ตอนที่แล้วChapter 1340 จงซานเริ่มเปิดเผยอสูรเปลี่ยนร่าง.
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปchapter 1342 อุบายราชาปะทะอุบายราชา.

Chapter 1341 หลิวอู๋ซ่างคนสองบุคลิก


ท้องพระโรงที่เงียบงัน คงได้ยินแม้แต่เสียงเข็มหล่น.

จงซานที่วางแผนที่จะเผยอสูรเปลี่ยนร่าง แน่นอน เมื่อเร็ว ๆ นี้เมื่อจงซานรับรู้ความสามารถของมัน เชาว์ปัญญาของมัน วิธีการ นิสัย ทำให้เขาสามารถที่จะวางแผนเพื่อที่จะจัดการเกี่ยวกับเรื่องนี้ได้.

ดังนั้น ในเวลานี้เขาต้องการที่จะสร้างความกดดันให้ฝ่ายตรงข้ามต้องสับสน หากแต่เห็นชัดเจนว่ามันยังไร้ผล เพราะว่าจิตใจของของฝ่ายตรงข้ามนั้นจะไร้เทียนทาน แม้จะใช้เหตุการณ์กลิ่นอายบีบครั้งแล้วก็ตาม.

ภายในห้องโถงที่กลายเป็นเงียบงัน เหล่าขุนนางทั้งหมดที่เต็มไปด้วยความเป็นกังวล.

"วูซซซซ!"

ที่ด้านนอกตำหนักนั้น ปรากฎร่าง ๆ หนึ่งขึ้น ก่อนที่จะค่อย ๆ เดินเข้ามาภายในห้องโถง เสียงที่ไม่คิดว่าจะได้ยิน.

สายตาของขุนนางทั้งหมดที่จ้องเขม็ง เป็นไท่จื่อสามต้าเจิ้ง จงเสวียนนั่นเอง.

จงเสวียนที่ก้าวเข้ามาช้า ๆ .

อี้เหยี่ยน สุ่ยจิง หลิวอู๋ซ่าง หนานกงเซิ่ง และคนอื่น จ้องมองจงเสวียนที่ตายไปแล้วฟื้นคืนชีพขึ้นมา ต้องขมวดคิ้วไปมา ราวกับตระหนักอะไรบางอย่างได้.

ทว่าก็มีขุนนางอยู่หลายคนเช่นกันที่ไม่รู้ว่าจงเสวียนตายไป แน่นอนว่าว่าไม่สามารถมองเห็นความผิดปรกติเล็กน้อยได้.

จงเสวียนที่ก้าวเข้ามาด้านหน้าทุกคนช้า ๆ .

"บุตรมาสายเกินไป ขอให้ท่านพ่อโปรดอภัย!"จงเสวียนที่กล่าวออกมาด้วยความเคารพ.

อย่างไรก็ตาม หากตั้งใจฟังแล้ว จะพบว่าเสียงของจงเสวียนจะแข็ง ๆ นิดหน่อย.

"กึก!"

นิ้วของจงซานที่เคาะไปมาเบา ๆ บนพนักพิง ดวงตาที่ลืมขึ้น จ้องมองไปยังจงเสวียนก่อนที่จะกล่าวออกมาว่า "ไปประจำที่!"

"รับทราบ!"จงเสวียนที่กล่าวออกมาด้วยความเคารพ.

จากนั้น จงเสวียนที่หันหน้ากลับมามองเหล่าเสนาธิการที่อยู่รอบ ๆ  หลังจากตรวจสอบแล้ว จงเสวียนก็เข้าไปประจำตำแหน่งเดิมของเขา.

การตรวจสอบสุดท้าย ราวกับว่าทำให้หัวใจของหลายคนสั่นไหว.

หลาย ๆ คนที่ไม่รู้ว่าจงเสวียนตาย อีกหลายคนที่คิดว่าเขาฟื้นคืนชีพอย่างไร ตายแล้วคืนชีพ ทำให้หลาย ๆ คนต้องขมวดคิ้วไปมา ขมวดคิ้วเผยท่าทางแปลกประหลาด ขณะจ้องมองด้วยสายตาเบิกกว้างกลมโต.

จงเสวียนที่เข้าประจำตำแหน่ง เหล่าขุนนางทั้งหมดที่แสดงความเคารพ หลังจากนั้นไม่นานที่ด้านนอกปรากฎอีกเสียงดังขึ้นมา.

"ไท่จื่อจงเทียนขอเข้าพบ!"เสียงจากด้านนอกที่ดังขึ้น.

"ให้เข้ามา!"จงซานที่เอ่ยออกมาเบา ๆ .

ที่ด้านนอก จงเทียนที่ก้าวเข้ามาในห้องโถง.

"ฟู่หวง!"จงเทียนที่กล่าวออกมาด้วยความเคารพ.

"อืม!"จงซานพยักหน้ารับ.

"เทียนโจวจื่อและเทียนเสิ่นจื่อพูดคุยกันเสร็จแล้ว เทียนโจวจื่อนั้นร้องขอที่จะอยู่ในต้าเจิ้งชั่วคราว ยังมีบางอย่างที่ยังตกลงกับเทียนเสิ่นจื่อไม่เสร็จ!"จงเทียนกล่าว.

"เทียนโจวจื่อไม่ยินดีที่จะไปอย่างงั้นรึ?"จงซานที่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.

"ใช่!"จงซานที่พยักหน้ารับ.

"เช่นนั้นเจ้าจงเตรียมที่อยู่ให้กับพวกเขา!"จงซานที่เอ่ยออกมาเบา ๆ .

"ครับ!"จงเทียนพยักหน้ารับ.

ดูเหมือนว่าจงซานจะมองเห็น เทียนโจวจื่อนั้นตั้งมั่นอย่างแน่วแน่ว่าไม่ต้องการกลับไปยังทวีปเทียนเวลานี้ ทว่าหากปล่อยให้เขาไปซ่อนตัวอยู่ในที่มองไม่เห็น จะยิ่งทำให้ต้าเจิ้งนั้นรับมือได้ยาก.

"เจ้าไปเตรียมให้กับพวกเขาตอนนี้!"จงซานกล่าว.

"ครับ!"จงเทียนพยักหน้ารับ จากนั้นจึงถอยห่างไปจากห้องโถง.

นับตั้งแต่ต้นจนจบ เหล่าเสนาธิการที่ไม่กล้าที่จะเอ่ยเสนออะไรออกมา เพราะว่าวันนี้มันแปลกเกินไปแล้ว ทำให้ความรู้สึกของทุกคนที่ไม่มั่นคง ดังนั้นทุกคนจึงไม่ได้ขัดขวาง รวมทั้งอี้เหยี่ยน สุ่ยจิงและอีกหลายคนก็ด้วย.

อย่างไรก็ตาม การประชุมก็ยังคงดำเนินต่อไป เป็นเหมือนกับครั้งก่อน ๆ  ไม่ได้มีเรื่องพลิกโผอะไร เพียงแต่เหตุการณ์ก่อนหน้านี้ทำให้เหล่าขุนนางรู้สึกซับซ้อนเป็นอย่างมาก แม้นว่าจะสามารถประชุมต่อไปได้ ทว่าอารมณ์ของทุกคนก็ไม่ค่อยมั่นคง.

ส่วนเสนาธิการคนสำคัญของต้าเจิ้งรู้เป้าหมายของจงซานดี การประชุมในครั้งนี้นั้น เพื่อที่จะเปิดเผยความสงสัย และเพื่อเพิ่มความสงสัย ภายในท้องพระโรงแห่งนี้เกิดความเคร่งขรึมทางอารมณ์ที่หนักอึ้งขึ้นใจของทุกคน เพื่อที่เป็นเมล็ดพันธ์ให้เกิดพิรุธของเป้าหมาย.

ในคืนนั้น.

ภายในตำหนักของอี้เหยี่ยน อี้เหยี่ยนขณะกำลังศึกษาบทความของเหล่าบรรพชน.

"มีนักฆ่า!"พ่อบ้านที่เอ่ยกล่าวออกมา.

อี้เหยี่ยนและคนอื่น ๆ ที่หันหน้าไปจ้องมอง เห็นภาพเงาสีดำที่กำลังหนีออกจากตระกูลของอี้ในทันที.

"ตามไป!"

"จับนักฆ่าเร็วเข้า!"

"อย่าให้หนีไปได้!"

..............................

............

......

ที่ตำหนักของอี้เหยี่ยนที่ดังโหวกเหวกขึ้นในทันที องค์รักษ์มากมายที่ปรากฎขึ้น ในเวลาเดียวกันฝ่ามือสีเขียวที่ปรากฎขึ้นบนอากาศ ต้องการจะจับเงาร่างดังกล่าว.

"หยุด!"อี้เหยี่ยนที่กล่าวออกมาเสียงดัง.

ทุกคนที่ตื่นตระหนกตกใจเล็กน้อย หมายความว่าอย่างไร?

"ไม่จำเป็นต้องไล่ตาม!"อี้เหยี่ยนที่ส่ายหน้าไปมา.

"? ท่านปู่ ทำไม?"

"ใช่ ท่านพ่อ ทำไมไม่ให้ไล่ตาม?"

"นายท่าน เขาหนีไปแล้ว!"

........................

............

......

ภายในตำหนักอี้ที่ได้ยินเสียงที่กระวนกระวายดังขึ้นในทันที.

"ข้าบอกว่าไม่จำเป็นต้องไล่ตาม ไม่เข้าใจอย่างงั้นรึ?"อี้เหยี่ยนที่ดวงตาเบิกกว้าง.

"หืม?"ทุกคนที่ไม่เอ่ยอะไรต่อไป.

"วันนี้ไม่มีนักฆ่า ไม่มีชายในชุดดำ ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ไม่มีใครเห็นอะไร ได้ยินหรือไม่?"อี้เหยี่ยนที่กล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงที่เคร่งขรึม.

"ครับ!"

อี้เหยี่ยนที่เป็นผู้นำตระกูลของตำหนักแห่งนี้ แน่นอนย่อมไม่มีใครกล้าขัดขืน.

คืนนี้ ไม่ใช่แค่ในตำหนักของอี้เหยี่ยน ที่มีนักฆ่าลอบเข้ามาในทันที เหล่าเสนาธิการคนสำคัญล้วนแล้วแต่มีนักฆ่าลอบเข้ามาทั้งนั้น.

ตำหนักของตระกูลสุ่ยจิง.

"ไม่จำเป็นต้องไล่ตาม!"สุ่ยจิงที่ส่ายหน้าไปมา.

"นายท่าน เจ้าโจรร้ายไม่รู้ว่าต้องการสิ่งใด พวกเราจะไม่ไล่ตามเขาไปอย่างงั้นรึ?"พ่อบ้านที่กล่าวออกมาด้วยท่าทางกระวนกระวายใจ.

"ข้าบอกแล้วว่าไม่ต้องไล่ตาม ไม่ได้ยินอย่างงั้นรึ?"สุ่ยจิงที่แค่นเสียงเย็นชา.

"ใช่!"ทุกคนในตระกูลของสุ่ยจิงย่อมไม่มีใครกล้าขัดขืนเช่นกัน.

"เรื่องในวันนี้ ห้ามใครแพร่งพรายออกไป จะต้องถูกลงโทษอย่างหนัก!"สุ่ยจิงที่กล่าวออกมาเสียงดัง.

"รับทราบ!"

ภายในตำหนักของตระกูลหนานกงเซิ่ง.

ร่างในชุดดำก็ปรากฎขึ้นเช่นกัน ช่างน่าเศร้า ใครคือหนานกงเซิ่ง? ยอดฝีมือค่ายกลที่หายาก ไม่จำเป็นหนานกงเซิ่งต้องทำอะไร ค่ายกลก็สามารถจับกุมร่างเงาไปแล้ว.

จากนั้น ชายในชุดสีน้ำที่ยื่นมือออกไป ก่อนที่จะทำลายค่ายกลของหนานกงเซิ่ง ส่วนหนานกงเซิ่งที่ยกมือขึ้นห้ามทุกคนไม่ให้ลงมือแต่อย่างใด.

"นายท่าน เจ้าโจรร้ายนั่น กำลังทำลายค่ายกล!"พ่อบ้านที่เอ่ยปากออกมาทันที.

"ไม่ต้องทำอะไร!"หนานกงเซิ่งที่ส่ายหน้าไปมา.

"นายท่าน!"

"ไม่ได้ยินอย่างงั้นรึ?"หนานกงเซิ่งกล่าวออกมาด้วยเสียงเย็นชา.

"ครับ!"

ตำหนักของหลิวอู๋ซ่าง.

ร่างในชุดดำที่มาปรากฎขึ้นที่นี่ ปรากฎขึ้นในที่พักของผู้บัญชาการของจินอี้เหว่ยอย่างงั้นรึ? นี่เท่ากับแส่หาความตาย.

หลิวอู๋ซ่างที่ยื่นมืออกไป ก่อนที่จะปรากฎเชือกรัดชายในชุดสีดำ ก่อนที่ร่างของเขาจะร่วงหล่นลงบนพื้น.

"นายท่าน ช่างเป็นวิชาที่ร้ายกาจนัก!"พ่อบ้านกล่าวออกมาด้วยความตื่นเต้น.

"นายท่าน เจ้าโจรร้ายนี้ นำไปทรมานเพื่อให้เขาคายทุกอย่างออกมา!"อีกคนที่เอ่ยออกมาเสียงดัง.

หลิวอู๋ซ่างที่จ้องมองไปยังชายในชุดดำ จ้องมองอย่างเคร่งขรึม จากนั้นเขาก็ส่ายหน้าไปมา "ไม่จำเป็น ปล่อยตัวไป!"

"หืม?นายท่าน เรื่องนี้......!”

"ไม่ได้ยินอย่างงั้นรึ?"หลิวอู๋ซ่างที่เอ่ยออกมาด้วยเสียงเย็นชา.

"ครับ!"

-----------------------------------

เวลาเย็น จนถึงดึก เหล่าเสนาธิการทุกคนต่างก็มีโจรร้ายมาเยือน บางคนถูกปล่อยตัว มีบางคนถูกจับเอาไว้ด้วยเช่นกัน.

เช้าวันถัดมา ข้อมูลต่าง ๆ ของเหล่าขุนนางทั้งหมดที่ถูกส่งมามายังห้องอักษรของจงซาน เกี่ยวกับการจับกุมและปล่อยตัวชายในชุดสีดำ.

ภายในห้องอักษรของจงซาน.

จงซานที่นั่งอยู่ด้านหลังของโต๊ะอักษร จงเทียนที่ยืนอยู่ข้าง ๆ .

ชายในชุดสีดำที่คุกเข่าอยู่ด้านหน้า.

"เซิ่งหวัง ในเวลานี้!"ชายในชุดสีดำที่ถูกจับเมื่อคืน.

"ออกไปก่อน!"จงซานกล่าว.

"ครับ!"ชายในชุดสีดำที่ถอยออกไปในทันที.

"ห้าสิบคน ทั้งถูกจับและถูกปล่อยไป สถานการณ์เวลานี้เปลี่ยนเป็นซับซ้อนแล้ว!"จงเทียนที่ขมวดคิ้วไปมา.

"ไม่ซับซ้อนอะไรนัก อสูรเปลี่ยนร่างที่ต้องการเข้าใกล้กัน แน่นอนว่าห้าสิบคนที่ข้าเลือกนั้นล้วนแต่เป็นคนที่คุ้นเคยกับข้า."จงซานที่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.

"แต่ว่า ก็ยังคงยากที่จะแยกแยะได้?"จงเทียนกล่าวออกมาด้วยความประหลาดใจ.

"เมื่อวานนี้เมื่อครั้งประชุม ข้าจงใจสร้างความกดดันให้กับขุนนางทั้งหมด ที่จริงนั้นเป็นการย้ำเตือนพวกเขา ในตอนเย็นข้าได้ส่งชายชุดดำไป ดังนั้นอี้เหยี่ยน สุ่ยจิงและเหล่าคนที่มีความสามารถต่างก็ไม่ได้สนใจ บันทึกต่าง ๆ เองก็เช่นกัน หนานกงเซิ่งและอีกหลายคนที่ละเลย ไม่คุมตัวพวกเขามาสอบสวน พร้อมกับปล่อยออกไปเพื่อให้พวกเขากลับมารายงานข้า!"จงซานที่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.

"สถานการณ์ในเวลานี้คืออะไร? ท่านพ่อ ท่านเห็นแล้วรึว่าใครคืออสูรเปลี่ยนร่าง?"จงเทียนสงสัย.

"กับดักที่ข้าเป็นคนสร้าง แน่นอนว่าข้าต้องมองเห็น!"จงซานที่กล่าวอย่างเคร่งขรึม.

"หืม? ใครกัน?"

"คนที่น่าสงสัยที่สุด ผู้บัญชาการจินอี้เหว่ย หลิวอู๋ซ่าง!"จงซานกล่าวออกมาด้วยเสียงที่เย็นชา.

"เขา? เขาเป็นตัวปลอมอย่างงั้นรึ? ท่านพ่อ หลิวอู๋ซ่างต่างกับคนอื่นอย่างไร? บุตรมองไม่เห็นจุดอ่อนเลย?"จงเทียนที่เผยท่าทางประหลาดใจ.

จงซานที่ส่ายหน้าไปมา พร้อมกับเอ่ยออกมาว่า "ชายในชุดดำที่ข้าส่งออกไปนั้น มีลักษณะพิเศษที่แตกต่างกันออกไป และชายในชุดดำที่ข้าส่งไปทดสอบหลิวอู๋ซ่างนั้นเป็นเผ่าหมาป่า! นอกจากนี้ยังเป็นหมาป่าเพลิงโดยตั้งใจ."

"หมาป่า?"จงเทียนที่เผยท่าทางไม่เข้าใจ.

"ตั้งแต่การประชุมเมื่อวานนี้ ข้าได้ทำให้ทุกคน เหล่าขุนนางทั้งหมดเกิดความระวัง กดดันค้นหาตัวตนที่ปลอมตัวในกลุ่มของพวกเขา ว่าข้าจะลงมือ ในตอนเย็นนั้นข้าก็ได้ส่งชายชุดดำออกไป ไม่ต้องเอ่ยเลยว่า มีบางคนที่เข้าใจความหมาย เฝ้าระวัง หลิวอู๋ซ่างเองนั้นได้ระมัดระวังเป็นอย่างมาก กล่าวตามตรง ทุกคนย่อมต้องระมัดระวัง ทว่าก็มีเรื่องที่เขาไม่สามารถห้ามได้ นั่นก็คือสัญชาตญาณของตัวเอง หลิวอู๋ซ่างนั้นทำได้สำเร็จสมบูรณ์มาก จนทำให้เขาเผยจุดอ่อนออกมา โดยที่เขาไม่รู้ตัว!"จงซานที่ส่ายหน้าไปมา.

"หืม?หมายความว่าอย่างไร?"จงเทียนไม่เข้าใจ.

"หลิวอู๋ซ่างทันทีที่เขาเห็นชายชุดดำที่เป็นเผ่าหมาป่า รู้หรือไม่เขาตอบสนองอย่างไร?"จงซานสอบถาม.

"เมื่อครั้งประชุมที่ท่านพ่อใช้วิธีกดดันพวกเขา เป็นไปไม่ได้ที่จะมีใครรับรู้ว่ามีชายในชุดสีดำจะไปเยือนตระกูลพวกเขา เพียงแต่ก็ยังมีกลุ่มคนที่มีเชาว์ปัญญาที่ไม่ธรรมดาเข้าใจมัน ทันทีที่ชายชุดดำถูกส่งไป ดังนั้นพวกเขาจึงไม่สนใจ เช่นอี้เหยี่ยน สุ่ยจิงและอีกหลายคน บิดากล่าวว่าอสูรเปลี่ยนร่างนั้นมีเชาว์ปัญญาที่ไม่ธรรมดาไม่ได้ด้อยกว่าสุ่ยจิง ทว่าหลิวอู๋ซ่างกลับไม่ใช่ เขาที่จับตัวชายในชุดสีดำ ก่อนที่จะเห็นว่าเขาปลอมตัว หลิวอู๋ซ่างที่จับตัวเอาไว้นั้น เลยกลายเป็นผู้สงสัยอย่างงั้นรึ?"จงเทียนที่เผยท่าทางแปลก ๆ .

"เป็นการวิเคราะห์ที่ดี เขานั้นมีเชาว์ปัญญาที่สูงย่อมเข้าใจเกี่ยวกับหลุมพรางนี้อย่างแน่นอน ทว่าสิ่งที่ข้ากล่าวนั้นคือเผ่าหมาป่าต่างหาก ชายชุดดำนั้นคือเผ่าหมาป่า รู้หรือไม่ว่าเขาควรจะตอบสนองอย่างไร?"จงซานสอบถาม.

"เผ่าหมาป่า? เผ่าหมาป่าคืออาณาจักรคู่บารมีของต้าเจิ้ง หลิวอู๋ซ่างที่จับชายชุดดำ เพื่อที่จะหลบเลี่ยงไม่ให้ท่านพ่อสงสัย เขาก็นับว่าทำถูกแล้วไม่ใช่รึ?!"จงเทียนที่ส่ายหน้าไปมา.

"เขาระมัดระวังเกินไป บางสิ่งที่เขาแสดงออกมานั้นมันสมบูรณ์เกินไป!"จงซานที่ส่ายหน้าไปมา.

"หืม?"

"เขาไม่ได้รู้เรื่องราวกับหลิวอู๋ซ่างทั้งหมด เกี่ยวกับนิสัยที่ผิดแปลกของเขา เผ่าหมาป่า? เขาที่มองเห็นเผ่าหมาป่าเขากลับยังเป็นปรกติ ทั้งสัญชาตญาณของเขาที่มีต่อเผ่าหมาป่านั้นจะแตกต่างออกไปโดยที่เขาไม่รู้ตัว!"จงซานที่ส่ายหน้าไปมา.

"?"จงเทียนที่เผยท่าทางสงสัย.

"กล่าวอีกอย่างหนึ่ง หลิวอู๋ซ่างแท้จริงนั้นยังมีจิตสำนึกที่แตกแยก! คนสองบุคลิก! ทว่าเมื่อคืนนี้ หลิวอู๋ซ่างนั้นกับแสดงออกมาเพียงแค่บุคลิกเดียว อีกบุคลิกไม่เผยออกมาแม้แต่นิดเดียว."จงซานที่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.

"คนสองบุคลิก? เป็นไปได้อย่างงั้นรึ?"จงเทียนที่เผยท่าทางไม่อยากเชื่อ เรื่องนี้มีคนรับรู้ด้วยรึ?

"หลิวอู๋ซ่างที่เป็นจินอี้เหว่ยนั้น เจ้าควรรับรู้ว่าเขาได้กระทำต่อเหล่านักโทษอย่างอมหิต การทรมานของเขานั้นไม่ธรรมดา ทำให้เหล่านักโทษต้องส่งเสียงกรีดร้องอย่างทุกข์ทรมาน เจ้ารู้ใช่หรือไม่?"จงซานที่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.

"ข้าเพียงแค่รู้ว่าหลิวอู๋ซ่างนั้นคือปิศาจร้ายที่น่าสะพรึงในคุก เหล่านักโทษในคุกสวรรค์นั้นเพียงแค่ได้ยินชื่อของเขาก็กลัวแล้ว! ทว่านิสัยของเขานั้น มีอะไรเกี่ยวข้องกับจิตสำนึกที่แปลกแยกด้วยอย่างงั้นรึ?"จงเทียนเผยท่าทางสงสัย.

"ความลับของหลิวอู๋ซ่าง ในอดีตข้านั้นพบกับหลิวอู๋ซ่าง ในครั้งนั้นเพื่อแลกกับการถูกรุกรานสำนัก เขาต้องถูกหมาป่าทรมานสามปี หลังจากที่ผ่านพ้นมาสามปี เขาก็แข็งแกร่งขึ้นมาเป็นอย่างมาก เขาที่ได้ผ่านความยากลำบากสามปีจากหมาป่าน้อย จนทำให้เกิดมารภายในใจที่เพิ่มพูนสูงขึ้นเรื่อย ๆ  ทำให้เมื่อพบเจอกับเผ่าหมาป่า จึงทำให้เขาเผยบุคลิกที่สองออกมา แม้นว่าจะปรากฎขึ้นเพียงเล็กน้อย แต่ก็ต้องปรากฎขึ้นในทุกครั้ง."จงซานที่ส่ายหน้าไปมา.

"หลิวอู๋ซ่าง เมื่อเขาจับกุมคนชุดดำเผ่าหมาป่า บุคลิกที่สองไม่ปรากฎ และบุคลิกที่หนึ่งยังปรากฎออกมาอย่างหมดจด เขาที่สามารถตัดสินความสำเร็จและล้มเหลวได้?"จงซานที่สูดหายใจลึก.

จงซานที่พยักหน้ารับ.

ทว่าจงเทียนในเวลานี้ยังไม่เข้าใจกับคำอธิบายตอนนี้คืออะไร คนสองบุกลิคอย่างงั้นรึ? แม้นจะเผยออกมาเล็กน้อย คาดไม่ถึงว่าท่านพ่อกลับมองเห็นรึ?

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด