Chapter 914 กัวซือฝู ผู้ไร้ซึ่งกฎเกณฑ์.
ที่ด้านนอกตำหนักสังสารวัฏ ที่มีกลิ่นอายที่น่าเกรงขามน่าสะพรึงกลัวเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ .
กลิ่นอายของผู้ยิ่งใหญ่ ที่กดทับลงไปแม้แต่ดวงวิญญาณ ทำให้ทุกคนไม่สามารถขยับได้ กลิ่นอายที่มากมายมหาศาล ไร้ที่สิ้นสุด.
กัวซือฝู เขาไม่ได้เก็บกลิ่นอายเอาไว้เลยแม้แต่น้อย หลายแสนปีมาแล้วที่เขาต้องถูกผนึก ในเวลานี้ทำให้เขารู้สึกต้องการปลดปล่อยออกมาอย่างแน่นอน.
แววตาของจงซานที่เผยท่าทางเป็นกังวลขึ้นมาในทันที.
กัวซือฝูที่ได้เคยปฏิญาณตน ว่าหากทะลวงผนึกออกมาได้ เขาจะสังหารคนทุกคนภายในอาณาเขตจวงหลุน! ไม่ให้เหลือแม้แต่คนเดียว แม้แต่หญ้าก็ยังไม่อาจจะขึ้น น้ำสักหยดก็ไม่ให้หลั่งไหล! กว่าหนึ่งร้อยล้านคนจะต้องตายทั้งหมดเพื่อบรรเทาความเกลียดชังในใจของขา.
กับคำสาบานของยอดฝีมือ ไม่มีทางที่จะเห็นใจใคร แม้ว่าหนี่ปู่ซาจะทำลายผนึกให้กับเขา เพราะว่าถึงไม่มีใครช่วยเขา เขาก็ยังสามารถออกมาได้ด้วยตัวเอง! กับบุญคุณเล็กน้อยมีเหรอที่เขาจะใส่ใจ?
หากกล่าวตามความจริง ศาลเทพต้าเจิ้งที่เพิ่งผุดออกมา จะให้ถูกทำลายไปเลยอย่างงั้นรึ?
"อ๊ากก ~~~~~~~~~~~~~~~~!”
กัวซือฝูที่คำรามยาวและดังมาก เสียงคำรามของเขานั้น ส่งผลให้ปราณทมิฬปะทุคละคลุ้งไปทั่วทุกสารทิศ มันระเบิดออกมากระจายไปทุกทิศทาง แม้แต่ศิลาก้อนเล็กก้อนใหญ่ยังระเบิดออกมาเป็นเสี่ยง ๆ กลิ่นอายที่หนักหน่วงรุนแรงมาก จงซานที่อยู่ไกลออกมา ยังทำให้รู้สึกหน้ามืดวิงเวียน.
ภายในรอบ ๆ ตำหนักสังสารวัฏในเวลานี้ พลังของกัวซือฝูที่ระเบิดออกมา กลิ่นอายที่เต็มไปด้วยปราณทมิฬหมุนวนไปทั่วพื้นที่รอบ ๆ ราวกับพายุ.
พายุที่หมุนวนอย่างรุนแรง มองเห็นเป็นรูปมังกรที่ใหญ่โต ดูทรงพลังเป็นอย่างมาก.
จากภายในตำหนักสังสารวัฏเกิดเป็นพายุไซโคลนที่มีความสูงกว่าหนึ่งแสนจั้ง จงซานพบว่ามันมีขนาดใหญ่โตมาก.
สายตาของทุกคนที่จ้องมองไปยังพายุไซโคลนบนตำหนักสังสารวัฏบนยอดสูงในเวลานี้ ปรากฎชายในชุดสีดำทมิฬยืนอยู่.
ชายในชุดสีดำที่ดูยิ่งใหญ่อลังการ ผมของเขาที่ยาวโบกสะบัดไปมา เป็นผมสีขาว ดวงตาทั้งสองข้างที่เต็มไปด้วยความเย็นชา แววตาที่เต็มไปด้วยความเกลียดชัง ไม่แยแสต่อสิ่งใด.
สายตาของเขาที่จับจ้องมองไปยังสิ่งมีชีวิตอื่นไม่ต่างจากมดปลวก.
สายตาดังกล่าวนี่?
คิ้วของจงซานที่ขมวดไปมา จงซานเคยเห็นมาก่อน นี่คือแววตาของเหล่าปราชญ์เทพ ที่ไม่แยแสต่อคนทั่วไป ทว่ากัวซือฝูไม่ใช่ว่าเคยเป็นปราชญ์เทพมาก่อนหรือไม่? สายตาของเขาที่กำลังกวาดตามองไปยังรอบ ๆ ในเวลานี้.
เขาเป็นข้าราชบริพารของราชันย์เทพโจวโหยวยังทรงทรงถึงเพียงนี้ แล้วตัวของราชันย์เทพโจวโหยวล่ะ จะทรงพลังขนาดใหน?
"คารวะอาวุโส!"ผู้ฝึกตนคนหนึ่งที่กล่าวแสดงความเคารพต่อกัวซือฝู.
ดวงตาของกัวซือฝูที่เต็มไปด้วยความเย็นชา เขาไม่สนใจเลยแม้แต่น้อย ทว่าในเวลาเดียวกันนั้นบนอากาศมีบางอย่างที่ทะลวงผ่านเมฆลงมา.
"ตูมมมมมม!"
เสียงระเบิดดังสนั่น เมฆกลายเป็นรู แสงสีขาวที่พุ่งลงมาก กระแทกไปยังมหาเซียนคนหนึ่งในทันที จากนั้นมหาเซียนคนดังกล่าวก็ไร้ซึ่งจิตใจ ร่างกายที่ทิ้งห้อยลง จากนั้นกลิ่นอายที่ทรงพลังยิ่งใหญ่ก็ปะทุออกมา.
กลิ่นอายที่ยิ่งใหญ่ หมุนวนกวาดพื้นที่รอบ ๆ เสียงดังสนั่นหวั่นไหว.
ปราชญ์เทพมาถึงแล้วอย่างงั้นรึ? จงซานที่ตระหนักได้ในทันที ต้องไม่ลืมว่าจงซานเคยเห็นมาหลายครั้งแล้ว.
ปราชญ์เทพภพหยิน? มาถึงเร็วขนาดนี้เลยรึ?
"ตูมมม!"อีกครั้งแล้ว.
อีกลำแสงที่พุ่งตรงไปยังมหาเซียนอีกคนในทันที หลังจากนั้นมหาเซียนอีกคนก็สิ้นสติ ก่อนที่จะลุกขึ้นช้า พลังอำนาจที่ระเบิดออกมาอย่างหนักหน่วงรุนแรงเช่นกัน.
ปราชญ์เทพสองคนมาถึงแล้ว?
นี่คือสัมผัสเทวะของปราชญ์เทพทั้งสองนั่นเอง สายตาของพวกเขาที่จ้องมองไปยังกัวซือฝูที่ยืนอยู่บนตำหนักสังสารวัฏ.
กัวซือฝูที่หันหน้าไปยังปราชญ์เทพทั้งสอง!
"มีปัญหาอะไร พวกเจ้าทั้งสองรีบมาแสดงความยินดีกับข้า ที่ออกจากผนึกได้อย่างงั้นรึ?"กัวซือฝูที่กล่าวด้วยเสียงเย็นชา.
สำหรับปราชญ์เทพแล้ว พวกเขาคือกลุ่มคนที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก ท่าทางของกัวซือฟูที่ให้คุณค่าบ้างเล็กน้อย ทว่าก็ปรากฎจิตสังหารที่รุนแรงแผ่ออกมาด้วยเช่นกัน.
หลังจากนั้นปราชญ์เทพที่สิ่งร่างของชายชุดคลุมสีแดงก็กล่าวออกมาว่า "จิตสังหารที่รุนแรงที่เจ้าปลดปล่อยออกมานั้นข้าสามารถมองเห็นเป้าหมายของเจ้าได้ เจ้าต้องการสังหารคนทั่วทั้งเขตแดนจวงหลุนจริง ๆ รึ?"
"ข้ากัวซือฟูได้ปฏิญาณเอาไว้แล้ว ไม่เคยผิดคำพูด! ข้าบอกว่าหนึ่งก็ต้องเป็นหนึ่ง!"กัวซือฝูที่กล่าวอย่างเคร่งขรึม.
"สวรรค์ดูแลทุกสรรพชีวิต เจ้าทำลายผนึกออกมาได้ นับว่ามีความสามารถ พวกเราก็มีเช่นกัน หากว่าเจ้าต้องการสังหารคนทั่วทั้งเขตแดนจวงหลุน พวกเราคงยอมไม่ได้ พวกเราผู้ดูแลวิถีสวรรค์ ทำให้พวกเราต้องอยู่ที่นี่ เจ้าวางมือเถอะ!"ปราชญ์เทพในชุดสีแดงกล่าวออกมาเล็กน้อย.
"สวรรค์ดูแลทุกสรรพสิ่งอย่างงั้นรึ? คำพูดนี้ออกมาจากปราชญ์เทพ เป็นคำที่ดูจะขัดแย้งจริง ๆ อย่าได้พูดจาไร้สาระอีก วันนี้ ทุกสิ่งมีชีวิตในอาณาเขตจวงหลุนต้องตายทั้งหมด!"กัวซือฝูที่กล่าวออกมาด้วยเสียงเย็นชา.
ปราชญ์เทพที่สิงคนในชุดสีน้ำเงินก็ส่ายหน้าและกล่าวออกมาว่า "เทียนชูได้ตัดสินใจว่าอาณาเขตจวงหลุนยังคงต้องอยู่ ไม่มีทางที่เจ้าจะสังหารคนทุกคนได้!"
"สวีเหยี่ยนเทียน!"กัวซือฝูที่ตะโกนออกไปเสียงดัง.
เห็นชัดเจนว่าสวีเหยี่ยนเทียนก็คือชื่อของปราชญ์เทพนั่นเอง
ทว่าความรู้สึกนี้ทำให้ทุกคนรู้สึกเหลือเชื่อเป็นอย่างมาก จริงหรือเท็จ จากน้ำเสียงของกัวซือฝู? ต่อหน้าปราชญ์เทพ คาดไม่ถึงเลยว่าเขาจะกล่าวเช่นนี้? นี่คือข้าราชบริพารของราชันย์เทพโจวโหยว บ้าคลั่งขนาดนี้เลยรึ?
"เจ้าต้องการขวางข้าอย่างงั้นรึ? เจ้าคิดหรือไม่ว่าตำแหน่งปราชญ์เทพของเจ้านั้นได้มาอย่างไร!"กัวซือฝูที่แค่นเสียงเย็นชา.
ปราชญ์เทพในร่างชุดสีน้ำเงินที่ขมวดคิ้วไปมา.
"ในอดีตที่ซานเฉียน ข้าแนะนำราชันย์เทพยื่นมือช่วยเจ้าสะบั้นชีวิตปราชญ์เทพคนอื่นทำให้เจ้าได้ตำแหน่งปราชญ์เทพไปในเวลานั้น หากไม่มีต้าโจว ไม่มีทางที่จะมีเจ้าในวันนี้ มีปัญหาอะไร?คิดว่าตัวเองไม่มีกรรมผูกติดกับต้าโจวอีกแล้วอย่างงั้นรึ?"กัวซือฝูที่กล่าวออกมาด้วยเสียงเย็นชา.
เหล่าผู้ฝึกตนรอบ ๆ ที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัว กัวซือฝู ได้แนะนำราชันย์เทพโจวโหยว ช่วยเขาสังหารปราชญ์เทพในอดีต? มีคนสามารถสังหารปราชญ์เทพได้อย่างงั้นรึ? เป็นไปได้ด้วยรึ? ปราชญ์เทพเป็นตัวตนที่ไร้เทียมทานในโลกนี้ ปราชญ์เทพถูกคนที่ไม่ใช่ปราชญ์เทพสังหารอย่างงั้นรึ? หากเป็นเช่นนั้น ราชันย์เทพโจวโหยวในอดีตจะทรงพลังขนาดใหน?
คนที่ไม่ใช่ปราชญ์เทพ สังหารปราชญ์เทพอย่างงั้นรึ?
ไม่มีใครอยากเชื่อเลยแม้แต่น้อย มันได้ทำลายความนึกคิดของพวกเขาไป เป็นไปไม่ได้ กัวซูฝูถูกขังอยู่นานแล้วเสียสติหรือไม่?
คาดไม่ถึงเลยว่าจะกล่าววาจาเกินจริงขนาดนี้ ราชันย์เทพโจวโหยวสังหารปราชญ์เทพอย่างงั้นรึ?เป็นเรื่องตลกรึอย่างไร!
ภายในใจของจงซานที่เต้นไปมา ราชันย์เทพโจวโหยว? จริงหรือเท็จกัน?
ปราชญ์เทพสวีเหยี่ยนเทียนที่อยู่ด้านข้างไม่ขยับนิ่งไปในทันที ทุกอย่างกลายเป็นเงียบ.
ในเวลาทุกคนที่กลายเป็นเงียบงันแทบลืมหายใจ ภายในใจที่ไม่อยากเชื่อเรื่องที่เกิดขึ้น นี่เป็นจริงหรือหลอกกัน?
"ราชันย์เทพโจวโหยว ได้นำต้าโจว รวมมือกับปราชญ์เทพทั้งเจ็ด ต่อต้านเทียนชู! คิดการใหญ่เกินไป ยากที่จะค้นหาความเป็นนิรันดร์ได้ เส้นทางดังกล่าวนี้สามารถที่จะเดินผ่านไปได้อย่างงั้นรึ? หากราชันย์เทพโจวโหยวไม่ก้าวไปยังเส้นทางดังกล่าว คงไม่ต้องร่วงหล่น คาดไม่ถึงเลยว่าจะสร้างเรื่องที่น่าตื่นตะลึงเช่นนั้น นับว่าเป็นราชันย์เทพองค์แรกที่กล้าทำเช่นนั้น ทว่าเทียนชูนั้นไร้เทียมทาน ผลสุดท้ายแล้วต้าโจวถึงต้องล่มสลายไปไม่ใช่รึ?"สวีเหยี่ยนเทียนที่กล่าวแย้งออกมา
กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่มีใครรู้มากนัก ทว่ากับคำที่สวีเหยี่ยนเทียนกล่าวออกมานี้ จะต้องเป็นจริงเป็นแน่ ไม่มีทางที่ปราชญ์เทพจะกล่าวโกหก.
ราชันย์เทพโจวโหยว? ช่างเป็นคนที่บ้าคลั่งขนาดนี้เลยรึ? ต้าโจว? ต้าโจวน่าเกรงขามยิ่งนัก.
กับคำพูดของปราชญ์เทพสวีเหยี่ยนเทียน ดูเหมือนว่าราชันย์เทพโจวโหยวจะยิ่งใหญ่มาก ตัวตนของเขาในอดีตทรงพลังถึงกับล่าปราชญ์เทพได้เลยอย่างงั้นรึ?
แน่นอนว่าก่อนหน้านี้ มีหลายคนที่ไม่รู้จักราชันย์เทพโจวโหยวมากมายนัก ทว่าดูเหมือนว่าราชันย์เทพโจวโหยวจะไม่ใช่ปราชญ์เทพ.
เพราะว่า ราชวงศ์วาสนานั้นแตกต่างออกไป ผู้เป็นประมุขของราชวงศ์วาสนาไม่สามารถเป็นปราชญ์เทพได้ เรื่องนี้ทุกคนรับรู้มาตั้งแต่โบราณแล้ว อย่างไรก็ตามถึงประมุขของราชวงศ์วาสนาจะไม่สามารถเป็นปราชญ์เทพได้ก็ตาม ทว่าพลังฝึกตนก็สามารถก้าวไปถึงจุดสูงสุด ด้วยการสนับสนุนจากวาสนา ทำให้กลายเป็นราชันย์เทพได้เช่นกัน.
ราชันย์เทพโจวโหยวไม่ใช่ปราชญ์เทพ หากแต่สามารถสังหารปราชญ์เทพได้ เรื่องนี้ทุกคนราวกับว่าได้ยินเป็นครั้งแรก เรื่องนี้ต้องไม่ใช่เรื่องเท็จแน่เพราะมันออกมาจากปากของสวีเหยี่ยนเทียน.
กัวซือฝูที่จ้องมองด้วยความลึกล้ำไปยังสวีเหยี่ยนเทียน กล่าวออกมาด้วยเสียงเย็นชา "แม้ว่าราชันย์เทพจะพ่ายแพ้ ทว่าความภาคภูมิใจของต้าโจวก็ยังไม่ถูกทำลาย ข้าเป็นข้าราชบริพารของต้าโจวมีศักดิ์ศรีของข้าเอง ข้าไม่เคยคิดที่จะทำลายชื่อเสียงของราชันย์เทพ ข้าไม่ใช่พวกที่ดีแต่ปาก เพียงแค่สัมผัสเทวะของพวกเจ้า คิดว่าจะสามารถข่มขู่ข้าได้รึอย่างไร."
"เจ้าที่ยังไม่ตกตาย ทั้งที่เทียนชูได้ตัดสินใจแล้วว่าราชันย์เทพโจวโหยวนั้นไม่ได้มีพลังเพียงพอที่จะเปลี่ยนเทียนชู เจ้าเองก็ด้วยเช่นกัน!"สวีเหยี่ยนเทียนที่กล่าวออกมาเล็กน้อย.
"สวีเหยี่ยนเทียน เจ้าต้องการขวางทางข้าอย่างงั้นรึ?"กัวซือฝูกล่าวด้วยเสียงเย็นชา.
สวีเหยี่ยนเทียนที่จ้องมองไปยังปราชญ์เทพอีกคน ส่ายหน้าไปมาและกล่าวว่า "เพราะว่าในอดีต ต้าโจว ช่วยให้ข้าได้ตำแหน่งปราชญ์เทพ วันนี้ต้องชดใช้ผลกรรม แม้ว่าจะได้รับผลร้ายตามมา ทว่าข้าและต้าโจวก็มีสัมพันธ์กันจริง ไม่สามารถที่จะเข้าไปยุ่งเกี่ยวได้อีกแล้ว เทียนชูได้ตัดสินใจแล้วแม้ว่าจะมีข้าหรือไม่ ทุกอย่างก็ไม่เปลี่ยนแปลง!"
ระหว่างที่กล่าวจบ สวีเหยี่ยนเทียนที่กลายเป็นแสงสีขาวพุ่งตรงขึ้นสูงท้องฟ้า ร่างของมหาเซียนที่ถูกยึดร่างล้มลงช้า ๆ .
สวีเหยี่ยนเทียนไปแล้ว? นี่เขาไม่คิดที่จะขวางทางกัวซือฝูอีกแล้วอย่างงั้นรึ?
ทุกคนทีกำลังตื่นตกใจ ไร้สาระนัก สวรรค์ดูแลทุกสรรพชีวิต ปราชญ์เทพที่ไม่สนใจความเป็นความตายของผองชน เหล่าประชาชนที่ไม่มีตัวตนเพราะว่าพวกเขาหวาดกลัวในกัวซือฝูอย่างงั้นรึ?
ปราชญ์เทพหนึ่งคนได้ถูกไล่ไปแล้ว เป็นคนที่น่าเกรงขามขนาดนี้เลยรึ?แล้วเรื่องที่เขาจะสังหารคนทั่วทั้งเขตแดนจวงหลุนล่ะ? ใครจะขวางเขา?
แต่ก็ยังคงเหลือปราชญ์เทพอีกคน ปราชญ์เทพที่อยู่ในชุดสีแดง.
ปราชญ์เทพในชุดแดงที่ไม่กล่าวอะไรออกมา ยังคงมองอยู่อย่างเงียบ ๆ .
ปราชญ์เทพชุดแดงที่กวาดตามองไปยังรอบ ๆ .
กัวซือฝูที่จ้องมองปราชญ์เทพในชุดแดง ปราชญ์เทพในชุดแดงที่ไม่ได้มีความสัมพันธ์ความรู้สึกใด ๆ กับกัวซือฝู.
"สวีเหยี่ยนเทียน? ข้าจะไม่พูดอะไรเหมือนกับเขา!"ปราชญ์เทพชุดแดงที่กล่าวออกมาเบา ๆ .
"คิดว่าตัวเองเป็นเทียนชูอย่างงั้นรึ?"กัวซือฝูกล่าวออกมาอย่างนุ่มนวล.
"ต้าโจวนั้น ได้เป็นอดีตไปแล้ว ราชันย์เทพโจวโหยวที่เร่งรีบเกินไป จึงถูกสวรรค์จัดการไป ส่วนเจ้า คือข้าราชบริพารที่เหลืออยู่ ยังไม่คิดจะปล่อยวางอีกรึ? ภายใต้สวรรค์นี้ มีคนมากมายที่จะผนึกเจ้า เป็นเพียงเซียน แต่กล้าต่อต้านเทียนชู? เหิมเกริมนัก!"ปราชญ์เทพในชุดสีแดงกล่าวออกมาอย่างนุ่มนวล.
"น่าขัน ราชาของข้าที่ต่อต้านสวรรค์ เจ้าไปอยู่ใหน? เทียนชูอะไรไร้สาระรึ? เจ้าคิดว่าการต่อต้านเทียนชูเป็นเรื่องไร้สาระอย่างงั้นรึ? คิดว่าตัวเองเป็นใคร? ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า..................!”กัวซือฝูที่หัวเราะออกมาเสียงดัง.
กัวซือฝูที่เป็นปฏิปักษ์ต่อปราชญ์เทพ กล่าวอีกอย่างหนึ่ง ภายในใจของเขานั้นเต็มไปด้วยความเกลียดชังสะสมมาหลายแสนปีแล้ว.
"ไม่ต้องเป็นเทียนชู ในเมื่อเจ้างมงาย เช่นนั้นข้าจะเป็นคนกำจัดปิศาจร้ายแทนสวรรค์เอง!"ปราชญ์เทพในชุดสีแดงกล่าว.
"กำจัดปิศาจร้ายแทนสวรรค์อย่างงั้นรึ? ชิ หากว่าร่างจริงเจ้าอยู่ที่นี่ ข้าคงไม่กล้า ทว่าเพียงแค่สัมผัสเทวะ คิดว่าจะทำอะไรข้าได้?"กัวซือฝูที่แค่นเสียงเย็นชา.
ระหว่างที่กล่าวเสร็จ ร่างของกัวซือฝูทันใดนั้นปราณทมิฬที่ปะทุขึ้นมา กลิ่นอายที่หนักหน่วงรุนแรงโถมกระหน่ำออกไป! ตำหนังสังสารวัฏและพื้นที่รอบ ๆ เวลานี้กำลังสั่นสะเทือน.
ทั้งผืนฟ้าและปฐพีสั่นไหวอย่างรุนแรง การต่อสู้ที่รุนแรงกำลังจะเริ่มแล้ว.
กัวซือฝู ต่อสู้กับปราชญ์เทพอย่างงั้นรึ?