Chapter 1367 ความสับสนวุ่นวาย
จวงจื่อและเฉิงโห่วพร้อมกับเซียนบรรพชนทั้งสิบสองที่โกรธเกรี้ยวมุ่งตรงไปยังวิหาร.
ทว่าเมื่อเข้ามาใกล้ ก็ปรากฎร่างของ’จวงจื่อ’อีกคนที่จ้องมองมาด้วยความโกรธเกรี้ยวไปยังกลุ่มคนดังกล่าว.
"อสูรแม่พิมพ์? เจ้าสมคบกับเฉิงโห่วอย่างคาดไม่ถึง เจ้าเดินทางมาวิหารของข้า ต้องการทำอะไร?"ที่ด้านหน้าตำหนัก จวงจื่อที่กล่าวดุด่าออกมาในทันที.
จวงจื่อที่เตรียมเข้าโจมตี นอกจากนี้ 12 เซียนบรรพชนและเฉิงโห่วที่กระจายไปรอบ ๆ ใบหน้าที่เผยจ้องมองไปยังคนที่ปรากฎท่าทางหวาดหวั่นขึ้นมาในทันที.
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเหล่าศิษย์ของจวงจื่อ ที่เวลานี้ต่างก็คิดถึงคำสอนของจวงจื่อก่อนหน้านี้ จดจ้องมองไปยังคนที่ปลอมตัวก่อนหน้านี้ พวกเขาเต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยวอย่างหนักขณะที่กำลังจะพุ่งเข้าไปทำลายอีกฝ่าย.
ขณะที่ทุกคนจ้องมองไปยังคนทื่ยืนอยู่บนยอดเขา ทั้งหมดที่เตรียมเข้าโจมตีอีกฝ่ายด้วยกำลังที่มี ทว่า ‘จวงจื่อ’ ที่อีกฟากก็เอ่ยคำบางคำที่ทำให้ทุกคนตื่นตกใจหวาดผวาขึ้นมาอย่างรุนแรง.
งงงวย งงงัน! ฝ่ายตรงข้าที่คาดไม่ถึงตะลึงงันไม่รู้จะทำอะไร พวกเขาที่ไม่สามารถบอกได้ว่าใครเป็นจวงจื่อกันแน่ นั่นเป็นตัวปลอมรึ?
ใครคือตัวจริง?
ไม่ว่าใครจะเป็นตัวจริง 12 เซียนบรรพชนเวลานี้หวาดผวาไม่กล้าลงมือหยุดชะงักไปในทันที.
"อสูรแม่พิมพ์? ข้าคิดว่าเจ้านั่นล่ะอสูรแม่พิมพ์!"จวงจื่อที่คำรามออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นชา.
ดวงตาของเฉิงโห่วที่หรี่เล็ก นิ่งงันไม่ขยับ ขมวดคิ้วไปมาเล็กน้อย แม้นว่าเฉิงโห่วจะรู้"จวงจือ"ด้านหน้าจะเป็นตัวปลอม ทว่าตัวปลอมกับเหมือนขนาดนี้เลยรึ? คาดไม่ถึงเลยว่าแม้แต่เขาก็แยกไม่ออกเลยรึ?
อสูรแม่พิมพ์ นี่คืออสูรแม่พิมพ์จริง ๆ .
จวงจื่อที่มองเห็นคนที่ปลอมเป็นตัวเองก็โกรธเกรี้ยวอย่างรุนแรง.
"วูซซซซ!"
มหาวิถีผีสีที่โบยบินออกไป กลิ่นอายแรงกดดันวิญญาณที่ระเบิดออกไปเสียงดังสนั่น ห้วงมิติที่สั่นไหว เซียนบรรพชนรอบ ๆ ที่ไม่แม้แต่เข้าใกล้ได้ งั้นฝ่ายตรงข้ามก็คือตัวปลอมสินะ?
"ชิ เลียนแบบได้เหมือนจริง!" ‘จวงจื่อ’ฝ่ายตรงข้าที่เอ่ยด้วยเสียงเย็นชาออกมา.
"วูซซซซซ!"
ที่ด้านหลัง’จวงจื่อ’ มหาวิถีผีเสื้อที่พวยพุ่ง กลิ่นอายที่น่าเกรงขามกำราบทั่วสารทิศแผ่ออกมารอบ ๆ .
แปดหางสวรรค์แห่งจุดจุบกินอุปกรณ์ปราชญ์เทพ ศพบรรพชนเต่าทมิฬ ดวงเนตรใหญ่ยักษ์ จงซานที่ได้รับพลังส่วนน้อยเท่านั้น ส่วนมากนั้นทำให้แปดหางสวรรค์แห่งจุดจบเติบโตไม่ธรรมดา จงซานที่มีระดับห้าเซียนบรรพชน แน่นอนว่าแปดหางสวรรค์สวรรค์ย่อมทรงพลังแข็งแกร่งกว่า ไม่ได้ด้อยกว่าจวงจื่อเวลานี้เลย.
"สารเลว!"จวงจื่อแทบบ้า โกรธเกรี้ยวหัวเสียอย่างรุนแรง.
ก่อนที่เขาจะยื่นมือกดไปด้านหน้า ปรากฎคุณเผิงนับร้อยตัว เป็นเงาของพลังงาน ที่พวยพุ่งไปยัง’จวงจื่อ’ตรงข้าม.
"ชิ!"
‘จวงจื่อ’ที่ยื่นมือกดไปด้านหน้าเหมือนกัน เป็นวิชาเดียวกัน ปรากฎภาพเงาของคุนเผิงนับร้อยเช่นกัน.
"ตูมมมม ~~~~~~~~~~~~~~~~~~~!”
พลังโจมตีรุนแรงมาก ห้วงมิติแตกกระจายออกเป็นเสียง ๆ กลุ่มเซียนบรรพชนรอบ ๆ ที่ถอยห่างออกมา แต่ละคนใบหน้าเปลี่ยนเป็นซับซ้อนอัปลักษณ์ในทันที.
ช่วยใคร? ความเป็นจริง พวกเขาที่เป็นศิษย์ของจวงจื่อและคนที่จวงจื่อเชิญมาช่วยต่อสู้ พวกเขาต้องเข้าร่วมต่อสู้ช่วยจวงจื่อ ก่อนหน้านี้เห็นชัดว่าพวกเขาทำผิดพลาด ไม่ว่าใครจะเป็นจริงตอนนี้ พวกเขาย่อมไม่กล้าที่จะสรุป กลัวเข้าไปช่วยแล้วเกิดความผิดพลาดซ้ำอีก ทำให้พวกเขาไม่กล้าที่จะลงมือใด ๆ .
"อี้ซือฉี เจ้าเป็นศิษย์จวงจื่อ เจ้าไม่คิดจะเอ่ยอะไรเลยรึ?"เซียนบรรพชนอีกคนที่กล่าวออกมาด้วยความร้อนรน.
"โปรดวางใจ ความแข็งแกร่งของอาจารย์ยากที่จะมีใครเทียบได้ อาจารย์ไม่ต้องการให้พวกเราช่วย ที่จริงข้ากังวลเพียงเฉิงโห่ว!"อี้ซือฉีที่ใบหน้าบิดเบี้ยว.
"เฉิงโห่ว?"
"ใช่ อาจารย์และเฉิงโห่วเป็นพันธมิตรกัน ที่จริงก็เพื่อผลประโยชน์เท่านั้น หาได้เชื่อใจได้ เฉิงโห่วไม่มีความจำเป็นต้องช่วยใด ๆ อาจารย์ ดังนั้นข้ากังวลว่าเขาจะลงมือ เมื่อถึงเวลานั้น..........!"อี้ซือฉีกล่าว.
"พวกเราจะต้องจับตาเฉิงโห่ว!"เซียนบรรพชนอีกคนกล่าวอย่างเคร่งขรึม.
"ตกลง!"
ทันใดนั้น 12 เซียนบรรพชนที่จับจ้องมองไปยังเฉิงโห่วในทันที.
ที่ไกลออกไปการต่อสู้ของจวงจื่อที่หยุดหลง เพียงแค่เข้าปะทะครั้งเดียว จวงจื่อก็ใช้พลังแทบทั้งหมดออกมา ถึงแม้นว่าอีกฝ่ายจะด้อยกว่าตน หากแต่ก็ไม่ได้มากมายนัก สิ่งสำคัญที่สุด ตัวเขาที่ภาคภูมิใจในเวลาเลียนแบบวิชาจากเนตรดอกเหมย ทว่าคาดไม่ถึงฝ่ายตรงข้ามนั้นกับร้ายกาจยิ่งกว่าเขาอย่างงั้นรึ?
ใช้ทักษะเทวะที่เหมือนกับเขามาก ๆ ขนาดนี้เลยรึ? ดูคล้ายกับวิชาเลียนแบบ ทว่าร้ายกาจกว่าเขามาก.
เนตรดอกเหมย ที่มีสามกลีบ เป็นเนตรที่สามารถคัดลอกและปรับแต่ง เลยแข็งแกร่งกว่าฝ่ายตรงข้าม.
เป็นทักษะเทวะที่เหมือนกันมาก ๆ ไม่มีอะไรแตกต่าง แม้ว่าจะไม่ได้ปรับแต่งอะไรเพิ่ม! แต่ก็เหมือนกันเกินไปแล้ว.
ทว่าที่สำคัญจวงจื่อเวลานี้มีดอกเหมยสองกลีบเท่านั้น ที่สำคัญเขาไม่สามารถคัดลอกทักษะของอีกฝ่ายได้หากฝ่ายตรงข้ามแสดงความสามารถออกมาไม่เต็มกำลัง หรือคัดลอกได้เพียงแค่ห้าสิบเปอร์เซ็นต์เท่านั้น.
หากแต่ฝ่ายตรงข้ามกับทำได้เหมือนจนสมบูรณ์แบบ.
นอกจากนี้วิชาอื่น ๆ ที่จวงจื่อใช้ออกมา ฝ่ายตรงข้ามก็สามารถใช้ออกมาได้เหมือนเป็นอย่างมาก.
แล้วเขาจะต่อสู้อย่างไร? และที่สำคัญที่สุดจวงจื่อที่หงุดหงิดเป็นอย่างมา เซียนบรรพชนสิบสองคน เวลานี้ไม่เพียงไม่ช่วยเขา ยังจับจ้องไปที่เฉิงโห่วอีกรึ?
จวงจื่อ"........................!”
-------------------------------------------------------------
ภายในโลกใบเล็ก.
จงซานที่ส่งแปดหางออกไปรับหน้าอีกฝั่ง ส่วนตัวเขาและเซียนเซิงซือถูกร่างจำแลงหกยอดฝีมือล้อมสังหารอยู่!
ไท่ซ่าง หยวนซือ ทงเทียน เจี่ยหยิน จุนถี และร่างจำแลงจงซานทั้งหมดที่มีแท่นบูชาปราชญ์เทพทั้งหมด.
แน่นอน จงซานต้องการจัดการร่างจำแลงของตัวเองอยู่แล้ว.
"ตูมมมม ~~~~~~~~~~~~~~~~~~~!”
ตราครรลองสวรรค์ที่ถูกปล่อยออกมาปะทะกัน เกิดระเบิดเสียงดังสนั่น ห้วงมิติที่แตกกระจาย ทั้งคู่ที่ผละออกจากกัน จงซานที่ไม่สามารถเคลื่อนย้ายมหาวิถีในเวลานี้ แต่ก็ต้องใช้พลังสูงสุดออกมารับมืออีกฝ่าย ทั้งที่อีกฝ่ายยังไม่ได้เคลื่อนย้ายมหาวิถีหรือเคลื่อนย้ายอำนาจฟ้าดินเลย.
แข็งแกร่งมาก! คาดไม่ถึงเลยว่าจวงจื่อจะสามารถสร้างตัวประหลาดเช่นนี้ออกมาได้?
หากอีกฝ่ายเคลื่อนย้ายมหาวิถี แทบไม่ต้องคิดเลยว่าผลจะออกมาอย่างไร.
อีกฝั่ง เซียนเซิงซือ ที่เวลานี้ได้เรียกศพปราชญ์เทพออกมาจากสุสานหน้าผากแล้ว.
ศพปราชญ์เทพที่ลอยอยู่บนฟ้า ปากที่กำลังบ่นพึมพำไปมาด้วยอาคมที่แปลกประหลาด และที่ด้านหน้าของเซียนเซิงซือปรากฎกองทัพกองหนึ่งปรากฎขึ้น.
ศพมากมาย เวลานี้เริ่มกลับมามีชีวิต กลายเป็นเจียงซือ ให้เซียนเซิงซือควบคุม.
ศพเจียงซือไท่ซ่างหนึ่งพันร่าง หยวนซือหนึ่งพันร่าง ทงเทียนหนึ่งพันร่าง เจี่ยหยินหนึ่งพันร่าง และเจียงซือจุนถีอีกหนึ่งพันร่าง.
นี่คือผลงานที่ล้มเหลวของจวงจื่อ ถูกเซียนเซิงซือนำมาใช้ในเวลานี้.
ปราชญ์เทพไท่ซ่างปะทะศพไท่ซ่างหนึ่งพันตน!
ปราชญ์เทพหยวนซือปะทะเจียงซือหยวนซือหนึ่งพันตน!
ศพทงเทียนปะทะเจียงซือทงเทียนหนึ่งพัน!
ปราชญ์เทพเจี่ยหยินปะทะเจียงซือเจี่ยหยินหนึ่งพัน!
ปราชญ์เทพจุนถีปะทะศพปราชญ์เทพจุนถี!
หากใครเวลานี้มาเห็นคงดวงตาเบิกกว้างกลมโต กับการต่อสู้ที่รุนแรงหนักหน่วงนี้ การต่อสู้สนามรบใหน ๆ ก็รุนแรงราวกับฝันไป! ปราชญ์เทพหลายพัน เรื่องนี้ จริงหรือเท็จกัน.
"กริ๊ง กริ๊ง กริ๊ง!"
เซียนเซิงซือที่ยังคงสั่นกระดิ่งไปมา.
"เป็นจริงดั่งที่เซิ่งหวังกล่าว ยิ่งออกห่าง หนานฮัวบนชั้นฟ้า ยิ่งทำให้พลังของพวกมันลดลง หากว่าออกจากโลกใบเล็กแห่งนี้ แน่นอนว่าพวกมันจะต้องอ่อนแอลง! และหางออกจากดินแดนเสี่ยวเมิ่ง รับประกันเลยว่าจะไม่เหลือพลังใด ๆ !"เซียนเซิงซือที่กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.
"ห้าปราชญ์เทพถูกเจ้าตรึงเอาไว้ นับว่าถูกที่ถูกเวลาจริง ๆ ไม่ใช่เวลาเหมาะจริง ๆ เจ้าตรึงพวกมันเอาไว้ก่อน ข้าจะนำร่างนี้ออกไป!"จงซานกล่าว.
"รับทราบ!"เซียนเซิงซือที่ตอบรับเสียงดัง.
"ตูมมมม ~~~~~~~~~~~~~~~~~~~!”
จงซานที่โจมตียั่วยุร่างจำแลงเป็นระยะ จากนั้นก็ล่อออกมาที่ด้านหน้าทางเข้าออกที่อยู่ไม่ไกล แม้นว่าร่างจำแลงนั้นจะมีรูปร่าง ทว่าก็ไม่ได้มีเชาว์ปัญญาเหมือนจงซาน ไม่ได้มีความคิดใด ๆ มีเพียงสัญชาตญาณการต่อสู้เท่านั้น ไม่เช่นนั้นคงไม่มีทางที่จวงจื่อจะควบคุมได้.
จงซานที่โจมตียั่วยุเป็นระยะ ๆ ก่อนที่จะล่อลากมาทางเข้าออก.
ที่ด้านหน้าทางเข้าออก จงซานที่สวมชุดดำหมวกดำ ปกปิดร่างกาย ใช้วิชาปิดบังร่างของเขาไว้ ไม่มีทางที่จะมีใครสามารถมองเห็นรูปลักษณ์ได้.
เพื่อปกปิดว่าเขายังอยู่ที่ดินแดนเจี่ยนั่นเอง.
-------------------------------------------------------------
ที่ด้านนอก จวงจื่อที่ถูกหยุดเอาไว้ ขณะต่อสู้กับ ‘จวงจื่อ’ ต้องการที่จะจัดการอีกฝ่ายด้วยกำลังเพื่อเผยความจริงออกมา หากแต่เวลาสั้น ๆ ไม่มีทางสำเร็จ เว้นแต่จะใช้วิชาลับเท่านั้น.
ทว่า จวงจื่อก็ไม่ต้องการใช้วิชาลับออกมาให้เฉิงโห่วเห็น เฉิงโห่วคนนี้ แม้นว่าจะเป็นพันธมิตร ทว่าลึกลงไปนั้นคนผู้นี้เจ้าเล่ห์ยิ่งนักไม่สามารถที่จะวางใจได้ จวงจื่อเข้าใจเรื่องนี้ดี.
หากแต่ไม่มีทางเลือกที่ต้องต่อสู้ เพราะว่าในโลกใบเล็ก ดูเหมือนว่าจะมีบางคนออกมาแล้ว หากออกมาด้านนอกล่ะก็ไม่มีทางที่จะรอดพ้นความตายได้ ต้องไม่ลืมว่ายังเหลือหกปราชญ์เทพ ส่วนร่างจำแลงจงซานทั้งหนึ่งหมื่นนั้น ถูกกำจัดไปด้วยความเร็ว ทำให้ภายในใจของจวงจื่อสั่นไหว ดังนั้นจึงต้องสังหาร ‘จวงจื่อ’ร่างนี้ให้เร็วที่สุด.
ภายในใจของเขาที่ร้อนรน ที่เป็นปัญหาที่สุดเวลานี้ เป็นเพราะเซียนบรรพชนที่เขาเรียกมา เวลานี้กลับไม่เข้ามาช่วยเขาแม้แต่น้อย.
"ฟู่ ~~~ ~~~~~~~~~~~~~~~~!”
ขณะที่ทุกคนอยู่ในภาวะตึงเครียดอยู่นั้น จากที่ไกลออกไปแรงกดดันอำนาจสยบที่โถมทับมาในทันที.
แสงสีทองสว่างจ้าที่ปรากฎขึ้นนั้น ทำให้ทุกคนใบหน้าเปลี่ยนเป็นอัปลักษณ์.
หนึ่งในสิบเอ็ดคนนั้น ผู้ที่นำทุกคนมา ส่องประกายแสงเจิดจรัส ที่ด้านหลังศีรษะมีอักขระ"卍" ด้านหลังพร้อมกับรัศมีพุทธที่แผ่ออกไปรอบ ๆ และที่ตามมานั้นเป็น 11 เซียนบรรพชนของต้าเจิ้ง.
"จงเทียน?"ใบหน้าของจวงจื่อกลายเป็นอัปลักษณ์.
"จงเทียน?" ‘จวงจื่อ’ที่ใบหน้าเปลี่ยนเป็นอัปลักษณ์เช่นกัน.
ได้ยินคำพูดของ’จวงจื่อ’ที่ศึกษาตัวเองมาดี จวงจื่อที่พ่นลมหายใจรู้สึกไม่ดีนัก เวลานี้เขารู้สึกหงุดหงิดวุ่นวายใจอย่างที่สุด.
ศิษย์ของจวงจื่อและกลุ่มเซียนบรรพชนที่ถูกเชิญมาจากด้านนอก ทุกคนที่เผยท่าทางจริงจัง ไม่ง่ายที่จะกระทำอะไร!
ส่วนเฉิงโห่วที่ดวงตาหรี่เล็กลง.
"ไท่จื่อ ที่นี่ดูเหมือนว่าจะวุ่นวายเลยทีเดียว!"จินเผิงที่กล่าวออกมาด้วยความประหลาดใจ.
"คำสั่งฟู่หวง เจ้ายังจำได้หรือไม่?"จงเทียนที่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.
"ไม่มีทางลืม!"จินเผิงและเซียนบรรพชนคนอื่น ๆ กล่าว.
"อืม!"จงเทียนพยักหน้ารับ.
"วูซซซซ ~~~~~~~~~~~~~~~~~~~!”
จากพื้นที่ไกลออกไปกลิ่นอายที่หนักหน่วงรุ่นแรงจากยอดเขาที่ไกลอกไปแผ่ออกมา.
"ตูมมมมมม ~~~~~~~~~~~~~~~~~~~!”
หลังคาตำหนักที่ระเบิดก่อนที่จะปรากฎรูใหญ่ ร่างสองร่างโผล่ออกมา.
สองร่างที่โผล่ออกมา ร่างในชุดดำ ที่มองไม่เห็นรูปร่างใบหน้าด้านใน ส่วนอีกร่างในชุดราชา มือถือตราประทับราชวงศ์.
"จงซาน?" 12 เซียนบรรพชนที่ตะโกนออกมาเสียงดัง พวกเขาที่จ้องมองไปยังร่างของคนที่สวมชุดราชา.
"จงซาน!"จวงจื่อที่ตะโกนออกมาด้วยความโกรธเกรี้ยว จวงจื่อที่จ้องมองไปยังชายในชุดสีดำ.
แม้นคนอื่นจะไม่สามารถมองเห็นใบหน้าของจงซานได้ ทว่าจวงจื่อย่อมสามารถแยกแยะได้ เขาที่ตรวจสอบจงซาน แม้แต่สร้างจงซานออกมา เวลานี้เขาย่อมรู้แผนการของจงซาน ทำให้เขาเวลานี้ทั้งหดหู่และอับอายเป็นอย่างมาก ตั้งแต่แรกแล้ว ที่ดินแดนเจี่ยทิศใต้นั่นเป็นตัวปลอมนี่เอง.
ภายในใจของเฉิงโห่วเวลานี้สั่นไหว เพราะว่าเขาจำจงซานได้ ทว่าที่นี่มีจงซาน ใบหน้าของจงซานเขาไม่มีทางลืม หากแต่ที่ดินแดนเจี่ยนั่นเขาก็ตรวจสอบแล้ว ใครบอกทีหมายความว่าอย่างไรกัน?