Chapter 1345 ใครจะข่มขู่ใคร?
เช้าวันถัดมา ผลของการตัดสินได้เข้ามาใกล้แล้ว!
จงซาน และบรรพชนรุ่นที่หนึ่งตระกูลเทียน เป็นใครกันที่จะเหนือกว่ากัน.
บรรพชนตระกูลเทียนรุ่นหนึ่ง ต้องการเปลี่ยนร่างกับจงซาน พร้อมกับยึดครองภพหยินหยางทั้งสอง.
ภพหยาง ร่างที่ซ่อนตัวอยู่ในร่างจงเสวียน หนึ่งปราชญ์เทพ เก้าเซียนบรรพชน รวมทั้งเทียนเสิ่นจื่อและศพมีชีวิตอื่น ๆ .
ภพหยิน ร่างของเขาที่ซ่อนอยู่ในร่างของเซียนบรรพชน ร่างฉายเทียนเต๋าจื่อ และยังมีปราชญ์เทพอีกคน!
สำเร็จหรือล้มเหลว เกิดขึ้นในหนึ่งกระบวนการ.
สำหรับจงซานนั้น แม้นว่าจะพบเข้ากับแผนการแล้ว แต่กลับเดินไปตามแผนของศัตรู เพื่อที่จะให้อีกฝ่ายเปลี่ยนร่าง นับตั้งแต่หลิวอู๋ซ่างถูกเปลี่ยน เขาก็รับรู้เกี่ยวกับการกระทำของบรรพชนรุ่นที่หนึ่ง.
แน่นอน จงซานต้องการจะบดขยี้ บรรพชนตระกูลเทียนทั้งหมด เพราะเขารู้ความลับต้าเจิ้งมากจนเกินไป.
หากปล่อยไป จะยิ่งสร้างความเสียหายให้กับต้าเจิ้ง!
การปะทะกันของราชาทั้งสอง จะเป็นการปะทะกันที่รุนแรงมาก.
เหล่าเสนาธิการทั้งหมดที่กำลังรอคอย.
"เซียนเซิงหลิว วันนี้ใบหน้าดูไม่ดีเลยไม่ใช่รึ?"อี้เหยี่ยนที่กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.
ใบหน้าของหลิวอู๋ซ่างที่แข็งค้าง เผยยิ้มออกมาเล็กน้อย "ขอบคุณที่เป็นห่วง!"
อี้เหยี่ยนที่จ้องมองหลิวอู๋ซ่าง ท้ายที่สุดก็พยักหน้ารับ เพราะว่าจงซานนั้นได้แจ้งเกี่ยวกับรหัสลับกับหลิวอู๋ซ่างแล้ว หากว่าหลิวอู๋ซ่างไม่ถูกควบคุมก็จะตอบอีกอย่าง หากถูกควบคุมก็จะตอบอีกคำพูด.
อี้เหยี่ยนเองก็รับรู้ว่าบรรพชนรุ่นหนึ่งของตระกูลเทียนกำลังจะลงมืออย่างเป็นทางการ วันนี้การต่อกรกับเขาในท้องพระโรง ถือเป็นการตัดสิน.
อี้เหยี่ยนที่จ้องมองไปยังเหล่าองค์รักษ์ ก่อนที่ทั้งสองจะก้าวออกมาด้านนอก.
ภายในตำหนักเทียนหยวน จงซานที่จ้องมองไปยังหยกสัญญาณที่แตกละเอียด รับรู้ว่าอี้เหยี่ยนได้ส่งสัญญาณมาแล้ว.
จงซานที่สูดหายใจลึกและกล่าวออกมาด้วยแววตาเย็นชา "เริ่มแล้วรึ? บรรพชนตระกูลเทียนรุ่นหนึ่ง ให้ข้าได้เห็น เจ้ามีความสามารถขนาดใหน!"
"ประกาศ เข้าสู่ตำหนักได้~~~~~~~~~~~~~~~~!”
เสียงของขันทีที่ดังก้อง เสียงที่ดังกระจายไปทั่ว.
เหล่าขุนนางทั้งหมด ที่ก้าวเข้าสู่ตำหนักซ่างเฉิน.
ทว่าขณะที่จะเข้ามาในตำหนักนั้น ขุนนางทุกคนที่เผยท่าทางประหลาดใจ เพราะว่านอกจากขันทีแล้วที่ด้านหน้าของพวกเขายังมีอีกคน.
ไท่จื่อจงเสวียน!
จงเสวียนที่ยืนอยู่ตำแหน่งของเขา กวาดตามองไปยังเหล่าขุนนางที่เข้ามา ขณะที่เขาจดจ้องมองออกไป ยังบัลลังก์ของจงซาน จดจ้องมองไปยังข้าราชบริพาร ส่วนจงซานในเวลานี้ยังไม่ออกมานั่นเอง.
ไท่จื่อที่เข้ามาในตำหนักก่อนขุนนางทุกคน ทำให้เหล่าขุนนางหลายคนที่เผยท่าทางประหลาดใจ ทว่าก็ไม่มีใครเอ่ยอะไรออกมา ทว่าพวกเขาที่เร่งรีบเดินเข้าประจำแถวตำแหน่งของตัวเอง.
หลังจากที่จงเสวียนกวาดตามองขุนนาง และหันหลังกลับไปยังทิศทางของบัลลังก์มังกร แววตาที่เผยสายตาเป็นประกาย.
ทว่าเวลานั้น หลิวอู๋ซ่างที่จ้องมองจงเสวียน สายตาไม่กระพริบ.
จากนั้นจงเสวียนที่จ้องเขม็ง จดจ้องหลิวอู๋ซ่าง สายตาที่แข็งค้าง จงเสวียนที่เผยท่าทางโกรธเกรี้ยวออกมา "เทียนเสิ่นจื่อทำอะไร? ข้าบอกให้ระวัง ยังไม่ให้สัญญามายังข้าอีก?เจ้าโง่!"
ในเวลานี้ จงเสวียนที่คิดเกี่ยวกับหลิวอู๋ซ่าง เพราะว่าสายตาของเขาเมื่อสักครู่ ขณะที่จ้องมองไปยังด้านหน้าดูแข็งไม่เป็นธรรมชาติ ทว่าขณะที่เขารอคอยโอกาส เทียนเสิ่นจื่อกับไม่ยอมให้สัญญาณสักที ทำให้ภายในใจเขารู้สึกโกรธเกรี้ยว.
หลิวอู๋ซ่างที่ถูกจงเสวียนจ้องมอง แววตาของเขาที่ยังคงมั่นคง ขณะที่เขาจ้องมองกลับไปยังจงเสวียน เพราะว่าวันนี้ หน้าที่ของหลิวอู๋ซ่างค่อนข้างสำคัญ หากแต่เขายังไม่สูญเสียการควบคุมแม้แต่น้อย.
"เซิ่งหวังเสด็จ~~~~~~~~~~~~~~~~~~!”
"คารวะเซิ่งหวัง~~~~~~~~~~~~~~~~~~!”
เสียงของขันทีที่ดังก้องท้องพระโรง เหล่าขุนนางที่แสดงความเคารพ.
ขณะที่เหล่าขุนนางแสดงความเคารพ จงซานที่ปรากฎขึ้นช้า ๆ เข้าประจำบัลลังก์มังกร ขณะที่กำลังนั่งลงช้า ๆ .
"ขุนนางทุกคนลุกขึ้นได้!"จงซานเอ่ย.
"ขอบพระทัยเซิ่งหวัง!"เหล่าเสนาธิการทุกคนที่ลุกขึ้นยืน.
"เริ่มการประชุมได้!"ขันทีที่กล่าวออกมาเสียงดัง.
เหมือนกับการประชุมทั่วไป ที่เริ่มขึ้น.
จากนั้นก็เริ่มมีเหล่าขุนนางที่ก้าวออกมา กล่าวรายงานจงซานเพื่อให้ตัดสินใจ จงซานที่เริ่มจัดการงานราชกิจ.
ดูเหมือนกับการประชุมธรรมดาทั่วไป แน่นอนว่ามันเพียงแค่เริ่มต้นเท่านั้น.
ในเวลาเดียวกัน ภพหยิน! เมืองซ่างต้าเจิ้ง!
ชายในชุดสีดำที่ยืนอยู่มุมหนึ่งของเมืองซ่าง ก่อนที่จะบดขยี้หยกสัญญาณหนู.
"สัญญาณที่จงซานคิดขึ้น? ใช้ได้ดีจริง ๆ !"ชายในชุดสีดำเอ่ย.
จากนั้น ชายในชุดสีดำที่หนีออกมาพุ่งตรงไปยังกำแพงตำหนัก.
ในเวลาเดียวกันที่หุบเขาแห่งหนึ่ง หยกสัญญาณของเทียนเต๋าจื่อ ที่ระเบิดออกมาเสียงดัง.
ที่ข้าง ๆ เทียนเต๋าจื่อ มีชายในชุดสีน้ำเงิน ใบหน้าที่ดูเลือนลาง แววตาที่ดูไม่เป็นมิตร ทว่าหากมีใครเห็นย่อมรับรู้ว่า เขาคือปราชญ์เทพ! เนื่องจากใบหน้าที่เลือนลางถูกปิดเอาไว้นั่นเอง.
"ซือหยางเทียน เริ่มแล้ว!"เทียนเต๋าจื่อเผยยิ้มบาง.
"ดูเหมือนว่า ข้าจะมีชะตากับเขตแดนจวงหลุนจริง ๆ ก่อนหน้านี้เมื่อครั้งที่ข้าปล่อยให้กัวซือฝูหนีไป ในเวลานี้ข้าต้องมาช่วยเจ้าจัดการจงซาน หากรู้ตั้งแต่ต้นข้าคงสังหารเขาไปนานแล้ว!"เสียงของปราชญ์เทพที่ดูไม่แยแส.
ซือหยางเทียน เห็นชัดเจนว่าเป็นหนึ่งในปราชญ์เทพภพหยิน.
"ไปเถอะ!"เทียนเต๋าจื่อที่เผยยิ้มเป็นนัยน์.
"ฟิ้ว!"
ร่างสองร่างที่พุ่งออกไป ปราชญ์เทพซือหยางเทียน ที่ไม่เก็บกลิ่นอายของตัวเอง ทว่าปล่อยมันโถมทับไปทั่วทั้งเมือง.
กลิ่นอายของปราชญ์เทพนั้นทรงพลังมาก ทำให้ฟ้าดินแปรปรวน กลิ่นอายสยบ ที่ทำให้ดวงวิญญาณสั่นคลอน?
กลิ่นอายที่น่าเกรงขามปะทุขึ้นมา พื้นที่รอบ ๆ รัศมีหนึ่งล้านลี้ ปรากฎเมฆที่มืดมน ผู้คนมากมายที่คุกเข่าลงด้วยความหวาดกลัว.
กลิ่นอายที่หนักหน่วงลุกล้ำกระแทกไปทั่วเมืองซ่าง.
จากพื้นที่ไกลออกไป กลิ่นอายที่น่าเกรงขามที่กดทับ เหล่าประชาชนเมืองซ่างที่เผยท่าทางตื่นตระหนก พวกเขาที่ต้องคุกเข่าลงอย่างไม่สามารถขัดขืน.
บนท้องฟ้าเมืองซ่าง เมฆสีดำที่บิดเบี้ยว อำนาจสวรรค์ที่น่าเกรงขามมาเยือน เมฆชื่อเสียงวาสนาที่เปลี่ยนไป.
เมฆวาสาของต้าเจิ้งที่กำลังพลุ่งพล่าน มังกรที่ใหญ่ยักปรากฎขึ้นมา.
"โฮกก ~~~~~~~~~~~~~~~~~~~!”
เสียงของมังกรที่ดังกึกก้อง ดังกระจายไปทั่วเมฆชื่อเสียงวาสนา.
"โฮกก!“”โฮกก!“”โฮกก!” ..............................
เสียงมังกรหมื่นจั้งคำราม ขับไล่อำนาจของปราชญ์เทพออกไปในทันที ทำให้เหล่าประชาชนในเมืองซ่าง ผ่อนคลาย ไม่ต้องคุกเข่าลงอย่างไม่เต็มใจ.
อย่างไรก็ตาม ทุกคนสามารถรับรู้ได้ในทันที ในเมืองซ่างเวลานี้กำลังเกิดเรื่องสำคัญแล้ว! หลาย ๆ คนที่ออกมาจากที่พัก พร้อมกับเงยหน้าขึ้นมองฟ้า!
ภายในท้องพระโรงภพหยิน ตำหนักปู่ซือ เหล่าขุนนางที่รับรู้ถึงแรงกดดันที่น่าพรั่นพรึงปรากฎขึ้น.
ร่างแยกเงาจงซานที่นั่งอยู่บนบัลลังก์มังกร แววตาหดเกร็ง.
ขณะที่เขาก้าวออกมา พร้อมกับนำขุนนางทั้งหมดออกมาจากตำหนักปู่ซือ.
ที่ด้านนอกตำหนักปู่ซือ เหล่าขุนนางทั้งหมดจดจ้องมองไปยังผู้มาเยือนทั้งสองคน.
หนึ่งคนในชุดสีน้ำเงิน ใบหน้าที่เลือนลาง แรงกดดันที่ปะทะเข้ากับอำนาจมังกรของต้าเจิ้ง ดูเหมือนว่าเขาจะเป็นปราชญ์เทพ สายตาที่จ้องมองด้วยความจริงจัง ดูเหมือนว่าจะเป็นไปตามที่เขาคาดเอาไว้.
"เทียนเต๋าจื่อ!"ร่างแยกเงาจงซานกล่าวอย่างเคร่งขรึม.
"จงซาน!"เทียนเต๋าจื่อที่กล่าวตอบกลับคืน.
"อีกคน คงจะเป็นหนึ่งในหกปราชญ์เทพภพหยิน ปราชญ์เทพซือหยางเทียนอย่างงั้นรึ?"จงซานกล่าวด้วยความเย็นชา.
"จำข้าได้ด้วยรึ? ใช่แล้ว ก่อนหน้านี้ข้าเคยมาที่นี่ คงจะจำกลิ่นอายของข้าได้!"ซือหยางเทียนที่กล่าวออกมาด้วยท่าทางสูงส่ง.
"ทั้งสองมาทำอะไร?"จงซานที่กล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นชา.
ไม่จำเป็นต้องให้เทียนเต๋าจื่อตอบมา ทว่าถึงกับสามารถนำซือหยิงเทียนมาด้วย ดูเหมือนเทียนเต๋าจื่อจะยอมรับคำขอของบรรพชนรุ่นหนึ่งตระกูลเทียน ทำให้เขาต้องสอบถามออกไป.
เทียนเต๋าจื่อที่ยืนอยู่ข้างซือหยวนเทียน สายตาของเขาที่ไม่ได้จ้องมองไปยังจงซาน ทว่ากวาดตามองไปทั่วเมืองซ่าง ราวกับว่ากำลังมองหาอะไรบางอย่าง.
"ทำไม? ข้าเป็นตัวแทนสวรรค์ไปเยือนทั่วหล้า วันนี้มาเยือนเขตแดนจวงหลุน เจ้าเห็นข้าแล้วกลับทำตัวเยี่ยงนี้ ไม่รู้จักฟ้าสูงแผ่นดินต่ำ ไม่รู้จักความยุติธรรม ภายในใจเจ้าไม่พอใจอย่างงั้นรึ? เจ้าบอกซิว่าข้าต้องการให้ข้าทำอย่างไร?"ซือหยางเทียนกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นชา.
ชัดเจนว่า ซือหยางเทียนต้องการสร้างปัญหา ไม่จำเป็นต้องกล่าวอะไร คำขู่ของปราชญ์เทพที่มีต่อจงซาน เขาที่ดูแคลนศาลเทพที่มีอายุพันกว่าปีเท่านั้น.
ช่างน่าเสียดาย คำขู่ของเขานั้นไร้ค่า.
บางทีเหล่าขุนนางต้าเจิ้งอาจจะรู้สึกหวั่นเกรง ต่อปราชญ์เทพ ทว่าจงซานต้องรู้สึกหวาดกลัวอย่างงั้นรึ?
จงซานที่ไม่ได้รู้สึกหวาดกลัวแม้แต่น้อย หนำซ้ำยังเผยยิ้มออกมาด้วย.
"ยิ้มอะไร?"ซือหยางเทียนที่กล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม.
"ปราชญ์เทพซือหยางเทียน? ข้าคิดว่าหลังจากที่เจ้ากลับไปยังดินแดนจวงหลุนเมื่อครั้งก่อน คงจะปิดด่านตลอดเลยอย่างงั้นรึ?"จงซานที่เผยยิ้มบางออกมา.
"หืม? เจ้ารู้ด้วยอย่างงั้นรึ?"ซือหยางเทียนที่กล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม.
เป็นความจริง นับจากเหตุการณ์ผนึกกัวซือฝูคลายออก ซือหยางเทียนก็ปิดด่านตลอด จนกระทั่งเมื่อเร็ว ๆ นี้ได้รับคำเชิญจากเทียนเต๋าจื่อ เขาจึงรีบออกมา ทว่าจงซานรู้ได้อย่างไร?
"เพราะว่าระหว่างนั้น มันมีเรื่องมากมายเกี่ยวกับข้าจงซาน ที่เจ้าพลาดไป!"จงซานที่กล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงจริงจัง.
"หืม?"ซือหยางเทียนที่เผยท่าทางสงสัย.
"เรื่องหนึ่งที่เจ้าไม่รู้ปราชญ์เทพหยิงเห่าที่มาหาเรื่องข้า ต่อหน้าคนทั่วหล้า ถูกข้าตบไปสองครั้ง ตอนนี้ซ่อนตัวอยู่แต่ในวิหารไม่กล้าออกมาอีกต่อไป!"จงซานที่ส่ายหน้าเผยท่าทางดูแคลน.
"ฮ่า ฮ่าฮ่าฮ่า น่าขัน น่าขันเกินไปแล้ว! มดปลวกที่มีอายุไม่ถึง 2000 ปีด้วยซ้ำ ตบหน้าปราชญ์เทพ?"ซือหยางเทียนที่หัวเราะลั่นแน่นอนว่าเขาไม่มีทางเชื่อ.
"น่าขันอย่างงั้นรึ? เทียนเต๋าจื่อเองก็รู้ไม่ถามเขาล่ะ!"จงซานที่กล่าวออกมาเบา ๆ .
จงซานที่กล่าวออกมาช้า ๆ ชัดถ้อยชัดคำ.
ทว่าซือหยางเทียนที่ได้ยินคำพูดของจงซาน แน่นอนว่าไม่อยากเชื่อ ก่อนที่จะค่อย ๆ มองไปยังเทียนเต๋าจื่อ.
"ใช่หยิงเห่าเป็นศัตรูของเขา!"เทียนเต๋าจื่อกล่าวออกมาเบา ๆ .
"ครืนนน ~~~~~~~~~~~~~~~~~~!”
คำพูดของเทียนเต๋าจื่อไม่ใช่แค่ซือหยางเทียนที่ตื่นตะลึง เหล่าประชาชนต้าเจิ้งที่ส่งเสียงอื้ออึ้งด้วยความตื่นเต้น เรื่องนี้ เป็นจริงหรือเท็จกัน?
เหล่าขุนนางหลายร้อยคนของต้าเจิ้งภพหยิน ถึงกับอุทานออกมาด้วยท่าทางตกใจ เซิ่งหวังตบหน้าปราชญ์เทพสองครั้ง? นี่เซิ่งหวังไม่เคยกล่าวออกมาให้ใครรู้? เป็นเรื่องล้อเล่นหรือไม่? ทำไมข้าไม่รู้กัน?
ซือหยางเทียนที่งงงวย ซือหยางเทียนไม่มีทางเชื่อคำพูดของจงซาน ทว่าเขาย่อมต้องเชื่อคำพูดของเทียนเต๋าจื่ออยู่แล้ว ตบหน้าปราชญ์เทพ? เป็นเรื่องจริงอย่างงั้นรึ?
"ข้าที่ภพหยางต่อสู้กับปราชญ์เทพลำดับหนึ่งสองครั้ง ซึ่งต่อสู้อยู่นอกเมืองหลวงต้าเจิ้งทั้งสองครั้ง เฉิงโห่วถึงกับหนีหางจุกตูดกลับไป!"จงซานที่กล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นชา.
"เป็นไปไม่ได้!"ซือหยางเทียนที่ตะโกนออกมาเสียงดัง.
ใครคือเฉิงโห่ว? แม้นว่าจะเป็นปราชญ์เทพภพหยาง ทว่าในโลกใบใหญ่ไม่ใช่ว่ามีปราชญ์เทพเพียงสิบห้าคนหรอกรึ? ซือหยางเทียนจะไม่รู้จักได้อย่างไร? ความแข็งแกร่งของเฉิงโห่ว ซือหยางเทียนเข้าใจดี แน่นอนว่าเขาไม่เชื่อว่าจงซานจะไล่เฉิงโห่วหนีไปถึงสองครั้ง.
"ไม่เชื่อไม่ถามเทียนเต๋าจื่อล่ะ!"จงซานที่กล่าวด้วยความเหยียดหยันอีกครั้ง.
แม้นว่าซือหยางเทียนจะไม่เชื่อคำพูดของจงซาน แต่เขาก็ต้องมองไปยังเทียนเต๋าจื่ออีกครั้ง.
"ใช่ เฉิงโห่วเป็นศัตรูของเขา!"เทียนเต๋าจื่อที่กล่าวตอบเบา ๆ .
"วูซซซซ ~~~~~~~~~~~~~~~~~~~!”
ซือหยางเทียนที่รู้สึกราวกับสายฟ้าฟาด จนรู้สึกเจ็บปวด เป็นศัตรูของเขาอย่างงั้นรึ? เรื่องตลกอย่างงั้นรึ? นี่จงซานเขากำลังกล่าวอะไร?
"ภายในศาลเทพต้าเจิ้งของข้า เป็นแผ่นดินของข้า หากเจ้ายังวุ่นวาย ข้าสามารถที่จะสังหารปราชญ์เทพก่อตั้งศาลสวรรค์วันนี้เลย!"จงซานที่กล่าวออกมาเสียงดัง.