Chapter 1353 ความอหังการของราชา
"ประชาชนต้าเจิ้งรับบัญชา โปรดยกมือขวาขึ้น จงเป็นพลังให้กับข้า!"จงซานที่ตะโกนออกมาเสียงดัง.
เสียงของมังกรที่คำรามดังกลั่น เมฆชื่อเสียงวาสนาทั่วทั้งต้าเจิ้งภพหยินที่พลุ่งพล่าน มังกรที่ใหญ่ยักษ์กำลังเคลื่อนกายไปมา.
ที่ด้านหน้าของตำหนักปู่ซือ จงซานอีกร่างที่ยืมกลิ่นอายของคนรอบข้างเพิ่มอำนาจสยบขึ้นช้า ๆ .
หวังคูและคนอื่น ๆ ของเผ่าโครงกระดูกที่คลุมร่างด้วยวิถีสวรรค์กันอย่างพร้อมเพรียง หวังคูคนเดียวที่สร้างมหาวิถีทะเลโครงกระดูกแผ่ขยายไปรอบ ๆ .
ซือหยางเทียนที่จ้องมองไปยังกลุ่มคนที่อยู่ด้านหน้าตำหนักปู่ซือ ใบหน้ากระตุก บ้าไปแล้ว จงซานเขาบ้าไปแล้ว! ไม่ใช่ว่าข้าบอกว่าจะไม่สู้แล้วรึ? เขายังต้องการอะไร?
กับความสำเร็จของจงซานก่อนหน้านี้ที่เขาได้ยินทำให้ซือหยางเทียนต้องรู้สึกหวั่นเกรงอยู่เช่นกัน ทว่าไม่ใช่ว่าซือหยางเทียนหวาดกลัวจงซาน ต้องไม่ลืมว่าเขาคือปราชญ์เทพที่น่าเกรงขาม หากแต่เขานั้นไม่ต้องการต่อสู้กับการต่อสู้ที่ไร้ประโยชน์สำหรับตัวเองต่างหาก.
จงซานที่ยืมอำนาจของต้าเจิ้งทั่วแผ่นดิน 13 เซียนบรรพชนโครงกระดูก ซึ่งมีราชาโครงกระดูกอยู่ด้วย ย่อมทำให้ซือหยางเทียนไม่สามารถที่จะประมาทได้เลย.
หากเขาต่อสู้แบบถวายชีวิต อาจจะชนะ แต่ก็ได้รับความเสียหายอย่างหนักแน่นอน.
"จงซาน เจ้าไม่เข้าใจข้า.............!”ซือหยางเทียนที่ขมวดคิ้วขณะกล่าว.
"เอาล่ะ ปราชญ์เทพซือหยางเทียน เชิญ!"จงซานที่กล่าวขัดคำพูดของซือหยางเทียนทันที.
ไม่ให้โอกาสซือหยางเทียนได้เอ่ยอะไร เขาที่นำ 13 เซียนบรรพชนเผ่าโครงกระดูกบินขึ้นไป.
ไม่มีใครที่ขวางจงซานแน่นอน ทุกคนต่างก็เชื่อมั่นในจงซาน พร้อมที่จะต่อสู้ถวายชีวิตพร้อมกับเขา สิ่งสำคัญที่สุด ตอนนี้ยังไม่ต่อสู้เลย ทว่าฝ่ายตรงข้ามที่รู้สึกหวั่น ๆ สงสัย แม้แต่ต้องการจากไป?
จงซานที่นำเผ่าโครงกระดูกลอยขึ้นไป แสดงให้เห็นว่าพร้อมต่อสู้แล้ว ซือหยางเทียนที่ดูเหมือนว่าไม่ค่อยยินดีนัก.
ซือหยางเทียนต้องการอธิบายเป็นอย่างมาก ทว่าจงซานดูเหมือนว่าไม่ให้โอกาสเขาได้กล่าวอะไรเลย.
ขณะที่คนกลุ่มหนึ่งที่บินขึ้นไปบนท้องฟ้าของเมืองซ่าง พร้อมกับลอยตรงพุ่งขึ้นไปบนอวกาศ ขณะที่จ้องมองซือหยางเทียนให้ตามมา จงซานไม่ต้องการทำลายเมืองซ่าง เป้าหมายของเขาชัดเจนแน่นอนว่าต้องการต่อสู้ การปะทะเวลานี้ไม่สามารถที่จะหยุดได้แล้ว.
กลุ่มคนที่จับจ้องต่างก็มีความคิดที่แตกต่างกันออกไป.
เหล่าข้าราชบริพารที่งงงวยยืนงงอยู่ด้านหน้าตำหนักปู่ซือ สถานการณ์เวลานี้ไม่ค่อยดีนัก ไม่ค่อยมั่นใจ กำลังเกิดอะไรขึ้นกันแน่?
"เซียนเซิงหวัง เซิ่งหวังต้องการสู้จริง ๆ รึ? แล้วจะเป็นเช่นไร?"ขุนนางคนหนึ่งที่จ้องมองขึ้นไปบนอากาศขณะกล่าวกับหวังจิงเหวิน.
หวังจิงเหวินที่จ้องมองขึ้นไปมองอวกาศ กล่าวออกมาเบา ๆ "เซิ่งหวังตัดสินใจแล้ว โปรดรอ!"
"อืม!"ขุนนางทุกคนต่างก็พยักหน้ารับ.
ที่ด้านหน้าตำหนักปู่ซือ เป็นร่างโคลนจงซานนั่นเองที่นำเซียนบรรพชนเผ่าโครงกระดูกลอยขึ้นไป เขาที่กำลังล่อลวงปราชญ์เทพซือหยางเทียน นำขึ้นไปบนอวกาศ.
ส่วนร่างแยกเงาร่างจริงของจงซาน ที่จริงยืนอยู่ด้านนอกตำหนักบรรจุโลกใบเล็ก มือทั้งสองข้างที่กำลังควบคุมพื้นที่ภายใน.
ภพหยินต้าเจิ้ง เขตแดนโครงกระดูก พื้นที่ขนาดใหญ่เจ็ดดินแดน มีจำนวนประชาชนมากมายมหาศาล พลังที่รวบรวมมานั้น มากมายเกินจะกล่าว ทำให้ร่างแยกเงาเวลานี้ทรงพลังน่าเกรงขามเป็นอย่างมาก.
ร่างแยกเงาที่ต้องควบคุมพลังมหาศาลในการสะกด ทำให้พลังมากมายกำลังไหลเอ่อล้นไปทั่วเมืองซ่าง.
"ผนึก!"หนี่ปู่ซาที่ยื่นมือออกไป ก่อนที่จะวาดผนึกบนอากาศในทันที.
ผนึกตำหนักสังสารวัฏ! ถูกส่งออกไปปิดผนึกทางเข้าโลกใบเล็ก.
"วูซซซซ ~~~~~~~~~~~~~~~~~~~!”
ปากทางเข้าของโลกใบเล็กในห้องโถงใหญ่ เวลานี้กำลังสั่นไหวอย่างรุนแรง.
“!”
ประตูด้านหน้าที่ปิดแน่น แม้แต่พริบตานั้นหายไป ราวกับจมลงไปในห้องอากาศ.
"ไม่มีทางเข้าออกแล้ว?"เทียนหลิงเอ๋อที่เผยท่าทางสงสัย.
"โคจรสังสารวัฏ~~~~~~~~~~~~~~~~~~!”หนี่ปู่ซาที่เอ่ยออกมาเบา ๆ .
ทันใดนั้น ภายในห้องโถงได้แปรเปลี่ยนเป็นเหมือนบ่อรูปวงกลม จากนั้นก็ปรากฎบ่ออื่น ๆ ด้านนอกขึ้นจุดแล้วจุดเล่า.
ทุกคนสามารถมองออกได้ว่ามันเป็นเข็มทิศขนาดมหึมา.
เข็มทิศที่เริ่มโคจรช้า ๆ .
"ครืนนนนน ~~~~~~~~~~~~~~~~~~~!”
เข็มที่หมุนวน และสถานที่ห่างไกลออกไปที่ตำหนักสังสารวัฏก็ปรากฎภาพเหมือนกัน เวลานี้มันกำลังถูกปราณฟ้าดินรวมตัวกันเป็นเข็มทิศขนาดใหญ่เช่นกัน.
"เปิด ~~~~~~~~~~~~~~~~~~~!”
หนี่ปู่ซาที่ตะโกนออกไปเสียงดัง ห้องโถงที่ส่องประกายแสงสว่างจ้า ห้วงอากาศรอบ ๆ ที่สั่นเป็นระลอกคลื่น.
อย่างไรก็ตามในเวลานี้ภายในห้องโถงนั้นแสงสว่างเจิดจ้ามากมายเป็นอย่างมาก หนี่ปู่ซาที่ใช้พลังไปมากมายมหาศาล เหงื่อที่ผุดออกมาเต็มหน้าผาก ความเร็วของเข็มทิศที่ลดลง จวบจนผ่านไปหนึ่งก้านธูป.
ทุกอย่างที่หยุดลง อาคารที่สั่นไปมาเล็กน้อย ห้วงมิติรอบ ๆ ที่ขยับเช่นกัน จงซานที่ควบคุมพลังโอบอุ้มตำหนักทั้งหมด ทำให้ห้วงมิติสั่นไหวยืนยาวออกไป.
"ฮง!"
ผังจักรพรรดิภพหยินปรากฎขึ้นทันที ก่อนที่จะปกคลุมทั่วทั้งตำหนักดังกล่าวเอาไว้.
ทว่าตำหนักดังกล่าวนั้นยังถูกยึดเอาไว้ ไม่เคลื่อนไหว ยังไม่สามารถส่งผ่านไปได้.
ทว่าเศษดินเศษหินรอบ ๆ ที่ลอยเครง พัดปลิว ถูกสูบอย่างรุนแรงด้วยพลังมากมายมหาศาล แม้แต่ผืนปฐพียังเปิดออกมา.
จงซานที่ถ่ายพลังมากมายเข้าไปในผังจักรพรรดิให้มั่นคงด้วยอำนาจที่รับมาจากประชาชนทั่วแผ่นดินต้าเจิ้ง ทำให้พลังของผังจักรพรรดินั้นน่าสะพรึงเป็นอย่างมาก.
ผังจักรพรรดิภพหยิน แผนผังสีดำที่มีจุดสีขาว เวลานี้ถูกจงซานกระตุ้น แผนผังสีดำ ที่ดูลึกจนดูไร้ก้นบึ้ง กำลังหมุนวนช้า ๆ จุดบนผังจักรพรรดิ ที่เหมือนว่าเป็นช่องกาลอากาศ เวลานี้กำลังเชื่อมต่อกับอีกฝั่งแล้ว.
"รับ~~~~!”จงซานที่ตะโกนออกไปเสียงดัง.
"วูซซซซ!"
ความมืดมิดของผังจักรพรรดิกำลังโคจรอย่างบ้าคลั่ง พลังอำนาจที่น่าเกรงขาม ที่ดูดซับแสงที่เจิดจรัสปกคลุมห้องโถงทั้งหมดพร้อมกับสูบอย่างหนักหน่วง.
ภายใต้การควบคุมพลังของจงซาน ห้องโถงที่ราวกับว่าเวลานี้กำลังเคลื่อนไหวเข้าไปในผังจักรพรรดิ แม้ไม่ได้รวดเร็วมากมายนัก ทว่ากำลังถูกกลืนเข้าไปช้า ๆ .
-----------------------------------------
ทวีปเทียน ตำหนักเต๋าเทียน.
เทียนเต๋าจื่อที่ตัดสินใจอย่างโหดเหี้ยม ระเบิดช่องกาลอากาศของตัวเอง แม้แต่สลัดร่างแยกของตัวเองไป ระเบิดออกมา จนเกิดการระเบิดใหญ่.
บรรพชนรุ่นหนึ่งที่เป็นเหมือนสิ่งแปลกปลอมอันชั่วร้าย ถูกระเบิดออกมาเสียงดัง จนทำให้ตำหนักเต๋าเทียนสลายหายไปด้วย.
พลังระเบิดที่หนักหน่วงรุนแรง ห้วงมิติที่สั่นไหวอย่างหนักหน่วง จวบจนผ่านไปสิบลมหายใจทุกอย่างค่อยกลับสู่สภาพปรกติ.
"วูซซซซ ~~~~~~~~~~~~~~~~~~~!”
เทียนเต๋าจื่อที่อยู่ใกล้เคียงกับศูนย์กลางการระเบิด ร่างกายที่สั่นไหว แววตาที่หรี่เล็กลง.
"ฟู่ เกือบไปแล้วจริง ๆ บรรพชนรุ่นหนึ่ง?บุคคลอันดับหนึ่งเมื่อสิบล้านปีที่แล้ว ร้ายกาจจริง ๆ ช่างน่าเสียดายที่มาพบกับข้า เสียร่างแยกไปหนึ่งร่าง ทว่าขอเพียงแค่มีเวลา และพลังมากพอ ข้าก็สามารถหลอมกลั่นขึ้นมาได้อีกครั้ง และยังได้พลังครึ่งหนึ่งของเจ้า? บางทีด้วยพลังนี้ ข้าคงจะสามารถทะลวงผ่านคอขวดได้ แต่ดูเหมือนว่าข้าเองจะได้รับความเสียหายไปไม่ได้น้อยจริง ๆ ."เทียนเต๋าจื่อที่สูดหายใจลึก.
"น่าเสียดายที่เจ้าโง่ซือหยางเทียนนั้น ไม่สามารถขวางจงซานเอาไว้ ปล่อยให้จงซานเข้าไปในโลกใบเล็ก ซือหยางเทียนไม่รู้ว่ามันหนีไปรึยัง หากว่าไม่ปล่อยให้จงซานเข้าไป ข้าคงไม่ต้องอนาถเช่นนี้?"เทียนเต๋าจื่อที่ใบหน้ามืดครึ้ม.
พื้นที่รอบ ๆ ที่ค่อย ๆ กลับสู่สภาพเดิมช้า เหล่าอาวุโสตระกูลเทียนที่ปรากฎขึ้นอย่างพร้อมเพรียง.
"ท่านประมุข! เป็นอะไรหรือไม่?"
"ท่านประมุข เกิดสิ่งใดขึ้น?"
..................
............
......
"ออกไป ไม่จำเป็นต้องเข้ามา!"เทียนเต๋าจื่อที่เอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงโทมนัส.
"รับทราบ!"เหล่าอาวุโสที่ถอยกลับไป.
--------------------------------------------
หลังจากผ่านไปหนึ่งชั่วยาม จงซานที่เคลื่อนไหวตำหนักที่บรรจุโลกใบเล็กเข้าไปในผังจักรพรรดิได้ในที่สุด ทว่าในโลกใบเล็ก.
"ตูมมมมม ~~~~~~~~~~~~~~~~~~~!”
เทียนเต๋าจื่อที่ระเบิดร่างฉายเงา พลังระเบิดที่มากมายมหาศาล ทำให้ห้วงมิติรอบ ๆ สั่นอย่างรุนแรง แสงสีเหลืองที่คืนกลับสู่ร่างของบรรพชนรุ่นที่หนึ่ง.
"เจ้าสารเลว!"บรรพชนรุ่นหนึ่งตระกูลเทียนที่พ่นโลหิตคำโตพร้อมคำรามออกมาด้วยความโกรธ.
เทียนเต๋าจื่อที่ทำลายร่างฉายเงา อีกทั้งยังดูดกลืนพลังครึ่งหนึ่งของบรรพชนรุ่นหนึ่งไปด้วย ทั้งที่ตอนแรกเขาได้คำนวณแล้วว่าทุกอย่างเป็นไปตามแผน อีกแค่เอื้อม เขาจะได้ทุกสิ่งแล้วก็ตาม.
แผนการที่วางแผนเอาไว้หลายชั้น ท้ายที่สุดกลับล้มเหลวอย่างงั้นรึ? เรื่องนี้จะไม่ให้บรรพชนรุ่นที่หนึ่งโกรธเกรี้ยวได้อย่างไร?
ขณะเดียวกันบรรพชนรุ่นหนึ่งที่จับจ้องมองไปยังอีกฝั่ง จงซานที่ถูกม่านผนึกบรรพกาลผนึกเอาไว้คลายออก.
"ฟิ้ว!"
พริบตาเดียวหลังจากนั้น ร่างจงซาน ที่สลายกลายเป็นเงาหายไป.
สลาย หายไปอย่างงั้นรึ?
"ของปลอม? ร่างปลอมอย่างงั้นรึ?"บรรพชนรุ่นหนึ่งตระกูลเทียนที่เผยท่าทางอัศจรรย์ใจไม่อยากเชื่อ.
ในเวลาเดียวกัน บรรพชนรุ่นหนึ่งตระกูลเทียนที่ตระหนักได้ถึงสถานการณ์ไม่ดีขึ้นมาได้.
---------------------------------------
ภพหยาง สวนสวรรค์ลอยฟ้าหลิงเซียว ตำหนักซ่างเฉิน.
ชายแขนขาดที่เวลานี้พ่ายแพ้อย่างราบคาบแล้ว.
เปลี่ยนร่าง ในเวลานี้เขายังจะเปลี่ยนร่างได้อย่างงั้นรึ? สัมผัสเทวะของทุกคนที่จับมายังเขา จนเขาไม่มีโอกาสเลยแม้แต่น้อย.
"ของปลอม? นั่นคือร่างปลอม?"ชายแขนขาดที่จ้องมองจงซานด้วยความประหลาดใจ.
ชายแขนขาดที่ตะโกนออกไปเสียงดัง ทุกคนที่ตื่นตกใจ มีเพียงแค่จงซานคนเดียวที่เขาใจคำพูดของเขา.
"เจ้าจงใจอย่างงั้นรึ? นี่เจ้าจงใจเฝ้ามองข้าและเทียนเต๋าจื่อต่อสู้กัน?"ชายแขนขาดที่ใบหน้าเปลี่ยนเป็นอัปลักษณ์เป็นอย่างมาก.
จงซานที่แผ่พลังจิตไหลไปสู่ดวงตา จ้องมองไปยังชายแขนขาดที่แทบกลายเป็นบ้า ส่ายหน้าไปมา "ลิขิตของเจ้าหมดสิ้นแล้ว เจ้าไม่มีพลังที่แข็งแกร่งอะไรอีกแล้ว!"
"ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!"ชายแขนขาดที่หัวเราะออกมาเสียงดังสนั่น.
เหล่าขุนนางที่จ้องมองชายแขนขาดด้วยความสงสัย ขณะที่เขาจ้องมองไปยังจงซาน ด้วยแววตาเย็นชาดุร้ายอย่างที่สุดพร้อมทั้งพุ่งเข้ามาหาจงซาน.
"บังอาจ!"เหล่าเสนาธิการที่ตะโกนออกมาเสียงดัง.
แน่นอน บางคนที่เผยท่าทางถอนหายใจ อี้เหยี่ยน สุ่ยจิงและอีกหลายคนที่ไม่ได้โกรธเกรี้ยว เพราะพวกเขามองเห็น ชายแขนขาดนั้นต้องการฆ่าตัวตายแล้ว.
ความอหังการของราชา เมื่อรู้ว่าต้องพบกับความตาย ก็ไม่มีทางที่จะก้มหน้าคุกเข่าขอชีวิตอย่างแน่นอน.
นี่คือราชา ไม่ใช่ผู้ฝึกตนทั่วไป เส้นทางที่ก้าวเดินนั้นไม่ใช่ชนะหรือพ่ายแพ้ ตราบเท่าที่ยังไม่ตาม ก็ต้องเดินต่อไป วิถีของราชานั้น มีเพียงต้องชนะเท่านั้น ไม่มีคำว่าพ่ายแพ้ บางทีนี่อาจเป็นวิถีที่น่าเศร้าของราชาเช่นกัน.
แน่นอนว่าจงซานย่อมเข้าใจความหมายของชายแขนขาดเช่นกัน.
"สว๊วฟ!"ชายแขนขาดที่ถูกกลืนไป.
เป็นแปดหางสวรรค์แห่งจุดจบนั่นเอง.
"วูซซซซซ!"
จงซานที่ยื่นมือออกไป ผังจักรพรรดิภพหยางที่ปรากฎขึ้นที่ด้านนอกตำหนักซ่างเฉินทันที แปดหางสวรรค์แห่งจุดจบที่ลอยออกไป.
"วูซซซซซซซซ!"กลิ่นอายที่หนักหน่วงทรงพลังกำลังถูกส่งออกมาจากผังจักรพรรดิ.
จากด้านใน ทุกคนที่ราวกับสังเกตเห็นห้องโถงขนาดใหญ่กำลังผุดออกมาจากผังจักรพรรดิช้า ๆ พลังงานมากมายมหาศาลกำลังแผ่ออกมา จนทำให้ห้วงมิติสั่นไหว.
"สว๊วฟฟฟ!"แปดหางสวรรค์แห่งจุดจบที่กลืนตำหนักดังกล่าวไปเช่นกัน.