ตอนที่แล้วChapter 1343 แผนการที่รุกล้ำไปถึงภพหยิน.
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 1345 ใครจะข่มขู่ใคร?

Chapter 1344 การต่อรองของเทียนเต๋าจื่อ.


"เปลี่ยน~~~~~~~~~~~~~~~~~~!”ร่างของอาวุโสเทียนที่ตะโกนออกมาเสียงดัง.

"วูซซซซ!"

แสงสีเหลืองจากอาวุโสเทียนที่พวยพุ่งออกมา กระแทกไปยังผู้คุมที่อยู่ด้านนอกกรง.

"ปัง!"แสงสีเหลืองที่ผสานเข้าไปในร่างของผู้คุมในทันที.

ผู้คุมที่ถูกโจมตีในทันที ต้องการจะตะโกน ช่างน่าเศร้า เขาไม่สามารถขยับได้แล้ว แสงสีเหลืองที่คลุมร่างนั้น รู้สึกเพียงว่าพลังงานมากมายที่กำลังฉุดกระชากดวงวิญญาณของตัวเองไป.

หลังจากนั้นสามลมหายใจ.

"ครืนนนน!"

แสงสีเหลืองที่หลอมรวมเข้าไปในร่างของผู้คุมโดยสมบูรณ์.

ทว่าในเวลานี้ ผู้คุมที่เคลื่อนไหวได้ ขณะที่เขาจะตะโกนออกมา กับภาพเหตุการณ์ที่ตื่นตะลึง เพราะว่าเขาอยู่ในกรงขังซะแล้ว เขาเข้ามาอยู่ในกรงขังได้อย่างไร.

"เป็นไปได้อย่างไร?"ผู้คุมกันที่เผยท่าทางไม่อยากเชื่อ.

เพราะว่าเวลานี้เขาพบว่าแขนทั้งสองข้างของตัวเองพริบตาเดียวก็เปลี่ยนไปอย่างงั้นรึ?

"เจ้า ได้อย่างไร....!"ร่างเดิมของอาวุโสเทียนที่ตื่นตระหนกตกใจร้องออกมา.

ทว่า กล่าวได้แค่ครึ่งคำเท่านั้น.

ฝ่ามือจากด้านนอกก็ฟาดเข้าไปด้านใน.

"ปัง!"

อาวุโสเทียนในกรงที่หมดสติไปในทันที.

ขณะตรวจสอบอาวุโสเทียนที่หมดสติ ก็พบได้ว่าต้องใช้เวลาอีกหลายวันถึงจะได้สติ ผู้คุมที่จ้องมองดูตัวเอง.

"พลังฝึกตนระดับจักรพรรดิแท้อย่างงั้นรึ? อ่อนด้อยยิ่งนัก!"เซียวหวางที่กล่าวกับตัวเอง.

จากนั้น เซียวหว่านที่ก้าวเดินออกมาจากด้านนอก.

"เซียวหว่าน เจ้าเห็นอะไร?"ผู้คุมด้านนอกกล่าวสอบถาม.

"เป็นอาวุโสเทียนจริง ๆ  ทว่าเขากำลังเศร้าเสียใจกับการกระทำของตัวเองอยู่!"เซียวหว่านที่กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.

"ใช่ ใต้เท้าสั่งการอย่างเคร่งขรึม หากว่าเขาหนีไป หัวพวกเราหลุดจากบ่าแน่!"ผู้คุมคนหนึ่งที่กล่าวออกมาเบา ๆ .

"โปรดวางใจ! ใครจะกล้าแหกคุกที่นี่กัน?"เซียวหว่านที่กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.

"ก็ถูกของเจ้า!"ผู้คุมคนดังกล่าวเอ่ยออกมาด้วยรอยยิ้ม.

"ข้าจะไปตรวจตราที่แดนใต้."เซียวหว่านกล่าว.

เซียวหว่านและผู้คุมอีกคน ที่ไปปรากฎในเมืองซ่าง.

ขณะที่เขาเปลี่ยนร่างไปอีกหลายร่าง จนได้ร่างของมหาเซียนในชุดสีเหลือง ก่อนที่จะหนีออกจากเมืองซ่าง.

หลังจากออกมาเมืองซ่างที่เป็นเกาะลอยฟ้า ก็พุ่งไปยังทิศทางทิศทางหนึ่ง.

หลังจากผ่านไปสองชั่วยาม.

ในหุบเขาแห่งหนึ่งที่ด้านนอกเมืองซ่าง.

ภายในหุบเขาแห่งหนึ่ง ชายในชุดสีเหลือง ที่พุ่งตรงไปยังแท่นบูชาแห่งหนึ่ง.

"ครืนนนนน!"ที่ภายในประตูที่เปิดออกมาเสียงดัง.

ชายในชุดสีเหลืองที่จ้องมองไปยังคนที่อยู่ด้านในห้องโถง.

หนึ่งร่างที่เพิ่งปรากฎ สวมชุดเกราะที่ดูหรูหราอลังการ มงกุฎขนนก สองปีกสีขาว ที่ลู่ไปด้านหลัง.

ใบหน้าของชายชุดเหลืองที่เป็นบรรพชนรุ่นหนึ่งที่จ้องมองอย่างเย็นชาไปยังด้านหลัง.

ขณะที่เขาหันหลังออกไป ไม่ได้ปล่อยกลิ่นอายใด ๆ  มีเพียงแค่ความอหังการที่แผ่ออกไป.

"บรรพชนรุ่นหนึ่ง!"ชายที่สวมมงกุฎขนนกเผยยิ้ม รอยยิ้มที่ดูยโสที่ยากจะปิดมิด.

"เทียนเต๋าจื่อ?"ชายในชุดสีเหลืองบรรพชนรุ่นหนึ่งที่กล่าวออกมาเบา ๆ .

"ถูกต้อง!"เทียนเต๋าจื่อพยักหน้ารับ.

สายตาของทั้งสองที่ประสบพบกัน หนึ่งคือตัวตนที่ครอบครองตระกูลเทียนในอดีต และเป็นผู้ก่อตั้งตระกูลเทียน บรรพชนรุ่นแรกของตระกูลเทียน อีกคนคือประมุขคนปัจจุบัน เทียนเต๋าจื่อ.

ทั้งสองไม่ได้ปล่อยกลิ่นอายใด ๆ ออกมาปะทะกัน เพียงแค่จ้องมองกันและกันด้วยแววตาอหังการ ทุกคนก็ปฏิเสธที่จะยอมรับอีกฝ่าย!

การพบกันครั้งนี้ ทั้งสองรับรู้ว่าคืออะไร ดังนั้นจึงไม่ได้คิดที่จะต่อสู้กัน.

"เจ้าเป็นลูกหลานของข้า หากแต่เป็นคนที่ต่างออกไป!"บรรพชนรุ่นหนึ่งที่กล่าวออกมาเสียงดัง.

"ขอบคุณ!"เทียนเต๋าจื่อที่ไม่ได้โกรธเกรี้ยว.

ขณะที่เขายื่นมือออกไป ก่อนที่จะปรากฎโต๊ะเก้าอี้พร้อมกับ กาน้ำชา.

เทียนเต๋าจื่อที่ไม่ได้สนใจว่าตัวเองเป็นลูกหลานหรือไม่อย่างไร เขายังคงเต็มไปด้วยความอหังการ ก่อนที่จะเชิญบรรพชนรุ่นแรกนั่ง น้ำชาที่ลอยขึ้นเสิร์ฟเองโดยอัตโนมัติ.

บรรพชนรุ่นที่หนึ่งที่ครุ่นคิดเล็กน้อย หากเป็นคนย่อมรู้สึกโกรธเกรี้ยว ทว่าเวลานี้เขานั้นคิดต่างออกไป ถึงแม้นว่าฝ่ายตรงข้ามของเขาจะเป็นลูกหลานก็ตาม ทว่าความแข็งแกร่งของเทียนเต๋าจื่อนั้นไม่ได้ด้อยกว่าตน และเชาว์ปัญญาของเขาที่ไม่ธรรมดาเลยแม้แต่น้อย.

"ทวีปเทียนนั้นเป็นของข้าเรียบร้อยแล้ว เทียนโจวจื่อเองควรจะบอกกับท่านชัดเจนแล้ว!"เทียนเต๋าจื่อที่เอ่ยออกมาอย่างนุ่มนวล.

บรรพชนรุ่นที่หนึ่งที่จดจ้องมองไปยังเทียนเต๋าจื่อ พร้อมกับกล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม "เจ้าทำลายแผนของข้า ทำลายงานของข้าไป.

"ข้ารู้ ทว่าท่านควรจะเข้าใจ หากเปลี่ยนท่านเป็นข้า ก็ต้องทำเหมือน ๆ กัน!"เทียนเต๋าจื่อที่ยกน้ำชาขึ้นจิบ.

บรรพชนรุ่นหนึ่งตระกูลเทียนที่สูดหายใจลึก กลิ่นของชาที่แผ่ออกมายั่วยวนจมูกโดยสมบูรณ์.

"เรื่องราวของมนุษย์ไม่แน่นอน เจตจำนงสวรรค์นำทางผู้คน เปลี่ยนเป็นเจ้า หากข้ามีความสามารถ ข้าย่อมต้องควบคุมทวีปเทียน! ทว่าเจ้ากลับไม่คิดที่จะก่อตั้งศาลสวรรค์! ไม่ใช่ว่าเจ้าต้องการควบคุมสายโลหิตของข้าหรอกรึ?"บรรพชนรุ่นหนึ่งที่ไม่ปฏิเสธ ทว่าสอบถามออกไป.

"เป็นเทียนตี้อย่างงั้นรึ? ท่านเชื่อว่าหากข้าจะเป็นเทียนตี้ เป็นเรื่องยากอย่างงั้นรึ?"เทียนเต๋าจื่อที่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.

บรรพชนรุ่นหนึ่งตระกูลเทียนที่จ้องมองเทียนเต๋าจื่อ.

"ช่วงเวลาที่ท่านหลับลึกนั้นมันยาวนานจนเกินไป ช่วงที่ท่านหลับนั้น ใต้สวรรค์แห่งนี้เปลี่ยนไปเป็นอย่างมาก ในเวลานี้ ตระกูลอันดับหนึ่งของโลกหล้า กลายเป็นตระกูลหวงกู่ไปแล้ว ผ่านกู๋ผู้ก่อตั้งตระกูลหวงกู่ ท่านรู้หรือไม่? เขามีความสามารถอย่างไร? เขาเป็นราชาอย่างงั้นรึ?เขาไม่ใช่ราชา เขาไม่จำเป็นต้องทำเช่นท่าน แม้แต่ช่วงเวลาที่ท่านยืนอยู่บนจุดสูงสุดท่านยังด้อยกว่าผ่านกู๋ ท่านคิดว่าความคิดของท่านถูกต้องที่สุดอย่างงั้นรึ? ท่านควรเข้าใจว่าโลกในเวลานี้ไม่ได้ง่ายขนาดนั้น!"เทียนเต๋าจื่อเอ่ย.

"เส้นทางของผ่านกู๋ ไม่เหมาะกับข้า ไม่เหมาะกับเจ้าด้วย!"บรรพชนรุ่นหนึ่งที่กล่าวออกมาเบา ๆ .

"พวกเราเดินกันคนละเส้นทาง ทวีปเทียนเป็นของข้า ส่วนทวีปทิศเหนือ ท่านศึกษาแล้ว เป็นอย่างไร?"เทียนเต๋าจื่อส่ายหน้าไปมา.

"เจ้ากำลังกล่าวสิ่งใด?"บรรพชนรุ่นหนึ่งที่เอ่ยออกมาเบา ๆ .

"ข้าบอกกับเทียนโจวจื่อไปแล้ว เทียนโจวจื่อน่าจะกล่าวชัดเจน ท่านมีร่างแยกสองร่าง เหมือนกับจงซานที่อยู่ภพหยาง ควรจะเป็นร่างต้น หากท่านสามารถควบคุมร่างจงซานได้ ต้าเจิ้งก็จะเป็นของท่าน ส่วนอีกร่างก็ควบคุมร่างของเทียนหลิงเอ๋อ เพื่อดูดซับตราสวรรค์ที่ท่านได้ทิ้งเอาไว้ ชื่อเสียงวาสนามากมายและลิขิตอีกมหาศาล เพียงแค่รากฐานของต้าเจิ้งที่มี ท่านก็สามารถที่จะควบคุมทวีปภาคเหนือได้ไม่ยาก นอกจากนี้ยังสามารถยึดครองสองภพหยิน หยางได้."เทียนเต๋าจื่อเอ่ยออกมาเบา ๆ .

บรรพชนรุ่นหนึ่งที่ยกชาขึ้นจิบ ขณะจ้องมองเทียนเต๋าจื่อเขม็ง.

ทั้งสองคนที่เงียบ ก่อนที่บรรพชนรุ่นที่หนึ่งจะเอ่ยออกมา "ความแข็งแกร่งจงซานข้าได้ตรวจสอบแล้ว เพียงแค่ร่างฉายเงาของเจ้าที่ส่งมาก จะสามารถขวางต้าเจิ้งภพหยินได้อย่างงั้นรึ?"

บรรพชนรุ่นที่หนึ่งที่ดูเหมือนว่าจะรู้สึกช่วยไม่ได้ ตอนนี้จึงได้กล่าวออกมาเช่นนี้ ทวีปเทียนเวลานี้คงยากที่จะได้รับ เช่นนั้นก็ควรที่จะเบนเป้าไปยังอีกส่วนที่พอจะครอบครองได้.

เห็นบรรพชนรุ่นหนึ่งยินยอม เทียนเต๋าจื่อที่รู้สึกวางใจก่อนที่จะกล่าวออกมาว่า "โปรดวางใจ ในภพหยินนั้น มีปราชญ์เทพคนหนึ่งที่ข้าสามารถควบคุมได้ ข้าจะให้เขามาช่วย!"

"อืม!"บรรพชนรุ่นหนึ่งตระกูลเทียนที่พยักหน้ารับ.

"ในตำหนักนั้น มีเซียนบรรพชนคนหนึ่ง ท่านเปลี่ยนร่างกับเขา ซึ่งจะเป็นประโยชน์กับท่านมากกว่า!"เทียนเต๋าจื่อเอ่ย.

"อืม!"

-------------------------------------------------------------

ภพหยาง สวนสวรรค์ลอยฟ้าหลิงเซียว.

จงเสวียนหลังจากที่จากกมาจากตำหนักหลิวอู๋ซ่าง ในเวลาบ่าย ก็เดินทางไปยังตำหนักหลวง มุ่งตรงไปยังตำหนักเทียนหยวน.

ภายในตำหนักเทียนหยวน จงซาน อี้เหยี่ยน สุ่ยจิง ที่กำลังปรึกษาพูดคุยเกี่ยวกับสงคราม ไท่จื่อจงเทียนและเซียนเซิงซือยืนอยู่กันคนละฝั่ง.

"เข้ามา!"จงซานเอ่ย.

อี้เหยี่ยนและสุ่ยจิงยืนอยู่คนละฝั่ง ขณะที่เงียบลงไม่กล่าวสิ่งใด.

จงเสวียนที่นำห้าเซียนโบราณก้าวเข้ามาในตำหนักเทียนหยวน.

"คารวะเซิ่งหวัง!"ทุกคนที่กล่าวออกมาด้วยความเคารพ.

"อืม!"

"เป็นอย่างไร? ความทรงจำก่อนหน้านี้ จำอะไรได้บ้าง?"จงซานที่กล่าวออกมาอย่างจริงจัง.

"ไม่มี ไม่มีเลย!"จงเสวียนที่ส่ายหน้าไปมา.

"เช่นนั้น พรุ่งนี้ก็เดินทางไปยังตำหนักขุนนางต่าง ๆ  พบกับคนห้าคน ดูซิว่าเจ้าจะรับรู้อะไรหรือไม่!"จงซานกล่าว.

"ครับ!"จงเสวียนที่รับคำสั่ง.

"คนทั้งห้าที่เจ้าควรจะจำได้ มีหนานกงเซิ่ง หลิวอู๋ซ่าง หลี่ฉิงเหลียน เสิ่นเยว่ อี้ฝาน คนทั้งห้าเจ้าดูรูปแล้ว หลังจากนี้ข้าจะส่งที่อยู่ไปให้ จำได้หรือไม่?"จงซานที่กล่าวอย่างเคร่งขรึม.

"ครับ จำได้!"จงเสวียนที่ตอบรับเบา ๆ .

"ออกไปได้!"จงซานที่กล่าวออกมาเบา ๆ .

"ครับ!"คนทั้งหกที่ถอยจากไป.

หลังจากออกไปแล้ว จงเสวียนก็นำองค์รักษ์ทั้งห้ากลับตำหนักของตัวเอง แววตาของเขาที่สั่นไหวไปมาเล็กน้อย.

"หนานกงเซิ่ง? หลิวอู๋ซ่าง? ลี่ชิงเหลี่ยน? เสิ่นเยว่ อี้ฝ่าน? เตรียมห้าคนให้ข้าเปลี่ยนร่างรึไง จงซานคิดจริง ๆ รึว่าไม่มีอะไรผิดปกติ พรุ่งนี้เย็น? ช่างน่าเสียดาย เจ้ากำลังจะตายพรุ่งนี้แล้ว!"ภายในใจจงเสวียนที่เต็มไปด้วยความเย็นชา.

จงเสวียนจากไป.

ภายในตำหนักเทียนหยวนที่กลายเป็นเงียบงันอีกครั้ง.

"เซิ่งหวัง เขาไม่ตอบรับรหัสลับของท่าน!"เซียนเซิงซือที่ดวงตาเป็นประกาย.

อี้เหยี่ยนและสุ่ยจิงที่งงงวยก่อนหน้านี้ ขณะได้ยินคำพูดของทั้งสอง ทันใดนั้นก็พอคาดเดาได้ในทันที.

"เซิ่งหวังพบแล้วอย่างงั้นรึ?"ดวงตาของอี้เหยี่ยนเป็นประกาย.

"แต่ว่า ศพไท่จื่อจงเสวียน ไม่ใช่ว่าเพิ่งฟื้นคืนชีพขึ้นมาหรอกรึ? แล้วจะถูกเปลี่ยนได้อย่างไร? เรื่องนี้? เซิ่งหวังจงใจวางแผนล่ออย่างงั้นรึ? ทำไมอสูรเปลี่ยนร่างถึงได้เปลี่ยนร่างไปอยู่ในร่างของไท่จื่ออีกแล้ว?"สุ่ยจิงทั้งตกใจและประหลาดใจ.

"อืม ไม่กี่วันที่แล้ว ทำให้พวกเจ้าตื่นตกใจ!"จงซานที่ส่ายหน้าไปมา.

"คนชุดดำเหล่านั้นนะรึ? ไม่มีอะไรแม้แต่น้อย กับการที่เซิ่งหวังกระทำการในท้องพระโรงก็เป็นการแนะแล้วว่ากำลังหาอสูรเปลี่ยนร่าง ต่อให้สุ่ยจิงถึงตายก็ไม่เข้าไปเกี่ยวข้อง!"สุ่ยจิงที่กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.

"ถึงตาย บางทีเจ้าอาจจะไม่ยอมรับก็ได้!"อี้เหยี่ยนที่กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.

"หายากที่จะมีโอกาสแสดงความภาคภูมิ ดูเหมือนว่าเจ้าเองก็ไม่น้อยหน้าเหมือนกัน!"สุ่ยจิงกล่าวล้ออี้เหยี่ยน

"ฮ่าฮ่า!"จงซานที่หัวเราะออกมา.

สถานการณ์เวลานี้ชัดเจนแล้ว ทำให้ทุกคนสามารถวางใจได้.

"ในเมื่อถูกเปลี่ยนแล้ว แล้วใครคือคนที่ถูกเปลี่ยน? เป็นหลิวอู๋ซ่างอย่างงั้นรึ?"สุ่ยจิงที่ขมวดคิ้วไปมาในทันที.

ไท่จื่อจงเทียนพลางถอนหายใจ ควรค่าแล้วที่เป็นกุนซือของต้าเจิ้ง ฟังเซียนเซิงซือเอ่ยไม่กี่คำ สามารถที่จะคาดเดาได้ตั้งแต่ต้นจนจบ.

"เป็นหลิวอู๋ซ่าง นอกจากนี้หลิวอู๋ซ่างยังคืนกลับสู่ตำแหน่งเดิมแล้ว."จงซานที่พยักหน้ารับ.

"กลับสู่ตำแหน่ง?หลิวอู๋ซ่าง? หากเป็นหลิวอู๋ซ่างจริง ๆ  ดูเหมือนว่าหลิวอู๋ซ่างตายไปแล้ว เป็นไปได้ว่า.....?"อี้เหยี่ยนที่ขมวดคิ้วไปมา.

"หลิวอู๋ซ่างเป็นภูตอยู่ภพหยิน เขากลับมามีชีวิตในศพของเสวียนเอ๋อด้วยวิชาของเซียนเซิงซือ ตอนนี้ถูกเปลี่ยนไปแล้ว!"จงซานพยักหน้ารับ.

"อสูรเปลี่ยนร่างช่างมีวิชาที่น่าพรั่นพรึง ตอนนี้เปลี่ยนร่างแล้ว หลิวอู๋ซ่างที่กลับมาควบคุมร่างตัวเอง บางทีพรุ่งนี้ ไม่ พรุ่งนี้บางทีอสูรเปลี่ยนร่างเพียงแค่เริ่มต้นเท่านั้น!"สุ่ยจิงครุ่นคิดและกล่าวออกมา.

"เซิ่งหวัง ดูเหมือนว่าจะมีอีกหลายร่างที่ถูกอสูรเปลี่ยนร่างใช้ เซิ่งหวังท่าน!"อี้เหยี่ยนพยักหน้ารับ.

หากเทียนเสิ่นจื่ออยู่ที่นี่ จะต้องประหลาดใจอย่างแน่นอน เพราะว่าแผนการในภพหยางเวลานี้ สองกุนซือของต้าเจิ้งที่สามารถคาดเดาได้อย่างแม่นยำ แม้ว่าจะได้ยินคำพูดไม่กี่คำของเซียนเซิงซือเท่านั้น

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด