Chapter 1332 แผนการใหญ่ของตระกูลเทียน.
"บรรพชนรุ่นแรก? บรรพชนรุ่นแรกคืออะไร?"เทียนโจวจื่อกลายเป็นงงงวย.
ไม่ใช่เพราะเทียนโจวจื่อเสแสร้ง ทว่าเทียนโจวจื่อนั้นไม่รู้ บรรพชนรุ่นแรกตระกูลเทียน? หมายความว่าอย่างไร?
"วูซซซซ!"
บนบัลลังก์ ปรากฎร่าง ๆ หนึ่งขั้นมา สวมมงกฎขนนก ที่ขนสองเส้นขาวดำที่ลู่ไปด้านหลัง ที่ด้านหลังมีตราหยินหยางฟ้าดิน คนผู้นี้ก็คือผู้ยิ่งใหญ่แห่งทวีปเทียน เทียนเต๋าจื่อ.
ใบหน้าของเทียนเต๋าจื่อที่เต็มไปด้วยความอหังการ ไม่เพียงแค่รูปร่างหน้าตาภายนอกเท่านั้น รวมไปด้วยจิตวิญญาณของเขาที่แผ่ออกมา ดูสูงส่งน่าเกรงขามเป็นอย่างมาก.
เทียนเต๋าจื่อ! ความแข็งแกร่งของเทียนเต๋าจื่อ ไม่มีมีใครรู้ ทว่าเพียงแค่ภาพร่างฉายสัมผัสเทวะของเทียนเต๋าจื่อ พลังอำนาจสยบก็มากมายมหาศาลเป็นอย่างมาก.
ผ่านมานานแล้วไม่เคยมีใครเห็นร่างจริงของเทียนเต๋าจื่อ ทว่าพอจะคาดเดาได้ว่าในเวลานี้เขาสามารถตัดผ่านระดับไปได้อีกแล้ว.
ภายในใจของเทียนโจวจื่อ ความแข็งแกร่งของเทียนเต๋าจื่อนั้น ไม่สามารถนำคำว่าแข็งแกร่งออกมาบรรยายได้เลย.
หงจวินภาคตะวันออก ความแข็งแกร่งที่เทียนโจวจื่อเห็นมา เทียนโจวจื่อก็เชื่อว่าประมุขเทียนเต๋าจื่อร่างหลักไม่ได้ด้อยกว่าหงจวินแน่นอน.
นอกจากนี้ความสามารถของเทียนเต๋าจื่อนั้น ยังน่าอัศจรรย์ยิ่งนัก.
เดิมที่ตระกูลเทียน ที่ควบคุมทวีปเทียนนั้น ในเวลานี้กลายเป็นเทียนเต๋าจื่อที่แม้นจะเป็นคนตระกูลสาขา ทว่ากลับมีพลังที่น่าเกรงขาม ทำให้ตระกูลกลับมายิ่งใหญ่ ตั้งแต่แรกตระกูลเทียนสายโลหิตตรงที่ควบคุมพื้นที่ 36 แห่งภายใต้คนสามสิบหกคน หากแต่เวลานี้อยู่ใต้การควบคุมของเทียนเต๋าจื่อเพียงคนเดียว.
เขาคือตัวตนที่ทรงพลังน่าหวาดกลัวเป็นอย่างมาก!
แม้แต่ เทียนโจวจื่อยังรับรู้ว่า กระทั่งตำแหน่งปราชญ์เทพ เมื่อครั้งอดีตปราชญ์เทพร่วงหล่นจากสวรรค์ เหล่ายอดฝีมือแย่งชิงตำแหน่งกัน แต่เป็นเทียนเต๋าจื่อที่ช่วยเขาแย่งมาได้.
ดังนั้น ถึงแม้นว่าเทียนโจวจื่อจะเป็นปราชญ์เทพ หากแต่เทียนเต๋าจื่อก็เป็นคนที่เขาเคารพด้วยใจ.
เทียนเต๋าจื่อที่นั่งอยู่บนบัลลังก์ นิ้วของเขาที่ปัดขนนก ครุ่นคิดอะไรบางอย่าง.
"เรื่องบางเรื่อง ไม่สามารถบอกเจ้าได้ ทว่าในเมื่อมันเกิดขึ้นแล้ว ก็มีแต่ต้องเผชิญหน้ากับมัน!"เทียนเต๋าจื่อเอ่ยออกมาเบา ๆ .
"ประมุข? บรรพชนรุนแรกที่กล่าวถึงนี้คือใครอย่างงั้นรึ?"ภายในใจของเทียนโจวจื่อแม้จะพอคาดเดาได้บ้างแต่มันก็น่าอัศจรรย์ใจเกินไป.
บรรพชนรุ่นแรก? ไม่ใช่ว่าคือบรรพชนรุ่นที่หนึ่งอย่างงั้นรึ?
"ตระกูลเทียนในอดีต แยกออกเป็นตระกูลสายโลหิตและตระกูลสาขา เจ้าคงจะจำได้?"เทียนเต๋าจื่อเอ่ยออกมาเบา ๆ .
"แน่นอนว่าไม่สามารถลืมได้ หลายร้อยปีก่อน ข้าได้เดินทางไปทั่วสารทิศเพื่อค้นหาตราสวรรค์ ค้นหาผู้สืบทอดสายโลหิตตรงที่ทวีปทิศเหนือ ต้าเจิ้ง!"เทียนโจวจื่อที่กล่าวยืนยันออกมาในทันที.
"เจ้ารู้หรือไม่ทำไมถึงต้องแยก? ทั้งสองต่างกันอย่างไร?"เทียนเต๋าจื่อเอ่ยถาม.
"ไม่รู้!"เทียนโจวจื่อที่ส่ายหน้าไปมา.
"ตระกูลสายโลหิตและตระกูลสาขานั้นแตกต่างกัน ตระกูลสาขา ยิ่งผ่านมาหลากหลายรุ่น สายโลหิตก็จะยิ่งเปลี่ยนไป เหมือนดังแม่น้ำทุกสายไหลลงสู่ทะเล สายโลหิตของบรรพชนรุ่นแรกก็จะยิ่งเจือจางลงเรื่อย ๆ !"เทียนเต๋าจื่อที่เอ่ยออกมาเบา ๆ .
"เป็นเรื่องทั่วไป สายโลหิตของทุกตระกูล ก็เป็นเช่นนี้ไม่ใช่รึ?"เทียนโจวจื่อเผยท่าทางสงสัย.
เหล่าลูกหลายในแต่ละรุ่น ถัดจากรุ่นแรกแน่นอนว่าย่อมต้องได้สายโลหิตจากบิดาและมารดาถูกแบ่งเป็นสอง สายโลหิตจากรุ่นสองสายตระกูล ก็จะแยกออกเป็นสี่ และเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ทุก ๆ ตระกูลก็เป็นเช่นกัน?
เทียนเต๋าจื่อที่ส่ายหน้าไปมาก่อนที่จะเอ่ยออกมาว่า "แตกต่าง สายโลหิตตรงนั้น ต่างก็ได้รับคำสาปมาตั้งแต่ในอดีต สายโลหิตของพวกเขานั้นเป็นเหมือนกับเรือนโลหิต จะเป็นสายโลหิตตั้งต้นเหมือนเดิม ทว่า คำสาปนี้ เมื่อผ่านไปแต่ละรุ่นเอง ก็ลดจำนวนลงเรื่อย ๆ เช่นกัน!"
"คำสาป? ถูกสาปอย่างงั้นรึ? ท่านประมุข ท่านจะบอกว่า หวงโหวจงซาน เทียนหลิงจื่อ สายโลหิตของนาง มีระดับเดียวกับบรรพชนรุ่นแรกอย่างงั้นรึ? ไม่สิ จะบอกว่าเหมือนกับบรรพชนรุ่นแรกอย่างงั้นรึ?"เทียนโจวจื่อที่เผยท่าทางประหลาดใจ.
"ใช่!"เทียนเต๋าจื่อที่เผยท่าทางชื่นชม.
"เช่นนั้น ท่านประมุขกำลังจะกล่าวว่า ตัวตนของตระกูลสายโลหิตของตระกูลเทียน มีอยู่เพื่อปกป้องสายโลหิตของบรรพชนตระกูลเทียนรุ่นแรกที่ตายไปแล้ว รอคอยใช้เพื่อที่จะปลุกบรรพชนรุ่นแรกขึ้นมาหรือไม่?"เทียนโจวจื่อที่สูดหายใจลึก แววตาที่เต็มไปด้วยความตื่นตะลึง.
"ใช่!"เทียนเต๋าจื่อพยักหน้ารับ.
"แล้วเกี่ยวกับบรรพชนรุ่นที่หนึ่งฟื้นคืนสติล่ะ?"เทียนโจวจื่อที่เผยท่าทางประหลาดใจกล่าวออกมา.
"บรรพชนรุ่นที่หนึ่งต้องการเตรียมเรือนโลหิตในอดีต!"เทียนเต๋าจื่อที่ดวงตาหรี่เล็กลง.
เรือนโลหิต?เทียนโจวจื่อดวงตาหรี่เล็กลง.
"ครอบครองร่างเทียนหลิงจื่ออย่างงั้นรึ?"เทียนโจวจื่อที่ดวงตาเบิกกว้าง.
เทียนเต๋าจื่อพยักหน้ารับ.
"แฮกกก~~~~~~!“เทียนโจวจื่อที่สูดหายใจที่เย็นเยือบเข้าไป”ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ตระกูลสายโลหิตตั้งแต่แรก ดูเหมือนว่าจะมีความสามารถ เป็นเรือนโลหิต เพียงเพื่อฟื้นคืนชีพบรรพชนรุ่นแรก และกลับมานำตระกูลเทียนอีกครั้งอย่างงั้นรึ?"
"เป็นดั่งที่เจ้ากล่าว!"เทียนเต๋าจื่อขมวดคิ้วเล็กน้อย.
"ไม่สงสัยเลยก่อนหน้านี้ประมุขสายโลหิตตรงถึงจะอ่อนแอก็ยังได้รับตำแหน่ง คนที่เป็นประมุขจากสายโลหิตตรงไม่จำเป็นต้องแข็งแกร่ง เพราะว่าเป็นเพียงร่างเรือนโลหิต ทั้งหมดทั้งมวลก็เพื่อบรรพชนรุ่นแรก รอคอยให้บรรพชนรุ่นแรกฟื้นคืนกลับมา ด้วยการครอบครองร่างกาย จากนั้นก็จะสามารถกลับคืนสู่ความรุ่งเรืองอีกครั้ง!"เทียนโจวจื่อที่กล่าวเสียงสั่นทีเดียว.
โหดร้ายเกินไปแล้ว! เทียนโจวจื่อพบว่า ชะตากรรมของเหล่าลูกหลานสายโลหิตตรง คาดไม่ถึงว่าจะน่าเศร้าถึงเพียงนี้.
"พวกเขาไม่จำเป็นต้องใส่ใจเรื่องใด ๆ ทุกอย่างนั้นเพียงแค่รอคอยบรรพชนรุ่นแรกกลับมา! แผนการใหญ่ของตระกูลเทียนก็สำเร็จ ความรุ่งโรจน์ของตระกูลเทียนก็จะกลับคืนมา!"เทียนเต๋าจื่อกล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.
ได้ยินคำพูดของเทียนเต๋าจื่อกล่าว เทียนโจวจื่อไม่ได้รู้สึกดีใจตื่นเต้นแม้แต่น้อย หนำซ้ำยังทำให้รู้สึกหนักอกหนักใจด้วยซ้ำ.
"ท่านประมุข แล้วใครคือบรรพชนรุ่นแรกอย่างงั้นรึ?"เทียนโจวจื่อที่สอบถามออกมาอีกครั้ง.
"เขาก็คือเจ้าของตราสวรรค์ยังไงล่ะ!"เทียนเต๋าจื่อตอบ.
"ใช่ เขาคือบรรพชนรุ่นที่หนึ่ง?"เทียนโจวจื่อที่ใบหน้าเปลี่ยนเป็นซับซ้อน.
ต้องไม่ลืมว่า เรื่องดังกล่าวนี้มันผ่านมานานแสนนาน สัญลักษณ์ของบรรพชนรุ่นที่หนึ่ง แม้แต่เทียนโจวจื่อเองก็ไม่คาดคิดว่าจะเป็นบรรพชนรุ่นแรกจริง ๆ .
เพียงแค่คิดว่าเป็นบรรพชนรุ่นแรก ใบหน้าของเทียนโจวจื่อถึงกับกระตุก ความรู้สึกรัดแน่นไม่จางหาย และยังปรากฎความตื่นตะลึงเกิดขึ้นอีกด้วย.
"ตราสวรรค์ ใครกล้าต่อต้าน คำสั่งบัญชาการทั่วหล้า ไม่มีใครกล้าขัดขืน นั่นคือบรรพชนรุ่นที่หนึ่งอย่างงั้นรึ?"เทียนโจวจื่อที่กำหมัดแน่น.
"เขาคือเทียนตี้ในยุคโบราณ ในเวลานั้นตระกูลเทียนมีปราชญ์เทพสี่คนเป็นตระกูลสาขา และปราชญ์เทพคนที่ห้านั้นมีปราชญ์เทพสองคนเป็นศิษย์ของเขา! ในยุคนั้นตระกูลเทียนยึดครองโลกใบใหญ่เป็นส่วนมาก ยากที่ใครจะต้านทาน! ประมุขเทียนตี้ ออกคำสั่งออกไป เป็นดั่งคำสั่งของสวรรค์ ทั่วหล้าไม่มีใครกล้าขัด!"เทียนเต๋าจื่อเอ่ยออกมาเบา ๆ.
ทว่าทันทีที่เทียนโจวจื่อได้ยิน ราวกับสายฟ้าฟาดลงที่หูของเขา.
ทั่วโลกหล้าไม่มีใครกล้าขัด! ความน่าเกรงขามนี้คืออะไร? เขากำลังฟื้นคืนชีพอย่างงั้นรึ?
หากเทียนเต๋าจื่อไม่ทรยศในอดีต เทียนตี้ประมุขในอดีตหากคืนชีพแล้ว ตระกูลเทียนจะเป็นเช่นไร ทว่าเทียนเต๋าจื่อที่ยึดครองตระกูลเทียนในเวลานี้ และอยู่คนละฝั่งผู้สืบทอดของตระกูลเทียน.
เทียนโจวจื่อเวลานี้ไม่รู้ว่าควรจะแสดงท่าทางเช่นไรกับตระกูลเทียน เพราะว่าเทียนโจวจื่อรับรู้ว่าเทียนเต๋าจื่อไม่ยอมที่จะเป็นเพียงข้าราชบริพารอย่างแน่นอน ทว่าเทียนตี้บรรพชนรุ่นแรกเองก็ไม่มีทางอยู่ใต้ปกครองเช่นกัน.
พวกเขาต่างก็เป็นสุดยอดฝีมือที่แข็งแกร่งเช่นกัน ในเวลานี้ตระกูลเทียนถือว่าได้รับโชควาสนา หากแต่กลับมีถึงสองคน? แล้วทั้งสองคน............?
เพียงแค่คิดใบหน้าของเทียนโจวจื่อก็กลายเป็นอัปลักษณ์.
"มีปัญหาอะไร?กลัวอย่างงั้นรึ?"เทียนเต๋าจื่อเอ่ยถาม.
ท่าทางที่แสดงออกมา เทียนโจวจื่อที่รู้สึกหวั่นเกรงเช่นกัน ดูเหมือนท่านประมุขต้องการทดสอบจุดยืนของเขาอย่างงั้นรึ?
ไม่ว่าจะตัดสินใจอย่างไร ทุกอย่างที่เขาได้รับล้วนแต่เป็นเพราะเทียนเต๋าจื่อ แน่นอนว่าเขาต้องเคารพเทียนเต๋าจื่อเป็นอย่างมาก.
"เทียนโจวจื่อ ย่อมต้องเลือกท่านประมุข!"เทียนโจวจื่อกล่าวออกมาด้วยความเคารพ.
เทียนเต๋าจื่อที่เผยยิ้มออกมาเล็กน้อย "ไม่ต้องร้อนใจ ข้าเชื่อในตัวเจ้า!"
"ขอบคุณท่านประมุข!"เทียนโจวจื่อที่เอ่ยออกมาอย่างมั่นคง.
แม้นว่าจะเป็นการหยั่งเชิง ภายในใจเทียนโจวจื่อย่อมเข้าใจความหมาย ต้องไม่ลืมว่าสถานการณ์มันต่างออกไป ผู้ปกครองสองฝั่งในตระกูล เป็นอะไรที่น่ากระอักกระอ่วนเป็นอย่างมาก.
ฝั่งหนึ่งคือผู้นำคนปัจจุบัน อีกฝั่งคือบรรพชนรุ่นแรก กล่าวอีกอย่างหนึ่ง ตัวเขาในเวลานี้กำลังต่อต้านบรรพชนของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นใคร สถานการณ์เวลานี้ย่อมยากลำบากในการตัดสินใจแน่นอน.
"เขาได้สติกลับคืนมาแล้ว? อย่างไรก็ตาม หลายปีหลังจากนี้ เขาได้ทำพลาดหลายอย่าง ถึงแม้นว่าเขาจะได้ตำแหน่งประมุขกลับคืน แต่ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะฟื้นคืนความรุ่งโรจน์กลับมาได้ เขาได้ก้าวถึงจุดสูงสุดไปแล้ว นอกจากนี้ เวลานี้ เขาไม่สามารถที่จะสั่งการตระกูลเทียนได้อีกแล้ว!"เทียนเต๋าจื่อที่ส่ายหน้าไปมา.
"ท่านประมุข เพราะว่า ก่อนหน้านี้ ข้าเป็นเพียงตระกูลสาขา เกี่ยวกับเรื่องของบรรพชนรุ่นแรกนั้น ไม่ได้รู้อะไรมากนัก ไม่ว่าอย่างไรขอให้ท่านประมุขเป็นคนชี้แนะด้วย!"เทียนโจวจื่อที่ขมวดคิ้วโค้งคำนับขณะพูด.
"ไม่มีปัญหา แม้นว่าเกี่ยวกับสายโลหิตตรงจะเป็นความลับ ทว่าข้าก็รับรู้โดยบังเอิญ ข้าจะบอกเองว่าเจ้าควรจะทำอะไร?"เทียนเต๋าจื่อเอ่ย.
"เทียนตี้บรรพชนรุ่นแรกนั้น เขาที่แข็งแกร่งมากในอดีต ทำไมเขาถึงได้ตกตายไปล่ะ? เป็นไปได้ว่าในอดีตเขาต่อต้านเทียนชูล้มเหลวอย่างงั้นรึ?"เทียนโจวจื่อเอ่ยถามด้วยความสงสัย.
เทียนเต๋าจื่อที่ส่ายหน้าไปมาเผยท่าทางแปลกประหลาด "เขาไม่ได้ต่อต้านเทียนชู เขาตกตายด้วยความผิดพลาดของตัวเอง กระทำการผิดพลาด ผิดแผน! ช่างน่าส่งสาร ช่างน่าเศร้าที่เขาประมาทเพราะความอหังการโดยแท้!"
"หืม?"เทียนโจวจื่อเต็มไปด้วยความสงสัย.
ถูกตัวเองสังหารรึ? อะไรเป็นเหตุให้เขาตายกัน?
"เขาที่ใช้ร่างของอสูรเทวะลำดับหก หลอมมันให้กลายเป็นรากเทวะในอดีต!"เทียนเต๋าจื่อกล่าวอย่างเคร่งขรึม.
"รากเทวะ? เหมือนกับแปดหางสวรรค์แห่งจุดจบของจงซาน ที่หลอมสิ่งมีชีวิตเทพอสูรเป็นรากเทวะรึ?"เทียนโจวจื่อที่เผยท่าทางประหลาดใจออกมา.
ความแข็งแกร่งของแปดหางสวรรค์นั้น เทียนโจวจื่อเข้าใจอย่างชัดเจน รากเทวะนั้นทรงพลังขนาดใหน.
เทพอสูรลำดับเก้าอย่างงั้นรึ? ในอดีตมันได้กลืนเทพอสูรระเบิด ยกระดับเป็นระดับแปดไปแล้ว.
แปดหางสวรรค์แห่งจุดจบนั้น เป็นดั่งแขนขาของจงซาน ทำให้จงซานทรงพลัง กลายเป็นพยัคฆ์ติดปีกเลยก็ว่าได้.
จงซานที่มีเทพอสูรลำดับแปดเป็นส่วนหนึ่งของพลัง ส่วนบรรพชนรุ่นแรกเขาหลอมเทพอสูรลำดับหกอย่างงั้นรึ?
"ไม่ จงซานนั้นระมัดระวังมากกว่าเขา เขานั้นผิดพลาดจนต้องตกตายไป!"เทียนเต๋าจื่อที่ส่ายหน้าไปมา.
"หืม?"เทียนโจวจื่อไม่เข้าใจ.
"แปดหางสวรรค์แห่งจุดจบของจงซานนั้น เหลือเพียงแค่สัญชาตญาณ ทำให้มันพูดได้แค่ ฟริบ ฟริบ เพราะว่าจงซานนั้นได้ลบเชาว์ปัญญาทั้งหมดของอสูรหางกลืนสวรรค์ไปทั้งหมด ทำให้มันมีเชาว์ปัญญาที่อ่อนด้อยกว่าจงซาน กล่าวอีกอย่างหนึ่ง จงซานนั้นเป็นเชาว์ปัญญาให้กับแปดหางสวรรค์ ทำให้จงซานควบคุมแปดหางสวรรค์ได้อย่างสมบูรณ์ ในอดีตนั้น บรรพชนรุ่นที่หนึ่งไม่ได้ลบเชาว์ปัญญาของเทพอสูรรุ่นที่หกไป!"เทียนเต๋าจื่อที่ส่ายหน้าไปมา.
"เขาไม่ได้ลบเชาว์ปัญญา? ทำให้บรรพชนรุ่นแรกและเทพอสูรเป็นสองสิ่งมีชีวิต ท่านประมุขกำลังกล่าวว่า ท้ายที่สุดเทพอสูรลำดับหกเป็นฝั่งได้รับชัยในการควบคุมร่างอย่างงั้นรึ?"เทียนโจวจื่อที่เข้าใจในทันที.
"ใช่ เทพอสูรลำดับหก ต้องการควบคุมเขา ทำให้ทั้งคู่ต่อสู้และตกตายไปพร้อม ๆ กัน เขาที่ตายอย่างอนาถ หากแต่ก่อนที่เขาจะตายเขาก็สามารถลบเชาว์ปัญญาเทพอสูรลำดับที่หกได้ในที่สุด หากแต่ก็สายไปแล้ว!"เทียนเต๋าจื่อที่ส่ายหน้าไปมา.
