ตอนที่แล้วChapter 949 3 เส้นทางสู่นรก.
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 951 ความแข็งแกร่งของไป๋ฉี

Chapter 950 หยิงและจวงจื่อ


ภพหยิน เมืองซ่าง

ที่ด้านหน้าของตำหนักปู่ซือนั้น จงซานที่ยืนอยู่ด้านหน้า พิมพ์เขียว เป็นพิมพ์เขียวของธวัช 13 สีขนาดใหญ่!

"เซิ่งหวัง ท่านมั่นใจว่า ธวัชเจาเหยามีรูปร่างเป็นเช่นนี้!"อี้เหยี่ยนกล่าวออกมาด้วยความเคารพ.

"อืม!"จงซานพยักหน้ารับ.

ธวัชเจาเหยานั้น เป็นสมบัติของนวีหวาในอดีต แม้ว่าจะไม่มีใครเคยครอบครอง ทว่ารูปร่างของมันนั้นมีคนหลายคนเคยเห็น เหมือนกับชุดกระบี่สังหารเซียน ที่มีคนสร้างชุดกระบี่สังการเซียนเลียนแบบขึ้นหลายชุด.

"หนานกงเซิ่ง หนี่ปู่ซา!"จงซานเอ่ย.

"เฉินอยู่นี่แล้ว!"คนทั้งสองที่รับคำในทันที.

"เกี่ยวกับพิมพ์เขียวนี้ ให้สร้างธวัชเจาเหยาเลียบแบบขึ้น ไม่ต้องมีความสามารถใด ขอให้เหมือน มีกลิ่นอายที่คล้ายกัน มีค่ายกลปกปิดตัวตนให้คนไม่สามารถเห็นโดยง่ายก็พอ."จงซานกล่าว.

"รับทราบ!"คนทั้งสองที่รับคำในทันที.

ของเลียนแบบ? เป็นของปลอมเพื่อตบตา!

"สร้างขึ้นมาให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ และให้เร็วที่สุดด้วย ทางที่ดี! หลังจากที่เจ้าสร้างต้นแบบขึ้นได้ ให้ส่งต่อไปยังเหล่าเสนาธิการที่มีฝีมือ ช่วยสร้างธวัชเจาเหยาออกมาให้ได้มากที่สุด!"จงซานที่ออกคำสั่ง

"รับทราบ!"

ภายในภพหยาง ขณะที่ทุกคนกำลังค้นหาธวัชเจาเหยากันอย่างบ้าคลั่ง ส่วนจงซานนั้นได้เริ่มสร้างของปลอมขึ้นมาเรียบร้อยแล้ว.

หากมีใครในภพหยางรับรู้เรื่องนี้ คงจะพูดไม่ออกอย่างแน่นอน.

หากใครพบเจอของปลอมของจงซานล่ะก็ ก็คงช่วยอะไรไม่ได้.

บรรพชนเสวี๋ยเหม่ยเคยกล่าวไว้ว่าธวัชเจาเหยานั้นจะถูกส่งไปยังคนหลาย ๆ คน ทว่าก็จะมีส่วนหนึ่ง ผ่านมือมายังเขาด้วย ด้วยความแข็งแกร่งของเขา แน่นอนว่าไม่สามารถปกป้องมันเอาไว้ได้แน่ นี่คือสิ่งที่จะช่วยสร้างความสับสนให้กับผู้คนเพื่อให้เขาเอาตัวรอดได้หากว่าของจริงผ่านมาในมือของเขา.

------------------------------------------------------------------

ภายในภพหยินที่สร้างธวัชเจาเหยาเลียนแบบขึ้น ส่วนภพหยาง จงซานที่รอคอยอย่างอดทน ท้ายที่สุดก็ผ่านไปอีกสามเดือน.

จงซานและโหลวซิงเฉินบินไปยังทิศทางหนึ่ง.

"เซิ่งหวัง มีเผ่าอสูรมากมายสัมผัสได้ว่าธวัชเจาเหยานั้นปรากฎขึ้นที่ทิศเหนือ พวกเราไม่รีบไปอย่างงั้นรึ?"โหลวซิงเฉินที่กล่าวออกมาด้วยความสงสัย.

"รีบรึ? รีบไปก็ไร้ประโยชน์ แน่นอนว่าทางเหนือคงจะเกิดการไล่ล่าสังหารกันแล้ว ธวัชเจาเหยานั้นไม่มีทางหนีไปใหน เหล่าผู้ฝึกตนมากมายที่จับจ้องอยู่ พวกเขาจะยอมกันง่าย ๆ อย่างงั้นรึ?"จงซานที่กล่าวอย่างไม่แยแส.

"ครับ!"

"มีข่าวอะไรเพิ่มหรือไม่?"จงซานสอบถาม.

"อรหันต์โบราณหลั่นเติ้ง ทุก ๆ วันเขาจะถูกไล่ล่า ครึ่งเดือนที่แล้ว เขาได้รับบาดเจ็บหนัก มีคนสามถึงสี่คนที่ไล่ล่าเขาไม่หยุด และหนีออกจากโลกนวีหวาไปแล้ว!"โหลวซิงเฉินกล่าว.

"หลั่นเติ้งหนีไปแล้วรึ? ก็ดี ซือหม่าหยวนและประมุขนิกายจื่อเซียวล่ะ?"จงซานสอบถามออกไป.

"นับตั้งแต่ค่ายกลโถมังกรหลับพังทลาย ซือหม่าหยวนก็ถูกเซียนโบราณนับสิบรุมสกรัมได้รับบาดเจ็บหนัก ร่างกายบอบช้ำไปทั่วร่าง หนีออกจากโลกนวีหวาไปแล้ว ส่วนประมุขนิกายจื่อเซียวไม่มีข่าวเลย! บางทีอาจจะหนีไปแล้วก็ได้!"โหลวซิงเฉินตอบ.

"อืม!"

คนทั้งสองไม่ได้รีบเร่งตรงไปยังด้านเหนือ สองวันหลังจากนั้น ทั้งคู่ก็เห็นพื้นที่สังหาร.

พื้นที่รอบ ๆ นั้นเต็มไปด้วยศพ สมบัติปราชญ์เทพนับเป็นส่งที่ยั่วยวนผู้คนทั่วหล้า ที่ไกลออกไปยังปรากฎผู้ฝึกตนมากมายกำลังเดินทางมา พวกเขาต่างก็ร่อนลงไปยืนที่ยอดเขา และจ้องมองไปยังพื้นที่ตรงกลาง.

ที่พื้นที่ตรงกลาง ภูเขาลูกหนึ่ง ที่มีขนาดไม่สูงนั้น ปรากฎแสงประกายวับวาว แสงสีทองที่ส่องประกาย ทำให้คนไม่กล้าเข้าไป ราวกับดวงตะวันก็ไม่ปาน แสงสว่างเจิดจรัสเป็นอย่างมาก.

แสงสีทองที่ส่องประกาย ทำให้มิติอากาศสั่นไหวเป็นระลอก ไม่ น่าจะเป็นห้วงมิติที่กลายเป็นระลอกคลื่นแผ่ออกมารอบ ๆ มากกว่า ราวกับผืนทะเลคลั่ง พื้นที่รอบ ๆ พังทลายกลายเป็นชิ้น ๆ  และที่รอบ ๆ เวลานี้เต็มไปด้วยยอดฝีมือไร้คู่เปรียบ.

ยอดฝีมือมากมายที่ต้องการพุ่งเข้าไป ทว่า ก็ไม่มีใครสามารถทำได้ เพราะว่าการต่อสู้ที่หนักหน่วงรุนแรงนั้นยังไม่จบ.

ทุกคนที่ทำได้แค่หยุดอยู่รอบ ๆ เท่านั้น.

ยอดฝีมือมากมายเต็มไปหมด จงซานสามารถบอกได้ว่ากว่าครึ่งปีมานี้ เหล่ายอดฝีมือไร้คู่เปรียบได้รอคอยอยู่ด้านนอกโลกนวีหวาได้เขามาแล้ว.

ก่อนหน้านี้การช่วงชิงเตาฟ้าดิน มีเพียงกลุ่มเซียนโบราณเท่านั้น ทว่าที่นี่กลับกลายเป็นกลุ่มของเซียนบรรพชน!

ทิศตะวันตก บรรพชนชราเสวี๋ยเหม่ย และศิษย์ของเขายึดครองอยู่! ส่วนทิศใต้เป็นประมุขนิกายเสอโห่ว! และยังมีเหล่ายอดฝีมือของนิกายเสอโห่วอีกหลายคน  ตลอดจนบนยอดเขาอื่น ๆ ที่กระจายไปรอบ ๆ มีคนมากมายที่จงซานไม่รู้จัก.

สถานที่แห่งนี้กลายเป็นที่สนใจภายในโลกนวีหวา เหล่ายอดฝีมือมากมายต่างก็เดินทางมาด้วยเหตุผลเดียวกัน.

เพราะว่าที่นี่มีธวัชเจาเหยา!

จงซานและโหลวซิงเฉินมาหยุดอยู่ที่ยอดเขาแห่งหนึ่ง เพื่อมองไปยังที่ใจกลาง จงซานกวาดตามองพบกับใครบางคนที่ดูคุ้นหน้า.

ประมุขนิกายจื่อเซียว! ไม่ใช่ว่าเขาหนีไปแล้วรึ?

"เซิ่งหวัง ที่ตรงกลางมีเซียนบรรพชนต่อสู้กันอยู่อย่างงั้นรึ?"โหลวซิงเฉินที่เอ่ยออกมาด้วยท่าทางหวาดหวั่น.

"อืม ออกไปสอบถามก่อน จะได้รู้ว่าเป็นใคร!"จงซานกล่าวออกมาเบา ๆ .

ที่ไกลออกไป จงซานมารถสัมผัสได้ถึงแรงกระแทกที่ทะลวงไปถึงจิตใจและวิญญาณ.

"ตูมมม~~~~~~~~~~~~~~~~~~!”

ประกายแสงสีทองที่ส่องประกายแสงสว่างจ้า สายตาของทุกคนที่จ้องมองตาเขม็ง ทว่ากลับไม่สามารถมองเห็นสิ่งต่าง ๆ ด้านในเลย.

พลังที่หนักหน่วงรุนแรงแผ่ออกมาเป็นระลอกคลื่น แรงสะท้อนที่ราวกับคลื่นสึนามิระเบิดออกมาทุกทิศทุกทาง.

แรงกระแทกนั้นทรงพลังน่าเกรงขาม แรงกดดันสนามพลังที่ม้วนกวาดออกไปนับล้านล้านลี้ เหล่าผู้ฝึกตนที่มีระดับพลังฝึกตนต่ำเองถึงกับลอยละลิ่วออกไปหลายพันลี้เช่นกัน.

ทรงพลังมาก นี่คือการต่อสู้ของเซียนบรรพชนอย่างงั้นรึ?

พลังจิตจากบัวหงหลวนที่ไหลแผ่พุ่งไปยังสายตาของจงซาน ขณะที่จงซานจ้องมองไปยังที่ไกลออกไป วิถีสวรรค์สีดำที่แข็งแกร่งทรงพลังและวิถีสวรรค์สีทองที่หนักหน่วงทรงพลัง.

จากนั้นแสงสีทองที่ค่อย ๆ สลายหายไปช้า ๆ  สายตาของทุกคนที่ค่อย ๆ มองเห็นสิ่งที่เป็นอยู่.

จากนั้น ที่กลางอากาศปรากฎคนสองคนที่ลอยอยู่.

ชุดราชวงศ์สีดำ สวมมงกุฎหยกสีดำล้วน ใบหน้าที่ดูเคร่งขรึม.

หยิง! นั่นคือหยิง!

จงซานที่จับจ้องมองไปยังหยิงที่ลอยอยู่บนอากาศ ร่างกายของเขามีวิถีสวรรค์สีดำคลุมอยู่.

ร่างกายที่คลุมด้วยวิถีสวรรค์ เซียนบรรพชน หยิง!

หยิงที่เต็มไปด้วยความภาคภูมิจดจ้องมองไปยังฝั่งตรงข้าม.

ฝ่ายตรงข้ามนั้นเป็นชายในจีวรสีทอง ที่บนศีรษะนั้นปรากฎประคำสีทองกระจายอยู่รอบ ๆ  ส่องประกายแสงสีทองมากมาย ส่องแสงเจิดจ้า!

ช่างน่าเสียดาย บนใบหน้าของเขามีโลหิตไหลย้อยมาจนถึงคาง ก่อนที่จะร่วงหล่นลงไปบนพื้น.

"เทพอรหันต์จินพ่ายแพ้อย่างงั้นรึ?"เสียงของผู้คนที่ส่งเสียงอุทานออกมาเสียงดังในทันที.

เทพอรหันต์จิน เห็นชัดเจนว่าประคำขนาดเล็กบนศีรษะหลายแห่งแตกออกมา จนมีโลหิตไหลออกมาด้วย.

แม้แต่เทพอรหันต์จินยังพ่ายแพ้อย่างงั้นรึ? คนผู้นี้เป็นใครกัน?

"อามิตตาพุท หลวงจีนผู้ต่ำต้อยพ่ายแพ้แล้ว! นับจากนี้จะเลิกคิดเกี่ยวกับธวัชเจาเหยา!"เทพอรหันต์จินที่โค้งคำนับออกมาเล็กน้อย.

"อืม! เจ้านับว่ายอดเยี่ยมเช่นกัน!"หยิงพยักหน้าอย่างเฉยเมย.

"ใคร่ขอทราบนามประสกได้หรือไม่?"เทพอรหันต์จินที่เอ่ยถามออกไป.

"ต้าฉิน หยิง!"หยิงที่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.

สำหรับเหล่าผู้ฝึกตนที่แข็งแกร่ง หยิงควรค่าที่จะให้ความเคารพ และยกย่อง.

"เช่นนั้นขอลา!"เทพอรหันต์จินที่พยักหน้ารับ.

จากนั้นเทพอรหันต์จินก็โบกมือ ที่บนยอดเขากลุ่มของหลวงจีนก็บินตามไปช้า ๆ .

หยิงที่ชายตามองไปยังทิศทางของเทพอรหันต์จินจากไปเล็กน้อย.

พื้นที่รอบ ๆ  หยิงกวาดตามอง เหล่าผู้ฝึกตนมากมายที่ได้แต่ก้มหน้า ไม่มีใครกล้าที่จะท้าทายเขา.

ในเวลาเดียวกันนี้ จงซานที่พบยอดเขาที่หยิงประจำอยู่.

ที่ยอดเขาดังกล่าว มีคนสองคน เป็นไป๋ฉี! แม้ว่าไป๋ฉีจะแข็งแกร่ง ทว่าก็ยังมีระดับเซียนโบราณ เมื่อต้องเผชิญหน้ากับเซียนบรรพชน จึงเป็นหยิงที่ออกไปรับมือ.

ที่มุมหนึ่งของหุบเขานั้น ที่จริงถูกปกคลุมไปด้วยหมอกสีดำ ภายในหมอกสีดำนั้น ปรากฎภาพเงาของอสูรมากมายล่องลอยไปทั่ว.

จงซานที่จ้องมองอยู่เล็กน้อย ในเวลานั้น โหลวซิงเฉินที่ออกไปหาข้อมูลก็กลับมา.

"เซิ่งหวัง ได้สอบถามชัดเจนแล้ว ธวัชเจาเหยานั้นได้ปรากฎขึ้นแล้ว ภายในหมอกสีดำนั้นน่าจะเป็นกุยกูซือที่เซิ่งหวังเอ่ยถึง เป็นไปได้ว่าเขากำลังหลอมธวัชเจาเหยาอยู่ หรืออย่างอื่น คนอื่น ๆ เองก็ไม่รู้เช่นกัน ทว่าเหล่ายอดฝีมือที่กำลังมารวมตัวกัน นี่เป็นครั้งที่สองแล้วที่หยิงล้มเซียนบรรพชน! ขับไล่พวกเขาออกไป!"โหลวซิงเฉินที่กล่าวออกมาด้วยจริงจัง.

"ล้มเซียนบรรพชนสองคนแล้วอย่างงั้นรึ?"จงซานที่สูดหายใจลึก.

ผู้แข็งแกร่งเมื่อแปดหมื่นปีที่แล้ว จงซานรับรู้ว่าหยิงเจิ้งนั้นแข็งแกร่งขนาดใหน เขาที่เข้าไปล่องลอยในดินแดนฝันด้วยวิชาลับ สวรรค์ลี้ลับและฝึกฝนด้วยดวงวิญญาณพร้อมกับเหล่าข้าราชบริพาร แหวกว่ายไปบนกระแสเวลา จนเขาเติบโตก้าวไปถึงระดับเซียนบรรพชน แน่นอนว่าย่อมเหนือกว่าเซียนบรรพชนทั่วไปอย่างแน่นอน.

หยิงที่ลอยอยู่บนท้องฟ้า สายตาที่จ้องมองไปรอบ ๆ  กลิ่นอายที่ข่มขู่แผ่ออกมา เขาที่สามารถล้มเซียนบรรพชนได้สองคนแล้ว นับจากนี้ย่อมต้องกลายเป็นที่รู้จักต่อคนทั่วหล้าอย่างแน่นอน.

นี่อาจจะเป็นการต่อสู้เปิดตัวครั้งแรก ภายในโลกใบใหญ่แห่งนี้.

หยิงที่จดจ้องมองไปรอบ ๆ  ราวกับว่าจะสอบถามใครต้องการที่จะต่อสู้คนต่อไป.

ท้าทายเหล่ายอดฝีมือที่อยู่รอบ ๆ !

"ต่อไปเป็นใคร?"หยิงที่กล่าวออกมาอย่างไม่แยแส.

เสียงที่ไม่ดังนัก ทว่าเสียงดังกล่าวนั่น กลับเต็มไปด้วยการคุกคามคนทั่วหล้า ใครที่กล้าออกมาต่อสู้?

ผ่านไปนานเหมือนกัน! หากแต่ไม่มีใครเลยที่จะกล้าออกมาท้าทาย.

หยิงร้ายกาจยิ่งนัก!

ภายในใจของทุกคนที่สั่นกระเพื่อม ท้ายที่สุดก็มีใครบางคนก้าวออกมา.

ชายในชุดสีขาว รูปร่างหน้าตาเหมือนกับปุถุชนอายุ 60-70 ปี ผมสีดำแซมขาว หางคิ้วทั้งสองที่ยาวทิ้งลงไปพร้อมกับชายผม.

เป็นชายชราที่ดูใจดีมีเมตตา ดวงตาเปล่งประกาย ไร้ซึ่งความหวาดกลัว ท่าทางเต็มไปด้วยเชาว์ปัญญา.

"จวงจื่อ นี่คือจวงจื่อ! "เสียงของใครบางคนที่เอ่ยออกมาในทันที.

"เป็นจวงจื่อจริง ๆ  เขาคือจวงจื่ออย่างงั้นรึ!"

"จวงจื่อ คนที่ใกล้เคียงปราชญ์เทพ?"

..............................

........................

............

เสียงดังอุทานออกมาไม่หยุด คาดไม่ถึงเลยว่าการชนะสองครั้งของหยิง จะเป็นการเรียกจวงจื่อออกมา.

จวงจื่อนับเป็นคนที่มีชื่อเสียงในโลกใบใหญ่เป็นอย่างมาก เป็นเซียนบรรพชนที่มีคุณสมบัติเป็นปราชญ์เทพได้.

"เขาคือจวงจื่ออย่างงั้นรึ?"จงซานที่แสดงท่าทางสนใจไม่น้อย.

จงซานที่เคยพบครั้งหนึ่งที่ทะเลอ้าวไล ทว่ามันเป็นการใช้สัมผัสเทวะยึดครองร่าง ไม่สามารถมองเห็นใบหน้าท่าทางของจวงจื่อได้.

"เช่นนั้นใครจะชนะกัน?"

"เป็นจวงจื่อแน่นอน เขาคือคนที่เข้าใกล้ปราชญ์เทพแล้ว!"

"ก็ไม่แน่ ข้าคิดว่าหยิงแข็งแกร่งกว่า!"

........................

............

หลาย ๆ คนที่เผยท่าทางสงสัย หลาย ๆ คนที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้น หยิงกำลังปะทะจวงจื่อ? ถึงแม้ว่าจะไม่ได้ครอบครองธวัชเจาเหยา เพียงแค่เห็นการต่อสู้ของสุดยอดฝีมือก็คุ้มค่าแล้ว.

"ต้าฉิน หยิง? กายาเจียงเฉิน? นานมาแล้วไม่ปรากฎกายาเจียงเฉินในโลกใบนี้ พรตเต๋าผู้ต่ำต้อยจวงจื่อ ขอคำชี้แนะด้วย!"จวงจื่อกล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.

จวงจื่อที่เป็นเซียนบรรพชนไร้ซึ่งความอหังการ ท่าทางของเขาที่เผยออกมาอย่างเรียบง่าย สบาย ๆ ไร้ซึ่งการยึดติด เต็มไปด้วยอัธยาศัย แตกต่างจากหยิงที่เต็มไปด้วยพลังอำนาจการคุกคาม.

[ จวงโจวฝันผีเสื้อ (庄周梦蝶 : จวงโจวเมิ่งเตี๋ย) ]

จวงโจว คือ “จวงจื่อ” (庄子) นักปรัชญาและผู้ศึกษาลัทธิเต๋าที่มีชื่อเสียงในยุคจ้านกว๋อ (战国 ประมาณ 2200 – 2500 ปีก่อน) เนื้อความของ “จวงโจวฝันผีเสื้อ” นี้ นำมาจากคัมภีร์ “จวงจื่อ บทฉีอู้ลุ่น” (庄子·齐物论) ซึ่งเขียนโดยจวงจื่อเอง มีความว่า

“อดีตกาลจวงโจวฝันว่าเป็นผีเสื้อ ผีเสื้อซึ่งโบยบินอย่างเริงร่า ช่างเบิกบานสุขอุราเสียนี่กระไร! ไม่รู้ว่าตัวคือจวงโจว ทันใดได้ตื่นขึ้น กลับตกตะลึงข้าคือจวงโจว ไม่ทราบจวงโจวฝันเป็นผีเสื้อ หรือผีเสื้อฝันเป็นจวงโจว? จวงโจวกับผีเสื้อ ย่อมต้องแตกต่าง นี่เรียกว่าตัวเราแลสิ่งอื่นรวมรั้งแลแปรเปลี่ยน”

ในบทนี้ จวงจื่อได้ใช้คารมที่โรแมนติกบรรยายถึงความคิดที่ว่าคนเราไม่สามารถแบ่งแยกความจริงกับความฝันและความเป็นความตายกับการแปรเปลี่ยนเป็นสิ่งอื่นอย่างเด็ดขาดได้ ผ่านการบรรยายเหตุการณ์จวงโจวฝันว่าตนได้กลายเป็นผีเสื้อ

ที่มา https://www.facebook.com/sureepornpub/posts/1369605796477049/

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด