม่มีทางที่จะพบได้ แน่นอนว่าจื่อรู้ย่อมสงสัยเป็นธรรมดา จงซานสามารถมองเห็นวิถีสวรรค์ได้อย่างไร.

จื่อลู่และเซอคงที่แฝงตัวเข้ามา ใช้วิถีสวรรค์คลุมร่างล่องหน แม้แต่เซียนบรรพชนที่มีพลังต่ำกว่าก็ไม่สามารถพบได้ หรือแม้แต่ศึกษาวิถีสวรรค์ที่ต่างกันก็ไม่สามารถมองเห็นได้ ทว่าจงซานนั้นแตกต่างออกไป จงซานมีเคล็ดวิชาหงหลวนเทียนขั้นที่เก้า วิถีสวรรค์ปรากฎ สามารถมองเห็นวิถีสวรรค์ทั่วท้องฟ้าได้ทั้งหมด.

จงซานพบได้อย่างไร พบตั้งแต่เมื่อไหร่? เป็นอะไรที่ชัดเจนมาก! วิถีสวรรค์ที่ส่องสว่างราวกับแสงสว่างจ้าในราตรี.

ในเมื่อถูกพบแล้วจื่อลู่ก็ไม่ปิดบังอีกต่อไป เขาที่บินออกมาปรากฎขึ้นที่ประตูสวรรค์ทิศใต้ ยืนอยู่บนอากาศจ้องมองอย่างเย็นชาไปยังทิศทางของจงซาน.

สายตาของทุกคนที่จ้องมองออกไป! จงซานในเวลานี้ต้องเผชิญหน้ากับเซียนบรรพชนอีกครั้งแล้ว.

"จื่อลู่? ศิษย์กงจื่อ จื่อลู่อย่างงั้นรึ?"ผู้ใต้บังคับบัญชาของนาจาที่อุทานออกมาเสียงดัง.

ที่ไกลออกไป เซอคงที่ลอบร้องบ่นในใจบินออกมาพร้อมกัน "อาจารย์อาบรรพชน ท่านไม่ได้บอกว่าจะช่วยให้ข้าลอบโจมตีสังหารจงซาน ทำไมถึงได้ออกมาเผชิญหน้า

จื่อลู่ที่จ้องมองไปยังเซองคง ที่ใบหน้าเปลี่ยนเป็นมืดครึ้ม "เจ้าสารเลวน้อย ข้าจื่อลู่ต้องลอบโจมตีอย่างงั้นรึ? เพียงแค่มหาเซียน ไม่มีความจำเป็นต้องลอบโจมตี.

กับนิสัยใจคอที่มั่นใจมากมายของจื่อลู่ เผยท่าทางเหยียดหยันออกมา ทำให้เซอคงที่เอ่ยออกมานั้นถึงกับสั่นเทิ้ม.

"ครับ ศิษย์เข้าใจผิดเอง อาจารย์อานั้นเป็นสุภาพบุรุษ ไม่มีทางที่จะทำเรื่องเช่นนี้ ศิษย์พร้อมที่จะก้าวไปตามเส้นทางตามอาจารย์อา!"เซอคงที่เอ่ยออกมาในทันที.

"อืม เช่นนั้นข้าจะให้เจ้ามีโอกาสได้ล้างแค้นให้กับกงเหล่ยเทียนก่อน? ภายในตระกูล เจ้าเองก็ได้รับของวิเศษมามากมาย น่าจะสามารถต่อกรกับจงซานได้!"จื่อลู่กล่าว.

"ต่อสู้กับจงซาน?"หัวใจของเซอคงที่ตื่นตระหนกใจสั่นระรัว.

เซอคงที่หันหน้าไปมองจงซานที่ใบหน้าขุ่นเคือง สายตาของทั้งคู่ที่จ้องมองกัน พริบตานั้นเซอคงเป็นอะไรไม่รู้ ขนทั่วร่างที่ลุกชูชัน ภายในที่สัมผัสได้ถึงอันตรายอย่างรุนแรงขึ้นมาในทันที.

สัมผัสนี้คืออะไร? หน้าผากของเซอคงที่หลั่งเหงื่อที่เย็นเยือบออกมา.

"อย่างไร?"จื่อลู่กล่าวถาม.

เห็นชัดเจน จื่อลูนั้นราวกับว่ามั่นใจว่าได้ประเมินความสามารถของจงซานได้ชัดเจนแล้ว.

"ไม่ดีกว่า!"ใบหน้าของเซอคงที่เปลี่ยนเป็นขมขื่น.

"ไม่อะไร? เจ้าไม่ต้องการแก้แค้นให้กับบิดาของเจ้าอย่างงั้นรึ?"แววตาของจื่อลู่ที่เบิกตากว้าง.

"โอ้ย โอยย ๆ  ท้องข้า ข้าปวดท้องเหลือเกิน อาจารย์อา ท้องข้าปวดมาก ข้าคงต่อสู้ไม่ได้แล้ว ข้าต้องการล้างแค้นให้ท่านพ่อ ทว่าท้องข้ามันไม่เป็นใจเลย ข้าเกลียดนัก!"เซอคงที่ร้องโหยหวนออกมา.

จื่อลู่"...........................!”

เห็นท่าทางของเซอคงแล้ว จื่อลูถึงกับพูดไม่ออกไม่รู้จะกล่าวอย่างไรกับผู้เยาว์ตระกูลกง อสุรกายสวมชุดเกราะที่อยู่ด้านหลังลอบมองเซอคง แววตาที่เต็มไปด้วยความเหยียดหยัน.

จื่อลู่ที่ได้ยินเรื่องต่าง ๆ ของเซอคงมาหลายอย่าง แต่ไม่คิดเลยว่าเขาจะหาเหตุผลที่ไร้ซึ่งเหตุผลมาใช้กับเขา หากว่าเป็นปุถุชนทั่วไปย่อมไม่เป็นปัญหา ทว่าเขาที่เป็นคนในตระกูลที่ทรงเกียรตินี่นับเป็นปัญหาเลยทีเดียว.

เหตุผลมากมายนับไม่ถ้วนอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้กลับบอกว่าปวดท้องอย่างคาดไม่ถึง.

"อาจารย์อา ท่านลงมือก่อนแล้วกัน ข้าจะไปหาสถานที่บำเพ็ญลมหายใจ หลังจากท่านกุดหัวจงซานแล้ว ค่อยตามหาแล้วกัน ข้าจะไปหาที่พักไว้รอ !"เซอคงที่เอ่ยออกมาทันที.

เซอคงที่ไม่คิดจะออกไปต่อสู้เลยแม้แต่น้อย จงซานนั้นแปลกประหลาดมาก เขาที่สามารถรับมือระดับเซียนบรรพชนได้ ทำไมเขาจะเอาชีวิตตัวเองไปเสี่ยง?

อสุรกายเช่นนั้น จะเอาอะไรไปต่อสู้!

เซอคงกล่าวเสร็จเตรียมที่จะบินจากไปในทันที.

"หยุดตรงนั้น!"จื่อลู่ที่ตะโกนออกไปเสียงดัง.

น่าขายหน้ายิ่งนัก นี่ยังนับว่าเป็นผู้เยาว์นิกายหงหรูอยู่อีกรึ?

"อาจารย์อา ข้าจริง ๆ ....!"เซอคงที่ต้องการจะจากไป.

"อดทนเอาไว้ จงรู้จักอดทน!"จื่อลู่ที่รู้สึกโกรธเล็กน้อย หากรู้ว่าจะเป็นเช่นนี้เขาคงไม่นำเซอคงมาให้ขายหน้า.

"ได้ อาจารย์อา ท่านจะต้องปกป้องข้าให้ปลอดภัย!"เซอคงที่เอ่ยออกมาด้วยท่าทางเป็นกังวล.

เมื่อรู้ว่าไม่สามารถที่จะจากไปได้ เซอคงที่เริ่มกล่าวประจบทันที.

จื่อลู่ถึงกับเสียจริตที่วางตัวอย่างสง่างามมานับร้อยนับพันปี เขารู้สึกหมดเรี่ยวแรงกับเซอคงเป็นอย่างมาก ในเวลานี้เขาไม่สนใจเซอคงอีกต่อไป.

น่าขายหน้าที่สุด!

เซอคงที่เร่งรีบถอยห่างไปอยู่ด้านหลังจื่อลู่ในทันที.

ที่ไกลออกมา ที่ด้านหน้าตำหนักซ่างเฉิน.

จงซานรับรู้ว่าคนผู้นี้คือจื่อลู่ ก็แสดงท่าทางจริงจัง คาดเดาได้ถึงเหตุผลที่เขามาที่นี่ได้อย่างแน่นอน.

คนที่เคลื่อนย้ายอำนาจวิถีสวรรค์ก่อนหน้านี้ จงซานสามารถยืนยันได้ว่าคนที่พยากรณ์เขาก็คือจื่อลู่แน่นอน.

กับความแค้นที่มีกับนิกายหงหรู จงซานรับรู้ดีว่าไม่สามารถประนีประนอมกันได้ ทว่าไม่คิดเลยว่าจะเร็วขนาดนี้ คาดไม่ถึงเลยว่านิกายหงหรูกับส่งเซียนบรรพชนมาเลยอย่างงั้นรึ?

ส่วนอีกคนที่มีรูปร่างคล้ายกงเหล่ยเทียนนั้น คนผู้นี้เพียงแค่เห็นจงซานก็พอคาดเดาได้แล้ว ว่าเขาเป็นใคร ท่าทางลุกลี้ลุกลนกลัวตายเช่นนี้ ไม่มีใครที่ใหน เซอคง!

เซอคง? แววตาของจงซานที่เผยท่าทางจริงจัง! หวาดกลัว? บางทีคนอื่นอาจจะคิดว่าเซอคงขี้ขลาดหวาดกลัว ทว่าจงซานรู้ดี เซอคงนั้นเป็นคนที่น่าเกรงขามเป็นอย่างมาก เขาที่เป็นคนใจเย็นอดทนสุขุมรอคอยสังหารกงเหล่ยเทียน สามารถซ่อนความจริงจากปราชญ์เทพกงจื่อในตระกูลกงได้ คนผู้นี้ไม่สามารถรับมือได้ง่าย ๆ .

"เทพอสูรเซียวจิน!"เซียนเซิงซือที่แสดงท่าทางจริงจังในทันที.

"เซิ่งหวัง โปรดระวังอสูรเซียวจิน ในโลกใบใหญ่นั้นมันมีอันดับที่ 20 เสียงของมันสามารถตัดโลหะได้ นอกจากนี้มันยังเป็นอสูรที่โตเต็มไว พลังเสียงของมันนั้นมีพลังของวิถีสวรรค์อาบอยู่ด้วย!"เซียนเซิงซือที่กล่าวออกมาด้วยความจริงจัง.

"อันดับ 20 ?"จงซานที่เผยท่าทางระมัดระวังได้ในทันที.

ไม่ต้องเอ่ยเลยว่ามันเคลื่อนย้ายอำนาจวิถีสวรรค์ได้ เพียงแค่อันดับของมัน ก็ทำให้จงซานต้องระมัดระวังแล้ว.

เซียนบรรพชน และเทพอสูรเซียวจิน ที่สามารถเคลื่อนย้ายวิถีสวรรค์ได้? นี่จะกลายเป็นการต่อสู้ที่รุนแรงหนักหน่วงอย่างแน่นอน!

"ผู้มาคือ จื่อลู่นิกายหงหรูอย่างงั้นรึ?"จงซานที่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.

"ถูกต้อง เจ้าคือคนสังหารเหยี่ยนฮุยและกงเหล่ยเทียนอย่างงั้นรึ?"จื่อลู่ที่ลอยอยู่บนอากาศจดจ้องมองจงซานด้วยความเย็นชา.

จื่อลู่ที่เผยท่าทางเป็นสุภาพชน ที่ต้องมีการเจรจาก่อนใช้กำลัง! เป็นการหาเหตุผลในการใช้กำลัง! ในการเผชิญหน้ากับศัตรู หากเป็นเซอคง เมื่อมีพลังที่เหนือกลัวย่อมไม่มีการเจรจา เขาที่ทำได้แม้แต่ลอบสังหารไปเลยด้วยซ้ำ.

เหยี่ยนฮุยนั้น จงซานเป็นคนสังหาร ทว่ากงเหล่ยเทียนนั้น จงซานที่สังหารเพียงครึ่งเดียว อีกคนหนึ่งนั้นจะต้องเป็นเซอคง.

จงซานที่จ้องมองไปยังเซอคง เซอคงที่สั่นสะท้านถึงกับถอยหลังออกไป ในเวลานั้นถึงกับไม่สนจื่อลู่.

จื่อลู่ที่รู้สึกอับอายเป็นอย่างมาก คร้านที่จะหันหน้ากลับไปดูด้วยซ้ำ เขาที่เป็นเซียนบรรพชนและยังมีเทพอสูรเซียวจินอีก ยังมีสิ่งใดต้องหวาดกลัวกัน?

เซอคงที่ไม่สนใจว่าจื่อลู่จะว่ากล่าวแต่อย่างใด เขาไม่มีความกล้าใด ๆ ทั้งสิ้น บินหนีไปในทันที จื่อลู่ที่ไม่ต้องการขวางเช่นกัน หากเขาขวางเอาไว้อีกครั้ง เขาก็คงจะเสียหน้าเช่นกัน เรื่องนี้มันน่าอับอายเกินไปแล้ว!

พริบตาเดียว ก็ไม่เห็นแม้แต่เงาของเซอคงอีกต่อไป.

กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้ตกอยู่ในสภาพอักอ่วน เหล่าเสนาธิการของต้าเจิ้งที่จ้องมองเซอคงด้วยความประหลาดใจ จื่อลู่ที่ได้แต่เงียบกับการกระทำของเซอคง ทว่าจงซานหาได้สนใจ เขาที่จ้องมองไปยังจื่อลู่.

"กงจื่อไม่ได้สอนอย่างงั้นรึ? ว่าจงใช้ความยุติธรรมตอบโต้ความเลว ใช้ความดีตอบแทนความดี เหยี่ยนฮุยนั้นลอบโจมตีข้า แล้วจะโทษคนอื่นได้อย่างไร? ข้าถึงได้มอบความตายคืนให้กับเขา ส่วนกงเหล่ยเทียนนั้น ใต้หล้าต่างก็รับรู้ว่าเขาได้ประลองตัดสินเป็นตายกับข้าอย่างยุติธรรม มันเป็นไปตามครรลองทุกอย่าง ทำไมเจ้าต้องมาแก้แค้นอย่างงั้นรึ?"จงซานที่สอบถามออกไป.

ในเมื่อจงซานและกงจื่อเป็นศัตรูกันแล้ว คนของนิกายหงหรูย่อมต้องมาหาเรื่องเขาอยู่แล้ว ทว่าจื่อลู่นั้นกับแสดงท่าทางตัวเองสูงส่งเป็นสุภาพชนออกมา.

ในเมื่อเป็นเช่นนี้ จงซานจึงต้องการตอบโต้ความเป็นสุภาพชนนั้นออกไป ด้วยการยกหลักการของพวกเขา ทำลายท่าทางอหังการของจื่อลู่ไป.

เป็นความจริงกับคำพูดของจงซานที่กล่าวออกไปนั้นทำให้จื่อลู่ตะลึงงันพูดไม่ออกเช่นกัน หากว่าเขาปฏิเสธไม่สนใจไม่ใช่ว่าคำสอนของอาจารย์กลายเป็นเรื่องไร้สาระหรอกรึ?

"คาดไม่ถึงเลยว่าเจ้าจะรับรู้ได้ถึงคำสอนของนิกายหงหรู!"ใบหน้าของจื่อลู่ที่เปลี่ยนเป็นอัปลักษณ์เล็กน้อย.

"นิกายหงหรูนั้นมีคำสอนที่ลึกล้ำ แต่ข้าก็ไม่รู้ว่าเหล่าศิษย์ของนิกายหงหรูนั้น จะนำมันไปใช้อย่างที่ข้ากล่าวหรือไม่?"จงซานที่กล่าวสอบถามออกไป.

นี่เป็นการสอบถามเชิงบังคับ ว่าเขาที่สังหารกงเหล่ยเทียนและเหยี่ยนฮุยเป็นเรื่องถูกต้อง จะให้เขายอมรับอย่างงั้นรึ?

เรื่องนี้จื่อลู่จะตอบอย่างไร? ฝั่งหนึ่งคือความแค้นส่วนตัว อีกฝังหนึ่งคือหลักคำสอน!ที่เขาไม่สามารถละเลยได้.

จื่อลู่ที่ไม่คิดเลยว่าจะซานจะน่ารังเกียจขนาดนี้ แววตาของเขาที่ส่ายไปมา ท่าทางสง่างามของเขากำลังถูกลูบคม "เหยี่ยนฮุยตายด้วยฝีมือเจ้า กงเหล่ยเทียนเองก็เช่นกัน ข้าต้องการขอคำแนะนำ อยากรู้ว่าจงซานจะมีความสามารถขนาดใหน!"

"เพียงแค่ขอคำแนะนำอย่างงั้นรึ?"จงซานที่เผยรอยยิ้มออกมาเล็กน้อย.

"เพียงแค่ขอคำแนะนำ!"จื่อลู่กล่าว เขาจะบอกว่าแก้แค้นได้อย่างไร? จงซานในเวลานี้กล้ายกหลักคำสอนของเขาออกมากล่าว กับนิสัยและท่าทางที่สง่างามของเขา จะบอกออกมาว่าแก้แค้นไม่ได้.

"เจ้าเป็นเซียนบรรพชน ข้าเป็นมหาเซียน ห่างกันสองอาณาจักร ไม่จำเป็นต้องปะมือเลยแม้แต่น้อย ด้วยความแข็งแกร่งของเจ้า ข้าขอยอมแพ้ ตอนนี้เจ้าพอใจแล้วรึยัง?"จงซานที่กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.

จื่อลู่"...........!”

จื่อลู่ที่อ้าปากค้าง ยอมแพ้? ทำได้อย่างไร? เขาที่กำลังหาเรื่องเพื่อประลอง จงซานกลับยอมแพ้ ทว่าเรื่องนี้อยู่ต่อหน้าประชาชนของต้าเจิ้งมากมาย เขากลับกล้ากล่าวเช่นนี้ออกมารึ?

เซิ่งหวังประมุขราชวงศ์สวรรค์ เป็นไปไม่ได้ที่จะพูดเช่นนี้ออกมา? เขาไม่กลัวประชาชนดูแคลนเขาอย่างงั้นรึ?

จื่อลู่ถึงกับไม่มีคำพูดจะเอ่ยต่อไป เพราะเขาไม่คิดเลยว่าจงซานจะหน้าหนาขนาดนี้ ต่อหน้าประชาชนของต้าเจิ้ง คาดไม่ถึงเลยว่าจะกล่าวยอมแพ้.

เป็นเช่นนี้ได้อย่างไร? จื่อลู่เริ่มคิดถึงคำพูดของเซอคงที่กล่าวว่าจงซานแปลกประหลาด.

จงซานกล้ากล่าวยอมแพ้ต่อหน้าประชาชนมากมายรึ? แน่นอนว่าไม่ เขาที่เป็นเพียงมหาเซียนต่อหน้าเซียนบรรพชนไม่ต่างจากแส่หาความตาย แน่นอนว่าประชาชนย่อมคิดเรื่องนี้ ทุกคนต่างก็รู้เรื่องนี้ดี ทว่าเขาที่ได้ยินข่าวมาว่าจงซานและบรรพชนชราเสวี่ยเหม่ยประลองกัน จนแม้แต่บรรพชนชราเสวี๋ยเหมยได้รับบาดเจ็บหนัก เรื่องนี้เป็นเรื่องจริงหรือไม่?

กับการที่จงซานกล่าวยอมแพ้เช่นนี้ ทำให้จื่อลู่คาดไม่ถึงแม้แต่น้อย.

"ในเมื่อจื่อลู่ได้รับชัยชนะแล้ว มาจากใหนก็กลับไปที่นั่นเถอะ!"จงซานที่กล่าวขึ้นมาอีกรอบ.

จื่อลู่"...........!”

เหล่าเสนาธิการของต้าเจิ้ง ใบหน้าของพวกเขาถึงกับกระตุกไปมา ต้องการหัวเราะแต่ก็ไม่กล้า พวกเขาที่ได้แต่ชื่นชมเซิ่งหวัง คาดไม่ถึงเลยว่าจะล่อลวงจื่อลู่ด้วยคำพูด ถึงกับทำให้สุภาพบุรุษจื่อลู่พูดไม่ออก.

หากยึดหลักคำสอนของตัวเอง เขาจะต้องจากไปในทันที ด้วยการนำหลักคำสอนของพวกเขาบีบบังคับให้พวกเขาจากไป นี่เป็นแผนร้ายในการป้องกันจื่อลู่ด้วยหลักคำสอนของนิกายของเขา.

หากต้องการเป็นสุภาพชนย่อมต้องจากไป หากต้องการต่อสู้ ก็จะไม่ใช่สุภาพชน กล่าวอีกอย่างหนึ่ง ตราบเท่าที่จื่อลู่ลงมือ ไม่ว่าเขาจะชนะหรือพ่ายแพ้ ชื่อเสียงของเขาย่อมเสียหายไปแล้ว ไม่สามารถเรียกได้ว่าสุภาพชนอีกต่อไป.

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด