Chapter 944 ร่างสถิตขุนเขา.
ค่ายกลโถมังกรหลับที่ปกคลุมท้องฟ้า กินบริเวณกว้าง พื้นที่รอบ ๆ มีผู้ฝึกตนมากมายรายล้อมกระจายไปทั่วทิศ ปรากฎคนมากมายมาหยุดอยู่ด้านนอก.
"นี่คือค่ายกลฮวงจุ้ย? ใครมาสร้างค่ายกลเพื่ออะไร?"คนผู้หนึ่งที่กล่าวออกมาด้วยความสงสัย.
"เพราะสมบัติที่หายไปของนวีหวา เตาฟ้าดิน!"คนผู้หนึ่งที่เอ่ยออกมาในทันที.
"เตาฟ้าดิน? เตาฟ้าดินอยู่ด้านในอย่างงั้นรึ?"
"ใช่ ก่อนหน้านี้ข้าได้รับข่าวมาเช่นกัน เพราะว่าข้ามาไม่ทัน อืม หากว่ามาทัน บางทีข้าคงจะต้องเข้าไปต่อสู้แย่งชิงเตาฟ้าดินด้านในได้แล้ว."คนผู้หนึ่งเอ่ย.
"ล่าช้าอย่างงั้นรึ? ด้วยความเร็วของเจ้านะรึ? ไม่คิดว่าเจ้าจะติดทองบนหน้าตัวเอง แล้วทำไมมาหยุดที่ตรงนี้!"อีกคนที่เอ่ยออกมาด้วยรอยยิ้ม.
[往自己脸上贴金 [wǎng zìjǐ liǎn shɑng tiē jīn]ติดทองบนหน้าตนเอง หมายถึงสำคัญตัวเอง ยกย่องตัวเอง]
"เจ้าไม่เชื่ออย่างงั้นรึ?!"ชายคนดังกล่าวที่ใบหน้าเปลี่ยนเป็นสีแดง เร่งรีบเอ่ยออกมาทันที.
"ข้าจะเข้าไปด้านใน!"อีกคนที่กล่าวออกมาในทันที.
"เข้าไป อย่าได้คิด! ก่อนหน้านี้มีเซียนโบราณที่พยายามทะลวงเข้าไปด้านในแต่ก็ไม่สามารถทำลายค่ายกลได้ รอก่อนดีกว่า หลังจากพวกเขาแย่งชิงสังหารกันหมดเรียบร้อยแล้ว จะต้องมีคนนำเตาฟ้าดินออกมาแน่ เมื่อถึงเวลานั้นเจ้าก็ยังมีโอกาส!"
..................
............
......
ที่ด้านนอกค่ายกลโถมังกรหลับนั้นปรากฎยอดฝีมือมากขึ้นและก็มากขึ้นเรื่อย ๆ ต้องไม่ลืมว่าค่ายกลขนาดใหญ่นี้มันได้กลายเป็นจุดสนใจต่อผู้คนเป็นจำนวนมาก.
ส่วนประมุขนิกายจื่อเซียวยอมแพ้เลิกต้านหมอกเหลือง ยอมกลายเป็นมังกรเหลืองพร้อมกับไปรวมเป็นพลังให้กับซือหม่าหยวน.
หลังจากที่ประมุขนิกายจื่อเซียวผสานร่างเข้ามา ซือหม่าหยวนก็รู้สึกดีขึ้นในทันที สามารถกลับมาควบคุมมักกรยักษ์ได้อีกแล้ว.
แม้นว่าจะไม่ราบรื่นเหมือนครั้งแรก ทว่าก็ยังสามารถควบคุมได้อยู่ดี.
"โฮก~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~!”
มังกรเหลืองที่คำรามออกมาเสียงดัง กงเล็บที่ใหญ่ยักษ์ตวัดพุ่งตรงไปยังหลั่นเติ้งในทันที.
หลั่นเติ้งที่นั่งสมาธิอยู่ บนศีรษะของเขานั้นมีตระเกียงน้ำมันอยู่ เขาที่พยายามที่จะทำให้พลังฝึกตนของตัวเองเสถียรกลับไปอยู่ในอาณาเขตเซียนบรรพชนให้ได้.
เขามีเพียงแค่ต้องทำให้ตัวเองเสถียรเท่านั้น ภายในใจของหลั่นเติ้งเต็มไปด้วยความเศร้า ตัวเองโชคร้ายขนาดนี้เลยรึ? เขตแดนเซียนบรรพชน? ในประวัติศาสตร์หากว่าเลื่อนไปยังเขตแดนบรรพชนแล้ว ไม่มีทางจะลดระดับลงมาได้ เว้นแต่จุติเกิดใหม่เท่านั้น.
เห็นพลังฝึกตนของตัวเองที่ยังไม่มั่นคง สวรรค์ นักบวชผู้ต่ำต้อยใช้เวลาหลายแสนปีเพื่อก้าวไปถึงเซียนบรรพชน! ได้ไปทำผิดบาปอะไรกัน?
หลังจากที่มันเริ่มเสถียรขึ้นมาบ้าง หลั่นเติ้งก็หยุดลงในที่สุด ไม่ใช่ว่าสำเร็จ ต้องบอกว่าความเสถียรและล่มสลายอยู่ในภาวะสมดุล หากบอกว่ามันเถียร แต่ก็พร้อมจะลดลงไปยังเซียนโบราณได้ทุกเมื่อเช่นกัน มันหยุดเพียงแค่ชั่วคราว มีสัญญาณที่จะลดระดับลงในทุกครั้ง.
"ตูมมม~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~!”
เกิดระเบิดเสียงดังสนั่น กงเล็บมังกรที่โจมตีมายังโล่ของหลั่นเติ้ง.
โล่เปลวเพลิงจากตะเกียงน้ำมันลุกโชนอย่างรุนแรง ราวกับว่าจะพังทลายลงในทุกเมื่อ.
หลั่นเติ้ง "@#¥%...... &\;*”
ภายในใจของหลั่นเติ้งเต็มไปด้วยความเกลียดชัง ซือหม่าหยวน เจ้าสารเลว!
"ตูมมม~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~!”
กงเล็บมังกรที่ฟาดออกมาอีกครั้ง ห้วงอากาศที่สั่นเป็นระลอก โล่ตะเกียงน้ำมันไม่สามารถทนได้อีกต่อไป มันส่งเสียงดังกึกก้อง ก่อนที่จะระเบิดดังลั่น และกลายเป็นริ้วแสงพุ่งกลับมายังร่างของลั่นเติ้ง หลั่นเติ้งที่สะบัดฝ่ามือออกไป.
เส้นแสงสีแดงที่พุ่งไปยังมังกรเหลือง.
เกิดระเบิดดังสนั่น.
ฝ่ามือของหลั่นเติ้งที่ผลักให้มังกรเหลืองถอยหลังกลับไป ด้วยอำนาจของเซียนบรรพชนนั่นเอง.
"ฟี่ ๆ ~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~!”
ฝ่ามือที่กระแทกให้มังกรเหลืองลอยกลับไป ทว่าร่างของหลั่นเติ้งก็สั่นไหวไปมา ทันใดนั้นหลั่นเติ้งก็เงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้า.
"ไม่~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~!”
หลั่นเติ้งเงยหน้ามองท้องฟ้าพร้อมกับคำรามออกมาเสียงดัง เซียนโบราณ เขากลับมายังเขตแดนเซียนโบราณ ร่วงหล่นจากอาณาเขตเซียนบรรพชนเรียบร้อยแล้ว.
ด้วยการใช้ความพยายามมาหลายแสนปี เพียงแค่หนึ่งกระบวนท่าเมื่อกี้นี้ ทำให้ความโศกเศร้าที่หนักหน่วงรุนแรงจนทำให้เขาร้องตะโกนขึ้นไปบนท้องฟ้าด้วยความเสียใจ.
ซือหม่าหยวนกลายเป็นงงงวย ฝ่ามือของหลั่นเติ้งที่ทำให้เขาลอยถอยออกมา ก่อนที่ดวงตาจะปล่อยจิตสังหารที่รุนแรงออกมา พร้อมกับพุ่งตรงเข้าไปหาหลั่นเติ้งใหม่อีกครั้ง.
"ตูมม!" "ตูมม!" "ตูมม!" ..................
ด้วยการโจมตีที่เต็มไปด้วยจิตสังหารพร้อมที่จะสังหารเขาได้ทุกเมื่อ หลั่นเติ้งที่สงบใจเข้ารับมือกับมังกรเหลืองทันที เซียนโบราณขั้นปลาย พลังของเซียนโบราณที่ไม่สามารถเคลื่อนย้ายอำนาจวิถีสวรรค์ ทำให้พลังความแข็งแกร่งแตกต่างจากเซียนบรรพชนอย่างลิบลับ.
หลั่นเติ้งที่กำลังโกรธเกรี้ยวเป็นอย่างมาก พลังฝึกตนที่ร่วงหล่นจากเซียนบรรพชน เขาที่ต้องการแก้แค้น จึงโจมตีออกไปอย่างบ้าคลั่ง แม้นว่าการโจมตีของเขาจะถูกสลายไปทันที แต่ก็ยังคงโจมตีออกไปไม่หยุด.
ซือหม่าหยวนที่เห็นหลั่นเติ้งอ่อนกำลังลง ภายในใจก็รู้สึกดีเล็กน้อย ขณะที่เขากำลังทุ่มกำลังเต็มที่ ซือหม่าหยวนก็รู้สึกไม่ดีขึ้นมาในทันที.
มังกรเหลืองยากที่จะควบคุมได้อีกครั้งแล้ว ยิ่งเวลาผ่านไปก็ยิ่งควบคุมได้ลำบาก.
แต่นั่นอาจจะไม่ใช่เรื่องที่สำคัญที่สุด สิ่งสำคัญที่สุดที่ทำให้ซือหม่าหยวนรู้สึกหวาดหวั่นขึ้นมาในทันที ปราณของมังกรเหลืองในเวลานี้กำลังลดลงอย่างรวดเร็ว! เป็นเช่นนี้ได้อย่างไร? ปราณมังกรเหลืองกำลังสลายหายไปอย่างงั้นรึ?
มังกรเหลืองที่อ่อนแอลงเรื่อย ๆ การโจมตีของหลั่นเติ้งกลับดูทรงพลังมากขึ้นเรื่อย ๆ เช่นกัน.
ท้ายที่สุด ซือหม่าหยวนก็เริ่มถูกหลั่นเติ้งกดดัน.
ไม่ใช่ว่าค่ายกลโถมังกรหลับมีการเตรียมการเอาไว้อย่างสมบูรณ์หรอกรึ? ใครกัน? ใครที่ทำให้เกิดเรื่องผิดพลาดนี้ขึ้น?
"โฮกก~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~!”
มังกรเหลืองที่โกรธเกรี้ยวเงยหน้าขึ้นท้องฟ้า คำรามออกมาเสียงดัง หลังจากจบเรื่องนี้แล้ว ซือหม่าหยวนขอปฏิญาณว่าเขาจะต้องเอาเรื่องคนที่ทำผิดพลาดนี้แน่ และลงโทษมันอย่างรุนแรง.
หลั่นเติ้งยังคงโจมตีออกมาไม่หยุด.
"ตูมมมมม~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~!”
มังกรเหลืองที่ระเบิดออกมาเสียงดังสนั่นหวั่นไหว.
จากภายด้านนอกค่ายกลขนาดใหญ่ได้ล่มสลายลงทันที ทุกอย่างหายไปแล้ว.
"เร็วเข้า ค่ายกลฮวงจุ้ยพังทลายลงแล้ว พวกเราเข้าไปด้านในเร็วเข้า!"
"ไปเร็วเข้า อย่าได้ให้ใครนำเตาฟ้าดินหนีไปได้!"
"จะไม่มีใครแย่งข้าได้!"
....................................
..................
......
เหล่าผู้ฝึกตนมากมายที่พุ่งเข้าไปด้านใน.
มังกรเหลืองได้ล่มสลายลงแล้ว ซือหม่าหยวนและประมุขนิกายจื่อเซียวที่เผยร่างกลับมาอีกครั้ง สายตาของหลั่นเติ้งที่ดุเดือดจ้องมองโจรร้ายทั้งสอง.
เมื่อมังกรเหลืองพังทลายลงเหล่าผู้ฝึกตนมากมายที่ร่วงหล่นกระเด็นไปทุกทิศทาง หลายคนที่หมดสติลง หลาย ๆ คนที่ค่อย ๆ ฟื้นสติคืนกลับมา.
"ซือหม่าหยวน? จื่อเซียว? เจ้าสารเลว!"หลั่นเติ้งที่คำรามออกมาเสียงดัง ทั่วร่างกายของเขาปรากฎเปลวเพลิงที่ลุกโชนอย่างหนักหน่วงรุนแรง.
การต่อสู้ใหม่เริ่มขึ้นอีกครั้ง หลั่นเติ้งที่เข้าต่อสู้กับซือหม่าหยวนและประมุขนิกายจื่อเซียว.
เหล่าผู้ฝึกตนด้านนอกจำนวนมากก็ยังคงพุ่งเข้ามาด้านใน ส่วนผู้ฝึกตนที่ร่วงหล่นลงบนพื้นก็ค่อย ๆ ฟื้นกลับคืนมา เหล่าเซียนโบราณทั้งหมดที่ฟื้นกลับมา สายตาของทุกคนกำลังโกรธเกรี้ยวอย่างรุนแรงจ้องมองไปยังคนสามคนที่กำลังต่อสู้กันอยู่ โดยเฉพาะซือหม่าหยวน!
ความโชคร้ายของซือหม่าหยวนกำลังจะเริ่มอย่างเป็นทางการแล้ว.
-------------------------------------------------------------------------
อีกฝั่งหนึ่ง จงซานในหุบเขาแห่งหนึ่ง ภายในเตาฟ้าดิน!
จงซานและสองร่างที่อ่อนระทวยเปลือยเปล่า ความรู้สึกของจงซานที่ราวกับว่ากำลังถูกกัดกินไปทั่วร่าง.
"ฮือ!"
"ฮือ!"
"อา~~~~~~ ~~~~~~~”
เสียงลมหายใจหนักหน่วงสอดผสานดังก้องอยู่ในหูของจงซาน คนทั้งสามที่อยู่ในพลังงานสีชมพูโดยสมบูรณ์.
พลังสีชมพูมากมายที่ทะลวงผ่านเข้าไปในร่างของจงซาน พร้อมกับช่วยหล่อเลี้ยงบัวหงหลวนที่หน้าผากของเขาไปมา.
อำนาจที่น่าเกรงขาม เหนือล้ำ แม้แต่บัวหงหลวนเทียนของจงซานก็ไม่สามารถที่จะทานได้.
จงซานที่อยู่ในสภาพสะลึมสะลือ ได้เข้าสู่สภาวะดื่มด่ำลึกล้ำ จงซานรับรู้ว่าเสื้อผ้าทั่วร่างของตัวเองถูกฉีกออกทั้งหมด ร่างกายของเขาที่ไม่สามารถควบคุมตัวเองได้.
ร่างที่เนียนนุ่มโลมเล้าอยู่ในอ้อมกอด ถูไถกอดเกี้ยวร่างของจงซานไม่หยุดหย่อน.
จงซานที่เหมือนอยู่ในความฝัน ตาพร่ามัว โลหิตที่สูบฉีดทั่วร่าง รู้สึกราวกับได้ยินเสียงแผ่นดินเลื่อนอยู่เป็นระยะ ๆ .
ภาพลวงตา จงซานที่รับรู้ เหมือนกับเห็นภูเขาที่ใหญ่โตผุดขึ้นมา ภูเขาที่เขียวขจี สูงใหญ่ทะลวงหมู่มวลเมฆา ราวกับเป็นเสาที่ค้ำยันสวรรค์เอาไว้.
เทืองเขาชิง เสียงที่ดังกระหึ่มดั่งสายฟ้าฟาดดังก้องในหู หัวใจของจงซานที่สั่นไหวไปมา.
ภูเขาชิง? ภูเขาชิงที่กำลังผุดขึ้นมารึ?
ขณะที่รู้สึกเหมือนเทือกเขาชิงกำลังผุดขึ้นมา จงซานก็ได้ยินเสียงครวญครางที่ดังก้อง!
"อ๊าง~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~!”
เสียงที่ยืดยาว ร่างกายของจงซานที่รู้สึกราวกับอะไรบางอย่างระเบิดออกมา ดังกึกก้องอย่างรุนแรง คอขวดที่กำลังถูกทะลวง ร่างกายที่เผยท่าทางความสุขสมออกมา! อำนาจที่หนักหน่วงกำลังปะทุขึ้นมา.
มันคือภูเขา!
"ร่างสถิตขุนเขา?"เสียงที่เลือนลางดังขึ้นภายในใจของจงซาน ไม่รู้ว่ามันดังมาจากใหนเช่นกัน.
เป็นไปตามสันชาติญาณ จงซานที่ความคิดล่องลอย หัวใจที่ลอยละล่องเลือนลางเปี่ยมล้นด้วยความสุข.
ไม่รู้ว่ามันผ่านไปนานเท่าไหร่ ไม่รู้ว่าเสียงหอบกระเส่าใช้เวลานานขนาดใหน ก่อนที่สติจะกลับคืนมา บัวหงหลวนที่เกิดการเปลี่ยนแปลง.
บัวหงหลวนที่เติบโตขึ้น เวลานี้นอกจากดอกที่บานคลี่ออกมางดงาม ที่ฐานรากดูแข็งแกร่ง รอบ ๆ บัวหงหลวนเวลานี้มีบ่อน้ำที่ใสปรากฎขึ้นอย่างแปลกประหลาด กลายเป็นฐานให้กับบัวหงหลวน.
จงซานที่รับรู้ผ่านบันทึกในเคล็ดวิชาหงหลวนเทียน ขั้นที่เก้า หลุมบ่อบัว วิถีสวรรค์ปรากฎ!
นี่คือเคล็ดวิชาหงหลวนเทียนขั้นที่เก้า? วิถีสวรรค์ปรากฎ?
พลังสีชมพู จงซานรู้สึกว่าสามารถที่จะกระตุ้นการเคลื่อนไหวมันได้ ดูเหมือนว่าพลังงานสีชมพูนี้คือรูปร่างต้นเดิมของมัน พลังของมันที่มีสีชมพู.
พลังสีชมพู? ไม่ใช่ว่ามันคือพลังของเตาฟ้าดินหรอกรึ?
ดูเหมือนว่าโชคจะเข้าข้างจงซานแล้ว พลังงานสีชมพูดังกล่าวนี้ หากมองให้ชัดเจนมันเหมือนกับอสรพิษขนาดใหญ่ เวลานี้มันกำลังเคลื่อนไหวอยู่รอบ ๆ ร่างกายของจงซานเป็นกลุ่มก้อนพลังสีชมพู จากนั้นมันก็เปล่งประกายแสงสีทองออกมา พร้อมกับชำระล้างร่างของจงซาน แสงสีทองที่มากมายมหาศาล พร้อมกับปรากฎภาพเงาของเทพอสูรขึ้นด้วย.
นี่คือปรากฎการณ์ที่เคยเกิดขึ้นเมื่อกำเนิดปราชญ์เทพอย่างงั้นรึ?
อสุรพิษตนนี้ เป็นอำนาจของอสรพิษที่เคยเป็นปราชญ์เทพมาก่อนอย่างงั้นรึ? จ้าวแห่งอสรพิษ? ปราชญ์เทพ? นวีหวา?
พลังงานสีชมพูนี้เป็นอำนาจวิเศษของนวีหวาที่ทิ้งเอาไว้? ในเวลานี้ จงซานที่เข้าใจในทันที นี่คืออำนาจวิเศษของปราชญ์เทพ แน่นอนว่ามันย่อมทรงพลังกว่าหมอกหงหลวนเทียน และหมอกหงหลวนเทียนของเขาก็ได้วิวัฒนาการกลายเป็นพลังสีชมพูแล้ว นี่คือระดับใหม่ของหมอกหลงหลวนเทียน!
สติของจงซานค่อย ๆ แจ่มใสชัดเจนขึ้นเรื่อย ๆ พร้อมกับสูดหายใจลึก เขาสัมผัสได้ว่า อาการบาดเจ็บของเขาหายไปหมดแล้ว พลังฝึกตนทะลวงผ่านระดับไปได้อีกด้วย เขาก้าวไปถึงระดับมหาเซียนแล้ว!
มหาเซียน ขั้นที่สอง!
วิชากายาเทพอสูรเองก็ยกระดับขึ้นเป็นสองขั้น เวลานี้อยู่ในขั้นที่เก้าแล้ว!
จงซานที่ลืมตาขึ้นช้า ๆ เขาพบว่าร่างกายของเขากลายเป็นเปลือยเปล่า นอนอยู่ภายในเตาขนาดใหญ่ รอบ ๆ ร่างกายของเขานั้นมีพลังสีชมพูมากมายกระจายไปทั่ว.
จงซานที่ตื่นตกใจขึ้นมาในทันที นี่เขาทะลวงผ่านระดับอย่างงั้นรึ? ตัดผ่านระดับได้? ทันใดนั้นเขาที่พยายามครุ่นคิดกับความทรงจำที่เลือนลางที่ปรากฎขึ้นในจิตใจอย่างรวดเร็ว.
จงซานที่ฝืนยิ้มออกมา เงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้า ไม่รู้ว่าจะบรรยายความรู้สึกเวลานี้ออกมาอย่างไรดี.
ในเวลาเดียวกัน ที่ด้านนอกเตาฟ้าดิน มีสตรีที่งดงามโดดเด่นยืนอยู่สองคน เซิ่งหวังไท่ชูและกงจูจิวเหว่ย สตรีทั้งสองที่อาบไปด้วยเหงื่อชโลมไปทั่วร่าง ทรงผมกระเซอะกระเซิง ท่าทางของนางเวลานี้ กำลังขบริมฝีปากแน่น ขมวดคิ้วไปมา พร้อมกับหายใจหนักหน่วงจ้องมองไปยังเตาฟ้าดิน ใบหน้าที่เต็มไปด้วยความซับซ้อนไม่รู้ว่าจะเอ่ยอะไรออกมา ไม่รู้ว่าจะแสดงท่าทางเช่นไร ทว่าใบหน้าที่งดงามยั่วยวนก็ยังคงปรากฎขึ้นบนใบหน้าของพวกนาง.