ตอนที่แล้วChapter 1390 หนี่ปู่ซาที่เปลี่ยนไป.
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 1392 เซียนเซิงโหยวหมิงทั้งหัวเราะและร้องไห้.

Chapter 1391 วิหารเหล่ยติง.


วิหารเหล่ยติง.

ภายในห้องโถง ชายในชุดสีม่วงที่ยืนอยู่.

"อาจารย์อา!"ที่ด้านนอกปรากฎคนผู้หนึ่งที่ตะโกนเข้ามา.

ขณะนั้นชายในชุดสีม่วงที่กำลังปิดด่านบำเพ็ญ ดวงตาทั้งสองข้างที่ปิดแน่น เห็นชัดเจนว่าไม่ยินดีที่จะสนใจด้านนอก.

"!"ประตูตำหนักที่เปิดออกเสียงดัง.

แสงสว่างจ้าที่ส่องเข้ามาในห้องโถง ชายในชุดสีม่วงที่ขมวดคิ้วเล็กน้อย ลืมตาขึ้นในทันที.

ที่ประตูทางเข้านั้น ชายในชุดสีฟ้ายืนอยู่.

"บัดซบ ใครอนุญาตให้เจ้าเข้ามา?"ชายในชุดสีม่วงที่ตะโกนออกมาเสียงดัง แววตาที่เผยความโกรธเกรี้ยวออกมา.

ชายในชุดสีฟ้าที่กล่าวออกมา "มีบางคนที่ต้องการยืมบางสิ่งจากท่าน!"

"อะไร?"ชายในชุดสีม่วงที่กล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นชา.

"ชีวิต!"ชายในชุดสีฟ้ากล่าว.

ได้ยินคำพูดของชายในชุดสีฟ้า ชายในชุดสีม่วงดวงตาหดเกร็ง.

"ซี่!"

สายไปแล้ว กระบี่ที่เงียบเชียบทะลวงมายังด้านหลังของชายในชุดสีม่วง ทะลวงหน้าอกของเขาไปในทันที.

“!”

ความเลือนลางสลัว ดวงวิญญาณของชายชุดม่วงที่ราวกับถูกดึงไปจากคมกระบี่ที่แหลมคม.

"ซี่!"กระบี่บางทีถูกถอนออกมา.

ที่ด้านหลังชายชุดม่วงที่ปรากฎเงาอีกร่าง.

"เร็วเข้า!"เงาดังกล่าวเอ่ย.

"รับทราบ!"ชายในชุดสีฟ้าที่เร่งรีบปิดประตูในทันที.

ชายในชุดฟ้าที่ใช้มีดสั้นเลาะเนื้อของชายชุดม่วงทันที ก่อนที่จะลอกหนังของเขาด้วยวิชาพิเศษ ขณะที่ทำการเปลี่ยนหน้าของเขา จากนั้นก็เร่งรีบเปลี่ยนชุดสีม่วงด้วยเช่นกัน.

ไม่นานหลังจากนั้น ชายในชุดสีฟ้าศิษย์หลานได้กลายเป็นอาจารย์อาในชุดสีม่วงในทันที.

"เอาล่ะ ข้าได้เปลี่ยนหนังของเขาแล้ว ข้าได้เป็นเขาแล้ว ในวิหารเหล่ยติงหลายปีมานี้ นิสัยและการกระทำของเขาข้าได้ศึกษาดีแล้ว เจ้าจำเป็นต้องจัดการกับศิษย์แกนหลักพร้อมกับข้าให้สิ้น ลอบสังหารไปทีละคน!"ชายที่สวมผิวใหม่เอ่ย.

"อืม!"เงาร่างดังกล่าวพยักหน้ารับ.

เหมือนกับเหตุการณ์ดังกล่าว ได้เกิดขึ้นยังส่วนอื่น ๆ ของวิหารเหล่ยติง.

ความเงียบที่คืบคลาน เหล่ามีสังหารที่ค่อย ๆ ลดจำนวนพวกเขาช้า ๆ  แทรกซึมเข้าไปในกลุ่มของคนวิหารเหล่ยติง แม้นว่าจะเริ่มต้นที่กลุ่มคนที่มีระดับต่ำสุด ทว่าแผนการก็เป็นไปอย่างช้า ๆ และมั่นคง ไม่มีใครสามารถจับได้.

ลอบสังหารและก็ลอบสังหาร!

ในเวลาเดียวกัน หลากหลายชีวิตที่ร่วงหล่นจากสวรรค์ ทว่าด้วยวิหารเหล่ยติงนั้น มีกรรมวาสนามากมาย แม้นว่าจะมีคนตายไปเป็นจำนวนมาก แต่ก็ไม่ได้ส่งผลแม้แต่น้อย.

ศิษย์รุ่นแรกของวิหารเหล่ยติงที่ประจำวิหารต่างกัน ภายในห้องโถงแห่งหนึ่ง ชายในชุดสีแดงที่ขมวดคิ้วไปมาเล็กน้อย.

"อาจารย์ มีอะไรอย่างงั้นรึ?"ศิษย์คนหนึ่งที่เผยท่าทางสงสัยออกมา.

"เกิดเรื่องคับขันแล้ว!"ชายในชุดสีแดงที่กล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม.

"คับขัน!"ศิษย์คนดังกล่าวที่เผยท่าทางสงสัย.

"เจ้ากล้า!"ชายในชุดสีแดงที่เอ่ยออกมาด้วยเสียงเย็นชา.

"แค๊ก!"ที่ด้านหลังศิษย์ของเขาปรากฎริ้วแสงที่ปรากฎขึ้น.

ศิษย์ของเขาที่หันหน้ากลับไป.

"เจ้ามาอยู่ด้านหลังข้าได้อย่างไร!"ศิษย์คนดังกล่าวที่เอ่ยออกมาด้วยความตกใจ.

"ซี่!"ศิษย์คนดังกล่าวอุทานออกมายังไม่จบด้วยซ้ำ ก็ได้ยินเสียงซี่ขึ้นที่ทิศทางของอาจารย์.

ขณะที่หันกลับไป ศิษย์คนดังกล่าวที่เผยแววตาแปลกประหลาดใจจ้องมองไปยังอกของชายชุดแดง ที่หน้าอก มีกระบี่สีแดงที่ทะลวงผ่านมา ชายในชุดแดงเองก็เผยแววตาไม่อยากเชื่อออกมาเช่นเดียวกัน.

ลอบสังหาร? มีมือสังหารอย่างงั้นรึ?

"ซี่!"

กระบี่สีแดงบางทีถูกดึงออก ดวงวิญญาณของชายชุดแดงก็ถูกดึงออกไปด้วย กระบี่ที่แหลมคนอาบไปด้วยโลหิตที่ชุ่มเปียก.

"อาจารย์!"ศิษย์คนดังกล่าวที่อุทานออกมาด้วยความตกใจ.

"ซี่!"

กระบี่สีฟ้าที่ทะลวงเข้าร่างของเขาอีกรอบ ดวงถูกทำลาย ไม่มีเวลาให้เขาได้ร้องออกมาด้วยซ้ำ.

“!”

สองศพที่ล้มลงบนพื้น.

"หัวหน้าหน่วยจินเหว่ย!"ร่างเงากระบี่ฟ้าที่คุกเข่าให้กับร่างเงากระบี่สีแดง.

"อย่าได้ลืม? ศิษย์ลำดับหนึ่งต้องระวังให้มากกว่านี้ บางคนได้ก้าวไปถึงเซียนบรรพชนขั้นแรกแล้ว หากเจ้าไม่สามารถสังหารได้สำเร็จ และข้าไม่เผยตัวออกมา จะเป็นการแหวกหญ้าให้งูตื่น การทำลายกรรมวาสนาของวิหารเหล่ยติงจะล้มเหลว งานสำคัญจะผิดพลาดไม่ได้”

"ผู้น้อยผิดไปแล้ว!"เงากระบี่สีฟ้าเอ่ยออกมาด้วยความละอายใจ.

"ไปได้!"ร่างเงากระบี่สีแดงกล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.

"ขอบคุณหัวหน้าหน่วย!"ร่างเงากระบี่สีฟ้าที่กล่าวออกมาด้วยความซาบซึ้ง.

"!"เงาร่างกระบี่สีฟ้าที่หายไปไร้ร่องรอย.

ร่างเงากระบี่สีแดงที่จ้องมองไปรอบ ๆ  ก่อนที่จะเก็บศพทั้งสอง แล้วก็หายไปอย่างไร้ร่องรอยเช่นกัน.

...

ตำหนักเซิ่งหนี่!

จื่อซวินที่จ้องมองไปยังฝนโลหิต ก่อนที่จะกลับเข้ามาในห้องโถง.

ผ่านไปราว ๆ สามชั่วยาม.

"พิรุณโลหิตได้จบสิ้นแล้ว หากแต่วิหารของพวกเรากับดูสงบเงียบเป็นอย่างมาก!"สาวใช้คนหนึ่งที่เอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงแปลก ๆ .

"สงบอย่างไร?"สาวใช้อีกคนเอ่ยกล่าว.

"ข้าไม่รู้! บางทีดูเหมือนวังเวงเป็นอย่างมาก!"

เซิ่งหนี่จื่อซวินที่ครุ่นคิดเล็กน้อย ก่อนที่จะกล่าวออกมาว่า "พวกเจ้าออกไปก่อน ข้าต้องการอยู่คนเดียวเงียบ ๆ สักพัก!"

"เจ้าค่ะ!"สาวใช้ที่พยักหน้ารับ.

สาวใช้ที่ออกจากตำหนักไป.

"!"ประตูที่ปิดเสียงดัง.

"เฮ้อ!"จื่อซวินที่ถอนหายใจเบา ๆ .

"ตึก ๆ !"ที่หน้าหน้าประตูปรากฎเสียงเคาะขึ้นในทันที?

"หืม?"ใบหน้าของจื่อซวินที่เปลี่ยนเป็นซับซ้อน.

วิหารเหล่ยติง จื่อซวินที่ระวังตัวเองเป็นอย่างมาก การมาเคาะประตูเช่นนี้? ไม่ใช่สาวใช้ของนางอย่างแน่นอน.

จื่อซวินที่จ้องมองไปยังประตูด้านหน้า จะจ้องมองเขม็ง.

"เปิดเข้ามาเอง!"จื่อซวินที่กล่าวอย่างเคร่งขรึม.

"แอด!"ประตูด้านหน้าที่เปิดออก.

ที่ด้านนอกประตูนั้น มีชายชุดดำที่ปรากฎขึ้น.

"เจ้าเป็นใคร? สาวใช้ของข้าล่ะ?"จื่อซวินที่เผยความเย็นชาออกมา.

ชายในชุดสีดำที่ก้าวเข้ามา จากนั้นก็แสดงความเคารพต่อจื่อซวินเล็กน้อย.

เห็นอีกฝ่ายแสดงความเคารพ ใบหน้าของจื่อซวินที่เผยท่าทางประหลาดใจออกมา.

"พวกนางปลอดภัยดี เพียงแค่หมดสติเท่านั้น ศาลเทพต้าเจิ้ง ผู้บัญชาการหยิงเหว่ย อันหวงคารวะท่านหญิงจื่อซวิน!"ชายชุดดำเอ่ย.

"ศาลเทพต้าเจิ้ง?"จื่อซวินที่ขมวดคิ้วไปมา.

"ครับ!"

"เจ้ามาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร?"จื่อซวินที่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.

"งานวันเกิดเซิ่งหวังที่ทวีปเหนือนั้น เซิ่งหวังเตรียมที่จะสังหารเฉิงโห่วก่อตั้งศาลสวรรค์ ข้าและพวก รับคำสั่งให้มาทำลายวิหารเหล่ยติง ทำลายรากฐานของเฉิงโห่ว ในเวลาเดียวกันก็รับผิดชอบคุ้มกันท่านหญิงจื่อซวินกลับไปด้วย!"อันหวงที่กลับมาด้วยความเคารพ.

อันหวงที่รับรู้ความสัมพันธ์ของจงซานและจื่อซวิน ดังนั้นจึงเต็มไปด้วยความเคารพ.

"กลับอย่างงั้นรึ? ข้าไม่กลับ!"จื่อซวินที่ส่ายหน้าไปมา.

"รับทราบ เซิ่งหวังได้สั่งการให้กระทำตามท่านหญิงจื่อซวินต้องการ และผู้น้อยยังได้นำจดหมายของเซิ่งหวังมาด้วย ขอให้ท่านหญิงจื่อซวินโปรดยล!"อันหวงที่นำจดหมายส่งมอบให้กับนาง.

บนจดหมาย จื่อซวินที่สามารถมองเห็นบางอย่างได้ในทันที.

จื่อซวินที่เห็นที่ต้นกระดาษมีอักษรสามตัว ขณะจ้องมองทำให้มือของนางสั่นไหว อารมณ์ที่ท่วมท้นขึ้นจมูกเล็กน้อย.

อักษรสามตัว "ถึงจงซาน"

อันหวงเวลานี้ได้ถอยออกจากตำหนักไป รอคอยอยู่ด้านนอก.

ปล่อยให้จื่อซวินอ่านจดหมาย ซึ่งเป็นจดหมายที่นางเคยส่งให้จงซานขณะที่จะโบยบินออกมาจากโลกใบเล็ก ก่อนที่จงซานจะส่งมันคืนกลับมา.

นางที่ขบริมฝีปาก จื่อซวินที่เปิดจดหมายออกมา.

อักษรแถวหนึ่งที่ปรากฎขึ้น เป็นนางที่เขียนในอดีต.

------

ข้าต้องโบยบิน โชคชะตานำพาคงได้พบกัน!

-----

อักษรตัวเล็ก ๆ แถวหนึ่ง ที่เต็มไปด้วยอารมณ์ความรู้สึกของจื่อซวิน.

จดหมายดังกล่าว จื่อซวินแทบลืมมันไปแล้ว คาดไม่ถึง นางที่ไม่ได้ลงชื่อในอดีต คาดไม่ถึงว่าจงซานจะจำตัวนางได้ แม้แต่เก็บมันเอาไว้.

อีกครึ่งหนึ่งของจดหมาย มีอักษรอีกแถวที่เขียนลงไป แม้นว่าจะมีขนาดเล็ก ทว่าอักษรดังกล่าวนั้นกลับดูทรงพลังเต็มเปี่ยมไปด้วยพลังแห่งกฎที่แผ่อำนาจออกมา.

-------

ข้าไม่รู้ว่าเจ้าต้องการสิ่งใด อันหวง,ข้าเป็นคนส่งไป รับผิดชอบในการทำลายวิหารเหล่ยติง เจ้าบอกกับข้า ในวิหารเหล่ยติงมีสิ่งใดที่เจ้าต้องการ ข้าเคยบอกเจ้าว่า เจ้าต้องการสิ่งใด ข้าจะนำมาให้กับเจ้า ในเวลานี้คือเวลาที่เหมาะที่จะทำแล้ว เจ้าต้องการสิ่งใด ให้อันหวงมอบให้เจ้า ไม่ว่าจะเป็นสิ่งใดของวิหารเหล่ยติง จะเป็นของเจ้า.

สิ่งของภายนอกนั้น ข้าไม่เคยสนใจ ข้าเพียงต้องการพบกับเจ้า.

กลับมา ข้าต้องการเจ้า!

-------

"ฮือ!"

จื่อซวินที่แสบจมูก สะอื้นออกมาด้วยเสียงเบา ๆ .

"คนพาล! เจ้ามันคนพาล!"จื่อซวินที่สะอื้นเสียงเล็ก ๆ ออกมา.

นางที่สะอื้นเสียงเบาอยู่พักหนึ่ง ก่อนที่จะค่อย ๆ ระงับอารมณ์ จ้องมองลายมือของจงซาน แววตาที่เผยความขมขื่นออกมา.

นางที่เก็บจดหมาย ก่อนที่จะลุกขึ้นยืน.

นางที่ปาดน้ำตา สูดหายใจลึก ปรับอารมณ์พร้อมกับเดินออกมา.

ขณะเดียวกับ จื่อซวินที่กล่าวออกมา "เข้ามา!"

"ครับ!"อันหวงที่อยู่ด้านอกก้าวเข้ามาอีกครั้ง.

"ท่านหญิงจื่อซวิน ท่านยินดีที่จะกลับพร้อมกับพวกเราแล้วรึ?"อันหวงที่กล่าวออกมาด้วยความเคารพ.

จื่อซวินที่สูดหายใจลึก ก่อนที่นางจะมองไปยังวิหารหลัก.

ภายในวิหารเหล่ยติงที่เงียบผิดปรกติ พื้นที่รอบ ๆ  ต่างก็ปิดเงียบ ขณะที่นางมองไปยังทิศตะวันตกเฉียงเหนือ.

อันหวงที่จ้องมองไปยังประตูแห่งหนึ่งด้วยความประหลาดใจ "เซิ่งหวังให้ท่านเป็นคนตัดสินใจ!"

จื่อซวินที่สูดหายใจลึก ส่ายหน้าไปมาและกล่าวออกมาว่า "ไม่ ข้าจะไม่กลับไป!"

อันหวงที่จ้องมองไปยังจื่อซวิน พยักหน้ารับถอนหายใจเบา ๆ  "ครับ!"

"เจ้าต้องการทำลายวิหารเหล่ยติง ที่จริงพวกเจ้าทำลายเพียงแค่ชั้นนอกเท่านั้น เป็นวิหารส่วนแจ้ง ที่จริงยังมีวิหารส่วนมืดอีกด้วย!"จื่อซวินเอ่ย.

"หืม?"อันหวงที่เผยท่าทางประหลาดใจ.

"ข้าจะนำเจ้าไป ทว่าไม่รู้ว่าเจ้า............!”จื่อซวินที่ขมวดคิ้วไปมาขณะพูด.

"ท่านหญิงจื่อซวินไม่จำเป็นต้องคิดอะไรอีก ในเมื่อยังมีวิหารส่วนมืด แน่นอนว่าพวกเราจะต้องทำลาย ไม่เช่นนั้นจะไม่สามารถช่วยเซิงหวังได้ ขอให้ท่านหญิงจื่อซวินนำทาง เซิ่งหวังมีคำสั่ง ทุกสิ่งของวิหารเหล่ยติง ส่งมอบให้กับเทพธิดาจื่อซวิน ข้าคิดว่าคงจะมีบางสิ่งที่เทพธิดาจื่อซวินต้องการ น่าจะอยู่ในวิหารส่วนมืด!"อันหวงที่กล่าวออกมาด้วยความเคารพ.

"อืม!"จื่อซวินพยักหน้ารับ.

-----------------------------------------------------

สวนสวรรค์ลอยฟ้าหลิงเซียว ด้านหน้าตำหนักซ่างเฉิน!

"เจ้าทรยศคฤหาสน์จง เห็นต่อความสัมพันธ์ในอดีต ข้าจะไม่สืบสวน ทว่าเจ้าสังหารหยิงหลาน."ขณะเอ่ยถึงหยิงหลาน แววตาของจงซานที่แผ่จิตสังหารที่รุนแรงออกมา!

ระหว่างที่กล่าวนั้น จงซานที่สะบัดมือฟาดตรงไปยังทิศทางของเซียนเซิงโหยวหมิง.

การโจมตีของเขา กับอำนาจในดินแดนของตน ไม่จำเป็นต้องพูดคุยปรึกษาผู้ใด.

จงซานที่ลงมือเป็นคนแรก.

"ขอให้เป๋าเป่ยออกไป!"

ขณะที่จงซานลงมือ ก็ได้ยินเสียง ๆ หนึ่งดังขึ้นเช่นกัน.

เสียงดังกล่าวที่ดังขึ้น เส้นแสงสีขาวที่พุ่งตรงไปยังทิศทางของจงซานด้วยความเร็วผิดปรกติเกินธรรมดา.

เส้นแสงสีขาว มีดบิน พิฆาตเซียนของลู่หยา ทว่าเวลานี้มันได้กลายเป็นดาบสั้นไปแล้ว.

"สารเลว!"ไท่จื่อจงเทียนที่ตะโกนออกมาเสียงดัง ทว่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นมันช้าไปแล้ว.

มีดบินพิฆาตเซียนที่ไปอยู่ด้านหน้าจงซานแล้ว.

ฝ่ามือของจงซานที่ฟาดไปยังเซียนเซิงโหยวหมิง.

"โฮกกกก ~~~~~~~~~~~~~~~!”

ทั่วทั้งสวนสวรรค์ลอยฟ้าหลิงเซียว ได้ยินเสียงมังกรที่ดังกึกก้อง ฝ่ามือของจงซานนั้น ปรากฎเป็นเหมือนกับภาพเงากงเล็บของมังกรขึ้นในทันที.

"ตูมมมมม!”

มีดบินพิฆาตเซียนที่ปะทะกับเงากงเล็บมังกรของจงซานที่ปรากฎขึ้น พุ่งออกมาจากฝ่ามือ.

"เคร้ง!"

มีดบินพิฆาตเซียนที่สั่นสะท้านเล็กน้อย ก่อนที่จะหยุดนิ่งไม่ขยับ!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด