ตอนที่แล้วChapter 981 นาจามาแก้แค้น.
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 983 จ้าวโส่วเซี่ยงปะทะนาจา.

Chapter 982 เซอคงปรากฎตัว.


สวนสวรรค์ลอยฟ้าหลิงเซียว!

ภายในตำหนักเทียนหยวนห้องอักษรของจงซาน ซึ่งมีคนสามคนยืนอยู่.

จงซาน จ้าวโส่วเซี่ยงและอี้เหยี่ยน!

ภายในเขตแดนภพหยินนั้นอยู่ในความสงบ ดังนั้นเหล่าแม่ทัพจึงถูกย้ายมาด้วยผังจักรพรรดิมายังภพหยาง ภพหยิน-หยางแม้นว่าจะเป็นราชวงศ์ชื่อเสียงวาสนาสองแห่งทว่า ต้องรู้ด้วยว่าแม่ทัพนั้นไม่ได้แยกกัน ทุกคนต่างก็เป็นคนของต้าเจิ้ง เซิ่งหวังทั้งสองต่างก็เป็นคนเดียวกัน แม้แต่ใช้ความคิดร่วมกัน จะให้เรียกสองราชวงศ์ชื่อเสียงวาสนาได้อย่างงั้นรึ?

"ตอนนี้พวกเรายังขาดคนที่มีความสามารถ!"จงซานที่ครุ่นคิดและกล่าวออกมา.

เกี่ยวกับต้าเจิ้งที่ทำการขยายดินแดนออกไปเรื่อย ๆ  เหล่าคนที่มีพรสวรรค์จึงมีความจำเป็นเร่งด่วน เพื่อสนับสนุนดินแดนที่ขยายออกไป.

"สุ่ยจิงเองก็รับผิดชอบเรื่องนี้อยู่ ถึงเพิ่มเฉินเข้าไปอีกก็ไม่ได้ช่วยอะไรมากนัก!"อี้เหยี่ยนที่ส่ายหน้าไปมา.

"ข้ารู้ ทว่าไม่มีทางที่จะคัดเลือกคนได้ทันการขยายดินแดน!"จงซานที่ส่ายหน้าไปมา.

"ไม่ทันรึ? เฉินคิดว่าน่าจะเพียงพอ ไว้พวกเรายึดครองดินแดนได้อีกครั้ง ค่อยเพิ่มเหล่าคนมีพรสวรรค์ไม่ดีกว่ารึ?"อี้เหยี่ยนที่กล่าวออกมาด้วยความสงสัย.

"ไม่ ดินแดนนั้นได้ยึดครองมาเกือบทั้งหมดแล้ว!"จงซานที่กล่าวตอบ.

"หืม?"อี้เหยี่ยนที่ไม่เข้าใจชัดนัก.

"ทางทิศใต้ เดิมที่เป็นศาลเทพไท่อี้ที่ล่มสลาย ถูกแบ่งออกเป็นสี่ราชวงศ์สวรรค์ ตอนนี้ทั้งสี่ราชวงศ์สวรรค์รอคอยให้รวมผนวกเข้ามาเท่านั้น สามารถเปลี่ยนเป็นของต้าเจิ้งได้ในทันที!"จงซานเอ่ย.

"ทิศใต้? เซิ่งหวังตั้งแต่เมื่อ...? เป็นไปได้ว่าที่ไม่เห็นเซียนเซิงซือนั่นก็?"อี้เหยี่ยนที่ทำการคาดเดาได้ในทันที.

"อืม! สี่ราชวงศ์สวรรค์ เหล่าเซิ่งซ่างพวกเขาได้ตกตายไปแล้ว ตอนนี้เป็นเพียงศพที่เซียนเซิงซือควบคุมเท่านั้น!"จงซานพยักหน้ารับ.

“..................!”

ทุกคนกลายเป็นเงียบชั่วครู่ อี้เหยี่ยนที่ถอนหายใจ "เซิ่งหวังแผนการก้าวไกลนัก เซียนเซิงซือเองลึกล้ำเกินประมาณด้วยจริง ๆ !"

"อืม เจ้ารับรู้สถานการณ์แล้ว เซียนเซิงซือคงถึงเวลากลับสวนสวรรค์ลอยฟ้าหลิงเซียวแล้ว สี่ราชวงศ์สวรรค์นี้ เจ้าวางแผนจัดการไปก็แล้วกัน!"จงซานที่กล่าวสั่งการ.

เรื่องทุกอย่างไม่จำเป็นให้ราชาเข้าไปควบคุม ทว่าจำเป็นต้องเข้าใจในแผนและวิธีทำงานของข้าราชบริพารด้วย และสิ่งสำคัญที่สุดคือรู้จักการใช้งานข้าราชบริพารของตัวเอง.

"รับทราบ!"อี้เหยี่ยนที่พยักหน้ารับ.

"ห้องโถงหมายเลขห้าบนสวนสวรรค์ลอยฟ้าหลิงเซียว มีค่ายกลที่ล้ำลำผนึกอยู่ และเป็นสถานที่แลกเปลี่ยนข่าวสารกับเซียนเซิงซือ ในเวลานั้นเจ้าลองปรึกษาพูดคุยกับเซียนเซิงซือดู!"จงซานกล่าว.

"ครับ!"อี้เหยี่ยนพยักหน้ารับ.

"โหลวซิงเฉินที่ได้เข้าไปโจมตีเมืองหลวงของศาลเทพไท่จี ตอนนี้ศาลเทพไท่จีกำลังอยู่ในความวุ่นวายสับสน วางแผนในการรวมรวมด้วย! เดิมทีมีทหารของศาลเทพไท่ชูตรึงกำลังอยู่ในแนวหน้าแล้ว!"จงซานที่กล่าวออกมาอีกครั้ง.

อี้เหยี่ยนพ่นลมหายใจยาวเผยยิ้มเฝื่อน"การมีทัพของศาลเทพไท่ชูนั้น นับว่าช่วยแบ่งเบาความกดดันของพวกเราได้มากจริง ๆ !"

จงซานพยักหน้ารับ ทหารของศาเลทวะไท่ชูนั้นแบ่งภาระไม่น้อย ด้วยเวลาที่ไม่มากนี้ จงซานไม่สามารถรอคอยได้ จำเป็นต้องกลืนกินทั่วทั้งอาณาเขตเฟิงจงในตอนนี้ หากว่าปล่อยเวลาไว้นาน ราชวงศ์ชื่อเสียงวาสนาที่อยู่รอบ ๆ ที่กำลังเฝ้ามองอยู่ อาจกระโดดเข้าร่วมสงครามได้ อี้เหยี่ยนเข้าใจดีว่าต้องทำเช่นไร.

"โส่วเซี่ยง พลังฝึกตนของเจ้าเวลานี้เป็นอย่างไรบ้าง?"จงซานที่จ้องมองไปยังจ้าวโส่วเซี่ยง.

"เวลานี้ได้ก้าวถึงเซียนสวรรค์ขั้นปลายแล้ว ทว่าจำเป็นต้องการโอกาสเพื่อตัดผ่าน เฉินจะพยายามอย่างหนัก."จ้าวโส่วเซี่ยงที่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.

"ปราณหอก นับว่าวิถีบำเพ็ญที่น้อยคนนักจะสามารถใช้ได้ เส้นทางที่เจ้าเดินไปนั้นนับว่าเป็นเส้นทางที่น่าเกรงขาม ทว่าข้าเชื่อว่าเจ้าจะสามารถผ่านมันไปได้!"จงซานพยักหน้ารับ.

"ขอบคุณเซิ่งหวัง!"จ้าวโส่วเซี่ยงพยักหน้ารับ.

ระหว่างที่ทั้งสามกำลังพูดคุยกันนั้น ทันใดนั้นดวงตาของจงซานที่หดเกร็ง ใบหน้าเปลี่ยนเป็นจริงจังขึ้นมาทันที.

"เซิ่งหวัง มีอะไรอย่างงั้นรึ?"อี้เหยี่ยนที่ตระหนักได้ถึงท่าทางของจงซาน.

"คาดไม่ถึงเลยว่าจะมีคนพยากรณ์ข้า? นอกจากนี้ยังดูเหมือนว่ามีพลังเข้มข้น เซียนบรรพชนอย่างงั้นรึ? แม้แต่อยู่ในอาณาเขตเฟิงจงด้วย?"แววตาของจงซานที่แสดงท่าทางจริงจัง.

"เซียนบรรพชน?"คิ้วของอี้เหยี่ยนที่ขมวดไปมา.

เซียนบรรพชน ยอดฝีมือที่อยู่ต่ำกว่าปราชญ์เทพ เซียนบรรพชนกำลังวางแผนอะไรเกี่ยวกับเซิ่งหวังกัน?

"ไม่จำเป็นต้องกังวล ตราบเท่าที่ข้าอยู่ในสวนสวรรค์สวรรค์ลอยฟ้าหลิงเซียว มีเหรอที่จะทำอะไรข้าได้!"จงซานที่กล่าวปลอบทุกคน.

"รับทราบ!"คนทั้งสองที่พยักหน้ารับ.

"อืม พวกเราก็ปรึกษากันมานานแล้ว พวกเจ้ากลับไปพักก่อนเถอะ!"จงซานกล่าว.

"ครับ พวกเราคงไม่ขอรบกวนแล้ว!"อี้เหยี่ยนและจ้าวโส่วเซี่ยงกล่าว.

อี้เหยี่ยนและจ้าวโส่วเซี่ยงที่ออกมาจากตำหนักเทียนหยวน.

"เซียนเซิงอี้ ท่านคิดว่าใครกันที่กำลังพยากรณ์เซิ่งหวัง เป็นศัตรูที่อยู่ในเขตแดนเซียนบรรพชนอย่างงั้นรึ?"จ้าวโส่วเซี่ยงที่ครุ่นคิดและกล่าวออกมา.

"ไม่ว่าอย่างไร ความปลอดภัยของเซิ่งหวังต้องมาก่อน ข้าจะแจ้งไปยังเซียนเซิงซือและโหลวซิงเฉินให้รีบกลับมาในทันที เซียนเซิงซือมีวิชาที่ลึกล้ำแปลกประหลาด ย่อมสามารถช่วยเหลือเซิ่งหวังได้แน่!"อี้เหยี่ยนที่กล่าวออกมาในทันที.

หลังจากที่คนทั้งสองออกไปแล้ว จงซานที่เผยท่าทางผ่อนคลายก่อนหน้านี้เปลี่ยนเป็นจริงจังทันที ตราบเท่าที่ต้องเผชิญหน้ากับเซียนบรรพชน มีเหรอที่จะผ่อนคลายได้? จงซานไม่ต้องการให้ทุกคนเป็นกังวลดังนั้นจึงได้เอ่ยออกไปเช่นนั้น ไม่ว่าอย่างไรพวกเขาเองก็ไม่สามารถที่จะเผชิญหน้ากับเซียนบรรพชนได้.

เมื่อราชาคิดถึงข้าราชบริพาร ข้าราชบริพารเองก็คิดถึงราชาเช่นกัน อี้เหยี่ยนที่ตัดสินใจที่จะเรียกยอดฝีมือสองคนกลับมายังสวนสวรรค์ลอยฟ้าหลิงเซียวในทันทีเช่นกัน.

และในเวลาเดียวกันนั้น แน่นอนว่าจงซานเองก็กำลังครุ่นคิดอยู่ในตำหนักเทียนหยวน.

เซียนบรรพชน? เซียนบรรพชนเดินทางมาด้วยเหตุผลใด? นอกจากนี้จากที่สัมผัสแล้วเซียนบรรพชนผู้นี้ไม่ได้ด้อยกว่าบรรพชนชราเสวี๋ยเหม่ยอย่างแน่นอน.

----------------------------------------------------------------------------

ในเวลาเดียวกันนี้ อาณาเขตเฟิงจง เดิมทีสถานที่แห่งนี้ก็คือนิกายเสอโห่ว เวลานี้มีคนสองคนที่ปรากฎขึ้น และยังมีอีกหนึ่งร่างเป็นอสุรกายที่ดูแปลกประหลาด.

อสูรกายที่มีรูปลักษณ์เหมือนกับตะกวด ทว่ากลับมีความสูงหนึ่งร้อยจั้ง นอกจากนี้รอบ ๆ ร่างกายของมันมีเกร็ดสีเงิน พร้อมทั้งสวมชุดเกราะเหล็กเอาไว้อีกด้วย ที่บนร่างของมันมีคนที่นั่งอยู่คนหนึ่ง.

เป็นชายในชุดสีขาว ใบหน้าท่าทางเคร่งขรึม อยู่ในสภาพสมาธิจมจ่อม มือทั้งสองข้ากำลังนับนิ้วพร้อมกับชี้ออกไปยังของวิเศษชิ้นหนึ่ง.

ที่ข้าง ๆ กันนั้นเป็นชายในชุดสีทอง หากว่าจงซานอยู่ที่นี่ จะต้องเผยท่าทางประหลาดใจอย่างแน่นอน คนผู้นี้ ก็คือคนที่เป็นศัตรูคู่แค้นของจงซาน คาดไม่ถึงเลยว่าใบหน้าของเขานั้นจะเหมือนกงเหล่ยเทียน 7-8 ส่วน.

7-8 ส่วน? แน่นอนคนผู้นี้ก็คือเทพอสูรใส้เดือนที่ได้กลืนกินดวงวิญญาณของกงเหล่ยเทียนเข้าไป ในโลกใบเล็กนั้นเขาก็คือนักบวชเซอคงนั่นเอง.

เซอคงจ้องมองไปยังรอบ ๆ  ก่อนที่จะหันหน้าไปยังชายในชุดสีขาวที่กำลังนั่งสมาธิอยู่ และขมวดคิ้วไปมา แววตาที่ดูเคร่งขรึมเป็นอย่างมาก.

อสุกายใส่ชุดเกาะที่รู้สึกเป็นปฏิปักษ์กับเซอคงเป็นอย่างมาก ทันทีที่พ่นลมหายใจไปยังศิลายักษ์ก้อนหนึ่ง.

"แค๊ก แค๊ก แค๊ก!"

ศิลาก้อนใหญ่ที่บิดเบี้ยวและเปิดออกมา ด้วยอสุรกายตนดังกล่าว.

เซอคงที่จ้องมองไปยังชายในชุดสีขาว ก่อนที่จะจ้องมองไปยังอสุรกายในชุดเกราะ ลึกลงไปแววตาของเขาที่เผยท่าทางดูแคลนออกมา.

เซอคงที่ไม่สนใจอสุรกายในชุดเกราะแม้แต่น้อย และอสุรกายในชุดเกราะเองก็ไม่กล้าหาเรื่องเซอคงเช่นกัน.

“!”

ชายในชุดสีขาวที่นั่งสมาธินับนิ้วอยู่ก่อนที่จะชี้นิ้วออกไปด้านหน้า.

ชายในชุดสีขาวที่ขมวดคิ้วแน่นก่อนที่จะค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมาช้า ๆ .

"อาจารย์อาบรรพชน พยากรณ์ได้อะไรบ้าง?"เซอคงที่สอบถามออกมาในทันที.

ชายในชุดสีขาวที่ไม่รู้ว่าเซอคงกำลังคิดอะไรเช่นกัน ทว่าก็ลุกขึ้นส่ายหน้าไปมาช้า ๆ .

"คาดไม่ถึงเลยว่าจงซานจะสามารถป่วนสวรรค์ลี้ลับได้ นอกจากนี้ดูเหมือนว่าจะเป็นวิชาของหมี่เทียน ทำให้ไม่สามารถพยากรณ์อะไรได้!"ชายในชุดสีขาวที่กล่าวออกมา พร้อมกับเผยใบหน้าที่เย็นชา.

"ทำไมรึ?"เซอคงที่แสดงท่าทางประจบประแจงออกมาขณะพูด.

ภายในโลกใบเล็กนั้น เซอคงเป็นคนปลิ้นปล้อนลื่นไหลไปเรื่อย พูดจาไม่อยู่กับร่องกับรอย สำหรับตัวเขานั้นพร้อมที่จะกล่าวประจบทุกคนได้.

"นี่ก็เป็นเรื่องชัดเจนแล้ว อาจารย์อาอีกคนของเจ้า เหยี่ยนเฮย ถูกจงซานสังหาร!"ชายในชุดสีขาวที่กล่าวออกมาด้วยความเย็นชา.

"ข่าวลือเป็นจริงงั้นรึ?! อาจารย์อา พวกเรารีบถอยก่อนดีกว่า ท่านคิดจะแก้แค้นเวลานี้เลยอย่างงั้นรึ?"เซอคงที่ขมวดคิ้วไปมาขณะกล่าว.

"บิดาของเจ้ากงเหล่ยเทียนถูกสังหาร ไม่ใช่ว่าเจ้าต้องการล้างแค้นให้กับกงเหล่ยเทียนอย่างงั้นรึ?"ชายในชุดสีขาวที่กล่าวออกมาด้วยความเย็นชา.

"ไม่ ๆ  ข้าไม่ได้หมายความเช่นนั้น ความแค้นของบิดาจะต้องชำระแน่นอน ทว่าจะลงมือตอนนี้ได้อย่างงั้นรึ? ข้านั้นไม่ใช่คู่มือของจงซาน อย่างน้อยก็ต้องกลับไปฝึกฝนก่อน จากนั้นค่อยลงมือด้วยตัวเอง หนี้แค้นของจงซานต้องถูกล้างด้วยเลือด!"เซอคงที่กล่าวออกมาในทันที.

"ไม่จำเป็น เจ้าได้โอกาสในทันที!"ชายในชุดสีขาวที่เอ่ยออกมาในทันที.

"แต่ว่า อาจารย์อา จงซานนั้นแปลกประหลาดเป็นอย่างมาก พวกเราไม่สามารถประมาทได้!"เซอคงที่กล่าวปฏิเสธในทันที.

"มีข้า จื่อลู่ ไม่มีใครทำอะไรเจ้าได้ ข้าจะปกป้องเจ้าเอง!"ชายในชุดสีขาวที่มีนามว่าจื่อลู่กล่าว.

"ไม่ อาจารย์อา ข้าไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น ข้าหมายความว่าเขา จงซาน เขาแปลก แปลกประหลาดมาก ยากที่จะรับมือ พวกเราควรจะวางแผนให้ดีเพื่อลดการสูญเสีย......!"เซอคงที่กล่าวออกมาอีกครั้ง ทว่าก็ถูกจื่อลู กล่าวหยุด.

"เจ้าไม่มั่นใจในพลังของข้าอย่างงั้นรึ?"จื่อลู่ที่ใบหน้าเปลี่ยนเป็นจริงจัง.

"ไม่ ๆ  ข้าไม่ได้หมายความเช่นนั้น อาจารย์อาเป็นหนึ่งในศิษย์ทั้ง 72 และยังเป็นหนึ่งในสามเซียนบรรพชน ข้าจะไม่เชื่อมั่นในความแข็งแกร่งของท่านได้อย่างไร? เรื่องจงซาน อ๋า ใช่ ข้าขอรับฟังความเห็นของอาจารย์อาก็แล้วกัน!"เซอคงที่กล่าวออกมา.

เซอคงคิดว่ามันไม่ง่ายขนาดนั้น แม้นว่าข่าวลือของจงซานจะดูเกินจริง ทว่าเขาที่มาจากโลกใบเล็กเดียวกัน จื่อลู่ที่เป็นเซียนบรรพชนย่อมไม่เห็นจงซานในสายตา ทั้งที่เขาไม่สามารถ พยากรณ์จงซานได้ ก็ไม่มีอะไรมั่นใจได้ หากว่ามีอันตรายซ่อนอยู่ หรือว่าจงซานลอบโจมตีล่ะ?

ตัวเขานั้นรู้จักจงซานดี เขาที่ไม่ต้องการเอาชีวิตตัวเองไปเสี่ยงแม้แต่น้อย เขาจะต้องหาวิธีในการหลบเลี่ยงจากไปให้ได้.

"อืม!"จื่อลู่ที่พยักหน้าพึงพอใจ.

"อาจารย์อาเช่นนั้นพวกเราจะเดินทางเมื่อไหร่?"เซอคงที่สอบถามในทันที.

"ไม่ต้องรีบร้อน เหยี่ยนฮุยตายที่นี่ ข้าต้องการสร้างสุสานให้เขาก่อน จากนั้นค่อยไปนำเลือดของศัตรูมาเซ่นไหว้!"จื่อลู่ที่กล่าวออกมาอย่างจริงจัง.

ไม่ต้องเอ่ยสัมพันธ์ของพวกเขาที่เป็นศิษย์ของกงจื่อด้วยกัน ทว่าเหยี่ยนฮุยและจื่อลู่นั้นมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน เมื่อเหยี่ยนฮุยตกตายไป แน่นอนว่าจื่อลู่จะต้องสร้างป้ายวิญญาณหลุมศพให้กับเขา.

เซอคงที่ใบหน้าแสดงท่าทางเคร่งขรึม ทว่าภายในใจนั้นสั่นไหวไปมา อดไม่ได้ที่จะรู้สึกขนลุกไปทั่วร่าง.

---------------------------------------------------

หลังจากนั้นสี่เดือน!

ที่ทิศใต้สวนสวรรค์ลอยฟ้าหลิงเซียว บนท้องฟ้านั้นปรากฎคนกลุ่มหนึ่งจำนวนกว่า 1 พันคน.

ผู้ที่นำพวกเขามานั้นคือคนที่เหยียบอยู่บนกงล้อเพลิง ที่ด้านหลังสะพายคันศรสีทอง พร้อมกับถือหอกเพลิงมาด้วย ซึ่งก็คือนาจาและลูกน้องนั่นเอง.

"ไท่จื่อสาม ที่ด้านหน้าคือสวนสวรรค์ลอยฟ้าหลิงเซียว!"ชายในชุดเกราะสีทองด้านหลังกล่าวรายงาน.

ร่างของนาจาที่หยุดลง และผู้ใต้บังคับบัญชาของเขาด้วย ก่อนที่จะมองขึ้นไปบนสวนสวรรค์ลอยฟ้าหลิงเซียว แววตาของเขาที่เต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยว ที่หน้าผากของเขาในเวลานี้ปรากฎริ้วแสงสีดำที่หนาขึ้นเรื่อย ๆ  เป็นปราณทมิฬที่รุนแรง จนมันมีผลต่อนิสัยใจคอของนาจา.

[อธิบายเพิ่ม.

โลกใบใหญ่ ภพหยางมีปราชญ์เทพ 9 คน ภพหยิน 6 คน ซึ่งหมายความว่าโลกใบใหญ่ภพหยางมี 9 ทวีป ภพหยินมี 6 ทวีป.

ปราชญ์เทพสามารถเคลื่อนย้ายพลังฟ้าดินในทวีปของตัวเองได้คล้าย ๆ เคลื่อนย้ายอำนาจแผ่นดินของประมุขราชวงศ์ชื่อเสียงวาสนา สรุปหากราชวงศ์ชื่อเสียงวาสนาขยายเขตแดนเป็นของตัวเองได้ทั้งทวีป ก็สามารถมีพลังเทียบเท่าปราชญ์เทพได้.]

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด