Chapter 1334 จงซานกลับมา สถานะของชายแขนขาด.
"เอ๊ะ? ลุงแขนขาด ประกาศจับท่านอย่างงั้นรึ?"
ชายแขนขาดที่จ้องมองไปยังรูปภาพ พร้อมกับเผยใบหน้าอัปลักษณ์.
"จื่อหยิงหยิง ข้าต้องไปแล้ว!"ชายแขนขาดที่กล่าวออกมาอย่างจริงจัง.
"? ทำไม?"จื่อหยิงหยิงที่กล่าวออกมาอย่างกระวนกระวายใจ.
"โปรดวางใจ หากว่าข้ายังมีชีวิต อีกไม่กี่ปีข้าจะต้องกลับมาหาเจ้า ตอนนี้ข้ามีเรื่องสำคัญต้องทำ!"ชายแขนขาดที่เอ่ยออกมาอย่างเคร่งขรึม.
"ได้!"จื่อหยิงหยิงที่กล่าวออกมา.
"ข้าเสียแขน ตอนนี้คงต้องรบกวนเจ้าสักเล็กน้อย!"ชายแขนขาดกล่าวออกมาด้วยท่าทางร้อนรนเล็กน้อย.
"อืม ลุงแขนขาด ขอเพียงท่านกล่าว ข้าจะต้องช่วยอย่างแน่นอน!"
"ในหุบเขาแห่งนี้ข้าได้ตรวจดูแล้ว ที่เนินนั่นมีหญ้าหม่าหวง เจ้าไปเก็บมา หลังจากนี้ข้าจะสอนเจ้ายอมผม และที่เนิ่นนั่นยังมีเถาวัลย์สีเทา เจ้าช่วยกรีดยางออกมา ผสมน้ำย้อมสีผิวให้กับข้าด้วย และเจ้าแต่งคิ้วให้กับข้าด้วย."ชายแขนขาดที่เอ่ยทำได้แค่ส่ายหน้าไปมา.
"ได้ ได้!"
--------------------------------------------------------
หลังจากนั้นสองปีถัดมา.
จงซานหลังจากเก็บเกี่ยวที่ทวีปกลาง ก็ได้นำคนกลุ่มใหญ่ เร่งรีบกลับมายังสวนสวรรค์ลอยฟ้าหลิงเซียว.
ขณะที่กลับมานั้น คนกลุ่มใหญ่ในสวนสวรรค์ลอยฟ้าหลิงเซียวที่เต็มไปด้วยความระมัดระวัง เมื่อเห็นจงซานกลับมา ทุกคนที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้น.
"คารวะเซิ่งหวัง!"
"คารวะเซิ่งหวัง!"
..............................
............
......
เหล่าขุนนางทั้งทางทหารและพลเรือน ต่างก็กล่าวแสดงความเคารพด้วยความตื่นเต้น เหล่าคนที่กลับมาพร้อมจงซาน เมื่อเห็นชื่อเสียงวาสนาและกรรมวาสนาของต้าเจิ้ง ถึงกับอุทานออกมาด้วยความตื่นตระหนกตกใจ.
"นี่มัน ชื่อเสียงวาสนาของศาลเทพอย่างงั้นรึ? มากมายขนาดนี้เลยรึ?"
"โชคดีแล้ว!"
"ฟู่ ต้าเจิ้งทรงพลังจริง ๆ !"
..............................
..................
......
ผู้ฝึกตนหลายคนที่เพิ่งเข้าร่วมต้าเจิ้ง ภายในใจที่ถอนหายใจยาว การเดินทางครั้งนี้ไม่ได้เสียเปล่า นับเป็นการเลือกที่ถูกต้อง.
ขณะที่กลุ่มจงซานเข้ามาใกล้ ก็มีใครบางคนส่งเสียงผ่านเข้ามา เหล่าเสนาธิการหลายคนที่เร่งรีบออกมาแสดงความเคารพกับจงซาน.
"เฉินและทุกคนคารวะเซิ่งหวัง คารวะหวงโหว! คารวะไท่จื่อ!"ที่ด้านนอกตำหนักซ่างเฉิน เหล่าขุนนางกว่าร้อยคนที่ออกมาต้อนรับ.
"ไม่ต้องมากพิธี!"จงซานที่กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.
"ขอบพระทัยเซิ่งหวัง!"เหล่าขุนนางที่ลุกขึ้นยืน.
"ทุกคนคือข้าราชบริพารใหม่ หลิวอู๋ซ่าง!"จงซานที่เอ่ยปากออกมาในทันที.
"เฉินอยู่นี่แล้ว!"หลิวอู๋ซ่างที่เอ่ยออกมาด้วยความเคารพ.
"พาทุกคนไปหาที่พักก่อน!"จงซานสั่งการ.
"รับทราบ!"หลิวอู๋ซ่างที่รับคำสั่งในทันที.
"ขุนนางทุกท่าน ต้าเจิ้งได้เตรียมที่พักให้กับทุกคนแล้ว โปรดไปกับหลิงอู๋ซ่าง แล้วข้าจะเรียกพบอีกครั้ง!"จงซานที่กล่าวกับทุกคน.
"รับทราบ!"ทุกคนที่เดินทางมาจากทวีปกลางที่ตอบรับในทันที.
หลาย ๆ คนที่เผยท่าทางสงสัย จัดเตรียมไว้แล้ว? เป็นไปได้อย่างไร? ไม่ใช่ว่าจงซานเพิ่งกลับมาถึงพร้อมกันหรอกรึ? แน่นอน ถึงสงสัยแต่ก็ไม่มีใครกล้าเอ่ยออกมา.
"ผู้น้อยผู้บัญชาการจินอี้เหว่ยต้าเจิ้ง หลิวอู๋ซ่าง ให้ให้ทุกท่านตามข้ามา!"หลิวอู๋ซ่างที่กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.
"อืม เยี่ยมเลย!"
"ขอบคุณต้องรบกวนเซียนเซิงซือหลิว!"
..................
............
......
ทุกคนที่เอ่ยตอบกันไปมา ขณะที่ก้าวตามหลิวอู๋ซ่างไป.
ที่อยู่ในเวลานี้เหลือเพียงแค่ขุนนางเก่าของต้าเจิ้งเท่านั้น.
ในเวลาเดียวกัน สายตาของทุกคนที่จ้องมองไปยังจงเทียนเป็นสายตาเดียวกัน.
ปราชญ์เทพ? จริงอย่างงั้นรึ? นี่คือปราชญ์เทพ?
กลิ่นอายของจงเทียนที่ถูกเก็บเอาไว้ จึงดูไม่ต่างจากคนทั่วไป เพียงแค่สิ่งที่แตกต่างก็คือใบหน้าที่เลือนลางถูกปกปิดความสูงศักดิ์ เป็นสิ่งที่เฉพาะสำหรับปราชญ์เทพทุกคน.
เหล่าขุนนางทุกคนที่รับรู้ว่าจงเทียนได้เป็นปราชญ์เทพไปแล้ว ต้าเจิ้งมีปราชญ์เทพแล้ว.
"ยินดีกับพี่ใหญ่ที่ได้ตำแหน่งปราชญ์เทพผู้ถือครองอำนาจฟ้าดิน!"ไท่จื่อจงเสวียนที่เผยยิ้มออกมาเล็กน้อย.
"น้องสาม ไม่ได้เห็นนานเลย!"จงซานที่กล่าวออกมาพลางถอนหายใจเบา.
ไม่ได้พบนานอย่างงั้นรึ? ไม่ได้เห็นนาน นับตั้งแต่ที่จงเสวียนได้ทรยศ คาดไม่ถึงว่าเขาจะตกตายใช้ชีวิตตัวเองเพื่อจงซาน ซึ่งเพียงพอที่จะชะล้างความเข้าใจผิดทั้งหมดไป.
"เสี่ยวเสวียนจื่อหมดวันหยุดแล้ว เจ้ายังยิ้มได้อีกเหรอ!"เซียนเซียนที่อยู่ข้าง ๆ กล่าวออกมาในทันที.
"หืม?"ใบหน้าของจงเสวียนที่แข็งค้าง ท่าทางกลายเป็นวุ่นวายเล็กน้อย ทว่าก็ฟื้นคืนกลับมาในทันทีกับคำกล่าวล้อของตี้เซียนเซียน จากนั้นก็ส่ายหน้าและฝืนยิ้มออกมา.
"ขุนนางทุกคน วันนี้กลับไปก่อน ไม่ว่ามีเรื่องอะไร อีกสองสามวัน ค่อยเข้ามารายงานอีกครั้ง!"จงซานเอ่ย.
"รับทราบ!"ขุนนางทุกคนที่กล่าวตอบรับ.
เหล่าขุนนางของต้าเจิ้งที่สลายไป เหลืออี้เหยี่ยน สุ่ยจิง หนานกงเซิ่งและคนสำคัญที่ยังอยู่.
"เซียนเซียน หวนจี พวกเจ้าไปตำหนักเป่าเอ๋อ ช่วยจัดการเรื่องต่าง ๆ ให้เรียบร้อย!"จงซานกล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.
"อืม!"หวนจีและเป่าเอ๋อพยักหน้ารับ ส่วนเซียนเซียนที่แลบลิ้นเล็กของนางออกมา.
หลังจากทุกคนกลับไป จงซานที่นำเหล่าคนสำคัญของต้าเจิ้งกลับไปยังตำหนักเทียนหยวน.
ตำหนักเทียนหยวน จงซานที่นั่งอยู่บนโต๊ะประจำ.
"อี้เหยี่ยน สุ่ยจิง หลายวันมานี้ ต้องรบกวนพวกเจ้าแล้ว!"จงซานเอ่ย.
"ไม่เลย เป็นเหล่าทหารในแนวหน้าที่ต้องบุกเบิกดินแดนต่างหากที่ลำบาก!"สุ่ยจิงที่ส่ายหน้าไปมา.
"เฮ้เฮ้ เซียนเซิงสุ่ยจิงก่อนหน้านี้อาจจะกังวลเล็กน้อย ทว่า พวกเราก็ประสบความสำเร็จผ่านมาได้ ไม่คิดว่ามันลำบากอะไร หลังจากที่ไท่จื่อได้ตำแหน่งปราชญ์เทพมา ขวัญกำลังใจของพวกเราก็เพิ่มพูนขึ้นทำให้สามารถยึดครองดินแดนได้โดยง่าย นอกจากนี้ เหล่าศัตรูเองก็ถูกสั่นคลอนขวัญกำลังใจ 12 พื้นที่ ยี่สิบปี ภายในยี่สิบปีจะต้องกลายเป็นของต้าเจิ้งทั้งหมด!"อี้เหยี่ยนที่กล่าวออกมาด้วยความตื่นเต้น.
"อืม!"จงซานพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ.
เหล่าเสนาธิการของต้าเจิ้งต่างก็เผยท่าทางตื่นเต้นกันไม่น้อย.
"เสวียนเอ๋อ!"จงซานที่จ้องมองไปยังจงเสวียน.
"ฟู่หวง!"จงเสวียนพยักหน้ารับ.
"ข้าได้มอบหมายให้เจ้าเฝ้ามองเรื่องราวทั่วหล้า มีอะไรที่ผิดปรกติเกิดขึ้นบาง?"จงซานสอบถาม.
"ใต้สวรรค์แห่งนี้?บุตรได้เฝ้ามองมาตลอด ทว่าไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้นเลย!"จงซานที่ส่ายหน้าไปมาเผยท่าทางประหลาดใจ.
"ข้ารับรู้ว่ามันกำลังเกิดเรื่องบางอย่างขึ้น เจ้าจงทำนายดูอีกครั้ง จื่อหยางจิงหง เจ้าช่วยเสวียนเอ๋อ พยากรณ์เรื่องราวสำคัญที่จะเกิดขึ้นในโลกหล้า ข้าสังหรณ์ใจไม่ดีนัก!"จงซานที่ส่ายหน้าไปมา.
"รับทราบ!"จื่อหยางจิงหงที่กล่าวออกมาตามตรง.
"ฟูหวงโปรดวางใจบุตรจะทำเต็มกำลัง!"จงเสวียนพยักหน้ารับ.
จากนั้น จงซานที่สอบถามสถานการณ์ต่าง ๆ ของต้าเจิ้ง ก่อนที่จะจบการประชุมไม่มีเรื่องอะไรสำคัญนัก.
หลังจากที่ทุกคนถอยออกไปหมด ภายในตำหนักเทียนหยวน เหลือเพียงจงซาน จงซานที่เคาะนิ้วไปที่โต๊ะครุ่นคิด เพราะว่าบัวหงหลวนที่หน้าผาก บัวหงหลวนสีชมพู เดียวเป็นสีน้ำเงิน เดียวเป็นสีแดง เป็นสถานการณ์ไม่ชัดเจน ดังนั้นภายในใจของจงซานจึงไม่สงบ.
ในเวลานี้ เขายังไม่พบเรื่องราวที่ผิดปรกติเลย.
"ออกมา!"จงซานที่เอ่ยออกมาเบา ๆ .
"วูซซซซ!"
ภายในห้องโถง ปรากฎเงาหนึ่งร่างปรากฎขึ้น คุกเข่าอยู่ที่กลางห้อง.
"องค์รักษ์เงา หมายเลย 1917 คารวะเซิ่งหวัง!"องค์รักษ์เงาที่กล่าวออกมาด้วยความเคารพ.
"อืม ระหว่างที่ข้าออกไป ในวังหลวงมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นบ้าง?"จงซานที่กล่าวออกมาด้วยความสงสัย.
"เรียนเซิ่งหวัง ภายในวังหลวง สองปีก่อนองค์รักษ์สองคนไม่รู้ว่าทำไมถึงได้ละเลยหน้าที่ หลังจากนั้นไท่จื่อจงเสวียนได้ประกาศว่าเขาเป็นกบฏต้าเจิ้ง หนึ่งคนตายอีกหนึ่งหนีไปได้!"หมายเลข 1917 กล่าวรายงาน.
"หืม? กบฏต้าเจิ้ง?"จงซานที่ดวงตาหรี่เล็กลง.
"ครับ คืนหนึ่งทั้งสองที่บุกรุกตำหนักไท่จื่อจงเสวียน ดูเหมือนว่าจะขโมยบางอย่างไป ไท่จื่อลงมือ สังหารคนหนึ่ง อีกคนหนีไปได้! ไท่จื่อได้ประกาศให้รางวัลนำจับเป็นเม็ดยาเซิ่งเซียนสิบเม็ด!"หมายเลย 1917 ที่กล่าวรายงานด้วยความเคารพ.
"นำข้อมูลทั้งสองคนมาให้ข้า!"จงซานกล่าว.
"ครับ!"
หมายเลข 1917 ที่นำข้อมูลตำราสองม้วน เกี่ยวกับกบฏทั้งสองที่รวบรวมมาส่งออกไป.
จงซานที่อ่านข้อมูล ก่อนที่จะเคาะไปที่โต๊ะเบา ๆ .
"หลังจากค้นหาได้อะไรมาบ้าง?"จงซานที่เคาะโต๊ะไปมา กล่าวอย่างเคร่งขรึม.
"ครับ จินอี้เหว่ยได้ส่งคนออกค้นหาแล้ว ส่วนหยิงเหว่ยเองก็ส่งคนออกหาเช่นกัน พวกเราได้ตรวจสอบบรรพชนทั้งแปดรุ่น และตระกูลสาขาทั้งหมด คนทั้งสองนั้นไม่มีบันทึกเกี่ยวกับอาชญากรรมเลย เป็นไปได้ว่าพวกเขาอาจถูกลุ่มอิทธิพสักแห่งยั่วยวน จึงได้ทรยศต้าเจิ้ง."หมาเลย 1917 กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.
"ไม่เคยมีประวัติอาชญากรรม? กลายเป็นกบฏอย่างงั้นรึ?ตายหนึ่งและหนีไปได้หนึ่ง? คนที่หนีไป มีคนไล่ตามอยู่มากมายแต่ไม่พบร่องรอย เห็นชัดเจนว่าคุ้นเคยกับต้าเจิ้ง!"จงซานที่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.
"เซิ่งหวัง เพิ่มคนค้นหาหรือไม่?"หมายเลย 1917 ที่สอบถามออกมา.
"แน่นอน ว่าต้องเพิ่มคน ค้นหาในขนาดที่ใหญ่ขึ้น องค์รักษ์เงา ห้ามแจ้งเรื่องนี้กับผู้ใด!"จงซานที่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.
"รับทราบ!"หมายเลข1917 ตอบรับ.
"ออกไปได้!"จงซานที่โบกมือ.
"ครับ!"หมายเลข 1917 ที่ร่างกายหายไปกับเงาในทันที.
จงซานที่หลับตาพร้อมกับครุ่นคิดอะไรบางอย่าง.
"น่าสนใจ คาดไม่ถึงเลยว่าจะมีเรื่องเช่นนี้?"จงซานที่เผยท่าทางเย็นชากล่าวกับตัวเอง.
-------------------------------------------------------------
ภพหยาง ทิศตะวันออกศาลเทพต้าเจิ้ง.
ผู้บัญชาการค่ายตะวันออก ทัพหน้าของต้าเจิ้ง.
ผู้บัญชาการแม่ทัพ(จู่เสวย)กองกำลังที่ 1 หลินเซียว ขณะนั่งอยู่บนโต๊ะบัญชาการ ใบหน้าที่เผยท่าทางดีใจจดจ้องมองแผนที่ด้านหน้า.
"ผู้บัญชาการ สองปีมานี้ ดินแดนสองแห่งถูกพวกเรายึดมาแล้ว รวมทั้งเขตแดนหงติงแล้ว."เหล่าแม่ทัพ(เจียงจวิน)ที่เอ่ยออกมาด้วยความตื่นเต้น.
"ใช่ ผู้บัญชาการ ทัพใหญ่ทั้งสี่ ทัพตะวันออกเร็วที่สุด แน่นอนว่าพวกเราจะต้องทำหน้าที่เสร็จสิ้นเป็นคนแรกอย่างแน่นอน!"แม่ทัพอีกคนที่กล่าวออกมาด้วยความตื่นเต้น.
"ผู้บัญชาการ กองทัพของพวกเราจะต้องประสบความสำเร็จที่สุด!"
..................
............
......
เหล่าแม่ทัพนายกองที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้น แต่ละคนที่เต็มไปด้วยจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้รุกโชน การบุกที่รวดเร็วทรงพลัง หลินเซียวที่จ้องมองเหล่าแม่ทัพทุกคนด้วความพอใจ ด้วยขวัญกำลังใจที่ดีเยี่ยม ทำให้พวกเขาสามารถยึดครองดินแดนได้อย่างมีประสิทธิภาพ.
"รายงาน!"
ในเวลาเดียวกัน ทหารคนหนึ่งที่เร่งรีบวิ่งเข้ามาในห้องโถง.
"เรียนผู้บัญชาการ ที่ด้านนอกมีคนสองคนขอเข้าพบ และให้นำสารเข้ามาด้วย และเน้นย้ำให้ส่งถึงผู้บัญชาการให้ได้!"ทหารคนดังกล่าวที่เอ่ยและยื่นสารดังกล่าวออกไป.
หลินเซียวที่รับมาด้วยความสงสัย ขณะเปิดออกมาเบา ๆ .
---------
ต้าเจิ้งอยู่ในอันตราย ผู้หลานร้องขออาหลินช่วย!( 大崝危难 侄求援林叔)
--------
อักษรเก้าตัว เป็นอักขระที่บิดเบี้ยวอัปลักษณ์เป็นอย่างมาก ทว่าหลังจากที่หลินเซียวมองดู ดวงตาหรี่เล็กลงอย่างจริงจัง.
“!”
หลินเซียวไม่รู้ว่าเป็นจริงหรือเท็จ ทว่าทันทีที่เห็นสารดังกล่าว ก็ทำให้เขาบังเกิดความสงสัยเป็นอย่างมาก.
"นำเข้ามา!"หลินเซียวที่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม ทว่าเหล่าแม่ทัพนายกองที่อยู่ด้านใน ต่างก็เผยหน้าประหลาดใจ.
"ครับ!"ทหารคนดังกล่าวที่ออกไป.
จากนั้น ปรากฎชายสองคน หนึ่งคนสวมชุดสีเทา สวมหมวกไม้ไผ่ แขนทั้งสองข้างที่ลอยไปมา เพราะแขนขาดทั้งสองข้างนั่นเอง.
หลินเซียวที่จ้องมองคนทั้งสอง ผู้หลาน? ไม่รู้ว่าเป็นใคร?
"เป็นใครที่ต้องการพบข้า?"หลินเซียวที่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.
"เป็นข้า!"ชายแขนขาดที่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.
จากนั้น ชายแขนขาดที่โค้งคำนับให้กับชายในชุดสีเหลืองด้วยความเคารพ "เซียนเซิงหวงที่เมตตา ผู้น้อยจะจดจำไปชั่วชีวิต!"
"ฮ่าฮ่าฮ่า ข้าไม่ได้ทำอะไร? เพียงแค่มีเป้าหมายเดียวกันเท่านั้น แม้นว่าเจ้าจะแขนขาดทั้งสองข้าง ทว่าก็ทำให้ข้าโมโหได้เช่นกัน!"ชายในชุดสีเหลืองเอ่ย.
จากนั้นชายในชุดสีเหลืองเอ่ยต่อออกมาว่า "เคยได้ยินถึงกิตศัพท์ของแม่ทัพหลิน ผู้น้อยไม่ได้มีความสามารถนัก มีแต่กำลัง ต้องการเป็นอาสาสมัครเข้าร่วมรบเพื่อช่วยแม่ทัพหลิน ขณะเดินทางไปยังต้าเจิ้ง! ระหว่างทางนั้น บังเอิญได้ยินว่าแม่ทัพหลินอยู่ที่นี่ จึงได้เดินทางมา!"
อาสาสมัครรบ? เหล่าแม่ทัพที่เผยท่าทางประหลาดใจ.
"จดหมายนี้เจ้าเป็นคนเขียนรึ?"หลินเซียวกล่าวออกมา.
"เป็นข้าเอง!"ชายแขนขาดที่เอ่ยปากออกมาในทันที.
"หืม?"หลินเซียวที่ดวงตาหรี่เล็กลง.
มีพลังฝึกตนหลอมร่างขั้นสุดท้าย ทว่าแขนขาด พลังฝึกตนจึงร่วงหล่นลง เหลือเพียงก่อตั้งวิญญาณ.
"โปรดให้คนอื่นออกไปก่อน ข้ามีเรื่องสำคัญต้องการรายงาน!"ชายแขนขาดกล่าวออกมาด้วยท่าทางร้อนใจ.
"เรื่องสำคัญ? มีอะไรสำคัญกัน?"เหล่าแม่ทัพที่รู้สึกไม่ดีนัก ถึงกับต้องให้พวกเขาออกไป ต้องการทำอะไรกันแน่?
"แม่ทัพหลิน พลังฝึกตนข้าก็อย่างที่เห็น ข้าสามารถเอาศีรษะเป็นประกัน เป็นเรื่องสำคัญแน่นอน ข้าไม่กล้าหลอกลวง หากว่าข้าหลอกลวง ก็มีแต่ตายเท่านั้น!"ชายแขนขาดที่กล่าวออกมาด้วยท่าทางร้อนใจ.
หลินเซียวไม่ได้สนใจเหล่าแม่ทัพ(จงเจียง)เขาสามารถมองเห็นผ่านเข้าไปใต้หมวกไม้ไผ่ สายตาที่เต็มไปด้วยความเคารพ ก่อนที่เขาจะสูดหายใจลึกและกล่าวออกมาว่า "พวกเจ้าออกไปก่อน!"
"ผู้บัญชาการ!"ทุกคนที่เผยท่าทางประหลาดใจ.
"ไป!"หลินเซียวที่ส่ายหน้าไปมา.
"ครับ!"ทุกคนที่ไม่สามารถขัดขืนได้ จำต้องรับฟังคำสั่ง.
"ครืนนนน!"ประตูที่ปิดลงเสียงดัง.
"บอกมาว่าเจ้าเป็นใคร!"หลินเซียวที่กล่าวอย่างเคร่งขรึม.
"อาหลิน ข้าจงเสวียน อาหลิน สวนสวรรค์ลอยฟ้าหลิงเซียวเกิดปัญหาแล้ว!"ชายแขนขาดที่เอ่ยออกมาด้วยความกระวนกระวายในทันที.