Chapter 915 สามพันวิถีสวรรค์
ทั่วร่างของกัวซือฝูในเวลานี้เต็มไปด้วยปราณทมิฬที่หนักหน่วงรุนแรง จงซานที่จับจ้องมองไปเห็นเป็นลำแสงขนาดใหญ่สีม่วงที่พวยพุ่งขึ้นท้องฟ้า อำนาจของมันที่ราวกับว่าจะกลืนกินทุกอย่าง.ภายในหัวของจงซาน กล่าวได้คำเดียว.
ยิ่งใหญ่!
ทรงพลังอย่างแน่นอน กัวซือฝูที่กลายเป็นลำแสงสีม่วง กลิ่นอายที่แผ่ออกไปทั่วทุกสารทิศ เต็มไปด้วยพลังแห่งกฎมากมายที่เชื่อมกันอยู่ราวกับใยแมงมุม.
เป็นอะไรที่ยากจะอธิบาย ภายในใจของจงซานที่สัมผัสได้ถึงความน่าเกรงขาม.
กับลำแสงสีม่วงนั้น จงซานราวกับรู้สึกว่าเต็มไปด้วยความยิ่งใหญ่จนต้องหมอบคลานบูชา ภายในใจของเขาถึงกับสะดุ้ง ต้องรู้ด้วยว่า แม้แต่เผชิญหน้ากับปราชญ์เทพยังไม่ทำให้รู้สึกเช่นนี้.
แสงสีม่วงของกัวซือฝูนี้คือสิ่งใดกัน?
ลำแสงสีม่วง ทันทีที่ปรากฏขึ้นก็หายไปเป็นระยะ ๆ ทำให้จิตใจของจงซานสับสนวิงเวียน ความรู้สึกนี้ ไม่ผิดอย่างแน่นอน.
ส่วนปราชญ์เทพในชุดสีแดงที่อยู่ไม่ไกลออกไปจากกัวซือฝู ทันใดนั้นก็กลายเป็นลำแสงสีแดงหายไปในทันทีเช่นกัน ลำแสงสีแดงที่พวยพุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้า จากนั้นก็หายไป.
หลังจากนั้นลำแสงสีม่วงและลำแสงสีแดงก็ปรากฎขึ้นอีกครั้ง ลำแสงทั้งสองที่พุ่งเข้าปะทะกันเสียงดังสนั่น จากนั้นลำแสงสีแดงของปราชญ์เทพก็หายไปอีกครั้ง.
กัวซือฝูกล้าที่จะต่อสู้กับปราชญ์เทพจริง ๆ รึ? ทุกคนที่จับจ้องมองตะลึงงันไปตาม ๆ กัน.
ร่างของทั้งสองหายไปแล้ว กลายเป็นริ้วแสงที่ทรงอำนาจเปี่ยมไปด้วยกลิ่นอายที่น่าเกรงขาม อำนาจที่ยิ่งใหญ่ที่โถมกระหน่ำกดลงมากระจายไปทั่วทุกสารทิศ ไม่สามารถมองเห็นร่างของทั้งสองได้.
ยอดฝีมือไร้คู่เปรียบทั้งสองยังอยู่ที่นี่?
พวกเขาทุกคนที่อยู่ที่นี่พยายามที่จะจากไป ทว่าต่อหน้ากลิ่นอายที่หนักหน่วงรุนแรงที่โถมกระหน่ำลงมา ความรู้สึกที่หนักอึ้งนี้ แม้แต่ลมหายใจยังติดขัด ต้องการจะต่อต้าน หากแต่ก็ไม่สามารถทำได้เลย.
ไม่มีใครสามารถหนีไปไหนได้.
"ฟิ้ว!"
ร่าง ๆ หนึ่งที่ปรากฎขึ้น ที่ข้าง ๆ กายของจงซาน.
ศาลเทพต้าเจิ้ง หวังคู!
"เซิ่งหวัง"หวังคูที่เอ่ยออกมาด้วยความเคารพ.
จงซานที่จ้องมองไปยังหวังคูด้วยความประหลาดใจ.
"เฉินสัมผัสได้แม้นจะอยู่ไกลออกไป ว่ามียอดฝีมือปรากฎขึ้น จึงได้เร่งรีบตามมา ไม่รู้ว่าเขาเป็นใครอย่างงั้นรึ?"หวังคูสอบถามออกไป.
"กัวซือฝู เคยได้ยินหรือไม่?"จงซานสอบถาม.
"ไม่เลย!เฉินไม่เคยได้ยินนามของคนผู้นี้เลย!"หวังคูที่ส่ายหน้าไปมา.
"จะให้กล่าวล่ะก็กัวซือฝูผู้นี้กำลังต่อสู้กับสัมผัสเทวะของปราชญ์เทพ!"จงซานกล่าวตอบ.
"เซิ่งหวัง พวกเรารีบหนีไปเถอะ เฉินมีวิธีพาทุกคนจากไปได้!"หวังคูที่กล่าวอย่างเคร่งขรึม.
มหาเซียน? หวังคูที่เป็นมหาเซียน ทว่าดูเหมือนเขาจะไม่ได้รับผลกระทบอะไรเลย.
จงซานที่ส่ายหน้าไปมา.
"ไม่สามารถหนี หรือจากไปได้!"จงซานที่กล่าวอย่างเคร่งขรึม.
"หืม?"หวังคูที่ไม่เข้าใจ!
"การต่อสู้นี้ หากปราชญ์เทพชนะ ก็ไม่จำเป็นต้องหนีเลย หากกัวซือฝูชนะ ถึงหนีไปก็ไร้ประโยชน์!"จงซานที่ส่ายหน้าไปมา.
สถานที่ตำแหน่งของจงซาน เป็นที่สนใจกับทุกคนเป็นอย่างมาก.
เหล่ามหาเซียนที่มองเห็นหวังคูและจดจำได้ คนผู้นี้คือแม่ทัพของต้าเจิ้งอย่างงั้นรึ? ทำไมเขายังไม่เป็นไร? กลิ่นอายที่ยิ่งใหญ่น่าเกรงขาม ไม่สามารถทำอะไรเขาได้เลยรึ?
เห็นหวังคูที่ยังคงใจเย็น แววตาของเหล่ามหาเซียนที่ส่ายไปมา.
จากนั้น จากพื้นที่ไกลออกไป แสงสีน้ำเงินก็พุ่งมาอยู่ข้าง ๆ จงซานอีก.
"โหลวซิงเฉิน!"เซิ่งซ่างชิงหมิงที่ตะลึงตื่นตกใจถึงกับอุทานออกมา.
ไม่ใช่แค่เซิ่งซ่างชิงหมิง เหล่ามหาเซียนคนอื่น ๆ ถึงกับหวาดผวาขึ้นมาในทันที ใครก็ได้บอกข้าที ว่ามันเกิดสิ่งใดขึ้น?ไม่ใช่ว่าโหลวซิงเฉินตายไปแล้วรึ?ที่นี่ ไม่ใช่ว่าเขาถูกจงซานสังหารไปแล้วรึ?
เขาปรากฎตัวขึ้นมาได้อย่างไร?
วันนี้เหตุการณ์ทุกอย่างที่พวกเขารับรู้ถูกทำลายล้างไปเกือบหมดสิ้น จงซานที่สามารถป้องกันค่ายกลเซียนโบราณข่ายสวรรค์ได้ การปรากฎตัวของกัวซือฝู ปราชญ์เทพมาถึง เรื่องราวในอดีตของต้าโจว กัวซือฝูต่อสู้กับปราชญ์เทพ ตอนนี้ โหลวซิงเฉินยังไม่ตายมีชีวิตอยู่อีกรึ?
"เซิ่งหวัง!"โหลวซิงเฉินที่กล่าวออกมาด้วยความเคารพ.
"‚@#¥%...... &\;*’" ความรู้สึกของทุกคนเวลานี้ยากที่จะบรรยาย ถึงกับต้องสบถออกมาแทน.
ทุกคนแทบหมดสติ มืนงง วิงเวียน สถานการณ์ตอนนี้คืออะไร? ทำไมโหลวซิงเฉินต้องแสดงความเคารพต่อจงซาน? นี่เขายังเป็นยอดฝีมืออันดับหนึ่งของอาณาเขตจวงหลุนอีกรึ? ผู้ใช้ทักษะเทวะเวลา โหลวซิงเฉิน นี่เขายอมจำนนต่อจงซาน? เขาไม่ต้องการนิกายซือกงอีกแล้วรึ? เขายอมที่จะเป็นข้าราชบริพารของจงซานอย่างงั้นรึ?
มีอะไรผิดพลาดหรือไม่?
โลกมันกลับข้างไปแล้ว กับการเปลี่ยนแปลงเรื่องต่าง ๆ มากมาย พวกเขาไม่สามารถตามทันเลยแม้แต่น้อย.
เหล่ามหาเซียนที่จ้องมองหน้ากันและกัน แววตาท่าทางที่กลายเป็นโง่งม จงซานที่แม้แต่ต้านทานค่ายกลเซียนโบราณข่ายสวรรค์เอาไว้ได้ หลาย ๆ คนที่รับรู้ว่าพวกเขากำลังประสบเคราะห์กรรมแล้ว ไม่คิดเลยว่าตอนนี้พวกเขารับรู้แล้วว่าไม่มีโอกาสได้รับชัยชนะเลย.
โหลวซิงเฉินได้กลายเป็นข้าราชบริพารของต้าเจิ้งไปแล้ว?
"เฉินที่อยู่ที่เมืองซ่าง ทันใดนั้นก็รับรู้ได้ถึงจิตสังหารที่รุนแรงที่ทิศทางของตำหนักสังสารวัฏ รับรู้ว่าเซิ่งหวังอยู่ที่นี่ ไม่กล้าที่จะล่าช้า จึงเร่งรีบตามมา ที่นี่เกิดอะไรขึ้นอย่างงั้นรึ?"โหลวซิงเฉินที่ขมวดคิ้วไปมา.
ขณะที่หนี่ปู่ซาข้าง ๆ กำลังจะกล่าวบอกโหลวซิงเฉิน.
"การต่อสู้ของวิถีสวรรค์!"โหลวซิงเฉินที่ขมวดคิ้วไปมา.
"การต่อสู้ของวิถีสวรรค์?"จงซานที่ขมวดคิ้วไปมา.
"ใช่แล้ว แสงสีม่วงที่เซิ่งหวังเห็นและแสงสีแดง คือวิถีสวรรค์ของคนทั้งสอง ร่างของปราชญ์เทพนั้นสามารถที่จะรวมเข้ากับวิถีสวรรค์ได้เป็นเรื่องธรรมดาที่สุด แต่คาดไม่ถึงเลยว่ากัวซือฝูจะสามารถรวมพลังดังกล่าวได้เช่นกัน เขาควรจะเป็นเซียนบรรพชน! ที่เข้าใกล้เขตแดนปราชญ์เทพแล้ว!"โหลวซิงเฉินที่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.
"ร่างของเซียนบรรพชนสามารถที่จะรวมวิถีสวรรค์ได้อย่างงั้นรึ?"จงซานที่ขมวดคิ้วไปมา.
"ไม่ ไม่ใช่เซียนบรรพชนทุกคน เซิ่งหวังคงเคยได้ยิน สามพันวิถีสวรรค์ ซึ่งทั้งสามพันวิถีสวรรค์ล้วนแล้วแต่แตกต่างกัน เป็นอำนาจที่อยู่เหนือขึ้นไปของพลังแห่งกฎ!"โหลวซิงเฉินกล่าว.
"อืม กฎเกณฑ์ฟ้าดินเติบโตเป็นพลังแห่งกฎ ต่อมาก็เป็นพลังแห่งกฎเติบโตเป็น"จงซานพยักหน้ารับ.
"วิถีสวรรค์ภายใต้สวรรค์แห่งนี้เป็นอมตะ สามพันวิถีสวรรค์ ที่แทรกกระจายอยู่ทั่วสวรรค์และปฐพี มีอยู่ทุกที่ ทว่าพวกเราเซียนโบราณนั้นสามารถสัมผัสถึงวิถีสวรรค์ได้แค่ลาง ๆ เท่านั้น สามารถสัมผัสมันผ่านทางพลังแห่งกฎ หากสามารถยกระดับก้าวไปเป็นเซียนบรรพชนได้ ก็จะสามารถมองเห็นวิถีสวรรค์ได้."โหลวซิงเฉินตอบ.
"วิถีสวรรค์ไร้รูปและเป็นนิรันดร์ สามารถมองเห็นได้ด้วยอย่างงั้นรึ?"จงซานที่ขมวดคิ้วไปมา.
"เซียนบรรพชนนั้นสามารถมองเห็นวิถีสวรรค์และนำไปใช้ได้ ทว่ามีเพียงเซียนบรรพชนชั้นสูงเท่านั้นที่สามารถรวมวิถีสวรรค์เอาไว้ในร่างได้ แม้ว่าจะสามารถเก็บไว้ในร่างแต่ก็หาได้สมบูรณ์ แต่ก็ทรงพลังเพียงพอที่จะแยกสวรรค์ได้."โหลวซิงเฉินที่กล่าวออกมาพลางขมวดคิ้ว.
จงซานรับรู้ว่าอำนาจที่สามารถแยกสวรรค์ได้นั้น คือพลังที่สามารถแยกห้วงอากาศ ทรงพลังทำลายล้าง เซียนบรรพชน และต้องเป็นเซียนบรรพชนระดับสูง ผู้ยืนอยู่บนตำแหน่งสูงสุดของเซียน.
"เผ่าอูจะเรียกว่าบรรพชนอู ผู้ฝึกตนผู้ที่แสวงหาความเป็นอมตะจะเรียกว่าเซียนบรรพชน เหล่านักบวชที่แสดงว่าความเป็นนิรันดร์ ก็จะถูกเรียกว่า อรหันต์เทพ ซึ่งมีอยู่ด้วยกันหลากหลายเผ่า การได้ก้าวไปถึงระดับบรรพชน ถือว่าเป็นจุดสูงสุดของการบำเพ็ญ อยู่ท่ามกลางฟ้าดินที่จะก้าวไปเป็นปราชญ์เทพ เก้าหยางหกหยิน."โหลวซิงเฉินตอบ.
"ในเวลานี้กัวซือฝูและสัมผัสเทวะของปราชญ์เทพ พวกเขาต่อสู้กันด้วยวิถีสวรรค์ ดังนั้นทำให้พวกเราไม่สามารถมองเห็นร่างของพวกเขาได้ ทว่าพวกเขายังอยู่ที่นี่ และอยู่ทุกหนทุกแห่ง!"โหลวซิงเฉินที่กล่าวอย่างเคร่งขรึม.
ระหว่างที่โหลวซิงเฉินกล่าวอยู่นั้น ทันใดนั้นห้วงมิติที่สั่นไหวอย่างรุนแรง มิติอากาศที่เป็นระลอกคลื่น แม้แต่ที่ไกลออกไปนั้นยังปรากฎจุดสีดำ จากนั้นก็ค่อย ๆ กลายเป็นหลุมดำ.
แทบจะในทันที หลุมดำที่ใหญ่โตก็ขยายขนาดออกมานับหมื่นหลุมดำ.
นี่คือการต่อสู้ของกัวซือฝูและปราชญ์เทพนั่นเอง.
หลาย ๆ คนที่สั่นสะท้านหวาดกลัวหากแต่กลับไม่สามารถขยับได้.
"เซิ่งหวัง? พวกเราหนีหรือไม่?"โหลวซิงเฉินที่กล่าวออกมาด้วยความเป็นกังวล.
"ตูมมม ~~~~~~~~~~~~~~~~~~!”
ห้วงมิติที่สั่นไหวไม่หยุด ที่ไกลออกไป ภูเขามากมายที่แตกสลายกลายเป็นผุยผงสลายหายไปเป็นฝุ่นถูกลมพัดฟุ้งกระจายไปทั่ว.
ทว่าดูเหมือนจะมีเพียงตำหนักสังสารวัฏเท่านั้นที่ยังคงอยู่ ราวกับว่าปราณทมิฬที่ปะทุออกมานั้นสามารถป้องกันการสั่นสะเทือนของมิติอากาศที่ไม่เสถียรได้.
"อ๊ากกกก!"เสียงของกัวซือฝูที่คำรามออกมาอีกครั้ง.
จากนั้นศพ ๆ หนึ่งที่กำลังร่วงหล่นลงมาจากบนท้องฟ้า.
"คิดจะต่อสู้กับข้าด้วยร่างกายของมหาเซียนอย่างงั้นรึ? เปลี่ยนเป็นเซียนโบราณยังทำอะไรไม่ได้เลย!"กัวซือฝูที่หัวเราะออกมาเสียงดัง.
แสงสีขาวที่ลอยอยู่บนท้องฟ้า สัมผัสเทวะของปราชญ์เทพที่ถูกผลักออกไป.
"กัวซือฝู ต้าโจวล่มสลายไปแล้ว เจ้ามันจองหองเกินไป มีเพียงความตายเท่านั้นที่รอเจ้าอยู่ เจอกันครั้งหน้า เจ้าตายแน่!"แสงสีขาวที่กล่าวเสร็จก็พุ่งจากไปด้วยความเร็วสูง.
"ชิ!"กัวซือฝูที่แค่นเสียงเย็นชา.
"พ่ายแพ้อย่างงั้นรึ?"
แทบทุกคนไม่สามารถยอมรับความจริงนี้ได้ พ่ายแพ้? เป็นไปไม่ได้ ปราชญ์เทพ นี่ปราชญ์เทพพ่ายแพ้? ปราชญ์เทพไม่ควรที่จะพ่ายแพ้.
หัวใจของทุกคนแทบจะส่งเสียงโอดครวญออกมา.
ร่างกายที่ปราชญ์เทพยึดครองก่อนหน้านี้ บิดเบี้ยวร่วงหล่นลงบนพื้น พ่ายแพ้แล้ว ปราชญ์เทพจากไปแล้ว!
กัวซือฝูแข็งแกร่งมาก พวกเขาจะทำอย่างไรต่อไป?
กัวซือฝูที่จ้องมองไปยังทิศทางที่ปราชญ์เทพจากไป สายตาที่เย็นชาจับจ้องมองไปยังทิศทางดังกล่าว จับจ้องมองอยู่นานถึงหนึ่งก้านธูป.
ต้าโจวล่มสลายแล้ว ภายในใจของกัวซือฝูเต็มไปด้วยความเจ็บปวด ไม่มีต้าโจวอีกแล้ว ปราชญ์เทพก่อนหน้านี้เป็นเพียงสัมผัสเทวะเท่านั้น หากต้าโจวยังอยู่ล่ะก็ ข้ากัวซือฝูจะพุ่งตรงไปยังทิศทางของร่างต้นของปราชญ์เทพเลย.
"อ๊าก~~~~~~~~~~~~~~~!”
กัวซือฝูที่เต็มไปด้วยความเจ็บแค้น เขาที่เงยหน้าคำรามออกมาดังลั่น ท้องฟ้าที่สั่นไปมา เกิดลมพายุที่รุนแรงเมฆที่อยู่รอบ ๆ ถึงกับแตกสลายกลายเป็นไอ.
ที่ไกลออกไปนั้นทหารของต้าเจิ้งที่มีพลังฝึกตนต่ำถึงกับหูดับโลหิตไหลออกมา แม้แต่มีคนสลบไปด้วยเช่นกัน.
"เซิ่งหวัง พวกเราจะทำอย่างไรดี?"โหลวซิงเฉินที่กล่าวออกมาด้วยความกังวล.
ดวงตาของจงซานที่ส่ายไปมา เขามีผังจักรพรรดิ ที่ใช้เชื่อมต่อภพหยินหยาง นี่ปู่ซาและคนของเขาที่อยู่ตรงนี้ จงซานสามารถส่งพวกเขาไปยังภพหยางได้ หากแต่ต้าเจิ้ง ศาลเทพต้าเจิ้งในภพหยินล่ะจะทำอย่างไร? เขาจะจากไปได้อย่างงั้นรึ?
กัวซือโฝที่อารมณ์คงที่แล้ว ตอนนี้ถึงเวลาที่ต้องทำตามคำมั่น สังหารทุกสิ่งมีชีวิตในอาณาเขตจวงหลุน.
เป็นความจริง หลังจากที่กัวซือฝูได้คำรามออกมาเสียงดัง สายตาของเขาได้กวาดตามองไปยังทุกคนที่อยู่รอบ ๆ แห่งนี้ การกวาดล้างอาณาเขตจวงหลุน เขาควรจะเริ่มจากที่นี่นั่นเอง.
สายตาของกัวซือฝูที่จับจ้อง แทบจะทุกคนเปลี่ยนเป็นขลาดเขลา.
ปราชญ์เทพยังถูกเขาไล่ไป เหล่ามหาเซียนในที่นี่ถือเป็นอะไรได้!
จิตสังหารที่รุนแรง ความต้องการฆ่าที่ปะทุขึ้น ใครเล่าที่จะสามารถหนีไปได้?
กัวซือฝูที่กวาดตามองสำรวจไปรอบ ๆ ทันใดนั้นคิ้วของเขาที่ขยับไปมา จดจ้องมองไปยังทิศทางของเหยี่ยนฉงจื่อ สายตาที่หรี่เล็กลง.
"หงส์เพลิง? หงทอง พวกเจ้าเผ่าหงส์ทั้งหลาย คาดไม่ถึงเลยว่าจะถูกนำมาลากรถอย่างงั้นรึ? รถเทียมอสูร เป็นของใคร?"กัวซือฝูที่แค่นเสียงเย็นชา.
เสียงที่เย็นชาของเขา ราวกับว่าสายฟ้าฟาดลงบนหู ทำให้หลาย ๆ คนถึงกับวิงเวียน!
"เป็นของข้าเอง!"จงซานที่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.
มหาเซียนแทบทุกคนถึงกับตะลึงงัน จงซานไม่ต้องการมีชีวิตแล้วอย่างงั้นรึ? นอกจากนี้พวกเขายังพบว่าท่าทางของกัวซือฝูจะแสดงท่าทีไม่พอใจเป็นอย่างมาก.
"หงส์เพลิงเป็นอาณาจักรคู่บารมีของเจ้าอย่างงั้นรึ?"กัวซือโฝวแค่นเสียงเย็นชา.
"ไม่ใช่!"จงซานที่ส่ายหน้าไปมา.
"ในเมื่อไม่ใช่ เจ้าบังคับหงส์เพลิงมาลากรถอย่างงั้นรึ? สมควรตาย!"กัวซือฝูที่แค่นเสียงเย็นชา.
“ไม่ใช่ อาวุโส ข้าและคนอื่น ๆ ยินดีมาลากรถให้กับเซิ่งหวังเอง เซิ่งหวังไม่ได้บังคับเลย!”เสียงของหงเพลิงที่อยู่ไกลออกไปเร่งรีบกล่าวออกมาในทันที.
หงส์เพลิงที่เร่งรีบบินมาอย่างรวดเร็ว ดูเหมือนว่ากลิ่นอายที่กัวซือฝูปล่อยอกมานั้นจะไม่ส่งผลใด ๆ ต่อเหล่าหงส์เพลิงเลย.
"ฟิ้ว!"กัวซือฝูที่เคลื่อนที่เข้ามาใกล้พวกเขา.
เหล่าข้าราชบริพารที่ออกมาขวางทางของจงซานเอาไว้รอบ ๆ .
"เป็นถึงหงส์เพลิง กับยินดีมาเป็นเพียงอสูรลากรถ พวกเจ้าไม่รู้จักอับอายบ้างรึอย่างไร?"สายตาของกัวซือฝูที่เผยท่าทางเย็นชา.
ทว่าขณะที่กัวซือฝูเตรียมที่จะลงมือนั้น ใบหน้าของเขาก็เปลี่ยนเป็นซับซ้อนในทันที.
"กลิ่นอายของราชา?"กัวซือฝูที่จ้องมองไปยังจงซานด้วยความประหลาดใจ.
"เจ้าเองก็มีอย่างงั้นรึ?"กัวซือฝูที่จ้องมองด้วยความประหลาดใจไปยังหนี่ปู่ซา.
"บนตัวพวกเจ้าเองก็มีอย่างงั้นรึ? กลิ่นอายของราชา? ราชันย์เทพ?"กัวซือฝูที่จ้องมองไปยังเหล่าหงส์เพลิงที่ก้าวเข้ามาใกล้เช่นกัน.