ตอนที่แล้วChapter 973 อามิตตาพุธ.
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 975 คราวทุกข์ของไท่ชู.

Chapter 974 วิหารใต่เหล่ยหยิน.


ตำหนักหลวงชิงชิว กลุ่มกบฏที่ปรากฎขึ้นรอบ ๆ !

ตำหนักหลวงของไท่ชูนั้นแข็งแกร่งมา ไม่ได้มีแค่เพียงทิศตะวันออกเท่านั้น ยังมีทิศใต้ ตะวันตกและเหนือถูกโอบล้อมไปด้วยศัตรู.

ทิศตะวันออก ซือหม่าหยวนที่นำคนของเขาเข้าต่อสู้กับทัพของซูอาโฝ!

เดิมทีสถานที่แห่งนี้กำลังจะจบแล้ว คนของซืออาโฝที่ตกตายไปเกือบทั้งหมด และซูอาโฝเองก็เช่นกัน ทว่า คงไม่มีใครคิดว่าความโชคร้ายของซือหม่าหยวนนั้นจะมากมายนัก เขาได้ไปกระตุ้นให้สถานะความคิดและพลังของซืออาโฝในชาติที่แล้วตื่นขึ้นมา.

ชะตาวิถีหมิงในชาติที่แล้ว คาดไม่ถึงเลยว่าจะส่งผลมาถึงชาตินี้ด้วย!

ต้องรู้ด้วยว่าการจะฟื้นฟูความทรงจำชาติที่แล้วนั้น มีคนน้อยมาก ทว่าร่างของซืออาโฝยังเก็บชะตาวิถีหมิง(มาตรฐาน)เอาไว้ด้วยอย่างงั้นรึ? นี่เป็นเรื่องที่เกินกว่าจะคาดการณ์ได้.

ชะตาวิถีหมิง ทำให้ฟ้าดินเปลี่ยนแปลง แสงสีทองมากมายส่องประกายโชติช่วงปกคลุมทั่วทั้งตำหนักหลวง ไม่ น่าจะทั่วทั้งชิงชิว สัญลักษณ์ของอรหันต์ที่ปรากฎขึ้น อำนาจเทพอรหันต์ที่แผ่ออกไป ทำให้ทั่วทั้งชิงชิวเต็มไปด้วยความอัศจรรย์!

เหล่าประชาชนที่อ้าปากค้าง ทัพทั้งสามที่หยุดลง ทุกคนที่เงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าพร้อม ๆ กัน.

"หมายความว่าอย่างไร? มีเซียนบรรพชนมาอย่างงั้นรึ? ไม่ นี่ต้องเป็นอรหันต์เทพเดินทางมายังชิงชิวอย่างงั้นรึ?"ซือหม่าชิงที่อยู่อีกฝั่งเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้า.

ทั่วทั้งชิงชิว ไม่มีเซียนบรรพชนอยู่ ทว่ากลิ่นอายนี้ เซียนโบราณไม่สามารถทำได้อย่างแน่นอน เซียนบรรพชนคนใหนกัน? เป็นมิตรหรือศัตรู?

บนท้องฟ้าบนสวดมนต์ที่ดังก้องกังวาน นอกจากนี้ยังมีคำพูด อามิตตาพุธ ปรากฎขึ้นด้วย.

ซือหม่าชิงที่เงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าพร้อมกับอุทานออกมา "อามิตตาพุธ ไม่ใช่ว่าเป็นคำพูดของหลวงจีนอย่างงั้นรึ?"

"อรหันต์เทพเดินทางมายังทิศตะวันออกรึ? วิหารใต่เหล่ยหยิน อรหันต์เทพยูไลอย่างงั้นรึ?"

"ไม่ ไม่ใช่อรหันต์เทพยูไลแน่ เขาไม่เคยออกมาจากวิหารใต่เหล่ยหยินไกลเลยนี่นา แล้วเป็นใครกัน?"ซือหม่าชิงที่ขมวดคิ้วไปมา.

"ส่งคนไปตรวจสอบ เป็นอรหันต์เทพองค์ใดที่เดินทางมา เร็วเข้า!"ซือหม่าชิงที่สั่งการในทันที.

"รับทราบ!"ผู้ใต้บังคับบัญชาของซือหม่าชิงที่เร่งรีบเดินทางไปยังทิศทางดังกล่าวในทันที.

อรหันต์เทพ? ในเวลานี้ความรู้สึกล้ำลับก็บังเกิด ความโชคร้ายของซือหม่าหยวนนั้นปรากฎขึ้นมานานแล้ว.

ซือหม่าหยวนไม่สามารถที่จะบรรยายความรู้สึกของตัวเองออกมาได้ ชาติที่แล้วของซูอาโฝเป็นใครกัน?

อุปกรณ์เซียนสวรรค์ในมือของซูอาโฝ ในเวลานี้ได้ส่องประกายแสงแปลกประหลาดออกมา เมื่อกลิ่นอายของซูอาโฝ ชะตาวิถีหมิงแผ่ออกมา นับตั้งแต่เขากลายเป็นอรหันต์เทพ? ถึงกลับทำให้มันยกระดับขึ้นอีกชั้น กลายเป็นอุปกรณ์มหาเซียนในทันที?

นี่ยังเป็นมนุษย์อยู่อีกรึ?

ซือหม่าหยวนรับรู้ว่าตัวเองได้เตะเข้ากับแผ่นเหล็กแผ่นใหญ่เข้าแล้ว แผ่นเหล็กที่ไม่แม้แต่ขยับเลยแม้แต่นิดเดียว.

ซวย มันจะซวยเกินไปแล้ว!

ในอดีตกับความรู้สึกของหลั่นเติ้ง ซือหม่าหยวนที่คิดถึงขึ้นมา การสังหารเจ้าหนุ่มเสเพล คาดไม่ถึงจะทำให้เขากลายเป็นอรหันต์ เจ้าหนุ่มนี่มันจะโชคดีเกินไปแล้ว.

ซูอาโฝที่ยืนอยู่ที่ไกลออกไป กลิ่นอายที่น่าเกรงขามที่แผ่ออกมาอย่างบ้าคลั่ง ไม่จำเป็นต้องเคลื่อนย้ายวิถีสวรรค์ด้วยซ้ำ ทว่ากลิ่นอายที่ทรงพลังนี้ทำให้ทุกคนที่อยู่รอบ ๆ ไม่สามารถขยับได้เลย.

ซูอาโฝที่ค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมาช้า ๆ  จดจ้องมองไปยังซือหม่าหยวนเวลานี้ที่แววตาสั่นไปมา.

ดวงตาของซูอาโฝที่เปลี่ยนไป เวลานี้ไม่ใช่ตาดำอีกต่อไป ทว่ามันได้กลายเป็นรูปดอกบัว เนตรบัวทองเก้ากลีบ!

ซือหม่าหยวนที่มองเห็นดวงตาของฝ่ายตรงข้ามถึงกลับสั่นสะท้านด้วยความหวาดหวั่น.

"หนี!"ซือหม่าหยวนที่ต้องการจะหนี.

ในเวลาเดียวกันนั้น ชะตาวิถีหมิงชาติที่แล้วของซูอาโฝกำลังยึดครองชะตาวิถีของชาตินี้ ก่อนที่กลิ่นอายจะปลดปล่อยอกมา พวยพุ่งอย่างรุนแรง เข้าโจมตีเวลานี้นะรึ? ไม่ต่างจากแส่หาความตาย?

"ชีวิตคืออะไร ความตายคือสิ่งใด ข้าไม่เคยมีความแค้นกับเจ้า ทว่าชีวิตชาตินี้กลับเกิดความแค้นขึ้น เมื่อกรรมเกิดขึ้นแล้ว ก็ไร้ซึ่งสิ้นสุด!"ซูอาโฝกล่าว.

ตราบเท่าที่ตั้งใจฟังและสังเกตต้องพบว่าท่าทางของซูอาโฝนั้นแตกต่างไปอย่างสมบูรณ์แบบ ทว่าบางอย่างก็ยังคงเหมือนเดิม.

"อาวุโส ข้าไม่..........!”ซือหม่าหยวนที่ต้องการเอ่ยขอโทษในทันที.

เขารับรู้ว่า ไม่มีทางหนีพ้นอย่างแน่นอน สิ่งที่ทำได้คือขอความเมตตาเท่านั้น แม้นว่าจะน้อยนิดก็ตาม ซือหม่าหยวนรับรู้ว่าตัวเขานั้นเต็มไปด้วยความโชคร้าย ไม่มีทางรอด มีเพียงแค่ขอความเมตาเท่านั้นอาจจะยังพอมีหวัง.

ช่างน่าเศร้า ซูอาโฝนั้นไม่เปิดโอกาสให้เขาด้วยซ้ำ แววตาที่เป็นรูปดอกบัวหดเล็กลงเล็กน้อย.

ซือหม่าหยวนที่พูดได้แค่ครึ่งเดียว ทุก ๆ คนที่อยู่รอบ ๆ ก็หายไป สลายกลายเป็นฝุ่นทองร่วงหล่นลงบนพื้น ไม่เว้นแม้แต่ซือหม่าหยวน รวดเร็ว เขาตกตายไปทั้งที่เต็มไปด้วยความโชคร้าย!"

"เปรี้ยง~~~~~~~~~~~~~~~~~!”

เสียงท้องฟ้าคำราม ท้องฟ้าที่กลายเป็นมืดครึ้มราวกับว่าต้องการผลักไสกลิ่นอายของซูอาโฝออกไป ทัณฑ์สายฟ้ากำลังรวมตัวขึ้นมากมายส่องประกายระยิบระยับปกคลุมทั่วท้องฟ้า.

ซูอาโฝที่เงยหน้าขึ้นไปบนท้องฟ้า พลางถอนหายใจเบา ๆ .

หงเซียวที่จ้องมองตาค้างด้วยท่าทางไม่อยากเชื่อ มีข่าวลือว่าซูอาโฝเป็นร่างจุติของใครบางคน เมื่อครั้งเกิดนั้นได้ยินเสียงอวยพรของอรหันต์ วันที่เขากำเนิดนั้นก็เกิดอภินิหารนี้ขึ้นด้วย ทำให้จอมพลซูสามารถคาดเดาได้ว่าหลานของตัวเองนั้นเป็นยอดฝีมือที่กลับชาติมากเกิด ทว่าไม่คิดเลยว่ายอดฝีมือคนนั้นจะไม่ธรรมดาถึงเพียงนี้!

เพียงแค่จ้องมองก็สามารถสังหารซือหม่าหยวนและคนของเขาได้ในทันที ซือหม่าหยวนแม้ว่าจะได้รับบาดเจ็บ ทว่าเขาก็ยังเป็นเซียนโบราณ!

"เจ้ามีนามว่าหงเซียวอย่างงั้นรึ?"ซูอาโฝที่หันหน้าไปมองหงเซียว.

หงเซียวที่จ้องมองนายน้อยที่คุ้นเคย แม้นว่าท่าทางจะเปลี่ยนไปอย่างตื่นตะลึง ก่อนที่จะพยักหน้ารับคำ "ครับ อาวุโส!"

"เจ้ายินดีที่จะติดตามข้าหรือไม่!"ซูอาโฝที่กล่าวออกมาเบา ๆ .

"หืม?"หงเซียวที่ตื่นตะหนกตกใจเล็กน้อย แววตาที่เผยท่าทางประหลาดใจ ทว่าก็ตอบสนองในทันที.

"ครับ ผู้เยาว์ยินดีที่จะติดตามอาวุโสไปชั่วชีวิต!"หงเซียวที่เอ่ยออกมาในทันที.

"อืม!"ซูอาโฝพยักหน้ารับ.

ซูอาโฝที่จ้องมองไปยังพื้นที่รอบ ๆ .

"ที่นี่คือชิงชิวอย่างงั้นรึ?"ซูอาโฝที่กล่าวสอบถาม.

"ครับ!"หงเซียวที่ตอบรับในทันที.

ซูอาโฝพยักหน้าและกล่าวออกมาว่า "ชิงชิวนั้นมีกรรมก้อนใหญ่มาก ข้าไม่คิดเลยว่าตัวเองจะเข้ามาเกี่ยวข้องอย่างคาดไม่ถึง ทว่าร่างกายนี้เองก็ต้องการปกป้องตำแหน่งราชวังทิศตะวันออกด้วยชีวิต จนแม้แต่เกือบต้องจบชีวิตลง ข้าจะช่วยสนับสนุนปกป้องพื้นที่แห่งนี้ตามเจตจำนงเดิม!"

ระหว่างที่กล่าวนั้น คนก็เกิดกำแพงแสงสีทองผุดขึ้นมา และบนกำแพงนั้นยังมีประกายแสงระยิบระยับเป็นอักขระ สวัสติกะ ’卍’ ปรากฎขึ้นโดยรอบ.

บนท้องฟ้าเมฆสีดำที่เริ่มสะสมกันมากขึ้นและก็มากขึ้น เมฆสายฟ้าที่มากมายเองก็ด้วย เสียงคำรามประกายสายฟ้าที่ส่องสว่างราวกับสวรรค์ล่ม ผู้คนมากมายที่อยู่ด้านล่างถึงกับหายใจติดขัด กลิ่นอายที่หนักหน่วงรุนแรงที่โถมทับลงมาก แม้แต่ซือหม่าชิงที่มีระดับเซียนโบราณยังไม่สามารถทนได้ กลิ่นอายนี้ ทำให้เขารู้สึกราวกับจะหมดสติไปได้ทุกเมื่อ.

"เอาล่ะ ตอนนี้เดินทางไปยังวิหารไต่เหล่ยหยิงพร้อมกับข้า!"ซืออาโฝกล่าว.

"ครับ!"หงเซียวที่กล่าวออกมาด้วยความเคารพ.

จากนั้น ซูอาโฝและหงเซียวก็หายไปในทันทีเช่นกัน.

ทันทีที่ทั้งสองจากไป กลิ่นอายของอรหันต์บนท้องฟ้าก็ค่อย ๆ สลายหายไป เมฆสายฟ้ามากมายก็ค่อย ๆ สลายหายไปเช่นกัน ราวกับว่าพื้นที่แห่งนี้ไม่มีอะไรเกิดขึ้น เหล่ายอดฝีมือที่ร่างกายเปียกโชกไปด้วยเหงื่อ.

เป็นกลิ่นอายที่ร้ายกาจทรงพลังนัก!

เมื่อเมฆครึ้มได้สลายหายไป ทุกคนถึงได้ค่อย ๆ กลับมาหายใจสะดวกได้อีกครั้ง.

กลุ่มกบฏที่หยุดชั่วคราว เพราะว่าได้เกิดปรากฏการณ์อภินิหารขึ้น เป็นกลิ่นอายที่น่าเกรงขามยากจะต่อต้าน หากไม่สลายหายไป พวกเขาคงไม่สามารถขยับได้เลยด้วยซ้ำ.

"ล้อมวังหลวงเอาไว้ ส่วนคนอื่น ๆ ไปสืบมาซะ ว่าเกิดอะไรขึ้น เร็วเข้า!"ซือหม่าชิงกล่าว.

"รับทราบ!"กลุ่มยอดฝีมือที่รับคำก่อนเร่งรีบแยกย้ายกันไปในทันที.

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด