Chapter 966 รับใช้สิบชั่วโคตร.
อ๋องจื่อเฉิน สุ่ยอู๋เหินที่เพิ่งลงโทษบุตรทรพีสุ่ยเฉียนไปแล้ว.
ส่วนอีกฟากหนึ่งของแม่ทัพใหญ่หลิงเซียว หลังจากที่จบการประชุม ก็กลับมายังค่ายทหารของบนสวนสวรรค์ลอยฟ้าหลิงเซียว.
พื้นที่ขนาดใหญ่บนสวนสวรรค์ลอยฟ้าหลิงเซียว เป็นค่ายทหารของต้าเจิ้ง ซึ่งมีทหารอยู่ถึง 30 ล้านคน มีทั้งเผ่าหงส์เพลิง เผ่าเตาทมิฬ เผ่ามังกร เผ่าพยัคฆ์ แม้แต่นักรบเผ่าหมาป่า และกองกำลังเคลื่อนที่เร็วเผ่าหมาป่า เผ่าพยัคฆ์ เผ่ามังกร เผ่าหงส์แม้แต่เผ่าเต่าทมิฬ นับเป็นกองกำลังที่แข็งแกร่งของต้าเจิ้งเป็นอย่างมาก.
หลินเซียวที่ไม่เคลื่อนย้ายทัพ แม้ว่าทั่วทุกสารทิศจะเกิดความโกลาหล เพราะว่าต้าเจิ้งต้องการเก็บกองกำลังเอาไว้ ไม่ต้องการใช้ให้เปล่าประโยชน์.
ก่อนหน้านี้ หลินเซียวจะทำการปลุกขวัญกำลังใจเดือนล่ะครั้ง ทว่านับตั้งแต่วาสนาหายไป ทุก ๆ สามวันหลิงเซียวต้องทำทุก ๆ สามวัน และยังมีข่าวว่าจงซานได้ตกตายในโลกนวีหวาอีก ในเวลานี้ขวัญกำลังใจของทหารต้องถูกปลุกในทุก ๆ วัน ตลอดสามเวลา.
ต้องไม่ลืมว่า สำหรับกองทัพของราชวงศ์วาสนานั้นหากไม่มีวาสนา ก็อยู่ในช่วงระยะเวลาที่ยากลำบาก กับขวัญกำลังใจในเวลานี้ หลินเซียวเองก็แทบจะไม่มีเหตุผลใดมาปลุกใจเลยแม้แต่น้อย.
อย่างไรก็ตามขวัญกำลังใจทหารก็จำเป็นต้องรักษาเอาไว้ หลินเซียวที่เวลานี้แทบจะประจำอยู่ในกองทัพ.
หยินโหลวหรี่จื่อจุ้นเผ่าพยัคฆ์ กุยเสอจื่อจุ้นเผ่าเต่าทมิฬและเหล่าคนสำคัญต่าง ๆ จดจ้องมองไปยังหลินเซียว.
"แม่ทัพใหญ่ รบกวนด้วย!"หยินโหลวหรี่ที่กล่าวพลางถอนหายใจ.
ตลอดหลายปีที่ผ่านมา หลินเซียวที่อยู่เคียงข้างทุกคน ทำให้สื่อถึงใจของทุกคนได้.
"ทุก ๆ ท่านอยู่ด้วยกัน ช่วยข้าสร้างขวัญกำลังใจให้กับกองทัพ หลินเซียวรู้สึกซาบซึ้งยิ่งนัก!"หลินเซียวที่แสดงความเคารพต่อทุกคน.
"อย่าได้ยอมแพ้ อย่าได้ยอมแพ้ แม่ทัพใหญ่พวกเราจะก้าวไปสู่ความเป็นนิรันดร์ด้วยกัน!"หยินโหลวหรี่ที่กล่าวให้กำลังใจหลินเซียว.
"ทัพสามสิบล้านที่พวกเรามีนี้ ทั้งเผ่าอสูรเทวะ และทหารของต้าเจิ้งที่แข็งแกร่ง หากขาดพวกเขา ต้าเจิ้งคงเหลือแค่ชื่อ ตราบเท่าที่มีพวกเขา แม้ว่าจะเสียเมืองไปมากเท่าไหร่ พวกเราก็จะสามารถยึดคืนมาได้!"หลินเซียวที่กล่าวอย่างหนักแน่น.
"แม่ทัพใหญ่ ท่านกำลังจะบอกว่าเซิ่งหวังยังอยู่อย่างงั้นรึ?"กุยเสอที่ขมวดคิ้วไปมา.
"แน่นอนว่าเซิ่งหวังยังอยู่ จื่อจุ้นกุยท่านควรจะมั่นใจ ข้ารู้ว่าทุกคนเต็มไปด้วยความสงสัย ทว่าข้าสามารถยืนยันและบอกต่อทุกคนได้ว่า เซิ่งหวังยังปลอดภัยดี ต้าเจิ้งแม้นว่าจะอยู่ในช่วงลำบาก ทว่าขอให้ทุกคนก้าวไปพร้อมกับหลินเซียว ท้ายที่สุดแล้วเซิ่งหวังจะต้องกลับมา!"หลินเซียวที่แสดงความเคารพต่อทุกคน.
หลินเซียว แม่ทัพกองกำลังที่หนึ่ง ที่เต็มไปด้วยความอหังการ เป็นตัวตนที่เปี่ยมไปด้วยเกียรติยศ ใต้สวรรค์แห่งหนึ่ง มีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่เขายอมรับและก้มหัวให้ซึ่งก็คือ จงซาน ถึงแม้นว่าจะต่อหน้าของปราชญ์เทพ หลินเซียวยังยอมตกตายไปดีกว่าก้มหัวให้ หากแต่ในวันนี้เขาต้องโค้งให้กับทุกคน เป้าหมายเดียวที่ต้องทำก็คือ เพื่อต้าเจิ้ง.
"แม่ทัพใหญ่ไม่จำเป็นต้องทำเช่นนั้น ด้วยคำพูดของท่าน พวกเราต่างวางใจ ในเมื่อเผ่าเต่าทมิฬเลือกต้าเจิ้ง ในเวลาที่ลำบากเช่นนี้พวกเราไม่มีทางจากไป!"กุยเสอที่กล่าวออกมาทันที.
"เผ่าพยัคฆ์ก็ด้วย!"
"เผ่ามังกรก็ด้วย!"
"เผ่าหงส์เพลิงก็ด้วย!"
"เผ่าหมาป่าจะคงอยู่ตลอดไป!"
"แม่ทัพใหญ่ ข้าและคนอื่น ๆ ทุกคนจะคงอยู่ต้าเจิ้งตลอดไป!"
....................................
............
......
ภายในค่ายขนาดใหญ่ ทุกคนต่างก็ให้คำปฏิญาณ ต่อหลิงเซียว.
หลินเซียวที่ออกตรวจตราทัพต่าง ๆ ทั่วทั้งค่าย เขาไม่สามารถวางใจได้ แม้นว่าทุกคนจงยังเผยถึงความจงรักภัคดีอยู่ก็ตาม ทว่าหลินเซียวรับรู้ว่าผ่านมาห้าปีแล้ว คงมีหลาย ๆ คนที่เริ่มคิด หากเซิ่งหวังไม่กลับมา ก็ยากที่จะรับประกันพวกเขาได้ตลอดไป.
ในเวลาเดียวกันนี้ ภายในใจหลินเซียวเต็มไปด้วยความจริงจังขมขื่น เซิ่งหวัง ท่านยังมีชีวิตอยู่หรือไม่?
หลินเซียวที่กลับมายังที่พักด้วยหัวใจที่แห้งเหี่ยว!
"เหล่าเย่ ที่ภายในตำหนักมีแขกมาขอพบ!"
ขณะที่เข้ามาในตำหนักบ่าวรับใช้ก็เข้ามารายงานในทันที.
"หืม? ใครกัน?"หลินเซียวที่เอ่ยออกมาด้วยความประหลาดใจ.
"เสนาธิการฝ่ายสงคราม หลางเจิ้น และคนของกระทรวงกลาโหม!"ผู้ใต้บังคับบัญชากล่าวรายงาน.
"พวกเขาเข้ามาอย่างงั้นรึ?"ใบหน้าของหลินเซียวที่กระตุกเล็กน้อย.
"ครับ ผู้น้อยได้ให้เขาไปรอที่ตำหนักจื่อเสวียน!"บ่าวรับใช้กล่าว.
หลินเซียวพยักหน้า ก่อนที่จะก้าวตรงไปยังตำหนักจื่อเสวียน.
ภายในตำหนักจื่อเสวียน เวลานี้มีขุนนางนั่งอยู่ 7-8 คน มีคนหนึ่งที่ใบหน้าแดงกล่ำ ดูเหมือนว่าผิวกายเขาจะเป็นเช่นนี้ เสนาธิการฝ่ายสงคราม หลางเจิ้น!
"แม่ทัพใหญ่!"คนกลุ่มดังกล่าวที่แสดงความเคารพต่อหลิงเซียว.
หลินเซียวที่พยักหน้าให้ จดจ้องมองไปยังหลางเฉิน ซึ่งดูเหมือนว่าเขาจะเป็นผู้นำในครั้งนี้.
"ทุกท่านที่มาเยี่ยมเยือนในครั้งนี้ มีเรื่องสำคัญอะไรกันอย่างงั้นรึ?"หลินเซียวที่กล่าวออกมาตามตรงทันที.
"พวกเรามาเพื่ออาณาจักรต้าเจิ้ง!"หลางเจิ้นที่ยังคงเต็มไปด้วยความสุขุม.
"อาณาจักรต้าเจิ้งอย่างงั้นรึ??"หลินเซียวที่ขมวดคิ้วไปมา.
"พวกเราต้องการให้แม่ทัพใหญ่เคลื่อนทัพหลวงออกต้านศัตรูทั่วทุกสารทิศ ในเวลานี้หากไม่เคลื่อนทัพออกไปสนับสนุนเมืองต่าง ๆ แล้วล่ะก็ ต้าเจิ้งจะอยู่ในอันตราย!"หลางเจิ้นกล่าว.
"ทัพหลวงไม่สามารถเคลื่อนย้ายได้ ไม่ใช่ว่าข้าได้บอกกับทุกคนแล้วอย่างงั้นรึ?"หลินเซียวที่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.
"แต่ว่า แม่ทัพใหญ่ ท่านก็เห็นเมืองต่าง ๆ ของต้าเจิ้งพ่ายแพ้ไปโดยไม่เหลียวแลเลยรึ? วันนี้ ทูตของไท่จีได้ส่งมากล่าวไว้ว่า อีกสี่ปี พวกเราจะอยู่รอดเพียงแค่สี่ปี หากว่าเคลื่อนทัพหลวงออกไป อย่างน้อยก็จะสามารถอยู่รอดได้ถึงหกปี หากตอนแรกท่านเคลื่อนทัพตั้งแต่ที่ข้าแนะนำ บางทีพวกเราอาจจะปกป้องแผ่นดินได้ถึง 20 ปีเลย!"หลางเจิ้นที่กล่าวออกมา.
ใบหน้าของหลินเซียวที่เปลี่ยนเป็นมืดครึ้มในทันที "เสนาธิการฝ่ายสงคราม กับงานของข้า ข้ารับรู้ว่าต้องทำเช่นไร ไม่ใช่เรื่องที่เจ้าจะมาสอน!"
"งานอย่างงั้นรึ? ข้าก็ทำงานของข้า พวกเราต้องการที่จะจัดการทัพของต้าเจิ้ง งานของท่านคิดว่ามีเพียงแค่รวบรวมทหารเท่านั้นรึ? หากไม่ทำอะไรไม่ช้าก็เร็วต้าเจิ้งจะต้องถูกทำลายด้วยน้ำมือของเจ้า!"หลางเจิ้นที่กล่าวออกมาเสียงดัง.
"ต้าเจิ้งจะถูกทำลายในน้ำมือของข้าอย่างงั้นรึ?"หลินเซียวที่กล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม.
"ไม่ใช่รึ? หากว่าท่านเคลื่อนทัพหลวงออกไปปกป้องดินแล้ว ต้าเจิ้งคงไม่อยู่ในสภาพนี้ แม่ทัพใหญ่ ท่านมีแค่หน้าที่ปลุกขวัญกำลังใจทหารเท่านั้น ตอนนี้ไม่เพียงแค่ไม่สามารถสร้างขวัญกำลังพวกเขาได้ ยังไม่สามารถรักษาดินแดนไว้ได้อีกด้วย ท่านคิดว่าตอนนี้ต้าเจิ้งจะอยู่รอด โดยที่ไม่สู้อย่างงั้นรึ? สงครามตอนนี้มันเกิดขึ้นทั่วทุกสารทิศ ท่านกับเป็นเต่าหดหัวอยู่ในเมืองหลวง อำนาจทหารในมือของท่าน กลับกลายเป็นเต่าหดหัวไม่กล้าออกไปต้านศัตรู!"หลางเจิ้นที่กล่าวออกมาเสียงดัง.
เสียงที่ดังลั่นกระจายไปทั่วตำหนัก!
"แล้วเจ้าต้องการอะไร?"หลินเซียวที่ไม่ได้กล่าวโต้แย้ง.
เป็นความจริง หากหลินเซียวเคลื่อนทัพ อย่าว่าแต่ยี่สิบปี แม้แต่สามสิบปีก็สามารถรักษาดินแดนต่าง ๆ เอาไว้ได้ ทว่าหลินเซียวไม่ทำ.
"ข้าคิดว่าเจ้าไม่คู่ควรกับตราแม่ทัพของต้าเจิ้ง!การที่ตราแม่ทัพอยู่กับเจ้ามีแต่ทำให้ต้าเจิ้งล่มสลาย ข้าและเสนาธิการทุกคนในเวลานี้ ขอให้เจ้าส่งตราแม่ทัพให้คนอื่น!"หลางเฉินที่กล่าว.
"โปรดส่งตราแม่ทัพออกมาซะ!"เสนาธิการสงครามที่เอ่ยย้ำอีกครั้ง.
อกของหลินเซียวที่สั่นไหวไปมา ปรากฎความโกรธเกรี้ยว "ให้ข้ามอบตราแม่ทัพให้เจ้าอย่างงั้นรึ?
"ตราแม่ทัพมอบให้ข้าก็ดี มอบให้อ๋องจื่อเฉินก็ดี มอบให้เสนาบดีก็ดี ตราบเท่าที่อยู่ในมือของเจ้า ต้าเจิ้งก็ไม่มีทางรักษาไว้ได้ จงส่งมอบมันออกไป คิดจะรอให้ต้าเจิ้งล่มสลายไปก่อนอย่างงั้นรึ?!"หลางเจิ้นที่กล่าวออกมาเสียงดัง.
"ขอให้ส่งตราแม่ทัพออกมา!"เหล่าเสนาธิการคนอื่น ๆ เองก็เช่นกัน.
"โครม!"
หลินเซียว ที่ฟาดฝ่ามือลงไปบนโต๊ะเสียงดังสนั่นหวั่นไหว.
"ไปให้พ้นหน้าข้า!"หลินเซียวกล่าว.
หลินเซียวที่โกรธเกรี้ยวคำรามออกมาเสียงดัง ทำให้เหล่าองค์รักษ์มากมายเร่งรีบเข้ามา.
หลินเจิ้นที่จ้องมองไปยังหลินเซียว สะบัดแขนเสื้อ กล่าวต่อหลินเซียวว่า "หน้าที่ของแม่ทัพใหญ่คืออะไร พวกเราต้องการขอคำแนะนำ โปรดใคร่ครวญให้ดี หากไม่รู้จักคิด ต้าเจิ้งที่คงอยู่มาหลายพันปีจะต้องถูกทำลายในมือของเจ้า อีกวันข้าจะมาขอคำแนะนำจากแม่ทัพใหญ่อีกครั้ง!"
หลางเจิ้นที่นำเหล่าขุนนางจากไปส่วนหลินเซียวยังคงนั่งอยู่ภายในตำหนักจื่อเสวียน.
หลางเจิ้นที่กลับมายังตำหนักของตัวเอง ซึ่งได้พบใครบางคนที่รอคอยอยู่แล้ว.
"ใต้เท้าหลางเป็นอย่างไรบ้าง!"
"นี่ก็ผ่านมาแปดครั้งแล้ว ทั้งนอกและในที่เราหาเรื่องหลินเซียว เพื่อที่จะบังคับให้เขาปล่อยมือจากตราแม่ทัพ!"หลางเจิ้นที่กล่าวพลางถอนหายใจ.
"ใต้เท้าหลางโปรดวางใจ ข้าได้บันทึกเกี่ยวกับเรื่องที่ทูตไท่จีเดินทางมา ใต้เท้าหลางหากว่าเข้าร่วมศาลเทพไท่จี อย่างน้อยก็จะได้เป็นขุนนางขั้นสาม แม้ว่าจะด้อยกว่าที่นี่ แต่ก็ไม่ได้มากมายนัก เมื่อถึงเวลานั้นพวกเราจำเป็นต้องให้ใต้เท้าเจิ้นเป็นผู้นำของพวกเรา!"ชายคนหนึ่งที่เอ่ยออกมา.
"งั้นรึ?"หลางเจิ้นที่เผยรอยยิ้มที่มีความสุขออกมา.
............
หลังจากที่กลุ่มหลางเจิ้นจากไปแล้ว หลินเซียวที่นั่งอยู่ในตำหนักจื่อเสวียนคนเดียว หลินเซียวที่ถูกกดดันอย่างหนัก แรงกดดันจากทั่วทุกสารทิศทีเดียว ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ เขายังไม่คิดจะยอมแพ้ ไม่เคยเลยสักครั้ง แต่ดูเหมือนว่าทุก ๆ ครั้งแรกกดดันจะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ .
"ท่านพ่อ คนเหล่านั้นได้เข้ามาบังคับท่านอีกอย่างงั้นรึ?"ชายหนุ่มคนหนึ่งที่จะจ้องมองไปยังหลินเซียว.
"จง ไม่จำเป็นต้องอ้อมค้อม มีอะไรจะกล่าวอย่างงั้นรึ?!"หลินเซียวที่ฝืนยิ้มออกมาบาง ๆ .
หลินจง บุตรของหลินเซียว.
"ครับ!"หลินจงที่ชำเลืองมองทว่าแววตาที่ดูเหมือนจะเผยท่าทางลังเล.
เห็นท่าทางของบุตรชาย หลินเซียวที่เผยท่าทางสงสัย จดจ้องมองไปยังหลินจง.
"หืม จง มีเรื่องอะไรอย่างงั้นรึ?"หลินเซียวที่ขมวดคิ้วไปมา.
"ไม่มี ไม่มี!"หลินจงที่ส่ายหน้าไปมาในทันที.
"ไปโดยใครทุบมาอย่างงั้นรึ?ที่หน้าผากยังมีรอยอยู่เลย ไปทะเลาะกับใครมา?"หลินเซียวที่เผยท่าทางโกรธเกรี้ยว.
คาดไม่ถึงเลยว่าบุตรของเขาจะถูกทำร้ายมา? ใครกันที่ใจกล้านัก.
ด้วยการคาดคั้นของหลินเซียว หลินจงที่ได้แต่กล่าวออกมาเบา ๆ "เป็นบุตรของอ๋องจื่อเฉิน สุ่ยเฉียน บุตรทำให้ท่านพ่อขายหน้า."
"สุ่ยเฉียน?"หลินเซียวที่เผยท่าทางประหลาดใจ.
ในเมื่อมันเป็นเรื่องที่สกปรก หลินจงจึงไม่คิดที่จะปิดบัง.
"สุ่ยเฉียนนั้นจงใจที่จะท้าทายข้า ทั้งที่รับรู้ว่าข้าสู้ไม่ได้ ดูเหมือนว่าเขาต้องการทำให้ข้าต้องได้รับความอับอาย!"หลินจงที่กล่าวออกมาด้วยท่าทางเศร้าใจ.
"ทำไมเขาต้องทำเช่นนั้น?"หลินเซียวที่ขมวดคิ้วไปมา.
"เพื่อตราแม่ทัพที่อยู่ในมือของท่านพ่อ!"
"หืม?"
"หลังจากที่ทุบตีข้าแล้ว เสี่ยวเฉียนยังกล่าวเพิ่มอีกว่า.........!"
"อะไรอย่างงั้นรึ?"
"กล่าวว่าท่านพ่อไม่คู่ควรกับตราแม่ทัพ ต้องการให้ท่านส่งมันออกไปให้บิดาของเขา กล่าวว่าท่านเป็นคนล้าสมัย ไม่สามารถรับหน้าที่นี้ได้อีกแล้ว!"หลินจงที่กัดริมฝีปากขณะพูด.
หลินเซียวที่ขมวดคิ้วแน่น.
"สุ่ยเฉียน เขายังไร้เดียงสา!"หลินเซียวที่ขมวดคิ้วไปมา.
"ท่านพ่อ บุตรเองก็ไม่รู้ควรจะพูดหรือไม่!"หลินจงกล่าว.
"เจ้าเป็นบุตรของข้า ไม่จำเป็นต้องปิดบังอะไรเอาไว้!"
"ครับ บุตรคิดว่าที่สุ่ยเฉียนทำนี้เป็นความคิดของบิดาของเขาหรือไม่ บางทีอาจจะเป็นอ๋องจื่อเฉินสั่งให้เขาทำก็ได้ ข้าได้ยินมาว่าเขาต้องการเปลี่ยนราชวงศ์ ไม่รู้ว่าข่าวลือนี้เป็นเรื่องจริงหรือไม่!"หลินจงกล่าว.
"สุ่ยอู๋เหินรึ? เขาไม่ทำแน่!"หลินเซียวที่ขมวดคิ้วไปมา อีกใจหนึ่งก็เผยแววตาท่าทางไม่มั่นใจอยู่เหมือนกัน.
"ไม่ บุตรคิดว่ามีความเป็นไปได้ที่เขาจะคิด ท่านพ่อ เซิ่งหวังหายไปห้าปีแล้ว วาสนาก็ไม่มี ประชาชนต่างก็กล่าว่าเซิ่งหวังตายแล้ว มีเพียงท่านที่ยังคงมีความหวัง ทว่าก็มีความเป็นไปได้?ห้าปี คนอื่น ๆ ต่างก็คิดกัน สุ่ยอู๋เหินมีเหรอจะไม่คิด เขาอาจต้องการเปลี่ยนราชวงศ์อื่นอยู่ก็เป็นไปได้ ถึงแม้นว่าเขาจะไม่ต้องการ ทว่าตอนนี้เหล่าขุนนางหลายคนที่สนับสนุนเขา หากมีคนสนับสนุน เมื่อเขาต้องการ เขาก็สามารถที่จะสถาปนาตัวเองเป็นราชาได้ หากว่าเขาไม่คิดเลยเรื่องนี้เลย เขาก็คงเป็นคนโง่แล้ว"
หลินเซียวที่ไม่กล่าวสิ่งใด ยังคงนั่งฟังบุตรของเขาพูดต่อ.
"ท่านพ่อ คนอื่น ๆ ต่างก็บอกว่าท่านเก็บทัพหลวงเอาไว้ ปล่อยให้คนอื่น ๆ ทำลายอาณาจักร แต่กลับไม่ยอมเคลื่อนทัพออกไปช่วย ทำให้ต้าเจิ้งกำลังจะแตกแยก ทัพหลวงในเวลานี้ ไม่สามารถออกไปรบได้ หากว่าส่งออกไปรบ ภายในใจที่ไร้วาสนา หรือไม่มีท่านพ่อปลอบขวัญ ไม่นานพวกเขาก็จะยอมพ่ายแพ้ เมื่อพวกเขาถูกส่งออกไปยอมแพ้ ต้าเจิ้งของพวกเราก็จะล่มสลาย นั่นเป็นเหตุทีท่านพ่อเก็บทัพเอาไว้!"หลินจงกล่าว.
หลินเซียวพยักหน้า เห็นชัดเจนว่าบุตรของเขาก็นับว่ามีประสบการณ์ รู้สึกพึงพอใจเช่นกัน.
"แต่ว่า ท่านพ่อ เซิ่งหวังได้สิ้นแล้ว การที่พวกเราป้องกันต้าเจิ้งเอาไว้มีความหมายใด คนเหล่านั้น พวกเขาต้องการตราแม่ทัพ พวกเราก็มอบให้เขาไปซะ พวกเราไม่เห็นต้องขวางพวกเขาเลย อีกอย่าง อ๋องจื่อเฉินเองก็คงทนไม่ได้จะต้องออกมาเปลี่ยนราชวงศ์แน่นอน ท่านพ่อ ท่านที่เป็นแม่ทัพใหญ่ ที่หายาก ไม่เห็นต้องสนใจเลย ทั่วหล้านี้มีแต่คนต้องการท่าน!"หลินเซียวที่กล่าวออกมาด้วยความตื่นเต้น.
"ใครบอกว่าเซิ่งหวังสิ้นแล้วกัน?"หลินเซียวที่ขมวดคิ้วไปมา.
ไม่ว่าจะเป็นคำพูดใดหลินเซียวหาได้สนใจนัก หากแต่เรื่องนี้มีเหรอที่เขาจะทนได้!
"ท่านพ่อ ท่านไม่ควรหลอกตัวเองและคนอื่น ๆ เซิ่งหวังสิ้นแล้ว คนทั่วหล้าต่างก็บอกว่าเซิ่งหวังนั้นได้ตกตายไปแล้ว! พวกเรา.............!"หลินเซียวที่กล่าวเตือน
"เอาล่ะ ออกไปได้แล้ว!"หลินเซียวที่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.
"ท่านพ่อ! ถึงแม้นว่าท่านจะไม่คิด แต่ก็ไม่สามารถห้ามคนอื่นคิดได้ ท่านควรจะทำเพื่อตระกูลหลินของพวกเรา!"
"ออกไป!"หลินเซียวที่กล่าวย้ำอีกครั้ง.
หลินจงที่ไม่สามารถทำอะไรได้ ทำได้แค่พยักหน้ารับและจากไป.
หลินเซียวที่นั่งอยู่ในตำหนักจื่อเสวียนจนถึงเที่ยงคืน ภายในใจที่เต็มไปด้วยความกังวล เซิ่งหวังตายไปแล้วจริง ๆ รึ?
"เซิ่งหวัง ท่านตายไปแล้วจริง ๆ รึ?"หลินเซียวที่ก้มหน้า เผยท่าทางข่มขื่นออกมา.
ขณะที่เขานึกถึงเรื่องที่จงซานเคยกล่าวเอาไว้ มันยังคงสลักเอาไว้ในใจของเขา.
--------------------
"ภายในเขตของสวนสวรรค์ลอยฟ้าหลิงเซียว ซึ่งภายในนั้นมีเทือกเขาคุนซาน ข้าไม่ให้ใครสร้างสิ่งใดที่นั่น แปดร้อยปีก่อนหน้านี้ ที่นั่นข้าและเจ้าเคยเป็นทหารของต้าคุน พวกเราสังหารศัตรูไปมากมาย และยังเป็นที่ดื่มสังสรรค์ของพวกเรา หากว่าข้าจากไปหลายปี เจ้าควรที่จะกลับไปดู!"จงซานที่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.
-------------------
ภายในใจของหลินเซียวที่กระสับกระส่าย นานแล้วเขาที่ไม่เคยเดินทางไปยังเทือกเขาคุนซานดังที่จงซานเอ่ยถึงเลย.
ในเวลากลางคืนที่สภาพแวดล้อมสลัว ๆ ภายในใจของหลินเซียวที่เต้นไปมา ในเวลานี้เขาได้เดินทางมาถึงเทือกเขาคุนซานแล้ว เขาที่เริ่มดื่มสุราเข้าไปมากมาย พร้อมกับกวาดตามองไปรอบ ๆ พื้นที่แห่งนี้ไม่มีใครเข้ามา เพราะว่ามันได้กลายเป็นเขตหวงห้ามไปแล้ว.
เมื่อจ้องมองไปยังพื้นที่รอบ ๆ ความทรงจำนับพันปีที่เริ่มผุดออกมาเช่นกัน.
ในเวลานั้น หลินเซียวเป็นเพียงทหารธรรมดา จงซานในเวลานั้นเพราะว่ากุยเอ๋อได้ตกตายไป ทำให้เขาปกปิดสถานะของตัวเองและเดินทางมาที่นี้ และได้พบกับเชวียนเป่าเอ๋อและรู้จักกับหลินเซียว.
"สถานที่แห่งนี้คือเขตแดนต้าคุน ที่นั่นคือเขตแดนต้าเจา!"หลินเซียวที่ฝืนยิ้มออกมา.
เขาที่ชี้นิ้วออกไป พร้อมกับดื่มสุราอย่างเมามัน ด้วยพลังฝึกตนของเขาแล้ว ไม่มีทางที่จะเมาได้ง่าย ๆ ทว่าในเวลานี้ หัวใจของเขาที่ไม่สงบ ทำให้เขากำลังมึนงง มึนเมาในรสสุรา!
"ที่นี่ เซิ่งหวังได้ช่วยข้าไว้หนึ่งครั้ง ที่นั่นเซิ่งหวังได้ช่วยข้าไว้อีกหนึ่งขั้น ที่นั่นอีกเขาได้ช่วยข้าป้องกันคมหอก พี่ใหญ่จง ที่นี่ได้กันกระบี่เอาไว้ให้ข้า พี่ใหญ่จง ข้าได้ติดหนี้ท่านสิบชีวิต!"หลินเซียวที่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม แววตาที่มีน้ำตาไหลออกมา.
กับช่วยเวลาแห่งความโศกเศร้า เขาไม่สามารถสงบใจได้เลย หลายวันมานี้ จิตสำนึกของเขาราวกับว่ากำลังจะแตกสลาย.
หลินเซียวที่เต็มไปด้วยความเศร้า ชี้ไปยังตำแหน่งต่าง ๆ ที่เคยก้าวไปพร้อมกับจงซาน ทบทวนคำพูดต่าง ๆ ที่จงซานเคยกล่าวกับตัวเอง.
------------------------
"หลินเซียว แม่ทัพต้าเจิ้งกองกำลังที่หนึ่ง นับจากนี้ ข้าจะประทานตราลัญจกรแม่ทัพของภพหยางให้เจ้าดูแลควบคุมทหารทั้งหมดของต้าเจิ้งภพหยาง ทหารทุกคนจะต้องรับคำสั่งของเจ้าอย่างเข้มงวดที่สุด!"จงซานที่กล่าวออกมาอย่างจริงจัง.
"น้อมรับคำสั่ง!"
"หลินเซียว เจ้าคือคนที่อยู่กับข้านานที่สุด เป็นคนที่ข้าไว้ใจที่สุด ขณะที่ข้ามอบตราบัญชาการให้เจ้านี้ ข้าก็มีคำไม่กี่คำที่ต้องการบอกเจ้าในฐานะพี่ใหญ่!"
พี่ใหญ่? ได้ยินคำพูดของจงซาน ความรักเคารพในฐานะน้องชายก็ปะทุขึ้นมา ภายในใจของเขาที่ต้องการเรียกพี่ใหญ่เป็นอย่างมาก อย่างไรก็ตาม หลินเซียวก็เก็บมันเอาไว้ ไม่ได้กล่าวออกมา.
อืม!"
"คำพูดที่น่ารังเกียจ ข้าคงไม่กล่าวต่อเจ้า เพียงแต่เจ้าต้องจำไว้ว่า ตราบัญชาการที่ข้ามอบมันให้กับเจ้านั้น จะต้องอยู่ในมือเจ้า ห้ามไม่ให้ใครถือครอง ไม่ว่าจะเกิดเรื่องใหญ่ขนาดใหนก็ตาม ไม่ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้น จำไว้ว่า ตราบัญชาการนี้เป็นของเจ้าเพียงคนเดียว มีเพียงแค่คืนให้กับข้าได้เท่านั้น!"จงซานที่กล่าวออกมาอย่างจริงจัง.
-----------------------------
"พี่ใหญ่จง พี่ใหญ่ พี่ใหญ่อย่างงั้นรึ?"หลินเซียวที่ราวกับว่ารับรู้ความหมายอะไรบางอย่างได้!
หลินเซียวที่สะอื้นขึ้นมาในทันที ตราแม่ทัพนี้ จะต้องส่งคืนเซิ่งหวังเท่านั้น ไม่ว่าจะเกิดเรื่องใหญ่เพียงใด ไม่ว่าจะเรื่องอะไร? แน่นอนว่าจะต้องส่งมอบคืนแค่เซิ่งหวัง?
เกือบลืมความเชื่อใจที่พี่ใหญ่จงมอบให้?
"เซิ่งหวัง เฉินไม่ยุติธรรมต่อท่าน!"แววตาของหลินเซียวที่มีน้ำตาไหลออกมาในทันที.
ความเศร้าใจที่สั่งสมทำให้น้ำตาของเขาไหลออกมา.
คิดถึงเรื่องที่เขาแสดงท่าทางไม่ยุติธรรมต่อจงซาน มันยังฝังอยู่ในจิตใจของเขา มีความทรงจำอีกอย่าง ก่อนหน้าที่ต้าเจิ้งจะกลายเป็นอาณาจักร ที่ด้านหน้าแท่นบูชา การบวงสรวงสวรรค์ ในเวลานั้นคำพูดสุดท้ายที่หลินเซียวได้กล่าว ซึ่งมีหยิงหลานยืนอยู่ข้าง ๆ เขา.
-----
"พี่ใหญ่ วันนี้ข้าจะขอเรียกพี่ใหญ่ดัง ๆ เป็นครั้งสุดท้าย ผ่านวันนี้เป็นข้าจะเป็นข้าราชบริพารของท่านตลอดไป!"ใบหน้าของหลินเซียวที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้นดีใจ.
"หลินเซียว เจ้าโปรดจำไว้ว่า เจ้านั้นจะเป็นพี่น้องของข้าตลอดไป แม้นว่าจะเป็นข้าราชบริพารก็เป็นเหมือนแขนและขาของข้า!"จงซานที่กล่าวออกมาอย่างหนักแน่นเคร่งขรึม.
"อืม."หลินเซียวที่กล่าวออกมาด้วยความตื่นเต้น ภายในใจนั้นเต็มไปด้วยความเคารพเทิดทูนจงซาน.
"ทว่าการก่อตั้งอาณาจักรในเวลานี้ โชคดีที่มีเจ้าทำให้มันรวดเร็วยิ่งกว่าเดิม."จงซานที่กล่าวออกมาในทันที.
"42 ปี ข้าหลินเซียวรอคอยมาจนถึงวันนี้ ก่อนหน้านี้ซูเหลียนเซียน เจ้าสารเลวนั้นได้ข่มขู่พี่ใหญ่ พวกเราที่เตรียมการยึดครองต้าคุน หากไม่เพราะว่าพี่ใหญ่ไม่ยินดี ตอนนี้เจ้านั่นคงตกตายไปแล้ว แน่นอนว่าไม่มีทางที่จะรอดมาถึงทุกวันนี้ หากแต่ข้าก็เต็มใจที่จะรอ เพราะว่าชีวิตของข้านั้น พี่ใหญ่ที่ช่วยข้าไว้นับสิบครั้ง ไม่เช่นนั้นข้าคงตายไปแล้ว ลูกหลานของข้าสิบชั่วโคตรจะขอติดตามรับใช้พี่ใหญ่."หลินเซียวที่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.
----
“ชีวิตของข้าพี่ใหญ่ได้ช่วยไว้นับสิบครั้ง ไม่เช่นนั้นข้าคงตายไปแล้ว ข้าสัญญาว่าลูกหลานของข้าสิบชั่วโคตรจะขอติดตามรับใช้พี่ใหญ่.”หลินเซียวที่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.
ความทรงจำมากมายที่กำลังผุดขึ้นมาในจิตสำนึกของหลินเซียว ทันใดนั้น หลินเซียวที่ราวกับว่าได้กลับไปยังช่วงเวลาดังกล่าว ใบหน้าที่เต็มไปด้วยความละอายใจ!
ทันใดนั้นหลินเซียวที่คุกลงบนพื้น "พี่ใหญ่ ท่านคงไม่คิดว่าหลินเซียวผิดคำพูด ไม่มีท่าน ก็ไม่มีหลินเซียว ข้าคงตายไปสิบครั้งแล้ว กลัวตายอย่างงั้นรึ?"
"อึก ๆ "หลินเซียวที่ซดสุราไม่หยุดก่อนที่จะฟุบลงกับพื้น.
ภายในใจของหลินเซียวที่ราวกับพบแสงสว่าง ครุ่นคิดถึงครอบครัว ครุ่นคิดถึงความคิดของบุตรชาย ใครเป็นคนเป่าหูเขากัน.
หลินเซียวที่กลับมา ซึ่งก็เป็นอีกวันใหม่แล้ว ทุกคนที่จ้องมองไปยังหลินเซียว เกิดอะไรขึ้น? เหล่าเย่ที่ก่อนหน้านี้เต็มไปด้วยความกังวล ตอนนี้ล่ะ?
หลินจงที่รอคอยเวลาเงียบ ๆ ก่อนที่จะค่อยก้าวไปพบกับหลินเซียวอีกครั้ง.
"ท่านพ่อ ท่านได้คิดใคร่ครวญกับคำพูดของบุตรเมื่อวานแล้วหรือไม่? ตระกูลหลินของพวกเราไม่ต้องเอาใจสุ่ยอู๋เหิน พี่น้องหลายคนของพวกเราก็ไม่จำเป็นต้องตกตายไปในสนามรบ พวกเราควรจะมอบตราแม่ทัพไปซะ ข้า..............!"หลินจงที่เห็นใบหน้าของหลินเซียวที่ดูอิ่มเอิบ จึงคิดที่จะกล่าวโน้มน้าวอีกครั้ง.
"หุบปาก!"หลินเซียวที่ตะโกนออกมาเสียงดัง.
"ท่านพ่อ?"หลินจงที่เผยท่าทางประหลาดใจเล็กน้อย.
"หลินจง!"หลินเซียวที่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.
"บุตรอยู่นี่แล้ว!"ภายในใจของหลินจงสั่นไหวไปมา ก่อนหน้านี้บิดาจะเรียกเขาว่าจง ตอนนี้เรียก หลินจง? ไม่มีเหตุผลใดเลยนอกจากย้ำเตือนความสัมพันธ์ระหว่างบิดาและบุตร.
"ข้าเคยบอกเจ้าเกี่ยวกับเรื่องที่เซิ่งหวังเคยช่วยชีวิตข้าสิบครั้ง เจ้ายังจำได้หรือไม่?"หลินเซียวสอบถาม.
"บุตรไม่กล้าลืมเด็ดขาด!"หลินจงที่กล่าวออกมาในทันที.
"เจ้าควรจะรู้ดี ทำไมข้าถึงได้ตั้งชื่อเจ้าว่า ‘จง’ ?"หลินเซียวที่กล่าวออกมาอย่างจริงจัง.
หลินจงที่ราวกับตระหนักอะไรได้ ทว่าก็ไม่กล้ากล่าวออกมา.
"จง คือภัคดีต่อเซิ่งหวัง ข้าได้สาบานแล้วว่าตระกูลหลินของพวกเราจะต้องรับใช้เซิ่งหวังจงสิบชั่วโคตร ข้าเคยกล่าวไปแล้ว ถึงแม้ว่าเซิ่งหวังจะไม่อยู่แล้ว ตระกูลหลินก็ยังภัคดีต่อครอบครัวจง ซึ่งครอบครัวจงก็ยังมีหวงโหว ยังมีไท่จื่อ เจ้ายังจำได้หรือไม่ ก่อนที่จะครบสิบชั่วโคตร จะไม่มีใครทรยศเด็ดขาด!"หลินเซียวที่กล่าวออกมาเสียงดัง.
"ครับ บุตรผิดไปแล้ว!"หลินเซียวกล่าวออกมาในทันที.
"อืม ถ้ารู้ว่าผิด ก็จงจำไว้ เจ้ามีนามว่าหลินจง ต้องรับใช้ตระกูลจง สิบชั่วโคตรห้ามขัดขืน! นี่คือคำสอนที่จะส่งต่อไปถึงลูกหลาน!"หลินเซียวที่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.
"ครับ บุตรทราบแล้ว แต่ว่า....."หลินจงกล่าว.
"แต่อะไร?"หลินเซียวที่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.
"แต่ว่า หากสุ่ยอู๋เหินเขาต้องการเปลี่ยนราชวงศ์ล่ะ?"หลินเซียวสอบถาม.
"สุ่ยอู๋เหิน? ตราบเท่าที่เขาไม่เปลี่ยน ตระกูลหลินก็ยังภัคดีต่อต้าเจิ้ง หากเขากล้าเปลี่ยนราชวงศ์ ข้าจะจัดการเขาเอง!"หลินเซียวกล่าว.
ในอดีตเองกองกำลังที่หนึ่งคือกองกำลังที่ร้ายกาจที่สุดนั่นเอง!
"ครับ!"หลินเซียวที่รับคำในทันที.
"แล้วเสนาธิการฝ่ายสงคราม หลางเจิ้น พวกเขาที่มากดดันบังคับรับตราแม่ทัพล่ะ?"หลินจงที่ครุ่นคิดและกล่าวออกมา.
"เจ้าพวกน่ารังเกียจนั่น ต้องการบังคับชิงตราแม่ทัพของข้า ชิ! ใต้สวรรค์แห่งนี้ ตราแม่ทัพมีเพียงเซิ่งหวังเท่านั้นที่ข้าจะยอมมอบให้ ใครกล้าคิด ข้าจะจัดการพวกมันแน่!"หลินเซียวที่กล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงเกลียดชัง.
หลินจงที่เห็นบิดาตัดสินใจอย่างหนักแน่น ก็ไม่กล้าที่จะกล่าวขัดอะไรอีกแล้ว.