Chapter 1329 สังหารกู่เซิ่งหมิง.
1300!
1400!
........................
............
......
จงซานที่ไม่สนใจเรื่องราวภายนอก เวลานี้เขาทำการดูดซับวิถีสวรรค์จำลองของโลกเขตแดนเปลี่ยนเวลาอย่างเต็มกำลัง.
เหล่าผู้ฝึกตนไร้สังกัดที่ปิดด่านเพื่อตัดผ่านระดับ จำเป็นต้องค้นหาสถานที่เงียบสงัด แม้แต่วางค่ายกลซับซ้อนป้องกันคนเข้ามารบกวน ทว่าจงซานกลับไร้ซึ่งหลักการ ตัดผ่านระดับต่อหน้าผู้ฝึกตนมากมาย นี่มันคือความสามารถอะไรกัน?
1600!
1700!
1800!
มีวิถีสวรรค์หลากหลายเส้นที่ทับซ้อนเหมือนกันกับวิถีสวรรค์จากโลกเขตแดนลับมังกรบรรพชน ในครานี้ ทำให้จงซานสามารถเก็บเกี่ยววิถีสวรรค์ได้อีก 800 เส้น! เทียบกับโลกใบใหญ่ที่มีสามพันเส้น จงซานได้รับวิถีสวรรค์จำลองมาเกินกว่าครึ่งแล้ว.
"ครืนนนนนน!"
ภายในเรือนโอสถของจงซานที่มีเสียงระเบิดดังทึบก้อง โลกเขตแดนเปลี่ยนเวลาได้ล่มสลายสมบูรณ์แล้ว ทุกอย่างที่แตกสลาย ไม่มีเหลือแล้ว.
เนตรเทียนฟาที่คืนกลับโลกเขตแดนเทวะ ขณะที่กำลังทำการปรับปรุงโลกเขตแดนเทวะ สร้างวิถีสวรรค์ 1800 เส้นก่อเกิดสวรรค์และปฐพี.
"ตูมมม ~~~~~~~~~~~~~~~~~~!”
เสียงที่ดังกึกก้องภายในร่างของจงซาน เหล่าเสนาธิการของต้าเจิ้งเองก็ได้ยินเช่นกัน เสียงดังกล่าวที่ดังออกมาดูน่าเกรงขาม กลายเป็นที่คาดหวังของเหล่าเสนาธิการเป็นอย่างมาก.
จงซานที่สะบัดมือ นำตำหนักลอยฟ้าออกมา เพื่อปกปิดตัวเขาจากสายตาของคนอื่น ๆ .
แม้นว่าจะไม่มีใครกล้าโจมตีจงซาน ทว่าขณะตัดผ่านระดับจงซานก็ไม่ต้องการให้คนอื่นรบกวนเช่นกัน.
โลกเขตแดนเปลี่ยนเวลาได้หายไปแล้ว แปดหางสวรรค์แห่งจุดจบที่เวลานี้กำลังดูดซับดวงตาที่มืดบอดเต็มกำลัง.
ลูกตาที่มืดมอดคืออะไร? จงซานเองก็ไม่เข้าใจเช่นกัน ทว่าจงซานรับรู้ว่าหากดูดซับแล้วจะสามารถตัดผ่านระดับได้อย่างแน่นอน.
การกลืนกิน อสูรแม่พิมพ์ก่อหน้านี้ ทำให้แปดหางสวรรค์แห่งจุดจบได้ทักษะเทวะเพิ่มมา แต่ไม่ทำให้พลังฝึกตนของจงซานเพิ่มขึ้นมากนัก อยู่เพียงระดับเซียนบรรพชนขั้นที่ 3 เท่านั้น ครั้งนี้ด้วยการดูดซับลูกตาที่มืดบอด จงซานมั่นใจที่จะตัดผ่านระดับได้!
หลอม หลอมต่อไป!
---------------------------------------------------------
ขณะที่จงซานกำลังหลอมดวงตาที่มืดบอดนั้น ที่ไกลออกมาการต่อสู้ของเซียนเซิงซือและกู่เซิ่งหมิงที่กลายเป็นที่จับจ้องมองของทุกคน.
เซียนเซิงซือนั้นแม้นว่าจะอ่อนแอ ทว่าวิชาของเขานั้นแปลกประหลาดมาก แม้แต่ทำให้ทุกคนหวาดผวาเลยทีเดียว.
เก้าเจียงซือร่างเฉิน ต้องบอกเลยว่ามันเป็นร่างกายที่แข็งแกร่งไม่ธรรมดา! แม้นว่าจะถูกโจมตีอย่างหนักหน่วงรุนแรง ทว่าร่างกายของมันก็ยังสมบูรณ์.
18 ราชาโครงกระดูก! ยอดฝีมือเซียนบรรพชน นอกจากนี้ยังเป็นพลังที่เหนือกว่ายอดฝีมือทั่วไปมาก.
เซียนบรรพชน 27 ตน พลังที่ทำให้แม้แต่ปราชญ์เทพยังหวาดหวั่น หนำซ้ำด้วยการเป็นเสมือนหุ่นเชิดของเซียนเซิงซือ เซียนบรรพชนทั้ง 27 ยังไร้ซึ่งอารมณ์และความหวาดกลัวโจมตีเต็มกำลัง.
เหล่าผู้ฝึกตนที่อยู่รอบ ๆ นั้นต่างก็เต็มไปด้วยสีหน้าหวาดหวั่น.
"ครืนนนนน ~~~~~~~~~~~~~~~~~~!”
กู่เซิ่งหมิง เซียนบรรพชนขั้นที่สิบ นับว่าทรงพลังแข็งแกร่งมาก ทว่าน่าเสียดายต่อหน้าเซียนบรรพชนมากขนาดนั้น ถึงจะแข็งแกร่งอย่างไรก็ตัวคนเดียว เป็นไปไม่ได้ที่จะเอาชนะโครงกระดูกตระกูลจางได้.
ร่างกายของเซียนเซิงซือที่สั่นเล็กน้อย หากแต่เขาก็ยังคงแข็งขืนกล่าวออกมาเสียงดัง "ปู่แปด ลุงใหญ่ ลุงสอง ลุงห้า ความแค้นทั้งหมด ข้ากำลังจะชำระให้แล้ว ไม่ง่ายเลยที่จะทำให้มันตายไป ในอดีตข้าทำให้พวกท่านผิดหวัง ข้าจะคืนกลับให้มันทั้งหมด!"
"ตูมมมมมมม!"
เทียบกับเหล่าเสวียนกับเหล่าหวงกลายเป็นธรรมดาไปเลย กู่เซิ่งหมิงที่นำของวิเศษออกมามากมาย ออกมาเพื่อเข้าต้านหุ่นเชิดบรรพชน 27 ตนในครั้งนี้ ร่างกายของเขาที่แดงไปทั่วร่าง.
"ในอดีตเจ้ายังไม่สามารถทำอะไรข้าได้ เวลานี้ก็ไม่มีทางทำได้ "กู่เซิ่งหมิงที่ดวงตาทั้งสองเปลี่ยนเป็นบ้าคลั่ง.
เซียนเซิงซือที่เผยรอยยิ้มอันเย็นชา.
"อ๊ากกกก เปลี่ยนร่างผ่านกู๋ ~~~~~~~!”กู่เซิ่งหมิงที่คำรามออกมาเสียงดัง.
"วูซซซซ ~~~~~~~~~~~~~~~~~~!”
ภายในหลุมดำที่ขยายกว้าง ภายใน ร่างของกู่เซิ่งหมิงที่ขยายออกมาในทันที พริบตาเดียวก็มีขนาดนับพันจั้งแล้ว ร่างกายของเขาเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อเป็นมัด ๆ เส้นโลหิตที่บวมปูด กลิ่นอายที่น่าสะพรึงกลัวระเบิดออกมา.
"นี่มัน หมายความว่าอย่างไร? กู่เซิ่งหมิงขยายร่างอย่างงั้นรึ?"
"ไม่ ไม่ใช่แค่นั้น พลังยังเพิ่มขึ้นมาอีกด้วย!"
"เป็นกลิ่นอายที่ทรงพลังมาก กลิ่นอายของกู่เซิ่งหมิงเพิ่มขึ้นอีกตั้งหลายเท่า!"
..............................
..................
......
เหล่าผู้ฝึกตนที่อยู่รอบ ๆ ดวงตาเบิกกว้างขึ้นมาในทันที เพิ่มพลังฝึกตนอย่างงั้นรึ? ในโลกใบนี่มีวิธีลึกลับเพิ่มพลังขึ้นช่วงระยะเวลาสั้น ๆ ด้วยอย่างงั้นรึ? สำหรับคนที่มีพลังฝึกตนต่ำ การจะเพิ่มระดับขึ้นหลายขั้นนั้นเป็นเรื่องง่าย ๆ ทว่ากับคนที่มีพลังฝึกตนสูงขึ้นมา ไม่ว่าจะเป็นวิชาใดก็ล้วนแต่ไร้ผล ยิ่งเซียนบรรพชนระดับสิบขั้นปลายด้วยแล้ว การจะยกระดับขึ้นนั้นก็ยิ่งยากไปใหญ่ นี่เป็นวิชาอันใดกัน ทว่ากลิ่นอายของกู่เซิ่งหมิงที่เพิ่มขึ้นมานี้ยังยกระดับได้อีกหลายเท่าด้วยอย่างงั้นรึ?
กลิ่นอายที่ระเบิดออกมาเสียงดังสนั่นหวั่นไหว ผลักเหล่าราชาโครงกระดูกลอยออกไป.
"ตูมมม!“”ตูมมม!”........................
ความแข็งแกร่งของกู่เซิ่งหมิงที่เพิ่มขึ้นมาในทันที ภายในหลุมดำ ทั้งเจียงซือร่างเฉินและราชาโครงกระดูก ถึงกับถูกผลักออกมา ดวงตาทั้งสองข้างของกู่เซิ่งหมิงที่ดวงตาแดงซ่านกลายเป็นบ้าคลั่งเป็นอย่างมาก.
"ผ่านกู๋เปลี่ยนร่างอย่างงั้นรึ? ช่างน่าเสียดาย เจ้าเป็นเพียงคนตระกูลสาขา ทำได้แค่เปลี่ยนร่างขั้นต้นเท่านั้น!"เซียนเซิงซือกล่าวหยัน.
หัตถ์กระดูกแห่งความตายที่เวลานี้ปรากฎกระดิ่งขึ้นในทันที.
"กริ๊ง กริ๊ง กริ๊ง!"
เสียงกระดิ่งที่ดังขึ้น เหล่าโครงกระดูกที่หยุดลง ก่อนที่ร่างกายของมันจะส่งเสียงแก๊ก แก๊ก แก๊ก เหมือนกับกำลังแตกร้าว.
ไม่ ไม่ใช่แตกร้าว หากแต่เป็นขยายขนาด มันขยายขนาดใหญ่ขึ้น ทำให้มีขนาดหลายพันจั้ง เทียบเท่ากับร่างของกู่เซิ่งหมิง.
ร่างของราชาโครงกระดูกที่ขยายใหญ่ขึ้น ร่างของเจียงซือเฉินปรากฎปีกผุดออกมาด้านหลัง กลิ่นอายที่น่าเกรงขามระเบิดออกมาเช่นกัน ร่างกายที่ใหญ่ขึ้น พลังก็มากขึ้น ร่างกายของพวกมันที่มีขนาดพันจั้งแทบจะในทันที.
กลิ่นอายของราชาโครงกระดูก กลิ่นอายของเจียงซือร่างเฉิน ที่เพิ่มขึ้นหลายเท่าเช่นกัน กลิ่นอายของพวกมันที่สามารถกำราบกลิ่นอายของกู่เซิ่งหมิงได้อีกครั้ง.
"สารเลว!"กู่เซิ่งหมิงที่คำรามออกมาเสียงดัง.
27 เซียนบรรพชนที่ลงมือพร้อมกัน แม้นกู่เซิ่งหมิงจะกระตุ้นใช้วิชาลับออกมา ในเวลานี้ก็ไม่สามารถต้านได้ ด้วยการโจมตีทีหนักหน่วงของราชาโครงกระดูก ที่ไหลขวาของเขาเวลานี้อาบไปด้วยโลหิต แววตาของกู่เซิ่งหมิงเวลานี้ที่เริ่มสิ้นหวัง.
"ตงอู๋ พวกเจ้ายังไม่ยื่นมือเข้ามาอีกรึ?"กู่เซิ่งหมิงที่คำรามเสียงดัง.
ที่ไกลออกไป ผู้ฝึกตนกลุ่มหนึ่งที่มีห้าคนเริ่มผสานมหาวิถีของตัวเอง พวกเขาคือหลวงจีนอรหันต์ห้าคนนั่นเอง.
ตงอู๋ที่กู่เซิ่งหมิงเอ่ย ก็คือนักบวชห้าคนนั่นเอง.
ทั้งห้าต่างก็เป็นอรหันต์ ดูเหมือนว่าพวกเขากำลังจะเข้ามาช่วยเช่นกัน.
ห้าอรหันต์ทั้งหมดต่างก็เป็นเซียนบรรพชน ขณะที่เผยตัวออกมา ทว่าขณะทีบินตรงมานั้น พวกเขารู้สึกลังเลเล็กน้อย.
"ตงอู๋?"เซียนเซิงซือที่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.
ทั้งห้าที่หยุดชะงักเล็กน้อย.
"ข้ารู้ว่าพวกข้าร่วมนิกายต้าเสวียนหวง ทว่าข้าต้องการเตือนพวกเจ้า วันนี้หากไม่เข้ามายุ่งเรื่องในวันนี้ถือว่าจบกัน หากไม่แล้ว พวกเจ้าทั้งห้าก็อย่าหวังจากไป."เซียนเซิงซือกล่าวออกมาด้วยเสียงเย็นชา.
"พูดจาใหญ่โตนัก พวกเราจะไป มีใครหน้าใหนกล้าขวาง?"เหล่าอรหันต์ที่กล่าวออกมาเสียงเคร่งขรึม.
"งั้นก็ลองดู!"เซียนเซิงซือที่กล่าวออกมาด้วยเสียงเย็นชาอย่างที่สุด.
หากเซียนเซิงซือเผยท่าทางกังวลสักเล็กน้อย บางทีทั้งห้าคนคงยื่นมือเข้าไปช่วยกู่เซิ่งหมิงแล้ว ไม่ต้องบอกเลยว่าการเข้าไปช่วยกู่เซิ่งหมิง ไม่ว่าจะสำเร็จหรือไม่พวกเขาจะต้องได้รับบาดเจ็บหนักอย่างแน่นอน เพียงแค่เข้าไปช่วย การจะหนี ด้วยความเร็วของเซียนบรรพชน ย่อมไม่มีทางที่เซียนบรรพชนคนอื่นจะไล่ตามไปได้ง่าย ๆ .
เซียนเซิงซือที่แผ่ความเย็นชาออกมา จิตสังหารที่รุนแรงทำให้ทั้งห้าใบหน้ากระตุกหยุดนิ่งไม่เข้าไป.
พวกเขาทั้งห้าไม่สามารถเข้าใจในตัวเซียนเซิงซือได้ ราชาโครงกระดูกทั้งสิบแปดตนนั้น เขาสามารถที่จะควบคุมถอยออกมารับมือพวกเขาได้?
คนทั้งห้าที่จ้องมองหน้ากันและกัน จ้องมองกู่เซิ่งหมิง ในเวลานี้ใบหน้าของเขาที่เปลี่ยนเป็นอัปลักษณ์.
"ตูมมมม!"
ขาซ้ายของกู่เซิ่งหมิงที่ขาดออกจากกัน โลหิตที่พุ่งกระฉูดจากฝีมือของเจียงซือเฉิน.
"เจ้าพวกบัดซบทั้งห้า ยังมองอะไรอีก ยังไม่เข้ามาช่วยข้า!"กู่เซิ่งหมิงที่ตะโกนออกมาเสียงดัง.
คนทั้งห้าที่ลังเลว่าจะช่วยหรือไม่ ทันทีที่ได้ยินคำว่าพวกบัดซบทั้งห้า ความต้องการช่วยนั้นหายไปในทันที.
"ประมุขกู่ ข้าและคนอื่น ๆ คงช่วยอะไรไม่ได้!"คนทั้งห้าที่ส่ายหน้าไปมา.
ในเวลาเดียวกัน คนทั้งห้าไม่มีหน้าอยู่ต่อไปแล้ว พวกเขาที่กลายเป็นลำแสงพุ่งหายไปบนขอบฟ้าไกล.
"สารเลว เจ้าพวกบัดซบทั้งห้า!"กู่เซิ่งหมิงที่ตะโกนออกมาด้วยความโกรธเกรี้ยว.
"ซี่!"
"พุ!"
ราชาโครงกระดูกที่ตวัดกงเล็บฉีกท้องของกู่เซิ่งหมิง โลหิตที่พุ่งกระจายแตกกระเซ็น.
"ซี่!"
กงเล็บของราชาโครงกระดูกที่สร้างบาดแผลบนร่างของกู่เซิ่งหมิงมากขึ้นเรื่อย ๆ .
"ซี่!"
โลหิตเลือดเนื้อที่อาบ ๆ ไปบนกงเล็บของราชาโครงกระดูกทุกตน.
กู่เซิ่งหมิงในเวลานี้อยู่ในสภาพอนาถเป็นอย่างมาก.
หากเทียบกับยูไลที่ถูกสับเป็นชิ้น ๆ อย่างงดงาม หากแต่กู่เซิ่งหมิงเวลานี้ถูกฉีกเนื้อขาดออกเป็นชิ้น ๆ เหวอะหวะน่าขนลุก ดูน่าอนาถกว่ายูไลมาก.
เหล่าอรหันต์ ปู่ซา พุทธะ พวกเขาที่ขนลุกทั่วร่างหนังหัวชาหนึบ เซียนเซิงซือผู้นี้ ไม่เพียงน่าสะพรึงกลัว ซ้ำยังลึกลับแปลกประหลาด วิชาดุร้ายไม่ธรรมดา น่าหวาดกลัวยิ่งนัก.
ผู้ฝึกตนไม่น้อยที่ขนลุก ภายในใจที่เผยท่าทางดีใจ ที่ไม่ได้ล่วงเกินเซียนเซิงซือก่อนหน้านี้.
นับจากวันนี้เป็นต้นไป ชื่อเสียงที่น่าเกรงขามของเซียนเซิงซือ คงจะกระจายไปทั่วหล้าอย่างแน่นอน.
เกือบวันหนึ่งเต็ม ๆ เซียนเซิงซือที่ค่อย ๆ ฉีกร่างกู่เซิ่งหมิงตลอดวัน.
"ตายไปซะ!"เซียนเซิงซือที่ตะโกนออกมาเสียงดัง.
"ตูมมมมม ~~~~~~~~~~~~~~~~~~!”
กู่เซิ่งหมิงที่โลหิตอาบไปทั่วร่าง ร่างกายที่ขาดวิ่น ไม่สมประกอบ ก่อนที่จะระเบิดออกมา เหลือเพียงแค่วิญญาณที่เวลานี้กำลังสลายกลายเป็นกลุ่มควันไปแล้ว เซียนบรรพชนขั้นที่สิบ ถูกบดบี้กายเนื้อและวิญญาณแหลกสลายตายไปเรียบร้อยแล้ว.
หลุมดำที่ค่อย ๆ ฟื้นคืนช้า ๆ เหล่าผู้ฝึกตนรอบ ๆ ที่นิ่งงันอ้าปากค้าง.
อีกฝั่งหนึ่ง เป่าเอ๋อที่สังหารเซียนบรรพชนสองคนของนิกายต้าเสวียนหวง หวนจีที่ลากเซียนบรรพชนสองคนเข้าไปในโลกมารสวรรค์ แน่นอนว่าต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย สามเซียนบรรพชนที่ยังเหลือรอดเวลานี้จ้องมองกู่เซิ่งหมิงถูกสังหารอย่างอนาถ พวกเขาที่หวาดผวา หนีออกไปทันที!
"หนีรึ? ไม่มีทาง!"เซียนเซิงซือที่เอ่ยกล่าว.
"ตูมมมม!"
เก้าเจียงซือเฉินและ 18 ราชาโครงกระดูกที่พุ่งออกไปรุมขย้ำเซียนบรรพชนทั้งสามทันที.
"ตูมมมมมมม ~~~~~~~~~~~~~~~~~~!”
พวกเขาที่ถูกสังหารอย่างอนาถ ถึงจะมีวิถีสวรรค์คลุมร่าง แต่ต่อหน้าเซียนเซิงซือ กลับเปราะบางไม่สามารถต้านได้เลยสักนิดเดียว.
ผ่านไปอีกครึ่งวัน ทุกคนที่เกี่ยวข้องกับนิกายต้าเสวียนหวงถูกสังหารตายทั้งหมด!
ตกตายไปทั้งหมด!
ในเวลานี้ เหล่าผู้ฝึกตนรอบ ๆ ต่างก็หายใจหนักหน่วง ตื่นตระหนกตกใจเป็นอย่างมาก กับนิกายต้าเสวียนหวงที่มีขนาดใหญ่ คาดไม่ถึงเลยว่าจะถูกสังหารล้างโคตร? นอกจากนี้จงซานยังไม่ลงมือด้วยซ้ำ ศาลเทพต้าเจิ้ง ในเวลานี้พวกเขาทรงพลังขนาดใหน?
ก่อนหน้านี้ยังมีคนบางคนที่ลังเลอยู่ ในเวลานี้ได้ตัดสินใจหนักแน่นแล้ว พวกเขาจะต้องเข้าร่วมให้ได้!
อย่างไรก็ตามก็มีผู้ฝึกตนอีกหลายคน ที่ค่อย ๆ ถอยหนีหายไปช้า ๆ .
และแน่นอนว่ายังมีผู้ฝึกตนอีกไม่น้อย ที่ไม่ต้องการเข้าร่วมต้าเจิ้ง และไม่ยินดีจะจากไป เพียงแค่เฝ้าดูอยู่ห่าง ๆ เท่านั้น.