Chapter 1375 ความฉลาดล้ำของจุนเทียนเซี่ย.
ภพหยิน เมืองซ่าง!
ภายในห้องฝึกฝนวิชาของจงซาน ด้วยการที่ร่างหลักทะลวงไปยังขั้นที่เจ็ดเซียนบรรพชน ร่างแยกเงาก็ยกระดับไปยังขั้นที่เจ็ดได้ในทันที ดวงตาของจงซานที่ลืมขึ้น ปรากฎวงแหวนสองวงขึ้นที่ด้านหน้า.
หนึ่งวงมีขนาดความสูงหนึ่งฟุต และมีรัศมีครึ่งฟุต หนึ่งวงสีดำหนึ่งวงสีน้ำเงิน ขณะกำลังหมุนวนตามเข็มนาฬิกา ส่วนอีกวงกำลังหมุนทวนเข็มนาฬิกาเป็นปฏิปักษ์ต่อกัน.
จงซานจ้องมองวงแหวนทั้งสอง ขณะกำลังเคลื่อนที่เข้าหากันช้า ๆ .
"วูซซซซซ!"วงแหวนทั้งสองที่ผสานกันเป็นหนึ่ง.
หากจะจ้องมองให้ดีทั้งสองที่หมุนวนอยู่บนล่างแยกชั้น กันเป็นหลุมน้ำวนที่คลุมหลุมอีกอัน และทั้งสองหลุมก็หมุนวนไปคนละทิศ.
"สังสารวัฏวิถีสวรรค์ สังสารวัฏวิถีอสูร? ยังขาดอีกสี่!"จงซานที่กล่าวออกมาเบา ๆ .
"ฟิ้ว!"
วงแหวนทั้งสองที่สลายหายไป.
จงซานที่ลุกขึ้นยืนช้า ๆ .
ก่อนที่จะออกจากห้องฝึกฝน เขาที่เงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้า.
ข้ามผ่านชื่อเสียงวาสนาบนท้องฟ้า จงซานที่เผยยิ้มออกมาเล็กน้อย "มาแล้ว?"
จงซานที่ก้าวออกไป ก่อนที่จะไปปรากฎที่ห้องอักษร!
ภายในห้องอักษร หวังจิงเหวิน จงเสวียนที่รออยู่.
"ยินดีกับเซิ่งหวังด้วย หวังคู เหยี่ยนฉงจื่อได้รับชัยทั้งทางเหนือและใต้ กำราบอีกสี่ดินแดน!"หวังจิงเหวินกล่าวออกมาด้วยความตื่นเต้น.
"สี่ดินแดน อีกสองดินแดนที่เหลือ ส่วนมากเป็นเพียงราชวงศ์สวรรค์ การจะกำราบไม่ใช่เรื่องยาก อีกสองแห่งเป็นนิกายและศาลเทพ หวังคูที่นำเผ่าโครงกระดูกและทัพของเหยี่ยนเฉิงจื่อจากต้าเจิ้ง ทำให้การกำราบภพหยินเป็นไปอย่างง่ายดาย ประมาณการแล้วน่าจะต่ำกว่า 20 ปี!"จงซานครุ่นคิดและกล่าวออกมา.
"เซิ่งหวัง ที่ค่อนยากคงจะเป็นศาลเทพหลุนฮุย ดังนั้นพวกเราจะล่าช้าไม่ได้ แม้นว่าจะเหลือเวลายี่สิบปี ทว่าก็ยังจำเป็นต้องทำให้แผ่นดินสงบเป็นปึกแผ่นด้วย!"หวังจิงเหวินที่กล่าวตอบ.
"อืม หลังจากอีกสองดินแดนทางใต้ ตอนนี้ต้าเจิ้งภพหยินก็มี 14 ดินแดนแล้ว?"จงซานที่กล่าวออกมาเบา ๆ .
"ครับ ทวีปเหนือ 36 ดินแดน เป็นของต้าเจิ้งแล้ว 14 ดินแดน!"หวังจิงเหวินที่พยักหน้ารับ.
"ศาลเทพหลุนฮุยล่ะ?"จงซานที่กล่าวสอบถามอย่างเคร่งขรึม.
"ศาลเทพหลุนฮุย? ขณะนี้ครอบครอง 17 ดินแดน ตอนนี้เหลือ 5 ดินแดนของทวีปเหนือที่กำลังต้านทานอย่างแข็งขัน! อย่างไรก็ตาม ไม่ช้าก็เร็วสองดินแดนจะเป็นของเราเร็ว ๆ นี้!"หวังจิงเหวินเอ่ย.
"ให้หวังคูและเหยี่ยนฉงจื่อรักษากองทัพให้มั่นคงก่อน จากนี้เตรียมการต่อสู้กับศาลเทพหลุนฮุย!"จงซานกล่าวอย่างเคร่งขรึม.
"ครับ!"หวังจิงเหวินพยักหน้ารับ.
"ภพหยาง จากนี้ต้องเตรียมการงานวันเกิดข้า ไม่สามารถส่งมายังภพหยินได้ ที่นี่เจ้าคงต้องทำงานหนัก!"จงซานที่จ้องมองไปยังหวังจิงเหวิน.
"ครับ ภพหยางเวลานี้กำลังรวมเหล่ายอดฝีมือทั่วหล้ามารวมกัน ไม่ใช่เรื่องเล็กเลย เฉินรับรู้ความหนักหนาเรื่องนี้ดี!"หวังจิงเหวินพยักหน้ารับ.
"เสวียนเอ๋อ ฝั่งเจิ้งเอ๋อเป็นอย่างไรบ้าง?"จงซานที่จ้องมองไปยังจงเสวียน.
จงเสวียนที่ส่ายหน้าไปมา "ไม่ราบรื่นนัก!"
"หืม?"จงซานที่ขมวดคิ้วไปมา.
"เซียนเซิงกู่นั้น ยากจะจัดการ จุนหมอจื้อนั้นไม่เชื่อเซียนเซิงกู่ ทว่าจุนเทียนเซี่ยนั้นเชื่อใจเขาเป็นอย่างมาก!"จงเสวียนที่ส่ายหน้าไปมา.
"จุนเทียนเซี่ย? เขาไม่เชื่อใจเซียนเซิงกู่ คงไม่ใช่เซียนเซิงกู่ ตราบเท่าที่ไม่มีพายุใหญ่คงจะไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง นอกจากนี้เซียนเซิงกู่ยังจำเป็นอีกด้วย!"หวังจิงเหวินกล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.
"เช่นนั้น ไม่ใช่ว่าสิ่งที่จงเจิ้งทำไปเสียเปล่าหรอกรึ?"จงเสวียนที่กล่าวออกมาด้วยความประหลาดใจ.
"ไม่ได้การ ไม่ถูกต้อง!"จงซานที่ใบหน้าเปลี่ยนสี.
"มีอะไรอย่างงั้นรึ?"จงเสวียนที่เผยท่าทางประหลาดใจ.
"เซิ่งหวัง มีอะไรไม่ถูกต้องอย่างงั้นรึ?"หวังจิงเหวินที่กล่าวออกมาด้วยความสงสัย.
"จุนเทียนเซี่ย จุนหมอจื้อ ต่างก็มีข้อมูลเกี่ยวกับปราชญ์เทพสังสารวัฏ และยังมีการบันทึกทุกอย่างเอาไว้ นำมันมาให้ข้า!"ใบหน้าของจงซานที่เปลี่ยนเป็นดำมืด.
"รับทราบ!"หวังจิงเหวินที่กล่าวออกมาในทันที.
"ฟู่หวง!"จงเสวียนที่กล่าวออกมาด้วยความสงสัย.
จงซานที่ยกมือขึ้นห้าม ไม่ให้จงเสวียนรบกวน จงเสวียนที่เงียบไปในทันที.
ทว่าหวังจิงเหวินที่เริ่งรีบถอยออกไป ก่อนที่จะนำแผ่นริ้วหยกสามแผ่นกลับมา.
"เซิ่งหวัง!"หวังจิงเหวินที่ส่งมอบแผ่นริ้วหยกออกไป.
"อืม!"จงซานที่รับแผ่นริ้วหยก ก่อนที่จะกวาดสัมผัสเทวะออกไป.
"ตำหนักไท่จื่อด้านล่าง มีข้อมูลบางอย่าง ที่ต้องการหรือไม่?"หวังจิงเหวินที่กล่าวสอบถาม.
"อืม!"จงเสวียนพยักหน้ารับ.
ทั้งสามที่เริ่มตรวจสอบข้อมูลอย่างระมัดระวัง.
จงซานที่ตรวจสอบข้อมูลทั้งหมด ก่อนที่จะวางแผ่นริ้วหยกลง ก่อนที่จะหลับตาครุ่นคิดอย่างระมัดระวัง.
จงเสวียนที่กวาดตามอง แต่ไม่กล้ารบกวนจงซาน เวลาผ่านไปถึงสองชั่วยาม จงซานที่ลืมตา ก่อนที่จะสูดหายใจลึก.
"ฟู่หวง? ข้อมูลเหล่านี้เป็นอย่างไรบ้าง?"จงเสวียนที่กล่าวออกไป.
"สถานะของเจิ้งเอ๋อ บางทีคงถูกเปิดเผยแล้ว!"จงซานที่กล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม.
"เป็นไปได้อย่างไร? ฟู่หวงไม่ใช่ว่าได้ใช้สังสารวัฏวิถีสวรรค์เปลี่ยนข้อมูลของจงเจิ้งหรอกรึ? ถึงแม้นว่าจะเป็นปราชญ์เทพสังสารวัฏ หากไม่ตรวจสอบเป็นการส่วนตัวก็ยากจะพบง่าย ๆ"จงเสวียนที่กล่าวออกมาด้วยความประหลาดใจ.
"ข้าได้เปลี่ยนบันทึกการจุติของเจิ้งเอ๋อไปด้วยสังหารวัฏวิถีสวรรค์ ก่อนส่งเข้าไปอยู่ที่วิหารสังสารวัฏ ดูเหมือนว่าจะยังไม่พอ ปราชญ์เทพสังหารวัฏนั้นฉลาดมาก แม้แต่ไม่ได้ด้อยกว่าปราชญ์เทพภพหยางเลย!"จงซานที่กล่าวออกมาอย่างจริงจัง.
“?”
"ปราชญ์เทพสังสารวัฏนั้นมีศิษย์ห้าคน ศิษย์คนแรก จุนเทียนเซี่ย เป็นบุตรของเขา และเขายังให้ความสำคัญเพียงแค่สองคน คือจุนเทียนเซี่ยและศิษย์คนที่สองจุนหมอจื่อ จุนหมอจื่อ? ปัญหาคงจะอยู่ที่เขา!"
"ปัญหา?"
"ก่อนอื่นแจ้งไปยังเจิ้งเอ๋อให้ระวังความปลอดภัย พวกเราจะทดสอบครั้งสุดท้าย ก่อนที่จะตัดสินใจอีกครั้ง!"จงซานที่กล่าวอย่างเคร่งขรึม.
"อืม!"จงเสวียนที่พยักหน้ารับในทันที.
---------------------------
ภพหยิน ศาลเทพหลุนฮุย ห้องอักษรจุนเทียนเซี่ย จุนเทียนเซี่ยที่นั่งอยู่ด้านหลังโต๊ะอักษร เฝ้ามองการโต้เถียงของข้าราชบริพาร.
"เซียนเซิงกุ่? ไม่ใช่ว่าดินแดนอวิ๋นทางเหนือ ทำไมท่านไม่โจมตี?"จุนหมอจื้อที่กล่าวด้วยเสียงเย็นชา.
"ยังไม่ใช่เวลา!"เซียนเซิงกู่ที่กล่าวออกมาอย่างนุ่มนวล.
จินเหวินด้านข้างที่เอ่ยออกมาอีกคน "ถ่วงเวลาแล้ว เขตแดนอวิ๋นเหนือนั้น เวลานี้อยู่ในสภาวะวุ่นวาย แม้นว่าจะยังแข็งแกร่ง แต่ศิลาวิญญาณหดหาย เศรษฐกิจล่ม ผู้คนไร้ซึ่งกำลังใจ จิตใจของประชาชนไม่เป็นหนึ่ง นี่คือโอกาสที่ดีแล้ว!"
"ใช่เรื่องเศรษฐกิจนั้นข้ารู้ดี ข้าคิดว่า เจ้าคงจะไม่รู้?"จุนหมอจื้อที่กล่าวขึ้นอีกครั้ง.
เซียนเซิงกู่ที่ดวงตาหรี่เล็กจ้องมองจินเหวินและกล่าวออกมาว่า "มีบางคนที่จงใจทำเช่นนั้น หลังจากที่ราคาสินค้าเปลี่ยนแปลง ก็มีบางคนที่คอยชักใยอยู่เบื้องกลัง กำลังรวบรวมทรัพยากร บางทีอาจจะมีกองทัพอวิ๋นเข้าไปเกี่ยวข้องด้วย ทำให้สถานการณ์มั่นคง ทัพของพวกเราโจมตีไปก็จะตกอยู่ในกับดัก!"
"จะเป็นไปได้อย่างไร?"จุนหมอจื้อกล่าวอย่างเคร่งขรึม.
"เป็นเรื่องทั่วไปที่ทุกคนรู้!"เซียนเซิงกู่เอ่ย.
"หืม?"ใบหน้าของจุนหมอจื้อเปลี่ยนสี.
"เฮ้เฮ้ เรื่องทั่วไปที่ทุกคนรู้อย่างงั้นรึ? เซียนเซิงกู่ไม่ใช่ว่าสงครามเศรษฐกิจเป็นเรื่องที่ไม่มีความรู้หรอกรึ?"จินเหวินที่กล่าวอย่างเคร่งขรึม.
"ใช่ ไม่ใช่ว่าเจ้าเองก็รู้เรื่องสงครามเศรษฐกิจมากไปหรอกรึ?"จุนหมอจื้อที่ได้ที่กล่าวสวนทันที.
เซียนเซิงกู่ส่ายหน้าไม่เอ่ยอะไรมาก จ้องมองไปยังจุนเทียนเซี่ย ทว่าจุนเทียนเซี่ยที่ไม่แยแส ไม่ตำหนิเซียนเซิงกู่แม้แต่น้อย.
เห็นท่าทางของจุนเทียนเซี่ยแล้ว จินเหวินที่ใบหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย ก่อนที่จะไม่กล่าวสิ่งใดอีก.
จินเหวินที่ไม่เอ่ยอะไรต่อไป ทว่าจุนหมอจื้อที่ดูเหมือนว่าจะยังไม่ยอม.
"ศิษย์พี่ใหญ่ ท่านเชื่อเซียนเซิงกู่อย่างงั้นรึ?เขาเป็น............!”จุนหมอจื่อที่กล่าวออกมาด้วยท่าทางร้อนใจ.
"หุบปาก!"จุนเทียนเซี่ยที่ตะโกนออกไปเสียงดัง ไม่ให้จุนหมอจื่อเอ่ยอะไรอีก.
"ท่านอ๋อง!"จินเหวินที่เอ่ยออกมา.
จินเหวินที่ส่ายหน้าไปมาเบา ๆ แสดงสัญญาณเห็นชัดเจนว่าหลักฐานไม่เพียงพอ ไม่สามารถเอ่ยออกมาได้.
"จินเหวิน เจ้าถอยไปก่อน วันนี้ข้าต้องการพูดกับศิษย์พี่ใหญ่เกี่ยวกับการหลอกลวงครั้งนี้ เจ้าไม่จำเป็นต้องทำอะไร ข้าจะเป็นคนเผยสายลับออกมาเอง!"จุนหมอจื้อเอ่ย.
"ฮือฮา!"
ทันทีที่จุนหมอจื้อเอ่ยออกมา เหล่ากลุ่มกุนซือที่ส่งเสียงดังอื้ออึ้ง สายลับ? เซียนเซิงกู่เป็นสายลับอย่างงั้นรึ?
ทว่าจินเหวินที่อยู่ข้าง ๆ ไม่เอ่ยอะไรออกมาใบหน้าที่เปลี่ยนเป็นเคร่งเครียด.
เซียนเซิงกู่ที่ส่ายหน้าไปมาเผยยิ้มพลางมองไปยังจุนเทียนเซี่ย.
จุนเทียนเซี่ยที่สูดหายใจลึก ถอนหายใจเบา ๆ "ดูเหมือนว่าจะไม่สามารถเล่นต่อไปได้อีกแล้ว.
"หืม?"จุนหมอจื้อที่ตกใจเล็กน้อย.
"ความจริงสายลับนั้น ไม่ใช่ผู้น้อย แต่เป็นจินเหวินที่อยู่ด้านหลังต่างหาง ไท่จื่อต้าเจิ้ง จงเจิ้ง!"เซียนเซิงกู่ที่หรี่ตาจ้องมอง.
เหล่าเสนาธิการทุกคนที่ตะลึงงัน สถานการณ์เช่นนี้คืออะไร?
"เป็นไปไม่ได้? จินเหวินจะเป็นสายลับได้อย่างไร? อาจารย์ได้ตรวจสอบอดีตชาติเขาแล้ว เจ้านะเป็นสายลับ ต้องการสร้างความสับสน เจ้าคือจงเจิ้งใช่หรือไม่?"จุนหมอจื่อที่กล่าวออกมาเสียงดัง.
เซียนเซิงกู่ไม่ได้เอ่ยอะไร ทว่าจ้องมองไปยังจุนเทียนเซี่ย.
"จงเจิ้ง มีอะไรจะพูด?"จุนเทียนเซี่ยจ้องมองไปยังจินเหวินด้านหลัง.
"ศิษย์พี่ใหญ่ ท่าน ท่านว่าอย่างไร............!”จุนหมอจื้อที่กล่าวด้วยความกระวนกระวายใจ.
จินเหวินที่อยู่ด้านหลังใบหน้าเปลี่ยนเป็นมืดมนก่อนที่จะกล่าวออกมาว่า "จุนเทียนเซี่ย? ร้ายกาจจริง ๆ ไม่รู้ว่าเจ้าพบได้อย่างไร?"
จินเหวินไม่คิดที่จะปกปิดอีกต่อไป จงซานเองก็เหมือนจะคาดเดาผลได้ก่อนหน้านี้แล้ว.
"อะไร อะไรนะ? จินเหวิน เจ้ากล่าวอะไร?"จุนหมอจื้อที่หันหน้ากลับ เผยใบหน้าที่หวาดผวาออกมา.
"นับจากเรื่องดินแดนโครงกระดูก ไม่ใช่ว่าจงซานสามารถใช้แผ่นวงแหวนสังสารวัฏได้หรอกรึ? นับจากวันนั้น ข้าก็ไม่เชื่อใจในวิถีสังสารวัฏวิถีสวรรค์อีก!"จุนเทียนเซี่ยกล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.
จุนหมอจื้อที่ใบหน้าเปลี่ยนเป็นซับซ้อน ก่อนที่จะเปลี่ยนเป็นทั้งโกรธทั้งอายออกมา.
"จินเหวิน เจ้าคือจงเจิ้งอย่างงั้นรึ?"จุนหมอจื้อที่ตะโกนออกมาเสียงดัง.
"จงซานเป็นคนที่ร้ายกาจจริง ๆ ช่างน่าเสียดายที่มาพบข้า ต้องการจะหลอกข้า ช่างน่าเสียดาย จงซานเองก็คงไม่ต้องการเล่นอีกแล้ว!"จุนเทียนเซี่ยกล่าวอย่างเคร่งขรึม.
"เพียงแค่แผ่นจานสังสารวัฏ เจ้าก็สามารถสรุปได้ว่าบิดาข้าครอบครองสังหารวัฏวิถีสวรรค์อย่างงั้นรึ?"จงเจิ้งที่ขมวดคิ้วไปมา.
"เปลี่ยนเป็นคนอื่น แน่นอนว่าข้าย่อมไม่เชื่อ ทว่าเขาคือจงซาน ข้าไม่เคยประเมินจงซานต่ำ ทว่าข้าก็เชื่อว่าเขาทำในสิ่งที่คนอื่นทำไม่ได้!"จุนเทียนเซี่ยกล่าวอย่างเคร่งขรึม.
"ฮ่าฮ่าฮ่า ดูเหมือนว่าท่านพ่อเองก็ต้องการขอบคุณที่เจ้ากล่าวชื่นชมเขา?"จงเจิ้งกล่าวด้วยเสียงเคร่งขรึม.
"เจ้าเป็นจงเจิ้งจริง ๆ รึ? สารเลว ข้าอุตส่าห์เชื่อใจเจ้า!"จุนหมอจื่อที่ตะโกนออกมาเสียงดัง.
จุนหมอจื่อที่ยื่นมือออกไปเตรียมที่จะโจมตีจงเจิ้ง!
วูซซซซ!
ขณะที่จงเจิ้งจะนำของวิเศษออกมา ร่างกายของเขาที่หยุดนิ่งไม่สามารถขยับได้.
"หยุด เขายังมีประโยชน์!"จุนเทียนเซี่ยห้ามจุนหมอจื้อเอาไว้.
"แต่ว่า เรื่องนี้ เรื่องนี้............!”จุนหมอจื่อที่ไม่อยากยินยอม.
"ท่านพ่อให้ข้าส่งข้อความให้กับเจ้า!"จงเจิ้งที่เอ่ยขณะที่ร่างกายขยับไม่ได้.
"หืม?"จุนเทียนเซี่ยที่เผยท่าทางประหลาดใจ.
"สิ่งนี้ อยู่ในอกเสื้อข้า เจ้าดูเอง!"จงเจิ้งที่กล่าวยืนยัน.
จุนหมอจื้อที่โกรธเกรี้ยวฉีกเสื้อผ้าของจงเจิ้ง ก่อนที่จะนำจดหมายออกมามอบให้กับจุนเทียนเซี่ย.
จุนเทียนเซี่ยที่เปิดออกด้วยความอยากรู้ แววตาของจุนหมอจื่อที่ลอบมองออกไปด้วย.
บนสารนั้นมีลายมือของจงซานจริง ๆ .
-----------
จุนเทียนเซี่ย เจ้ากล้าแตะบุตรของข้า ข้าจะเอาชีวิตบุตรชายของเจ้า!
-----------
จุนเทียนเซี่ยที่ดวงตาหรี่เล็กลง.
"ฮ่าฮ่าฮ่า จงซานกล้าข่มขู่ศิษย์พี่ใหญ่อย่างคาดไม่ถึง? ศาลเทพหลุนฮุยไม่ได้มีไท่จื่อ เขาเสียสติไปแล้ว?"จุนหมอจื่อที่เผยยิ้มหัวเราะออกมาอย่างบ้าคลั่ง.
จงเจิ้งที่เผยท่าทางเหยียดหยันกล่าวออกมาว่า "ไอ้โง่ ไม่ใช่ว่าเจ้าคือบุตรของจุนเทียนเซี่ย รึอย่างไร?"