Chapter 929 ความแข็งแกร่งของต้าฉิน.
"ไสหัวไปให้พ้น!"ราชันย์กระบี่โลหิตที่เอ่ยออกมาเสียงดัง.
ราชันย์กระบี่โลหิตที่เพิ่งพ่ายแพ้เฟิงซิงอวิ๋น กลายเป็นตัวตลกให้กับคนทั่วหล้า ขณะที่เขากลับมา ยอดเขาที่เขายึดครองก่อนหน้านี้ กลับถูกคนสามคนแย่งไปอย่างงั้นรึ?
ยอดเขาแต่ละยอดเขานั้น ล้วนแล้วแต่เป็นกลุ่มอิทธิพลใหญ่หรือสุดยอดฝีมือ ไม่เพียงบ่งบอกถึงความแข็งแกร่ง ยังแสดงถึงสถานะของพวกเขาอีกด้วย.
ขณะที่ราชันย์กระบี่โลหิตจากมา หลาย ๆ คนเองก็ต้องการยอดเขาดังกล่าวเช่นกัน หากแต่ก็ไม่มีใครกล้าแต่อย่างใด ต้องไม่ลืมว่าราชันย์กระบี่โลหิตอยู่ในระดับเซียนโบราณ ถึงแม้นว่าจะพ่ายเฟิงซิงอวิ๋น ก็ยังถูกนับว่าเป็นเซียนโบราณ.
เซียนโบราณในอาณาเขตเฟิงจงนั้นนับว่าเป็นตัวตนระดับสูง.
ไม่มีใครรู้จักคนทั้งสามที่ปรากฎขึ้นมาในทันที เหล่ากลุ่มอิทธิพลอื่นที่อยู่รอบ ๆ ขมวดคิ้วไปมา หลายคนที่รู้สึกดีใจในความโชคร้ายของคนอื่น.
กับท่าทางโกรธเกรี้ยวของราชันย์กระบี่โลหิตสร้างความสนใจกับผู้คนมากมาย หลากหลายกลุ่มอิทธิพลที่จับจ้องมองมาเป็นสายตาเดียวกัน.
ไม่ว่าจะเป็นใครในเวลานี้ต่างก็จ้องมองไปยังราชันย์กระบี่โลหิต.
หยิงที่ไม่สนใจราชันย์กระบี่โลหิตแม้แต่น้อย สายตาของเขานั้นไร้ซึ่งความสนใจ ราวกับว่ากำลังมองมดปลวกเท่านั้น เหมือนกับว่าราชันย์กระบี่โลหิตนั้นไม่คู่ควรแม้แต่เป็นศัตรูให้กับเขาด้วยซ้ำไป.
"ข้าบอกไสหัวไปให้พ้น ไม่ได้ยินอย่างงั้นรึ?"
ในระหว่างนี้ยิ่งทำให้ราชันย์กระบี่โลหิตโกรธเกรี้ยวยิ่งกว่าเดิม กับท่าทางไม่เห็นเขาอยู่ในสายตา และยิ่งก่อนหน้าพ่ายแพ้ต่อเฟิงซิงอวิ๋น ก็ยิ่งแทบระเบิดความโกรธออกมา นี่ไม่เห็นเขาอยู่ในสายตาเลยอย่างงั้นรึ? นอกจากนี้เวลานี้ผู้ฝึกตนมากมายยังมองมาอีกด้วย หัวใจของเขาที่เต้นไปมาอย่างรุนแรงอัดแน่นเตรียมปะทุออกมา.
หยิงไม่สนใจราชันย์กระบี่โลหิตแม้แต่น้อย เป็นไป๋ฉีที่อยู่ข้าง ๆ เป็นคนเอ่ยออกมา.
"เซิ่งหวังไม่ต้องการเห็นเจ้า ข้าให้เวลาเจ้าห้าลมหายใจ ไปให้พ้นสายตาเซิ่งหวัง! ไม่เช่นนั้น ข้าจะทำลายทั้งร่างกายและวิญญาณของเจ้า!"ไป๋ฉีเอ่ยออกมาเบา ๆ .
กับท่าทางของไป๋ฉีนั้นดูแปลกประหลาดเป็นอย่างมาก เพียงแค่คำพูดธรรมดา ทว่าน้ำเสียงนั้นกับเปื้อนไปด้วยจิตสังหารที่หนักหน่วงรุนแรงมาก ทำให้หัวใจของผู้คนที่อยู่รอบ ๆ ถึงกับเย็นยะเยือบ.
เป็นความอหังการมากมายนัก!
ท่าทางของไป๋ฉีเต็มไปด้วยความอหังการเป็นอย่างมาก ทำให้ทุกคนที่ได้ยินถึงกับตกใจเล็กน้อย คนเหล่านี้เป็นใครมาจากใหนกัน? เพียงแค่ข้าราชบริพารกับพูดจาใหญ่โตขนาดนั้นเลยรึ?
ราชันย์กระบี่โลหิตที่ได้ยินคำพูดอหังการ ถึงกับบอกว่าจะทำลายเซียนโบราณทั้งร่างกายและวิญญาณอย่างงั้นรึ? เรื่องตลกอันใดกัน?
"ฮ่า ฮ่าฮ่าฮ่า! เจ้าจะทำลายทั้งร่างกายและวิญญาณของข้าอย่างงั้นรึ?"ราชันย์กระบี่โลหิตที่เผยรอยยิ้มที่โกรธเกรี้ยวออกมา.
กับยอดฝีมือระดับเซียนโบราณ คาดไม่ถึงเลยว่าจะข่มขู่ออกมาเช่นนี้เลยรึ? แม้แต่ไม่เห็นเขาอยู่ในสายตาด้วยรึ?
ราชันย์กระบี่โลหิตที่ได้รับความอับอายมาก่อนหน้านี้ ในเวลานี้เขาจึงไม่สามารถทนได้อีก แววตาที่เต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยว พร้อมกับนำกระบี่ออกมา ราชันย์กระบี่โลหิตไม่ต้องการจะต่อรองอีกต่อไปแล้ว เขาจะปล่อยให้คนมาลูบคมเขาที่เป็นเซียนโบราณที่สูงส่งได้อย่างไร.
"หมดเวลาแล้ว!"ไป๋ฉีกล่าวออกมาด้วยเสียงเย็นชา.
"ทำลายทั้งร่างกายและวิญญาณอย่างงั้นรึ? เป็นข้าเองต่างหากที่จะทำลายร่างกายและวิญญาณของเจ้า!"ราชันย์กระบี่โลหิตตะโกนออกมาเสียงดังสนั่น.
กระบี่โลหิตในมือของเขาที่ส่องประกายแสงปรากฎคลื่นโลหิตออกมาอีกครั้ง ปราณกระบี่สีแดงโลหิตที่มากมายมหาศาล พวยพุ่งเกิดระเบิดดังสนั่นพุ่งตรงไปยังทิศทางของหยิงและพวก.
สายตาทุกคนเห็น พลางถอนหายใน คนทั้งสามก่อนหน้านี้ไม่ควรที่จะหาเรื่องเข้าตัวตอนนี้มันสายไปแล้ว เมื่อราชันย์กระบี่โลหิตกำลังเต็มไปด้วยความโกรธ เวลานี้ก็ไม่ต่างจากการแส่หาความตาย?
เหล่าผู้ฝึกตนมากมายในเวลานี้รู้สึกหวาดหวั่นกับคลื่นโลหิตที่น่าเกรงขามนี้เป็นอย่างมาก.
เซียนโบราณ นี่คือเซียนโบราณ นับว่าเป็นตัวตนที่แข็งแกร่งจริง ๆ กับความอหังการของพวกเขาก่อนหน้านี้ ก็ไม่ต่างจากการแส่หาความตายเท่านั้น.
เหล่าผู้ฝึกตนมากมายที่หลบเลี่ยง หลีกหนีปราณกระบี่ที่น่าเกรงขามนี้ไป.
"ตูมมม~~~~~~~~~~~~~~~~~!
เกิดระเบิดเสียงดังสนั่น ท้องฟ้าที่ส่องประกายสว่างจ้าราวกับว่ากำลังถูกฉีกแยกออกจากกัน ทุกคนรู้สึกราวกับว่าอากาศกำลังฉีกขาดออกจากกัน ร่างกายที่รู้สึกหนาวเย็น ราวกับจิตสังหารที่รุนแรงกำลังชอนไชเข้ามาในร่าง เป็นจิตสังหารที่รุนแรงมาก กำลังปะทุปกคลุมทั่วท้องฟ้า.
จิตสังหารที่รุนแรงนี้ ทำให้คลื่นปราณโลหิตแตกสลายหายไป แสงสว่างที่เจิดจ้าเกินจะมองเห็นได้ชัดได้ปกคลุมคลื่นโลหิตแทน จากนั้นแสงสีขาวที่สว่างจ้าก็ค่อย ๆ สลายหายไป.
พื้นที่รอบ ๆ ทันใดนั้นเปลี่ยนเป็นนิ่งงัน ความเงียบที่ได้ยินแม้แต่เสียงเข็มตก.
ทุกคนที่อยู่รอบ ๆ ในเวลานี้กำลังสูดหายใจลึก สายตาของทุกคนที่เบิกกว้าง ร่างกายที่สั่นสะท้านชาไปถึงหนังหัว.
บนอากาศ ราชันย์กระบี่โลหิต ที่ในเวลานี้ บนใบหน้าตั้งแต่หัวจรดเท้าปรากฎเป็นเส้นสีแดงตัดผ่านร่างไป.
ทุกคนที่อยู่รอบ ๆ ไม่เพียงหายใจหืดหอบ ดวงตาของพวกขยับส่ายไปมาอย่างบ้าคลั่ง ราชันย์กระบี่โลหิตในเวลานี้ ถูกตัดเป็นสองส่วน นอกจากนี้กระบี่โลหิตของเขายังหักออกเป็นสองส่วนเหลือเพียงแค่ด้ามจับเท่านั้น
กับเส้นแสงที่ตัดผ่านร่างราชันย์กระบี่โลหิต ค่อย ๆ สลายหายไป.
ร่างกายที่ลอยบนอากาศ ที่ขาดครึ่งก่อนหน้านี้ค่อย ๆ ร่วงหล่นลงจากท้องฟ้า ศิษย์ทั้งสี่ของเขาเอง มหาเซียนทั้งสี่เองก็ร่วงหล่นลงมา ตกตายไปพร้อมกันเรียบร้อยด้วยเช่นกัน.
ต่อหน้าของไป๋ฉี ปราณดาบของเขานั้นห่อหุ้มไปด้วยจิตสังหารที่รุนแรง ราชันย์กระบี่โลหิตที่ร่างขาดเป็นสองท่อน ส่วนศิษย์ของเขา มหาเซียนทั้งสี่ ตกตายไปด้วยจิตสังหารที่รุนแรงของเขาด้วยนั่นเอง.
"ฉับ!"เสียงของไป่ฉีที่เก็บดาบของตัวเอง.
ร่างของราชันย์กระบี่โลหิตและศิษย์ทั้งสี่ ร่วงหล่นลงบนพื้น กลายเป็นเศษชิ้นส่วน ก่อนที่จะค่อย ๆ แตกสลายหายไปในทันที.
พวกเขาที่ไม่เพียงถูกไป๋ฉีสังหารไป ทว่าจิตสังหารที่รุนแรงของไป๋ฉี ยังทำให้ร่างกายของพวกเขาแตกออกเป็นเสี่ยง ๆ ไม่ต่างจากผลึกที่เปราะบาง.
เหล่าผู้ฝึกตนที่อยู่รอบ ๆ ถึงกับต้องกลืนน้ำลายคำโตลงไป.
ไป๋ฉีที่คืนกลับไปข้าง ๆ หยิง แสดงท่าทางเคารพออกมาเป็นอย่างมาก.
เรื่องที่เกิดขึ้นนี้ สร้างความตื่นตะลึงอย่างรุนแรงกับผู้คนเป็นจำนวนมาก เป็นคนที่ดุร้าย เป็นยอดฝีมือที่น่าหวาดกลัวยิ่งนัก.
ยอดฝีมือที่ร้ายกาจถึงเพียงนี้เป็นเพียงแค่ข้าราชบริพารอย่างงั้นึ? แล้วราชาของเขาล่ะจะทรงพลังขนาดใหนกัน? และยังมีชายในชุดคลุมสีดำที่อยู่ด้านข้างนั่นอีก.
กว่าจะตั้งสติได้ แววตาของทุกคนที่เผยท่าทางหวาดกลัวเป็นอย่างมากออกมา.
ผู้คนที่อยู่รอบ ๆ ถึงกับถอยห่างออกไป ไม่กล้าเข้าใกล้เลยแม้แต่น้อย พวกเขารับรู้แล้ว ก่อนหน้านี้พวกเขาเองก็มีความคิดที่จะแย่งยอดเขาดังกล่าวด้วยเช่นกัน ทว่ากับคนที่น่าหวาดกลัวทั้งสาม ก็ไม่ต่างจากแส่หาความตายเท่านั้น!
หยิงที่ปรากฎขึ้นบนยอดเขา ทุกคนเข้าใจดีว่า ในเวลานี้โลกเขตแดนของนวีหวา ต้องกลายเป็นเรื่องที่พวกเขาไม่สามารถคาดเดาได้อีกแล้ว.
เหนียงเหนียงนวีหวาราวกับว่าได้คำนวณเอาไว้ดีแล้ว โลกของนวีหวาอย่างงั้นรึ?
ไม่ใช่ว่าการเข้าไปโลกของนวีหวา แม้แต่ระดับเซียนโบราณก็คงต้องตกตายอย่างแน่นอน แม้นว่าเข้าไปได้ก็ไม่รู้ว่าจะมีเรื่องที่ ปฐพีสะท้านสวรรค์สะเทือนเกิดขึ้นหรือไม่?
ว่าแต่ คนทั้งสามนี้เป็นใครกันแน่?
ที่ไกลออกไปนั้น กลุ่มของจงซาน.
"มารดาเถอะ คนทั้งสามนี้ผิดปรกติเกินไปแล้ว? พวกเขาต้องการมาชิงของวิเศษปราชญ์เทพอย่างงั้นรึ? พวกเราจะแย่งกับพวกเขาอย่างงั้นรึ?!"ใบหน้าของซูอาโฝถึงกับบิดเบี้ยว.
ทรงพลังอย่างไม่เคยเห็นมาก่อน เพียงหนึ่งดาบของไป๋ฉี สร้างความตื่นตะลึงต่อซูอาโฝเป็นอย่างมาก.
"ไปกันเถอะ!"จงซานกล่าว.
จงซานกล่าวเสร็จก็บินออกไป ซูอาโฝและกงจูจิวเหว่ยที่บินตามไปทันทีเช่นกัน.
คนทั้งสองที่กลายเป็นงงงวย ทว่าเมื่อเห็นจงซานที่บินตรงไปยังผู้น่าหวาดกลัวทั้งสาม ทำให้ดวงตาของซูอาโฝเบิกกว้างกลมโต.
"จง จงซาน เจ้าทำอะไร? บินไปผิดทางรึไง!"ซูอาโฝที่ถึงกับร้องออกมาในทันที.
"ถูกแล้ว!"จงซานที่ส่ายหน้าไปมา.
"เจ้าต้องการทำอะไร? ต้องการไปแย่งยอดเขาดังกล่าวรึ? ทว่าเจ้าไม่เห็นคนเหล่านั้นรึไง? จงซาน อย่าไป อย่าไปทางนั้น!"ซูอาโฝที่ร้องออกมาด้วยความตกใจ.
จงซานและพรรคพวกที่บินตรงไปยังเส้นทางดังกล่าว ทำให้ดึงดูดสายตาต่อผู้ฝึกตนมากมายขึ้นมาเช่นกัน หลาย ๆ คนที่จ้องมองพร้อมกับตื่นตกใจออกมาเล็กน้อยเช่นกัน.
อะไรกัน? คนทั้งสามทำอะไร? พวกเขาต้องการแย่งยอดเขาดังกล่าวอย่างงั้นรึ? ถึงได้บินตรงไปยังคนที่ร้ายกาจทั้งสามคน?
ที่ไกลออกไปนั้น บนยอดเขาสูง ประมุขนิกายจื่อเซียวที่จับจ้องมองมา เวลานี้เห็นจงซานบินตรงไป ถึงกับต้องขมวดคิ้วไปมา.
"จงซาน? เขากำลังแส่หาความตายอย่างงั้นรึ?"ประมุขนิกายจื่อเซียวที่ตื่นตกใจเล็กน้อย.
ประมุขนิกายจื่อเซียวต่างก็รู้จักจงซานดี พวกเขาหลาย ๆ คนที่เผยสีหน้าท่าทางอัศจรรย์ใจ พวกเขาต้องการทำอะไรกัน?
"นั่นเซิ่งหวังต้าเจิ้ง จงซาน ข้าเคยเห็นเขาที่ทะเลอ้าวไล!"ที่ไกลออกมาชายคนหนึ่งที่เอ่ยออกมาในทันที.
"ทว่า เซิ่งหวังต้าเจิ้งต้องการทำอะไร? ไม่ใช่ว่ากำลังแส่หาความตายหรอกรึ?"
....................................
..................
......
สายตาของทุกคนที่ไม่เข้าใจ จงซานที่บินไปด้านหน้าของหยิง.
ทุกคนที่เปลี่ยนเป็นมองเงียบ ๆ พวกเขากำลังจะสู้กัน?
ทว่าในเวลานี้ หยิงที่ไม่แยแสต่อใคร ๆ ก่อนหน้านี้ เผยยิ้มออกมาเล็กน้อย.
ฟ้าดินที่ราวกับเปลี่ยนเป็นหยุดนิ่ง ทุกคนที่กลายเป็นนิ่งกัน.
"ตาข้าเสียหายไปแล้วรึไง ข้าเห็นอะไรนั่น?"เสียงร้องอุทานออกมา ดังระงมเผยท่าทางตกใจ.
"เขายิ้มอย่างงั้นรึ? กลุ่มคนที่ร้ายกาจกำลังยิ้มอย่างงั้นรึ?"
..............................
..................
......
เป็นไปตามคาดพวกเขาที่เห็นหยิงเผยยิ้มออกมา จงซานเองก็เผยยิ้มอย่างเป็นมิตรเช่นกัน พวกเขากำลังเผยยิ้มทักทายกันและกัน.
"หยิง! ไม่ได้เจอกันนานทีเดียว!"จงซานเอ่ยออกมาด้วยรอยยิ้ม.
ซูอาโฝที่ตามจงซานมาด้านหลัง เขาที่เตรียมหนีตลอดเวลา ตราบเท่าที่คนที่ร้ายกาจทั้งสามเอ่ยออกมาว่า"ไปให้พ้น"ออกมาอีกล่ะก็ รับรองว่าเขาจะม้วนตัวกลับหนีในทันที.
ดูเหมือนว่าพวกเขาจะไม่สู้กัน กับรอยยิ้มของพวกเขา ทำให้ซูอาโฝกำลังจับจ้องมองช้า ๆ .
ทั้งสามที่ร่อนลงที่ยอดเขา.
ในเวลาเดียวกันไป๋ฉีที่ปล่อยม่านป้องกันปกคลุมคนทั้งหกเอาไว้ในทันที ทำให้ผุ้คนที่อยู่รอบ ๆ ด้านนอกไม่ได้ยินเสียงของคนด้านใน.
"เซิ่งหวังต้าเจิ้ง ข้าอ่านคนไม่ผิดจริง ๆ !"หยิงพยักหน้ารับ.
"เจ้าเดินทางมาเพื่อสมบัติที่หายไปของนวีหวาอย่างงั้นรึ?"จงซานที่กล่าวออกมาด้วยความสงสัย.
หยิงที่ส่ายหน้าไปมาพร้อมกับกล่าวออกมาว่า "ไม่ใช่!"
ไม่ใช่อย่างงั้นรึ? ซูอาโฝและกงจูจิวเหว่ยที่เผยสีหน้าแววตาไม่อยากเชื่อ ไม่ได้เดินทางมายังโลกนวีหวาเพื่อสมบัติปราชญ์เทพ แล้วมาเพื่ออะไร?
อย่างไรก็ตามจงซานย่อมเชื่ออย่างแน่นอนเพราะหยิงไม่จำเป็นต้องโกหก สมบัติวิเศษของนวีหวา? หากไม่ใช่สมบัติที่หายไปของนวีหวาแล้ว เขามาเพื่ออะไรกัน?
จงซานที่ไม่ได้เอ่ยอะไรออกมาอีก เพราะว่าต่อหน้าผู้คนมากมาย เป็นไปไม่ได้ที่หยิงจะกล่าวออกมา.
อย่างไรก็ตามด้วยความแข็งแกร่งของหยิง ทำให้จงซานต้องถอนหายใจยาวทีเดียว ร้ายกาจแข็งแกร่งเบ็ดเสร็จ! ความแข็งแกร่งของต้าฉิน น่าเกรงขามมาก ไป๋ฉีที่สังหารเซียนโบราณในทันทีอย่างงั้นรึ? แล้วหยิงล่ะมีความแข็งแกร่งระดับใด?
และอีกคนที่ยืนอยู่ข้างหยิง จงซานสามารถคาดเดาได้อย่างถูกต้อง ผู้ฝึกตนฮวงจุ้ยต้าฉิน กุยกู่ซือ!
นี่คือกลุ่มของคนที่น่าเกรงขามอย่างที่สุด ยิ่งกว่าคนที่อยู่รอบ ๆ นี้อย่างแน่นอน.
จงซานที่กวาดตามองผู้คนที่อยู่รอบ ๆ อีกครั้ง.
ที่ด้านนอกเวลานี้ ผู้คนที่เผยท่าทางสีหน้าเต็มไปด้วยความสงสัยในตัวจงซาน ต้องไม่ลืมว่าก่อนหน้านี้พวกเขาคิดว่าจะเกิดการต่อสู้ใหญ่ ใครจะไปรู้ว่าพวกเขาทั้งสองฝั่งเป็นสหายกันอย่างงั้นรึ?
สายตาของผู้คนมากมายที่เต็มไปด้วยความอิจฉา ทั้งริษยาและสงสัยไปพร้อม ๆ กัน.
จงซานที่กวาดตามอง.
ที่ไกลออกไปนั้นจงซานสามารถมองเห็นคนของศาลเทพไท่ชู เซิ่งหวังไท่ชูและปรมาจารย์หมากซือเหม่ยยืนอยู่บนยอดเขาแห่งหนึ่ง.
อีกหนึ่งยอดเขาเป็นประมุขนิกายจื่อเซียวที่นำคนของนิกายจื่อเซียวมา ทว่าไม่มีจื่อซวินและเฉิงไป่อี้ ไม่ได้เดินทางมาด้วย.
บนยอดเขาแห่งหนึ่ง เซิ่งหวังไท่อี้ที่จับจ้องมองมายังจงซานด้วยความสงสัยเช่นกัน.
ในเวลาเดียวกัน อีกหนึ่งยอดเขา เป็นศิษย์ของกงจื่อที่เคยเดินทางมาสังหารเขาเมื่อครั้งแยกสวรรค์ เหยี่ยนฮุย! เหยี่ยนฮุยที่เดินทางมาพร้อมกับคนของนิกายหงหรู จับจ้องมองมายังทิศทางจงซานด้วยความอยากรู้อยากเห็นด้วยเช่นกัน.
และระหว่างเซิ่งหวังไท่อี้และเหยี่ยนฮุยที่ยอดเขาสูงแห่งหนึ่ง มีกลุ่มหลวงจีน ชายคนหนึ่งที่ท่าทางผอม ดูเหมือนว่าจะเป็นผู้นำของเหล่านักบวช กำลังจ้องมองไปยังจงซาน พร้อมกับขมวดคิ้วไปมาเล็กน้อย.
"นั่นคือคนของนิกายหลันเติ้ง อรหันต์โบราณหลันเติ้ง เขาก็เหมือนกับเซิ่งหวังไท่อี้ เป็นหนึ่งในศิษย์ของปราชญ์เทพหยวนซือ!"กงจูจิวเหว่ยที่กล่าวตอบ.
อรหันต์โบราณหลันเติ้ง?