Chapter 1313 กู่เซิ่งหมิง.
นิกายต้าเสวียนหวง.
ภายในห้องโถงแห่งหนึ่งที่ประตูปิดเงียบ ที่ด้านในนั้นมีชายสามคน.
คนหนึ่ง สวมชุดเกราะโซ่สีทอง นั่งอยู่บัลลังก์สีทองในตำแหน่งกลางห้อง ใบหน้าที่ดูเคร่งขรึม ยิ่งใหญ่ ดวงตาที่มีสีแดงจดจ้องมองไปยังคนสองคนที่อยู่ด้านหน้า.
ฝ่ายตรงข้ามมีชายสองคน หนึ่งสวมชุดสีดำ อีกหนึ่งสวมชุดสีเหลือง ทั้งสองเป็นอาวุโสหลักของนิกายต้าเสวียนหวง เหล่าเสวียนและเหล่าหวง.
"เหล่าหวง เจ้ามั่นใจอย่างงั้นรึ?"ชายที่เป็นผู้นำเอ่ยออกมาอย่างเคร่งขรึม.
"ท่านประมุข เป็นเรื่องจริงแน่นอน คนที่มีนามว่าเซียนเซิงซือนั่นเหมือนกับเส้าเหยี่ยมาก!"เหล่าหวงที่สูดหายใจลึก.
"เป็นไปไม่ได้!"เหล่าเสวียนที่อยู่ข้าง ๆ ดวงตาเบิกกว้าง.
"ทว่าวิชาควบคุมศพเฉินนั่น มีเพียงชีพจรทั้งสี่และประมุขตระกูลจางเท่านั้นที่ทำได้ ชีพจรสวรรค์ หนึ่งชีพจรที่ถูกฝังหายไปเรียบร้อยแล้ว บางทีคงสลายสิ้น ซึ่งมีเพียงแค่ผู้สืบทอดตระกูลจางเท่านั้นที่ใช้ได้ และมันก็ไม่เคยปรากฎขึ้นมาเลย นอกจากนี้เจ้าก็เห็นว่าตระกูลจางนั้นถูกสังหารไปทั้งหมด ไม่มีเหลือแม้แต่คนเดียว ทั้งตระกูล ของวิเศษ ก็ไม่เคยปรากฎขึ้นมาเลย."เหล่าหวงที่ส่ายหน้าไปมา.
"หายไปหมด ความจริงคือไม่สามารถเห็นได้ ทว่า พวกเราเองก็ควรจะทำอะไรให้สะอาด ประมุขตระกูลจางนั้นถูกตระกูลกู่หวงสังหาร ท่านประมุขท่านยืนยันได้อย่างงั้นรึ? และตระกูลจางนั้นก็ยังมีผู้เยาว์เพียงคนเดียว ที่ข้าสังหารด้วยตัวเอง แล้วจะมีชีวิตเหลือได้อย่างไร? นอกจากนี้เส้าเหยี่ย ข้ายังคงเก็บเอาไว้ เพื่อใช้ในพิธีใต้หว่านฝูผาน จะผิดพลาดได้อย่างไร?"เหล่าเสวียนที่ส่ายหน้าไปมา.
"แล้วศพล่ะ? นำออกมาดู!"ประมุขที่กล่าวอย่างจริงจัง.
"อืม!"
เหล่าเสวียนสะบัดมือออกไป นำโลกศพแก้วขนาดใหญ่ออกมา ที่ด้านในนั้น มีผู้เยาว์อายุ 16 -17 ปี ที่หน้าผากนั้น มีตระปูตอกอยู่ ดูโหดร้ายเป็นอย่างมาก ใบหน้าที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวด ดูท่าทางน่ารังเกียจและอนาถเป็นอย่างมาก! ใบหน้านั้นดูคล้ายกับเซียนเซิงซือเพียงแค่ห้าส่วน.
"วูซซซซซ!"
เหล่าเสวียนที่โบกมือ น้ำแข็งที่แตกเป็นทาง เผยให้เห็นศพของเด็กหนุ่มในน้ำแข็ง.
เหล่าเสวียนที่ชี้นิ้วไปที่หน้าผาก ก่อนที่จะปรากฎโลหิตไหลซึมออกมา ก่อนที่จะเก็บมาอย่างระมัดระวัง.
"เส้าเหยี่ย ผู้สืบทอดตระกูลจางคนสุดท้าย ถูกต้อง!"เหล่าเสวียนที่ตรวจสอบโลหิต.
เหล่าหวงเองก็ก้าวเข้าไปทดสอบ ท้ายที่สุดก็ขมวดคิ้วไปมา "ไม่ผิด แล้วเซียนเซิงซือเป็นใครกัน?"
"นี่เป็นศพสุดท้าย ข้าจะเป็นคนเก็บเอาไว้เอง ป้องกันความผิดพลาด!"ประมุขที่กล่าวพร้อมกับเก็บศพ.
"อืม!"เหล่าเสวียนพยักหน้ารับ.
ประมุขที่ทำการเก็บศพอย่างระมัดระวัง ทุกคนที่เปลี่ยนเป็นเงียบชั่วขณะ.
"หรือเป็นบุตรนอกคอกของอดีตประมุขกัน?"เหล่าเสวียนครุ่นคิดและกล่าวออกมา.
"ลูกนอกคอก? เป็นไปไม่ได้ ทว่าข้าจำรายชื่อทุกคนได้หมด สำหรับเส้าเหยี่ย เป็นคนเพียงคนเดียวที่เหลือ อีกอย่างเขาที่ตายไปนั้น ถูกทำลายทั้งวิญญาณ เป็นไปไม่ได้ที่จะจุติกลับมาได้!"เหล่าเสวียนที่ส่ายหน้าไปมา.
"ข้าจำได้ว่ามีใครคนหนึ่งที่หายไปช่วงหนึ่ง!"ประมุขที่เอ่ยออกมาอย่างเคร่งขรึม.
"หืม?"เหล่าหวงที่ตกใจเล็กนอ้ย.
"เขาไปมีบุตรอีกคนอย่างงั้นรึ? ประมุขชราออกไปด้านนอก ถูกคนตระกูลกู่สังหารในช่วงนั่น หรือว่าช่วงที่ออกไปนั้นเขาได้ให้กำเนิดบุตรอีก? หากแต่ระยะเวลาที่เขาถูกสังหาร บุตรของเขาก็ควรจะเป็นเพียงแค่ปุถุชน ระยะเวลาเพียงหนึ่งปี เป็นไปไม่ได้ที่จะเรียนรู้อะไรได้ ประเพณีตระกูลจาง ไม่มีทางที่จะสอนวิชาอะไรให้ นอกจากนี้ยังมีเวลาเพียงแค่หนึ่งปีไม่ใช่รึ?"เหล่าเสวียนที่ส่ายหน้าไปมา.
ไม่ว่าจะคาดเดาอะไรออกมา แต่ก็ไม่สามารถที่จะคาดเดาอะไรภูมิหลังของเซียนเซิงซือได้เลย.
"เช่นนั้นหลังจากนี้ เกี่ยวกับเซียนเซิงซือ เจ้ารับหน้าที่ไปสืบมา หากเป็นไปได้ ก็จงจับตัวมา สอบถามซะ!"ประมุขที่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.
"รับทราบ!"ทั้งสองที่ตอบรับในทันที.
"งานชุมนุมใต้หว่านฝูผานครั้งนี้ ยังไงก็ต้องรับตำแหน่งปราชญ์เทพมาให้ได้ ทำทุกอย่างตามแผน อย่าทำอะไรให้ผิดพลาด."ประมุขที่กล่าวออกมาอีกครั้ง.
"ด้วยศพของสายโลหิตตระกูลจาง ท่านประมุขไม่จำเป็นต้องกังวล!"เหล่าหวงที่กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.
"อืม!"ประมุขที่พยักหน้ารับ.
-------------------------------------------------------------------
ในเมื่อรู้ว่าเจ้าตำหนักกลางมีเจตนาร้าย จงซานก็สามารถเตรียมการรับมือได้ แม้ว่าจะซ่อนความจริงจากเป่าเอ๋อ ทว่าก็ต้องมั่นใจว่าเป่าเอ๋อจะไม่ได้รับบาดเจ็บ.
ภายในดินแดนเหล่ยหยินนั้นคึกคักเป็นอย่างมาก กลุ่มของจงซานที่เริ่มเคลื่อนไหวไปยังดินแดนเสวียนหวง พวกเขาที่เดินทางมา 11 คน หากแต่ในเวลานี้กลับมีอยู่ด้วยกันหลายร้อยคน.
มีอรหันต์สามคนจากวิหารเทียนหยิน และมีเซียนบรรพชนมาเพิ่มอีกสองคน นอกจากนี้ยังกลุ่มของเซียนโบราณ มหาเซียนอีกกลุ่มใหญ่ พลังกลุ่มของจงซานในเวลานี้เพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก.
กลุ่มคนขนาดใหญ่กว่า 200 คน ที่เดินทางตรงไปยังทิศทางของดินแดนเสวียนหวง.
ดินแดนเสวียนหวง ภายในมีวิหารมากมาย ทุกแห่งต่างก็เริ่มสวดมนต์เสียงดังกึกก้องไปทั่วสารทิศ ระหว่างที่บินไปนั้น ใบหน้าของเซียนเซิงที่ดูไม่ค่อยดีนัก ใบหน้ามืดมนและเศร้าเสียใจเป็นอย่างมาก.
เซียนเซิงซือในเวลานี้สวมชุดดำ หมวกปกปิดใบหน้า ไม่มีใครสามารถมองเห็นได้.
เหล่าผู้ฝึกตนมากมายที่เดินทางมา ต้องบอกว่าทุกคนเต็มไปด้วยคนที่มีทักษะสูงมาก.
จากที่ไกลออกไปทุกคนที่เห็นค่ายกลขนาดใหญ่ที่มีหมอกปกคลุมไร้ที่สิ้นสุด ที่ด้านหน้าของพวกเขานั้นมีตำหนักมากมาย ตำหนักต่าง ๆ ที่มีขนาดใหญ่โต ส่องประกายแสงวับวาว.
ภายในสถานที่ดังกล่าว ที่บนหัวของทุกคน มีวงแหวนกรรมวาสนา ของตัวเองปรากฎขึ้นกันทั้งหมด.
เทพอรหันต์(ฟู่จู่) อรหันต์(ฟู่โถว) ปู่ซา และเหล่าพุทธะ.
ทันทีที่กลุ่มของจงซานมาถึง สายตาของผู้คนมากมายต่างก็จ้องมองมา เพราะว่าจงซานนั้นตลอดสองปีมานี้มีชื่อเสียงเป็นอย่างมาก.
ในกลุ่มของฟู่จู่ เจ้าตำหนักกลางที่เผยดวงตาเป็นประกาย ก่อนที่จะบินออกมาต้อนรับ.
"สหายเต๋าจง นึกว่าไม่เข้าร่วม ใต้หว่านฝูผานซะแล้ว!"เจ้าตำหนักกลางเอ่ย.
"งานชุมนุมใหญ่เช่นนั้น ข้าและพวกจะไม่มาได้อย่างไร?"จงซานที่เอ่ยออกมาด้วยรอยยิ้ม.
กลุ่มของจงซานที่ปรากฎขึ้นล้อมรอบพื้นที่ด้านข้าง.
จงซานที่ตรวจสอบพื้นที่รอบ ๆ ในเวลานี้เหล่าอรหันต์ทุกคนต่างก็จ้องมองและเผยยิ้มพยักหน้าทักทาย.
"การชุมนุมใต้หว่านฝูผาน ดูจะแตกต่างจากในอดีตรึ?"จงซานที่กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.
"แตกต่าง ไม่เพียงแค่คนที่เข้าร่วมพิธีใต้หว่านฝูผาน ที่จะเข้าไปยังโลกเขตแดนเปลี่ยนเวลาได้ แต่คนที่ไม่ได้เข้าร่วมพิธีก็สามารถเข้าไปได้เช่นกัน หากแต่ไม่มีคุณสมบัติที่จะรับผลประโยชน์เท่านั้น!"เจ้าตำหนักกลางเอ่ย.
"งั้นก็หมายความว่าบัตรเชิญที่มี ก็ไร้ประโยชน์อย่างงั้นรึ?"จงซานที่นำบัตรเชิญที่เหล่าเสวียนใช้แลกกับอสูรแม่พิมพ์ก่อนหน้านี้.
เจ้าตำหนักกลางที่ส่ายหน้าไปมา "เรื่องนี้ต้องดูเป็นคน ๆ ไปซึ่งแตกต่างแล้วแต่สถานการณ์! อย่างไรก็ตาม ตามความเห็นของข้า รู้สึกอิจฉาจ้าวนิกายเทียนหยิน เทพอรหันต์ปัจจุบัน ที่มีกลุ่มคนมากมายเข้าไปช่วยเหลือ ทำให้เขามีโอกาสเป็นอย่างมาก!"
แม้นว่าเจ้าตำหนักกลางจะกล่าวแสดงความยินดี ทว่าเป้าหมายของนางนั้น จงซานรู้ว่าเจ้าตำหนักกลางหวังที่จะให้เป่าเอ๋อเข้าไปในนั้นด้วยเช่นกัน.
"เรื่องนี้ หากพูดตามหลักแล้ว เข้าไปแล้วมีประโยชน์อย่างงั้นรึ? ไม่ว่าอย่างไร เทียนเอ๋อก็ไม่ใช่คู่มือของเจ้า!"จงซานที่เอ่ยออกมาด้วยรอยยิ้ม.
"คู่มือ บางทีอาจไม่ต้องสู้ก็ได้ เพียงแต่คนที่มีพลังฝึกตนสูงกว่า ก็ย่อมมีโอกาสมากกว่าเท่านั้น ยังไงก็ขอให้โชคดี!"เจ้าตำหนักกลางที่เผยยิ้ม.
และในขณะนั้น สองคนที่อยู่ด้านหลังก็ปรากฎคนมากมายที่จ้องมองมาด้วยจิตสังหาร.
"เทพอรหันต์อนาคต นี่คือบัตรเชิญ มอบให้กับเจ้า!"จงซานที่ส่งบัตรเชิญไปพร้อมรอยยิ้ม คนที่มีพลังฝึกตนไม่ถึงเกณฑ์ ต้องมีบัตรเชิญเท่านั้นถึงจะมีคุณสมบัติรับผลประโยชน์.
เดิมทีนั้นนิกายเทียนหยินได้รับบัตรมาเพียงใบเดียว จงซานไม่จำเป็นต้องใช้ และเทพอรหันต์อนาคตที่พ่ายแพ้ต่อเทพอรหันต์อดีต ดังนั้นจึงมีเพียงเขาที่ไม่ได้สิทธิ์นั้น ในเวลานี้จงซานมอบมันให้กับเขา ทำให้เขาเผยท่าทางดีใจเป็นอย่างมาก.
"ขอบคุณเซิ่งหวังจง!"เทพอรหันต์อนาคตกล่าวออกมาด้วยความดีใจ.
เทพอรหันต์ปัจจุบัน นิพานจุติกลับมาช่างมีบิดาที่ยอดเยี่ยมจริง ๆ .
ขณะที่ทุกคนจ้องมองไปยังวงแหวนกรรมวาสนาที่เกิดขึ้น จงซานที่ถอนหายใจ มีอรหันต์ 3000 รูป ปู่ซาอีกหลายพันคน นอกจากนี้ยังมีพุทธะอีกหลายแสนคน นี่คืองานชุมนุมครั้งใหญ่มาก ๆ .
ในเวลานั้นเซียนเซิงซือที่อยู่ใกล้ ๆ จงซานสามารถมองเห็นเขากำหมัดแน่นด้วยความโกรธเกรี้ยว ร่างกายสั่นสะท้าน ไม่สามารถสงบใจได้.
จงซานที่วางมือไปบนไหล่ของเซียนเซิงซือ และกล่าวออกมาว่า "โปรดวางใจ! ต้องมีวันที่มาถึง!"
"ขอบคุณเซิ่งหวัง!"เซียนเซิงซือที่กล่าวเสียงแหบเครือ.
“~~~~~~~~~~~~~~~~~~~!”
ที่ลานทิศเหนือ ประตูตำหนักที่ปิดแน่น ก็เปิดออกมา ทุกคนรอบ ๆ ที่ดังอื้ออึงก็เงียบลง อรหันต์ทุกรูป ปู่ซา พุทธะจ้องมองไปยังห้องโถงกลาง.
ที่ตำแหน่งของวิหารกลางนั้น.
เมื่อประตูเปิดออกมา คนกลุ่มหนึ่งที่ก้าวออกมาจากด้านใน ผู้ที่นำมานั้นคือบุรุษในชุดเกราะโซ่สีทอง ที่ไหล่ของเขานั้น มีบางอย่างที่ดูเป็นเส้น ๆ เป็นอสูรลำดับเจ็ด อสูรแม่พิมพ์!
เหล่าหวง เหล่าเสวียนเองก็อยู่ในกลุ่มนั้นด้วย พวกเขาที่เป็นคนสำคัญของนิกายต้าเสวียนหวง.
ทุกคนที่ก้าวออกมา ต่างก็เป็นจุดรวมสายตาของทุกคนในทันที.
จงซานที่จ้องมองไปยังชายที่เป็นผู้นำ ชุดเกราะโซ่สีทอง ใบหน้าที่เผยท่าทางหยิ่งผยอง.
"เขาคือประมุขของนิกายต้าเสวียนหวง กู่เซิ่งหมิง!"จงซานที่หรี่ตาเล็กลง.
"เป็นผู้เยาว์ของตระกูลกู่หวง!"เซียนเซิงซือที่เผยท่าทางเย็นชา.
ประมุขกลางที่ขมวดคิ้วเล็กน้อยจ้องมองไปยังเซียนเซิงซือ แม้นว่าจะมองไม่เห็นใบหน้าของเซียนเซิงซือ ทว่าเจ้าตำหนักกลางก็สัมผัสได้ถึงจิตสังหาร จิตสังหารที่มีต่อกู่เซิ่งหมิง เซียนเซิงซือผู้นี้มีความแค้นต่อนิกายต้าเสวียนหวงอย่างงั้นรึ?
"ตระกูลหวงกู่? ดูเหมือนจะมีอยู่ทุกที่จริง ๆ !"ไท่จื่อจงเทียนที่ขมวดคิ้วไปมา.
เป็นความจริง ในโลกใบใหญ่ แม้นว่านามของตระกูลหวงกู่จะไม่ปรากฎ หากแต่ก็มีอิทธิพลเป็นอย่างมาก พวกเขาที่ลึกลับน่าเกรงขาม ในทวีปทิศเหนือเผ่าเต่าทมิฬ ม่อจื่อ จวงจื่อพวกเขาต่างก็มีความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนกับตระกูลหวงกู่.
ขณะที่ทุกคนจ้องมองไปยังประมุขนิกายต้าเสวียนหวง กู่เซิ่งหมิง กู่เซิ่งหมิงเองก็จ้องมองมายังกลุ่มของจงซานเช่นกัน.
"วูซซซซ!"
กลิ่นอายความหนาวเย็นที่กวาดออกมารอบ ๆ กลุ่มของจงซาน กลิ่นอายที่น่าสะพรึงนี้ ทำให้เหล่าข้าราชบริพารของต้าเจิ้งสั่นสะท้าน.
กลิ่ยอายของจงเทียนที่แผ่ออกมา ป้องกันกลิ่นอายดังกล่าว ทว่าเขาก็เผยท่าทางตื่นตกใจเช่นกันเพราะว่า บนลานนั้น เหล่าอรหันต์กว่า 3000 คนเอง กลับไม่รับรู้ได้ถึงจิตสังหารนี้ ราวกับว่าเรื่องนี้ไม่เคยเกิดขึ้น.
กู่เซิ่งหมิงที่เผยยิ้มเยาะ จากนั้นก็เปลี่ยนสายตาไปทางอื่น.
"มีอะไรอย่างงั้นรึ?"จงซานสอบถาม.
"บุตรมีระดับเซียนบรรพชนขั้นเก้า หากแต่เขากลับแข็งแกร่งมากกว่าบุตร!"จงเทียนที่ขมวดคิ้วไปมา.