ตอนที่แล้วChapter 929 ความแข็งแกร่งของต้าฉิน.
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 931 ต่อสู้กับเหยี่ยนฮุย

Chapter 930 ยอดฝีมือมากมาย


จงซานที่จ้องมองไปยังเหล่ายอดฝีมือมากมาย แม้ว่าส่วนมากจะไม่รู้จัก ทว่าก็มีหลายคนเช่นกันที่คุ้นเคยดี.

รับรู้ว่าหลาย ๆ คนที่เดินทางมานั้น แม้ว่าจะรู้ว่าทำอะไรไม่ได้มากนัก ทว่าก็ยังคาดหวังว่าจะพบอะไรบางอย่างที่คาดไม่ถึงอยู่ด้วยเช่นกัน.

ในเวลาเดียวกันนั้น ทันใดนั้นจงซานต้องขมวดคิ้วไปมา มีอำนาจวิเศษบางอย่างที่ปกคลุมทั่วร่างในทันที.

สัมผัสนี้ไม่สามารถที่จะบอกกับคนอื่นได้หากว่าไม่ได้สัมผัสกับตัวเอง เป็นความรู้สึกที่ทำให้คนที่ได้รับอึดอัดเล็กน้อย.

ส่วนจงซานนั้นได้รับแผนผังสวรรค์ลี้ลับมาจากหยิง ในเวลานี้เขาสามารถรับรู้ได้ในทันที การพยากรณ์? มีบางคนกำลังพยากรณ์พวกเขาอยู่.

ด้วยแผนผังสวรรค์ลี้ลับ หลายปีมานี้นอกจากพลังฝึกตนแล้ว ทักษะดังกล่าวของเขาได้ก้าวมาถึงชั้นที่ห้าแล้ว สามปีที่แล้วเขาสามารถทะลวงผ่านจากขั้นสี่มายังขั้นห้า กล่าวให้ถูกล่ะก็ ตราบเท่าที่ไม่ใช่ปราชญ์เทพพยากรณ์ เขาสามารถสัมผัสได้ในทันที.

มีใครบางคนกำลังพยากรณ์เขา? นอกจากนี้ด้วยสัมผัสของทักษะสวรรค์ลี้ลับแล้ว คนดังกล่าวยังอยู่ไม่ไกลอีกด้วย.

ที่นี่?

ขณะที่ภายในใจของจงซานบริกรรมคาถาวิถีสวรรค์ลี้ลับ ร่างกายที่สั่นไหวไปมา ชะตาวิถีที่ขยับไปมาเล็กน้อย รอบ ๆ ร่างกายของจงซานปรากฎหมอกสีขาวผุดออกมาในทันที วิชาลับสวรรค์ลี้ลับที่รบกวนวิถีสวรรค์ในทันที!

จงซานที่ชำเลืองมองไปยังยอดเขาสูงแห่งหนึ่งที่อยู่ไกลออกไป.

บนยอดเขาสูงนั้น มีชายในชุดสีขาวมากมายยืนอยู่ บนเสื้อของพวกเขามีรูปดอกเหมยปักอยู่รอบ ๆ  ที่ใจกลางมีชายชราผู้หนึ่ง ที่รูปร่างดูเหมือนกับบัณฑิตผู้คงแก่เรียน ขณะที่มือของเขาที่กำลังทำมุทราชี้ตรงออกไป ทำไมไม่รู้นิ้วของเขานั้นได้ชี้มายังทิศทางของพวกเขา.

ชายชราผลขาวเล็กน้อยเผยท่าทางอัศจรรย์ใจ จดจ้องมองมายังทิศทางจงซาน.

"ชายชราคนนั้นเป็นใครกันที่สวมชุดสีขาวลายดอกเหมย?"จงซานที่จ้องมองไปยังกงจูจิวเหว่ย.

"บรรพชนชราเสวี๋ยเหม่ย ที่ตำหนักดาราของเหนียงเหนียงนวีหวาเขาได้ชักนำเหล่าเซียนโบราณมากมายไป เขาเป็นคนที่เผยข้อมูลต่าง ๆ ให้กับเซียนโบราณ บรรพชนชราเสวี๋ยเหม่ยนั้นเป็นผู้ฝึกตนช่วงชิงชะตา เขามีวิชาพยากรณ์ที่ร้ายกาจและแม่นยำมาก!"กงจูจิวเหว่ยกล่าว.

"บรรพชนชราเสวี๋ยเหม่ย?"จงซานที่ขมวดคิ้วไปมาเล็กน้อย จ้องมองออกมาด้วยสายตาเย็นชา.

ที่ไกลออกไปนั้น บรรพชนชราเสวี๋ยเหม่ยที่จ้องมองมายังจงซาน ขมวดคิ้วไปมาเล็กน้อย พร้อมกับเผยยิ้มอย่างมีเลิศนัย.

แสดงท่าทางเป็นมิตรรึ? จงซานไม่เชื่อว่าบรรพชนชราเสวี๋ยเหม่ยที่จะเป็นมิตร ไม่เช่นนั้นคงจะไม่พยากรณ์เขา รุกล้ำความเป็นส่วนตัว นี่มันเป็นเรื่องที่ไร้มารยาทเป็นอย่างมาก.

จงซานที่จ้องมองไปยังทิศทางของบรรพชนชราเสวี๋ยเหม่ย แม้ว่าจะรู้สึกโกรธเกรี้ยว ทว่าก็ต้องพยักหน้ารับอย่างสุภาพเช่นกัน.

"บรรพชนชราเสวี๋ยเหม่ย? ดูเหมือนว่าจะจ้องมองมายังเจ้านะ!"หยิงที่กล่าวออกมาอย่างเฉยเมย.

"อืม!"จงซานพยักหน้ารับ.

แน่นอนว่าจงซานรู้ดีว่าเรื่องนี้คงจะไม่จบง่าย ๆ แน่.

จงซานที่ทำการตรวจสอบเหล่ากลุ่มอิทธิพล พวกเขาเองต่างก็จ้องมองมายังจงซานเช่นกัน ต้องไม่ลืมว่าการเคลื่อนไหวของไป๋ฉีก่อนหน้านี้ดูไม่ธรรมดา แม้แต่เฟิงซิงอวิ๋นยังจดจ้องมองมา.

เหล่าเซียนโบราณย่อมไม่กล้าเร่งรีบพุ่งเข้าไปอีกอย่างแน่นอน ต้องไม่ลืมว่าเฟิงซิงอวิ๋นที่ขวางทางอยู่นั้น มีแต่จะเป็นการสร้างความอับอายให้กับตัวเอง ไม่มีใครต้องการสร้างความอับอายให้กับตัวเอง นอกจากนี้ประมุขนิกายเสอโห่วที่แข็งแกร่งที่สุดยังไม่ได้ออกมาด้วยซ้ำ.

ใครกันคือประมุขนิกายเสอโห่ว มีน้อยคนนักที่เคยเห็น แม้แต่จงซานที่หลายปีมานี้คอยค้นหาข้อมูลของประมุขนิกายเสอโห่วโดยเฉพาะ ทว่ากลับไม่สามารถค้นหาข้อมูลได้เลยสักนิด คนผู้นี้ลึกล้ำมาก.

นี่คืองานชุมนุมใหญ่ที่น่าเกรงขาม เหล่าตัวตนที่น่าหวาดกลัวต่างก็กระจายไปทั่วทุกสารทิศ ทุกคนต่างก็รอคอยสิ่งที่เรียกว่า โลกนวีหวา เปิดออกมา.

หนึ่งเดือน ผู้คนมากมายต่างก็รุมล้อมรอบ ๆ วิหารเสอโห่วอย่างคับคั่ง และดูเหมือนว่าจะหลั่งไหลมาไม่หยุดเช่นกัน.

กับผู้ฝึกตนมากมายมหาศาลเช่นนี้ มีเซียนโบราณปนอยู่เป็นจำนวนมาก ครั้งนี้ไม่มีใครรู้เลยว่าจะมีใครได้รับสมบัติตกทอดของนวีหวา ผู้คนมากมายต่างก็เต็มไปด้วยความสับสน มีการต่อสู้เกิดขึ้นอยู่ทุกวัน เพื่อแย่งยอดเขาสูงที่อยู่พื้นที่รอบ ๆ .

"เฟิงซิงอวิ๋น หนึ่งเดือนมาถึงแล้ว ไม่ใช่ว่าโลกนวีหวาเปิดออกมาแล้วรึ?"หนึ่งในกลุ่มคนที่เอ่ยออกมาในทันที.

ทุกคนเวลานี้ราวกับว่ารอคอยสัญญาณอยู่ ทุกคนที่หยุดนิ่ง จดจ้องมองเป็นสายตาเดียวกันไปยังยอดเขาที่สูงที่สุด.

เฟิงซิงอวิ๋นที่ไม่สนใจแต่อย่างใด ทว่าในเวลาเดียวกันตำหนักที่อยู่ด้านหลังของเขา.

"ครืนนนนน!"ประตูตำหนักที่ค่อย ๆ เปิดออกมา.

ทุกคนรับรู้ในทันทีว่าประมุขนิกายเสอโห่วกำลังจะออกมา.

ออกมาแล้ว ประมุขนิกายเสอโห่วออกมาแล้ว ทุก ๆ ก้าวปรากฎพลังอ่อนนุ่มหมุนวน นี่คือประมุขเสอโห่วดูลึกลับทรงพลัง.

ประมุขนิกายเสอโห่วที่สวมชุดสีดำ ไม่มีใครสามารถมองเห็นใบหน้าได้ บนชุดสีดำนั้น ได้ปักอสรพิษหลากสีอยู่บนชุด เป็นอสูรที่แตกต่างกัน และตรงกลางนั้นมีอสรพิษตัวใหญ่ที่ดูราวกับว่ามีชีวิต.

"นี่มัน?"ซูอาโฝที่เผยท่าทางประหลาดใจ.

"เป็นนางอย่างแน่นอน!"กงจูจิวเหว่ยที่กล่าวยืนยันอย่างหนักแน่น.

จงซานที่จับจ้องมองตาเขม็ง ประมุขนิกายเสอโห่ว? แท้จริงแล้วก็คือ หม่ากู๋?

เมื่อครั้งที่ทะเลอ้าวไล หม่ากู๋ที่นับว่าเป็นคนที่โดดเด่นผู้หนึ่ง? เป็นผู้ฝึกตนช่วงชิงชะตา นอกจากนี้ยังมีวิชาของเผ่าจิ้งจอกด้วย.

หม่ากู๋ที่ก้าวออกมา ไม่มีใครสามารถมองเห็นใบหน้าของนางได้ ทว่าทุกคนที่สามารถมองเห็นรูปร่างของมากที่ดูร้อนแรงมาก ดึงดูดจึงทำให้ดวงตากลมโตได้เลย.

"ประมุข!"เฟิงซิงอวิ๋นที่กล่าวออกมาด้วยความเคารพ.

"ต้องรบกวนเจ้าแล้ว!"หม่ากู๋ที่กล่าวออกมาเบา ๆ .

"เป็นสิ่งที่ควรทำอยู่แล้ว!"เฟิงซิงอวิ๋นกล่าว.

หม่ากู๋พยักหน้ารับ กวาดตามองทุกคนที่อยู่รอบ ๆ  ทันใดนั้น ก็ยกมือขึ้นเล็กน้อย ฝ่ามือที่งดงามของนางที่ยื่นออกไป พร้อมกับส่องประกายแสงออกไปบนอากาศ อสุรพิษหลากสีที่กำลังเคลื่อนออกไปจากลายปักเสื้อของนาง ส่องประกายแสงระยิบระยับอยู่บนนิ้ว.

หลังจากที่ส่องประกายแสงอยู่ราว ๆ หนึ่งก้านธูป ฝ่ามือของนางที่ชี้ขึ้นไปบนท้องฟ้า แสงหลากสีที่พวยพุ่งขึ้นไป กระแทกไปยังกรรมวาสนาที่มากมายมหาศาล.

กรรมวาสนรามากมายในเวลานี้กำลังไหลมารวมกันในทันที.

กรรมวาสนามากมายที่เกิดเสียงดังสนั่นหลอมรวมตัวกัน หมุนวนไปมาอย่างบ้าคลั่ง.

"นางกำลังทำอะไร? หม่ากู๋กำลังจะทำลายกรรมวาสนาบนท้องฟ้าอย่างงั้นรึ?"ซูอาโฝที่กล่าวออกมาด้วยความประหลาดใจ.

ไม่ใช่แค่ซูอาโฝ ทุกคนเองต่างก็เผยท่าทางประหลาดใจด้วยกันทั้งนั้น.

กรรมวาสนามากมายที่กำลังหมุนวนโคจรไปรอบ ๆ  จากนั้นก็รวมตัวกันเป็นเกลียวแสง หมุนวนอะไรบางอย่างอยู่ตรงกลาง ที่ใจกลางอากาศที่ว่างเปล่ากำลังปรากฎอะไรบางอย่างขึ้น ทุกคนที่เผยท่าทางตื่นเต้นดีใจขึ้นมา.

"โลกนวีหวา โลกนวีหวากำลังปรากฎ มันซ่อนอยู่ในกลุ่มเมฆวาสนาอย่างงั้นรึ?"ผู้คนมากมายที่กล่าวออกมาด้วยความตื่นเต้น.

"ครืนน ~~~~~~~~~~~~~~!”

บนท้องฟ้าที่เสียงดังสนั่น เมฆวาสนาที่ระเบิดออกมา เปิดเป็นหลุมขนาดใหญ่ขึ้นที่กลางอากาศ หลุมขนาดใหญ่ที่เชื่อมต่อไปยังโลกเขตแดนแห่งหนึ่ง.

"ตูมมมม~~~~~~~~~~~~~~!”

สายฟ้าจากเมฆวาสนามากมายที่รวมตัวกัน ก่อนที่จะฟาดลงไปยังที่ปากถ้ำ.

ไม่มีใครเร่งรีบไป ทว่ายังคงมองไปยังหม่ากู๋.

หม่ากู๋จ้องมองไปยังอุโมงค์ขนาดใหญ่บนท้องฟ้า จากนั้นก็กล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงโศกเศร้า "นิกายเสอโห่วนับจากนี้ไม่มีอีกต่อไป เหนียงเหนียงจงเจริญ!"

ได้ยินคำพูดทั้งหมด ดวงตาของจงซานที่ส่ายไปมา แม้นว่าคำพูดของหม่ากู๋จะดูคลุมเคลือ ทว่าก็ไม่ยากจะคาดเดา ภารกิจของนิกายเสอโห่วได้จบสิ้นแล้ว การปกป้องสุสานของเหนียงเหนียงนวีหวา นี่คือวันสุดท้ายแล้วอย่างงั้นรึ?

ทุกอย่างที่เกิดขึ้นนี้ดูเหมือนว่าจะเป็นแผนการของเหนียงเหนียงนวีหวาแทบทั้งสิ้น?

"ฟิ้ว!"ร่างในชุดสีขาวที่พุ่งออกไป พร้อมกับกลุ่มผู้ฝึกตนในชุดสีขาวบินตามไปด้วยเช่นกัน.

เป็นบรรพชนเสวี๋ยเหม่ย ได้นำเหล่าศิษย์ของเขา เข้าไปในโลกนวีหวาเข้าไปเป็นกลุ่มแรก.

หลังจากมีคนเข้าไปทดสอบกลุ่มแรกแล้ว หลังจากนั้นก็ทำให้ทุกคนตื่นเต้นดีใจ เร่งรีบตามเข้าไปในทันที.

ศาลเทพไท่ชู ศาลเทพไท่อี้ นิกายจื่อเซียว นิกายหลั่นเติ้ง เหยี่ยนหุย ที่พุ่งตรงเข้าไปในโลกของนวีหวาอย่างพร้อมหน้าเช่นกัน.

ผู้คนมากมายที่บินขึ้นไปบนท้องฟ้า เข้าไปในโลกของนวีหวา พวกเขาต่างก็ต้องการเข้าไปเสี่ยงโชคในสุสานของนวีหวากันทั้งนั้น.

หยิง ไป๋ฉี กุยกูซือและคนอื่น ๆ เองก็บินขึ้นไปในทันทีเช่นกัน.

"จงซาน พวกเราไปกันเถอะ!"กงจูจิวเหวิ่ยที่เอ่ยออกมา.

"รอก่อน!"จงซานที่ส่ายหน้าไปมา.

ทุกคนต้องการค้นหาสมบัติปราชญ์เทพที่หายไปอย่างงั้นรึ? หากเพียงแค่นั้น คงไม่ง่ายที่จะครอบครอง

เวลานี้ควรจะรอให้หม่ากู๋และคนอื่น ๆ กล่าวอะไรออกมาอีกครั้ง.

หม่ากู๋และคนอื่น ๆ ต่างก็รอคอยอย่างใจเย็น กระแสของผู้คนที่เคลื่อนที่เข้าไปกว่าหนึ่งชั่วยาม เหล่าผู้ฝึกตนรอบ ๆ เหลืออยู่ไม่มากแล้ว.

คนของนิกายเสอโห่วเวลานี้ได้บินออกไปเช่นกัน.

ขณะที่บินขึ้นไปบนท้องฟ้า ร่างของหม่ากู๋สั่นไหวไปมาเล็กน้อย ก่อนที่จะจ้องมองลงมายังยอดเขาด้านล่าง ทว่าเพียงแค่มองเล็กน้อย ก่อนที่จะเข้าไปในโลกนวีหวาพร้อมกับศิษย์ของนาง.

จงซานที่จ้องมองไปยังยอดเขาดังกล่าว ที่ยอดเขานั้นมีผู้เยาว์คนหนึ่งในชุดสีขาว ผู้เยาว์ในชุดสีขาวนั้นไม่ได้คิดที่จะเข้าไปในโลกนวีหวา ทว่าจับจ้องมองไปยังกลุ่มคนของนิกายเสอโห่ว ใบหน้าที่เผยยิ้มออกมาเล็กน้อย.

จงซานที่จับจ้องมองไปยังผู้เยาว์ในชุดสีขาวในทันที ทันใดนั้นราวกับว่าสัมผัสได้ถึงบางอย่าง ดูร้ายกาจเกินไปแล้ว ถึงแม้ว่าจะใช้วิชาลับสวรรค์ลี้ลับออกมาแต่ก็ไม่สามารถหยุดการจ้องมองของคนผู้นี้ได้ เขาเป็นใคร?

กงจูจิวเหว่ยที่อยู่ข้าง ๆ จงซานทันใดนั้นก็สั่นไปมา.

"อย่างไร?"จงซานสอบถาม.

"ผู้เยาว์ ผู้เยาว์? ข้าไม่สามารถพูดได้!"กงจูจิวเหว่ยที่เอ่ยออกมาด้วยความประหลาดใจ.

"อย่างไร?"ซูอาโฝที่กล่าวออกมาด้วยความสงสัย.

"นั่น?เอ๊ะ คน?"กงจูจิวเหว่ยที่กล่าวออกมาด้วยความสงสัย.

ผู้เยาว์ในชุดสีขาว หายไป หายไปแปลก ๆ .

"เขามีรูปร่างอย่างไร?"ซูอาโฝสอบถามออกมา.

"รูปร่าง? รูปร่างอย่างงั้นรึ? ข้าจำไม่ได้?"กงจูจิวเหว่ยที่ขมวดคิ้วไปมา.

จงซานเองก็รู้สึกแปลกประหลาดเช่นกัน ตัวเขาเองก็ไม่สามารถจดจำรูปร่างของผู้เยาว์ก่อนหน้านี้ได้ เป็นอะไรที่แปลกประหลาด ทำไมถึงไม่สามารถจดจำได้?

ภายในใจของจงซานที่สั่นไหวไปมา มีผู้ฝึกตนมากมายขนาดใหนที่แปลกประหลาด เข้าไปในโลกนวีหวา?

จงซานที่จ้องมองไปยังหลุมขนาดใหญ่ บัวหงหลวนที่หน้าผากที่กระพริบเปลี่ยนเป็นสีน้ำเงิน นิมิตร้าย!

จากนั้น จากสีน้ำเงินเปลี่ยนเป็นสีแดงในทันทีด้วยเช่นกัน นิมิตดี!

บัวหงหลวนที่เดี๋ยวเป็นสีน้ำเงิน เดี๋ยวเปลี่ยนเป็นสีแดง เปลี่ยนไปมา เป็นอะไรที่ลำล้ำมาก.

มีทั้งนิมิตโชคร้ายและนิมิตโชคดีอย่างงั้นรึ? เป็นอะไรที่คาดไม่ถึงจริง ๆ .

"จงซาน พวกเราไม่ไปรึ? คนอื่น ๆ ไปกันหมดแล้ว!"ซูอาโฝเอ่ย.

"ไป!"

คนทั้งสามที่บินต้องขึ้นไปบนท้องฟ้า ก่อนที่จะผ่านเข้าไปในอุโมงค์ขนาดใหญ่ แล้วมาปรากฎยังโลกใบเล็กอีกใบ.

โลกเขตแดนที่ปราชญ์เทพสร้างขึ้น แม้แต่จงซานหรือคนอื่นก็ตาม ก็ไม่สามารถใช้สัมผัสเทวะตรวจสอบพื้นที่โดยรอบได้ทั้งหมด.

เป็นโลกเขตแดนที่เต็มไปด้วยป่าไม้ที่กว้างใหญ่ไพศาล เหล่าผู้ฝึกตนที่กระจายไปทั่วทุกสารทิศ ทั้งผู้ฝึกตนที่มีระดับต่ำหรือสูง ต่างก็บินออกไปรอบ ๆ กระจายไปทั่ว.

"จงซาน พวกเราจะไปทางใหน?"กงจูจิวเหว่ยที่เอ่ยออกมาด้วยความตื่นเต้น.

"พวกเรา จะต้องหาใครบางคน!"จงซานทีกล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.

"หาใคร?"

"หากลุ่มคนที่เป็นศิษย์ของกงจือ หรือผู้ใต้บังคับบัญชาของเหยี่ยนฮุย!"จงซานกล่าว

"เหยี่ยนฮุย?เซียนโบราณ?"กงจูจิวเหว่ยที่สอบถามออกไปทันที.

"ไป!"

ทั้งสามที่พุ่งตรงไปยังทิศทางหนึ่ง คลื่นลมที่รุนแรงโบกพัดแยกอากาศออกเป็นสองฝั่งในทันที.

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด