ตอนที่แล้วChapter 1335 เทพอสูรลำดับหก.
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 1337 เทคนิคลวงใจด้วยสิ่งของ

Chapter 1336 ความสงสัยของจงซาน.


"เขาคือ เทพอสูรลำดับหก อสูรเปลี่ยนร่าง!"

"เทพอสูรเปลี่ยนร่าง?"หลินเซียวที่ขมวดคิ้วไปมา.

"มันสามารถเปลี่ยน ชะตาวิธี พลังฝึกตน แม้แต่วิถีสวรรค์ก็ยังสามารถเปลี่ยนได้ด้วย อีกทั้งวิชาช่วงชิงชะตาก่อนหน้านี้ของเขา ยังถูกเขานำไปใช้."ใบหน้าของจงเสวียนที่เปลี่ยนเป็นอัปลักษณ์.

"เปลี่ยนได้สมบูรณ์ขนาดนั้นเลยรึ?"ใบหน้าของหลินเซียวที่ยิ่งเปลี่ยนเป็นอัปลักษณ์มากขึ้น.

"ยกเว้นทักษะเทวะ ไม่สามารถใช้ทักษะเทวะของอีกฝ่ายได้ เมื่อเปลี่ยนเป็นคนอื่น ๆ แล้ว ทักษะเทวะในร่างนั้นจะหายไป!"จงเสวียนกล่าว.

หลินเซียวที่เคาะโต๊ะไปมาเบา ๆ  จากนั้นก็จ้องมองจงเสวียนด้วยความจริงจัง.

"นอกจากนี้ สิ่งที่แย่ที่สุด ความสามารถของเทพอสูรเปลี่ยนร่างนั้น ถึงไม่สามารถใช้ทักษะเทวะของอีกฝ่ายได้ ทว่ากับสามารถเลียนแบบนิสัยได้อย่างสมบูรณ์ แม้แต่อยู่ในสวนสวรรค์ลอยฟ้าหลิงเซียว ยังสามารถครอบครองทุกอย่างที่เป็นของข้าได้ทั้งหมด."จงเสวียนที่กล่าวออกมาด้วยความกังวล.

"นิสัยด้วยอย่างงั้นรึ?"หลินเซียวที่ขมวดคิ้วแน่น.

"ครับ ขอเพียงสุขุมไว้ ก็สามารถซ่อนความจริงจากขุนนางต้าเจิ้งทั้งหมดได้ เรื่องนี้เป็นเรื่องทั่วไป ระหว่างทางนั้นข้าได้พยายามที่จะหาคนที่จะสามารถติดต่อกับท่านพ่อได้ ช่างน่าเสียดายเขากับมองเห็นทั้งหมด หากไม่เพราะว่าข้าตอบสนองได้เร็ว คงถูกเขาจับไปแล้ว ดังนั้นหลานจึงคิดถึงลุงหลิน ลุงหลินแม้นว่าจะเป็นข้าราชบริพารของต้าเจิ้ง ทว่าก็ยังเป็นอาของหลาน ต้าเจิ้งกำลังพบกับปัญญาใหญ่ ขอให้อาหลินเดินทางกลับต้าเจิ้งตอนนี้ เพื่อที่จะเผชิญหน้ากับจงเสวียนตัวปลอม เซิ่งหวังจะต้องเชื่อท่านแน่!"จงเสวียนที่กล่าวออกมาด้วยท่าทางร้อนใจ.

หลินเซียวที่ส่ายหน้าไปมา "ข้าจะส่งสัญญาณหนูกลับไปหาเซิ่งหวังก่อน!"

"ไม่ ไม่ได้ผล อาหลิน อสูรเปลี่ยนร่างนั้นต้องการปกปิดทุกอย่างกับทุกคน ท่านพ่อนั้นอยู่ในที่แจ้ง มันอยู่ในที่มืด นอกจากนี้ยังมีทักษะเทวะที่แปลกประหลาด ข้ากังวลว่ามันจะไปไม่ถึงท่านพ่อ!"จงเสวียนที่กล่าวออกมาด้วยความกังวล.

ใบหน้าของหลินเซียวที่เปลี่ยนเป็นอัปลักษณ์ ก่อนที่จะลุกขึ้นพลางถอนหายใจเดินไปมาในห้องโถง.

"ดี ข้าจะกลับไปยังสวนสวรรค์ลอยฟ้าตามที่เจ้าต้องการ!"หลินเซียวที่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.

"ขอบคุณอาหลิน!"แววตาของจงเสวยนที่เผยท่าทางซาบซึ้ง.

"เจ้าพักก่อนพรุ่ง ข้าจำเป็นต้องเตรียมการที่นี่อีก เพื่อที่จะปกปิดเส้นทางของพวกเราในการเดินทางกลับ หลังจากนี้สองวัน พวกเราจะกลับไปยังสวนสวรรค์ลอยฟ้าหลิงเซียว!"หลินเซียวกล่าว.

"อืม!"

----------------------------------------------------------

สวนสวรรค์ลอยฟ้าหลิงเซียว.

หลังจากที่จงซานกลับมา ก็มีการประชุมอีกหลายครั้ง เรื่องทุกอย่างก็เป็นเรื่องทั่ว ๆ ไป ด้วยราชกิจไม่น้อยที่ถูกส่งไปยังภพหยินเพื่อให้ร่างแยกเงาจงซานจัดการ ทำให้มีงานราชกิจไม่ได้มากมายนัก.

ภายในตำหนักเทียนหยวน.

จงซานที่นั่งอยู่ด้านหลังโต๊ะบัญชาการ ที่ด้านหน้าปรากฎเงาร่างหนึ่ง.

"หยิงเหว่ย หมายเลย 1917 คารวะเซิ่งหวัง!"องค์รักษ์เงาที่กล่าวออกมาด้วยความเคารพ.

"ได้อะไรมาบ้าง?"จงซานที่สอบถามออกมาด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม.

"ไม่ได้อะไรเลยขอรับ จินอี้เหว่ยเอ่ยก็เช่นกัน องค์รักษ์ที่ตายไปนั้นไม่เห็นแม้แต่ศพ ทว่าผู้น้อยพบว่ารางวัลนำจับองค์รักษ์คนดังกล่าวนั้นมากขึ้น และค้นหาไปทุกทิศทุกทาง แม้แต่จินอี้เหว่ยยังถูกสั่งการไปยังทุกเมือง!"หยิงเหว่ยที่กล่าวออกมาด้วยความเคารพ.

"ข้ารู้ว่าเรื่องนี้เสวียนเอ๋อขอให้หลิวอู๋ซ่างช่วยอย่างงั้นรึ?!"จงซานกล่าวสอบถามออกมา.

"ครับ!"องค์รักษ์เงากล่าวตอบรับ.

"ออกไปก่อน!"จงซานเอ่ย.

"ครับ!"หยิงเหว่ยที่หายไปในทันที.

ทว่าจงซานที่จมลงไปในความคิด รางวัลนำจับมันดูแปลกประหลาดเป็นอย่างมาก ต้องการศีรษะ ไม่ต้องการให้มีชีวิตอย่างงั้นรึ? ไม่จับเป็นมาสอบสวนอย่างงั้นรึ? ทำไม?

จงซานที่เคาะนิ้วไปมาเบา ๆ .

หลังจากนั้นไม่นาน ที่ด้านนอกห้องอักษรปรากฎคนกลุ่มหนึ่งเข้ามา.

เป็นกลุ่มของเสนาธิการต้าเจิ้ง และไท่จื่อสองนั่นเอง.

"ท่านพ่อ ที่นี่มีจื่อหยางจิงหงคอยเฝ้ามองสถานการณ์ทั่วหล้าแล้ว บุตรไม่ได้เห็นซิวลี่นานแล้ว บุตรต้องการไปพบกับซิ่วลี่!"จงเสวียนที่กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.

"หืม?"สายตาของจงซานที่สั่นไหวไปมา.

"นี่ก็ผ่านมาสองสามปีแล้ว! บุตรไม่ได้เจอนาง!"จงเสวียนที่กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.

จงซานที่เผยยิ้ม ส่ายหน้าไปมา "ดูเหมือนว่าเจ้าโชคไม่ดีนัก ดูเหมือนจื่อหยางซิวลี่จะเพิ่งปิดด่านบำเพ็ญ นางไม่ได้บอกเจ้าอย่างงั้นรึ?"

"หืม ฮึฮึ!"จงเสวียนที่เผยยิ้มอักอ่วน ก่อนที่จะปรับมันทันที ดูเหมือนว่าเขาจะไม่มีทางเอาชนะใจจื่อหยางซิวลี่ได้.

จื่อหยางซิวลี่ปิดด่านบำเพ็ญ จงเสวียนที่ไม่สามารถเดินทางไปยังภพหยิน ทว่าเขาก็ไม่สามารถกล่าวอ้างเรื่องอื่นได้เช่นกัน.

จากนั้น อี้เหยี่ยนและคนอื่นได้กล่าวรายงานเกี่ยวกับสถานการณ์การรบ และกล่าวถึงสถานการณ์ของหลินเซียวที่บุกเบิกได้อย่างรวดเร็ว.

"การเดินทัพของ แม่ทัพหลินนั้นรวดเร็วร้ายกาจที่สุด นอกจากนี้ยังเปี่ยมไปด้วยแผนการ ได้รับชัยชนะ ทว่าก็ไม่ได้อหังการ ยังคงโจมตีไปช้า ๆ อย่างมั่นคง!"อี้เหยี่ยนที่กล่าวแสดงความเห็น.

"กำราบด้วยอำนาจที่เหนือกว่า ลากเวลาให้ยาวนาน เพื่อทำให้ขวัญกำลังใจฝ่ายตรงข้ามหดหาย แล้วใช้ทัพที่เหนือกว่าบดขยี้ การเดินทัพของแม่ทัพหลิน ช่างมีวิธีที่หลากหลายน่าสะพรึงกลัวยิ่งนัก."สุ่ยจิงที่กล่าวขื่นชม.

แม้นว่าจะเป็นเหตุผลที่สมเหตุสมผล ทว่าจงซานที่อยู่ใกล้ ๆ ต้องขมวดคิ้วไปมาเล็กน้อยเช่นกัน.

หลังจากที่ปรึกษาหารือกัน ก่อนที่ทุกคนจะจากไป.

จงซานที่นั่งอยู่ด้านหลังโต๊ะ เคาะนิ้วไปมาเบา ๆ  มีปัญหาอะไร?

เรื่องของการบัญชาทัพ จงซานไม่ได้เข้าไปยุ่งวุ่นวาย ทว่าก็เฝ้ามองวิธีการของแต่ละคนจากด้านนอก แม้นว่าจะถูกปรับเปลี่ยนตามสถานะการณ์ มีความซับซ้อน ทว่าก็จะมีจุด ๆ หนึ่ง พื้นฐานและนิสัยที่ไม่ต่างจากเดิมมากนัก.

อีกฝั่งหนึ่ง จงเสวียนที่กลับมายังตำหนักตัวเอง.

ตำหนักของจงเสวียนนั้นอยู่ไม่ไกลจากเทือกเขาเทียนเซี่ยนัก.

จงเสวียนที่กลับมายังห้องอักษรของตัวเอง ที่ด้านหน้านั้นมีอาวุโสเทียนที่ยืนแสดงความเคารพอยู่.

"บรรพชนรุ่นหนึ่ง!"อาวุโสเทียนที่กล่าวออกมาด้วยความเคารพ.

ถึงแม้นว่าเวลานี้ อาวุโสเทียนจะยังเผยท่าทางเหลือเชื่อออกมา ไท่จื่อจงเสวียนได้กลายเป็นบรรพชนรุ่นหนึ่งไปแล้วอย่างงั้นรึ?

จงเสวียนในเวลานี้ ใบหน้าที่เผยท่าทางจริงจังออกมา แม้นว่าจะไม่ได้ปล่อยกลิ่นอายใด ๆ ออกมา ทว่ากับทำให้คนอื่น ๆ รู้สึกหวั่นไหว สัมผัสได้ถึงดวงวิญญาณที่ใหญ่โต น่าเกรงขาม.

"จงซาน ร้ายกาจจริง ๆ ! ดูเหมือนทุกอย่างที่เขากระทำ น้ำไม่รั่วเลยสักหยุด ไม่มีข้อบกพร่องเลย ถึงแม้นว่าจะเข้าใกล้ คาดไม่ถึงเลยว่าจะมองหาข้อบกพร่องไม่เจอเลย!"ไท่จื่อจงเสวียนกล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.

"ครับ จงซานผู้นี้ เป็นละเอียดรอบคอบ ระวังอยู่ตลอดเวลา บางทีคงเป็นเรื่องปรกติทั่วไปของเขาไปแล้ว!"อาวุโสเทียนพยักหน้ารับ.

"อืม เจ้าเองดูเหมือนจะช้าไปหน่อย เรื่องต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นรอบ ๆ เองตอบสนองช้าไปหน่อย เจ้าไม่ควรจะอยู่ในสวนสวรรค์ลอยฟ้าหลิงเซียวชั่วคราว เพื่อป้องกันความผิดพลาด!"ไท่จื่อจงเสวียนกล่าว.

อาวุโสเทียนที่พูดไม่ออก ได้แต่ก้มหน้าด้วยความอับอาย.

"เอาล่ะ ข้ามีงานสำคัญให้เจ้าต้องไปจัดการพอดี!"ไท่จื่อจงเสวียนที่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.

"รับทราบ!"อาวุโสเทียนกล่าวออกมาด้วยความเคารพ.

------------------------------------------------------------------

ฮาเร็มของจงซาน.

"เหล่าเย่ ข้าเตรียมตัวเสร็จแล้ว พาพวกเราไปยังภพหยินที!"เป่าเอ๋อที่อยู่ในอ้อมแขนจงซานกล่าวออกมาด้วยเสียงที่ออดอ้อน.

จงซานที่ส่ายหน้าไปมา "เจ้า เซียนเซียน หวนจี ไม่สามารถไปได้ชั่วคราว!"

"ทำไม?"เป่าเอ๋อที่เผยท่าทางไม่เข้าใจ.

"ข้าสังหรณ์ใจไม่ดีนัก ตอนนี้ข้าต้องการแบ่งแยกภพหยางและหยินออกจากกัน เวลานี้ไม่สามารถให้ใครเดินทางไปได้ รอข้าจัดการปัญหาเสร็จแล้ว เจ้าค่อยไปอีกครั้ง!"จงซานกล่าวออกมาด้วยเสียงที่อ่อนโยน.

เป่าเอ๋อจ้องมองไปยังจงซาน ท้ายที่สุดก็พยักหน้าด้วยความงงงวย.

"ในช่วงนี้ เจ้า เซียนเซียนและหวนจี ทั้งสามไม่ควรจะแยกจากกัน ไม่ว่าอย่างไรต้องอยู่ในสายตาของกันและกัน."จงซานที่กล่าวออกมาด้วยความจริงจัง.

"ทำไม? หรือว่าเหล่าเย่ต้องการให้เขาอยู่เป็นเพื่อนข้าอย่างงั้นรึ?"เป่าเอ๋อที่เบ้ปากเล็ก

จงซานที่ส่ายหน้าไปมา จงซานไม่ได้เผยยิ้มแสดงท่าทางล้อเล่น กล่าวออกมาอย่างจริงจัง "ข้ายังไม่สามารถบอกเจ้าได้ ทว่าพวกเจ้าทั้งสามต้องอยู่ในสถานที่เดียวกัน!"

"สาหัสขนาดนั้นเลยรึ?"เป่าเอ๋อที่เผยท่าทางประหลาดใจ.

"สามารถซ่อนความจริงจากข้า ซ่อนความจริงจากเสนาธิการทั้งหมดของต้าเจิ้ง เจ้าคิดว่าสาหัสหรือไม่?"จงซานที่กล่าวออกมาอย่างจริงจัง.

"อืม!"เป่าเอ๋อพยักหน้ารับ.

"จำไว้ให้ดี ไม่ว่าจะเวลาใหน ข้าจะใช้รหัสลับกลับเจ้านับจากเวลานี้.

"รหัสลับ?"เป่าเอ๋อที่เผยท่าทางแปลกประหลาด.

"รหัสลับคือ วางใจวิกฤติ ข้าจะกล่าวอักษรทั้งสี่ มันเป็นเรื่องวิกฤติ ข้าจะหาโอกาสไปพบกับคนอื่น ๆ ด้วย พวกเจ้าห้ามอยู่ห่างกัน ไม่ว่าจะเป็นโต๊ะอาหาร หรือที่นอน!"จงซานที่กล่าวออกมาอย่างจริงจัง.

"อืม!"เป่าเอ๋อที่พยักหน้ารับ.

ยกเว้นเป่าเอ๋อ เซียนเซียนและหวนจีที่สามารถใช้วิธีง่าย ๆ นี้ได้ ส่วนคนอื่น ๆ จงซานที่เผยท่าทางเป็นกังวลเช่นกัน.

จงซานที่พยายามที่จะปกปิดจุดอ่อนต่าง ๆ เท่าที่จะทำได้ เฝ้ามองเรื่องต่าง ๆ ทั่วสวนสวรรค์ลอยฟ้าหลิงเซียว มองหาต้นตอของปัญหา ทว่าเรื่องดังกล่าวนี้จงซานต้องจริงจังเป็นอย่างมาก ต้นตอของปัญหานี้ไม่ธรรมดา เขาจำเป็นต้องรออย่างอดทน เพื่อให้มันปรากฎออกมา.

วิกฤติคืออะไร? จงซานไม่รู้ได้ในเวลานี้ ทว่าเขากำลังเฝ้ามองทั่วต้าเจิ้งจดจ้องมองเรื่องราวที่แตกต่างจากที่ควรจะเป็น.

------------------

"มู่โห่ว บุตรต้องการขอคำปรึกษา!"จงเสวียนที่เอ่ยออกมาด้วยท่าทางเขินอาย.

"อะไร? เจ้ากล่าวมา!"เป่าเอ๋อที่กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.

จงเสวียนที่จ้องมองเซียนเซียนและหวนจี พร้อมกับกล่าวออกมาด้วยท่าทางเขินอายเล็กน้อย "ข้าต้องการพูดคุยกับมู่โห่วเพียงลำพัง ใช้เวลาไม่ถึงร้อยลมหายใจ ท่าน...!"

จงเสวียนเองก็นับเป็นบุตร ที่เป่าเอ๋อเฝ้ามองตั้งแต่เด็กจนโตเช่นกัน ในเวลานี้ ขณะที่นางเตรียมจะให้เซียนเซียนและหวนจีจากไป ทว่า คิดถึงคำพูดของจงซานได้ในทันที ท้ายที่สุดก็ส่ายหน้าไปมา.

"เกี่ยวกับจื่อหยางซิวลี่อย่างงั้นรึ? เซียนเซียนและหวนจีได้พูดกับข้ามาก่อนแล้ว เอาล่ะ เจ้ากล่าวมา!"เป่าเอ๋อที่เผยยิ้ม.

"ใช่ ไม่เห็นจะมีอะไรเลย!"เซียนเซียนที่กล่าวล้ออยู่ข้าง ๆ .

จงเสวียนที่ใบหน้าสีแดง ก่อนที่จะเผยยิ้มออกมา "คือ ที่จริงนาง ข้าคิดว่าต้องการให้มู่โห่วช่วยข้าพูด ให้นางดีกับข้า."

"ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!"เซียนเซียนที่หัวเราะออกมาเสียงดังอย่างไม่สนใจใคร.

ใบหน้าของจงเสวียนที่เปลี่ยนเป็นสีแดง ก่อนที่จะกล่าวออกมาด้วยท่าทางอาย ๆ  "มู่โห่ว เช่นนั้น บุตรขอลาก่อน!"

จางนั้น จงเสวียนก็จากไปอย่างรวดเร็ว.

ผ่านไปไม่นาน.

ภายในตำหนักเทียนหยวน.

หลังจากที่จงซานที่กำลังประชุมเล็ก ๆ นี้.

"เจ้าออกไปก่อน!"จงซานเอ่ย.

"รับทราบ!"เหล่าขุนนางทั่วไปที่พยักหน้ารับ.

ก่อนที่จะแยกย้ายจากไป.

"เสวียนเอ๋อ เจ้ามีเรื่องอะไรอย่างงั้นรึ?"จงซานที่เอ่ยออกมาด้วยความสงสัย.

"ท่านพ่อ บุตรมีเรื่องที่จะกล่าวกับท่านพ่อเพียงลำพัง!"จงเสวียนเอ่ย.

ในเวลานี้เหลือเพียงแค่คนสนิทที่ยังไม่ได้แยกย้าย.

"เรื่องครอบครัวหรือเรื่องอาณาจักร?"จงซานเอ่ยถามออกมาในทันที.

"เรื่องของอาณาจักร!"จงเสวียนครุ่นคิดและกล่าวออกมา.

"ที่นี่ไม่มีคนอื่น ในเมื่อเป็นงานเกี่ยวกับอาณาจักร ทุกคนในนี้ยิ่งไม่ควรจากไป เจ้ากล่าวมา!"จงซานเอ่ย.

อี้เหยี่ยน สุ่ยจิงที่จ้องมองจงเสวียนอย่างจริงจัง.

จงเสวียนที่ครุ่นคิดและกล่าวออกมา "ท่านพ่อ บุตรคิดว่าการบุกเบิกภพหยางขั้นแรกเป็นไปด้วยดีแล้ว ในภพหยินเองก็ควรจะต้องเริ่มว่างแผนแล้วไม่ใช่รึ?"

"เรื่องนี้ แน่นอนข้ารู้ดี เจ้าไม่จำเป็นต้องกังวล เวลานี้ระวังเรื่องสำคัญที่เกิดขึ้นทั่วหล้าเถอะ!"จงซานที่ส่ายหน้าไปมา.

"ครับ!"จงเสวียนที่ได้แต่ตอบรับ ภายในใจที่รัดแน่น.

เหล่าเสนาธิการที่มองเห็นอะไรบางอย่างได้เช่นกัน แต่ไม่มีใครเอ่ยสิ่งใด.

จงเสวียนและเหล่าขุนนางอื่น ๆ ที่แยกย้ายจากไป.

"จงซานที่นั่งอยู่ในห้องคนเดียว เคาะโต๊ะไปมาเบา ๆ .

"ออกมา!"จงซานที่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.

"วูซซซซ!"หยิงเหว่ยที่ปรากฎตัวขึ้นในทันที.

"หยิงเหว่ย หมายเลข 1917 คารวะเซิ่งหวัง!"องค์รักษ์เงาที่กล่าวออกมาด้วยความเคารพ.

"หลังจากที่ข้าเดินทางไปยังทวีปกลาง จวบจนถึงตอนนี้ ทุกอย่างที่เสวียนเอ๋อกระทำ ให้รวบรวมข้อมูลทั้งหมดมาให้กับข้า!"จงซานที่กล่าวออกมาด้วยใบหน้ามืดครึ้มเล็กน้อย.

ในเวลานี้ จงซานนั้นไม่ต้องการที่จะสงสัยในตัวจงเสวียนจริง ๆ .

"ครับ!"

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด