ตอนที่แล้วChapter 1306 ตี้เสวียนชา ปะทะ ราชันย์เทพตะวันออกไท่อี้.
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปchapter 1308 มีดบินพิฆาตเซียนที่น่าเศร้า.

Chapter 1307 จงเทียนมาถึง


ระฆังราชันย์เทพตะวันออกครวญ! สะบั้นโลกา!

สองยอดฝีมือไร้คู่เปรียบ ที่ต่อสู้กันอย่างหนักหน่วงรุนแรง.

หนึ่งคนคือ อดีตบุคคลอันดับหนึ่งในอดีต ราชันย์เทพอสูรไท่อี้.

หนึ่งคือบรรพชนหมาป่าเมื่อ 90 ล้านปีที่แล้ว จื่อจุ้นเผ่าหมาป่าในปัจจุบัน ตี้เสวียนชา.

พวกเขาทั้งคู่คือยอดยุทธ์ระดับสูงสุดของโลกใบใหญ่.

การปะทะกันของทั้งสองรุนแรงหนักหน่วง จนเกิดแผ่นดินไหวอย่างรุนแรง เสียงของสายฟ้าฟาดสาดกระจายไปทั่วดินแดนที่กว้างขวาง.

ที่ใกล้ ๆ  กลุ่มของจงซานที่จ้องมองพลังที่รุนแรงอำนาจทำลายล้างแรงกระแทกม้วนกวาดอัดกระแทกไปทั่วสวรรค์และปฐพี.

ห้วงอากาศรอบ ๆ ที่บิดเบี้ยว จากศูนย์กลางพลังก้อนใหญ่โตที่กำลังหมุนวนโคจรอย่างบ้าคลั่ง.

"ตูมมมมมม!”

เสียงดังกึกก้องกระหึ่มดังอย่างที่สุด เกินกว่าคนทั่วไปจะสามารถรับฟังได้ เสียงที่ราวกับสายฟ้าระเบิดไปทั่วดินแดนขนาดใหญ่ แม้นจะอยู่ไกลออกไปจากจุดศูนย์กลาง เสียงดังกล่าวยังไม่เบาลงแม้แต่น้อย.

"วูซซซซซซซซซ!"

พลังอันบ้าคลั่งใหญ่โตบีบทับกดลงมา สายลมอันเชี่ยวกรากจากพื้นที่อื่น ๆ ที่ไหลเข้ามาแทนที่พื้นที่หายไปอย่างดุดันบ้าคลั่งรุนแรง บนพื้นในเวลานี้ปรากฎเป็นหลุมยักษ์รัศมีหนึ่งล้านจั้งขึ้น ส่วนความลึกนั้น ไม่สามารถมองเห็นก้นได้เลย.

ระฆังราชันย์เทพตะวันออก 72 อัน วงจักรสะบั้นโลกา 72 วง ต่างก็ไม่มีใครยอมใคร.

แน่นอนว่าการต่อสู้นี้ยังไม่จบ ต้องไม่ลืมว่าทั้งคู่นั้นยังไม่ได้ใช้มหาวิถีของตัวเองออกมาด้วยซ้ำ.

"โฮกกก ~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~!”

"โฮกกก ~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~!”

ตี้เสวียนชาและราชันย์เทพตะวันออกไท่อี้ที่คำรามออกมาเสียงดัง.

"สะบั้นโลกา!"ตี้เสวียนชาที่ชี้นิ้วยื่นมือออกไป วงจักร 72 วงที่พุ่งออกไปพร้อม ๆ กัน.

ในเวลานั้น ตี้เสวียนชาที่บินไล่ออกไปยังอวกาศ.

วงจักรสะบั้นโลกา 72 วง เกิดเป็นรอยหลุมดำทุกเส้นที่มันเคลื่อนผ่าน จิตสังหารที่รุนแรงหนักหน่วงโถมทับพุ่งไปยังไท่อี้.

"วูซซซซ!"

ไท่อี้ที่ยื่นมือออก ปรากฎภาพเงาระฆังราชันย์เทพตะวันออก 72 อันเขาต้าน.

"เคร้ง เคร้ง~~ ~~~~~~~~~~~~~~~~~~!”

เสียงระฆังระชันตะวันออกที่ดังขึ้น คลื่นเสียงที่โถมทับลงมาจากบนอวกาศ ในทันที เสียงดังกึกก้องราวกับสายฟ้าฟาดปกคลุมทั่วทั้งดินแดนเหล่ยหยิน.

ตี้เสวียนชาที่ยื่นมือออกไปคล้ายคว้าจับ แสงสีเงินมากมายปรากฎเป็นเงากงเล็บหมาป่าพุ่งตรงไปยังไท่อี้ ไท่อี้ที่ลอยออกไป เตะตวัดออกไปเป็นริ้วแสงสีทอง กลายเป็นกงเล็บอีกาสีทองเข้าปะทะเช่นกัน.

"ตูมมมมม ~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~!”

แรงปะทะที่หนักหน่วงรุนแรง เกิดระเบิดฉีกห้วงมิติลากยาวออกไปอีกครั้ง ในเวลานี้ทั้งสองที่ต่อสู้กันบนอวกาศที่สูงขึ้นไป.

หลังจากผ่านมาหนึ่งชั่วยาม เหล่าผู้ฝึกตนมากมายที่เร่งรีบเดินทางมาก็เข้าใกล้พื้นที่ต่อสู้.

"ตี้เสวียนชา เป็นตี้เสวียนชาจริง ๆ !"เหล่าผู้ฝึกตนมากมายที่เผยท่าทางประหลาดใจ.

"อีกคนเป็นใครกัน? ใครถึงแข็งแกร่งขนาดนั้น? คาดไม่ถึงเลยว่าจะรับมือตี้เสวียนชาได้อย่างสูสี?"ผู้ฝึกตนอีกคนที่กล่าวสอบถามออกมา.

"อาจารย์ อีกคนเป็นใครกัน?"

"ผู้ยิ่งใหญ่ทวีปภาคใต้ ราชันย์เทพอสูรไท่อี้!"มีบางคนที่รู้จัก.

..............................

..................

......

หลาย ๆ คนที่เร่งรีบเดินทางมาจากที่ไกลออกไป ต่างก็พูดจาแลกเปลี่ยนข้อมูลกันและกัน ท้ายที่สุดทุกคนก็สามารถระบุได้ว่าอีกฝ่ายเป็นใคร.

ไท่อี้? ใครคือไท่อี้? ในอดีตบุคคลอันดับหนึ่งก่อนยุคหงจวิน ก่อนหน้านี้พวกเขาที่คิดว่าเขาตายไปแล้ว ทว่าหลายร้อยปีก่อน เขากลับปรากฎขึ้นและอาศัยอยู่ในทวีปภาคใต้.

เขาได้แยกร่างราชันย์เทพจวินออกมา พร้อมกับร่วมมือกันสังหารปราชญ์เทพเจียงยวี พร้อมกับก่อตั้งศาลสวรรค์ขึ้นอีกครั้ง นี่คืออีกหนึ่งคนในตำนาน?

ไท่อี้ปะทะตี้เสวียนชา?

เหล่าผู้ฝึกตนมากมายมาถึง รู้สึกเลือดลมพลุ่งพล่าน นี่คือการต่อสู้ของสุดยอดฝีมือระดับต้น ๆ ของโลกหล้า เป็นอีกหนึ่งการต่อสู้ที่พวกเขาต้องการเห็น.

ในดินแดนเหล่ยหยิน ในหุบเขาแห่งหนึ่ง.

เหล่าหวงที่กำลังใช้กระดองเต่าพยากรณ์ หลายร้อยกระดองเต่าที่ด้านบนนั้นมีลวดลายของเจดีย์ปรากฎขึ้น ขณะที่เขากำลังทำพิธีอยู่ทันใดนั้นก็เกิดแผ่นดินไหว กระดองเต่าหลายอันที่ระเบิดเสียงดังในทันที.

เหล่าหวงที่โกรธเกรี้ยวเร่งรีบออกมาจากตำหนักของเขา ก่อนที่จะได้ยินเสียงของระฆังราชันย์เทพตะวันออกดังขึ้น.

"ไท่อี้เองก็มาอย่างงั้นรึ?"เหล่าหวงที่ขมวดคิ้วไปมา.

เหล่าหวงที่ก้าวบินไปยังทิศทางของการต่อสู้ในทันที.

จงซานที่นำเซียนเซิงซือไปยืนบนยอดเขาแห่งหนึ่ง หลาย ๆ คนที่เพิ่งมาถึงสามารถมองเห็นจงซานได้ในทันที ดวงตาของแต่ละคนถึงกับเบิกกว้าง ทว่าไม่กล้าก้าวเข้าไป.

จงซานที่จ้องมองขึ้นไปบนอวกาศ.

การต่อสู้ที่ทรงพลัง สองยอดฝีมือไร้คู่เปรียบที่ต่อสู้กันบนส่วนหนึ่งของอวกาศ บนขอบส่วนหนึ่งของทางช้างเผือก.

"ตูมมมมม!"ตี้เสวียนชาเตะดาวดวงหนึ่งพุ่งตรงไปหาไท่อี้.

"ตูมมมม!"ไท่อี้เตะดาวดวงหนึ่งลอยออกไปเช่นกัน.

"ตูมมมมมม ~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~!”

ดาวสองดวงที่พุ่งเข้าปะทะกันระเบิดออกมาเสียงดังสนั่นหวั่นไหว ประกายแสงสว่างจ้า กลายเป็นสะเก็ดเพลิงแตกกระเซ็นพุ่งไปยังทุกทิศทางบนอวกาศ สายตาของทุกคนที่จ้องมองริ้วแสงที่สว่างจ้าที่แตกออกไปรอบ ๆ สว่างวาบเป็นระยะ ๆ .

"เตะดวงดาว น่าหวาดกลัวนัก!"

"น่าเกรงขามเกินไปแล้ว!"

"พวกเขาทั้งคู่น่าหวาดกลัวขนาดนี้เลยรึ?"

..............................

..................

......

ขณะที่ผู้คนมากมายต่างอุทานกันเสียงดังอื้ออึง จงซานที่ขมวดคิ้วไปมาในทันที.

จงซานที่นำหยกสัญญาณออกมา ซึ่งมันได้แตกละเอียดไปในทันที.

"เซิ่งหวัง มีอะไรอย่างงั้นรึ?"เซียนเซิงซือที่กล่าวออกมาด้วยความสงสัย.

"เทียนเอ๋อมาถึงแล้ว!"จงซานกล่าว.

"หืม?"เซียนเซิงซือที่ขมวดคิ้วไปมา.

จงเทียนมาถึงแล้วอย่างงั้นรึ? ใช่แล้ว งานชุมนุมพิธีใต้หว่านฝูผานใกล้จะเริ่มแล้ว ไท่จื่อเองก็ควรจะมาถึงแล้วเช่นกัน ไม่รู้ว่าเวลานี้ได้ทะลวงระดับเซียนบรรพชนขั้นที่แปดไปรึยัง?

เป็นความจริง ขณะที่ตี้เสวียนชาและไท่อี้สู้กันอยู่นั้น จงเทียนก็นำคนของวิหารเทียนหยินมาถึงในที่สุด.

พวกเขาเดินทางมาด้วยกันสามคน จงเทียนสวมชุดคลุมยาวสีดำ โดยมีสองคนที่สวมจีวรตามหลังมาด้วย พวกเขาที่บินพุ่งตรงไปยังทิศทางหนึ่ง ตรงไปยังทิศทางของจงซานในทันที.

ขณะที่ตี้เสวียนชาและไท่อี้สู้กันนั้น แม้นว่าจงซานจะเพียงแค่ยืนมองดูเท่านั้น ทว่าผู้ฝึกตนมากมายก็ลอบมองไปยังเขาเป็นระยะ ราวกับว่าเรื่องสำคัญที่เกิดขึ้นนี้เกี่ยวข้องกับจงซานด้วย.

การต่อสู้ของตี้เสวียนชาและไท่อี้ ไม่มีทางที่จะไม่มีใครคิดว่าจงซานไม่เกี่ยวข้อง และในเวลาเดียวกันตอนนี้อรหันต์เทพสามคนก็มาถึง ทำให้ผู้ฝึกตนมากมายต้องหรี่ตาจ้องมอง.

"ท่านพ่อ!"จงเทียนที่กล่าวออกมาด้วยความเคารพ.

"คารวะเซิ่งหวังจง!"เทพอรหันต์อดีตและเทพอรหันต์อนาคต ที่กล่าวออกมาด้วยความเคารพยิ่งเช่นกัน.

อรหันต์ทั้งสองท้ายที่สุดก็รับรู้เกี่ยวกับวิธีของจงซาน จงเทียนก่อนหน้านี้ได้ดูดซับสัญลักษณ์อรหันต์ของเจี่ยเหยิน ซึ่งแน่นอนว่าไม่ใช่ความลับอะไรที่อรหันต์ทั้งสองจะรู้ สมบัติตกทอดของเจี่ยหยิน กล่าวได้ว่าเป็นสุดยอดของสืบทอดเลยก็ว่าได้.

ไม่สงสัยเลยว่าจงเทียนไม่ต้องการบัตรเชิญ แม้แต่ไม่ได้สนใจเกี่ยวกับการเข้าร่วมพิธีใต้หว่านฝูผาน นอกจากนี้เวลาสั้น ๆ ไม่ถึงสองปี คาดไม่ถึงเลยว่าเขาจะทะลวงระดับ ถึงจะไม่มีบัตรเชิญก็สามารถเข้าร่วมพิธีได้ ทำไมพวกเขาไม่มีบิดาเช่นนี้กัน?

อรหันต์ทั้งสองที่จ้องมองจงซานอย่างจริงจัง.

"ท่านพ่อ นั่นตี้เสวียนชา? ไท่อี้อย่างงั้นรึ?"จงเทียนที่จ้องมองขึ้นไปบนอวกาศขณะที่สองกำลังขว้างดวงดาวเข้าปะทะกัน แววตาที่เผยท่าทางอิจฉาเช่นกัน.

"ใช่ เป็นพวกเขา ว่าแต่เจ้าตัดผ่านระดับแล้วอย่างงั้นรึ?"จงซานที่จ้องมองไปยังจงเทียน.

จงเทียนได้ยินคำพูดของจงซานดวงตาก็เป็นประกายปรากฎความตื่นเต้นขึ้นมาในทันที "ครับ บุตรได้ตัดผ่านระดับ เป็นเซียนบรรพชนขั้นที่เก้าแล้ว และอยู่ใกล้ขั้นที่สิบอีกไม่ไกลแล้ว! หากว่าได้มรดกของเจี่ยหยินอีกอัน จะยิ่งยอดเยี่ยมกว่าเดิม!"

เทพอรหันต์อดีตและเทพอรหันต์อนาคตถึงกับใบหน้าเปลี่ยนเป็นมืดครึ้ม เทพอรหันต์ปัจจุบันจะหน้าหนาเกินไปแล้ว เพียงแค่นี้เจ้าก็ได้ผลประโยชน์มากมายแล้วไม่ใช่รึ? เจี่ยหยิน นั่นคือมรดกของเจี่ยหยินนะ!

ทว่ากับคำพูดของสองพ่อลูก อรหันต์ทั้งสองได้แต่กลืนน้ำลายอย่างยากลำบาก ขณะที่จ้องมองจงซานด้วยความจริงจัง.

"มรดกของเจี่ยหยิน จะมีมากได้อย่างไร? หากแต่เจ้าตระหนักรู้ได้อย่างสมบูรณ์แล้วรึ?"จงซานที่ส่ายหน้าไปมา.

"ยังเลย บุตรคิดว่าการเข้าร่วมพิธีใต้หว่านฝูผานในครั้งนี้ อาจจะมีโอกาสตระหนักรู้ได้อย่างสมบูรณ์!"จงเทียนเอ่ย.

"อืม หลังจากพิธีใต้หว่านฝูผานเอง ดูเหมือนว่าจะมีเรื่องสำคัญที่ไม่ธรรมดาเกิดขึ้นเช่นกัน บางทีเจ้าอาจจะมีโอกาสได้ตำแหน่งปราชญ์เทพไปก็เป็นได้!"จงซานที่พยักหน้ารับ.

"เซิ่งหวังจง ท่านพูดจริงอย่างงั้นรึ?"เทพอรหันต์อนาคตที่เผยท่าทางตื่นเต้นขึ้นมาในทันที.

"อืม เป็นความจริง พวกเจ้าอาจจะมีโอกาสด้วยเช่นกัน!"จงซานที่พยักหน้ารับเผยยิ้มออกมา.

"โอกาส? เฮ้เฮ้ ข้าและเทพอรหันต์อดีตไม่น่าจะมีโอกาสมากนัก เป็นเทพอรหันต์ปัจจุบันต่างหากที่มีโอกาสมากกว่า!"เทพอรหันต์อนาคตที่กล่าวออกมาด้วยความอิจฉา.

"ถึงไม่ได้เป็นปราชญ์เทพ ขอเพียงมีโอกาสก้าวไปถึงเซียนบรรพชนขั้นที่สิบก็พอแล้ว."จงเทียนกล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.

"เซียนบรรพชนขั้นที่สิบ มรดกของเจี่ยหยิน ได้ประโยชน์ถึงเพียงนั้นเลยรึ?"จงซานที่ขมวดคิ้วไปมา.

"ไม่เท่านั้น พลังฝึกตนเมื่อครั้งเจี่ยหยินเป็นปราชญ์เทพนั้น จากข้อมูลที่ได้มา เขาน่าจะมีพลังฝึกตนเซียนบรรพชนขั้นที่ 11! หากบุตรกลายเป็นปราชญ์เทพได้ ถึงจะตระหนักรู้ได้พลังนั่นมา!"จงเทียนเอ่ย.

อรหันต์ทั้งสองถึงกับพูดไม่ออก ดวงตาที่กลายเป็นสีแดงด้วยความอิจฉา เซียนบรรพชนขั้นที่ 11 อย่างงั้นรึ? ท้ายที่สุดอรหันต์ทั้งสองก็รับรู้ได้ถึงความหมายของเทพอรหันต์ปัจจุบัน การนิพพานกำเนิดใหม่นั้น ล้มเหลวไม่สามารถทะลวงไปยังเซียนบรรพชนขั้นที่ 9 ได้อย่างงั้นรึ? เพ่ย เขากลับได้บิดามาจากการนิพานกำเนิดใหม่ การจุติกำเนิดใหม่ครั้งนี้เกินกว่าคำว่าได้ประโยชน์แล้ว เขาจะสามารถสำเร็จเซียนบรรพชนขั้นที่ 11 ได้อย่างงั้นรึ?

เซียนบรรพชนขั้นที่ 11 ต้องรู้ด้วยว่า ทุกคนที่ก้าวมาถึงเซียนบรรพชนได้ พลังฝึกตนนั้นจะเพิ่มขึ้นอย่างเชื่องช้าเกินบรรยาย นอกจากนี้การจะยกระดับแต่ละขั้นนั้นยากมาก ๆ  คนที่ก้าวไปถึงเซียนบรรพชนขั้นที่เก้านั้นมีน้อยมาก ๆ  ยิ่งเซียนบรรพชนขั้นที่ 10 ไม่ต้องเอ่ยถึงเลยแทบจะนับนิ้วได้ นี่เซียนบรรพชนขั้นที่ 11? ทั่วหล้านี้จะมีสักคนกัน ทว่า เทพอรหันต์ปัจจุบัน หากตระหนักรู้ได้ทั้งหมด เขาก็จะสามารถก้าวไปถึงระดับนั้นได้อย่างงั้นรึ?

สองอรหันต์ที่อิจฉามากมายปรารถนาที่จะนิพพานจุติด้วย หวังว่าจะได้บิดาเช่นนี้ด้วยเช่นกัน.

"พวกเจ้ามีอะไรอย่างงั้นรึ?"จงเทียนที่จ้องมองไปยังอรหันต์ทั้งสอง.

"ไม่ ไม่มีสิ่งใด!"อรหันต์ทั้งสองที่ระงับความเศร้าเอาไว้ในใจ ปรากฎจิตมารในใจขึ้นเช่นกัน.

จงเทียนที่เผยยิ้มอย่างภาคภูมิ แน่นอนย่อมรับรู้ว่าพวกเขานั้นคิดอะไร.

"หืม?"

ทันใดนั้น จงซานก็เผยท่าทางใบหน้าเปลี่ยนเป็นจริงจัง จิตสังหารที่แผ่ออกมาจดจ้องมองไปยังหุบเขาที่ไกลออกไปในทันที.

"ท้ายที่สุดก็กลับมา!"จงซานที่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.

ที่ไกลออกไป บนหุบเขาดังกล่าว ชายในชุดสีเหลืองแบกน้ำเต้าด้านหลัง เขาที่เงยหน้าขึ้นมองไปบนอวกาศ จดจ้องมองการต่อสู้ของเทพแห่งความดุร้ายทั้งสองที่ปะทะกันอยู่.

"ปราชญ์เทพลู่หยา!"เซียนเซิงซือกล่าวอย่างเคร่งขรึม.

"เริ่มได้!"จงซานที่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.

"รับทราบ!"เซียนเซิงซือพยักหน้ารับ.

"ตูมมมม ~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~!”

ไม่ไกลออกไปจากตำแหน่งลู่หยา วิถีสวรรค์ที่พุ่งทะยานขึ้นไปในทันที.

"ตูมมมม!“”ตูมมมม!“”ตูมมมม!” ..............................

วิถีสวรรค์ที่พวยพุ่งตั้งตระหง่านติด ๆ ต่อกันเก้าเส้น ปรากฎล้อมรอบลู่หยาทันที วิถีสวรรค์เก้าเส้นที่ปรากฎขึ้น สร้างความสนใจต่อผู้ฝึกตนที่อยู่รอบ ๆ เป็นอย่างมาก.

ลู่หยาที่จ้องมองวิถีสวรรค์เก้าเส้น ดวงตาที่หรี่เล็กลงเล็กน้อย.

"วูซซซ!"

จากใต้พื้นดิน ร่างเก้าร่างที่ผุดขึ้นมาช้า ๆ  แต่ละร่างที่เต็มไปด้วยปราณทมิฬสีดำมืด.

"เจียงซือ! เก้าเจียงซือระดับเซียนบรรพชน!"ไม่รู้ว่าเป็นใครที่เอ่ยออกมาคนแรก.

เก้าเจียงซือเซียนบรรพชนที่มีเป้าหมายชัดเจน เข้าล้อมรอบคนผู้หนึ่งที่แบกน้ำเต้าด้านหลัง.

"นั่นคือปราชญ์เทพลู่หยา?"มีคนหลายคนที่รู้จัก.

"ปราชญ์เทพ?"

"เป็นปราชญ์เทพจริง ๆ !"

"เกิดอะไรขึ้น? ลอบโจมตีปราชญ์เทพอย่างงั้นรึ?"

........................

............

ขณะที่ทุกคนกำลังอุทานด้วยความประหลาดใจเสียงดังอื้ออึง กลุ่มของจงซานที่ก้าวบินออกไป ตรงไปยังใจกลางของวิถีสวรรค์ที่กำลังหมุนวนโคจร ขณะที่บินอยู่บนอากาศนั้น สายตาเย็นชาที่จดจ้องมองไปยังปราชญ์เทพลู่หยา.

"เป็นจงซานจริง ๆ  จงซานต้องการต่อสู้กับลู่หยา!"

"ตี้เสวียนชาต่อสู้กับไท่อี้ จงซานต่อสู้กับลู่หยา เป็นดั่งที่ข้าคาดเดาไว้จริง ๆ !"

"ข้าบอกตั้งแต่ก่อนแล้ว มันเกี่ยวกับจงซาน เขากำลังรอสู้กับลู่หยา จงซานต้าเจิ้งใจกล้าขนาดนี้เลยรึ?"

........................

............

......

พวกเขาที่จ้องมองขึ้นไปบนอวกาศ และจ้องมองสนามรบด้านล่าง พร้อมกับเผยท่าทางตื่นเต้นออกมาอีกครั้ง.

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด