ตอนที่แล้วChapter 1399 การช่วยเหลือจากเทพแห่งความดุร้าย.
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 1401 จงซาน ปะทะเฉิงโห่ว.

Chapter 1400 สิ่งของปุถุชน ที่ถูกเรียกว่า พลั่ว!


"กงเชียน เจ้าต้องการทำอะไร?"เซียนบรรพชนอีกคนที่ตะโกนออกมาเสียงดัง.

"จินเผิง เป็นน้องชายของข้า เจ้า? เมื่อกี้เจ้าจะสังหารน้องชายของข้าอย่างงั้นรึ?"

กงเชียนที่กล่าวออกมาด้วยเสียงที่เย็นยะเยือบ เสียงที่ตรงข้ามกับยูไลโปรดสัตว์ในนรก เสียงที่แช่แข็งไปถึงขั้ววิญญาณ จิตสังหารที่แผดกลิ่นอายเหมือนกับใบมีด เจาะทะลวงลงไปในกระดูก!

กล่าวจบ พายุที่หมุนวนระเบิดออกมา ปราณทมิฬที่ฟุ้งกระจายถูกพัดออกไป.

"แฮก ๆ !"สามเซียนบรรพชนที่สูดหายใจลึก แววตาที่ส่ายไปมาอย่างบ้าคลั่ง.

"หนี ~~~~~~~~~~~~~~~~!”

เซียนบรรพชนคนหนึ่งที่ร้องตะโกน พร้อมกับหนีในทันที.

ในอดีต ปราชญ์เทพเจ็ดคนที่ต่อต้านสวรรค์ กงเชียนที่ได้สมญาว่าเป็นเทพแห่งความดุร้าย สามารถที่จะขับไล่ยอดฝีมือทุกคนกลับไปได้.

ผ่านมากี่ปีแล้วที่เขากลับมาหลังจากที่เขาต่อต้านเทียนชู? กงเชียนเวลานี้มีความแข็งแกร่งเพิ่มมากขึ้นเท่าไหร่?

ทั้งสามไม่รู้ว่ากงเชียนแข็งแกร่งเท่าใดแล้ว ทว่ารู้เพียง กงเชียนที่ยึดครองตำแหน่งประมุขคืนจากปราชญ์เทพกงจื่อ.

หนี!เซียนบรรพชนทั้งสามที่ไม่ลังเลแม้แต่น้อยพุ่งออกไปคนละทิศทาง.

เซียนบรรพชนที่ถอยหนี ทว่ากลับมีเซียนบรรพชนฝั่งละสองคนปรากฎออกมา.

"ปัง!“”ปัง!“”ปัง!”

เกิดเสียงดังสนั่น สามเซียนบรรพชนที่หยุดอยู่กับที่ทันที.

เพราะว่าแต่ละคนนั้น ปรากฎยอดฝีมือสองคนขวางทางพวกเขาเอาไว้ หกเซียนบรรพชนที่ขวางกั้นพวกเขา.

"กงเชียน เจ้าต้องการทำอะไร? พวกเราเป็นคนตระกูลเทียน เวลานี้รับคำสั่งท่านประมุข เจ้ากล้า ............!”

กงเชียนที่ไม่สนใจเหล่าเซียนบรรพชนเหล่านั้น ทว่าเขาหันหน้ากลับมามองจินเผิง.

จินเผิงที่จ้องมองไปยังกงเชียน เผยยิ้มที่ซับซ้อนออกมา.

"เจ้าดีกับข้า!"จินเผิงที่เผยรอยยิ้มขม ๆ .

จากนั้นจินเผิงที่เริ่มนั่งสมาธิ บำเพ็ญลมหายใจ ในเวลานี้เขาที่รู้สึกปลอดภัยเมื่อมีกงเชียน.

ในเวลาเดียวกัน กงเชียนที่เผยยิ้มที่ยากจะหาได้เช่นกัน.

ที่ไกลออกไป เต้าเหรินถูที่จ้องมอง ไม่ได้ก้าวเข้ามา ขณะที่จ้องมองไปยังเซียนบรรพชนสองคนที่สู้กับเซียนเซิงซือ ก่อนที่เขาจะกระชับดาบโลหิต พุ่งตรงไปยังสองเซียนบรรพชน.

"กงเชียน!"

เสียงจากบนอากาศที่เกิดขึ้นในทันที.

กงเชียนที่เงยหน้าขึ้นมอง เป็นเซิ่งกงเป้า! ที่ด้านหลังเซิ่งกงเป้ามีคนอีกสี่คน.

"ราชครู!"กงเชียนที่เอ่ยปากออกมา.

เห็นชัดเจนว่า เขายังคงเรียกเหมือนเมื่อครั้งราชวงศ์ซ่างยังอยู่.

"ดูเหมือนว่า จะมาเร็วกว่าพวกเรา ที่นี่มอบให้เจ้า ข้าจะไปยังที่อื่น!"เซิ่งกงเป้าที่เอ่ยออกมาเบา ๆ .

"อืม!"กงเชียนพยักหน้ารับ.

เซิ่งกงเป้าที่หันหน้ากลับไปพูดกับสี่ร่างข้างหลัง "ทุกท่าน มายังต้าเจิ้ง ต้องขอรบกวนแล้ว.”

"เซียนเซิงเซิ่งโปรดวางใจ ข้าและพวก ในเมื่อตัดสินใจเข้าร่วมต้าเจิ้ง แน่นอนว่าเป็นเรื่องที่ควรกระทำ หาได้เป็นปัญหา อีกอย่างยังเป็นช่วงเวลาที่จะสะสมคุณงามความดี โปรดวางใจ พวกเราจะกระทำสุดความสามารถ."หนึ่งในนั้นเอ่ย.

เห็นชัดเจนว่า เซิ่งกงเป้านั้นได้เดินทางไปยังทวีปตะวันออก เชิญกงชวียนมาช่วยจงซาน เซิ่งกงเป้าที่ไม่ได้เพียงทำงานสำเร็จ ยังสามารถนำอีกสี่เซียนบรรพชนกลับมาอีกด้วย!

"ดี!"เซิ่งกงเป้าที่พยักหน้ารับ.

"ปัง!"เซิ่งกงเป้าที่นำสี่เซียนบรรพชนเข้าสู่สนามรบ.

ในเวลาเดียวกันนั้น กงเชียนที่หันหน้าไปมองเซียนบรรพชนสามคนที่ถูกล้อมเอาไว้ แววตาที่ปะทุจิตสังหารที่รุนแรงออกมา.

"กงเชียน จินเผิงเขาไม่ได้เป็นไร ข้าและคนอื่นก็ไม่ได้สังการเขา ไว้วันหน้าพวกเราพี่น้องจะไปขอขมาเจ้าอีกครั้ง!"เซียนบรรพชนอื่นที่เอ่ยออกมา.

"ไม่จำเป็น!"กงเชียนที่กล่าวออกมาด้วยเสียงเย็นชา.

"หืม?"

"เจ้าตาย ถึงจะเป็นการขอขมาต่อน้องของข้า!"กงเชียนที่กล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นชา.

ระหว่างที่กล่าวนั้น กงเชียนที่ดวงตาเบิกกว้าง.

"วูซซซซซ!"

ในเวลาเดียวกันนั้นพื้นที่รอบ ๆ ที่ถูกปกคลุมด้วยแสงสีฟ้า ภาพเงาของนกยูงที่ใหญ่ยักษ์ปกคลุมท้องฟ้า กงเชียนที่เริ่มลงมือ!

--------------------------------------------------------

ทันทีที่กงเชียนเข้าร่วมการต่อสู้ เทียนเต๋าจื่อที่อยู่บนอวกาศต้องขมวดคิ้วไปมา.

"สายลมกำลังเปลี่ยนทิศ!"หยิงที่กล่าวออกมาเสียงเย็น.

ใบหน้าของเทียนเต๋าจื่อที่เปลี่ยนเป็นซับซ้อน เพราะว่าค่ายกลปราณศพนั้น แม้นว่าจะไม่มีใครมองเป็นพื้นที่ด้านใน ทว่าสุดยอดฝีมือทั้งสองย่อมเห็นอย่างแน่นอน ทันทีที่กงเชียนมาถึง ทำให้สนามรบกลายเป็นสมดุล แม้แต่ต้าเจิ้งกลายเป็นทรงพลังมากกว่าเดิมอีก.

ปราณทมิฬที่ปกคลุมสนามรบทางตะวันตกเฉียงใต้ของสวนสวรรค์ลอยฟ้าหลิงเซียว ส่วนทางใต้นั้นสนามรบที่เป็นหมอกสีขาว.

สนามรบที่ปกคลุมด้วยหมอกสีขาวเพราะว่าเป็นพลังฮวงจุ้ยที่แตกต่างกันปะทะกันนั่นเอง.

หนี่ปู่ซาที่อัญเชิญตำหนักสังสารวัฏคฤหาสน์อเวจี และเหริ่นชุนที่ใช้เพลิงจินอู๋ซาน.

ด้านนอกที่ขาวโพลน ส่วนด้านในก็เกิดการปะทะที่รุนแรงเช่นกัน.

กลุ่มคนที่สนับสนุนตำหนักสังสารวัฏเพื่อใช้แดนห้ามลทิน ส่วนอีกฝั่งเป็นดวงตะวันขนาดใหญ่ เพลิงของจินอู๋ซานที่มีดวงตะวันขนาดเล็กถึงห้าสิบสามดวง.

ดวงตะวันห้าสิบสามดวงที่ หมุนวนโคจรไปเรื่อย เข้าปะทะตำหนักสังสารวัฏ ล้อมรอบตำหนัก ขณะที่ผลักดันให้มันเล็กลงเรื่อย ๆ .

"ปัง!“”ปัง!“”ปัง!”..............................

กลุ่มของจินอู๋ซานที่โจมตีตำหนักสังสารวัฏกระหน่ำไม่หยุด.

ภายในโลกเขตแดนตำหนักสังสารวัฏ ที่ใจกลางของตำหนักหลัก.

หนี่ปู่ซาที่สวมชุดสีดำ ขณะกำลังกระตุ้นเคลื่อนย้ายตราผนึกขนาดใหญ่ ควบคุมตราขนาดใหญ่ในสระขนาดเล็กใจกลางห้องโถงใหญ่.

สระขนาดเล็กที่กำลังส่ายไปมา ตราผนึกขนาดใหญ่ที่เวลานี้เริ่มไม่มั่นคง.

ในเวลาเดียวกัน เงา ๆ หนึ่งที่ก้าวเดินเข้ามา.

"อาจารย์ไม่ได้การแล้ว พวกเราจะขวางไม่ไหวแล้ว!"ร่างดังกล่าวที่เอ่ยออกมาด้วยความกระวนกระวายใจ.

"ไม่สามารถขวางได้ ก็ไม่มีใครช่วยพวกเรา ให้พวกเขาใช้วิถีสวรรค์ต่อไป ข้าก็จะกระตุ้นน้ำพุเหลืองเต็มกำลัง!"หนี่ปู่ซาที่เอ่ยออกมาด้วยความโกรธเกรี้ยว.

"รับทราบ!"ร่างในชุดดำที่รับคำ ก่อนที่จะถอยกลับไป.

ร่างเงาดังกล่าวที่ถอยกลับไปแล้ว ใบหน้าของหนี่ปู่ซาที่เผยท่าทางกระวนกระวายใจเช่นกัน.

ตำหนักสังสารวัฏคฤหาสน์อเวจีนั้น ในภพหยาง ทำให้เขาอ่อนด้อยกว่าเหริ่นชุน และเซียนบรรพชนเองก็น้อยกว่า พวกเขามีเพียง 35 คน ทั้งที่ฝั่งตรงข้ามีถึงห้าสิบห้า ต่างกันถึง 20 คน.

ความแตกต่างนี้ มากเกินไป เกินกว่าจะใช้อำนาจวิชาของฮวงจุ้ยทดแทนกันได้.

หนี่ปู่ซาที่เผยท่าทางร้อนใจ.

ห้าสิบห้าดวงตะวันขนาดเล็กนั้นทรงพลังเป็นอย่างมาก.

และที่ใจกลางพวกเขานั้น มีแท่นบูชาขนาดมหึมา.

"ตูมมมมม!"เสียงที่ดังกระหึ่มก้องกังวานไปทั่ว.

บนแท่นบูชาที่ใหญ่ยักษ์นั้น มีร่างสองร่างยืนอยู่.

เหริ่นชุนและกุยเช่อ ที่ด้านหน้าพวกเขานั้นมีระฆังฮุ่นตุ้นที่ปล่อยเปลวเพลิงพุ่งออกไปทั่วทุกสารทิศ.

"ฮ่าฮ่าฮ่า หนี่ปู่ซา เจ้าอย่าได้ขัดขืน ไม่มีทางขัดขืนได้ ยอมแพ้ซะ ศาลสวรรค์เหยาจูไร้เทียมทาน!"เหริ่นชุนที่ตะโกนออกมาด้วยความตื่นเต้น.

เสียงของระฆังที่ยังคงดังก้องออกไปรอบ ๆ .

"ไร้ประโยชน์ จงซานจะต้องตายวันนี้ ยอมแพ้ซะ."กุยเซ่อที่กล่าวเพิ่มอีกคน.

ทั้งคู่ที่เวลานี้เต็มไปด้วยความตื่นเต้นกับชัยชนะที่ได้รับ พวกเขาที่ยังคงกระตุ้นระฆังฮุ่นตุ้นอยู่ตลอดเวลา.

หนี่ปู่ซาที่ได้ยินเสียงของคนทั้งสองที่เผยใบหน้าอัปลักษณ์ กัดฟันแน่นทว่ายังคงอดทนอยู่.

ทว่าในสภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยหมอกขาวนั่น.

"ปัง!"เสียงที่ดังก้องกังวาน.

"ร้อน ๆ !"เสียง ๆ หนึ่งที่ดังขึ้นในทันที.

"วูซซซซ!"ลูกบอลสีน้ำเงินที่ปิดกั้นเสียงเอาไว้.

ภายในบอลน้ำเงินนั้น มีร่างสองร่างยืนอยู่ ทั้งสองที่กุมหยกอันหนึ่งเอาไว้ หนึ่งอ้วนหนึ่งผอม เป็นเฟยเกอและจูกานที่หนีมาจากเมืองอู๋ซวังนั่นเอง.

"ไป๋จื่อหลอกพวกเรา อะไร หยกชี้นำ สัมผัสได้ถึงลิขิตของเทียนชู และจะนำพวกเราไปพบกับคนที่คุ้นเคยอย่างงั้นรึ? นี่เต็มไปด้วยทะเลเพลิง มีแต่ทำให้เราต้องตาย!"เฟยเกอที่กล่าวออกมาด้วยความร้อนใจ.

"โชคดีที่พวกเรามีพลั่วยักษ์ ไม่เช่นนั้นได้ตายไปแล้ว! เฟยเกอ ไป๋จื่อต้องเป็นคนไม่ดีแน่เลย!"จูกานเอ่ย.

"ใช่ เป็นคนไม่ดี!"

"ให้พวกเรามาฆ่าตัวตาชัด ๆ ! เจ้าเฒ่าเจ้าเล่ห์ ฝากไว้......"จูกานที่กำลังกล่าวสาปแช่ง.

"ไม่ใช่!"เฟยเกอที่เอ่ยปากออกมาในทันที.

"มีอะไรอย่างงั้นรึ?"

"หยกชี้นำนี้เขาไม่ได้มอบให้พวกเรา เขาไม่ได้บอกว่าให้พวกเรา พวกเราชิงมาเอง!"เฟยเกอที่ขมวดคิ้วไปมา.

จูกาน"..................!”

"ไม่ว่าเขาจะให้หรือชิงมา เขาก็เป็นคนหลอมขึ้นมา เขาไม่ควรทำของไร้ประโยชน์ออกมา!"เฟยเกอที่กล่าวเว้นความผิดตัวเองไป.

"ใช่! มันเป็นของเจ้าแก่นั่น!"จูกานเอ่ย.

"อืม!"เฟยเกอที่แค่นเสียงออกมาเช่นกัน.

"เฟยเกอ พวกเราจะทำอย่างไรดี?"จูกานที่กล่าวออกมาด้วยความกังวล.

"พวกเรามีพลั่วยักษ์ปกป้อง พวกเราก็คงต้องก้าวต่อไป!"เฟยเกอกล่าว.

"ดี!"

คนทั้งสองที่กุมพลั่วยักษ์ ขณะบินต่อไปอีก.

"สารเลว!"จูกานที่คำรามออกมาเสียงดัง.

"เจ้าด่าข้าทำไมกัน!"เฟยเกอที่คำรามเสียงดัง.

"ข้าไม่ได้ว่าท่าน ท่านดูนั่น เจ้าสารเลวทั้งสองนั่น เห็นไหม? พวกมัน คือคนที่ขโมยครอบครัวของพวกเรา ขโมยน้องสาวของท่านและพี่สาวของข้า!"จูกานที่เอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงแค้นเคือง.

"เป็นพวกมันจริง ๆ ? สารเลว ไป ต้องสั่งสอนพวกมัน!"เฟยเกอแค่นเสียง.

"อืม!"จูกานที่บินออกไปด้วยความชั่วร้าย.

ทั้งสองที่บินไปหยุดที่ด้านบนแท่นบูชา.

"หนี่ปู่ซา อย่าได้ขัดขืน!"เหริ่นชุนที่กระตุ้นระฆังฮุ่นตุ้น พร้อมกับร้องออกไป.

"การต่อสู้ครั้งนี้พวกเจ้าแพ้แล้ว สิบลมหายใจ ต่อให้ปราชญ์เทพก็ช่วยเจ้าไม่ได้!"กุยเช่อที่กล่าวออกมาด้วยความตื่นเต้น.

"ปราชญ์เทพ? ฮ่าฮ่าฮ่า!"เหริ่นชุนที่หัวเราะเสียงดัง.

ในเวลาเดียวกัน เหริ่นชุนที่รู้สึกขนทั่วร่างที่ลุกตั้งชัน สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายอันตรายทำให้หยุดหัวเราะทันที.

อะไร?

"ปัง!"

พลั่วยักษ์สองพี่น้องที่ฟาดลงมายังกบาลด้านหลังเหริ่นชุนทันที.

"เครง!"

ระฆังฮุ่นตุ้นที่สั่นไปมาเล็กน้อย ก่อนที่เหริ่นชุนจะหมดสติไป "เพลิงจินอู๋ซานรอบ ๆ เวลานี้ ไม่มีทางที่จะตรวจจับข้าได้? เป็นไปไม่ได้ แม้แต่ปราชญ์เทพก็ไม่สามารถเข้ามาได้!"

เพราะเหริ่นชุนหมดสติ ทันใดนั้นเพลิงจินอู๋ซานที่พุ่งมารายล้อมกุยเช่อ.

กุยเช่อที่เคลื่อนพลังป้องกันอย่างรวดเร็ว.

"เหริ่นชุน เจ้าทำอะไร?"กุยเช่อที่หันหน้ากลับไป.

พริบตาที่กุยเช่อหันหลังกลับ ก็ปรากฎพลั่วยักษ์ที่พุ่งมา.

"ปัง ~~~~~~~~~~~~~~~~!”

ใบหน้าของกุยเช่อที่ถูกฟาดด้วยพลั่วยักษ์ กระแทกไปยังใบหน้าจมูกหักปากเบี้ยว หมดสติไปทันที.

"ตูมมมม ~~~~~~~~~~~~~~~~!”

ดวงตะวันที่ใหญ่ยักษ์ ทันใดนั้นก็ระเบิดสลายหายไปในทันที.

หนี่ปู่ซาที่อยู่ตรงข้ามสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายที่หนักหน่วงหายไป.

"อาจารย์ เพลิงของเหริ่นชุนสลายหายไปแล้วอย่างงั้นรึ? หมายความว่าอย่างไร? เป็นแผนการอย่างงั้นรึ?"ศิษย์ของหนี่ปู่ซาที่เอ่ยออกมาในทันที.

"แผนการอย่างงั้นรึ? อย่าได้สนใจ กระตุ้นพลังตอบโต้ต่อไป!"หนี่ปู่ซาที่ตะโกนออกไปเสียงดัง.

"รับทราบ!"

บนอวกาศ.

หยิงและเทียนเต๋าจื่อจ้องมองสนามรบ พวกเขาที่จดจ้องมองไปยังค่ายกลปราณศพ และจ้องมองการต่อสู้ในค่ายกลฮวงุจ้น.

ขณะที่พวกเขากำลังจดจ้องมองอยู่นั้น หยิง เทียนเต๋าจื่อ กุยกูซือ เทียนโจวจื่อ ทั้งสี่คนที่ใบหน้ากระตุก.

"เหริ่นชุน ถูกมดปลวกสองคน ทำให้สลบเลยรึ?"เทียนโจวจื่อที่เผยท่าทางประหลาดใจแทบไม่อยากเชื่อ.

"สิ่งนี้ในโลกปุถุชน เรียกว่า พลั่ว!"กุยกู่ซือที่กล่าวออกมาด้วยความประหลาดใจเช่นกัน.

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด