chapter 952 ธวัชเจาเหยา
จิตสังหารของไป๋ฉีในเวลานี้ถูกปลดปล่อยเต็มไปด้วยแรงกดดันพลานุภาพที่ยิ่งใหญ่หนักหน่วงรุนแรงแผ่ออกมา เจตจำนงที่ทรงพลังไร้เทียมทานนี้ แม้จะเป็นเซียนโบราณก็ยังยากจะต้านทาน เป็นจิตสังหารที่ร้ายกาจเป็นอย่างมาก.
กับคนที่ร้ายกาจทรงพลัง กลับถูกควบคุมถูกใช้เป็นหุ่นเชิด เป็นใครกันที่สามารถทำเช่นนี้ได้.
เป็นใครกันแน่ที่มีพลังมากมายขนาดนี้?
ไป๋ฉีจับจ้องมองจงซานเขม็ง แววตาที่เต็มไปด้วยจิตสังหาร ดาบในมือที่สั่นไหว กำลังกลายเป็นบ้าคลั่งพร้อมจะสังหารเหล่าศัตรูที่อยู่ด้านหน้า.
อำนาจของดาบที่รวมกับจิตสังหารที่รุนแรง ขณะที่มันร่วงหล่นลงมาจากบนท้องฟ้า เห็นเป็นภาพเงาของปิศาจ กำลังพุ่งตรงไปยังทิศทางของจงซานพร้อมฟาดฟันจงซานให้ขาดเป็นสองท่อน.
อำนาจของดาบที่ฟาดฟัน ทำให้ท้องฟ้าบรรยากาศรอบ ๆ เปลี่ยนสี.
เหล่าเซียนโบราณที่หัวใจเย็นยะเยือบ พลังร้ายกาจทรงพลังแข็งแกร่งมาก จะมีใครสามารถหลบได้กัน?
เหล่าเซียนโบราณต่างก็คิดว่ามีเพียงแค่หลบเท่านั้น ไม่มีใครคิดจะป้องกันเลย กับอำนาจดาบที่รุนแรงทรงพลังนี้ไม่มีทางต้านได้.
จบแล้ว จงซานและโหลวซิงเฉินต้องตกตายอย่างแน่นอน.
ส่วนจงซานที่อยู่บนยอดเขายังคงจ้องมองไปยังไป่ฉี ราวกับไม่เห็นความน่าหวาดกลัวของอำนาจดาบที่กำลังฟาดฟันลงมา มีเพียงแค่โหลวซิงเฉินที่เคลื่อนไหว.
ไพลินที่หน้าผากของโหลวซิงเฉินขยับไปมา พร้อมกับปล่อยแสงสีเขียวพุ่งออกไปยังอำนาจดาบของไป๋ฉี.
"ช้า!"
โหลวซิงเฉินที่กล่าวออกมาเสียงดัง ยื่นมือออกไปด้านหน้า.
ในเวลาเดียวกัน การโจมตีของไป๋ฉีที่ลดลงในทันที ความเร็วที่เห็นได้ชัดเจนว่าได้ลดลงราว ๆ สามเท่าทว่าก็ยังคงพุ่งตรงมาเช่นเดิม.
แม้นความเร็วจะลดลงสามเท่าแต่ก็ยังทรงพลังแข็งแกร่ง อย่างไรก็ตามกับความเร็วที่ลดลงราวกับว่ามันมีผลต่อจิตใจของไป๋ฉีด้วย.
"ผนึกเวลา!"โหลวซิงเฉินที่แค่นเสียงเย็นชา.
หลังจากเวลาลดลงสามเท่าจากนั้นก็หยุดลงในทันที.
แม้นกลิ่นอายแรงกดดันจะยังคงมีอยู่ ส่วนโหลวซิงเฉินที่ส่งฝ่ามือออกไปหยุดกลิ่นอายดาบของไป๋ฉีเอาไว้.
"ตูมมม~~~~~~~~~~~~~~~~~~!”
กลิ่นอายจิตสังหารที่ยิ่งใหญ่ระเบิดออกเป็นเสี่ยง ๆ ฟุ้งกระจายม้วนกวาดไปทุกทิศทุกทาง อำนาจดาบถูกหยุดไว้ กลิ่นอายที่หนักหน่วงรุนแรงถูกกระจายไปทุกทิศทุกทาง.
กรอบอำนาจของเวลาที่ได้บีบอัดขวางเอาไว้นั่นเอง.
บนห้วงอากาศ ฝ่ามือของโหลวซิงเฉินที่ปรากฎขึ้นป้องกันอำนาจดาบของไป๋ฉีที่ฟาดฟันลงมา อำนาจที่ผนึกสวรรค์! โหลวซิงเฉิน!
ผู้คนที่อยู่รอบ ๆ เวลานี้ถึงกับจับจ้องมองด้วยดวงตาเบิกกว้างเต็มไปด้วยความอัศจรรย์ใจ อำนาจดาบของไป๋ฉีที่ฟาดฟันลงมา ทุกคนที่คิดว่าจงซานและโหลวซิงเฉินต้องตกตายไปแล้ว คาดไม่ถึงเลยว่าโหลวซิงเฉินจะสามารถป้องกันการโจมตีนี้ได้อย่างงั้นรึ?
กระบวนท่าของโหลวซิงเฉินรวดเร็วขนาดนี้เลยรึ?
"อ๊ากกก~~~~~~~~~~~~~~~~~~!”
ไป๋ฉีที่คำรามออกมาเสียงดัง อำนาจดาบของเขากำลังเพิ่มพลังขึ้นอีกครั้ง รอยปริของกรอบผนึกเวลาที่เกิดรอยร้าวระเบิดออกมาเสียงดัง ดาบเขาได้กลายเป็นอิสระอีกครั้ง ฝ่ามืออากาศขนาดใหญ่ของโหลวซิงเฉินระเบิดออกเป็นเสี่ยง ๆ .
ขณะที่ทุกคนกำลังคิดว่าไป๋ฉีจะโจมตีออกไปอีก กลับกลายเป็นว่าเขาได้ทิ้งดาบลงบนพื้น.
ขณะที่มือทั้งสองข้างกุมไปที่ศีรษะ ดวงตากลายเป็นสีแดงซ่าน เส้นโลหิตปูดขึ้นทั่วร่างกาย.
"พ่ายแพ้เหรอ~~~~~~~~~~~~~~~~!”
ไป๋ฉีคำรามลั่น ทั่วร่างของเขาที่ระเบิดออกมาเป็นเสี่ยง ๆ .
"ตูมมมม!"แสงสีขาวทั่วร่างไป๋ฉีแตกออกเป็นแผ่นทั่วร่าง.
ร่างของไป๋ฉีที่ทรุดลง กุมหน้าอก หายใจอย่างหนักหน่วง หอบแฮก ๆ ในทันที.
ทุกคนที่ไม่สามารถมองเห็นได้ ทว่าจงซานกับรับรู้ว่าไป๋ฉีกำลังจะฟื้นสติ ไม่ใช่คนอื่น แต่เป็นตัวเขาเอง ที่กำลังทำลายล้างเจตจำนงของผู้อื่นที่ควบคุมเขา.
หลังจากผ่านไปสิบลมหายใจ ไป๋ฉีที่ยืนขึ้นมาได้อีกครั้ง กวาดตามองไปรอบ ๆ จดจ้องมองไปยังโหลวซิงเฉิน ท้ายที่สุดก็ไปหยุดที่จงซาน.
"เซิ่งหวังจง ล่วงเกินแล้ว!"ไป๋ฉีที่เอ่ยถึงความผิดพลาดของเขาก่อนหน้านี้ กับสิ่งที่เขาได้กระทำไป ไม่มีข้อแก้ตัวใด ๆ .
"ไม่มีปัญหา เจ้าเป็นเพียงเหยื่อ!"จงซานพยักหน้ารับ.
ไป๋ฉีที่จ้องมองจงซานด้วยความลึกล้ำ ก่อนที่จะกล่าวอะไรสองสามคำ และกลับไปยังทิศทางเดิมที่เขาจากมาอย่างรวดเร็ว.
กลายเป็นเรื่องที่น่าอัศจรรย์ขึ้นแล้ว หลาย ๆ คนที่กลายเป็นงงงวย ไป๋ฉี? อยู่ ๆ ก็พุ่งเข้ามาโจมตี จากนั้นก็ทิ้งดาบ กล่าวขอโทษ? แล้วจากไปอย่างงั้นรึ?
เรื่องนี้? หมายความว่าอย่างไรกัน?
หลาย ๆ สมองที่แทบพลิกกลับ โดยเฉพาะเหล่าศิษย์ของบรรพชนชราเสวี๋ยเหม่ยที่เต็มไปด้วยความเศร้าสุด ๆ คนของพวกเขาตายไปอีกคนแล้ว เป็นพวกเขาที่แส่เข้าไปหาความตาย ทั้งที่ไม่ใช่เรื่องของตัวเอง.
ศิษย์ลำดับสี่ ศิษย์พี่สี่ตายเพราะจงซาน เหล่าศิษย์ของบรรพชนชราเสวี๋ยเหม่ยที่จับจ้องมองจงซานด้วยสายตาเกลียดชัง.
เหล่าผู้ฝึกตนมากมายที่อยู่รอบ ๆ ไม่เข้าใจเรื่องที่เกิดขึ้นละเอียดนัก ทว่าพวกเขาพอเข้าใจ โหลวซิงเฉินแข็งแกร่งมาก เขาที่สามารถรับดาบที่ทรงพลังของไป๋ฉีได้ เขาเป็นใครกัน!
โหลวซิงเฉินกลับมาอยู่ด้านหลังจงซาน ทว่าความแข็งแกร่งของเขานั้นทุกคนยังจดจำได้ดี.
"ต้าเจิ้งทรงพลังมากขนาดนี้เลยรึ?"
"ศิษย์พี่ โหลวซิงเฉินนั้นแข็งแกร่งมาก ทำไมถึงได้เข้าร่วมศาลเทพต้าเจิ้ง? ไม่ใช่ว่าต้าเจิ้งคือศาลเทพที่อ่อนแอที่สุดหรอกรึ?"
"อ่อนแอที่สุด? ใครบอกเจ้าว่าอ่อนแอที่สุด?"
"ทุก ๆ คนต่างก็พูดกัน!"
"ทว่าต้าเจิ้งก็ยังรับมือกับยอดฝีมือมากมายได้ เหนือกว่าเจ้านิกายหลายแห่ง เจ้าคิดว่าต้าเจิ้งอ่อนแอจริง ๆ รึ?"
....................................
..................
......
ผู้คนมากมายต่างก็ส่งเสียงอื้ออึงเต็มไปด้วยความสงสัย โดยเฉพาะคนของอาณาเขตเฟิงจง ต้าเจิ้ง! ในเวลานี้ ต้าเจิ้งอ่อนแอจริง ๆ รึ?
ที่ไกลออกไปนั้น ไป๋ฉีที่กลับมายอดเขาเดิม ร่างกายของเขาที่เต็มไปด้วยจิตสังหารปกคลุมอย่างหนักหน่วงรุนแรง.
กลายเป็นหุ่นเชิดอย่างงั้นรึ?
ใบหน้าของไป๋ฉีที่กลายเป็นมืดมน เพราะว่าไป๋ฉีรู้ดี คนที่สามารถควบคุมจิตสำนึกเขาได้ ในภพหยางก็คงมีเพียงปราชญ์เทพเท่านั้น ปราชญ์เทพอย่างงั้นรึ?
ไป๋ฉีทีได้แต่เงียบจับจ้องมองไปยังพื้นที่รอบ ๆ .
"ตูมมม~~~~~~~~~~~~~~~~~!”
บนท้องฟ้า เกิดรอยแยก เสียงดังกึกก้องสนั่นหวั่นไหวกระจายไปทั่วท้องฟ้า ทั่วโลกนวีหวาเกิดระเบิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหว.
หลังจากเกิดการระเบิดแล้ว ทั่วทั้งโลกนวีหวาก็สั่นไหวไปมาไม่หยุด ราวกับว่ากำลังจะล่มสลายลงในทันที.
ทว่าดูเหมือนว่าจะเพียงแค่สั่นไหวเท่านั้น โลกนวีหวายังคงมั่นคง.
เสียงที่เกิดขึ้นนั้นเกิดจากฝ่ามือของจวงจื่อปะทะกับหยิงนั่นเอง.
เหล่าคนที่มีพลังฝึกตนต่ำถึงกับล้มทั้งยืน เป็นพลังระเบิดที่รุนแรงมาก คลื่นกระแทกที่กวาดไปทุกทิศทุกทาง แทบจะทุกคนที่ดวงตาเบิกกว้างกลมโต จดจ้องมองไปยังที่ไกลออกไปจ้องมองรอผลการต่อสู้.
หยิงและจวงจื่อที่แยกออกจากกัน!
ภาพเงาผีเสื้อยักษ์ และดวงดาราค่อย ๆ สลายหายไป.
ทั้งคู่ที่แยกออกจากกันออกมาไกล รอบ ๆ ร่างของพวกเขา ห้วงอากาศที่สั่นไหวเป็นระลอกคลื่น ทว่าที่ใจกลางนั้น ปรากฎหลุมดำขนาดใหญ่ขึ้น.
หลุมดำ แม้แต่ในโลกใบใหญ่ยังเกิดหลุมดำ.
หลุมดำนี้ทรงพลังมาก ไม่มีใครต้องการทดสอบแน่นอน.
การปะฝ่ามือของทั้งคู่ถึงกับฉีกกระชากห้วงมิติ ไม่สงสัยเลยว่าโลกนวีหวาสั่นไหว.
หลุมดำที่ค่อย ๆ หดเล็กลงเรื่อย ๆ ฟื้นฟูกลับคืนช้า ๆ ในเวลาเดียวกัน สายตาของทุกคนก็จ้องมองไปยังจวงจื่อและหยิง เผยแววตาหวาดกลัวที่ลึกล้ำ.
ทรงพลัง! ไม่ธรรมดา!
ต้องแข็งแกร่งขนาดใหนถึงสามารถฉีกกระชากมิติขาดออกเป็นส่วน ๆ เช่นนี้!
มิติอากาศที่แข็งแกร่งเพียงแค่สั่นสะเทือนก็ทำให้สิ่งของที่อยู่ใกล้ ๆ แหลกเป็นผุยผง พื้นที่รอบ ๆ เวลานี้กลายเป็นทะเลทราย มีเพียงแค่บริเวณที่ไป๋ฉียืนอยู่บนยอดเขาเท่านั้นที่ยังคงอยู่.
หลุมดำที่ย่อขนาดเล็กลงเรื่อย ๆ ท้ายที่สุดก็หายไป หยิงและจวงจื่อได้ผละออกจากกัน.
"ใครชนะ?"
"ไม่รู้!"
"รอดูก่อน!"
........................
............
ภายในใจของทุกคนที่กระเพื่อมเต็มไปด้วยความสงสัยใครกันที่ได้รับชัยชนะ.
"ต้าฉิน?สมควรที่จะไปต่อ เป็นไปตามที่ข้าได้คาดการณ์เอาไว้!"จวงจื่อที่สูดหายใจลึกพลางถอนหายใจ.
"คาดการณ์? แล้วคิดว่าอย่างไร!"หยิงที่กล่าวออกมาอย่างไม่แยแส.
"เป็นการเปิดหูเปิดตาจวงจื่อ ไร้เทียมทานควรค่าที่จะไปต่อ!"จวงจื่อที่พยักหน้ารับ.
"อืม!"หยิงพยักหน้า.
"ปราชญ์เทพปรากฎ เรื่องนี้ข้าไม่ขอเข้าร่วม ทางใครทางมัน!"จวงจื่อที่จ้องมองไปยังหยิง.
หยิงที่ดูไม่แยแส ทว่าก็พยักหน้ารับ.
จวงจื่อโบกมือ พร้อมกับพาเหล่าศิษย์ของเขาจากไป จวงจื่อที่สะบัดมือกลายเป็นแสงพาศิษย์ของเขาหายไปต่อหน้าทุกคนในทันที.
"ใครชนะ?"
"ไม่รู้!"
"ไม่เข้าใจเลย!"
....................................
..................
......
การต่อสู้ของหยิงและจวงจื่อ ไม่มีใครเห็นสิ่งที่เกิดขึ้น ไม่มีใครใช้อาวุธออกมา มีเพียงแค่การประทับฝ่ามือกันเท่านั้น นอกจากนี้ยังดูเหมือนว่ายังไม่มีใครใช้พลังเต็มที่ ผลแพ้ชนะอย่างงั้นรึ? ดูเหมือนพวกเขาจะไม่สนใจด้วยซ้ำ.
ทว่ากับการต่อสู้ของหยิงและจวงจื่อ ไม่ว่าอย่างไร การประมือของพวกเขาก็อยู่ในใจของทุกคนอย่างแน่นอน หลังจากวันนี้ ข่าวนี้คงจะกระจายไปทั่วหล้า.
หยิงที่กวาดตามองพื้นที่รอบ ๆ ก่อนที่จะร่อนลงยอดเขา จวงจื่อจากไปแล้ว ตอนนี้ใครจะเป็นคนต่อไป.
เหล่าเซียนบรรพชนต่างก็จ้องมองหน้ากันและกัน ทว่าไม่มีใครเร่งรีบเข้าไป.
บรรพชนเสวี๋ยเหม่ย ประมุขนิกายเสอโห่วและอีกหลายคนที่ยังคงจับจ้องมองไปยังยอดเขา.
หยิงที่อยู่บนยอดเขา ไป๋ฉีที่แสดงความเคารพ ทว่าไม่ได้กล่าวสิ่งใดออกมา.
ในเวลาเดียวกัน ที่บนยอดเขาหมอกสีดำทมิฬที่มากมายก่อนหน้านี้ค่อย ๆ สลายหายไปเผยให้คนใครบางคนที่อยู่ตรงกลาง.
ชายในชุดสีดำ กำลังถือธวัชขนาดใหญ่สิบสามสีอยู่.
"เซิ่งหวัง โชคดีที่ไม่ล้มเหลวในภารกิจ!"กุยกูซือกล่าวออกมาเบา ๆ .
ไม่ล้มเหลวในภารกิจอย่างงั้นรึ? เหล่าผู้ฝึกตนมากมายที่เผยท่าทางสงสัย.
หยิงที่รับ ธวัชเจาเหยามา.
ธวัชเจาเหยาที่มีอยู่ด้วยกันสิบสามสี และมีอักขระมากมายสลักอยู่รอบ ๆ .
"อืม!"หยิงพยักหน้ารับ.
มีคนสามคนที่บินออกไป ทุกคนที่จับจ้องมองไปยังธวัชเจาเหยาในมือหยิง ทว่าไม่มีใครเร่งรีบเข้าไปแย่งชิงมา.
กับความแข็งแกร่งของคนที่ถือธวัชเจาเหยา ไม่มีใครกล้าเข้าไปแย่งชิงแน่.
หยิงที่กวาดตามองผู้ฝึกตนที่อยู่รอบ ๆ ทันใดนั้น หยิงก็โยนธวัชเจาเหยาลอยโด่งขึ้นไปบนท้องฟ้าในทันที.
"พวกเราไป!"หยิงที่กล่าวออกมาอย่างไม่แยแส.
จากนั้น กุยกูซือ ไป๋ฉีก็ตามไป ขณะที่สายตาของทุกคนได้จับจ้องมองด้วยความงงงวย.
ผู้คนมากมายที่จับจ้องมองสิ่งที่เกิดขึ้นด้วยความตกตะลึง จริงหรือเท็จ? หยิง? เขาไม่ต้องการธวัชเจาเหยาอย่างงั้นรึ?
ทุกคนที่อยู่รอบ ๆ กลายเป็นเงียบงัน ทุกคนที่จ้องมองไปยังทิศทางที่หยิงจากไป ก่อนที่จะมองไปยังธวัชเจาเหยาที่ร่วงหล่นลงมาจากท้องฟ้าช้า ๆ ! ไม่เข้าใจ หยิงมีปัญหาอะไร เขาไม่แม้แต่ลังเลเข้าต่อกรกับเซียนบรรพชนสามคน หลังจากที่ได้ธวัชเจาเหยา ทำไมเขาถึงได้ทิ้งมันไป?
ใครรู้บอกข้าที ทำไม?
ทุกคนเต็มไปด้วยความประหลาดใจ แน่นอน บางคนที่คิดถึงคำพูดของกุยกูซือ โชคดีที่ไม่ล้มเหลวในภารกิจ เขาไม่พลาดในภารกิจ หากแต่เป้าหมายของหยิงคืออะไร หรือเพียงต้องการถ่วงเวลา ให้กับกุยกูซืออย่างงั้นรึ?
ทุกคนที่เปลี่ยนเป็นเงียบงัน ธวัชเจาเหยาเวลานี้กำลังร่วงหล่นลงมาจากบนท้องฟ้า ทุกคนที่ได้สติค่อย ๆ จับจ้องมองไปยังธวัชเจาเหยา.
มันได้ร่วงหล่นลงไปพุ่งไปยังทิศทางของชายในชุดสีม่วง ประมุขนิกายจื่อเซียว.
ประมุขนิกายจื่อเซียวก็พบว่าธวัชเจาเหยาได้พุ่งลงมายังทิศทางของตัวเอง.
หรือว่านี่เป็นลิขิตสวรรค์อย่างงั้นรึ?
ลิขิตสวรรค์อย่างงั้นรึ? คิดถึงลิขิตสวรรค์ที่เกิดขึ้นแล้ว ประมุขนิกายจื่อเซียวที่ตื่นเต้นก่อนหน้านี้ กับรู้สึกเย็นยะเยือบ ตลอดหลายเดือนมานี้ ประมุขนิกายจื่อเซียวรู้สึกหวาดกลัวต่อลิขิตสวรรค์ เขาต้องพบกับความโชคร้ายอยู่ตลอด โชคร้ายที่ราวกับว่ามันรุมเร้าเขาอยู่ตอลดเวลา ธวัชเจาเหยาที่พุ่งมานี้เขากำลังโชคดีอย่างงั้นรึ? ไม่ใช่ว่ามันคือโชคร้ายหรอกรึ?
ประมุขนิกายจื่อเซียวที่กวาดตามองไปรอบ ๆ เวลานี้สายตาแห่งความโลภของผู้คนมากมายกำลังเปล่งประกาย สายตาของแต่ละคนเต็มไปด้วยความชั่วร้ายจ้องมองมายังทิศทางของประมุขนิกายจื่อเซียว!
ประมุขนิกายจื่อเซียว"@#¥%...... &\;*!”