Chapter 912 เชื่อมต่อภพหยินหยาง.
ที่ด้านนอกผนึก จงซานที่นำขวดหยกพิสุทธิ์ออกมา แววตาของหนี่ปู่ซาที่เต็มไปด้วยความประหลาดใจ จากนั้นของเหลวสีเขียวมรกตก็ปรากฎออกมา.
ของเหลวสีมรกตที่ถูกจงซานควบคุมลอยบนอากาศ ก่อนที่จะลอยไปยังใจกลาง คลุมไปยังกุหลาบอเวจี จากนั้นก็ผนึกกุลาบและทำให้มันเป็นคริสตัลคลุมกุหลาบเอาไว้ด้านใน.
"แค๊ก!"
รากกุหลาบที่หักออก!
"ฟิ้ว!"
ภายในห้องโถง วารีสีดำทมิฬที่กำลังสั่นเป็นระลอก เห็นชัดเจนว่าค่ายกลที่แปลกประหลาดจากดอกกุหลาบได้ค่อย ๆ แตกสลายหายไปช้า ๆ .
จิตสังหารที่หนักหน่วงรุนแรงที่กำลังปะทุขึ้นมามากกว่าเดิม.
"เซิ่งหวัง เฉินจำเป็นต้องกระตุ้นฮวงจุ้ยต่อ ใช้เวลาสามชั่วยาม อย่างไรก็ตามเมื่อเฉินกระตุ้นฮวงจุ้ยเต็มกำลัง จะไม่สามารถช่วยเซิ่งหวังป้องกันจิตมืดได้ หากว่ามีการต่อสู้เกิดขึ้นคงต้องให้เซิ่งหวังลงมือเองแล้ว!"หนี่ปู่ซากล่าว.
"อืม!"จงซานพยักหน้ารับ.
หลังจากเก็บกุหลาบอเวจีแล้ว ร่างกายของจงซานก็เคลื่อนที่ออกไปด้านนอก ปล่อยให้หนี่ปู่ซาเคลื่อนค่ายกลฮวงจุ้ยด้านใน.
แม้นว่าตอนเข้ามาจะช้าเป็นอย่างมาก หากแต่เมื่อเวลาออกไปนั้นความเร็วของจงซานนั้นมากมายยิ่งนัก.
ทว่า ขณะที่จงซานออกมาด้านนอก ยังไม่พ้นด้วยซ้ำ ก็รู้สึกตกใจหยุดขึ้นในทันที.
จงซานพบกับสถานการไม่ดีนัก ที่ด้านนอกสว่างขนาดนี้เลยรึ?
แน่นอนว่า มันไม่ได้สว่างมากมาย เพียงแต่มันสว่างขึ้น กับร่างแยกเงาย่อมสามารถสัมผัสได้ดีกว่าใคร.
ร่างแยกเงาจงซานนั้น สามารถสัมผัสได้ถึงแสงสว่างได้มากกว่าปกติ ความเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อย ไม่มีทางหลุดรอดสายตา ทำให้จงซานตระหนักได้ในทันที.
ไม่ได้การ ไม่ได้การ มีบางคนกำลังสร้างค่ายกลขึ้น.
จงซานที่ไม่ขยับ พร้อมกับเริ่มตรวจสอบพื้นที่รอบ ๆ ว่ามีสิ่งใดที่แตกต่างออกไป.
จากนั้น จงซานก็พบเข้ากับความแปลกประหลาด พ้นที่รอบ ๆ ยังคงเหมือนเดิม ทว่ามีบางอย่างที่ซุกซ่อนเอาไว้.
"ในเมื่อมาแล้ว ไม่จำเป็นต้องซ่อนตัวเอง ควรจะโผล่หัวออกมาได้แล้ว!"จงซานที่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.
เป็นความจริง พื้นที่รอบ ๆ ในเวลานั้นก็ปรากฎชายในชุดคลุมสีม่วงขึ้นในทันที.
"เซิ่งหวังต้าเจิ้ง เจ้าเล่ห์ยิ่งนัก เพิ่งเข้ามาในอาณาเขตของข้า กับพบพิรุธได้อย่างงั้นรึ?"ชายในชุดสีม่วงกล่าว.
"เซิ่งซ่างชิงหมิง?"จงซานที่หรี่ตาจ้องมอง.
"เซิ่งหวังจง สามารถมองเห็นค่ายกลของข้าได้อย่างไร?"เซิ่งซ่างชิงหมิงแค่นเสียง.
"แตกต่างกันอย่างไร ไม่เห็นมีอะไร!"จงซานกล่าวหยัน.
"ฮ่าฮ่าฮ่า พูดจาใหญ่โต แตกต่างอย่างไร ยังไม่คิดว่ามีอะไรอีกรึ?"เซิ่งซ่างชิงหมิงที่ดวงตาเบิกกว้าง.
"ฟิ้ว!"
จงซานที่ก้าวเข้าไปในค่ายกลในทันที.
ภายในค่ายกล เซิ่งซ่างชิงหมิงที่หัวเราะ ค้างไปในทันที ตอนนี้เริ่มสำลักกลืนน้ำลายคนโต.
"แค๊ก ๆ ๆ "
หลังจากไอออกมาติดต่อกัน ใบหน้าของเซิ่งซ่างชิงหมิงที่เปลี่ยนเป็นแดงซ่าน.
เซิ่งซ่างชิงหมิงที่เงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้า แทบร้องออกมาด้วยท่าทางเศร้าใจ เขาที่วางแผนมาเนิ่นนาน ค่ายกลที่สมบูรณ์แบบเพื่อกังขังจงซาน แต่เมื่อนำมาใช้จริงกับไม่สามารถทำอะไรจงซานได้เลยแม้แต่น้อย เรื่องนี้จะให้เขายอมรับได้อย่างไร? เรื่องนี้จะทำให้เซิ่งซ่างชิงหมิงเศร้าขนาดใหน?
"เหยี่ยนฉงจื่อ?"จงซานที่จ้องมองไปยังทิศทางของเหยี่ยนฉงจื่อกำลังต่อสู้อยู่.
ในเวลานี้ ทัพของต้าเจิ้ง มียอดฝีมือ 15 คนที่กำลังรุกบุกเข้าสังหารอยู่.
เหยี่ยนฉื่อที่ไหล่บาดเจ็บ เห็นชัดเจนว่าเขาต้องปะทะกับคนที่เหนือกว่า.
มหาเซียน? กลุ่มของมหาเซียน?
เสียงของจงซาน ทำให้การต่อสู้ทั้งสองฝั่งหยุดลง.
"เซิ่งหวัง!"เสียงของเหยี่ยนฉงจื่อที่ขมขื่นและเคร่งขรึม.
ทัพจำนวนสามล้านคน ตอนนี้สองล้านคนที่หายไป มีหนึ่งล้านคนอยู่ที่นี่ ฝ่ายตรงข้ามแข็งแกร่งมาก พวกเขาไม่สามารถรับมือได้เลย.
กับการที่เซิ่งหวังออกมา ในเวลานี้ทำให้ทุกคนปรากฎขวัญกำลังใจเพิ่มขึ้นในทันที.
"เซิ่งซ่างชิงหมิง หมายความว่าอย่างไร? ไม่ใช่ว่าต้องขังจงซานไว้ด้านในหรอกรึ?"คน ๆ หนึ่งที่เอ่ยออกมาด้วยความตกใจ.
เซิ่งซ่างชิงหมิงที่ตามออกมา กับเสียงที่มีใครสอบถาม ทำให้เขาไร้ซึ่งคำพูด เจ้าถามข้า แล้วข้าถามใคร?
"เหยี่ยนฉงจื่อนำทัพถอยออกไปก่อน ข้าจะจัดการที่นี่เอง!"จงซานกล่าวอย่างเคร่งขรึม.
"รับทราบ!"
เหยี่ยนฉงจื่อที่นำทัพถอยห่างออกไปไกล สำหรับพวกเขาแล้ว กลุ่มมหาเซียนหาได้ใส่ใจแต่อย่างใด ต้องไม่ลืมว่าคนเหล่านี้เป้าหมายคือจงซานนั่นเอง!
จงซานที่หันหน้าไปมองเหล่ากลุ่มยอดฝีมือ.
ห้าสิบสอง! ห้าสิบสองมหาเซียนรึ?
"เดิมที่กลุ่มราชวงศ์สวรรค์และแดนเทวะนี่เอง มีปัญหาอะไร? การเผชิญหน้ากับต้าเจิ้ง ไม่คิดที่จะยอมจำนน ไม่ต้องการความสงบสุข ต้องการจะประกาศสงครามอย่างงั้นรึ? แปดราชวงศ์สวรรค์ล่มสลายไปแล้ว พวกเจ้าคงลืมไปแล้ว?"จงซานที่แค่นเสียงเย็นชา.
กับเสียงที่เย็นชา มีบางคนที่เผยท่าทางหวาดกลัวออกมา ทว่าประมุขแดนเทวะและเซิ่งซ่างหลายคนที่ยังคงจ้องมองกันด้วยสายตามั่นคง.
พวกเขาได้ก้าวออกมาแล้ว การจะถอยหนีนั้นเป็นไปไม่ได้.
"เลิกพูดไร้สาระได้แล้ว ในเมื่อไม่สามารถถอยได้ ก็มีแต่ต้องสู้เท่านั้น ค่ายกลเซียนโบราณข่ายฟ้า!"เซิ่งซ่างชิงหมิงที่ตะโกนออกไปเสียงดัง.
"วูซซซซ!"
เหล่ายอดฝีมือที่กระจายออกไปรอบ ๆ จงซาน ร่างกายที่ปลดปล่อยแสงสีน้ำเงินออกมา แสงสีน้ำเงินที่หมุนวนล้อมรอบจงซาน ปรากฎเป็นอภิหารบางอย่างขึ้น กักขังจงซาน ดูคล้ายกับหลุมสังสารวัฏ.
เมื่อค่ายกลเริ่มทำงาน พื้นที่รอบ ๆ เปลี่ยนเป็นดำมืด แม้แต่ห้วงมิติของโลกใบใหญ่ที่แข็งแกร่งมั่นคงกว่าโลกใบเล็กยังสั่นกระเพื่อม.
เหยี่ยนฉงจื่อที่ถอนกำลังออกมาไกลจ้องมองเข้าไป ยังรู้สึกตื่นตะใจ.
นี่มั่น?
ห้วงมิติกะเพื่อมเลยอย่างงั้นรึ? นี่คือห้วงมิติของโลกใบใหญ่ที่มั่นคง ค่ายกลนี้คืออะไร? น่าหวาดกลัวเกินไปแล้ว.
แสงสีน้ำเงินที่หมุนวน พวยพุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้า กลายเป็นแท่งแสงขนาดใหญ่ อำนาจที่ยิ่งใหญ่พลังคล้ายกับหลุมสังสารวัฏที่กำลังกดดันกับขังจงซานเอาไว้.
จงซานที่อยู่ในอำนาจพลังของค่ายกล ค่ายกลนี้ไม่ได้โจมตีมาที่คน แต่เป็นพลังงานที่ซ้อนทับ พลังที่มากมายที่เปี่ยมไปด้วยพลังยืดขยายออกมาหลายเท่า.
แม้แต่ จงซานยังพบว่ามันเป็นค่ายกลที่ทรงพลัง ภายในพื้นที่รอบ ๆ มีพลังแห่งกฎมากมาย ที่กำลังบดบี้กันอยู่ด้านในอยู่ ทำให้ไม่ว่าจะเป็นใครอยู่ด้านในไม่สามารถใช้ทักษะวิชาใด ๆ ออกมาได้ อำนาจของค่ายกลนี้ดูเหมือนว่าจะตัดขาดจากโลกภายนอกอย่างสิ้นเชิง กังขังให้คนที่อยู่ด้านในตกตายไปอย่างงั้นรึ?
"ฟิ้ว!!"
เหนือขึ้นไปบนค่ายกล ที่ปรากฎเงาร่างเซิ่งซ่างชิงหมิงขึ้น.
"จงซาน ค่ายกลตอนนี้เป็นอย่างไรแตกต่างตรงไหน?"เซิ่งซ่างชิงหมิงที่แค่นเสียงเย็นชา.
จงซานที่จ้องมองเซิ่งซ่างชิงหมิงอย่างดูแคลน "ต่างกันรึ? ข้ายังไม่เห็นว่าจะมีอะไรต่าง!"
"ถุยยย เจ้ายอมรับชะตากรรมซะ ค่ายกลนี้เจ้าไม่มีทางทำลายได้ ต้องการออกไปฝันไปเถอะ อยู่ด้านใน ไม่สามารถใช้วิชาใด ๆ ได้ นี่คือค่ายกลที่แม้แต่เซียนโบราณ ยังต้องร่วงหล่นจากสวรรค์ ลำพังเจ้า? วันนี้เป็นไปไม่ได้ที่จะมีชีวิต!"เซิ่งซ่างชิงหมิงแค่นเสียง.
"จริงรึ? แม้แต่เซียนโบราณก็ไม่สามารถออกไปได้อย่างงั้นรึ?"จงซานแค่นเสียง.
"มีเพียงคนที่สามารถรวมวิถีสวรรค์ เข้ามาในร่างเท่านั้น ไม่เช่นนั้นอย่าได้คิด."เซิ่งซ่างชิงชิวเอ่ยด้วยความเย็นชา.
ขณะที่เซิ่งซ่างชิงหมิงกล่าวนั้น ก็โบกมือขึ้นไปบนท้องฟ้า.
"ครืนนน~~~~~~~~~~~~~~~~~~!”
บนอากาศ ราวกับว่าเสาน้ำที่ทรงพลังพุ่งตรงลงมา.
เสาน้ำสีเทาที่ทรงพลังดูน่าเกรงขามเป็นอย่างมาก.
เสาน้ำที่ร่วงหล่นลงมาข้าง ๆ จงซานทะลวงไปยังพื้นดิน เกิดเป็นแอ่งลึก เป็นพลังกัดกร่อนที่รุนแรงมาก เสาน้ำดังกล่าวมีหรือที่เซียนสวรรค์จะรอดพ้น? หากถูกเสาน้ำนี้เข้าไปล่ะก็มีแต่ต้องตกตายไปอย่างแน่นอน.
"นี่คือสุ่ยหรง(น้ำกรด) มันสามารถทำลายได้แม้แต่ดวงวิญญาณ!"เซิงซ่างชิงหมิงที่เอ่ยออกมาด้วยเสียงเย็นชา.
จากนั้นเสาน้ำที่ดังสนั่นหวั่นไหวกำลังขยายขนาดออกมา.
ในเวลาเดียวกันนั้น จงซานที่สะบัดนำขวดหยกขนาดเล็กออกมา ขวดหยกพิสุทธิ์ พร้อมกับเปิดออกมา เก็บน้ำดังกล่าวไป.
"วูซซซซซ!"
ของเหลวมากมายที่ถูกดูดไปย่างรวดเร็ว.
ขณะที่กำลังดูดเข้ามานั้น จงซานต้องขมวดคิ้วไปมาในทันที เพราะว่าจงซานพบว่าขวดหยกพิสุทธิ์สามารถต้านทานการกัดกร่อนของสุ่ยหรงได้ชั่วคราวเท่านั้น หากปล่อยเอาไว้นานไม่สามารถต้านทานเอาไว้ได้แน่.
"ไร้ประโยชน์ อุปกรณ์มหาเซียนนั้นไม่มีทางขวางการกัดกร่อนเอาไว้ได้."เซิ่งซ่างชิงหมิงแค่นเสียง.
สุ่ยหรงที่ค่อย ๆ ขยายใหญ่ขึ้นอย่างรวดเร็ว พริบตาเดียวก็ขยายออกไปราวกับจะอัดแน่นไปทั่วค่ายกลด้านในแล้ว.
เมื่อสุ่ยหรงขยายออกเต็มที่ จงซานจะหนีไปใหน?
ร่างกายของจงซานที่พุ่งตรงไปยังกำแพงของพลังค่ายกลเพื่อหลบออกไป.
"ตูมมม~~~~~~~~~~~~~~~~!”
คลื่นพลังรุนแรงมาก ร่างของจงซานที่ชนกำแพงคลื่นพลังกระเด้งกลับมา ไม่สามารถหลบได้?
สุ่ยหรงที่ขยายใหญ่ออกมาเรื่อย ๆ จงซานที่ขมวดคิ้วไปมา จากนั้นผังจักรพรรดิก็ปรากฎขึ้นลอยอยู่บนศีรษะของจงซานในทันที.
ผังจักรพรรดิภพหยิน เป็นสีดำ ที่ตรงกลางนั้นเป็นจุดสีขาว ปลาหยินยาง ปลาหยินและปลาหยาง จุดเล็กที่อยู่ตรงปลายทันใดนั้นก็ขยายออกมาทันที สุ่ยหรงที่ถูกดูดไปในทันที.
"ดูดซับอย่างงั้นรึ? เจ้าคิดว่าสามารถดูดซับมันได้รึอย่างไร?!"เซิ่งซ่างชิงหมิงที่กล่าวด้วยเสียงเย็นชา.
----------------------------
ภพหยาง จงซานร่างหลัก กงจูจิวเหว่ยและซูอาโฝที่บินมาหยุดที่เนินเขาแห่งหนึ่ง.
ทันใดนั้น ใบหน้าของจงซานก็เปลี่ยนไป คนทั้งสามที่หยุดลงที่เนินเขาดังกล่าว.
"พวกเจ้ารอข้าอยู่ที่นี่!"จงซานเอ่ย.
กล่าวเสร็จก็บินไปยังเทือกเขาแห่งหนึ่ง จ้องมองไปยังพื้นที่แห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นหุบเขาขนาดใหญ่.
"จงซานต้องการทำอะไรกัน?"กงจูจิวเหว่ยที่กล่าวออกมาด้วยความสงสัย รับรู้อะไรบางอย่างได้ เขาต้องการทำอะไร?
"ทำอะไร? ก่อนหน้านี้เขาได้ดื่มสุรากับปรมาจารย์หมากซือเหม่ยมากมาย จำเป็นต้องไปทำภารกิจเร่งด่วนของผู้ชาย เป็นไปได้ว่าจงซานจะไปทำภารกิจดังกล่าว ฉิ่งฉ่องไงล่ะ!?"ซูอาโฝที่กล่าวเชิงขำขัน.
"เพ่ย จงซานเป็นเซียนสวรรค์แล้ว ไม่จำเป็นต้องทำเรื่องดังกล่าวสักหน่อย!"กงจูจิวเหว่ยกล่าวหยัน.
"วีดดดดดดดด ตูมมมม~~~~~~~~~~!”
จากบนยอดเขา ที่เกิดเสียงดังสนั่น พื้นที่รอบ ๆ ยุบลงไปในทันที ผืนแผ่นดินเลื่อน ปรากฎน้ำบางอย่างที่เอ่อท่วม พร้อมกับส่งเสียงดังสนั่นราวกับสายฟ้าฟาด.
ซูอาโฝ"........................!”
กงจูจิวเหว่ย"........................!”
ทั้งสองต่างก็จ้องมองหน้ากันและกัน คิดเหมือนกับอาโฝที่คาดเดาก่อนหน้านี้ ก่อนที่จะเผยท่าทางประหลาดใจสงสัย คนทั้งสองที่เต็มไปด้วยความงงงวยบินขึ้นไปบนฟ้าจดจ้องมองออกไป.
ทันที่ที่พวกเขาเหินขึ้นไปบนท้องฟ้าจ้องมองไปยังจงซานที่อยู่บนยอดเขาแห่งหนึ่ง ทว่าที่ด้านหน้าของเขานั้น ปรากฎน้ำพุ่งออกมาราวกับน้ำตก ราวกับว่ามันถูกส่งออกมาจากร่างของเขา.
ภายในหุบเขาที่เกิดน้ำท่วมหลากขึ้นมา น้ำที่เขาปลดปล่อยออกมานั้นทรงพลังน่าเกรงขามมาก ผืนแผ่นดินยุบถูกกัดกร่อนพื้นที่รอบ ๆ เสียหายอย่างหนักหน่วงรุนแรง.
ทั้งคู่ถึงกับหวาดผวาขึ้นมาในทันที.
"เป็นคนที่ร้ายกาจยิ่งนัก!"ซูอาโฝที่กล่าวออกมาด้วยความอัศจรรย์ใจ.
แน่นอนว่า ทั้งคู่ที่คิดว่าจงซานกำลังไปทำภารกิจของผู้ชาย เพราะเห็นเขาเร่งรีบบินออกไป.
ทว่าพื้นที่รอบ ๆ จงซานในเวลานี้ ทั้งคู่พบว่าท้องฟ้าเริ่มเปลี่ยนเป็นมืดครึ้ม เต็มไปด้วยกลิ่นอายที่น่าหวาดหวั่น.
ส่วนจงซานในเวลานี้ ยังคงปล่อยน้ำออกมาไม่หยุด ไม่รู้ว่ามีมากมายเท่าไหร่ ตอนนี้พื้นที่รอบ ๆ เริ่มท่วมไปหมดแล้ว.
"นี่มัน สุ่ยหรง? เป็นสุ่ยหรงภพหยินใช่หรือไม่?"กงจูจิวเหว่ยที่เอ่ยออกมาด้วยท่าทางประหลาดใจ.