ตอนที่แล้วChapter 904 ผู้ชนะ.
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 906 หัวใจ

Chapter 905 หวังจิวเหวิน.


เขตแดนจวงหลุนภาคใต้ ศาลเทพอู๋เซี่ยง เมืองเทียนซี!

ไท่จื่อสามที่นำผู้ใต้บังคับบัญชากลับมาจากตำหนักสังสารวัฏ ขณะที่เขายังก้าวเข้าไปไม่ถึงภายในตำหนักด้วยซ้ำ.

"เรียนไท่จื่อสาม!"มีผู้ใต้บังคับบัญชาคนหนึ่งที่กล่าวรายงานด้วยความเคารพ.

"มีอะไรอย่างงั้นรึ?"ไท่จื่อสามที่กล่าวออกมาด้วยความสงสัย.

"ก่อนหน้านี้สิบวัน เซิ่งหวังได้ส่งทูตมา ในเวลานี้ได้รอคอยอยู่ในสวนของตำหนักเทียนซีแล้ว!"ผู้ใต้บังคับบัญชากล่าวรายงาน.

"ทูตอย่างงั้นรึ?"ไท่จื่อสามที่ตกใจเล็กน้อย จากนั้นก็โบกมือให้ผู้ใต้บังคับบัญชาถอยออกไป.

จากนั้น ไท่จื่อสามพร้อมกับเสนาธิการบางส่วนก็ก้าวเข้าไปในตำหนักเทียนซี.

ในเวลานี้ ที่ลานของตำหนักเทียนซี บนศาลาแห่งหนึ่ง ที่ด้านหน้ามีสระน้ำ มีปลามากมายที่กำลังแหวกว่ายไปมา.

ภายในศาลานั้น มีชายในชุดสีขาวท่าทางเหมือนกับบัณฑิตทรงความรู้ ที่ด้านหน้าของเขามีกูฉินวางอยู่.

ที่ด้านข้างนั้นมีสตรีสองคนคอยดูแล อีกฝั่งเป็นกระถางถูปตั้งอยู่ ชายที่ดูเรียบร้อยกำลังเล่นกู่ฉิน น้ำเสียงของกูฉินนั้นดูเงียบสงบ จนทำให้ปลาในบ่อนั้นลืมที่จะว่ายน้ำด้วยซ้ำ พวกมันที่หยุดนิ่งราวกับว่าหลงในเสียงเพลง.

ไท่จื่อสามและเหล่าเสนาธิการต่างก็จ้องมองหน้ากันด้วยความงงงวย ทว่าพวกเขาทำได้แค่มอง แต่ไม่ได้เข้าไปในรบกวน.

ชายในชุดสีขาวที่บรรเลงกูฉินได้อย่างไพเราะน่าฟัง.

เสียงดนตรีที่ทำให้สระน้ำกลายเป็นคลื่นพร้อมกับระเหยออกมาเป็นไอ หมอกที่รวมตัวกันเป็นเสียงดนตรีก่อนที่จะสลายหายไป เป็นภาพที่น่าอัศจรรย์มาก ภาพหลาย ๆ อย่างที่เกิดจากไอน้ำระเหยออกมามีทั้งภาพภูเขาแม่น้ำและอื่น ๆ อีกมากมาย.

หลังจากที่ผ่านไปหนึ่งก้านธูป.

"ฟิ้ว!"

บนสระน้ำ ปรากฎหมอกที่ปกคลุมไปหมด รวมตัวกันเป็นสายน้ำ แม้แต่ปลาตัวเล็กยังกระโดดขึ้นมาแหวกว่ายไปมา.

ชายในชุดสีขาวที่ถอนลมหายใจเบา ๆ  ทุกอย่างที่กลับมาเป็นดังเดิม สาวใช้ที่ยื่นผ้าเช็ดหน้าให้ ชายในชุดสีขาวที่เช็ดมือเบา ๆ อย่างนุ่มนวล.

จากนั้น ชายในชุดสีขาวที่หันหน้าไปทางไท่จื่อสามและคนอื่น ๆ พร้อมกับลุกขึ้นมาทักทาย.

"ผู้น้อยหวังจิงเหวิน คารวะฝ่าบาทไท่จื่อสาม!"ชายในชุดสีขาวที่โน้มตัวด้วยความเคารพ.

แม้นว่าจะเป็นการแสดงความเคารพ แต่ก็ยังเผยถึงสง่าราศีของบัณฑิตระดับสูง มีกลิ่นอายของผู้มีความภาคภูมิ ไม่เหมือนใครในโลกหล้า!

"หวังจิงเหวิน? จวอหงวนคนใหม่ของศาลเทพอู๋เซี่ยงอย่างงั้นรึ?"ไท่จื่อสามที่ขมวดคิ้วไปมา.

เกี่ยวกับการปรากฎตัวของหวังจิงเหวิน ทำให้ภายในใจไท่จื่อสาม ไม่ค่อยสบายใจนัก ทว่าเขาก็ไม่มีทางที่จะแสดงท่าทางหยาบคายออกมา แม้ว่าไท่จื่อสามจะไม่ได้ก้าวไปบนวิถีของราชา ทว่าเกี่ยวกับการเมืองการปกครองเขาย่อมรับรู้ รับรู้ว่าจะต้องปฏิบัติกลับผู้ใต้บังคับบัญชาเช่นไร.

"เป็นผู้น้อยเอง!"หวังจิงเหวินกล่าว.

"เจ้าเดินทางมามีจุดประสงค์อะไร?"ไท่จื่อสามที่สอบถามออกมาในทันที.

"ก่อนหน้านี้หลายปี ไท่จื่อสามได้ส่งข่าวไปยังเขตแดนอู๋เซี่ยง เซิ่งหวังนั้นได้ให้ความสำคัญ? ทางเหนือของเขตแดนจวงหลุน นิกายซือกงและศาลเทพต้าเจิ้งได้ขัดแย้งกัน ข้าได้คาดเดาเอาไว้แล้วว่าต้าเจิ้งจะได้รับชัยชนะ!"หวังจิงเหวินที่เผยยิ้มเล็กน้อยออกมา.

คาดเอาไว้ว่าเซิ่งหวังต้าเจิ้งจะได้รับชัยชนะ!

ได้ยินคำพูดดังกล่าวนี้ไท่จื่อสามที่ดวงตาหดเกร็ง เหล่าเสนาธิการคนอื่นที่เผยท่าทางหวาดหวั่น นี่เขารู้เรื่องทั้งหมดอย่างงั้นรึ? ต้องไม่ลืมว่าสถานการณ์ที่เกิดขึ้นที่ตำหนักสังสารวัฏนั้นเพิ่งจบไป พวกเขาที่เร่งรีบกลับมาอย่างรวดเร็ว! ข่าวต่าง ๆ ยังไม่น่าจะถูกส่งมาถึงเขตแดนทางใต้ แต่เข้ารู้ก่อนแล้วอย่างงั้นรึ?

หวังจิงเหวินผู้นี้เป็นใครกัน?

ความแข็งแกร่งของหวังจิงเหวินนั้นไม่ได้มากมายนัก แม้แต่ยังเป็นมนุษย์อยู่ด้วยซ้ำ สิ่งที่พวกเขารู้คือเขาเป็นจวอหงวนคนใหม่ของศาลเทพอู่เซี่ยง ซึ่งเรื่องนี้ทุกคนรับรู้กันดี.

ความเร็วของมนุษย์ เป็นไปไม่ได้ที่จะรวดเร็วกว่าพวกเขา!

อย่างไรก็ตาม เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะรู้ผล นี่เขาเพียงแค่คาดเดาอย่างงั้นรึ?

"ถูกต้อง จงซานได้รับชัยชนะ! เจ้าเดาถูกได้อย่างไร?"ไท่จื่อสามที่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.

"เดาอย่างงั้นรึ? ไม่จำเป็นต้องคาดเดา หลายวันมานี้ข้าได้อ่านข้อมูลต่าง ๆ ของศาลเทพต้าเจิ้ง หลายปีมานี้พวกเขาได้วางแผนการเป็นขั้นเป็นตอน จึงไม่ยากที่จะสรุปผล."หวังจิงเหวินที่ส่ายหน้าไปมา.

เหล่าเสนาธิการที่ไร้ซึ่งคำพูด ไม่จำเป็นต้องคาดเดาอย่างงั้นรึ? เพียงเห็นข้อมูลก็รู้แล้วอย่างงั้นรึ?

"แล้วเซิ่งหวังส่งเจ้ามาทำอะไรอย่างงั้นรึ?"ไท่จื่อสามที่สูดหายใจลึก.

"ศาลเทพต้าเจิ้งของเขตแดนจวงหลุนนั้นดูเหมือนว่าจะไม่ธรรมดาอย่างที่พวกเราคิด พวกเขาที่ขยายดินแดนไปทั่วทุกสารทิศ อีกไม่นานจะต้องมาถึงตำหนักเทียนซีแห่งนี้แน่ เซิ่งหวังจึงได้ส่งผู้น้อยมาช่วยไท่จื่อสามอีกแรง นี่คือราชโองการของเซิ่งหวัง ขอให้ไท่จื่อสามโปรดแล!"หวังจิงเหวินที่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.

จากนั้นหวังจิงเหวินสะบัดมือพร้อมกับนำราชโองการออกมา.

ไท่จื่อสามที่รับมาในทันที จดจ้องมองใคร่ครวญอย่างระมัดระวัง กับราชโองการนี้ ทำให้ไท่จื่อสามขมวดคิ้วไปมา และจากนั้นก็สูดหายใจลึกจ้องมองไปยังหวังจิงเหวิน.

"เซิ่งหวังส่งเจ้ามาช่วยข้าอย่างงั้นรึ?"ไท่จื่อสามที่กล่าวออกมาด้วยความสงสัย.

"ครับ ผู้น้อยต้องการช่วยเหลือไท่จื่อสามอย่างเต็มที่ เพื่อสร้างความแข็งแกร่งของอู๋เซี่ยงในเขตแดนจวงหลุนแห่งนี้!"หวังจิงเหวินที่โค้งคำนับเล็กน้อย.

ทุกคนที่จ้องมองหวังจิงเหวินด้วยท่าทางประหลาดใจ ไม่แน่ใจ จากนั้นไท่จื่อสามที่ครุ่นคิดก่อนจะหัวเราะออกมา "ดี ได้เซียนเซิงมาช่วย ตำหนักเทียนซีจะต้องประสบผลยึดครองเขตแดนจวงหลุนแห่งนี้ได้อย่างแน่นอน."

"ผู้น้อยจะทำสุดความสามารถ!"หวังจิงเหวินที่พยักหน้ารับ.

"เซียนเซิงที่มากด้วยความสามารถ เป็นผู้ที่ผ่านการทดสอบเคอจีได้อย่างยอดเยี่ยมเป็นความสามารถที่ร้อยปีจะมีสักคน ไม่รู้ว่าสถานการณ์ในเวลานี้ จะจัดการอย่างไร?"ไท่จื่อสามที่สอบถามออกมาในทันที.

"ในเวลานี้ ผู้น้อยได้ทำการศึกษาภูมิประเทศของภาคเหนือเขตแดนจวงหลุนแล้ว กลุ่มอิทธิพลต่างตอนนี้กำลังระวังตัว ทว่าต้าเจิ้งจะต้องขยายดินแดนออกไปสำเร็จอย่างแน่นอน อีกไม่นานจะต้องประกาศสงครามกับตำหนักเทียนซีของพวกเราแน่!"หวังจิงเหวินที่กล่าวออกมาในทันที.

"ดี!"

"ไม่ว่าอย่างไรศาลเทพที่ผุดออกมาจากโลกใบเล็กน้อย ไม่ว่าอย่างไร ประวัติความเป็นมาย่อมด้อยกว่าพวกเรา!"หวังจิงเหวินกล่าว.

"เซียนเซิงกล่าวผิดแล้ว มีประวัติความเป็นมาอย่างงั้นรึ? ศาลเทพต้าเจิ้งอ่อนแอไม่มีประวัติความเป็นมาต่างหาก?"เสนาธิการคนหนึ่งที่กล่าวแย้งในทันที.

หวังจิงเหวินที่หรี่ตาจ้องมอง กล่าวออกมาเล็กน้อย "ประวัติความเป็นมา เกี่ยวข้องกับความแข็งแกร่ง มีเหตุผลมากมาย ไม่ว่าจะเป็นวัฒนธรรม ประสบการณ์ สายสัมพันธ์ เจตจำนงของปวงชน ล้วนมีผลต่อความแข็งแกร่ง สิ่งเหล่านี้ถูกเรียกว่าความเป็นมา ต้าเจิ้งที่แยกสวรรค์สะบั้นปฐพีออกมานั้น แน่นอนว่าประวัติความเป็นมาย่อมมีน้อยอยู่ หากพวกเขาต้องการพัฒนา พวกเขาก็จำเป็นต้องค้นหาเหล่าคนมีพรสวรรค์ การรับผู้มีความสามารถทั่วเขตแดนจวงหลุน นี่ไม่ใช่แค่เพิ่มความแข็งแกร่งแต่ยังเป็นการผสานประวัติความเป็นมาของเหล่าคนท้องถิ่นในเขตแดนจวงหลุน ซึ่งจะเป็นการดึงดูดสร้างสายสัมพันธ์ต่อประชาชนให้มีต่อต้าเจิ้ง จากนั้นประวัติศาสตร์ของพวกเขาก็จะเพิ่มขึ้นมาอย่างรวดเร็ว!"

กับคำพูดของหวังจิงเหวินนั้น ทุกคนที่ตระหนักได้ในทันที เสนาธิการหลายคนถึงกับต้องแสดงความนับถือทีเดียว.

"เช่นนั้น เซียนเซิงจะบอกว่าการที่เขาล้มโหลวซิงเฉินในการประลองนั้น จากนั้นจงซานก็ออกราชโองการทั่วหล้า ในการสอบเคอจีครั้งนี้ ก็เพื่อรวบรวมคนที่มีความสามารถของคนในเขตแดนจวงหลุนเพื่อเหตุผลนี้สินะ!"ไท่จื่อสามที่ตื่นตกใจขึ้นมาเช่นกัน.

เซิ่งหวังต้าเจิ้ง? เดิมทีการสอบเคอจีนั้นไม่ไช่แค่เพียงรวบรวมคนที่มีความสามารถเท่านั้น ยังมีความหมายลึกซึ้งซ่อนเอาไว้อยู่ จงซาน เป็นตัวตนที่น่าสะพรึงกลัวนัก!

หวังจิงเหวินที่พยักหน้าและกล่าวออกมาว่า "ข้าได้ศึกษาจงซานมาหลายวันแล้ว จงซานหลังจากที่ล้มโหลวชิงเฉิน จากนั้นก็จะออกราชโองการประกาศไปทั่วหล้า เห็นชัดเจนว่าความสามารถของจงซานนั้น อาศัยจังหวะที่เหมาะเจาะ! เพื่อเพิ่มประวัติศาสตร์ให้กับต้าเจิ้ง เป็นการกระทำที่ร้ายกาจมาก!"

"เซียนเซิง แล้วพวกเราจะต้องทำเช่นไร?"ไท่จื่อสามสอบถามออกมาในทันที.

"ต้าเจิ้งนั้นยังจำเป็นต้องพัฒนาอยู่มาก ทว่าไท่จื่อสามโปรดวางใจ พวกเราเหนือกว่ามาก พวกเรามีประวัติศาสตร์ความเป็นมาที่ยาวนาน ที่ต้าเจิ้งไม่สามารถเทียบได้เลย ก้าวแรกของพวกเราในเวลานี้ คือยึดครองพื้นที่รอบ ๆ โดยเฉพาะสี่ราชวงศ์สวรรค์!"หวังจิงเหวินกล่าว.

"สี่ราชวงศ์สวรรค์ที่สร้างปัญหาให้กับตำหนักเทียนซีของข้า หลายปีมานี้พวกเราอยู่ในภาวะคุมเชิง ยึดครองอย่างงั้นรึ? มันง่ายที่จะพูดแต่ยากที่จะทำให้สำเร็จ!"ไท่จื่อสามที่ขมวดคิ้วไปมา.

"อาจจะดูข้ามขั้นไปบ้าง แต่หากไท่จื่อสามารถมอบการบัญชาการทหารให้กับข้า ห้าปี ข้าสามารถที่จะกำราบสี่ราชวงศ์สวรรค์ได้สำเร็จอย่างแน่นอน!"หวังจิงเหวินที่กล่าวออกมาอย่างจริงจัง.

"ห้าปี? จะเป็นไปได้อย่างไร?"เสนาธิการคนหนึ่งที่เอ่ยออกมาด้วยความตกใจ.

หวังจิงเหวินที่จ้องมองไปยังเสนาธิการคนดังกล่าว พร้อมกับส่ายหน้าไปมา "ไท่จื่อสามโปรดตัดสินใจ.”

"ห้าปี? เป็นเรื่องที่เหลือเชื่อ ท่านมีความมั่นใจมากเท่าไหร่?"ไท่จื่อสามที่ขมวดคิ้วไปมาสอบถามออกไป.

"หากว่าข้าได้รับบัญชาจากศาลเทพอู๋เซี่ยง เพื่อยึดครองสี่ราชวงศ์สวรรค์นั้นภายในห้าปี เป็นเรื่องยากรึ? ข้ามั่นใจร้อยเปอร์เซ็นต์!"หวังจิงเหวินที่กล่าวออกมาด้วยความมั่นใจ.

ดวงตาของไท่จื่อสามที่ส่ายไปมา เสนาธิการคนอื่น ๆ เองก็เผยท่าทางแปลกประหลาด.

"แผนการจากนั้นล่ะ?"ไท่จื่อสามที่ไม่ตอบ ยังคงกล่าวสอบถามต่อไป.

"จากนั้น? แน่นอนเมื่อพวกเรายึดครองภาคใต้ของเขตแดนจวงหลุนได้แล้ว ภาคเหนือเอง ศาลเทพต้าเจิ้งคงจะรวมภาคเหนือเสร็จแล้ว ในเวลานั้นภาคเหนือและภาคใต้จะประจันหน้ากัน พวกเราจะเปิดฉากรบกับต้าเจิ้งอย่างเต็มกำลัง!"หวังจิงเหวินที่กล่าวออกมาด้วยความมั่นใจ.

รวมอาณาเขตภาคใต้ของอาณาเขตจวงหลุนอย่างงั้นรึ?นับเป็นเรื่องราวที่ยอดเยี่ยม.

ทุกคนที่จ้องมองหวังจิงเหวิน พร้อมกับเผยท่าทางแปลกประหลาด ส่วนไท่จื่อสามนั้นไม่เชื่อนักยังคงมองหวังจิงเหวิน และกล่าวออกมอย่างเคร่งขรึม "เจ้ามีอะไรรับประกัน?"

หวังจิงเหวินที่จ้องมองไปยังไท่จื่อสาม เผยยิ้มออกมาเล็กน้อย "รับประกัน? ศาลเทพอู๋เซี่ยงเป็นหลักประกันอยู่แล้ว ราชวงศ์ของพวกเราแข็งแกร่งและมากด้วยประวัติความเป็นมา การต่อสู้ของพวกเรานั้นไม่ได้ขาดคนที่มีความสามารถ แต่ขาดความเร็ว กับศาลเทพและราชวงศ์สวรรค์ จำเป็นต้องมีอะไรรับประกันด้วยอย่างงั้นรึ?"

หวังจิงเหวินที่กล่าวออกมาอย่างสุภาพ กับความกล้าของเขาทำให้เสนาธิการคนอื่น ๆ เขินอาย ทว่าหากว่าการเสนอของเขาไม่ได้รับการสนอง หวังจิงเหวินเองก็จะกลายเป็นตัวตลกให้คนอื่นหัวเราะได้เช่นกัน.

ไท่จื่อสามที่จ้องมองหวังจิงเหวินด้วยความลึกซึ้ง ก่อนที่จะหัวเราะเสียงดัง "อ่าฮ่าฮ่าฮ่า ดี! ข้าเชื่อเจ้า นับจากวันนี้ ทหารของเมืองเทียนซีจะมอบให้เจ้าเป็นคนบัญชาการ ทว่าแผนการทุกอย่างของเจ้าจะต้องผ่านตาของข้า!"

"รับทราบ ผู้น้อยจะช่วยเหลือไท่จื่อสามสุดความสามารถ!"หวังจิงเหวินที่กล่าวรับในทันที.

----------------------------------------------------------------

ศาลเทพต้าเจิ้ง เมืองซ่าง.

เมืองซ่างนับจากที่ผุดออกมาจากโลกใบเล็ก เมืองหลวงก็ถูกทำให้กลายเป็นเกาะลอยฟ้าเหมือนกันกับสวนสวรรค์ลอยฟ้าหลิงเซียว และที่ด้านล่างของเกาะลอยฟ้าในเวลานี้ได้ทำการเปิดสอบเคอจี เพื่อคัดเลือกเหล่าคนที่มีความสามารถ.

ภายในตำหนักปู่ซือ.

"เซิ่งหวัง แปดราชวงศ์สวรรค์ในเวลานี้ถูกกำราบเอาไว้อย่างราบคาบ ตอนนี้ไม่ได้เป็นภัยคุกคามต่อพวกเราแต่แต่น้อย ตราบเท่าที่พวกเราเคลื่อนทัพบุกเต็มกำลังย่อมสามารถยึดครองราชวงศ์สวรรค์ทั้งแปดได้อย่างแน่นอน!"อี้เหยี่ยนที่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.

"อืม!"จงซานที่นั่งบนบัลลังก์พลางพยักหน้ารับ.

"ทว่า เฉินมีความคิดบางอย่าง ในเวลานี้ พวกเราควรที่จะหยุดให้ทหารของพวกเรารุกเข้าไปดีหรือไม่? ตอนนี้พวกเราควรที่จะพักรบดีกว่า!"อี้เหยี่ยนสอบถามออกไป.

"หืม?"

ภายในห้องโถงนั้น เหล่าเสนาธิการต่างก็เผยความประหลาดใจออกมา ตอนนี้หากไม่หยุดก็จะได้รับชัยชนะเห็น ๆ  แต่กลับหยุดพักรบกับแปดราชวงศ์สวรรค์อย่างงั้นรึ?

"แปดราชวงศ์สวรรค์ แม้ว่าพวกเขาจะพ่ายแพ้ไปแล้ว ทว่าอูฐผอมก็ยังตัวใหญ่กว่าม้า การบุกกระหน่ำของพวกเรา จะเป็นให้พวกเขาเข้าตาจน พร้อมกับตอบโต้กลับอย่างไม่คิดชีวิต ผลประโยชน์ที่พวกเราควรจะได้เต็มเม็ดเต็มหน่วยคงจะเสียหายไปไม่น้อย นอกจากนี้การกำจัดแปดราชวงศ์สวรรค์ ยังทำให้พวกเราต้องเผชิญหน้ากับราชวงศ์สวรรค์อื่น ๆ อีกมากมาย แนวโน้มสงครามของพวกเราก็จะยิ่งใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ  การยึดครองพวกเราในครั้งนี้ไม่ได้สร้างประโยชน์ให้กับพวกเรานัก!"อี้เหยี่ยนกล่าว.

[*** 瘦死的骆驼比马大/อูฐผอมก็ยังตัวใหญ่กว่าม้า = ถึงจะตกต่ำแต่ก็เคยยิ่งใหญ่มาก่อน***]

"อืม!"จงซานที่พยักหน้ารับ.

"เฉินคิดว่าการประกาศพักรบชั่วคราวนี้ ยังจะทำให้แปดราชวงศ์สวรรค์เสื่อมลงเรื่อย ๆ  เป็นไปได้ว่าจะมีราชวงศ์สวรรค์อื่น ๆ รุกเข้ามาค่อย ๆ แบ่งพื้นที่ของพวกเรา และนั่นก็จะทำให้วาสนาของพวกเราลดน้อยถอยลง การจะทำลายล้างราชวงศ์สวรรค์ทั้งแปด ทางที่ดีควรจะทำให้วาสนาของพวกเขาลดลงด้วยตัวเอง หลังจากที่พวกเขาได้รับบาดเจ็บสาหัสแล้ว กองกำลังของพวกเราเมื่อยกออกไปบดขยี้พวกเขา พวกเราจะได้รับผลประโยชน์มากมาย!"อี้เหยี่ยนกล่าว.

"เฉินเองก็มีความเห็นเช่นเดียวกัน!"เสี่ยวหวังที่ออกความเห็นในทันที.

"เฉินเองก็มีความเห็นเช่นเดียวกัน!"จ้าวโส่วเซี่ยงที่เอ่ยสนับสนุนอีกคน.

"เฉินก็มีความคิดเห็นเช่นคนอื่น ๆ !"เหล่าเสนาธิการต่างก็ลงความเห็นเป็นเสียงเดียวกัน.

"ให้เป็นไปตามนั้น!"จงซานที่รับคำในทันที.

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด