Chapter 1330 เป็นเฉิงโห่ว
"ตูมมม ~~~~~~~~~~~~~~~~~~!”
เสียงสายฟ้าคำรามออกมาจาด้านในห้องโถงของจงซาน ทว่ารอบ ๆ นั้น ไม่มีใครกล้าเข้าไปรบกวน.
จงซานที่ตัดผ่านระดับ จากการดูดซับลูกตาที่มืดบอด! คราแรกเขามีระดับเซียนบรรพชนระดับสามขั้นปลาย ทว่าหลังจากดูดซับดวงตาที่มืดบอด มันก็ยกระดับขึ้นในทันที.
เซียนบรรพชนขั้นที่ 4!
ยังไม่จบเท่านั้น เซียนบรรพชนขั้นที่สี่แค่เริ่มเท่านั้น ยังยกระดับขึ้นไปอีก ขั้นกลาง ขั้นสุดท้าย ขั้นสูงสุด.
"เปรี้ยงง ~~~~~~~~~~~~~~~~~~!”
รากร่างกายที่เวลานี้ราวกับทะเลที่เชี่ยวกราก ถูกพลังมากมายกำลังอัดกระแทก เวลานี้กำลังทะลวงผ่านเซียนบรรพชนระดับสี่ขั้นปลายไปอีกขั้น.
เซียนบรรพชนขั้นที่ห้า!
จงซานที่หลับตา ยังไม่ลืมตาขึ้น เขาที่สามารถตัดผ่านระดับได้สองขั้น! แม้นว่าระดับเซียนบรรพชน! การจะยกระดับแต่ละขั้นนั้นยากเป็นอย่างมาก ในคราวนี้ คาดไม่ถึงเลยว่าจะยกระดับได้ถึงสองขั้น?
บุตรชายของเขาที่ได้เป็นปราชญ์เทพ จงซานพบว่าตัวเองก็เก็บเกี่ยวได้มากมายเช่นกัน.
ภายในโลกใบใหญ่แห่งนี้ จงซานเข้าใจดี กลุ่มอิทธิพลใด ๆ ผู้นำล้วนแล้วแต่ทรงพลังแข็งแกร่ง ถึงแม้นว่าผู้ใต้จะทรงพลังขั้นสูง แต่ก็ไม่นับว่านั่นแข็งแกร่งอย่างแท้จริง.
เซียนบรรพชนขั้นที่ห้า นับจากนี้ไป จงซานสามารถรับมือกับยอดฝีมือระดับสูงได้แล้ว.
ขณะที่จงซานกำลังสัมผัสตรวจสอบความแตกต่างระหว่างเซียนบรรพชนขั้นที่ห้าและข้นที่สามอยู่นั้น พริบตานั้น จงซานต้องขมวดคิ้วไปมา.
"หืม?"จงซานที่แค่นเสียงพลางเผยความโกรธเกรี้ยวออกมา.
ที่ด้านนอก จงเทียนยังคงยืนอยู่บนแท่นบูชาฟ้าดิน ฝ่ามือพนมเข้าหากัน วางอยู่กลางอก แสงสีทองที่สว่างจ้าเจิดจรัสกลายเป็นดวงตะวันอยู่ด้านหลังศีรษะ เหล่าเสนาธิการของต้าเจิ้งที่เฝ้าระวังรอคอยอย่างอดทน.
"เซียนเซิงเซิ่ง ข้าและคนอื่น ๆ หวังที่จะเข้าร่วมศาลเทพต้าเจิ้ง!"ที่ไกลออกไป เหล่าผู้ฝึกตนจำนวนไม่น้อยที่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.
คนผู้หนึ่งที่เอ่ยออกมาเสียงดัง ทำให้ผู้คนที่จ้องมองด้วยความคาดหวังเช่นกัน ทว่ากลุ่มคนก่อนหน้าที่เข้าร่วมต้าเจิ้งก่อนแล้ว เผยท่าทางพึงพอใจเป็นอย่างมาก.
"ขอให้ทุกคนถอยห่างออกไปก่อน ไท่จื่อกำลังตระหนักรู้อยู่บนท้องฟ้า ไม่สามารถรบกวนได้ ใครที่ต้องการเข้าร่วมต้าเจิ้งนั้น พวกเรายินดีอย่างแน่นอน หากแต่ตอนนี้โปรดถอยห่างออกไปหมื่นลี้!"เซิ่งกงเป้าไม่ได้ปฏิเสธ หากแต่ไม่รับปากในทันทีเช่นกัน.
แม้นว่าคนของนิกายต้าเสวียนหวงจะถูกสังหารไปหมดแล้ว ทว่าเหล่าคนที่มามุงนี้ ไม่สามารถที่จะให้อยู่รอบ ๆ นี้ได้ เพื่อป้องกันการลอบโจมตีอย่างคาดไม่ถึง เซิ่งกงเป้าย่อมเข้าใจเรื่องนี้ดี ดังนั้นเขาจึงต้องระมัดระวังเอาไว้ ให้ทุกคนถอยห่างออกไปก่อน.
กู่เซิ่งหมิงที่ถูกสังหารไปแล้ว เซียนเซิงซือที่ได้แก้แค้น สังหารศัตรูที่ได้สร้างความอัปยศให้ตน ในเวลานี้เขาที่กวาดตามองพื้นที่รอบ ๆ ที่แห่งนี้ เคยเป็นสถานที่อยู่อาศัยของเขา ทว่าเวลานี้มันได้พังทลายไปทั้งหมดแล้ว นิกายต้าเสวียนหวงได้หายไปแล้ว เวลานี้ทำให้เขาได้แต่ถอนหายใจยาว.
เป่าเอ๋อ เซียนเซียนและหวนจีที่บินมา.
ขณะที่กำลังบินตรงไปยังห้องโถงลอยฟ้าของจงซาน ทว่า ยังไปไม่ถึงด้วยซ้ำ ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงของจงซานที่เผยความโกรธเกรี้ยวออกมา.
"ชิ ~~~~~~~~~~~~~~~~~~!”
เสียงโกรธเกรี้ยว ของจงซานที่แสดงท่าทางไม่พอใจเป็นอย่างมาก กลิ่นอายที่ทรงพลังแผ่ออกมาจากในห้องโถง แรงกดดันวิญญาณที่น่าเกรงขามนี้ ทำให้อากาศรอบ ๆ นี้เย็นลงแม้แต่เกิดพายุขึ้นมา.
"ครืนนนนน ~~~~~~~~~~~~~~~~~~!”
ตำหนักของจงซานที่ระเบิดออกมา พริบตาเดียวที่มันระเบิด ภาพเงาของฝ่ามือสีทองที่ปรากฎขึ้นบนอากาศ.
ฝ่ามือสีทอง กลิ่นอายทำลายล้างที่แผ่ออกมา พุ่งตรงไปยังปู่ซาคนหนึ่งที่เข้าร่วมต้าเจิ้ง.
ปู่ซา คนดังกล่าวไม่สามารถมองเห็นพลังฝึกตนได้ แม้นว่าจะมีรูปร่างธรรมดาไม่พิเศษอะไร.
ฝ่ามือดังกล่าวที่พุ่งออกไป ห้วงอากาศรอบ ๆ ที่บิดเบี้ยว ปู่ซาที่ควรจะหนี หรือว่าหนีไม่ได้ก็ไม่รู้ กำลังหยุดนิ่ง.
"จงซานกำลังทำอะไร?"ที่ไกลออกไปคน ๆ หนึ่งที่เอ่ยออกมาด้วยความตกใจ.
"ปู่ซารึ? เซียนโบราณ ข้าจำเขาได้ จงซานต้องการสังหารเขารึ?
"ทำไมจงซานต้องการสังหารเขาล่ะ?"
....................................
........................
......
ผู้คนมากมายที่อยู่รอบ ๆ เผยท่าทางประหลาดใจ พวกเขาที่คิดว่าปู่ซาคนดังกล่าวจะต้องตกตายอย่างแน่นอน พลังของจงซาน? ภายในใจของทุกคนที่สั่นสะท้าน การจะสังหารเซียนบรรพชนสักคนนั้น เป็นเรื่องลำบากอีกรึ?
ทว่า เซียนโบราณคนดังกล่าวเห็นชัดเจนว่าเพิ่งเข้าร่วมต้าเจิ้ง ทำไมจงซานถึงได้ลงมือสังหารเขาล่ะ?
เหล่าผู้ฝึกตนที่เพิ่งหายใจโล่ง เวลานี้กำลังรู้สึกสั่นสะท้านอีกรอบ.
ปู่ซาคนดังกล่าวจะต้องถูกฉีกกระจายเป็นชิ้น ๆ อย่างแน่นอน.
ทว่ากลายเป็นเรื่องที่แปลกประหลาดเป็นอย่างมาก ปู่ซาคนดังกล่าวไม่เพียงไม่หวาดกลัว ยังจ้องมองฝ่ามือที่กำลังลอยมาอีกด้วย.
เซียนโบราณ? เขากำลังโต้ตอบจงซานอย่างงั้นรึ? ล้อเล่นอย่างงั้นรึ?
ทันใดนั้นเขาที่สะบัดฝ่ามือ ปรากฎฝ่ามือสีม่วงบนอากาศ พุ่งตรงไปยังฝ่ามือสีทองของจงซานในทันที.
"ไร้ประโยชน์น่า เขาไม่ใช่คู่มือของจงซาน!"
"นี่เขาแส่หาความตายอย่างงั้นรึ?!"
..................
............
......
ทุกคนที่ส่ายหน้า ฝ่ามืออากาศที่พุ่งเข้าหากัน.
"ตูมมมมมมมมม ~~~~~~~~~~~~!”
ห้วงมิติที่แตกออกเป็นเสี่ยง ๆ พลังอัดกระแทกที่รุนแรงมาก เสียงดังกึกก้องสนั่นกวาดทุกสิ่งทุกอย่างรอบ ๆ ม้วนกวาดออกไป.
ฝ่ามือทั้งสองที่เข้าปะทะกันเกิดเป็นหลุมดำขนาดใหญ่ ก่อนที่จะระเบิดออกมาและสลายหายไป.
"ป้องกันได้? จะเป็นไปได้อย่างไร?"
"นั่นมันฝ่ามือของจงซาน!"
"เซียนโบราณที่ฉีกห้วงมิติได้อย่างงั้นรึ? น่าขันเกินไปแล้ว?"
........................
..................
.........
แรงอัดกระแทก ไม่เพียงแค่ห้วงมิติฉีกกระชาก พื้นที่รอบ ๆ ที่แตกสลายพังทลาย เหล่าผู้ฝึกตนมากมายที่ถอยออกห่างออกมา จดจ้องมองจากที่ไกลออกไปเงียบ ๆ .
ใครกัน?
ห้วงมิติที่ค่อยฟื้นคืนกลับมาช้า ๆ ห้วงมิติที่พังทลายค่อยฟื้นคืนกลับ.
จงซานที่ก้าวออกมาจากห้องโถงที่พังทลาย บินออกมา ก่อนที่จะไปยืนอยู่บนอากาศ ขวางอยู่ด้านหน้าจงเทียนและเหล่าเสนาธิการคนอื่น ๆ .
ในเวลานี้ สายตาของทุกคนที่จ้องมองตามจงซาน จิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ที่ลุกโชนจ้องมองไปยังฝ่ายตรงข้าม.
ทว่าที่ด้านหน้าจงซาน ปู่ซาก่อนหน้านี้ ที่ใบหน้าไร้อารมณ์ ไม่รู้หนาวรู้ร้อนจ้องมองจงซาน.
"เฉิงโห่ว ความเจ็บปวดรอบที่แล้วลืมไปแล้วรึ? ถึงกับกล้ามาหาเรื่องข้าอีก?"จงซานที่กล่าวออกมาด้วยเสียงเย็นชา.
ทันทีที่จงซานเอ่ยจบ เหล่าเสนาธิการต้าเจิ้งทุกคนที่เผยท่าทางประหลาดใจ ใคร? เซิ่งหวังเอ่ยชื่อใครอย่างงั้นรึ?
ที่ไกลออกไป เหล่าผู้ฝึกตนที่เฝ้ามองดูอยู่ถึงกับอ้าปากค้างไปในทันทีเช่นกัน.
"อาจารย์ หูข้าได้ยินอะไรกัน ศิษย์ได้ยินไม่ชัดเจน จงซานเอ่ยว่าใครนะเมื่อกี้นี้?"
"เฉิงโห่ว? ปราชญ์เทพลำดับหนึ่งเฉิงโห่ว?"
"ไม่ ๆ ก่อนหน้านี้ น้ำเสียงของจงซาน? ลืมความเจ็บปวดก่อนหน้านี้อย่างงั้นรึ? นี่คือสิ่งที่เขาเอ่ยกับปราชญ์เทพรึ? ก่อนหน้านี้ พวกเขาสู้กันมาก่อนอย่างงั้นรึ?"
..............................
..................
......
ทันใดนั้น สายตาของทุกคนที่จ้องมองจงซานที่ต่างออกไป เป็นเรื่องจริงอย่างงั้นรึ?
"เจ้าแข็งแกร่งขึ้นจริง ๆ !"ปู่ซาที่อยู่ตรงข้ามไม่ได้กล่าวปฏิเสธ ทว่าเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นชา.
"แกล้งเป็นข้าราชบริพารของต้าเจิ้ง หรือว่าต้องการสมัครเข้าร่วมต้าเจิ้งอย่างงั้นรึ?"จงซานกล่าวเหยียดหยัน.
"น่าขัน ลำพังเจ้านะรึ?"เฉิงโห่วที่กล่าวดูแคลน.
"หากไม่ต้องการเข้าร่วมต้าเจิ้ง เข้ามายึดครองร่างข้าราชบริพารของต้าเจิ้ง มีเจตนาร้ายอะไร นี่คู่ควรกับการเป็นปราชญ์เทพลำดับหนึ่งอย่างงั้นรึ? เจ้าช่างอ่อนด้อยกว่าหงจวินมากมายนัก!"จงซานที่ส่ายหน้าไปมาขณะกล่าว.
ด้อยกว่าหงจวินอย่างงั้นรึ? ใบหน้าของเฉิงโห่วที่ใบหน้าเปลี่ยนเป็นมืดครึ้ม.
เป็นปราชญ์เทพลำดับหนึ่งเหมือนกัน ดังนั้นย่อมมีคนทั่วเหล้านำมาเปรียบเทียบ ก่อนหน้านี้เฉิงโห่วที่มั่นใจมาก คิดว่าตัวเองนั้นไม่ได้ด้อยกว่าหงจวิน ทว่ากับเหตุการณ์เมื่อครั้งอยู่ทวีปจูลู่ทางเหนือ ความมั่นใจทั้งหมดของเขาก็หายไปไม่น้อย.
เพราะว่าเฉิงโห่วพบเรื่องที่น่าอัศจรรย์ใจได้ หงจวินถึงกับทรงพลังสามารถที่จะเดิมพันกับเทียนชูได้!
หงจวินจุติกลับมา ความแข็งแกร่งขอหงจวิน? ไม่มีใครรู้ ทว่าเฉิงโห่วเข้าใจความแข็งแกร่งของหงจวินได้ พลังของเขาที่มากมายแม้แต่มีคุณสมบัติที่จะต่อรองกับเทียนชูได้.
เฉิงโห่วที่รู้สึกขุ่นเคืองไม่น้อย เพราะเฉิงโห่วในเวลานี้ไม่มีคุณสมบัติพอที่จะเดิมพันกับเทียนชูได้.
ดังนั้น ก่อนหน้านี้ หากใครบอกว่าเขาด้อยกว่าหงจวิน เขาก็ยังคงยิ้มได้ ทว่าตอนนี้ เฉิงโห่วเข้าใจแล้วว่าเขาด้อยกว่าหงจวินนั้นมากมายนัก การเอ่ยออกมาในครั้งนี้ มันได้ทำให้หัวใจของเขารัดแน่น แม้แต่รู้สึกโกรธเกรี้ยวด้วยซ้ำ.
"ตัดผ่านระดับมาอย่างงั้นรึ? ช่างน่าเสียดาย เจ้าไม่ใช่คู่มือของข้า!"เฉิงโห่วที่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.
จงซานที่เผยยิ้มออกมาเล็กน้อย ส่ายหน้าไปมา "ด้วยเงื่อนไขเวลานี้ น่าสนใจ? ร่างฉายสัมผัสเทวะยึดครอง ไม่สามารถเคลื่อนย้ายอำนาจฟ้าดินได้ หลาย ๆ วิชาไม่สามารถใช้ได้ หากไม่ซ่อนตัวในฝูงชน ก็ไม่มีปัญญาที่จะทำอะไรบุตรของข้าได้ ด้วยสถานะของเจ้าช่างน่าขายหน้านัก!"
"สถานะ? ฮ่าฮ่า ในอดีต ไม่ใช่ว่าเจ้าได้ลอบขโมยอำนาจจากเทียนชูโจมตีข้าหรอกรึ?"เฉิงโห่วที่ดวงตาเบิกกว้าง.
จงซานที่จ้องมองเฉิงโห่ว เผยยิ้มออกมาเล็กน้อย "ชนะเป็นเจ้า แพ้เป็นโจร เป็นข้าได้รับชัย หรือว่าเจ้าได้รับชัยกัน!"
ได้ยินคำพูดอันธพาลของจงซาน ภายในใจของเฉิงโห่วที่รัดแน่นขึ้นมาทันที.
เป็นความจริง เขาได้เสียชื่อเสียงไปแล้ว จงซานที่ได้รับชัยแม้นว่าจะด้วยวิธีใดเขาก็ได้รับชื่อเสียงแล้ว ทว่า วันนี้ หากเขาสามารถใช้ร่างภาพฉายสัมผัสเทวะสังหารปราชญ์เทพได้ ใครจะบอกกว่าเขาทำอะไรน่าขายหน้ากัน?
ชนะเป็นเจ้า แพ้เป็นโจร ไม่ผิดเลย จนทำให้เขาไม่รู้ว่าจะโต้แย้งอะไรออกไป?
"จงซาน ข้าคิดว่าถึงพลังฝึกตนของเจ้าจะเพิ่มขึ้น หากแต่ข้าก็ไม่เห็นความแตกต่างอะไรจากเดิมเลย!"เฉิงโห่วที่กล่าวออกมาด้วยเสียงเย็นชา.
จงซานที่ส่ายหน้าไปมา กล่าวออกมาเบา ๆ "เพียงแค่ร่างฉายสัมผัสเทวะ กลับคิดว่าจะกลับไปได้อย่างปลอดภัยอย่างงั้นรึ?! ไม่ว่าข้าจะต่างไปจากเดิมหรือไม่ ก็ไม่ใช่สิ่งที่ปราชญ์เทพเฉิงโห่วต้องเป็นห่วง ในเวลานี้ควรจะเป็นห่วงร่างจิตสัมผัสเทวะของตัวเองดีกล่าว ดูเหมือนว่าคงจะกลับไปได้ยาก.
ร่างจิตสัมผัสเทวะ ไม่สามารถไปได้อย่างงั้นรึ?
ในเวลาเดียวกันเหล่าเสนาธิการของต้าเจิ้งที่เพิ่งเข้าร่วม รู้สึกตื่นเต้นขึ้นมา ต่อหน้าปราชญ์เทพลำดับหนึ่ง คาดไม่ถึงเลยว่าเซิ่งหวังหาได้สนใจ คาดไม่ถึงว่าเซิ่งหวังจะทรงพลังขนาดนี้.
ที่ไกลออกไป เหล่าคนที่ต้องการเข้าร่วมต้าเจิ้งเวลานี้ยิ่งมั่นใจยิ่งกว่าเดิม กับคนที่แข็งแกร่งเช่นนี้ จะต้องสามารถข้ามผ่านยุคแห่งความวุ่นวายไปได้อย่างแน่นอน.
อีกฝั่ง จงซานที่เอ่ยเสร็จไม่ลังเลแม้แต่น้อย ลงมือในทันที บนอากาศปรากฎหลุมดำน้ำวนขึ้นทันที ก่อนที่จะค่อย ๆ เชื่อมกัน ขณะถูกส่งมายังด้านหน้าของเฉิงโห่วทันที.
ทักษะเทวะ กุย!
เห็นหลุมน้ำวนสีดำ ใบหน้าของเฉิงโห่วที่เปลี่ยนเป็นจริงจัง ก่อนที่จะสะบัดมือ ชีพจรฟ้าซิงปรากฎทันที อำนาจที่ทำให้ห้วงมิติสั่นไหวไปมารอบ ๆ
"ลำพังเจ้า ไม่มีคุณสมบัติพอ!"
เฉิงโห่วที่สะบัดมือยื่นออกไป ชีพจรฟ้าซิงที่พุ่งเข้ากระแทกหลุมน้ำวน.
"ตูมมมมมมมมมมม!"
ริ้วแสงขนาดใหญ่ที่เข้าประทะกับหลุมน้ำวน ก่อนที่จะค่อย ๆ แตกสลายไปในทันที.
"หืม?"เฉิงโห่วที่ขมวดคิ้วไปมา.
จากนั้น เขาที่ปล่อยแสงสีขาวออกมา ขณะที่ถูกใช้ปกคลุมหลุมน้ำวน เพื่อที่จะใช้ศึกษาทักษะเทวะของจงซาน.
"ทักษะเทวะ กุย!จวงจื่อก็สามารถใช้ได้ หากเจ้าอยากหาจุดอ่อน ก็สอบถามกับเขาสิ!"จงซานที่กล่าวเป็นนัย.
จากนั้น ไม่รอให้เฉิงโห่วตอบสนอง จงซานที่นำตราหยกครรลองสวรรค์ออกมา.
ตราหยกครรลองสวรรค์ที่ถูกส่งขึ้นไปบนท้องฟ้า พร้อมกับขยายขนาดเป็นหนึ่งล้านลี้ บดทับลงมาบนอากาศ กลิ่นอายที่หนักหน่วงรุนแรงโถมทับลงมายังร่างของเฉิงโห่วทันที.