ตอนที่แล้วChapter 1356 จงเสวียนแทนคุณ.
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 1358 แผนการสร้างศรัทธาของทวีปทิศเหนือ.

Chapter 1357 ตระกูลไป๋ที่รับรู้เรื่องทุกอย่างของโลกหล้า.


บนสวนสวรรค์ลอยฟ้าหลิงเซียว ตำหนักเทียนหยวน!

จงซานที่ออกมาจากปิดด่านแล้ว.

"ยินดีกับท่านพ่อด้วย ที่ตัดผ่านระดับอีกครั้ง!"จงเทียนที่กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.

"เฮ้เฮ้ ยังห่างจากเจ้านัก!"จงซานกล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.

"จงเสวียนล่ะ?"จงซานสอบออกไป.

"เขานะรึ? เขาบอกว่าจะไปตอบแทนคุณ เมื่อครั้งเขากลายเป็นคนแขนขาด มีเด็กสาวคนหนึ่งที่ช่วยเขาเอาไว้ ตอนนี้จึงจำเป็นต้องกลับไปตอบแทนตามคำสัญญา.

"อืม! ตอบแทนคุณ เป็นสิ่งควรทำแล้ว!"จงซานพยักหน้ารับ.

หากไม่เพราะเด็กสาวคนนั้น ต้าเจิ้งคงจะประสบปัญหาใหญ่แล้วแน่นอน.

"จงซาน เจ้าเรียกข้าอย่างงั้นรึ?"ที่ด้านนอกตำหนักเสียงของเห่าเม่ยลี่ที่ดังขึ้นในทันี.

กล่าวตามจริงแล้ว ไม่มีใครที่ขวางนางได้นั่นเอง ไม่นานหลังจากนั้น เห่าเม่ยลี่และมังกรทองเสี่ยวจินก็ก้าวเข้ามาในห้องโถง.

เห็นจงซาน เห่าเม่ยลี่แม้ว่าจะไม่ได้เผยยิ้มกว้างออกมาก็ตาม ทว่าท่าทางของนางที่เผยออกมาด้วยความสุขเป็นอย่างมาก.

"อืม มีบางอย่างต้องการให้เจ้าช่วย!"จงซานกล่าว.

"ช่วยรึ? เจ้าต้องการให้ข้าสาปใครอย่างงั้นรึ?"เห่าเม่ยลี่ที่กล่าวด้วยน้ำเสียงอหังการ.

จงเทียนที่อยู่ข้าง ๆ ถึงกับหน้ามืดไปเหมือนกัน กับคำพูดของเห่าเม่ยลี่.

"เกี่ยวกับคำสาปเผ่าจิ้งจอก!"จงซานกล่าว.

"เผ่าจิ้งจอก? คำสาปของทั้งเผ่านะรึ? ข้าได้ศึกษามาบ้างแล้ว ทว่ามันแตกต่างจากคำสาปที่ข้าได้เรียนรู้มา ข้าไม่สามารถแก้ไขมันได้ในเวลานี้!"เห่าเม่ยลี่ที่ขมวดคิ้วไปมา.

"นี่ให้เจ้า น่าจะเป็นกุญแจที่จะใช้ในการคลายคำสาปเผ่าจิ้งจอก เจ้าลองนำไปศึกษา ว่าจะสามารถใช้แก้คำสาปเผ่าจิ้งจอกได้หรือไม่ ทว่าต้องระวังเอาไว้อย่าได้เสี่ยงเป็นอันขาด ระวังมันอาจจะต่อต้านกับตำราชีวิตและความตาย!"จงซานยื่นตำราเล่มเล็กให้กับนาง.

ทว่าเห่าเม่ยลี่ที่ใบหน้าแดงเล็กน้อย ต้องระวังความปลอดภัยตัวเองก่อนอย่างงั้นรึ? ไม่คิดว่าเขสจะเป็นห่วงนางด้วย?

"สิ่งนี้ คืออะไรอย่างงั้นรึ?"เห่าเม่ยลี่สอบถาม.

"ตำราแห่งการทำลายล้าง!"จงซานตอบ.

"ตำราแห่งการทำลายล้าง?"เห่าเม่ยลี่เอ่ยเสียงสูง ก่อนที่จะเร่งรีบคว้าตำราตำราแห่งการทำลายล้างมาในทันที.

"มีอะไรอย่างงั้นรึ?"จงซานที่สอบถามออกไป.

เห่าเม่ยลี่ที่อุทานออกมา จากนั้นนางทีดื่มดำไปในความตื่นเต้นยินดี.

"เป็นอย่างไรบ้าง?"

จงซานต้องถามนางเป็นครั้งที่สองถึงจะทำให้นางหันกลับมาสนใจ.

"วางใจได้ เรื่องนี้ปล่อยเป็นหน้าทีข้าเอง!"เห่าเม่ยลี่กล่าวออกมาด้วยความมั่นใจ.

-----------------------------------------------------------------

ภพหยาง ใต้โลกหล้านั้นมีอยู่ด้วยกันทั้งหมดเก้าทวีป ประกอบด้วย ทวีปตะวันออก ทวีปทิศใต้ ทวีปตะวันตก ทวีปทิศเหนือ ทวีปกลาง ทวีปเทียน ทวีปฐพี ทวีปเสวียน ทวีปหวง!

ทวีปหวงหนึ่งในเก้าทวีป!

ทวีปหวงที่มี 36 อาณาเขต หนึ่งในเขตดังกล่าวเรียกว่าพื้นที่หวง.

บนเทือกเขาแห่งหนึ่งที่ทอดยาวในดินแดนหวง มีหมอกที่ปกคลุม กระจายไปทั่วเทือกเขาดังกล่าว.

บนลานแห่งหนึ่ง ปรากฎคนสามคน ที่ด้านหน้าปรากฎคนหนึ่งคนออกมาต้อนรับคนทั้งสาม.

บุรุษที่ออกมาต้อนรับอยู่ในชุดสีขาว ผมที่หวีเรียบแป้ ท่าทางราวกับบัณฑิตชั้นสูง ชุดของเขานั้นมีต้นไม้สีขาวขนาดเล็กปักเอาไว้อยู่.

สามคนที่มาเยือนนั้นไม่ธรรมดาแม้แต่น้อย โดยเฉพาะคนที่นำมา หากจงซานอยู่ที่นี่ ต้องจำได้อย่างแน่นอน เป็นปราชญ์เทพที่ถูกจงซานตบไปสองฉาดก่อนหน้า หยิงเห่านั่นเอง!

ใบหน้าของหยิงเห่าที่มีม่านหมอกปกคลุม สองคนด้านหลังที่ตามมา เต็มไปด้วยความเคารพเป็นอย่างมาก.

"โปรดแจ้งไปยังอาวุโสไป๋หวง!"หยิงเห่าที่เอ่ยออกมาค่อนข้างเคารพเช่นกัน.

"ปราชญ์เทพโปรดรอ ข้าจะเข้าไปรายงานก่อน!"บุรุษที่ออกมาต้อนรับกล่าวเป็นพิธีการ.

"ขอบคุณ!"หยิงเห่าพยักหน้ารับ.

ชายต้อนรับกล่าวออกมาด้วยความเคารพ จากนั้นก็ก้าวเข้าไปในเทือกเขาที่มีหมอกปกคลุม.

จนกระทั่งชายต้อนรับจากไป ชายสองคนด้านหลังหยิงเห่าต้องขมวดคิ้วไปมา.

"อาจารย์ พวกเราต้องจริงจังขนาดนั้นเลยรึ? ใครคือไป๋หวงกัน?"ศิษย์ของเขาที่สอบถามออกไป.

"ไป๋หวง? คือไป๋จื่อ สถานที่แห่งนี้เป็นที่ตั้งของตระกูลไป๋!"หยิงเห่าที่กล่าวตอบออกมา.

"ตระกูลไป๋? ตระกูลนี้แข็งแกร่งขนาดนั้นเลยรึ? ทำไมก่อนหน้านี้ศิษย์ไม่เคยได้ยินเลย?"ศิษย์คนหนึ่งกล่าวออกมาด้วยท่าทางสงสัย.

หยิงเห่าที่จ้องมองเข้าไปในหมอกสีขาวที่ล้ำล้ำ พลางถอนหายใจยาว ส่ายหน้าไปมาและเอ่ยออกมาว่า "ตระกูลไป๋? ไม่มีสิ่งใหนที่พวกเขาไม่รู้!"

"อย่างไร?"ศิษย์ของเขาที่เผยท่าทางแปลกประหลาด.

"ก่อนหน้านี้ข้าได้ยินข่าวลือมาว่า ตระกูลไป๋นั้นรู้ผลลัพธ์ทุกอย่างที่จะเกิดขึ้นในโลกหล้า!"หยิงเห่าเอ่ย.

“?”

"ตระกูลไป๋รู้ผลลัพธ์ทุกอย่างในโลกหล้าอย่างงั้นรึ?"ศิษย์อีกคนที่เผยท่าทางประหลาดใจ.

"เป็นไปได้อย่างไร? ตระกูลไป๋ทรงพลังขนาดนั้นเลย?"ศิษย์อีกคนที่กล่าวออกมาด้วยท่าทางไม่อยากเชื่อ.

หยิงเห่าที่ส่ายหน้าไปมา "ตระกูลไป๋นั้น ความแข็งแกร่งโดยรวมนั้นไม่ได้แข็งแกร่ง นอกจากนี้ยังใช้ชีวิตค่อนข้างสมถะ พวกเขาเป็นตระกูลที่เต็มไปด้วยความเมตตากรุณาที่เป็นรากฐาน เหล่าราชันย์เทพที่ยิ่งใหญ่ที่สั่นคลอนโลกหล้าเกือบทุกคน ล้วนแต่มีเงาของตระกูลไป๋แฝงอยู่ด้วย."

"ศิษย์ไม่เห็นเคยได้ยิน อาจารย์จะกล่าวถึงอาณาจักรเหล่านั้นให้ได้ฟังได้หรือไม่?"ศิษย์คนหนึ่งที่เอ่ยออกมาด้วยความสงสัย.

"เป็นกลุ่มคนในโบราณ แม้นว่าจะร่วงหล่นจากสวรรค์ไปแล้ว ทว่าก็นับว่าเป็นคนที่รุ่งโรจน์มีชื่อเสียงเป็นอย่างมาก ครั้งหนึ่งไป๋หวงเคยช่วย ฟู่ซี บำเพ็ญสร้างผังป้ากั้วขึ้นมา ไป๋เจาเป็นอาจารย์ของเฉินหนง และอาจารย์ของถังหย่าว ไป๋เหลียงเหว่ยเป็นอาจารย์ของจวนสวี ยังมีไป๋อี้ที่ช่วยซุนและต้ายวี และยังมีไป๋โหยวที่ช่วย หวังหวง ไป๋เฉิงจื่อช่วย เหยา ทุกคนล้วนแต่เป็นจอมราชันย์เทพในโบราณกาล ทุกคนล้วนแต่เกี่ยวข้องกับตระกูลไป๋ทั้งนั้น!"หยิงเห่าที่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.

จอมราชันย์เทพในโบราณนั้น เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นนานมาแล้ว ในโลกหล้าที่มีไม่กี่คนที่ยังจำได้ ทว่าศิษย์ของปราชญ์เทพย่อมรู้ดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งยอดฝีมือเช่น ฟู่ซี่ เฉินหนง หวังหวง ต้ายวี เหยา ซุน จวนสวี คู? คนเหล่านี้จะไม่รู้ได้อย่างไร? คาดไม่ถึงเลยว่าจะเกี่ยวข้องกับตระกูลไป๋?

ในเวลานี้ ท้ายที่สุดทั้งสองคนก็เข้าใจเกี่ยวกับตระกูลไป๋ ความแข็งแกร่งตระกูลไป๋บางทีอาจจะอ่อนแอ ทว่าด้วยเป็นที่รักของคนทั่วหล้าเปี่ยมไปด้วยความเมตตา ทำให้เกี่ยวพันธ์กับผู้คนมากมาย ทำให้พวกเขาทั้งสองที่สูดหายใจลึก.

ส่วนภายในค่ายกลหมอก ตระกูลไป๋.

ข้าง ๆ ทะเลสาบขนาดเล็กในตระกูลไป๋ ปรากฎคนผู้หนึ่งที่ร่างกายผอมแห้งที่กำลังจุดไฟ ด้วยไม้หอมที่ทรงค่า เพื่อต้มน้ำด้านหน้าซึ่งมีหม้อใบหนึ่ง ที่กำลังต้มจนน้ำเดือด เสียงของไอน้ำที่ดังหวีดหวิวพ่นไอน้ำดันฝาหม้อ.

ชายร่างผอมที่เติมฟืนจ้องมองหม้อน้ำ พร้อมกับมองไปยังทะเลสาบ ใบหน้าที่ดูเลื่อนลอย.

ในเวลานี้ ไม่ไกลออกไปอีกหนึ่งคนที่มีใบหน้าอวบอิ่มร่างกายอ้วนท้วม กำลังถือน่องไก่ก้าวเข้ามา เขาที่เดินเข้ามาพร้อมกับกินขาไก่ไปด้วย ก่อนที่มันจะเหลือเพียงกระดูก เขาที่ขว้างมันลงไปในทะเลสาบ.

"จุ่ม!"

ทะเลสาบที่กลายเป็นระลอกคลื่น พร้อมกับลบเงาของชายร่างผอมที่กำลังยืนอยู่ด้านหน้าหม้อต้ม.

"จูกาน เจ้ากำลังคิดอะไร?"ชายอ้วนที่เช็ดปากมันขณะกล่าวถามชายร่างผอม.

"ข้าคิดถึงน้องสาวของท่านไง!"จูกานที่เอ่ยออกมาด้วยเสียงเศร้า.

คำพูดของชายร่างผอมทำให้ชายอ้วนตกใจเล็กน้อย ก่อนที่ใบหน้าจะเปลี่ยนเป็นอัปลักษณ์.

"เฟยเกอ ท่านคิดว่าคนตระกูลไป๋จะหลอกพวกเราหรือไม่? พวกเราจะได้กลับไป ขอเพียงพวกเขาพบกับลูกแล้ว พวกเขาจะบอกเราอย่างงั้นรึ? พวกเขาจะส่งพวกเรากลับหรือไม่ พวกเราจะต้องรอไปถึงใหน? ข้าคิดถึงน้องสาวของท่าน!"จูกานที่กล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงติดขัด.

"ข้าก็คิดถึงพี่สาวของเจ้าเช่นกัน ไม่รู้ว่าเด็กน้อยในท้องนางจะเป็นเช่นไร ข้ายังไม่แต่งงานกับนางเลย ตอนนี้นางท้องแล้ว ในหมู่บ้าน จะต้องเอานางไปนินทาเป็นแน่!"ชายอ้วนที่กำลังเคี้ยวเนื้อไก่ไปมาด้วยอารมณ์.

"เฟยเกอ พวกเขาบอกพวกเรา เหล่าคนตระกูลไป๋ที่กินเพียงเม็ดยาทุก ๆ วันและไม่กินอะไรเลย พวกเขาบอกกว่าจะทำให้ตระหนักได้ถึงระดับพลังที่สูงขึ้น พวกเราเองก็แทบจะหาอะไรกินไม่ได้เลย ถูกตาแก่นั่นจับตาอยู่ตลอด."จูกานที่กล่าวอย่างมีอารมณ์.

"ใช่ พวกเราต้องออกไปหาอะไรกิน ด้านนอก!"ชายอ้วนที่ถูปากมันเยิ้มไปมา

"แต่ว่า พวกเขาจะให้เราไปอย่างงั้นรึ?!"

"ไม่ให้ไปรึ? พวกเราก็อย่าให้พวกเขารู้สิ!"ชายอ้วนกล่าว.

"อืม เฟยเกอ ข้าเชื่อท่าน!"ชายผมที่พยักหน้ารับ.

ในเวลาเดียวกัน พวกเขาที่เห็นร่าง ๆ หนึ่งบนอากาศ.

"ช้าก่อน!"ชายอ้วนที่เอ่ยปากออกไป.

ชายในชุดสีขาวที่หยุดกลางอากาศ ก้มมองลงไปด้านล่าง ขณะที่เห็นใครบางคนที่กำลังเผาพิณต้มกระเรียน ละเมิดกฎของตระกูล สองคนนั้น? พวกเขาทำอย่างงั้นรึ?

[焚琴煮鹤 (เฝินฉินจู่เฮ่อ) เผาพิณต้มกระเรียน หมายถึงทุบทำลายพิณทำเป็นฟืนไปก่อเตาไฟเพื่อต้มกระเรียนกิน พิณเป็นเครื่องดนตรีอันถือเป็นศิลปะวิทยาหนึ่งที่นักศึกษาต้องร่ำเรียน กระเรียนเป็นสัตว์มงคลมีศักดิ์สูง ทำลายสิ่งของทั้งสองอย่างทิ้งไปจึงไม่ควร ซึ่งแปลความว่าทำลายสิ่งของที่งดงามมีคุณค่าลงไปอย่างไม่ควร หรือทำให้เสียของ ไม่คุ้มค่า]

"บรรพชนอาจารย์อาทั้งสอง!"ชายในชุดสีขาวที่ใบหน้าบิดเบี้ยวอัปลักษณ์.

"อืม!"ชายอ้วนและชายผอมที่พยักหน้าพึงพอใจ.

"เจ้ากำลังไปใหน?"เฟยเกอกล่าวถาม.

"เรียนอาจารย์อาบรรพชน ที่ด้านนอกมีแขก ข้าจึงต้องการไปแจ้งไป๋หวง!"ชายในชุดสีขาวเอ่ยตอบ.

"ไป๋หวง? คาดไม่ถึงเลยว่าต้องไปแจ้งเขา? ที่ด้านนอกเป็นใครจากใหนกัน?"ชายอ้วนสอบถาม.

"เรียนอาจารย์อาบรรพชน เป็นปราชญ์เทพ!"ชายในชุดขาวที่กล่าวออกมาด้วยความเคารพ.

"ปราชญ์เทพ? เป็นตัวตนที่ร้ายกาจที่สุดของโลกหล้าอย่างงั้นรึ?"ชายอ้วนที่กล่าวสอบถามด้วยความสนใจ.

"เป็นเช่นนั้น? "ชายในชุดสีขาวที่กำลังรีบ จึงไม่คิดที่จะปฏิเสธอะไรออกไป.

"เป็นปราชญ์เทพที่มีชื่อว่าอะไร?"ชายอ้วนสอบถาม.

"หยิงเห่า!"ชายในชุดสีขาวกล่าว.

"อะไรนะ ~~~~~~~~~~~~~~~~~~~!”

ชายผอมที่อุทานออกมาทันที ดวงตาเบิกกว้างกลมโต ชายอ้วนก็เช่นกัน.

ชายในชุดสีขาวที่ใบหน้ากระตุก อาจารย์อาบรรพชนทั้งสองกำลังคิดอะไร ไม่ใช่ว่ากำลังคิดทำเรื่องน่าอับอายอยู่หรอกนะ.

"เจ้าบอกว่าปราชญ์เทพนั้นมีนามว่าอะไร?"ชายอ้วนที่กล่าวสอบถามอีกครั้ง.

"หยิงเห่า?(มายาเจิดจรัส)"ชายในชุดสีขาวที่เอ่ยออกมาด้วยท่าทางงงงวย.

[荧惑  Yínghuò มายาเจิดจรัส.

淫货    yín huò  สินค้าลามก  ออกเสียงคล้าย ๆ กัน.]

"ชื่อ ของลามกอย่างงั้นรึ?!"จูกานและเฟยเกอถึงกับแข็งค้างไปเลย.

"นี่เป็นเทพอย่างงั้นรึ? ถึงได้กล้าใช้ชื่อที่น่าอายขนาดนี้เลยรึ?"ชายอ้วนที่ใบหน้าสั่นสะท้าน.

"มีอะไร มีอะไรอย่างงั้นรึ? มีปัญหาตรงใหนอย่างงั้นรึ?"แม้นว่าชายชุดขาวจะไม่เข้าใจ ทว่าเห็นท่าทางของทั้งสองก็ทำให้สงสัยเช่นกัน.

ชายอ้วนและชายผอมมองหน้ากันและกัน "เฟยเกอ คนผู้นี้หาญกล้ายิ่งกว่าพวกเราจริง ๆ !"

"ใช่ พวกเราใช้ชื่อตามรูปลักษณ์ เขาเองก็ต้องมีนิสัยเหมือนชื่อแน่ ชื่อของลามกอย่างงั้นรึ? เป็นถึงปราชญ์เทพแต่กับใช้ชื่อที่ดูน่าอายเช่นนี้เลยรึ?"ชายอ้วนที่พยักหน้ารับ.

"น่าอาย? อย่างไร......!"

ชายในชุดขาวที่สงสัยในตอนแรก กล่าวได้แค่ครึ่งคำ ก่อนที่ใบหน้าจะแข็งค้าง ใบหน้าเปลี่ยนเป็นสีแดงคิดเช่นนั้นกับคนทั้งสอง ขณะที่เขาระงับความคิดเอาไว้.

ปราชญ์เทพ นั่นคือปราชญ์เทพ ต้นแบบของคนทั่วหล้า อาจารย์อาบรรพชนกำลังดูหมิ่นอยู่อย่างงั้นรึ? ชื่อของลามกอย่างงั้นรึ?

"มีอะไร?"ชายอ้วนที่สอบถามออกไป.

ชายในชุดขาวที่ใบหน้ากระตุก ไม่คิดที่จะเอ่ยอะไรกับคำทั้งสองอีก.

"ข้าต้องไปรายงานไป๋หวง!"

ชายชุดขาวไม่ต้องการอยู่อีก ยิ่งเขาอยู่ก็ยิ่งรู้สึกว่าความโชคร้ายกำลังมาเยือน ในหัวของเขาที่กำลังวุ่นวายสับสนไปหมด!

ชายผอมที่จ้องมองชายชุดขาวจากไป "เฟยเกอ พวกเราต้องไปดูสักหน่อย ต้องเป็นคนเช่นไร ถึงได้กล้าใช้ชื่อของลามก!"

"อืม ข้าเองก็ต้องการเห็นเช่นกัน!"เฟยเกอที่พยักหน้ารับ.

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด