Chapter 1331 บรรพชนลำดับหนึ่งตระกูลเทียนฟื้นคืนสติ.
ตราครรลองสวรรค์ ปรากฎขึ้น จงซานก็เก็บทักษะเทวะกุยของตัวเองไปทันที.
ดูเหมือนว่าทักษะเทวะก่อนหน้านี้เขาที่จงใจใช้มันออกมา เพื่อให้เฉิงโห่วศึกษาและบันทึกมันไป.
บนฟ้าดินปรากฎแท่นสีเหลี่ยม!
ท้องฟ้าที่ถูกปกคลุมไปด้วยแสงสีเหลือง กลิ่นอายของตราครรลองสวรรค์ที่แข็งแกร่งกำลังกดทับลงมายังชีพจรฟ้าซิง.
"เปิด!"
เฉิงโห่วที่ชิ้วขึ้นไป ชีพจรฟ้าซิงที่ปะทุพลังออกมา พุ่งตรงไปยังตราครรลองสวรรค์ที่พุ่งลงมา.
"จิตสัมผัสเทวะ ชีพจรฟ้าซิง แตกสลายไปซะ!"
"ตูมมมมมม ~~~~~~~~~~~~~~~~~~!”
ตราครรลองสวรรค์ที่ทรงพลังกว่า ได้บดบี้ทำลายชีพจรฟ้าซิงระเบิดออกมาเสียงดัง.
"ของวิเศษระดับปราชญ์เทพอย่างงั้นรึ? ไม่ ๆ นี่มันของวิเศษระดับเทียนตี้?"ใบหน้าของเฉิงโห่วที่เปลี่ยนเป็นซับซ้อน.
"ปัง!"
ชีพจรฟ้าซิงที่ถูกตราครรลองสวรรค์ทำลายไป ก่อนที่เวลานี้พลังอำนาจของมันกำลังกดทับเฉิงโห่ว.
เฉิงโห่วที่ยกมือขึ้นไปบนท้องฟ้าข้างหนึ่ง ใบหน้าของเขาที่เผยท่าทางจริงจัง.
"จิตสัมผัสเทวะ พังทลายไปซะ!"
"ปัง!"
พื้นที่รอบ ๆ ของเฉิงโห่วที่แตกเป็นสาย ดวงตาของเฉิงโห่วที่เบิกกว้าง ใบหน้าที่ไม่อยากเชื่อ ตราประทับของจงซาน แข็งแกร่งขนาดนี้เลยรึ?
"ตูมมมมมม!"
ราวกับมีอะไรแตกออก ริ้วแสงสีขาวที่ผุดออกมาจากร่างของปู่ซา เป็นร่างจิตของเฉิงโห่วที่หลุดออกมานั่นเอง.
"จงซาน ฝากเอาไว้ก่อน!"
เสียงที่ดังขึ้นบนอากาศ เป็นเสียงของเฉิงโห่วที่กำลังโกรธเกรี้ยว.
"สว๊วฟ!"
ริ้วแสงสีขาวเวลานี้ปรากฎร่างของแปดหางสวรรค์แห่งจุดจบขึ้นในทันที ด้วยความเร็วเป็นอย่างมาก มันได้กลืนร่างจิตสัมผัสเทวะของเฉิงโห่วทันที.
"สารเลว!"เสียงของเฉิงโห่วที่ทั้งโกรธและอายดังขึ้นจากภายในปากของแปดหางสวรรค์แห่งจุดจบ.
"ข้าจะรอที่สวนสวรรค์ลอยฟ้าหลิงเซียวด้วยความเคารพ!"จงซานเอ่ย.
"พุ!"
เสียงแตกร้าวระเบิดของจิตสัมผัสเทวะที่แตกสลายอยู่ในปากของแปดหางสวรรค์แห่งจุดจบ.
แปดหางสวรรค์แห่งจุดจบที่หายไปแล้ว จงซานเก็บตราครรลองสวรรค์ ปู่ซาที่ถูกสัมผัสเทวะยึดครองร่างหมดสติลง พื้นที่รอบ ๆ ทุกคนที่กลายเป็นเงียบงัน เหล่าคนที่เพิ่งเข้าร่วมต้าเจิ้งและยังไม่เข้าร่วม ต่างก็จ้องมองจงซานเป็นสายตาเดียวกัน.
เรื่องนี้ เร็วเกินไปแล้ว!
ก่อนหน้านี้เป็นร่างจิตสัมผัสเทวะของเฉิงโห่วอย่างงั้นรึ? มันคือร่างจิตสัมผัสเทวะของปราชญ์เทพลำดับหนึ่ง? ถึงจะเป็นเพียงสัมผัสเทวะ ทว่าก็ยังเป็นสัมผัสเทวะของปราชญ์เทพลำดับหนึ่ง เรื่องนี้ เร็วเกินไป? ถูกกำจัดไปแล้วอย่างงั้นรึ? นอกจากนี้ยังไม่สามารถต้านได้แม้แต่น้อย.
ภายในใจของทุกคน การต่อสู้ในครั้งนี้ ถึงแม้นว่าจะจงซานจะต่อสู้กับจิตสัมผัสเทวะของเฉิงโห่ว แต่ก็ควรจะเป็นการต่อสู้ที่ทำให้ฟ้าถล่มแผ่นดินทลาย ใครจะรู้ว่ามันเร็วขนาดนี้เลยรึ? ตราราชวงศ์ กำราบสัมผัสเทวะ นอกจากนี้เทพอสูรของจงซานยังกลืนมันหายไป ไม่มีเหลือ!
รวดเร็วถึงเพียงนี้เลย?
การต่อสู้ในครั้งนี้ หลาย ๆ คนแทบจะไม่สามารถละเลยจงซานได้เลย พวกเขาที่ได้เห็นกับตา จงซานนั้นทรงพลังเป็นอย่างมาก ใครจะคิดว่าจงซานนั้นจะแข็งแกร่งถึงเพียงนี้!
ในเวลาเดียวกันนั้น วิหารเหล่ยติง ตำหนักเหล่ยติง.
เฉิงโห่วที่นั่งหลับตาบนบัลลังก์อันทรงเกียรติ ดวงตาทั้งสองข้างที่ลืมขึ้น ดวงตาที่เบิกกว้างเต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยว.
"ปัง!"
ฝ่ามือของเฉิงโห่วที่ฟาดลงไปยังโต๊ะน้ำชาที่อยู่ข้าง ๆ .
"จงซาน จงซาน!"เฉิงโห่วที่คำรามออกมาเสียงดังสนั่น.
------------------------------------------------------
การต่อสู้กับเฉิงโห่วที่จบลงอย่างรวดเร็ว.
หลังจากที่กำจัดดวงจิตสัมผัสเทวะของเฉิงโห่วไป จงซานก็หันหน้าจ้องมองไปยังจงเทียน.
กล่าวตามตรง การกลายเป็นปราชญ์เทพ ขณะได้รับตำแหน่งปราชญ์เทพ จะทำให้สามารถเกิดการตระหนักรู้ขึ้น นี่คือโอกาสที่จะได้รับประสบการณ์พิเศษที่เหนือล้ำ จงเทียนไม่ต้องการให้สูญเปล่า ดังนั้นจึงทำให้เขายังคงเข้าสมาธิดื่มด่ำกับสภาวะตระหนักรู้นี้อยู่.
จงซานที่เข้าใจความรู้สึกของจงเทียนได้ เขาจึงไม่ได้ใส่ใจนัก.
เซียนเซิงซือที่บินเข้ามา.
"หวังคู!"เซียนเซิงซือเอ่ย.
"หืม?"หวังคูที่จ้องมองเซียนเซิงซือ.
ในเวลานี้ ท่าทางของหวังคูที่มีต่อเซียนเซิงซือที่ค่อนข้างซับซ้อน เต็มไปด้วยความสงสัยแต่ไม่สามารถเอ่ยออกมาได้.
เซียนเซิงซือหาได้ใส่ใจนัก ทว่ากล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม "18 หยวนเป่ย กำลังจะพลังทลายแล้ว ข้ามอบจะมอบมันให้กับเจ้า เจ้าไม่จำเป็นต้องต่อต้าน ด้านในนั้นมีแก่นของเผ่าโครงกระดูกของเจ้า ดูดซับปราณฝังลงไปในกระดูกของเจ้าซะ ข้าดูแล้วมันสามารถเข้ากันได้กับเจ้า!"
ดูดซับปราณ?
หวังคูที่ยังไม่เคลื่อนไหว ทว่าจ้องมองไปยังเซียนเซิงซือ ไม่รู้จะเอ่ยอะไร ปราณฝังกระดูกนั้น หวังคูไม่ต้องการจะรับง่าย ๆ นัก ไม่ใช่ว่าหยิ่งยโสอะไร ทว่ามันเกี่ยวข้องกับความรู้สึกไม่ต้องการติดค้างอีกฝ่าย.
จงซานที่บินมานั้น เขาที่ตบไปที่ไหล่ของหวังคู "รับไปเถอะ! มันช่วยเพิ่มพลังให้กับเจ้า ต้าเจิ้งจะแข็งแกร่งขึ้น! เซียนเซิงซือนั้นต้องการทำเพื่อต้าเจิ้ง!"
หวังคูที่ดวงตาเป็นประกายพยักหน้ารับ "ครับ!"
จากนั้น หวังคูที่คารวะครึ่งหนึ่งกล่าวต่อเซียนเซิงซือ "ขอบคุณ!"
จากนั้น หวังคูก็บินไปยังโครงกระดูกทั้ง 18 ตนที่ถูกนำเข้าไปไว้ในตำหนักแห่งหนึ่ง.
"ปัง!"
หมอกสีดำมากมายที่ปกคลุมร่างหวังคู ปราณของ 18 ร่างราชาโครงกระดูก กำลังถูกหวังคูดูดซับเข้ามาอย่างรวดเร็ว.
การเดินทางมายังภาคกลางในครั้งนี้ กลุ่มของจงซานอาจกล่าวได้ว่าประสบความสำเร็จได้รับชัยชนะเลยก็ว่าได้.
สามวันหลังจากนั้น จงเทียนที่ตื่นขึ้นจากการตระหนักรู้.
"ท่านพ่อ!"จงเทียนที่โค้งคำนับให้กับจงซาน.
"อืม!"จงซานพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ.
ทว่าคนที่เข้าร่วมต้าเจิ้งเวลานี้ ยิ่งรู้สึกมั่นใจมาก จงเทียนที่โค้งคำนับ อธิบายได้ว่าเขานั้นภัคดีต่อต้าเจิ้ง ไม่จำเป็นต้องกังวลว่าจะมีสงครามภายใน.
เซิ่งกงเป้าและหวนจีที่รับหน้าที่ในการรับคนเข้าร่วมต้าเจิ้ง.
ระหว่างรอการคัดเลือกกลุ่มคนที่เหมาะสม จงซานที่อาศัยอยู่ในตำหนักแห่งหนึ่งชั่วคราว.
ภายในห้องพักชั่วคราว.
จงซานที่นั่งอยู่บนโต๊ะ เหล่าเสนาธิการที่อยู่กันทั้งสองข้าง โหยวหลานที่กล่าวรายงาน.
"ตำราแห่งการทำลายล้าง? เทียนโจวจื่อมาหากู่เซิ่งหมิงเพราะต้องการตำราแห่งการทำลายล้างอย่างงั้นรึ?"จงซานที่ขมวดคิ้วไปมา ใบหน้าที่เปลี่ยนเป็นซับซ้อน.
"ครับ เฉินนั้นได้สอบถามดีแล้ว ขณะที่พวกเขาเข้าไปในโลกเขตแดนเปลี่ยนเวลานั้น เทียนโจวจื่อก็ได้มาที่นี่จริง ๆ ในเวลานั้นเขาที่ต้องการช่วงชิงตำราแห่งการทำลายล้าง ดูเหมือนว่ามันจะอยู่ในวิหารต้าเสวียนหวง."โหยวหลานที่กล่าวรายงาน.
อยู่ภายในวิหารต้าเสวียนหวงอย่างงั้นรึ?
จงซานที่ประหลาดใจ อยู่ในวิหารต้าเสวียนหวง? เขาเองก็ต้องการเช่นกัน กู่เซิ่งหมิงตกตายไปไม่เหลือซาก เหล่าเสวียน เหล่าหวนเองก็กลายเป็นเถ้าไปแล้ว.
"ขุดลงไปสามฉื่อ(0.33M)หาตำราแห่งการทำลายล้างมาให้กับข้า!"จงซานที่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.
เหล่าเสนาธิการดวงตาเบิกกว้าง ตำราแห่งการทำลายล้างอย่างงั้นรึ? มันเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างงั้นรึ? เซิ่งหวังถึงได้ตื่นตระหนกตกใจเช่นนี้?
"รับทราบ!"โหยวหลานที่กล่าวรับคำในทันที.
"เรียนเซิงหวัง!"เซียนเซิงซือที่เอ่ยออกมาในทันที.
"หืม?"จงซานที่เผยท่าทางเศร้าใจเล็กน้อย.
"เซิ่งหวังกำลังมองหาหนึ่งในเคล็ดวิชาคำสาปทั้งสี่ ตำราแห่งการทำลายล้างอยู่อย่างงั้นรึ?"เซียนเซิงซือที่เผยท่าทางประหลาดใจ.
"ใช่!"จงซานพยักหน้ารับ.
"ดูเหมือนว่า ตำราแห่งการทำลายล้างนั้นอยู่ในมือของเฉิน!"เซียนเซิงซือที่เผยใบหน้าที่ซับซ้อนออกมา.
กับคำพูดของเซียนเซิงซือ ทำให้ใบหน้าของเสนาธิการทั้งหมดเปลี่ยนเป็นตื่นตะลึง.
เป็นความจริงอย่างงั้นรึ? เซิ่งหวังที่มองหาตำราแห่งการทำลายล้าง ต้องการทำอะไรอย่างงั้นรึ?
ระหว่างที่กล่าวนั้น เซียนเซิงซือที่ยื่นมือออกไป พร้อมกับนำตำราสีเทาอมฟ้าออกมา.
ตำราดังกล่าวนั้น ดูไม่ต่างจากตำราชีวิตและความตาย ทว่าตัวอักษรที่ประทับอยู่ด้านหน้าต่างกัน มันถูกสลักเอาไว้ว่า ตำราแห่งการทำลายล้าง.
ใบหน้าของจงซานที่เผยท่าทางแปลกประหลาดเล็กน้อย.
"ตำราแห่งการทำลายล้าง เป็นสิ่งของตระกูลจาง เฉินได้มอบฉบับคัดลอกให้กับคนของนิกายต้าเสวียนหวงได้ศึกษามัน ทว่าท้ายที่สุดกลับไม่มีใครสามารถศึกษามันได้เลย เฉินเองก็ไม่สามารถใช้มันได้เช่นกัน ดังนั้นจึงได้ละเลยมัน เฉินยินดีที่จะมอบมันให้กับเซิ่งหวัง เพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับต้าเจิ้ง!"เซียนเซิงซือที่มอบตำราแห่งการทำลายล้างออกไป.
จงซาน"..............................!”
จงซานถึงกับพูดไม่ออก ตำราแห่งการทำลายล้าง เขาได้สั่งการให้องค์รักษ์เงาออกตามหาเป็นเวลานาน หากแต่ไม่มีข่าวใด ๆ เลย แท้จริงแล้วมันอยู่ข้าง ๆ นี่เอง นอกจากนี้คาดไม่ถึงว่ามันจะอยู่ใกล้ถึงขนาดนี้.
"รบกวนเซียนเซิงซือแล้ว!"จงซานเอ่ย.
แน่นอนว่า ไม่มีใครรับรู้ความรู้สึกอารมณ์ของจงซานได้แต่อย่างใด.
เซียนเซิงซือที่แสดงความเคารพและถอยห่างออกมา!
"เซิ่งหวัง การรับคนของต้าเจิ้ง เป็นไปด้วยดี ภายในทวีปกลางนี้ ยกเว้นคนของไท่จื่อวิหารเทียนหยิน พวกเราได้รับเซียนบรรพชนสิบคน 400 เซียนโบราณ 1900 มหาเซียน! หากว่ารวมเหล่าลูกหลายของพวกเขา บางทีคงต้องนำคนราว ๆ 50,000 คนกลับไปในครั้งนี้!"เซิ่งกงเป้ากล่าวรายงาน.
เดินทางมาสิบคน กลับไป 50,000 คนอย่างงั้นรึ? จินเผิงและคนอื่น ๆ ที่ถอนหายใจเบา ๆ หวังคูและเหล่าเสนาธิการของต้าเจิ้งที่ถอนหายใจยาวเช่นกัน.
ในอดีต เมื่อครั้งที่แยกสวรรค์ สะบั้นปฐพี ต้าเจิ้งไม่มีมหาเซียนเลยซักคน ในเวลานี้ต้าเจิ้งเพียงแค่เปิดรับสมัครก็มีมหาเซียนกว่าสองพันคนแล้ว สิบเซียนบรรพชน และอีกสองอรหันต์ รวมเป็น 12 เซียนบรรพชน และจงเทียนได้เป็นปราชญ์เทพอีก.
ภายในใจของหวังคูที่ได้แต่ถอนหายใจ ต้าเจิ้งที่พัฒนาเงียบ ๆ ทำให้เวลานี้เขารู้สึกภาคภูมิไปด้วยเช่นกัน.
"จินเผิง เต้าเหรินถู โหยวหลาน เจ้าอยู่ช่วยเซิ่งกงเป้า รวบรวมเหล่าสมาชิกของพวกเขาเดินทางกลับภาคเหนือ ข้าไม่ต้องการให้คนที่เดินทางกลับไปต้าเจิ้งต้องกังวลอะไร!"จงซานกล่าวออกมาคำสั่ง.
"รับด้วยเกล้า!"ทุกคนที่ตอบรับในทันที.
"เซิ่งกงเป้า เจ้านับจำนวนคนทั้งหมด หลังจากนี้สามวัน ตอนบ่าย ข้าจะนำทุกคนกลับไป!"จงซานเอ่ย.
"ครับ!"เซิ่งกงเป้าพยักหน้ารับ.
--------------------------------------------------
ที่มุมหนึ่งของดินแดนเสวียนหวง.
ปรากฎบุรุษที่สวมชุดประณีตนั่งอยู่ในศาลาจิบน้ำชาอยู่ รอบ ๆ มีองค์รักษ์มากมาย.
ที่ด้านหน้านั้นชายในชุดสีดำที่คุกเข่าลง กล่าวรายงานด้วยความเคารพ.
"เจ้าตำหนัก นี่คือเรื่องทั้งหมด!"ชายคนดังกล่าวเอ่ย.
"กู่เซิ่งหมิง? คนของตระกูลสาขา กล้าที่จะขัดขืนกฎเกณฑ์ หากไม่เพราะไม่ต้องการละเมิดคำสอนบรรพชน วันนี้ข้าต้องนำคนไปจัดการเจ้าสารเลวนี่แน่!"ชายในชุดที่หรูหรากล่าวเหยียดหยัน.
"แล้วการตายของกู่เซิ่งหมิง พวกเราจะปล่อยไปอย่างงั้นรึ?"บ่าวรับใช้ที่เอ่ยออกมาด้วยความสงสัย.
"จงซานทวีปภาคเหนือ? ศาลเทพต้าเจิ้ง ดูเหมือนว่ามีใครบางคนของตระกูลหวงกู่จะมีสายสัมพันธ์ด้วย เรื่องนี้อย่าเพิ่งเข้าไปยุ่งเกี่ยว รอให้ข้ากลับไปสอบถามเจ้าตำหนักซุน กู่เฉียนโหยวอีกครั้งก่อน!"ชายในชุดประณีตเอ่ย.
"รับทราบ!"ผู้ใต้บังคับบัญชากล่าวรับด้วยความเคารพ.
----------------------------------------------
หนึ่งปีหลังจากนั้น ตระกูลเทียน ตำหนักชีพจรฟ้า!
เทียนโจวจื่อที่ยืนอยู่ในโถงกลาง บนบัลลังก์ไม่มีใครอยู่ ขณะที่เขากล่าวรายงานด้วยความเคารพ.
ทันใดนั้นก็ปรากฎเสียง ๆ หนึ่งดังขึ้น.
"เรื่องที่ทวีปกลาง ข้ารู้ว่าเจ้าทำเต็มที่แล้ว เวลานี้ไม่ต้องไปยุ่งเกี่ยว ข้ามีเรื่องสำคัญให้เจ้าไปทำ!"
เป็นเสียงของเทียนเต๋าจื่อนั่นเอง.
"หืม?ท่านประมุขเชิญกล่าว!"
เทียนโจวจื่อที่ค่อนข้างตกใจเล็กน้อย ต้องไม่ลืมว่าเกี่ยวกับตำราแห่งการทำลายล้าง นับเป็นเรื่องที่สำคัญ เวลานี้มีเรื่องที่สำคัญกว่าอย่างงั้นรึ?
"บรรพชนตระกูลเทียนรุ่นหนึ่ง ฟื้นคืนสติแล้ว!"เทียนเต๋าจื่อเอ่ยออกมาด้วยเสียงลึกทุ้ม!
"บรรพชนรุ่นหนึ่ง?บรรพชนรุ่นหนึ่งอะไร?"เทียนโจวจื่อที่กล่าวด้วยความงงงวย.
ไม่ใช่เทียนโจวจื่อเสแสร้ง ทว่าเทียนโจวจื่อไม่รู้ บรรพชนตระกูลเทียนรุ่นที่หนึ่ง? หมายความว่าอย่างไร?