Chapter 1306 ตี้เสวียนชา ปะทะ ราชันย์เทพตะวันออกไท่อี้.
ดินแดนเหล่ยหยิน ภายในหุบเขาแห่งหนึ่ง.
ชายชุดสีเหลืองผู้หนึ่ง ที่ด้านหน้ามีคน 7-8 คนทั้งชายและหญิง.
ชายในชุดสีเหลืองที่ใบหน้าเต็มไปด้วยความเย็นชา สายตาที่เต็มไปด้วยความอหังการ จ้องมองคนทั้งแปดด้านหน้า.
"เหล่าหวง เวลานั้นพวกเราเห็น ทะเลหมึกสีดำของม่อจื่อ จงซานส่งสามข้าราชบริพารออกไป หนึ่งคนสร้างเกาะกระดูกบนทะเลหมึก และบนท้องฟ้าก็เต็มไปด้วยมารสวรรค์มากมาย."ชายคนหนึ่งเอ่ย.
ใครคือเหล่าหวง ก่อนหน้านี้หนึ่งปี ที่ตำหนักกลาง เวลานั้นมีคนสองคนเหล่าหวงและเหล่าเสวียนสองคนที่มาช่วยอสูรแม่พิมพ์ไปจากมือจงซาน.
"แค่นี้รึ?"เหล่าหวงที่ขมวดคิ้วเล็กน้อย.
"ยังมีอีกหนึ่ง ไม่รู้ว่าจริงหรือเท็จ ผู้น้อยไม่กล้ายืนยัน!"สตรีอีกคนที่ขมวดคิ้วไปมาขณะพูด.
"เอิ่ม ข้าราชบริพารอีกคนของต้าเจิ้งในเวลานั้น บางทีเขาน่าจะควบคุม เอ่อ.....!"สตรีคนดังกล่าวขมวดคิ้วแน่น.
"ควบคุมอะไร?"เหล่าหวงที่ดวงตาเบิกกว้าง.
"เจียงซือ ใช่ บางทีน่าจะเป็นเจียงซือ!"สตรีคนดังกล่าวเอ่ย.
"เจียงซือรึ? ไม่ใช่หุ่นเชิดหรอกรึ?"ชายอีกคนกล่าว.
"หุ่นเชิดมีวิถีสวรรค์ด้วยรึ? มันต้องเป็นเจียงซือแน่ ข้าเคยเห็นในภพหยินมาก่อน ข้าเคยเห็นตัวที่ร้ายกาจกว่านั่น!"สตรีคนดังกล่าวที่ส่ายหน้าไปมา.
"เป็นคนนี้อย่างงั้นรึ?"เหล่าหวงที่สร้างภาพเซียนเซิงซือขึ้นให้ทุกคนดู.
"ใช่ เป็นเขา!"สตรีคนดังกล่าวพยักหน้ารับในทันที.
"รู้แล้ว หลังจากนี้ พวกเจ้าค่อยไปหาข้าที่วิหารต้าเสวียนหวง!"เหล่าหวงเอ่ยออกมาเบา ๆ .
"ขอบคุณเหล่าหวง!"ทุกคนที่พยักหน้ารับ.
ทุกคนที่เข้าใจรับรู้นิสัยของเหล่าหวงดี เขาไม่มีทางโป้ปด หลังจากนั้นทุกคนก็จากไป.
เหล่าหวงที่จ้องมองไปยังภาพมายาของเซียนเซิงซือที่สร้างขึ้นมา.
"ในภาคกลางแห่งนี้ ข้าเห็นเจ้าแล้วรู้สึกประหลาดใจนัก เหล่าซือ ไม่ ควรจะบอกว่าเจ้าเฒ่าเจ้าเล่ห์! นายน้อย ไม่ เจ้าเด็กนั่นควรจะตายไปแล้ว เหล่าเสวียนเป็นคนจัดการด้วยตัวเอง."เหล่าหวงที่กำลังบ่นพึมพำ.
"ไม่ ไม่ใช่ เป็นไปได้ว่ายังมีคนตระกูลจางรอดอีกรึ?"เหล่าหวงที่ครุ่นคิดไปมาพลางขมวดคิ้ว.
------------------------------------------------------
ค่ายกลไท่อี้.
ไท่อี้ที่นั่งสมาธิอยู่บนผิวน้ำ ขณะที่มือทั้งสองข้างวางไว้บนตัก ผิวน้ำที่เงียบสงบเริ่มเกิดคลื่นเป็นระลอก.
"คลื่น."
ปรากฎคลื่นที่สั่นไหวเป็นระลอกในทันที.
แววตาของไท่อี้ที่ลืมขึ้นทันที แววตาที่ส่องประกายวับวาว.
ที่ด้านนอกค่าย บนยอดเขาแห่งหนึ่ง.
บนยอดเขาสูงนั้น ในเวลานี้ปรากฎคนสามคน.
จงซาน ตี้เสวียนชาและเซียนเซิงซือ.
ตี้เสวียนชาที่จ้องมองไปยังเซียนเซิงซือ พลางขมวดคิ้วไปมา "ก่อนหน้านี้ข้ารู้สึกสงสัย คาดไม่ถึงเลยว่าจะเป็นดั่งที่ข้าคาด เจ้าคือผู้สืบทอดตระกูลจางอย่างงั้นรึ?"
เซียนเซิงซือที่ขมวดคิ้วไปมาจ้องมองไปยังตี้เสวียนชา.
"ไม่จำเป็นต้องระแวงข้า ในอดีตนั้น ข้าเคยติดหนี้บุญคุณตระกูลจาง ทว่าบุญคุณนั้น ข้าก็ไม่สามารถตอบแทนได้ ข้ารู้สึกผิดต่อลูกหลานตระกูลจางเช่นกัน!"ตี้เสวียนชาที่ส่ายหน้าไปมา.
"อืม!"เซียนเซิงซือพยักหน้ารับ.
"ช่างน่าเสียดาย ใต้โลกหล้านี้มีเจ้าเพียงคนเดียวที่เป็นคนตระกูลจาง นอกจากนี้ยังเห็นอย่างชัดเจน เจ้าไม่สามารถล้างแค้นได้ การที่มีชีวิตได้นี้ นับว่าเป็นปาฏิหาริย์!"ตี้เสวียนชาที่ส่ายหน้าไปมา.
"ข้าจะทำ!"เซียนเซิงซือพยักหน้า.
ตี้เสวียนชาจ้องมองไปยังเซียนเซิงซือ จ้องมองไปยังจงซาน ราวกับคาดเดาอะไรได้ ท้ายที่สุดก็ส่ายหน้าไปมา กล่าวออกมาอย่างนุ่มนวล."เป็นเจตจำนงสวรรค์แน่นอน!"
"ขอบคุณ! อย่างไรก็ตาม เรื่องของข้า ข้าย่อมจัดการเองได้ คงไม่ขอรบกวนเจ้า!"เซียนเซิงซือที่ส่ายหน้าไปมา.
"อืม!"ตี้เสวียนชาที่ไม่เอ่ยอะไรต่อไป.
ตี้เสวียนชาที่หันหน้าจ้องมองไปยังค่ายกลหมอกขนาดใหญ่.
"ค่ายกลหมอกแปดทิศ!"จงซานที่เอ่ยออกมาเบา ๆ .
ตี้เสวียนชาที่ก้าวออกไปด้านหน้า เงยหน้าจ้องมองท้องฟ้าที่สดใส พร้อมกับยื่นมือขึ้นไปบนท้องฟ้าราวกับว่ากำลังคว้าจับบางอย่าง.
"วูซซซซซซ!"
ในสายตาของทุกคน ดวงจันทร์นั้นมีขนาดใหญ่มาก ทว่าจงซานนั้นรู้ว่าดวงจันทร์นั้นไม่ได้ใหญ่โตแต่อย่างใด ทว่ามันสามารถรวบรวมแสงทำให้มองเห็นเด่นชัด.
แสงที่ร่วงหล่นลงมาจากบนท้องฟ้า.
"พลังแสงจันทรา เป็นพลังจันทราที่แข็งแกร่งนัก!"เหล่าอสูรที่อุทานออกมา.
เหล่าอสูรตัวเล็ก ๆ ที่โผล่ออกมา แสงสีเงินบนอากาศที่ส่องลงมาด้านล่าง กระแทกลงไปยังพื้นที่แห่งหนึ่ง.
"!"เหล่าอสูรตัวน้อยรอบ ๆ ที่เผยท่าทางหวาดกลัว.
"ตูมมมมม ~~~~~~~~~~~~~~!”
พลังที่หนักหน่วงรุนแรงของแสงจันทร์กระแทกลงไปยังค่ายกลหมอกแปดทิศ เกิดระเบิดดังลั่น พลังกระแทกที่ทรงพลัง ทำให้หมอกรอบ ๆ ระเบิดออกมาไม่หยุด อากาศมากมายที่อยู่รอบ ๆ แตกสลาย พัดเป่ากระเด็นออกไปรอบ ๆ ราวกับลูกศร กลายเป็นลูกไฟที่แตกไปทุกทิศทาง ป่าไม้แนวเขารอบ ๆ ที่พังทลายลงไปในทันที.
"แค๊ก แค๊ก แค๊ก!"
เสียงของค่ายกลที่เริ่มแตกร้าวดังกึกก้องปรากฎริ้วรอยที่จะพังทลายลง.
"ตูมมมมม ~~~~~~~~~~~~~~~!”
ค่ายกลใหญ่ยักษ์ที่ปกคลุมแนวเขาขนาดใหญ่ ระเบิดออกมาเสียงดังสนั่นหวั่นไหว ค่ายกลหมอกแปดทิศพังทลายด้วยการโจมตีหนึ่งกระบวนท่าของตี้เสวียนชา พลังทำลายนั้น ทำให้หมอกหนาสลายหายไปทั้งหมด.
"ครืนนนนน!”
กลิ่นอายที่หนักหน่วงรุนแรงปะทุ แผ่อำนาจสยบปลดปล่อยแรงกดดันออกมาจากด้านใน พลังที่ลบหมอกเมฆฝุ่นควันรอบ ๆ ให้หายไปหมดในทันที.
"ตูมมมม ~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~!”
ที่ตำแหน่งตรงกลางนั้นได้ยินเสียงราวกับสายฟ้าฟาด ผืนปฐพีที่กำลังสั่นไหวไปมาในทันที.
กลุ่มของจงซานที่กำลังจ้องมอง พื้นที่ใจกลาง เนินเขาที่กำลังผุดขึ้นมาจากบนพื้นในทันที มันสูงขึ้นเรื่อย ๆ มากขึ้นและก็มากขึ้น.
ไม่นานหลังจากนั้น ความสูงของมันก็เท่ากับความสูงของยอดเขากลุ่มจงซานยืนอยู่.
ที่ฝั่งตรงข้ามตรงยอดเขาสูง ชายในชุดสีทอง เป็นชายที่มีร่างใหญ่โตมาก เขาที่นั่งสมาธิอยู่ ก่อนที่จะลุกขึ้นยืนช้า ๆ .
ผมยาวที่ทอดไปด้านหลัง กลิ่นอายที่สูงศักดิ์แผ่ออกมาจากร่างกายของเขา.
สายตาของเขาที่จ้องมองไปยังกลุ่มของจงซาน ที่เผยความดุร้ายเย็นชาออกมา สายตาที่คมกริบราวกับใบดาบ จ้องมองกลุ่มของจงซาน.
"จงซาน? ตี้เสวียนชา!"เสียงเย็นชาของเขาที่ดังขึ้น แววตาที่เผยท่าทางโกรธเกรี้ยวออกมา.
การโจมตีของตี้เสวียนชาก่อนหน้านี้ ทำให้ผู้ฝึกตนมากมายรอบ ๆ ตื่นตกใจ พวกเขาที่มองเห็นจากพื้นที่ไกลออกไป แสงจันทราที่ฟาดลงมาบนพื้น ทันใดนั้นพวกเขาก็ตระหนักได้ว่าว่าเหมือนกับวันที่เกิดขึ้นที่วิหารใต้เหล่ยหยิน ดูเหมือนว่าจะมีเรื่องใหญ่เกิดขึ้นอีกอย่างงั้นรึ?
ความสามารถของตี้เสวียนชา? สามารถเคลื่อนย้ายพลังของแสงจันทราได้?
ในเวลานั้น ผู้ฝึกตนที่ไม่หยุดนิ่ง เร่งรีบเดินทางมาจากพื้นที่ไกลออกไปทันที บินตรงไปยังทิศทางที่แสงจันทราจากท้องฟ้าฟาดลงมา.
ไท่อี้ที่จ้องมองคนทั้งสามอย่างไม่พอใจ แม้ว่าก่อนหน้านี้ เขาไม่ได้ลงมือเอง ทว่าไท่อี้ก็สามารถบอกได้ว่า ฝ่ายตรงข้ามย่อมรู้ว่าเป็นแผนการของเขา จงซานที่ไม่ตาย ทำให้ยูไลก่อนหน้านี้ถูกสังหารไป.
คนทั้งสามมาทำอะไร? ไท่อี้ย่อมรู้ได้อย่างชัดแจ้ง.
เพื่อแก้แค้น! เพียงแค่จงซานและคนของเขาไม่มีคุณสมบัติแน่ เว้นแต่เป็นตี้เสวียนชา? แต่ทำไมเป็นตี้เสวียชามา? ตี้เสวียนชามีสัมพันธ์กับต้าเจิ้ง ไท่อี้ก็พอรู้มาบ้าง ทว่าเหตุผลที่ตี้เสวียนชามานี้ ไท่อี้ที่คาดเดา คงจะเกี่ยวข้องกับหมาป่าน้อยที่บาดเจ็บจึงมาแก้แค้นเขา?
แต่หมาป่าน้อยนั้นไม่ตาย เพียงเท่านี้ถึงกับเป็นศัตรูกับเขาอย่างงั้นรึ?
"ดูเหมือนว่า ลู่หยาจะไม่อยู่ที่นี่!"ตี้เสวียนชาเอ่ยกับจงซาน.
"ลู่หยาไม่อยู่ชั่วคราว เวลานี้มีเพียงไท่อี้ เจ้าระวังด้วย! ความแข็งแกร่งของเขาน่าจะมากกว่าเมื่อครั้งในอดีตอีก."จงซานพยักหน้าและกล่าวออกไป.
ตี้เสวียนชาแค่นเสียงเล็กน้อย "ข้าเองก็ฟื้นฟูกลับมาสูงกว่าในอดีต!"
ตี้เสวียนชาที่ไม่สนใจจงซานอีกต่อไป ทว่าเขาจ้องมองไปยังราชันย์เทพตะวันออกไท่อี้ที่อยู่ไกลออกไป.
เคยเป็นบุคคลอันดับหนึ่งในอดีต แล้วอย่างไร ตี้เสวียนชานั้นก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าอย่างแน่นอน.
ตี้เสวียนชาที่บินออกไป พุ่งตรงไปยังยอดเขาด้านหน้า.
"ฟิ้ว!"
กงล้อทองคำปรากฎขึ้น วงจักรสะบั้นโลกาที่ปรากฎขึ้นในอากาศทันที.
ไท่อี้ที่หรี่ตาจ้องมอง เพ่งพิศตี้เสวียนชา และกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นชา "เผ่าหมาป่า ตี้เสวียนชา? เจ้าต้องการเป็นศัตรูกับข้าอย่างงั้นรึ?"
"ศัตรู เป็นเจ้าต่างหากที่นำความอัปยศมาสู่ตัวเอง! อดีตบุคคลอันดับหนึ่งอย่างงั้นรึ? คิดจะนำมาใช้ข่มขู่ข้า มันไม่พอ!"ตี้เสวียนชาที่แค่นเสียงเย็นชา.
ต้องการต่อสู้กับเขาอย่างงั้นรึ? แทบจะในทันที ไท่อี้ก็เข้าใจความหมายของตี้เสวียนชา เขาต้องการต่อสู้อยู่แล้ว เขาต้องการแสดงให้ทุกคนได้เห็น ให้เหล่ายอดฝีมือทั่วหล้า ไม่มีใครหาญกล้าหาเรื่องกับหลานสาวตัวเองอีก?
"ฮ่า ฮ่าฮ่าฮ่า ดี โอหังนัก! เจ้าต้องชดใช้ความโอหังนั่นอย่างสาสมแน่!"ไทอี้ที่เผยยิ้มอย่างเย็นชาออกมา.
"เคร้ง ๆ ~~ ~~~~~~~~~~~~~~~~~~~!”
เกิดเสียงดังสนั่น ปกคลุมทั่วท้องฟ้า บนศีรษะของไท่อี้ปรากฎระฆังยักษ์ขึ้นมาในทันที ระฆังหมิง ที่ส่งเสียงดังไปทั่วฟ้าดิน กลิ่นอายจากโบราณที่ปะทุขึ้นมา เหล่าอสูรรอบ ๆ เวลานี้ถึงกับหายใจไม่ออกไปในทันที.
ระฆังที่ดังกึกก้องบนศีรษะของไท่อี้นั้น กระแทกเข้ากับวงจักรสะบั้นโลกาของตี้เสวียนชา วงจักรที่หมุนออกไปรอบ ๆ พร้อมกับกระแทกผลักดันกันไปมา!
"ระฆังราชันย์เทพตะวันออก!"จงซานกล่าวออกมาด้วยเสียงเย็นชา.
"ระฆังราชันต์ตะวันออก ดูเหมือนว่าจะไม่ได้ด้อยกว่าวงจักรสะบั้นโลกาเลย!"เซียนเซิงซือที่พยักหน้ารับ.
"วูซซซซซซ ~~~~~~~~~~~~~~~~!”
รอบ ๆ ตี้เสวียนชา ทันใดนั้นห้วงอากาศที่แตกแยก แสงสีทองที่ผุดออกมา จิตสังหารที่หนักหน่วงระเบิดออกมาในทันที ในเวลานั้น วงจักรสะบั้นโลกา 72 วงก็ถูกปล่อยออกมาโดยสมบูรณ์ มันอาบด้วยจิตสังหารที่รุนแรงแผ่อำนาจสยบกระจายออกไปรอบ ๆ
ตี้เสวียนชาที่จ้องมองไปยังไท่อี้ แววตาที่เต็มไปด้วยจิตสังหารที่รุนแรง.
"เคร้ง ๆ ~~ ~~~~~~~~~~~~~~~~~~~!”
ตี้เสวียนชาและราชันย์เทพตะวันออกไท่อี้ ไม่ได้ด้อยกว่ากันเลย ห้วงมิติที่สั่นไหวไปมา ระฆังราชันย์เทพตะวันออกนั้น แผดกลิ่นอายจากโบราณทรงพลังน่าเกรงขามออกมาต้าน.
ระฆังราชันย์เทพตะวันออกที่ดังเจ็ดสิบสองครั้ง!
"ถอยก่อน!"จงซานเอ่ย.
"ครับ!"เซียนเซิงซือพยักหน้ารับ.
จงซานที่นำเซียนเซิงซือถอยห่างออกมาในทันที.
ไม่ใช่ว่าจงซานไม่กล้าเข้าใกล้ ทว่าการต่อสู้นี้เป็นของตี้เสวียนชา จงซานได้ตกลงกับตี้เสวียนชาไปก่อนหน้าแล้ว ตี้เสวียนชาต่อสู้กับไท่อี้ เขาต่อสู้กับลู่หยา.
ขณะที่ตี้เสวียนชาต่อสู้กับไท่อี้ จงซานก็ต้องเตรียมพร้อมจะรับมือกับลู่หยาที่พร้อมจะปรากฎตัวได้ทุกเมื่อ.
“สะบั้นโลกา ~~~~~~~~~~~~!”
"ระฆังราชันย์เทพตะวันออกครวญ ~~~~~~~~~~~~~!”
ห้วงอากาศที่แตกสลาย แม้นการปะทะยังไปไม่ถึง แรงกดดันพลังวิญญาณ ก็เพียงพอที่จะบดสะบั้นห้วงมิติรอบ ๆ นี้ได้แล้ว.
"ตูมมมมมม ~~~~~~~~~~~~~~~~!”
เกิดระเบิดดังกึกก้องเป็นระยะ ๆ ดังไปทั่วดินแดนเหล่ยหยิน อีกครั้งแล้ว แรงระเบิดที่รุนแรงนี้ การปะทะอย่างหนักหน่วงที่ทำให้ดินแดนเหล่ยหยินเกิดแผ่นดินไหว เมื่อเดือนที่แล้ว ก็เคยเกิดขึ้นที่วิหารใต้เหล่ยหยิน แรงระเบิด ที่สั่นสะเทือนไปทั่วแผ่นดิน แรงสั่นสะเทือนที่ทำให้เกิดคลื่นใหญ่ยักษ์ขึ้นบนทะเลรอบ ๆ .
เหล่าผู้ฝึกตนมากมายที่ไม่สามารถมองเห็นแสงจันทร์ได้แล้ว เพราะว่าเวลานี้ผืนปฐพีนั้นสั่นไหวรุนแรงมาก พื้นที่สิ่งก่อสร้างต้นไม้ใบหญ้าที่พังทลายลง แรงสั่นสะเทือนที่เกิดคลื่นสะท้อนกวาดม้วนทุกสิ่งทุกอย่างออกไป แต่ก็บางคนเองที่สามารถมองเห็นตี้เสวียนชาและไท่อี้ที่ต่อสู้กันไกลออกไปได้.