Chapter 1316 ซุ่มโจมตีในทะเลหมิงฉี โจมตีใคร?
ครึ่งเดือนหลังจากนั้น ภายในโลกเปลี่ยนเวลา.
เจ้าตำหนักกลางที่ประกบมือเข้าด้วยกัน ที่ด้านหน้านั้นมีปิศาจร้ายผมแดงขนาดพันจั้ง เจ้าตำหนักกลางที่เริ่มสวดมนต์ ปลดปล่อยแสงสีทองออกมา แสงสีทองที่ปกคลุมปิศาจผมแดงทันที ก่อนที่มันจะสั่นไหวไปมา ด้วยเสียงสวดมนต์ของเจ้าตำหนักกลาง ท้ายที่สุดมันก็เงียบลง.
หลังจากผ่านไปหนึ่งชั่วยาม แสงสีทองหายไป วิญญาณร้ายปิศาจผมแดงได้กลายเป็นภูตร่างทองไปแล้ว ก่อนที่มันจะคำนับเจ้าตำหนักกลาง จากนั้นก็บินตรงไปยังทิศทางของเสาสวรรค์สีทองทันที.
จ้องมองภูตร่างใหญ่ยักษ์จากไป เจ้าตำหนักกลางที่ถอนหายใจยาว.
นางที่ปาดเหงื่อเบา ๆ ก่อนที่จะบ่นพึมพำกับตัวเอง "ดูเหมือนว่าถึงเวลาผสานร่างศพควบคุมแล้ว เพียงแต่ กลุ่มของจงซานไม่แยกออกจากกันเลย ทำให้ยากที่จะหาโอกาสได้!"
อีกฝั่งหนึ่ง ในห้องโถงในโลกเปลี่ยนเวลา เสียงของเหล่าเสวียนที่ดังออกมาทันที.
"พบแล้ว!"
ภายในห้องโถง มีดวงตาขนาดใหญ่อยู่ในบ่อน้ำ ที่ปล่อยปราณทมิฬที่หนาแน่นออกมา คนทั่วไปนั้นไม่มีทางที่จะเข้าใจพื้นที่พิเศษนี้ได้ ทว่าเหล่าเสวียนนั้นกลับสามารถใช้ปราณทมิฬในการตรวจจับได้.
"ที่ใหน?"เหล่าหวงที่กล่าวอย่างเคร่งขรึม.
"ทะเลหมิงฉี คาดไม่ถึงเลยว่าเซียนเซิงซือจะหาทะเลหมิงฉีพบ? นี่เขารู้จักโลกเปลี่ยนเวลาได้ดีขนาดนั้นเลยรึ?"เหล่าเสวียนที่ใบหน้าเปลี่ยนเป็นอัปลักษณ์.
"ทะเลหมิงฉี? เขาหาสถานที่ดังกล่าวพบได้จริง ๆ ให้หนึ่งร้อยเทพปิศาจถอยออกมาก่อน ให้ข้าไปถึงที่นั่นค่อยจัดการ เรื่องนี้ชักช้าไม่ได้ พวกเราจะต้องไปตอนนี้!"เหล่าหวงที่เอ่ยออกมาอย่างรีบร้อย.
"ดี!"เหล่าเสวียนที่พยักหน้ารับ.
----------------------------------------------------------------
โลกเขตแดนเปลี่ยนเวลา.
สถานที่ดังกล่าวมีปราณศพที่หนาแน่นเป็นอย่างมาก มีหมอกหนากระจายเต็มไปหมด พื้นที่รอบ ๆ นั้นเต็มไปด้วยความมืดมิดและหนาวเย็น แม้แต่ต้นไม้ทั้งหมดยังถูกแช่แข็ง.
สถานที่แห่งนี้ มหาเซียนทั่วไปยากที่จะต้านความหนาวเย็นได้ เซิ่งกงเป้าจึงนำเพียงเซียนโบราณเข้าไป ให้มหาเซียนรออยู่ด้านนอก.
ที่นี่ ยกเว้นหวนจีและเป่าเอ๋อ ผู้ฝึกตนที่อยู่ในระดับเซียนบรรพชน รวมจงซานแล้ว มีเซียนบรรพชนทั้งหมด 14 คน.
"ที่นี่ สัมผัสเทวะไม่สามารถใช้ออกมาได้ง่าย ๆ ความมืดมนความหนาวเย็นนี้ สามารถที่จะกัดกร่อนสัมผัสเทวะได้!"จินเผิงที่กล่าวพลางถอนหายใจ.
"ที่มุมหนึ่งของทะเลหมิงฉีนั้น มีปราณศพที่หนาแน่น ปราณหยินมากมายเต็มไปหมด ที่ด้านหน้าของทะเลหมิงฉี ปราณหยินที่มากมายนั้นถูกกลั่นกลายเป็นของเหลว จนกลายเป็นทะเลที่ลึกเป็นอย่างมาก หากเซียนโบราณลงไปในน้ำแล้วล่ะก็จะต้องกลายเป็นศพอย่างแน่นอน."เซียนเซิงซือที่กล่าวตอบ.
สามารถหลอมเซียนโบราณได้เลยอย่างงั้นรึ? ภายในใจของจินเผิงที่รู้สึกเย็นยะเยือบ "พวกเรามาที่นี่เพื่อทำอะไร?"
"เกี่ยวกับพิธีใต้หว่านฝูผานนั้น สิ่งที่ต้องทำและผ่านมันไป คือพบกับเทพปิศาจ หลังจากที่พบมันและชำระล้างมันได้แล้ว ขั้นสุดท้าย ถึงจะเป็นการเริ่มพิธีอย่างเป็นทางกลาง! สถานที่แห่งนี้ ก็คือสถานที่มีเทพปิศาจมากที่สุด!"เซียนเซิงซือที่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.
"ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้!"จินเผิงพยักหน้ารับ.
"ปิศาจร้ายที่ไท่จื่อจัดการตอนนี้มากพอแล้ว ด้วยพลังฝึกตนเซียนบรรพชนขั้นที่เก้า เทพปิศาจก็ไม่ควรยากที่จะจัดการ จากนี้ขอให้ไท่จื่อแสดงพลังออกมาให้เต็มที่!"เซียนเซิงซือเอ่ย.
"ขอบคุณเซียนเซิงซือ!"จงเทียนพยักหน้ารับ.
"ทุกท่าน สิ่งที่ต้องทำ ก็คือค้นหาตำแหน่งของเทพปิศาจให้กับไท่จื่อ!"เซียนเซิงซือเอ่ย.
"เทพปิศาจ? แล้วเทพปิศาจมีใบหน้าท่าทางอย่างไร?"เซียนเซียนเอ่ยออกมา.
"รอบ ๆ ทะเลหมิงฉีนี้ ไม่มีเจตภูตอื่นแน่นอน มีเพียงเทพปิศาจ ขอเพียงมีวิญญาณใดโจมตีออกมา นั่นก็คือเทพปิศาจ!"เซียนเซิงซือตอบ.
"ได้ จงเทียน เจ้าอยู่ที่นี่ พวกเราจะไปหาเทพปิศาจล่อมาให้เจ้าเอง!"เซียนเซียนกล่าวออกมาในทันที.
"ตกลง!"จงซานพยักหน้ารับ.
"เซิ่งหวัง พวกเรา!"เซียนเซิงซือเอ่ย.
"อืม!"จงซานที่พยักหน้ารับ.
กลุ่มเซียนบรรพชนที่กระจายไปทั่วทุกสารทิศ มีเพียงจงเทียน จงซาน เป่าเอ๋อ สามคนที่รอคอยอยู่ตำแหน่งเดิม.
"เหล่าเย่ ที่นี่มืดมิด ข้ารู้สึกไม่ค่อยดีนัก!"เป่าเอ๋อที่ขมวดคิ้วไปมาเล็กน้อย.
จงซานที่ปรบหลังนางเบา ๆ ก่อนที่จะกล่าวออกมาว่า "โปรดวางใจ ขอเพียงเจ้าเชื่อในตัวข้า ไม่ว่าจะเป็นเวลาใด เหล่าเย่จะปกป้องเจ้าเอง!"
เป่าเอ๋อที่จ้องมองจงซานด้วยดวงตาเป็นประกาย รู้สึกท่าทางแตกต่างจากทุกที่ ทว่าด้วยการปลอบโยนของเขาก็ทำให้เป่าเอ๋อทำได้เพียงแค่พยักหน้ารับเท่านั้น.
อีกฝั่งหนึ่ง เจ้าตำหนักกลางที่นั่งอยู่ในหุบเขาแห่งหนึ่ง ขมวดคิ้วไปมา "น่ารังเกียจจริง ๆ ! ช่างน่าเสียดาย ที่จงซานอยู่ข้าง ๆ !"
เหล่าเสนาธิการของต้าเจิ้งที่บินออกไปทุกทิศทาง เพียงไม่นานยอดฝีมือทุกคนก็กลับมารวมตัวกันอีกครั้ง.
"เซียนเซิงซือ หมายความว่าอย่างไร? พวกเราเพิ่งบินออกไป ก็ส่งสัญญาณให้พวกเรากลับมารวมตัวกันแล้ว!"ใบน้าของตี้เซียนเซียนที่เอ่ยบ่น.
เซียนเซิงซือนำราชโองการออกมา.
"เซิ่งหวังมีประสงค์ พื้นที่รอบ ๆ ทะเลหมิงฉีนั้น ให้เหล่าเสนาธิการทั้งหมดรอคอยรับฟังคำสั่งของเซียนเซิงซือ กระทำการอย่าให้ผิดพลาด!"เซียนเซิงซือที่กล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม.
ประสงค์ของเซิ่งหวัง? ทุกคนที่ใบหน้าเปลี่ยนสี รับรู้ว่าสถานการณ์เวลานี้กำลังอยู่ในสภาวะจริงจัง.
"รับทราบ!"ทุกคนที่กล่าวตอบรับในทันที.
"หวนจี เจ้าควบคุมมารสวรรค์ รับผิดชอบในการหาเทพปิศาจด้วยมารสวรรค์ หลังจากพบมารสวรรค์ให้นำเทพปิศาจมาที่นี่ หนึ่งวันหลังจากนี้ เมื่อพบแล้ว ข้าจะแจ้งตำแหน่งของไท่จื่ออีกครั้ง! นี่เป็นหน้าที่สำคัญต้องรบกวนเจ้าแล้ว!"เซียนเซิงซือกล่าวอย่างเคร่งขรึม.
"อืม!"หวนจีพยักหน้ารับ.
"ส่วนคนอื่น ๆ ตามข้ามารับผิดชอบตั้งค่ายกล!"เซียนเซิงซือกล่าวอย่างเคร่งขรึม.
"ตั้งค่ายกล?"ทุกคนที่เผยท่าทางสงสัย.
"ตั้งค่ายกลในทะเลหมิงฉี ข้ามีแผนผังให้ แต่ละคนรับผิดชอบแต่ละส่วน วัตถุดิบที่ต้องใช้นั้นแตกต่างกันไป ข้าได้เตรียมเอาไว้หมดแล้ว."เซียนเซิงซือนำแผ่นริ้วหยกส่งให้กับทุกคนอย่างรวดเร็ว.
"ข้าจะรับผิดชอบตรวจสอบเอง เซียนบรรพชนทั้ง 11 ต้องกระทำให้เสร็จภายในหนึ่งวัน ลงมือได้!"เซียนเซิงซือกล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.
"รับทราบ!"ทุกคนที่ตอบรับในทันที.
-------------------------------------------------------
หนึ่งวันหลังจากนั้น.
จงซานอยู่ในตำหนักแห่งหนึ่ง เซียนเซิงซือที่กลับมา! พร้อมกับเขาเข้าไปรายงานจงซานที่อยู่กับเป่าเอ๋อในยอดเขาแห่งหนึ่ง.
"ดูเหมือนว่า เฉินจะพบกับเทพปิศาจตนแรกแล้ว!"เซียนเซิงซือที่เผยยิ้มบาง ๆ ออกมา.
"เทพปิศาจ? มีเทพปิศาจที่เซ่อซ่าขนาดนั้นเลยรึ?"เป่าเอ๋อที่ขมวดคิ้วไปมา.
ไม่ไกลออกไป จงเทียนที่อยู่ตรงกันข้าม จดจ้องมองปิศาจร้ายที่แห้งเหี่ยวขนาดหมื่นจั้ง มีหัวสามหัว หกแขน หกขา และยังมีศีรษะและเศษส่วนร่างกายของมนุษย์ ผุดออกมารอบ ๆ ร่างของมัน นี่คือเทพปิศาจ.
“!”
หัวทั้งสามของเทพปิศาจที่เงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้า ก่อนที่จะคำรามออกมาเสียงดัง ปรากฎศพมากมายที่พวยพุ่ง ความหนาวเย็นที่แผ่ออกไปรอบ ๆ ในทันที.
"วูซซซซ!”
จงเทียนที่บินออกไป ที่ใต้เท้าของเขามีอักขระสีทองอักษรหว่าน"卍"วิถีสวรรค์ที่ใหญ่โตพวยพุ่งค้ำยันท้องฟ้าในทันที.
"ในโลกเขตแดนเปลี่ยนเวลานี้ ดูเหมือนว่าจะมีวิถีสวรรค์ด้วยอย่างงั้นรึ?"จงซานที่สอบถามออกไป.
"1499 เส้น หากแต่ไม่มีชีพจรฟ้า!"เซียนเซิงซือกล่าวตอบ.
1499? น้อยกว่าโลกใบใหญ่ครึ่งหนึ่งที่มีวิถีสวรรค์สามพันเส้นอย่างงั้นรึ?จงซานที่ขมวดคิ้วไปมาครุ่นคิด.
"เทพปิศาจร้ายกาจมาก เทียนเอ๋อจะรับมือได้หรือไม่?"เป่าเอ๋อที่กล่าวออกมาด้วยความกังวลเล็กน้อย.
"เทพปิศาจที่ผสานวิถีสวรรค์ได้นั้นหากแต่ไร้ซึ่งกฎเกณฑ์ ทว่าที่จริงในโลกเปลี่ยนเวลา ไม่ว่าจะเป็นสิ่งมีชีวิตใด จะมีพลังได้เพียงขั้นที่ 8 เซียนบรรพชนเท่านั้น ไท่จื่อควรจะรับมือได้!"เซียนเซิงซือเอ่ย.
"เทียนเอ๋อเป็นเซียนบรรพชนขั้นที่ 9 แล้ว! ควรจะไม่ยาก!"เป่าเอ๋อพยักหน้ารับ.
"จัดการเทพปิศาจหนึ่งตนไม่ใช่เรื่องยาก หากเป็นหนึ่งร้อยตนล่ะ?"ทันใดนั้นเสียงที่เคร่งขรึมก็ดังขึ้นมาในอากาศ.
ด้วยเสียงที่ดังลั่น ทำให้ทุกคนใบหน้าเปลี่ยนสี.
"ตูมมมม!”
กลิ่นอายที่น่าสะพรึงกลัวน่าเกรงขามพวยพุ่งออกมา กลิ่นอายปราณศพที่ระเบิดออกมาเสียงดังลั่น.
เทพปิศาจที่ด้านหน้าของจงเทียน ที่ปรากฎร่างขึ้นมาอีกเป็นจำนวนมาก.
"ตูมมม!“”ตูมมม!”..............................
ตัวแล้วตัวเล่า ที่ผุดออกมาในทันที พริบตาเดียวที่ด้านหน้าไม่มีเทพปิศาจตนเดียวแล้ว ทว่ากลับมีถึง 101!
พวกมันที่เคลื่อนไหวประจำตำแหน่งสร้างค่ายกล ก่อนที่กลิ่นอายที่น่าหวาดกลัวจะโถมทับมายังตำแหน่งของจงเทียนทันที.
"ตูมมม!”
จงเทียนที่ถูกกระแทกถอยหลังออกมากว่าหนึ่งร้อยจังเพียงแค่แรงกดดันวิญญาณของพวกมัน.
“~~~~~~~~~~~~~~~~~~~!”
แทบจะในทันที เทพปิศาจที่ปรากฎขึ้นมา 100 ตน มันได้เงยหน้าคำรามลั่น เสียงโหยหวน แสบแก้วหูที่ดังก้องไปทั่วพื้นที่รอบ ๆ .
พลังปิศาจที่น่าสะพรึงกลัวนี้ ทำให้ห้วงมิติสั่นไหว มิติรอบ ๆ ที่แตกสลายกลายเป็นเสียง ๆ แตกเป็นรูทั่วทุกแห่ง.
จงเทียนที่บินกลับมาอยู่ด้านหน้าจงซานในทันที.
จัดการกับเทพปิศาจหนึ่งตน จงเทียนแข็งแกร่งกว่าแน่นอน หากแต่เวลานี้กลับโผล่ออกมา 101 ตนในทันทีอย่างงั้นรึ? แล้วจะต่อสู้อย่างไร?
“!” ..............................
จากนั้นจากพื้นที่ไกลออกไป เหล่าเสนาธิการของต้าเจิ้งก็บินกลับมาเช่นกัน.
"เกิดอะไรขึ้น เป็นเช่นนี้ได้อย่างไร?"ตี้เซียนเซียนที่เผยท่าทางประหลาดใจ.
101 เทพปิศาจ? กลิ่นอายที่หนักหนักรุนแรงนี้ พลังอำนาจที่ราวกับว่ามีเซียนบรรพชนนับร้อย แม้แต่ปราชญ์เทพก็ยากจะต้านทาน.
เทพปิศาจมากมายนี้เซียนเซิงซือล่อมาอย่างงั้นรึ? มากมายขนาดนี้ควบคุมอย่างไร อีกทั้งเทพปิศาจเหล่านี้ดูเหมือนว่าจะเคลื่อนที่เข้าใกล้จงซานแล้ว.
ในท่ามกลางเทพปิศาจขนาดหมื่นจั้งนั้น บนอากาศ มีร่างสองร่างปรากฎขึ้นมา เหล่าเสวียน เหล่าหวง.
เหล่าเสวียนและเหล่าหวงที่อยู่ในตำแหน่งควบคุม ใบหน้าที่เฉยชาไม่แยแสจ้องมองฝ่ายตรงข้าม.
"แผนการเปลี่ยน!"ใบหน้าของเซียนเซิงซือที่ซับซ้อนเคร่งขรึม.
ใบหน้าของจงซานที่เปลี่ยนเป็นเคร่งขรึม คราแรกแผนการที่วางไว้นั้น ได้เตรียมไว้จัดการเจ้าตำหนักกลาง คาดไม่ถึงเลยว่าจะมีคนของนิกายต้าเสวียนหวงเข้ามาแทรก สถานการณ์เวลานี้ไม่ค่อยดีนัก.
จงซานที่ครุ่นคิดอย่างรวดเร็ว ก่อนที่จะเอ่ยออกมาต่อเซียนเซิงซือว่า "สถานที่ใกล้ ๆ นี้มีที่ใดที่ปลอดภัย?"
"ปลอดภัยรึ? ต้องการจะหนีอย่างงั้นรึ?"เหล่าหวงที่กล่าวหยัน.
"ข้า ข้ารู้ที่หนึ่ง!"เซียนเซียนที่เป่ยออกมา.
"หืม?"ทุกคนที่จ้องมองไปยังเซียนเซียน.
"ที่นั่นไม่มีปราณศพ สะอาด! ข้าไปดูมาก่อนแล้ว!"เซียนเซียนที่เอ่ยออกมาในทันที.
"ที่นั่นไม่มีปราณซากศพ? นังหมาเวรนั่น ในทะเลหมิงฉีมีที่ใดกันที่ไม่มีปราณซากศพ?"เหล่าหวงที่เผยท่าทางดูแคลน.
"เซียนเซียน เจ้านำเป่าเอ๋อไปที่นั่น ที่นี่พวกเราจะจัดการเอง."จงซานที่เอ่ยออกมาในทันที.
"ข้า? แต่ว่า............!"เป่าเอ๋อที่เผยท่าทางเป็นกังวลออกมาในทันที.
"วางใจ ไม่เป็นไร จำคำพูดที่เคยบอกไว้ เชื่อในตัวเซียนเซียน!"จงซานที่จ้องมองไปยังเป่าเอ๋อ.
ภายในใจของเป่าเอ๋อที่สั่นไหว เพราะว่าเป่าเอ๋อรู้เคยเห็นจงซานมาก่อน แม้นจะสงสัยทว่าก็พยักหน้ารับ.
"เจี่ยเจี่ยเป่าเอ๋อ ไปเร็วเข้า!"เซียนเซียนที่พาเป่าเอ๋อเข้าไปยังสถานที่ลึกเข้าไปในทะเลหมิงฉี.
ที่ไกลออกไป เหล่าหวงและเหล่าเสวียนจ้องมองหน้ากันและกัน ทั้งคู่ไม่ได้สั่งให้เทพปิศาจไล่ตามไป ตี้เซียนเซียน? พวกเขารับรู้ถึงพลังของจักรทองสะบั้นโลกาของตี้เสวียนชาดี ดังนั้นจึงไม่สนใจที่จะหาเรื่องตี้เซียนเซียน จะไปก็ไป ขอเพียงเซียนเซิงซือไม่ไปก็พอแล้ว.
เมื่อเซียนเซียนนำเป่าเอ๋อจากไปแล้ว จงซานที่เผยท่าทางเคร่งขรึมจริงจัง "แม้นว่าจะมีตัวแปรที่ควบคุมไม่ได้เกิดขึ้น ทว่าแผนการก็ยังคงเป็นไปตามเดิม."
"รับทราบ!"ทุกคนที่ตอบรับคำในทันที
ทว่าอีกฟากหนึ่ง เจ้าตำหนักกลางที่เห็นเป่าเอ่อออกห่างจากกลุ่มคน ทันใดนั้นดวงตาของนางก็เป็นประกาย.
"ข้าปล่อยอสูรแม่พิมพ์ไปไม่เปล่าประโยชน์เลย เหล่าเสวียน เหล่าหวง?เจ้ามาที่นี่จริง ๆ !"เจ้านิกายกลางแค่นเสียงเหยียดหยัน ก่อนที่จะลุกขึ้นกลายเป็นลำแสงพุ่งตรงเข้าไปในทะเลหมิงฉีทันที.