Chapter 1304 สุรารสขม.
หนึ่งปีก่อน สองปราชญ์เทพ สิบเซียนบรรพชนที่เข้าล้อมสังหารต้าเจิ้งสิบเอ็ดคน.
ในครั้งนั้นเหล่าผู้ฝึกตนทั่วทั้งดินแดนเหล่ยหยินก็ตื่นตะลึงไปครั้งหนึ่งแล้ว ข่าวเรื่องดังกล่าวได้กระฉ่อนไปทั่วเกาะแม้แต่ไปลามไปยังดินแดนอื่น ๆ .
มีผู้ฝึกตนหลายคนที่ต้องการเห็นความร้ายกาจของจงซานด้วยตัวเองเช่นกัน.
ช่างน่าเสียดาย หลังจากนั้นกลุ่มของจงซานก็ซ่อนตัวไม่เห็นตลอดหนึ่งปี ทำให้ผู้ฝึกตนไม่น้อยรู้สึกเศร้าใจไม่น้อย.
ทว่าเมื่อคืนที่ผ่านมา ภายในเกาะเหล่ยหยินก็ปรากฎเรื่องที่น่าตื่นตะลึงขึ้นอีกครั้ง วิหารเหล่ยหยินถูกสังหารไปทั้งหมด.
เพียงแค่คน ๆ เดียว หนึ่งกระบวนท่าทำลายค่ายกลห้าร้อยพุทธะ กระบวนท่าที่สองสังหารอรหันต์และปู่ซาเกือบทั้งหมด จนเหลือเพียงแค่ยูไลเจ้าอาวาสคนเดียวที่รับคมมีดเจ็ดสิบสองใบมีด ก่อนที่จะถูกกุดหัวไป.
ยูไลไม่สามารถที่จะทนได้ถึง 72 ใบมีดแน่นอน แต่กระนั้นก็ยังถูกสับไปจนครบ 72 ใบมีด.
เป็นการสังหารที่ดุร้ายน่าหวาดกลัวมาก เต็มไปด้วยพลังที่เปี่ยมไปด้วยความชั่วร้าย.
ในระหว่างนั้น ปราชญ์เทพม่อจื่อก็ได้ปรากฎตัวขึ้นเช่นกัน ช่างน่าเสียดาย ไม่สามารถที่จะป้องกันตี้เสวียนชาที่ดุร้ายได้ เพียงแค่คำขู่ หากเจ้ากล้าแส่ ข้าจะสังหารเจ้าทั้งตระกูล กับสามารถห้ามเขาเข้ามายุ่งกับยูไลได้ ก่อนที่ยูไลจะถูกตี้เสวียนชาสับไม่มีเหลือ.
ดุร้ายมาก เทพอรหันต์ยูไล เป็นหนึ่งในอรหันต์ในพิธีชุมนุมพิธีใต้หว่านฝูผานที่ใกล้เข้ามา คาดไม่ถึงเลยว่าจะไม่มีพลังต้านทานได้เลย ตี้เสวียนชาน่าสะพรึงกลัวจนเกินไป.
เสียงของหมาป่าคำราม ดังกึกก้องไปทั่วดินแดนเหล่ยหยิน ผืนปฐพีที่สั่นสะเทือนไปทั่ว พลังของดวงจันทรา ถูกดูดซับหายไปหมด.
นี่คือสุดยอดฝีมือ เทพแห่งความดุร้าย ที่ทำให้โลหิตของผู้ฝึกตนทั่วดินแดนเหล่ยหยินพลุ่งพล่าน ไม่ว่าใครก็ต้องหวั่นเกรง.
ในเวลานี้ ทุกคนค่อย ๆ รู้จักตัวตนของตี้เสวียนชาที่น่าเกรงขามได้แล้ว.
บรรพชนหมาป่า จื่อจุ้นเผ่าหมาป่าแดนเทวะซือเทียน จากทวีปฐพีที่เดินทางมาที่นี่ เพราะว่าก่อนหน้านี้เป็นเพราะว่าสองปราชญ์เทพ สิบเซียนบรรพชนที่ล้อมสังหารจงซาน ยูไลไดพลั้งมือทำร้ายหลานของตี้เสวียนชา ตี้เซียนเซียน.
นางช่างมีปู่ที่ดีนัก!
ในเวลาเดียวกันนี้ ชื่อเสียงของต้าเจิ้งก็กระจายไปทั่วดินแดนเหล่ยหยินอีกครั้ง.
ตี้เสวียนชาออกจากต้าเจิ้งแล้วอย่างไร? หลานสาวของเขายังอยู่ต้าเจิ้ง ตี้เสวียนชาก่อนหน้านี้ก็มีความสัมพันธ์ที่ดีกับต้าเจิ้ง ต้าเจิ้ง? นี่คือศาลเทพแน่รึ?
พวกเขามีข่าวลือที่เกิดขึ้นมากมาย มียักษ์ใหญ่กลุ่มอิทธิพลมากมายที่เกี่ยวข้องกับต้าเจิ้ง.
ภายในหุบเขาแห่งหนึ่งในดินแดนเหล่ยหยิน.
บนทะเลสาบที่เงียบสงบ ราชันย์เทพตะวันออกไท่อี้ลืมตาขึ้นช้า ๆ ที่ด้านหน้าของเขาก็คือปราชญ์เทพลู่หยา.
"ท่านพ่อ เป็นตี้เสวียนชาจริง ๆ"ลู่หยาที่ขมวดคิ้วไปมา.
"ตี้เสวียนชา? จงซานไม่ธรรมดาจริง ๆ เขาคาดการณ์ได้แม่นยำยิ่งกว่าข้าอีก สามารถที่จะล้มกระดานหมากทั้งหมดได้ ดูเหมือนว่าแผนการของพวกเราจะล้มเหลวแล้ว!"ราชันย์เทพตะวันออกไท่อี้ที่ดวงตาหรี่เล็กลง.
"ล้มเหลว? ทำไม? พวกเราจะออกไปจัดการเองหรือไม่?"ลู่หยาที่เผยท่าทางสงสัย.
"ออกไปรึ?ยาก!"ราชันย์เทพตะวันออกที่ส่ายหน้าไปมา.
"ยาก? ท่านพ่อ ตี้เสวียนชาเป็นใครกัน? ถึงได้แข็งแกร่งเช่นนี้? ยูไลถึงกับถูกสับเป็นชิ้น ๆ ข้าได้ยินเพียงแค่ว่าบรรพชนหมาป่าคืนกลับ? บรรพชนหมาป่า หมายความว่าอย่างไร?"ลู่หยาที่เผยท่าทางสงสัย.
"ตี้เสวียนชา? ก็คือตี้ซือเทียน ยอดฝีมือในยุคโบราณ ความแข็งแกร่งของเขาไม่สามารถประเมินได้!"ราชันย์เทพไท่อี้กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.
"ยุคโบราณ? นานเพียงใดกัน? ท่านพ่อบอกว่าตี้ซือเทียนนั้นมาก่อนผ่านกู๋อีกอย่างงั้นรึ?"ลู่หยาที่ขมวดคิ้วไปมา.
"ใช่ ก่อนที่ผ่านกู๋จะแยกสวรรค์สะบั้นปฐพีสะอีก ตี้ซือเทียนก็สั่นคลอนโลกหล้าแล้ว!"ราชันย์เทพตะวันออกไท่อี้กล่าวอย่างเคร่งขรึม.
"หากเทียบภพหยางเป็นสระน้ำ นับว่ามันลึกสุดที่จะหยั่งจริง ๆ !"ลู่หยาที่ขมวดคิ้วไปมา.
"ไม่มีปัญหา ถึงมาก่อนก็ไม่ได้แปลว่าแข็งแกร่งที่สุด เหมือนบรรพชนเต่าทมิฬที่มีอายุมากที่สุด ในอดีตยังไม่สามารถเทียบกับนวีหวาได้! แม้แต่ผ่านกู๋ที่มาทีหลัง เขาก็กลายเป็นคนที่ทั้งสองภพหยินหยางยากจะมีคนเทียบเขาได้ ถึงตี้ซือเทียนจะมาจากยุคที่เก่าแก่ ก็อาจจะไม่สามารถเทียบได้เช่นกัน ความแข็งแกร่ง ไม่ได้วัดกันที่จำนวนอายุ."ราชันย์เทพตะวันออกไท่อี้ที่ส่ายหน้าไปมา.
"อืม!"ลู่หยาพยักหน้ารับ.
-----------------------------------------
ดินแดนเหล่ยหยิน ฐานของตระกูลเทียน ที่ห้องโถงตำหนักตรงกลาง.
เทียนโจวจื่อที่ได้ยินข่าวต่าง ๆ ที่หน่วยสอดแนมตระกูลเทียนส่งออกไป เก้าเซียนบรรพชนที่หายจากบาดเจ็บแล้ว ขณะที่นั่งอยู่ทั้งสองฝั่ง.
"ปราชญ์เทพจู่ เรื่องนี้ คนของวิหารใต้เหล่ยหยิน ดูเหมือนว่าตี้เสวียนชาจะไม่ปล่อยให้ใครรอดเลย ช่างดุร้ายยิ่งนัก แม้แต่ม่อจื่อยังถูกไล่ไป!"ผู้เยาว์สอดแนมที่เผยท่าทางหวาดกลัว.
"อืม เจ้าออกไปก่อน!"เทียนโจวจื่อพยักหน้ารับ.
"ครับ!"
ผู้เยาว์สอดแนมที่เดินออกไป ในห้องโถงที่กลายเป็นเงียบงันในทันที.
เมื่อคืนนี้เทียนโจวจื่อตัดสินใจไม่เดินทางไปยังวิหารใต้เหล่ยหยิน เพราะว่าสังหรณ์ใจไม่ดี ท้ายที่สุดก็เป็นดั่งที่เขาสังหรณ์ใจ
ตี้เสวียนชา? ตี้เสวียนมาเดินทางมาอย่างงั้นรึ? เป็นเขาจริง ๆ .
ในอดีตเขาคือเทพแห่งความดุร้ายที่ประจันหน้ากับท่านประมุข.
ก่อนหน้าไม่ได้เห็นเขาลงมือ ตอนนี้ได้เห็นแล้ว ไม่คิดเลยว่าจะทรงพลังน่าเกรงขามขนาดนั้น.
ในเวลานี้ เทียนโจวที่คิดถึงคำพูดของจงซานในเวลานั้น.
"เจ้าช่างสมองเบา!"
ในเวลานี้ เทียนโจวจื่อคิดถึงคำพูดที่จงซานตำหนิเขา ทันใดนั้นเขาก็อดรู้สึกถึงคำพูดนี้เสียไม่ได้ ก่อนหน้านี้หนึ่งปี พวกเขาที่ไปล้อมสังหารจงซาน กลายเป็นตัวเขาที่แส่หาเรื่องจริง ๆ .
ลู่หยาที่หาคนสังหารจงซาน ทว่าตัวเองกลับซ่อนถอนตัวไป.
จงซานสามารถสังหารได้จริง ๆ รึ? จงซานไม่ได้เอ่ยหรอกเหรอที่นี่ยังมีเทพแห่งความดุร้าย เทพแห่งความดุร้ายกำลังมา.
ยูไลทำร้ายตี้เซียนเซียน ท้ายที่สุดก็ถูกสับเป็นท่อน ๆ อย่างงั้นรึ?
"โชคดีที่ พวกเราต่อสู้กับจงซาน หากพวกเราต่อสู้กับตี้เซียนเซียน บางทีตี้เสวียนชาคงเดินทางมาถึงที่นี่!"เซียนบรรพชนอีกคนที่เอ่ยออกมาด้วยความตกใจ.
เทียนโจวจื่อที่ขมวดคิ้วแน่น.
"วางใจ มีข้าอยู่ พวกเจ้าย่อมไม่มีเรื่องอันใด ตี้เสวียนชาไม่สามารถทำอะไรพวกเจ้าได้ ความแข็งแกร่งของตี้เสวียนชา ข้าควรจะรับมือได้!"เทียนโจวจื่อที่ส่ายหน้าไปมา.
เก้าเซียนบรรพชนที่เอ่ยปากจะกล่าวอะไรบางอย่าง ทว่าท้ายที่สุดก็ไม่เอ่ยสิ่งใดออกมา คราแรกพวกเขาที่เอ่ยเกี่ยวกับการสังหารจงซาน แต่แล้วก็รู้สึกว่าชีวิตของตัวเองสำคัญกว่า.
"เรื่องของตี้เสวียนชา อย่าเพิ่งไปสนใจ รักษาตัวเองให้แข็งแรง งานชุมนุมใต้หว่านฝูผานใกล้เข้ามาแล้ว ทำงานที่ประมุขสั่งก่อน!"เทียนโจวจื่อกล่าว.
"ครับ!"
------------------------------------------------
ที่ชายฝั่งแห่งหนึ่งของดินแดนเหล่ยหยิน.
ม่อจื่อที่ร่อนลงมาจากบนท้องฟ้า.
"อาจารย์!"เหล่าศิษย์สองสามคนที่ก้าวเข้ามาแสดงความเคารพ.
"ยูไลตายแล้ว งานชุมนุมใต้หว่านฝูผานหาได้มีเรื่องที่สำคัญอีกต่อไป พวกเราจะไม่เข้าร่วม เก็บของ พวกเราจะเดินทางกลับ!"ม่อจื่อกล่าวออกมาเบา ๆ .
"?หืม!"ศิษย์หลายคนที่เผยท่าทางงงงวย ได้แต่พยักหน้ารับ.
ศิษย์ทั้งหมดที่แยกย้ายสั่งการ เก็บของในทันที ม่อจื่อที่หันหน้าจ้องมองไปยังส่วนลึกของดินแดนเหล่ยหยิน ไม่เคลื่อนไหว รอคอยศิษย์ของตัวเอง.
เหล่าศิษย์ที่เก็บของเสร็จแล้วแต่ก็ไม่กล้ารบกวน.
"เฮ้อ~~~~~~~~~~!”ม่อจื่อที่สูดหายใจลึก.
"ไป!"ม่อจื่อเอ่ย.
"ครับ!"
--------------------------------------------------
ดินแดนเหล่ยหยิน ยอดเขาแห่งหนึ่งไม่ไกลจากที่พักของจงซาน.
ภายในซุ้มไม้.
"ผลิตภัณฑ์พิเศษต้าเจิ้ง? สุราเหล่าหลางเสี่ยวหลางเหนียง(หมาป่าชราและหมาป่าตัวน้อย) อย่างงั้นรึ?"ตี้เสวียนชาที่จ้องมองสุราสีเขียวพลางขมวดคิ้วไปมา.
ตี้เสวียนชาที่เป็นเหมือนกับจงซาน เขาที่สามารถบอกได้ว่า สุรานี้ไม่ต่างจากของเสียที่ถูกคัดออกมา ตี้เสวียนชาที่ไม่ได้ปฏิเสธ ชื่อของมันที่พิเศษ ทำให้เขาทอดตามองอย่างสงสัย.
ทว่าขณะที่เขาเพ่งพิศ ราวกับรู้สึกอะไรบางอย่าง นี่คือ สุราที่หลานของเขาหมักด้วยตัวเอง ทว่าชื่อของมัน สุราเหล่าหลางเสียวหลางเหนียง ตี้เสวียนชาก็ไม่ยากที่จะคาดเดา เหล่าหลางเสียวหลางเหนียง เหล่าหลางก็คือเขา ส่วนเสี่ยวหลางเหนียงก็คือเซียนเซียน.
หลายปีมานี้ เป็นเซียนเซียนบ่มสุรานี้ขึ้นมาอย่างงั้นรึ?
"ไม่ดื่ม!"จงซานที่เอ่ยออกมาเบา ๆ .
ตี้เสวียนชาที่พยักหน้า พร้อมกับยกสุราขึ้นดื่ม.
สุราเหล่าหลางเสียวหลางเหนียงไม่ใช่สุราเลอเลิศ ในทางตรงกันข้าม มันกลับเป็นสุราที่ขมอย่างที่สุด.
"นี่มัน น้ำนี้ ไม่ใช่เป็นน้ำตาของเซียนเซียนหรอกรึ?"ตี้เสวียนชาที่อารมณ์ไม่ค่อยคงที.
"เซียนเซียนเล่าให้ฟังว่าเมื่อนางยังเด็ก ทุก ๆ ปีเจ้าจะพานางไปปลูกต้นไม้หนึ่งต้น ต้นไม้เหล่านั้นจะเติบโตไปพร้อม ๆ กันนาง ซึ่งมีหมาป่าชราหนึ่งต้น หมาป่าตัวน้อยอีกหนึ่งต้น ปลูกคู่กัน สุรานี้ หมักมาจากผลของต้นไม้เหล่านั้น!"จงซานเอ่ย.
"หืม?"ใบหน้าของตี้เสวียนชาเต็มไปด้วยความเศร้าโศก.
"ผ่านมาไม่กี่ร้อยปี มันได้ออกผลเกือบทั้งหมดแล้ว เซียนเซียนที่เก็บมันมาด้วยตัวเอง นางที่เก็บตัวอาศัยอยู่แต่ในห้อง ผลของต้นไม้หมาป่าชราและผลของต้นไม้ที่หมาป่าน้อยปลูกร่วมกัน ถูกนำมันมาบ่มเป็นสุรา นางได้แบ่งคัดสุราที่ผิดพลาดออกมาเป็นส่วนดีและไม่ดี ส่วนดีครึ่งหนึ่งถูกเก็บไว้ในห้องใต้ดิน รอคอยให้หมาป่าชรากลับมา อีกครึ่งหนึ่ง เป็นของนางเอง นางได้แบ่งมาให้กับข้าด้วย!"จงซานที่กล่าวออกมาอย่างนุ่มนวล.
ได้ยินคำอธิบายของจงซาน ตี้เสวียนชาที่สามารถมองเห็นภาพในทันที นางที่ต้องใช้ความพยายามไม่น้อย น้ำหมักที่ผสมด้วยน้ำตาของนางรึ? และส่วนนี้คือส่วนที่ไม่ดีอย่างงั้นรึ?ไม่ต้องแปลกใจเลยว่ามันถึงได้มีรสขมขนาดนี้.
น้ำตาของตี้เสวียนชาที่คลอเบ้า แม้ว่ามันจะระเหยไปอย่างรวดเร็ว ทว่าจงซานที่สามารถเข้าใจตี้เสวียนชาที่กำลังพยายามกำราบเจตจำนงของตี้ซือเทียนอีกครั้งแล้ว.
"เซียนเซียน หลายปีนี้เป็นเช่นไร?"ตี้เสวียนชาเอ่ยถาม.
"นางที่ทำตัวร่าเริง พยายามอย่างหนัก!"จงซานเอ่ย.
"หมายความว่าอย่างไร?"
"หลายปีมานี้ในภพหยิน นางได้กำราบหมาป่าภพหยินได้อย่างสมบูรณ์!"จงซานที่กล่าวออกมาเบา ๆ .
คำพูดไม่กี่คำของจงซานนั้น ได้บอกกล่าวว่านางที่สามารถกำราบเผ่าหมาป่าได้ทั้ง 36 ดินแดนเลยรึ? ดูเหมือนว่านางจะบุกเบิก ทำงานอย่างหนัก.
นางกระทำตัวร่าเริงเพราะมีความสุขอย่างนั้นรึ? ที่จริงแล้วการที่นางต้องทำงานอย่างหนัก ก็เพื่อที่จะสะกดความรู้สึกโศกเศร้าในใจหรือไม่?
นางที่ฝืนทำตัวร่าเริง พยายามอย่างหนัก?ด้วยคำพูดของจงซาน ทันทีที่เขาได้ยินก็รับรู้ได้ถึงสิ่งที่ซ่อนเอาไว้ ทำให้เขารู้สึกเศร้ายิ่งกว่าเดิม ขณะที่เขายกสุราขึ้นดื่ม.
"ครั้งนี้ ข้าต้องการนำนางมาผ่อนคลาย."จงซานกล่าว.
"อืม!"ตี้เสวียนชาที่พยักหน้ารับ พร้อมกับดื่มสุราลงไปอีก.
"ข้าโชคดี ขอนำสุราไปกลับไปด้วย!"ตี้เสวียนชาเอ่ยปาก.
"ไม่ได้!"จงซานที่ส่ายหน้าไปมา.
ตี้เสวียนชาที่ขมวดคิ้วไปมาจ้องมองจงซาน.
"อย่าลืมว่ามีสุรารสดี ที่เจ้าควรไปดื่ม มันคือ สุราที่อยู่ในห้องเก็บใต้ดิน ที่เจ้าจะได้ดื่มเมื่อครั้งเจ้ากลับไป จะสามารถดื่มมันได้เท่าไหร่ก็ได้!"จงซานที่ส่ายหน้าไปมา.
"กลับไปนะรึ?"ตี้เสวียนชาที่ฝืนยิ้ม ส่ายหน้าไปมา ไม่ได้เอ่ยอะไร ขณะที่ยกสุราขึ้นดื่มอีกครั้ง.