ตอนที่แล้วChapter 1388 มือสังหารที่ลักลอบ.
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 1390 หนี่ปู่ซาที่เปลี่ยนไป.

Chapter 1389 หน้าตำหนักซ่างเฉิน พ่อลูกสู้กัน.


"จี้กงหนี่ สังหารหมี่เทียนไปแล้ว ข้ารู้สึกเพลิดเพลินเป็นอย่างมาก เซียนเซิงโหยวหมิง เจ้าล่ะเห็นว่าอย่างไร?"ไท่อี้ที่หันหน้าไปยังชายชุดดำด้านหลัง ทำให้ทุกคนเผยท่าทางสนใจขึ้นมา.

เซียนเซิงโหยวหมิง?

ทุกคนที่นั่งอยู่ ต่างก็เผยท่าทางสงสัยอยากรู้ มีเพียงจงซาน จงเทียน จงเจิ้ง จงเสวียน พ่อและบุตรทั้งสี่คน ต่างก็จ้องมองหน้ากันและกันเล็กน้อย!

ใครคือเซียนเซิงโหยวหมิง? ไท่อี้เรียกเขาว่าเซียนเซิงอย่างงั้นรึ?

หยิงและเทียนเต๋าจื่อและคนอื่น ๆ ต่างก็รู้ว่าชายชุดดำเซียนเซิงโหยวหมิงอยู่ข้างกายไท่อี้ตลอด ทว่าไม่รู้ว่าเป็นใคร ไท่อี้ให้ความสำคัญกับเขาสูงมาก ทว่าจวบจนถึงวันนี้ การนำเขามาด้วย แน่นอนว่าเขาจะต้องมีความสำคัญอย่างแน่นอน.

ทุกคนที่จ้องมองด้วยความสงสัยไปยังไท่อี้ เซียนเซิงโหยวหมิงที่จ้องมองไปยังจงซาน? เป็นไปได้ว่าเซียนเซิงโหยวหมิงเกี่ยวข้องกับจงซานอย่างงั้นรึ?

สายตาทุกคนที่จับจ้องมองเซียนเซิงโหยวหมิง.

สายตาของไท่อี้ ที่ราวกับว่าชี้นำแกมบังคับเซียนเซิงโหยวหมิง ราวกับว่าต้องการเขาแสดงตัวตนออกมา.

เซียนเซิงโหยวหมิงที่เงียบไป ก่อนที่จะสูดหายใจลึกและกล่าวออกมาว่า "ราชันย์เทวะเทพต้องการให้ข้าแสดงความเพลิดเพลินให้ ผู้น้อยยินดีที่จะทำตาม!"

ทันทีที่เซียนเซิงโหยวหมิงเอ่ยปาก จงเทียน จงเจิ้ง จงเสวียนที่ใบหน้าเปลี่ยนเป็นซับซ้อนเคร่งขรึม เห็นชัดเจนว่าเสียงดังกล่าวนั้นดูคุ้นเคยเป็นอย่างมาก.

"ราชันย์เทพตะวันออก? ใครคือเซียนเซิงโหยวหมิง?"เฉิงโห่วที่สอบถามออกมาอย่างนุ่มนวล.

คำถามของเฉิงโห่วทำให้คนอื่น ๆ ต่างก็มองไปยังไท่อี้ด้วยความสนใจ.

ไท่อี้ที่เผยยิ้มออกมาเล็กน้อย ก่อนที่จะยกสุราขึ้นดื่มและกล่าวออกมาว่า "เช่นนั้น เซียนเซิงโหยวหมิง ไม่จำเป็นต้องปกปิดต่อไปแล้ว นอกจากนี้ ที่นี่ยังมีคนคุ้นเคยมากมาย ทำไมไม่เผยตัวออกมาพบพวกเขาล่ะ?"

"ครับ!"เซียนเซิงโหยวหมิงพยักหน้ารับ.

เซียนเซิงโหยวหมิงที่ยกหมวกปกปิดรูปร่างของตัวเองออกอย่างนุ่มนวล.

ใต้หมวกสีดำนั้น เผยใบหน้าที่ประณีต หล่อเหลา ทรงผมที่หวีเรียบ ดูเปล่งประกาย ทว่ารูปร่างค่อนข้างผอมอยู่เล็กน้อย.

เซียนเซิงโหยวหมิงที่ยกหมวกออก ประชาชนทั่วทวีปเหนือต่างก็ให้ความสนใจ ชายชุดดำนี้เป็นใครกัน? เหล่าคนที่คงอยู่ก่อนที่จะก่อตั้งสวนสวรรค์ลอยฟ้าหลิงเซียว เหล่าตระกูลขุนนางเก่าแก่ของต้าเจิ้ง พวกเขาที่เป็นพ่อค้าเป็นส่วนใหญ่ แม้นว่าจะมีความแข็งแกร่งที่ค่อนข้างอ่อนแอ ทว่าสถานะของหลายตระกูลก็สูงเป็นอย่างมาก เพราะว่าเมื่อครั้งจงซานเป็นปุถุชน เปล่าประมุขของตระกูลเหล่านี้รู้จักจงซาน แม้แต่ทำธุรกิจด้วยกันมา ดังนั้น แม้จะมีความแข็งแกร่งที่อ่อนด้อย แต่ก็มีอำนาจเทียมสวรรค์ พวกเขาที่ได้รับการดูแลเอาใจใส่เป็นอย่างดี.

ประมุขเหล่านั้นที่เงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้า พวกเขาที่จดจ้องมองชายชุดดำที่ยกหมวกออกดวงตาเบิกกว้าง.

"พรึบ!"

ประมุขเหล่านั้นถึงกับลุกขึ้นยืนพร้อม ๆ กัน.

"เป็นไปได้อย่างไร!"ประมุขตระกูลคนหนึ่งที่เอ่ยออกมาด้วยความตกใจ.

เหล่าผู้เยาว์ต่างก็จ้องมองไปยังประมุขของตัวเองพร้อม ๆ กัน.

"บรรพชน เขาเป็นใครกัน? ท่านรู้จักอย่างงั้นรึ? เขาไม่ใช่คนของทวีปใต้หรอกรึ?"ลูกหลานคนหนึ่งที่เอ่ยออกมาด้วยความสงสัย.

"นี่เขา เขายังมีชีวิตอยู่รึ?"ประมุขที่เผยท่าทางประหลาดใจ.

"บรรพชน เขาเป็นใคร?"ลูกหลานที่กล่าวออกมาด้วยความสงสัย.

"เขาเป็นอีกหนึ่งไท่จื่อของต้าเจิ้ง!"ประมุขที่สูดหายใจลึก.

"เป็นอีกหนึ่งไท่จื่อของต้าเจิ้งอย่างงั้นรึ?"เหล่าลูกหลานที่เผยท่าทางประหลาดใจ.

ไท่จื่อของต้าเจิ้ง มีด้วยกันสามคน จงเทียน จงเจิ้ง จงเสวียน ทั้งสามทุกคนต่างก็จักกันดี หากแต่ยังมีไท่จื่ออีกคนอีกรึ?

ไท่จื่อของต้าเจิ้ง? บุตรของเซิ่งหวัง แม้นว่าจะไม่ใช่บุตรในสายโลหิต แต่ก็เป็นบุตรบุญธรรม.

เมื่อครั้งเป็นปุถุชน เซิ่งหวังรับบุตรบุญธรรมอีกเมื่อไหร่กัน?

"บุตรของเซิ่งหวัง?"เหล่าลูกหลานที่เผยท่าทางประหลาดใจ.

"ใช่!"ดวงตาของประมุขที่หรี่เล็กด้วยความเย็นชา.

"เขาคือคนที่ทรยศเซิ่งหวัง? เป็นไปได้อย่างไร? บรรพชน คนนั้นเป็นเขาอย่างงั้นรึ?"เหล่าลูกหลานของพวกเขาที่เอ่ยออกมาด้วยความสงสัย.

"เซิ่งหวังที่เป็นดั่งปราชญ์เทพ บุตรของเขาคนนี้เป็นคนที่คล้ายเซิ่งหวังมากที่สุดในอดีต!"ประมุขที่สูดหายใจลึก.

"เหมือนเซิ่งหวังที่สุดอย่างงั้นรึ?"ลูกหลานของพวกเขาที่ขมวดคิ้วไปมา.

จากรูปร่างแล้ว ชายชุดดำไม่ได้มีหน้าตาเหมือนกับจงซานเลย เหมือนกับเซิ่งหวัง มีอะไรเหมือนอย่างงั้นรึ?

ลานตำหนักซ่างเฉิน!

"จงซือจิว เป็นเจ้าจริง ๆ !"จงเสวียนที่เอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงซับซ้อนเคร่งขรึม.

จงซือจิว? เหล่ายอดฝีมือรอบ ๆ ที่จ้องมอง จดจ้องเขม็งไปยังจงซือจิว.

เกี่ยวกับข้อมูลที่พวกเขาได้มานั้น จงซือจิวคือหนึ่งในบุตรบุญธรรมของจงซาน เขาได้เข้าร่วมประลองงานชุมนุมประตูมังกร จากนั้นก็ทรยศจงซาน ท้ายที่สุดก็เข้าร่วมราชวงศ์สวรรค์ต้าสุ่ยในโลกใบเล็ก เป็นหนึ่งในศัตรูของจงซาน เขาที่ศึกษาวิชาธารโลหิต เป็นหนึ่งในศัตรูหลักของต้าเจิ้ง หลังจากนั้นก็หายไปไม่มีใครเห็น ตอนนี้วันนี้ เขาได้กลายมาเป็นเซียนเซิงโหยวหมิงอย่างงั้นรึ?

จงซาน จงซือจิว? พ่อกับลูก? มาประจันหน้ากันในงานวันเกิดอย่างงั้นรึ?

ทันใดนั้น ทุก ๆ คนที่เผยท่าทางสนใจ ดูเหมือนว่า จะเป็นเรื่องราวที่น่าสนใจกว่าการล่าปราชญ์เทพด้วยซ้ำ เจี้ยนอ้าว เสวียนหยวน หยิง เทียนเต๋าจื่อ เฉิงโห่ว ที่เผยแววตาแปลกประหลาด.

เหล่ายอดฝีมือที่ไม่ได้เอ่ยอะไร ทว่าจ้องมองไปยังบิดาและบุตร.

ชายชุดดำที่จ้องมองจงเสวียนเอ่ยออกมาอย่างนุ่มนวล "จงเสวียน อย่าเรียกข้าว่าจงซือจิว โปรดเรียกข้าว่า โหยวหมิง จะได้ไม่ทำให้คนอื่นเข้าใจผิด!"

คำพูดของเซียนเซิงโหยวหมิง ทำให้แววตาของไท่จื่อทั้งสามเผยความโกรธเกรี้ยวออกมา ส่วนจงซานที่แววตาดำมืด.

จงเสวียนที่กล่าวออกมาด้วยความโกรธเกรี้ยว "ชิ โหยวหมิงรึ? เจ้าสารเลวอกตัญญู สังหารหยิงหลาน วันนี้เจอกับข้าแล้ว อย่าคิดที่จะมีชีวิตกลับไป!"

โหยวหมิงที่จ้องมองไปยังจงเสวียน เผยยิ้มเหยียดหยัน จากนั้นก็ไม่สนใจอีกต่อไป.

ไท่อี้ที่อยู่ใกล้ ๆ เผยความพึงพอใจ จ้องมองไปยังจงซาน "เซิ่งหวังจง คนของเจ้าดูเหมือนว่าจะไม่เข้าใจธรรมเนียมเอาซะเลย?"

จงซานที่ใบหน้าเปลี่ยนเป็นเคร่งขรึม กล่าวออกมาเบา ๆ  "เสวียนเอ๋อ เงียบ!"

จงเสวียนที่จ้องมองไปยังเซียนเซิงโหยวหมิงด้วยความขุ่นข้องใจ เขาที่กำหมัดแน่นก่อนที่จะกล่าวตอบรับ "ครับ!"

หลังจากที่หยุดจงเสวียน จงซานที่จ้องเขม็งไปยังเซียนเซิงโหยวหมิง.

"โหยวหมิง? ไม่ได้ชื่อหวังเฉินหรอกรึ? เจ้าเปลี่ยนชื่ออีกแล้วรึ?"จงซานที่จ้องมองแววตาที่ซับซ้อน.

หวังเฉิน?เป็นชื่อที่จงซือจิวใช้เมื่อครั้งอยู่ในโลกใบเล็กนั่นเอง.

แววตาเซียนเซิงโหยวหมิงที่สั่นไหวเล็กน้อย ไม่ได้กล่าวสิ่งใดออกมา.

ไท่อี้ที่กล่าวออกมาเบา ๆ  "ในเมื่อเซิ่งหวังจงสอบถาม เจ้าก็ตอบไป โปรดวางใจ มีข้าอยู่ ไม่มีใครทำอะไรเจ้าได้!"

ไท่อี้ที่จ้องมองไปยังจงซาน ลู่หยาที่เผยรอยยิ้มเหยียดหยัน ดูเหมือนว่าเขาจะพึงพอใจกับการประจัดหน้าของจงซานและโหยวหมิงไม่น้อยเลย.

เทียนเต๋าจื่อที่เผยยิ้มชั่วร้ายออกมา ก่อนที่จะยกสุราขึ้นดื่ม.

"ครับ ราชันย์เทวะเทพ!"เซียนเซิงโหยวหมิงพยักหน้ารับ.

เซียนเซิงโหยวหมิงที่ก้าวออกจากด้านหลังบัลลังก์ดอกบัว ก่อนที่จะก้าวตรงไปยังโลงศพที่จงซานหลอมขึ้นมา ขณะที่ตบไปยังโลกศพเบา ๆ  แววตาที่ดูไม่แยแส.

จากนั้น ก็เงยหน้าขึ้นช้า ๆ  จดจ้องมองไปยังจงซาน ไม่ได้รู้สึกผิดแม้แต่น้อย ก่อนที่จะกล่าวออกมาว่า "เพราะว่าข้าได้เป็นหวังเฉินเสร็จสิ้นแล้ว!"

เป็นหวังเฉินเสร็จสิ้นแล้ว? ใบหน้าไท่จื่ออีกสามคนที่บึ้งตึง ทว่าจงซานยังคงจ้องมองไม่วางตา เพียงแค่ขมวดคิ้วเล็กน้อยเท่านั้น.

จงซานที่จ้องมองไปยังเซียนเซิงโหยวหมิง ก่อนที่จะกล่าวออกมาว่า "ข้าต้องการรู้ว่าเจ้าคิดอะไรอยู่ในอดีต?"

เซียนเซิงโหยวหมิงที่จ้องมองไปยังจงซาน ก่อนที่จะเผยยิ้มออกมา "คิดอะไรอย่างงั้นรึ? ไม่ใช่ว่าเจ้าเป็นคนสอนหรอกรึ?"

"ข้าเป็นคนสอนอย่างงั้นรึ?"จงซานที่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.

"เมื่อครั้งประลองประตูมังกร? เจ้าจำไม่ได้แล้วอย่างงั้นรึ? เจ้าบอกกับข้าเช่นไรในเวลานั้น?"เซียนเซิงโหยวหมิงที่กล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม.

"การประลองประตูมังกรอย่างงั้นรึ?"จงซานที่กล่าวออกมาอย่างจริงจัง.

"การประลองประตูมังกร สำนักเซียนที่มารับศิษย์  ปุถุชนเป็นเหมือนปศุสัตว์ ผู้ฝึกตนคัดเลือกคน เจ้ากล่าวว่าการจะเข้าสำนักเซียนนั้น จำเป็นต้องทิ้งโลกีย์โลกเพื่อก้าวเข้าสู่โลกที่แตกต่าง พวกเขาที่อยู่บนแท่นคัดเลือก จ้องมองปุถุชนด้านล่าง ไม่ต่างจากฝูงสัตว์ ข้าได้ขึ้นไปอยู่บนแท่นคัดเลือกแล้ว แน่นอนว่าก็ต้องทำตามที่เจ้าพูดเป็นธรรมดา!"เซียนเซิงโหยวหมิงที่กล่าวออกมาราวกับเต็มไปด้วยความชอบธรรม.

"สารเลว ซือจิว เจ้าคิดเช่นนี้อย่างงั้นรึ? เจ้าคิดว่ากำลังพูดกับใคร?"จงเทียนที่ตะโกนออกมาด้วยความโกรธ.

จงเทียนที่เคารพจงซานอย่างที่สุด ได้ยินเซียนเซิงโหยวหมิงกล่าวว่าจงซานเป็นเพียงปศุสัตว์ ทันใดนั้นก็ไม่สามารถทนได้อีกต่อไป.

จงซานที่ลุกขึ้นยืน แม้แต่เตรียมเข้าไปจัดการเซียนเซิงโหยวหมิง.

"พรึบ!"

จงเทียนที่ลุกขึ้นยืน ลู่หยาที่เผยความตื่นเต้นออกมา สู้รึ? เขาที่ลุกขึ้นด้วยเช่นกัน!

"เทียนเอ๋อ เงียบ!"จงซานที่กล่าวออกมาเสียงดัง.

"ท่านพ่อ!"จงเทียนที่โกรธเกรี้ยว สุดท้ายก็ได้แต่ถอนหายใจนั่งลง.

"จงเทียน เจ้าเป็นถึงปราชญ์เทพ กับไม่รู้จักควบคุมตัวเอง!"ลู่หยากล่าวหยัน.

"ชิ!"จงเทียนที่แค่นเสียงไม่สนใจ.

จงซานที่หยุดจงเทียน ก่อนที่จะจ้องมองไปยังเซียนเซิงโหยวหมิงอีกครั้ง จ้องมองด้วยความลึกล้ำ เงียบไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็เผยคำถามที่อาบไปด้วยจิตสังหาร "แล้วเรื่องหยิงหลานล่ะ?"

"ไม่ใช่เกี่ยวกับการจัดการหรอกรึ? ตอนแรกในเมื่อข้าเข้าร่วมราชวงศ์ต้าสุย แน่นอนข้าก็ต้องเป็นศัตรูของต้าเจิ้ง คนที่เจ้าเป็นห่วงเป็นใยมากที่สุดในอดีตคือหยิงหลาน หยิงหลานตาย ย่อมต้องป่วนจิตใจเจ้าได้ ช่างน่าเสียดาย  ..................!”เซียนเซิงโหยวหมิงที่กล่าวออกมาด้วยความอหังการพร้อมกับถอนหายใจด้วย.

จงซานที่กำพนักมังกรแน่น แววตาที่หดเกร็ง เส้นโลหิตที่ปูดขึ้น แววตาที่ราวกับระเบิดความแหลมคมพร้อมจะฉีกร่างของเซียนเซิงโหยวหมิงให้ขาดเป็นชิ้น ๆ .

ที่ด้านหลังเซียนเซิงโหยวหมิง ใบหน้าของไท่อี้ที่เผยรอยยิ้มพึงพอใจออกมา.

ส่วนคนอื่นที่มีท่าทางแตกต่างกันออกไป ทว่าแทบทุกคนที่ขมวดคิ้วจ้องมองไปยังเซียนเซิงโหยวหมิง เพราะว่าเซียนเซิงโหยวหมิงที่มีท่าทางขัดแย้ง นิสัยที่แปลกประหลาด แม้นว่าจะกล่าวออกมาอย่างชัดเจน ทว่าหลาย ๆ คนที่ครุ่นคิดเกี่ยวกับเรื่องของเซียนเซิงโหยวหมิงต่างกันออกไป เพราะว่าพวกเขายากที่จะมองเห็นปัญหาว่ามันอยู่ที่ใดกันแน่.

"สารเลว ตอนแรกท่านพ่อที่ฝากความหวังเจ้ามากที่สุด คาดไม่ถึงเลยว่าเจ้าจะอกตัญญู เจ้าเดรัชฉาน!"จงเจิ้งที่ตะโกนออกมาเสียงดัง.

จงซานที่จ้องมองด้วยความเย็นชา ใบหน้าที่อาบไปด้วยจิตสังหารที่จ้องมองไปยังเซียนเซิงโหยวหมิง.

ดวงตาของไท่อี้ที่หรี่เล็ก เวลานี้เขาหยุดดื่มสุราแล้ว ราวกับว่ากำลังเตรียมตัวลงมือ.

"หวังกับข้ามากที่สุด เพราะว่าในหมู่บุตรบุญธรรม มีเพียงข้าที่ดูเหมือนเขาที่สุด ส่วนคนอื่น ๆ  รวมทั้งเจ้า เป็นแค่กลุ่มขยะ!"เซียนเซิงโหยวหมิงที่กล่าวออกมาด้วยความเย็นชา.

"เดรัชฉาน!"จงซานที่ตะโกนออกมาเสียงดัง.

"ใช่หรือไม่ใช่? ข้าคิดว่าเจ้าควรจะรู้ ในเมื่อข้านั้นมีนิสัยเหมือนเจ้าที่สุด นิสัยของข้า เจ้าควรจะเข้าใจ ข้าไม่เคยกลายเป็นหมากให้เจ้าเล่นเลย ตอนนี้เจ้ามีสาม จงเทียน จงเจิ้ง จงเสวียน เป็นไท่จื่อสุดห่วงอย่างงั้นรึ? ไท่จื่อ? ข้าเป็นคนที่หายาก หากเป็นไท่จื่อก็ต้องเป็นอยู่เช่นนั้น! หากข้าต้องการเติบโต ข้าไม่ยินดีที่จะอยู่ใต้ใคร!และข้าไม่ต้องการอยู่ใต้เจ้าอย่างแน่นอน!"เซียนเซิงโหยวหมิงที่กล่าวย้ำเสียงดัง.

"ดี!"เฉิงโห่วที่กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.

เห็นบิดาจงซานและบุตรที่จะสู้กัน เป็นเรื่องที่ทำให้เขาได้ระบายความโกรธเช่นกัน โดยเฉพาะบุตรของจงซานที่ไม่สามารถควบคุมได้ เฉิงโห่วที่เข้าข้างเซียนเซิงโหยวหมิงในทันที.

ทว่าลู่หยาที่ดวงตาเผยความเย็นชาจดจ้องมองไปยังเซียนเซิงโหยวหมิงเช่นกัน เป็นคนที่ไม่ยอมคนอย่างงั้นรึ? ทำให้ลู่หยาจ้องมองไปยังไท่อี้.

"ไม่ยอมอยู่ใต้ใครอย่างงั้นรึ? ราชวงศ์สวรรค์ต้าสุ่ย ศาลสวรรค์เหยาจู่ แต่เจ้ากลับยินดีที่จะอยู่ใต้คนเหล่านี้นะรึ?"จงซานที่กล่าวออกมาด้วยเสียงเย็นชา.

"ข้าบอกแล้วหากต้องการโชติช่วง แน่นอนจะต้องไม่ยอมอยู่ใต้ใคร ราชวงศ์สวรรค์ต้าสุ่ย ศาลสวรรค์เหยาจู่ เป็นเพียงแค่สถานที่ชั่วคราวเท่านั้น เจ้าอย่าได้หว่านความขัดแย้ง ราชันย์เทวะเทพรู้เรื่องของข้าดี การตัดสินใจของข้า ต้องตรงไปตรงมา อย่าได้วิจารณ์!"เซียนเซิงโหยวหมิงเอ่ยโต้แย้ง.

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด