Chapter 956 วิชาคัดลอก.
ข่าวต่าง ๆ ภายในโลกนวีหวาที่กระจายไปทั่ว หยิงที่เพิ่งได้รับรายงานจากไป๋ฉี.
"เซิ่งหวัง ข้าได้รับข่าวมาว่า ปราชญ์เทพหมี่เทียนสังหารเป๋าซือไปแล้ว!"ไป๋ฉีกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม.
หยิงครุ่นคิดและกล่าวออกมาว่า "สี่ภูตวิถีสวรรค์? ได้ยินข่าวมาว่ามีพลังไม่ได้ด้อยกว่าค่ายกลสังหารเซียนเลย หากปะทะกับค่ายกลกระบี่สังหารเซียนที่แท้จริงแล้ว ผลที่ได้จะเป็นเช่นใด!"
"ค่ายกลกระบี่สังหารเซียนอย่างงั้นรึ? ไม่ใช่ว่ามันพังทลายไปหมดแล้วอย่างงั้นรึ?"ไป๋ฉีที่ขมวดคิ้วไปมา.
"พังทลายอย่างงั้นรึ? ก็คอยดูต่อไป!"หยิงที่กล่าวอย่างไม่แยแสนัก.
"ครับ!"
ปราชญ์เทพปรากฎ ข่าวนี้กระจายไปทั่วทุกสารทิศ.
ภายในสถานที่เป๋าซือตายไปมีผู้ฝึกตนมากมายมาเยือน แม้ว่าจะมองไม่เห็นเหตุการณ์ ทว่ากับสัมผัสของปราชญ์เทพที่ยังคงเหลืออยู่ ก็ทำให้ทุกคนอยากมาเห็นเช่นกัน.
บนหุบเขาแห่งหนึ่งที่ไม่ไกลจากสถานที่ดังกล่าว จงซานที่สร้างป้ายสุสานขึ้น.
สหายเก่า สุสานหม่ากู๋.
แม้ว่าศพของนางหมี่เทียนจะนำไปแล้ว ทว่าจงซานก็ยังตัดสินใจสร้างสุสานเปล่าให้กับนาง.
จ้องมองไปยังพื้นที่ไกลออกไปเหล่าผู้ฝึกตนมากมายที่มารุมล้อม จงซานที่หันหน้ามาบอกโหลวซิงเฉินและกล่าวออกมาว่า "ไปเถอะ!"
"ครับ!"
"ไปรึ? ไปใหน!"เสียง ๆ หนึ่งที่คำรามออกมาในทันที.
พร้อมกับใครบางคนที่ออกมาขวางทางของจงซานเอาไว้.
บรรพชนชราเสวี๋ยเหม่ย!
บรรพชนชราเสวี๋ยเหม่ยก่อนหน้านี้ได้เข้าแย่งชิงธวัชเจาเหยากับเหล่าเซียนบรรพชน ท้ายที่สุดก็ได้กลับมา ทว่าหลังจากนั้นก็พบว่าธวัชเจาเหยานั้นเป็นของปลอม.
ของปลอม? เหล่าเซียนบรรพชนที่เต็มไปด้วยความขุ่นเคือง เพราะว่าเหล่าเซียนบรรพชนสามารถยืนยันได้ว่า ของที่หยิงปล่อยไปก่อนหน้านี้ อาจเป็นของจริงแน่ ทว่าระหว่างทางพวกเขากลับวิ่งไล่ของปลอม? มีความเป็นไปได้ว่าจะมีใครบางคนที่สร้างเรื่องหลอกลวงขึ้น.
ใคร?
ทันใดนั้นเหล่าเซียนบรรพชนทุกคนต่างก็นึกขึ้นมาในในทันที ทุก ๆ คนที่คิดเหมือน ๆ กัน ประมุขนิกายเสอโห่ว.
เหล่าเซียนบรรพชนมากมายที่เร่งรีบตามหา ค้นหารอบ ๆ ท้ายที่สุดก็ได้ข่าวว่า ประมุขนิกายเสอโห่ว คาดไม่ถึงเลยว่าจะเป็นเป๋าซือ?
และยังได้รับข่าวมาว่า เป๋าซือนั้นถูกปราชญ์เทพหมี่เทียนสังหารแล้ว.
ทว่าในเวลาเดียวกัน ภายในโลกนวีหวากับปรากฎธวัชเจาเหยามากมาย แม้นว่าจะเป็นของปลอม ทว่าก็มีคนมากมายเข้าไปแย่งชิงเหมือนเดิม.
เหล่าเซียนบรรพชนในเวลานี้ที่เต็มไปด้วยความงงงวย ทว่าบรรพชนชราเสวี๋ยเหม่ยได้พบกับเรื่อง ๆ หนึ่ง ศิษย์มากกว่าหนึ่งร้อยคนที่ตัวเองนำมา คาดไม่ถึงเลยว่าจะตกตายไปทั้งหมด.
ดวงตาของบรรพชนเสวี๋ยเหม่ยที่เต้นไปมาด้วยความบ้าคลั่ง ใคร? ใครที่สังหารศิษย์ของเขา?
ภายใต้การพยากรณ์ของเขา บรรพชนชราเสวี๋ยเหม่ยถึงกับตะลึงงัน ศิษย์ของเขาแต่ละคนที่แยกย้ายกันไปตายคนละทิศละทาง กล่าวอีกอย่างหนึ่ง กว่าตัวเองจะพบเข้า เหล่าศิษย์ของเขากว่าร้อยคนถูกกลุ่มอิทธิพลต่าง ๆ นับร้อยสังหารไปแล้ว?
ภายใต้การสืบเสาะ บรรพชนชราเสวี๋ยเหม่ยที่ได้ผลออกมาว่า ก่อนที่พวกเขาจะตายไป พวกเขาได้พบกับจงซานก่อนทุกคน.
"บรรพชนชราเสวี๋ยเหม่ย? ท่านมีอะไรจะแนะนำอย่างงั้นรึ?"จงซานที่แสดงท่าทางงงงวย.
เห็นท่าทางจงซานที่แสดงท่าทางโง่งมออกมา ทำให้บรรพชนเสวี๋ยเหม่ยไม่รู้ว่าจะต้องกล่าวสิ่งใดออกมา.
"จงซาน ศิษย์ข้าสองคนที่ตกตายไป ต้องโทษตัวเขาเอง ทว่าคนอื่น ๆ คาดไม่ถึงเลยว่าเจ้าจะสังหารพวกเขาทั้งหมด? เจ้าหาญกล้าเกินไปแล้ว!"บรรพชนชราเสวี๋ยเหม่ยที่แสดงท่าทางโกรธเกรี้ยวออกมา.
แรงกดดันมหาศาลที่โถมทับไปยังทิศทางของจงซานในทันที เหล่าต้นไม้ใบหญ้าที่อยู่รอบ ๆ ถึงกับโน้มลงด้วยพลังกดดันที่ยิ่งใหญ่แผ่ออกไป.
กับความโกรธเกรี้ยวมากมายของบรรพชนเสวี๋ยเหม่ย เป็นเหตุให้ผู้ฝึกตนมากมายที่อยู่รอบ ๆ สนใจ ทุกคนต่างจดจ้องมองมาเป็นสายตาเดียวกัน.
มีใครกำลังจะต่อสู้กันอย่างงั้นรึ?
โหลวซิงเฉินที่ออกมาขวางหน้าจงซานทันที ส่วนจงซานที่ยกมือขึ้นห้าม โหลวซิงเฉินเอาไว้.
"บรรพชนชราเสวี๋ยเหม่ย ข้าเองก็นับถือท่านเป็นอาวุโส ทว่าขอถามให้ชัดเจน ข้าจงซานได้ไปกระทำอะไร ที่ท่านหาว่าข้าบังอาจกัน!"จงซานที่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.
"ก็ดี จะตายอยู่แล้ว ยังเล่นลิ้นอีกรึ? ศิษย์ของข้าหลายสิบคน พวกเขาไปทำอะไร?"บรรพชนชราเสวี๋ยเหม่ยที่บ้าคลั่งด้วยความโกรธ.
"ศิษย์ของท่าน ข้าไปทำอะไรอย่างงั้นรึ?ศิษย์ของท่าน เกี่ยวอะไรกับข้า?แม้ว่าข้าจงซานจะดูแคลนพวกเขาที่มีคนนับร้อยเข้ามาหาเรื่องข้า แล้วอย่างไร ท่านคิดว่าข้าทำอะไรพวกเขาได้รึยังไง?"จงซานที่ขมวดคิ้วไปมา.
"หากเจ้าไม่หลอกพวกเขา พวกเขาจะตายอย่างงั้นรึ?"
"ข้าไปหลอกอะไรพวกเขา?"
"ธวัชเจาเหยาปลอม เจ้าเป็นคนมอบให้ศิษย์ข้าไม่ใช่รึไง?"
"ปลอมอย่างงั้นรึ? ในเวลานั้นใครจะไปรู้ล่ะ พวกเขาเป็นคนแย่งชิงกันไปเอง ธวัชเจาเหยาที่แม้แต่เหล่าเซียนบรรพชนยังแย่งกัน ศิษย์ของท่านแย่งไปจากข้าเอง ข้าเองก็ได้รับมันมา ข้าจะไปรู้ได้อย่างไรว่ามันเป็นของปลอม?"
“........................!”
"แล้วทำไมเจ้ามอบให้พวกเขาไปนับสิบอัน?"บรรพชนเสวี๋ยเหม่ยที่พูดไม่ออก ราวกับว่าศิษย์ตัวเองเป็นตัวตลก ให้คนอื่นหลอกนับสิบครั้ง?
"มันคงสมบูรณ์แบบจนไม่รู้ว่าเป็นของปลอม พวกเขาต้องการเอง ข้าจึงต้องให้ แล้วจะให้ข้าทำอะไรได้กัน?"
“..............................!”
"ข้าไม่ต้องการพูดกับเจ้าอีกแล้ว อย่ามาตำหนิข้าที่รังแกคนอ่อนแอกว่า ข้าจะให้พวกเจ้าสองคนร่วมมือกัน ตัดสินเป็นตาย!"บรรพชนชราเสวี๋ยเหม่ยที่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.
"พวกเราสองคน? เซียนโบราณและมหาเซียน ส่วนเจ้าเซียนบรรพชน? เจ้ายังบอกว่าไม่รังแกคนอ่อนแออีกเหรอ!"จงซานกล่าวล้อ.
"เซิ่งหวัง? ท่านหนีไปก่อนเถอะ ข้าจะรั้งบรรพชนชราเสวี๋ยเหม่ยไว้เอง!"โหลวซิงเฉินที่กล่าวออกมาในทันที.
จงซานที่จ้องมองไปยังโหลวซิงเฉิน "เจ้ามั่นใจกี่ส่วนที่จะเอาชนะบรรพชนชราเสวี๋ยเหม่ย?"
มั่นใจกี่ส่วนอย่างงั้นรึ? จริงหรือเท็จ? ผู้คนมากมายที่อยู่รอบ ๆ ที่เต็มไปด้วยความสงสัยในทันที.
เซียนโบราณกับเซียนบรรพชน กับเซียนที่สามารถเคลื่อนย้ายวิถีสวรรค์ได้ ไม่มีทางเลยที่จะต่อกรได้.
"ข้า ข้าไม่สามารถ!"โหลวซิงเฉินที่ส่ายหน้าไปมา ใบหน้าเผยรอยยิ้มที่ขมขื่นออกมา.
ที่เขาออกมาขวางหน้าถ่วงเวลาให้จงซานนั้น เพราะว่าครอบครัวของเขานั้นอยู่ในต้าเจิ้งภพหยิน.
จงซานที่ส่ายหน้าไปมา ก่อนที่จะกล่าวออกมาว่า "ตกลง ข้าจะจัดการเอง!"
โหลวซิงเฉินที่ดวงตากลมโต ราวกับว่าเขาฟังอะไรผิดหรือไม่?
ไม่ใช่แค่โหลวซิงเฉิน คนอื่น ๆ เองต่างก็ต้องเงี่ยหูแม้แต่ถูไปมาโดยไม่รู้สึกตัวเช่นกัน.
"ศิษย์พี่ จงซานพูดอะไร? เขาต้องการต่อสู้กับบรรพชนชราเสวี๋ยเหม่ยอย่างงั้นรึ?"
"เพ่ย มหาเซียนถึงกับคิดต่อกรกับเซียนบรรพชนอย่างงั้นรึ?"
"จงซาน เขาเสียสติไปแล้ว?"
..........................................
..................
......
ผู้คนมากมายต่างก็ส่งเสียงอื้ออึ้งด้วยความสงสัย.
โหลวซิงเฉินที่จ้องมองจงซานด้วยแววตาไม่อยากเชื่อ เซิ่งหวังต้องการทำสิ่งใดกันแน่?
"บรรพชนชราเสวี๋ยเหม่ยมาหาเรื่องข้า เจ้าไม่จำเป็นต้องเอาชีวิตไปทิ้ง!"จงซานกล่าว.
ในเวลานั้น ภายในใจของโหลวซิงเฉินที่ส่ายไปมา "เซิ่งหวัง!เฉินหวังว่า จะร่วมสู้กับเซิ่งหวังกับบรรพชนชราเสวี๋ยเหม่ย!"
จงซานที่ส่ายหน้าไปมา "ไม่จำเป็น เจ้าถอยไปเถอะ!"
"ครับ!"โหลวซิงเฉินที่ถอยออกไป.
โหลวซิงเฉินรู้ดี แม้นว่าตัวเองจะแข็งแกร่ง ทว่าแน่นอนก็ยังด้อยกว่าเซียนบรรพชนที่สามารถเคลื่อนย้ายอำนาจวิถีสวรรค์ได้ ไม่สามารถเทียบกันได้เลย.
การต่อสู้กับบรรพชนชราเสวี๋ยเหม่ย ก็ไม่ต่างจากแส่หาความตายเท่านั้น.
ทว่าสิ่งที่เซิ่งหวังกระทำ? เพื่อปกป้องเขาอย่างงั้นรึ? ในเวลานั้น ภายในใจของโหลวซิงเฉินที่สั่นไหว สัมผัสได้ถึงความรู้สึกที่ลึกล้ำต่อต้าเจิ้ง.
โหลวซิงเฉินที่ถอยออกมา ทว่า ภายในใจพร้อมที่จะกระโจนเข้าสนามรบทุกเมื่อ.
จงซานที่ยื่นอยู่บนยอดเขา เสื้อผ้าที่โบกสะบัดไปตามแรงลม จงซานที่เงยหน้าจ้องมองไปยังบรรพชนชราเสวี๋ยเหม่ย.
"มีปัญหาอะไร? คนเดียวอย่างงั้นรึ?"บรรพชนชราเสวี๋ยเหม่ยแค่นเสียงดูแคลน.
"หนึ่งคน หรือสองคนต่างกันอย่างไร?"จงซานที่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.
"ดี ดูเหมือนว่าเจ้าจะมั่นใจในตัวเองมากเลยนะ!"บรรพชนชราเสวี๋ยเหม่ยที่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.
"มั่นใจ ข้าบอกไปก่อนแล้ว เหมือนดั่งที่ศิษย์ของเจ้าบังคับข้ามาตลอด บรรพชนชราเสวี๋ยเหม่ย ข้าจงซานจะเป็นหรือตาย ดูเหมือนว่าวันนี้เจ้าก็ต้องการสร้างความอับอายให้กับข้าอยู่ดี!"จงซานที่กล่าวออกมาด้วยเสียงเย็นชา.
"วันนี้ เจ้าต้องตาย ก็ดี ให้ข้าได้เห็นวิชาเนตรของเจ้า กับวิชาที่ทำให้เซียนบรรพชนร่วงหล่นกลายเป็นเซียนโบราณได้!"บรรพชนชราเสวี๋ยเหม่ยที่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.
วิชาเนตร! มีหลายคนเคยกล่าวถึงวิชาเนตรของจงซาน ทำให้ทุกคนเงียบงันจดจ้องมองด้วยความสนใจในทันที.
ในอดีตภายในค่ายกลโถมังกรหลับ ได้ยินข่าวว่าจงซานที่ได้ใช้วิชาเนตรออกมา แม้นว่าพวกเขาจะไม่ได้เห็นด้วยตาตัวเอง ทว่าก็ทำให้พวกเขารู้สึกสนใจออกมาเช่นกัน.
วิชาเนตรนิมิตดีร้าย ดูเหมือนว่าจะไม่มีใครเคยรู้จักมาก่อน.
ทุกคนที่ครอบครองวิชาเนตร ด้วยระดับพลังฝึกตนระดับเดียวกัน ไม่ใช่ว่าไร้เทียมทานหรอกรึ?
บรรพชนชราเสวี๋ยเหม่ยที่จ้องมองไปยังจงซาน ส่วนเหล่าผู้ฝึกตนอื่น ๆ ก็เช่นกัน ในเวลานั้นในกลุ่มคนเหล่านั้นมีเซียนบรรพชน 1-2 คนเช่นกัน.
ราวกับว่าทุกคนต่างก็สงสัยในวิชาเนตรของจงซาน.
จงซานรู้ดี ว่าการต่อสู้กับบรรพชนชราเสวี๋ยเหม่ยนั้นไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ ดังนั้นไม่ควรที่จะหาวิธีในการหลบเลี่ยง ทว่าต้องสร้างความสนใจต่างหาก.
วิชาเนตร? เนตรนิมิตร้าย? นี่เป็นความลับที่ควรจะปกปิดไม่ให้คนอื่นรับรู้.
แต่ในเมื่อไม่สามารถปกปิดได้ ก็จำเป็นต้องแสดงออกมาอย่างอลังการต่อหน้าทุกคน.
เซียนบรรพชน ด้วยความแข็งแกร่งของเขาเวลานี้ มีเหรอที่จะต่อกรกับเซียนบรรพชนได้? ในอดีตแม้แต่หลั่นเติ้งเขายังไม่ใช่คู่มือ แน่นอน แม้จะรวมโหลวซิงเฉินเข้าไปด้วยก็ไม่มีประโยชน์ใด ๆ เลย.
จงซานให้โหลวซิงเฉินถอยออกไป หลัก ๆ นั้นเป็นเพราะว่าบัวหงหลวนเทียนที่หน้าผากของเขา ก่อนหน้ามีทั้งสีน้ำเงินและสีแดง สลับไปมา กล่าวอีกอย่างหนึ่ง เขาที่มีทั้งโชคร้ายและโชคดีรวมอยู่ด้วย เขาจึงจำเป็นต้องลงมือเต็มที่ด้วยตัวเอง.
"เจ้าต้องการศึกษาเนตรนิมิตร้ายไร้คู่เปรียบข้าอย่างงั้นรึ?"จงซานแค่นเสียงเย็นชา ร่างกายของเขาที่ปลดปล่อยกลิ่นอายเพิ่มขึ้นช้า ๆ .
"ข้าจำเป็นต้องศึกษาวิชาของมหาเซียนด้วยรึ?"บรรพชนเสวี๋ยเหม่ยที่เผยท่าทางเหยียดหยัน.
"ไม่ใช่รึ?!"จงซานที่กล่าวดูแคลน.
"ใช้ทักษะเนตรของจ้า หรือว่าต้องการให้ข้าลงมือก่อนรึ?"บรรพชนชราเสวี๋ยเหม่ยที่แค่นเสียงเย็นชา.
"ได้ตามที่หวัง!"จงซานที่กล่าวออกมาเล็กน้อย.
ตามที่หวังอย่างงั้นรึ? เนตรนิมิตร้ายไร้คู่เปรียบรึ? กับฝ่ายตรงขามที่มีระดับเซียนบรรพชน ผู้ที่สามารถเคลื่อนย้ายวิถีสวรรค์ เนตรของมหาเซียนไม่มีทางสร้างบาดแผลให้กับเซียนบรรพชนได้.
จงซานที่ไม่รั้งรออีกต่อไป ดวงตาทั้งสองข้างที่ปิดแน่น จากนั้นดวงตาซ้ายปิด ดวงตาขวาที่ลืมขึ้นช้า ๆ .
"เนตรนิมิตร้ายไร้คู่เปรียบ เปิด!"
เนตรด้านขวาของจงซานที่เปิดขึ้น แสงสีน้ำเงินที่ฉายออกไป พื้นที่รอบ ๆ เปลี่ยนเป็นมืดครึ้ม เมฆที่หยุดเคลื่อนไว สายลมที่หยุดนิ่ง แม้แต่ดวงวิญญาณยังสั่นไหว เหล่าผู้ฝึกตนมากมายถึงกับรู้สึกหัวใจสั่นไหวไปด้วย.
สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของปราชญ์เทพก็ไม่ปาน.
เนตรนิมิตร้ายไร้คู่เปรียบอย่างงั้นรึ? เป็นวิชาเนตรที่ทรงพลังขนาดนี้เลยรึ? คาดไม่ถึงเลยว่าจะมีกลิ่นอายของปราชญ์เทพ ไม่สงสัยเลยว่าบรรพชนชราเสวี๋ยเหม่ยสนใจ ตื่นเต้นอย่างงั้นรึ?
ทว่าในเวลาเดียวกัน ฝ่ายตรงข้าม บรรพชนชราเสวี๋ยเหม่ย ดวงตาของเขาที่เปลี่ยนไปในทันที แววตาของบรรพชนชราเสวี๋ยเหม่ยกลายเป็นดอกเหมยในทันที.
ดวงตาทั้งสองข้างของบรรพชนชราเสวี๋ยเหม่ย ที่กลายเป็นดอกเหมยกำลังโคจรไปมา.
วิชาเนตร วิชาเนตรอย่างงั้นึ? นี่คือวิชาเนตรของบรรพชนชราเสวี๋ยเหม่ยอย่างงั้นรึ?
"มันคืออะไร?"
"เนตรดอกเหมย? เป็นวิชาคัดลอก? บรรพชนชราเสวี๋ยเหม่ยกำลังคัดลอกวิชาเนตรของจงซาน?"
"เนตรดอกเหมย?"
"วิชาเนตรของบรรพชนชราเสวี๋ยเหม่ย เป็นจริงอย่างงั้นรึ? เนตรดอกเหมย ได้ยินข่าวลือมาว่าเป็นวิชาเนตรที่แปลกประหลาดสามารถคัดลอกวิชาของคนอื่นได้ แท้จริงแล้วเป็นเรื่องจริงรึ?!"
"วิชาเนตรคัดลอก?"