ตอนที่แล้วChapter 972 สถานะการณ์แนวหน้า.
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 974 วิหารใต่เหล่ยหยิน.

Chapter 973 อามิตตาพุธ.


นับตั้งแต่จงซานกลับมา กองกำลังต้าเจิ้งก็ยกระดับเพิ่มขึ้นหลายเท่าในทันที.

นอกจากนี้ยังมีเรื่องที่แปลกประหลาดเกิดขึ้นด้วย เหล่าแม่ทัพนายกองของฝ่ายตรงข้าม ถูกลอบสังหารไปเป็นจำนวนมาก ไม่ใช่แค่หนึ่งหรือสองคนเท่านั้น ยังหลายร้อย หลายพันไปจนถึงหลายหมื่น?

ความตายนี้ยังลามมาถึงเหล่าขุนนางและผู้มีอิทธิพลต่าง ๆ  ล้วนแต่ถูกลอบสังหาร.

เหล่านักฆ่าที่น่าเกรงขามนี้ ทำให้หกราชวงศ์สวรรค์อยู่ในภาวะตึงเครียดขึ้นมาในทันที.

ภายในค่ายทหารขนาดใหญ่ของราชวงศ์สวรรค์แห่งหนึ่ง.

"แม่ทัพ ขุนพลของพวกเราตายไปแล้ว 103 คน และยังมีเจ้าเมืองอีก 28 คน ทำให้ทัพของต้าเจิ้งในเวลานี้สามารถทะลุทะลวงเข้ามาอย่างง่ายได้ และยังมีกลุ่มผู้ทรยศปรากฎออกมาทันทีด้วย!"ทหารคนหนึ่งที่กล่าวรายงาน.

"กลุ่มมือสังการ? ส่งมาลอบสังหารอย่างงั้นรึ?"ผู้บัญชาการทัพที่ขมวดคิ้วไปมา.

"ต้าเจิ้ง จงซาน! จอมพล ได้ยินข่าวจากประชาชนต้าเจิ้งกล่าวว่าจงซานกลับมาแล้ว! เหล่ามือสังหารเป็นจงซานส่งมาหรือไม่?"แม่ทัพคนหนึ่งเอ่ยออกมา.

"แน่นอนว่าต้องเป็นเขา!"จอมพลกล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.

"ต้าเจิ้งส่งมือสังหารออกมามากมายเท่าใดกัน ไร้ซึ่งร่องรอย เป็นกลุ่มเซียนสวรรค์อย่างงั้นรึ?"

"ทุก ๆ วันมีแม่ทัพนายกองตายไปมากขนาดใหนกัน ราชวงศ์ของพวกเราคงจะตกอยู่ในมือของต้าเจิ้งแล้ว!"

"ต่อไปพวกเขาจะลอบสังหารใครอีก?"

........................

จอมพลที่ถอนหายใจออกมาเบา ๆ  "พวกเราไม่น่าผิดธรรมเนียมเลย ทำให้ต้าเจิ้งกระทำการเช่นเดียวกันต่อพวกเรา!"

เหล่าทหารทุกคนที่เปลี่ยนเป็นเงียบงัน.

ก่อนหน้านี้ราชวงศ์สวรรค์ทั้งหกได้ร่วมมือกันส่งมือสังหารออกไปลอบสังหารเหล่าคนสำคัญ ๆ  ทำให้ผืนแผ่นดินของต้าเจิ้งถูกยึดครองได้โดยง่าย! ในเวลานี้พวกเขาจึงถูกแผนนั้นย้อนคืนกลับมา.

แม้แต่ส่งยอดฝีมือมากมายยิ่งกว่าพวกเขาหลายเท่านัก!

"ความลับของต้าเจิ้งมากมายพวกเราไม่มีทางรู้ แจ้งไปยังแม่ทัพนายกองทั้งหมดให้ระมัดระวังเอาไว้ พวกเราต้องขับไล่ศัตรูออกไป!"จอมพลกล่าว.

"พวกเราต้องขับไล่ศัตรู? ต้องทำให้สำเร็จ ต้องขับไล่ศัตรูออกไปอย่างงั้นรึ?"ขุนพลคนหนึ่งที่เอ่ยออกมาด้วยท่าทางไม่อยากเชื่อ.

จอมพลจ้องมองไปยังขุนพลคนดังกล่าวเอ่ยพลางถอนหายใจ "ไม่ไหว ให้ถอยกลับในทันที!"

"ไม่ไหวอย่างงั้นรึ? จอมพล แม้นว่าพวกเราจะมีคนตายไปเป็นจำนวนมาก ทว่าด้วยความแข็งแกร่งของต้าเจิ้ง เป็นไปไม่ได้ที่จะเอาชนะพวกเราได้!"ขุนพลคนดังกล่าวเอ่ยออกมาด้วยความมั่นใจ.

"แม่ทัพนายกองของพวกเราตกตายไปไม่น้อย ขวัญกำลังใจของทัพพวกเรานั้นหดหายไปเป็นอย่างมาก?หลาย ๆ เมืองที่ก่อกบฏ ประชาชนเข้าร่วม และยังมีการลอบสังหารเกิดขึ้นเป็นระยะ ๆ  หลาย ๆ เมืองถูกยึดไปแล้ว หลาย ๆ เมืองเองก็คงไม่สามารถต้านเอาไว้ได้นาน ขวัญกำลังใจที่ถูกบีบอัดเช่นนี้ ทำให้ต้าเจิ้งกลายเป็นทรงพลังขึ้นหลายเท่า!"จอมพลที่หลับตาลงถอนหายใจเสียงดัง

แม่ทัพนายกองที่เปลี่ยนเป็นเงียบงัน.

---------------------------------

สวนสวรรค์ลอยฟ้าหลิงเซียว ถ้ำร้อยสวรรค์!

ชายในชุดสีขาวที่กำลังก้าวออกมาจากด้านในช้า ๆ  หลังจากออกมาแล้ว แววตาที่อักอ่วนได้หายไหมดแล้ว มันถูกแทนที่ด้วยความลึกล้ำซับซ้อนแทน บุตรชายของสุ่ยอู๋เหิน สุ่ยเฉียน เพราะว่าเขากระตุ้นให้สุ่ยอู๋เหินชิงบัลลังก์ ถึงกับถูกตัดสินให้ประหาร แต่เพราะว่ามีเหรียญทองยกเว้นจึงไม่ได้รับโทษ และถูกสุ่ยอู๋เหินส่งเข้ามาในถ้ำร้อยสวรรค์เพื่อลงโทษ.

ที่ปากทางเข้าถ้ำร้อยสวรรค์นั้น มีชายหนุ่มคนหนึ่งที่ปกป้องอยู่ เป็นบุตรของหลินเซียว หลินจง เขาได้ร้องขอหลินเซียว ขอเข้าฝึกฝนภายในถ้ำร้อยสวรรค์!

สุ่ยเฉียนที่ก้าวออกมา และมองเห็นหลินจง.

หลินจงก็เห็นสุ่ยเฉียนก้าวออกมาเช่นกัน.

เพราะหลินจงไม่ได้มีความแข็งแกร่งนัก ทำให้ครั้งหนึ่งถูกสุ่ยเฉียนรังแก เมื่อคิดถึงความอับอายที่ผ่านมา เมื่อเห็นสุ่ยเฉียนก้าวเข้ามา แววตาที่เผยท่าทางประหลาดใจลังเลใจ เขาต้องการจะทำอะไรกัน?

ขณะที่หลินจงเตรียมที่จะต่อสู้ สุ่ยเฉียนที่ก้าวเข้ามาอยู่ห่างราว ๆ หนึ่งจั้ง จากนั้นก็หยุดลง.

ต่อหน้าหลินจง สุ่ยเฉียนที่โค้งคำนับให้อย่างล้ำล้ำ พร้อมกับกล่าวออกมาอย่างจริงจังว่า "ในอดีตนั้นสุ่ยเฉียนเป็นคนที่เหลาะแหละนัก ได้ล่วงเกินน้องหลิน วันนี้จึงได้ขออภัยน้องหลินเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น!"

"หืม?"หลินจงที่ตื่นตระหนกตกใจเล็กน้อย.

"ภายในถ้ำร้อยสวรรค์ ทำให้ข้าเข้าใจได้ในที่สุด ในอดีตที่ได้ล่วงเกินน้องหลิน วันนี้ขอให้น้องหลินอย่าได้ถือสา!"

........................

......

แม้ว่ารอบ ๆ จะไม่มีใครเห็นทว่าจากยอดเขาที่ไกลออกมานั้นจงซานสามารถมองเห็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้.

"สุ่ยเฉียน ดูเหมือนว่าสุ่ยอู๋เหินจะไม่ขาดผู้สืบทอดที่คู่ควร!"จงซานที่กล่าวพลางถอนหายใจ.

"ใช่แล้ว กลุ่มรุ่นที่สองของตระกูลขุนนาง ใช้ชีวิตที่เรียบง่ายและสบายเกินไป ทว่าก็ไม่ได้มีคนโง่แต่อย่างใด หากว่าพวกเขาได้ผ่านถ้ำร้อยสวรรค์จะต้องเกิดประโยชน์แน่!"อาวุโสเทียนที่ยืนอยู่ด้านหลังกล่าวออกมา.

"อืม!"จงซานพยักหน้ารับ.

"ภายในเทือกเขาเทียนเซี่ย จนถึงวันนี้ได้มีอะไรเปลี่ยนแปลงหรือไม่?"จงซานสอบถาม.

"ไม่มี บรรพชนยังคงเก็บตัวเงียบ!"อาวุโสเทียนที่กล่าวอย่างเคร่งขรึม.

"ข้ายังคงรอได้ เทียนเสิ่นจื่อบอกว่าสามพันปี ตอนนี้ผ่านมาไม่กี่ร้อยปีเอง!"จงซานพยักหน้ารับ.

อาวุโสเทียนที่ไม่กล้ากล่าวสิ่งใดอีก.

"เจ้าจงเตรียมตัว พรุ่งนี้เดินทางไปยังชิงชิวพร้อมกับข้า!"จงซานกล่าว.

"ชิงชิว?"

"ชิงชิวมีสงครามกลางเมือง ตระกูลซือหม่าได้ก่อกบฏ นอกจากนี้พวกเขายังเหนือกว่าอีกด้วย บางทีเซิ่งหวังไท่ชูกำลังพ่ายแพ้แล้ว ข้าเพิ่งได้รับข่าวว่า ตระกูลซือหม่านั้นมีผู้ฝึกตนฮวงจุ้ยที่ร้ายกาจเป็นอย่างมาก!"จงซานที่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.

"ภายในอาณาเขตเฟิงจงแห่งนี้มีผู้ฝึกตนฮวงจุ้ยที่น่าเกรงขามด้วยอย่างงั้นรึ?"อาวุโสเทียนที่เผยท่าทางประหลาดใจ.

ใจหนึ่งที่รู้สึกประหลาดใจ ใจหนึ่งที่มั่นใจในตัวเอง นับตั้งแต่ได้รับการสืบทอดวิชาฮวงจุ้ยมาจากเทียนเสิ่นจื่อ อาวุโสเทียนเองก็ศึกษาบำเพ็ญอยู่ภายในเทือกเขาเทียนเซี่ยมาตลอด แม้นว่าจะไม่เข้าใจสมบูรณ์ ทว่าก็มั่นใจว่าในอาณาเขตเฟิงจงนั้นไม่มีใครเทียบได้.

บางทีคงมีเพียงหนี่ปู่ซาเท่านั้นที่ทำให้อาวุโสเทียนต้องรู้สึกต้องหวั่นเกรง!

"อืม หากว่าข้าเดาไม่ผิด คนผู้นี้เป็นคนที่เจ้าคุ้นเคย!"จงซานครุ่นคิดและกล่าวออกมา.

"หืม?"

"เฉินซิ่ว!"จงซานที่กล่าวออกมาด้วยความมั่นใจ.

"เขา? เข้ายังไม่ตายอย่างงั้นรึ?"อาวุโสเทียนที่แสดงท่าทางตื่นตะลึง.

"เขาตายแล้ว ทว่าเขากลับยังมีชีวิต! ครั้งนี้เดินทางไปยังชิงชิว เจ้าจะเข้าใจเอง ตัวตนของเฉินซิ่วนั้นไม่ธรรมดายากที่จะจินตนาการถึงได้!"จงซานที่กล่าวออกมาอย่างนุ่มนวล.

"รับทราบ!"อาวุโสเทียนที่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.

"เตรียมตัวให้พร้อม พรุ่งนี้ยามเหม่าออกเดินทางได้!"

[ยามเหม่า (卯时) คือเวลา 05.00 น. – 07.00 น.]

"ครับ!"อาวุโสเทียนที่ถอยออกไปในทันที.

"ข้าไปด้วย!"

ขณะที่อาวุโสเทียนจากไป ก็ปรากฎเสียง ๆ หนึ่งของสตรีขึ้น เป็นหวนจีนั่นเอง!

"เจ้าแอบฟังข้าพูดคุยความลับอย่างงั้นรึ?"จงซานที่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.

"เป็นความลับได้อย่างไร เจ้าพูดอยู่ในที่โล่งแจ้งขนาดนี้! พรุ่งนี้ให้ข้าเดินทางไปยังชิงชิวด้วย มันดูน่าสนใจจริง ๆ  ข้าอยู่ในสวนสวรรค์ลอยฟ้าหลิงเซียวมานานแล้ว เจ้าควรให้ข้าไปด้วย!"หวนจีที่เอ่ยออกมาด้วยท่าทางเด็กเอาแต่ใจ.

"ถ้ำร้อยสวรรค์ ไม่ใช่ว่าเจ้าไม่สามารถจากที่นี่ไปได้หรอกรึ?"จงซานที่กล่าวออกมาด้วยความสงสัย.

"ไม่มีปัญหา หลังจากบำเพ็ญมานานหลายปี ข้าก็ทำได้ ตราบเท่าที่ไม่จากไปเกินหนึ่งปี ก็จะไม่เป็นไร!"หวนจีที่เอ่ยออกมาในทันที.

จงซานที่จ้องมองไปยังหวนจี ท้ายที่สุดก็พยักหน้ารับ "ได้ ทว่าเจ้าต้องฟังคำสั่งข้าอย่างเคร่งครัด!"

"แน่นอน!"หวนที่เอ่ยรับความความตื่นเต้น.

--------------------------------------------------------------------

ชิงชิว ที่ด้านหน้าวังหลวง.

การต่อสู้ที่รุนแรงหนักหน่วง ศพมากมายโลหิตที่ชโลมไปทั่วทุกหนทุกแห่ง.

ที่ทิศเหนือของวังหลวง มีศพกองพะเนินอยู่.

ประมุขตระกูลซือหม่า ซือหม่าหยวนที่ยืนอยู่ด้านหน้าเขานั้นเป็นกองกำลังทหารเป็นจำนวนมาก.

ในเวลานี่ทหารในชุดเกาะที่กำลังปกป้องใครคนหนึ่ง ไม่ใช่ใครที่ใหน เขาก็คือซูอาโฝที่กลับมาจากโลกนวีหวา! ที่ด้านหน้าของเขานั้นมีชายในชุดเกาะสีทอง หงเซียว.

"หงเซียว จอมพลซูได้ตายไปแล้ว เจ้ายังต้องการขวางข้าอีกรึ?"ซือหม่าหยวนที่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.

"จอมพลชราได้ออกคำสั่งทางทหารออกมาว่า หลังจากที่เขาตายไป ทหารทุกคนจะอยู่ในการบัญชาของเส้าเหยี่ยซูอาโฝ! จะไม่มีใครขัดขืน!"หงเซียวที่ส่ายหน้าไปมา.

ในเวลานี้ หงเซียวที่ยืนอยู่ด้านหน้าซูอาโฝ ใบหน้าที่เต็มไปด้วยปฏิปักษ์ จดจ้องมองซือหม่าหยวนอย่างโกรธแค้น.

"ซูอาโฝ?"ซือหม่าหยวนที่จ้องมองไปยังซูอาโฝ.

ซูอาโฝที่โลหิตอาบไปทั่วใบหน้า กับการต่อสู้ที่หนักหน่วงชีวิตที่อยู่บนความเป็นความตาย ได้ทำให้ซูอาโฝเติบโตขึ้น.

แม้นว่าตอนนี้เขาจะได้รับบาดเจ็บหนัก ทว่ากำลังไม่ได้รู้สึกหวาดกลัวเหมือนกับเมื่อก่อน!

"ซูอาโฝ เจ้าสนใจหรือไม่? ไท่ชูนั้นได้ล่มสลายแล้ว เจ้าก็มีสหายที่ดี ตอนนี้จงยอมจำนนต่อตระกูลซือหม่าซะ จะเอาชีวิตไปปกป้องพวกมันจนตายทำไม เจ้าเป็นเพียงมหาเซียน คิดว่าจะต้านทานข้าได้อย่างงั้นรึ?"ซือหม่าหยวนที่จ้องมองไปยังซูอาโฝ.

ซือหม่าหยวนที่มีระดับเซียนโบราณ ในโลกนวีหว่านั้นได้รับรังแสงเนตรนิมิตร้ายของจงซานเข้าไป ทำให้เขาได้รับความโชคร้ายไม่หยุดหย่อน นับตั้งแต่เรื่องเตาฟ้าดิน เขาก็ถูกเซียนโบราณนับสิบคนรุมขย้ำ ในเวลานี้ร่างกายของเขาไม่สู้ดีนัก แม้แต่เส้นผมบนหัวยังร่วงหล่นไปหมด ด้านหน้าแม้ว่าจะเป็นมหาเซียน แต่ก็ยังมีทหารระดับเซียนสวรรค์มากมาย ในเวลานี้นับว่าหนักหนาเช่นกัน.

"พวกเขาคือพวกเขา ข้าคือข้า ท่านปู่เคยบอกข้าเสมอ ข้าเป็นคนของไท่ชู ภัคดีแต่เพียงไท่ชูเท่านั้น หากต้องการให้ข้าก้าวออกจากเส้นทางนี้ มีเพียงต้องข้ามศพข้าไปก่อน!"ซูอาโฝที่ส่ายหน้าไปมา.

ในเวลานี้ซูอาโฝที่เปลี่ยนเป็นเข้มจริงจัง ไร้ซึ่งความหวาดกลัวต่อความตายแผ่ออกมาจากร่างของเขา.

ซือหม่าหยวนผู้มีหน้าผากและหัวอันเงาวับ ภายในใจกับรู้สึกโชคร้ายอยู่ตลอดเวลา เป็นอะไรที่แปลกประหลาดมาก นับตั้งแต่เขาถูกแสงสีน้ำเงิน ก็รู้สึกเช่นนี้ตลอด ในเวลานี้กับนายน้อยเจ้าสำราญ ทำไมถึงได้เปลี่ยนไปในทันทีทันใดเช่นนี้? มันแปลกเกินไปแล้ว!

เหล่าทหารที่เหลืออยู่ตอนนี้เองก็กลายเป็นบ้าคลั่งไปด้วย! โชคร้ายชะมัด!

"ฆ่ามัน!"ซือหม่าหยวนที่ออกคำสั่ง ให้คนในตระกูลบุกในทันที.

ก่อนหน้าที่เขายังไม่ลงมือไม่มีปัญหาแม้แต่น้อย ทว่าเมื่อเขาเผยตัวออกมา ก็เจอแต่ปัญหา มันจะโชคร้ายเกินไปแล้ว ทำไมทุกอย่างที่เขาทำต้องเต็มไปด้วยขวากหนามอุปสรรคมากมาย!

การต่อสู้ที่หนักหน่วงรุนแรงได้เริ่มขึ้นแล้ว.

พื้นที่รอบ ๆ กลายเป็นน่าสะพรึงกลัวขึ้นมา ศพมากมายที่ตกตายเกลื่อน ซูอาโฝที่ชีวิตแขวนอยู่บนความตาย ไม่ยอมถอยแม้แต่น้อย ที่ด้านหลังคือฐานที่มั่นสุดท้ายของไท่ชูแล้ว เขาจะปล่อยไปได้อย่างไร?

ในเวลานี้ซูอาโฝที่ราวกับถูกเร้าด้วยความรู้สึกของเหล่าทหาร ที่ขัดขวางเหล่าโจรร้ายด้วยชีวิต.

ทว่า กับฝ่ายตรงข้ามมีมากเกินไป ทหารของพวกเขาที่น้อยลงเรื่อย ๆ  จนท้ายที่สุดก็เหลืออยู่สองคนคือซูอาโฝและหงเซียว.

"ซี่!!"

เสียงที่ดังทึบด้าน การต่อสู้ที่หยุดลงในทันที กระบี่ยาวที่ทะลวงเข้าไปยังหัวใจตัดขาดเรือนม่วงของซูอาโฝ.

"เส้าเหยี่ย!"หงเซียวที่ร้องตะโกนออกมาเสียงดัง.

ที่ไกลออกไปนั้นซือหม่าหยวนที่เผยความตื่นเต้นออกมา.

"เจ้าสารเลวน้อย ข้าบอกเจ้าแล้ว เจ้าไม่สามารถขวางข้าได้ ไม่มีใครสามารถขวางข้าได้!"ซือหม่าหยวนที่เอ่ยออกมาด้วยความตื่นเต้น.

เขาที่ได้รับแต่ความโชคร้าย อารมณ์ไม่ค่อยดีนัก ในเวลานี้เห็นซูอาโฝกำลังตาย ทำให้เขาพ่นลมออกมาด้วยความดีใจ ในเวลานี้ ซือหม่าหยวนคิดว่าความโชคร้ายทั้งปวดคงจะเบาบางและหายไปแล้ว.

ฝ่ายตรงข้าม ซูอาโฝที่จ้องมองไปยังหน้าอก ใบหน้าที่ไม่ได้เผยความเจ็บปวดออกมา ทว่าในเวลานี้ราวกับรู้สึกว่าตัวเองกำลังตื่นขึ้นมาจากราตรีอันยาวนานด้วยซ้ำ.

"ชีวิตคืออะไร?ความตายคือสิ่งใด!"ใบหน้าของซูอาโฝที่ดูเฉยเมย.

"ชีวิตคืออะไร ความตายคือสิ่งใด อย่างงั้นรึ? เจ้าเสียสติไปแล้ว!"ซือหม่าหยวนที่ไม่สามารถเย็นใจอยู่ได้ เขาที่รู้สึกโกรธเกรี้ยว กับท่าทางของซูอาโฝที่เต็มไปด้วยความสุขุม หัวใจของเขาถึงกับเต้นไปมาทันที.

ซูอาโฝที่ดูไม่ใส่ใจด้วยซ้ำ ก่อนที่เขาจะยกฝ่ามือขึ้นมาพนมพร้อมกับแสดงความเคารพสิบครั้งและกล่าวออกมาว่า!

"อามิตตาพุทธ~~~~~~~~~~~~~~”

บนอากาศที่ว่างเปล่า ปรากฎเสียงบนสวดดังขึ้นในทันที ร่างกายของซูอาโฝที่เผยลำแสงสีทองมากมายปะทุขึ้นมา ราวกับซูอาโฝเป็นหนึ่งในอรหันต์ พลังสีทองที่พวยพุ่งหมุนวนปัดเป่าทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่รอบ ๆ ให้ลอยละล่อง.

เสียงระฆัง เสียงสวดมนต์ที่ดังก้องไปทั่วอากาศ โอม มา นี บา บี ฮง

ซือหม่าหยวนถึงกับอ้าปากค้างตะลึงงัน นี่ความโชคร้ายของเขายังไม่จบอีกรึ? แล้วซูอาโฝเป็นร่างจุติของใครกัน? ข้าได้ไปล่วงเกินใครเข้า?

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด