Chapter 910 ความแข็งแกร่งของต้าเจิ้ง.
ภพหยิน ศาลเทพต้าเจิ้ง ตำหนักโหลวซิง.
ภายในตำหนักโหลวซิงนั้น เป็นตำหนักที่สร้างขึ้นใหม่อย่างหรูหรา ภายในเมืองซ่างนั้น เหล่าคนที่สำคัญต่างก็มีอาณาเขตเป็นของตัวเอง.
ภายในตำหนักโหลวซิงนั้น บนบ่อตกปลาแห่งหนึ่ง ชายในชุดสีน้ำเงินคนหนึ่งที่กำลังนั่งตกปลา.
การกระทำที่ผ่อนคลายเช่นนี้ ทำให้ชายคนดังกล่าวพอใจเป็นอย่างมาก หลายปีมานี้นับตั้งแต่เขาเข้าร่วมต้าเจิ้งก็ทำให้เขามีความสุขไม่น้อย.
แน่นอนว่าเป็นโหลวซิงเฉินนั่นเอง ข้าง ๆ กายของเขานั้นมีสตรีผู้หนึ่งที่กำลังเตรียมอาหารชั้นดี พร้อมกับยืนอยู่ด้านหลังโหลวซิงเฉิน มือของนางที่คอยนวดไปที่ไหล่ของโหลวซิงเฉิน.
"สามี!"เสียงที่อ่อนหวานจนสามารถหลอมกระดูกได้ แววตาที่เต็มไปด้วยความอ่อนโยน.
โหลวซิงเฉินที่มือหนึ่งกุมด้ามเบ็ด อีกมือหนึ่งที่กุมมือของนางเอาไว้แล้วกล่าวว่า "เสี่ยวเชี่ยนมีอะไรอย่างงั้นรึ?"
"เป็นเสี่ยวเชี่ยนไม่ดีเอง!"เสี่ยวเชี่ยนที่เอ่ยออกมาด้วยความเศร้า.
"เป็นอะไรรึ? เรื่องในอดีตอย่าได้เอ่ยถึงมันเลย ขอแค่มีเจ้าก็พอแล้ว!"โหลวซิงเฉินที่เอ่ยออกมา.
"อืม! แต่ว่าข้าผิดต่อท่านนัก ท่านที่เป็นประมุขนิกาย ตอนนี้เป็นเพียงแค่ผู้นำนิกายประจำอาณาจักรของศาลเทพต้าเจิ้ง!"เสี่ยวเชี่ยนที่กล่าวตำหนิตัวเอง.
"ข้าไม่รู้สึกเสียใจสักนิด ประมุขนิกายรึ? ข้าชอบชีวิตในตอนนี้มากกว่า!"โหลวซิงเฉินที่วางคันเบ็ด พร้อมกับจ้องมองมายังเสี่ยวเชี่ยน.
เสี่ยวเชี่ยนที่ใบหน้าเปลี่ยนเป็นแดงระเรื่อ จากนั้นก็ส่ายหน้าไปมาเอ่ยออกมาว่า "หากไม่เพราะข้า ท่านคงไม่พ่ายแพ้เซิ่งหวัง เป็นเพราะข้าท่านจึงเสียสมาธิ!"
โหลวซิงเฉินที่ส่ายหน้าไปมา พร้อมกับนึกถึงเรื่องที่เคยเกิดขึ้น.
"ไม่ ความแข็งแกร่งของเซิ่งหวังนั้น ไม่สามารถประเมินได้! ข้าไม่ใช่คู่มือของเขา!"โหลวซิงเฉินส่ายหน้าไปมา.
"แต่ว่า ท่านไม่ได้บอกรึ?ว่าเซิ่งหวังมีพลังฝึกตนระดับเซียนสวรรค์? ท่านเป็นเซียนโบราณ จะพ่ายแพ้ได้อย่างไร?"เฉินเสี่ยวเชี่ยนที่ขมวดคิ้วไปมา.
"เจ้าไม่เข้าใจ บางครั้ง ความแข็งแกร่งก็ไม่สามารถวัดได้ด้วยพลังฝึกตน เซิ่งซ่างนั้นคือคนที่แข็งแกร่ง ที่เหนือกว่าข้าที่มีระดับเซียนโบราณ? เฮ้เฮ้ แม้แต่เซียนโบราณเองหากถูกทักษะ ย้อนเวลาของข้าไป ก็ยากจะต้านทาน ทว่าความสามารถของเซิ่งหวังตั้งแต่ต้นจนจบ เขายังไม่ได้ใช้ทักษะโลกเขตแดนออกมาด้วยซ้ำ แต่ข้าสัมผัสได้ว่าโลกเขตแดนของเซิ่งหวังนั้นน่าสะพรึงกลัวมา."โหลวซิงเฉินที่ส่ายหน้าไปมา.
"อืม!"เฉินเสี่ยวเชี่ยนพยักหน้ารับ.
"ก่อนหน้านี้ข้าเพิกเฉยต่อคนที่ข้ารัก โปรดวางใจ หลังจากนี้ สามีคนนี้ จะดูแลเจ้าเป็นอย่างดี!"โหลวซิงเฉินที่กล่าวออกมาอย่างอ่อนโยน.
"อืม!"ดวงตาของเฉินเสี่ยวเชี่ยนที่ปริ่ม ๆ ด้วยน้ำตา เผยความอบอุ่นออกมาทันที.
----------------------------------------------------------------------
ภายในเขตแดนจวงหลุน ป่าแห่งหนึ่ง จงซานและหวังคูยืนอยู่ในป่า จ้องมองไปยังพื้นที่ด้านนอกที่ปรากฎแสงที่สว่างเจ้า.
เป็นการต่อสู้ ที่หนักหน่วงรุนแรง บนท้องฟ้า มีผู้ฝึกตนมากมายถูกสังหาร เห็นเพียงแค่แสงสีขาวที่พุ่งผ่านกลุ่มผู้ฝึกตน ก่อนที่จะถูกสังหารไปอย่างรวดเร็ว.
"ตี้เซียนเซียน มีพรสวรรค์ที่เทพประทาน ในเวลาไม่นานคาดไม่ถึงเลยว่าจะเรียนรู้ได้เร็วขนาดนี้ อีกไม่นาน ไม่จำเป็นต้องให้เฉินคอยสนับสนุนแล้ว!"หวังคูที่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.
"อืม หลายปีมานี้ ต้องรบกวนเจ้าแล้ว!"จงซานกล่าว.
"ไม่ได้รบกวนเลยแม้แต่น้อย สวนใหญ่แล้วเป็นตี้เซียนเซียนและเผ่าหมาป่าที่ลงมือ ตอนนี้นางพร้อมที่จะลงมือด้วยตัวเองแล้ว แม้แต่ครั้งนี้พันธมิตรหมื่นอสูร ยังเป็นตี้เซียนเซียนที่เป็นคนนำด้วยตัวนางเอง!"หวังคูที่กล่าวอย่างเคร่งขรึม.
"เทียบตี้เซียนเซียนและตี้เสวียนชาเป็นอย่างไรบ้าง?"จงซานสอบถาม.
"ตี้เซียนเซียน? พรสวรรค์ไม่ได้ด้อยกว่าตี้เสวียนชา แม้แต่สูงกว่าด้วยซ้ำ ทว่า ตี้เซียนเซียนนั้นยังไม่ได้มีประสบการณ์มากนัก ตี้เสวียนชาในอดีตก็ยังถือว่าแข็งแกร่งกว่า!"หวังคูกล่าว.
"หืม?"
"ความดุร้ายและอหังการ ตี้เสวียนชานั้นมีความดุร้ายและอหังการมาก ชื่อของเขานั้นสั่นสะเทือนไปทั่วโลกใบเล็ก ตี้เซียนเซียนยังไม่ได้มีความอหังการในเวลานี้!"หวังคูที่ส่ายหน้าไปมา.
"มันเกี่ยวกับสภาพแวดล้อมการเติบโต เซียนเซียนนั้นมีคนคอยปกป้องตั้งแต่เกิด นางยังจำเป็นต้องต่อสู้ให้มากกว่านี้ ตี้เสวียนชานั้นแตกต่างออกไป เขาต่อสู้มาตั้งแต่ยังเด็ก ความดุร้ายและอหังการนั้นฝังเข้าไปในกระดูก ความเป็นความตายที่แขวนอยู่บนเส้นด้ายมาตลอด จนทำให้เขาเติบโตมาเป็นตี้เสวียนชา ส่วนเซียนเซียน ที่ไม่ได้มีแรงกดดันนักย่อมมีความดุร้ายอหังการน้อยกว่าตี้เสวียนชา หลาย ๆ ปีมานี้ข้าได้ปล่อยให้นางเดินทางไปกำราบเผ่าหมาป่าทั่วหล้า เพื่อที่จะฝึกฝนความดุร้ายอหังการให้กับนาง แต่ดูเหมือนว่าจะไม่เป็นไปตามที่ข้าคิดนัก."จงซานที่เผยยิ้มออกมา.
"เรื่องนี้ มันเป็นรูปแบบที่แตกต่างกันของจื่อจุ้นแต่ละคน!"
"อืม เซียนเซียนตอนนี้นับว่าพัฒนาเพิ่มขึ้นมาไม่น้อย ครั้งหน้า ข้าจะให้นางเป็นผู้นำไปกำราบเผ่าหมาป่าทั่วทุกสารทิศ ส่วนเจ้าไม่จำเป็นต้องตามนางต่อไปแล้วเช่นกัน."
"ครับ! เฉินเองก็สามารถที่จะหากำลังใหม่ให้กับเซิ่งหวังได้ด้วยเช่นกัน."หวังคูที่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.
"หืม? พลังใหม่?"จงซานที่กล่าวออกมาด้วยความประหลาดใจ.
"ครับ ภพหยิน เผ่าโครงกระดูกมีอยู่มากมาย เฉินสามารถควบคุมพวกเขา โดยเฉพาะภายในเขตแดนจวงหลุนนั้น เฉินสามารถสร้างกองทัพโครงกระดูกที่ทรงพลังพร้อมกับบุกยึดครองดินแดนเพิ่มให้กับศาลเทพต้าเจิ้งได้!"หวังคูกล่าว.
"ยอดเยี่ยม! ให้เป็นกองกำลังที่เก้าของเจ้าเป็นผู้ดูแลจัดการก็แล้วกัน."จงซานที่กล่าวอย่างพอใจ.
"รับทราบ.
---------------------------------------------------------------------
จงซานที่กลับมายังเมืองซ่าง.
"เรียนเซิ่งหวัง เมืองซ่างมีแขก ขอเข้าพบกับเซิ่งหวัง! เป็นสามคนที่คุ้นหน้าคุ้นตา!"อี้เหยี่ยนที่จดจ้องมองจงซานด้วยความอัศจรรย์ใจ.
"หืม? ใคร?"จงซานที่เอ่ยออกมาด้วยความประหลาดใจ.
"กุยโชว อ้าวเลี่ย หยินซาเทียน!"อี้เหยี่ยนกล่าวออกมา พร้อมกับความสงสัยด้วยเช่นกัน.
กุยโซว เดิมทีเขาคือจื่อจุ้นเผ่าเต่าทมิฬ! หลังจากนั้นถูกจงซานบังคับให้ผ่านทัณฑ์สวรรค์ โบยบินขึ้นมาสู่โลกใบใหญ่.
อ้าวเลี่ย เดิมที่เขาคืออดีตจื่อจุ้นเผ่ามังกร! หลังจากที่ถูกตี้เสวียนชาบังคับให้บินสู่โลกใบใหญ่ ก่อนหน้านั้นเขาได้นำยอดฝีมือกลุ่มหนึ่งเข้าไปยังโลกใบเล็กเพื่อค้นหาตรามังกร ช่างน่าเสียดายที่มีหลายคนที่ตายด้วยฝีมือเสวียนหยวนและตระกูลเทียนภพหยิน และยังมีไป๋ฉีต้าฉิน ซึ่งเหลือแค่อ้าวเลี่ยคนเดียว จากนั้นเขาก็หายไปไม่มีใครรับรู้.
หยินซาเทียน เดิมที่คือไท่จื่อเผ่าพยัคฆ์ ครั้งหนึ่งเคยติดตามต้าเสวียนอ๋องของราชวงศ์สวรรค์ต้าโหลว ช่างน่าเศร้าต้าเสวียนอ๋องได้ตกตายไป ตามข่าวลือนั้น หยินซาเทียนนั้นได้ตกตายไปแล้ว ทว่าในเวลานี้เป็นเรื่องที่แปลกมากที่ได้มาปรากฎตัวขึ้นที่เมืองซ่าง.
"เป็นพวกเขา ท้ายที่สุดก็มาแล้วสินะ?"จงซานที่กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.
"หืม?"อี้เหยี่ยนที่เผยท่าทางแปลกประหลาด เซิ่งหวังรู้อยู่แล้วอย่างงั้นรึ?
"เบิกตัว!"จงซานเอ่ย.
"ครับ!"
จากนั้นไม่นาน คนทั้งสามก็เข้ามา.
"กุยโซว อ้าวเลี่ย หยินซาเทียน คารวะเซิ่งหวัง ขอให้เซิ่งหวังมีชีวิตเป็นนิรันดร์ เป็นอมตะเหมือนดั่งสวรรค์! "คนทั้งสามที่เอ่ยออกมาด้วยความเคารพ.
เห็นท่าทางของทั้งสามที่แสดงความเคารพออกมา ทำให้อี้เหยี่ยนประหลาดใจเป็นอย่างมาก พวกเขายอมจำนนแล้วอย่างงั้นรึ? ไม่เคยรู้มาก่อน?นี่พวกเขาเป็นข้าราชบริพารต้าเจิ้งไปแล้วรึ?
"พวกเจ้าคิดอย่างไร?"จงซานสอบถามออกมา.
กุยโซวพยักหน้าและกล่าวออกมาว่า "ในอดีต การเดิมพันกับเซิ่งหวัง ท้ายที่สุดก็เป็นเซิ่งหวังชนะ เช่นนั้นจากนี้ไปกุยโซวขอปฏิญาณร่วมมือกับต้าเจิ้งตลอดไป!"
"อ้าวเลี่ยไร้ซึ่งหลักประกันแล้ว แม้แต่ในอดีตเคยกระทำเรื่องไม่ดีแต่เซิ่งหวังก็ไม่ใส่ใจ การเดิมพันของข้าเองก็พ่ายแพ้แล้ว อ้าวเลี่ยเองยินดีให้เซิ่งหวังเป็นผู้นำ!"อ้าวเลี่ยที่กล่าวออกมาด้วยความเคารพ.
"หยินซาเทียนเอง รอคอยให้เซิ่งหวังสั่งการ!"หยินซาเทียนที่กล่าวออกมาด้วยความเคารพเช่นกัน.
อี้เหยี่ยนที่จ้องมองไปยังคนทั้งสาม พลางขมวดคิ้วไปมา เดิมพันอย่างงั้นรึ? พวกเขาพ่ายแพ้เดิมพัน และยินยอมพร้อมใจเข้าร่วมต้าเจิ้ง พวกเขาไปเดิมพันตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?
ทั้งสามเลยรึ? เซิ่งหวังเดิมพันกับคนทั้งสามเลยอย่างงั้นรึ?
เซิ่งหวังมีความลับมากมายขนาดใหนกัน?
อี้เหยี่ยนที่เผยความเคารพ พลางทอดถอนใจ.
"ดี ข้าและคนอื่น ๆ นั้นได้รอคอยเจ้ามาสามสิบปีแล้ว! ท้ายที่สุดพวกเจ้าก็มา! ข้าได้จัดเตรียมตำแหน่งให้พวกเจ้าแล้ว ไม่จำเป็นต้องไปเริ่มที่ทหาร นับจากวันนี้ กุยโซวเป็นจื่อจุ้นเต่าทมิฬของภพหยิน ดูแลเผ่าเต่าทมิฬของต้าเจิ้ง.
"น้อมรับคำสั่ง!"กุยโซวที่รับคำในทันที.
"อ้าวเลี่ย กลับคืนสู่ตำแหน่งจื่อจุ้น ดูแลเผ่ามังกรของต้าเจิ้ง!"จงซานที่กล่าวอย่างเคร่งขรึม.
"น้อมรับคำสั่ง!"
"หยินซาเทียนเป็นจื่อจุ้นเผ่าพยัคฆ์ภพหยิน ดูแลเผ่าพยัคฆ์ของต้าเจิ้ง!"จงซานที่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.
"รับทราบ!"
"ที่พักของพวกเจ้า อยู่ในสวนสี่ลักษณ์ ข้าได้แจ้งต่ออู๋โหลวจื่อจุ้นเผ่าหงเพลิงแล้ว พวกเจ้าไปพบกับอู๋โหลว เขาจะพาพวกเจ้าไปยังพื้นที่ของพวกเจ้าและแนะนำเกี่ยวกับค่ายกลสี่ลักษณ์ที่ทุกเผ่าต้องรู้และสามารถใช้งานได้!"จงซานที่กล่าวอย่างจริงจัง.
"รับทราบ!"คนทั้งสามที่รับคำสั่งในทันที.
จากนั้น คนทั้งสามก็จากไป เดินทางไปยังสวนสี่ลักษณ์.
คนทั้งสามจากไปแล้ว อี้เหยี่ยนที่กล่าวพลางถอนหายใจ "แผนการของเซิ่งหวังลึกล้ำเหนือประมาน เฉินด้อยกว่ามาก!"
"หืม?"
"ในโลกใบใหญ่นั้น เผ่าอสูรเทวะทั้งสี่นั้น แน่นอนว่าภายในใจของพวกเขารู้สึกไม่ค่อยพอใจกันและกันอยู่ เฉินเองก็ต้องการจะรายงานให้เซิ่งหวังให้ทราบถึงเรื่องนี้เช่นกัน หากปล่อยไว้นาน เผ่าอสูรทั้งสี่อาจจะแตกแยกกันไป หากมีหนึ่งก็จะมีสอง ทว่าเมื่อคนทั้งสามกลับมา ทุกอย่างก็ง่ายจะจัดการแล้วในเวลานี้!"
"กุยโซว อ้าวเลี่ย พวกเขาเป็นอดีตจื่อจุ้น มีเกียรติศักดิ์ศรีที่สูงอยู่แล้ว แน่นอนว่าย่อมสามารถที่จะควบคุมเผ่าของตัวเองได้อย่างง่ายดาย ส่วนหยินซาเทียนนั้น เป็นไท่จื่อเผ่าพยัคฆ์มาก่อน ก็ให้ผลเช่นเดียวกัน ส่วนอู๋โหลว ที่เป็นผู้ติดตามของอู๋จิวเทียนในอดีต สำหรับเผ่าหงส์เพลิง เขามีอำนาจเด็ดขาด จากนี้ไปค่ายกลสี่ลักษณ์ก็ไม่จำเป็นต้องกังวลอีกต่อไป!"อี้เหยี่ยนกล่าวพลางถอนหายใจ.
"อืม!"
"เฉินวางแผนเอาไว้มีเพียงในโลกใบเล็กเท่านั้น ส่วนเซิ่งหวังตั้งแต่อยู่ในโลกใบเล็ก ก็เริ่มวางแผนที่จะเริ่มต้นที่โลกใบใหญ่แล้ว เฉินด้อยกว่าจริง ๆ !"อี้เหยี่ยนกล่าว.
"เอาล่ะ ความสามารถของเจ้านั้นมีเหรอที่ข้าจะไม่รู้? ไม่จำเป็นต้องถ่อมตัว บางครั้งก็ควรจะภาคภูมิใจในตัวเองบ้าง!"จงซานที่กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.
อี้เหยี่ยนที่หายใจยาวขึ้นจมูก แสดงท่าทางประชดเล็กน้อย.
กองกำลังต้าเจิ้งที่ตอนนี้แข็งแกร่งขึ้นเรื่อย ๆ ! ภายในสิบปีมานี้ ภายในต้าเจิ้งสงบ กับกองกำลังภายนอก ดูเหมือนว่ามีเพียงราชวงศ์ราชันย์เล็ก ๆ ที่เข้ามาท้ายทายเมืองของต้าเจิ้ง ทว่าหลังจากนั้นสองเดือนราชวงศ์ราชันย์ดังกล่าวก็ล่มสลาย เรื่องดังกล่าวนี้ได้กระจายไปทั่วทุกสารทิศ.
นอกจากนี้เผ่าหมาป่าที่ถูกกำราบก็มีเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งเผ่ามังกร เผ่าพยัคฆ์ เผ่าหงเพลิง แม้แต่เผ่าเต่าทมิฬก็เริ่มแข็งแกร่งมากขึ้นเรื่อย ๆ เช่นกัน ในเวลานี้แม้แต่เผ่าโครงกระดูกที่มีชายแดนติดต่อกับต้าเจิ้ง พวกเขาไม่ได้เข้าโจมตี ยังเข้าร่วมต้าเจิ้งด้วยซ้ำ.
ผู้คนมากมายทีจับตาดูอยู่ตลอดสิบปี ความแข็งแกร่งของต้าเจิ้งขยายเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก.
ในเวลานี้เซิ่งซ่างชิงหมิงและพรรคพวก พวกเขาที่รู้สึกเป็นกังวลมากขึ้นเรื่อย ๆ ตอนนี้ยังหาโอกาสลอบสังหารจงซานไม่ได้เลย.
"ฝ่าบาท ข่าวดี ต้าเจิ้งจงซาน ในเวลานี้กำลังเดินทางออกจากเมืองซ่างแล้ว!"ทหารสังเกตการณ์คนหนึ่งที่คุกเข่าต่อหน้าเซิ่งซ่างชิงหมิง.
"อะไร? ไปที่ใหน?"ใบหน้าของเซิ่งซ่างชิงหมิงที่เผยท่าทางตื่นเต้นดีใจขึ้นมาในทันที.
"ตำหนักสังสารวัฏ จงซานที่เดินทางไปยังทิศทางของตำหนักสังสารวัฏ ทัพใหญ่ไม่ได้เคลื่อนที่ตามด้วย!"ทหารสังเกตการณ์ที่กล่าวออกมาในทันที.
"ตำหนักสังสารวัฏ? ดี เฝ้ามองต่อไป ใช้สวรรค์ลี้ลับปกปิดตัวตนเอาไว้อย่าให้พลาด!"เซิ่งซ่างชิงหมิงที่ยืนขึ้นในทันที.