Chapter 1303 เศียรอรหันต์
"หากเจ้ากล้าแส่ ข้าจะสังหารเจ้าทั้งตระกูล!"
คำพูดของตี้เสวียนชา เต็มไปด้วยจิตสังหาร ข่มขู่ปราชญ์เทพ ทว่าม่อจื่อ กับเอ่ยออกมาว่า ไม่สามารถช่วยยูไลได้.
เหล่าผู้ฝึกตนที่อยู่รอบ ๆ ส่งเสียงดังอื้ออึง ความรู้สึกหนักอึ้งสั่นไหวไปมา ร่างกายที่สั่นสะท้านด้วยพลังอำนาจของตี้เสวียนชา สั่นกลัวแม้แต่ปราชญ์เทพยังต้องเกรง.
โหยวหลานที่จ้องมองตี้เสวียนชา จ้องมองไปยังพื้นที่ไกลออกไป เผยท่าทางหวั่นเกรงออกมา ใบหน้ากระตุก.
เขาที่มาจากต้าเจิ้ง โหลวหลานที่ไม่ค่อยชื่นชอบตี้เซียนเซียนเท่าใดนัก แม้นนางจะมีระดับเซียนบรรพชน ทว่านิสัยของนางที่ดูกระโตกกระตากยากจะควบคุม ระรานคนอื่น ๆ ไปทั่ว.
เหล่าเซียนบรรพชนที่มีนิสัยเช่นนี้ ย่อมง่ายที่จะถูกทำลายได้ ถึงจะเป็นเซียนบรรพชนที่แข็งแกร่งมาก พวกเขาหาได้ไร้เทียนทาน ไม่ช้าก็เร็วก็ต้องพ่ายแพ้หรือได้รับบาดเจ็บ.
เป็นอย่างที่เขาคิด เซิ่งหวังให้นางปกป้องหวงโหว นางกับไม่ฟังคำสั่ง กระโดดเข้าร่วมต่อสู้ ท้ายที่สุดแล้วก็ได้รับบาดเจ็บเจียนตาย.
ตัวปัญหา นางที่กลายเป็นตัวปัญหา ต้องการทำอะไร? เซิ่งหวังเอ็นดูเจ้า แต่กับทำเช่นนี้นะรึ? โหยวหลานเองจึงดูไม่ค่อยชื่นชอบตี้เซียนเซียนนั่นเอง.
แต่ว่าในเวลานี้ โหลวหลานที่รู้สึกหวาดหวั่น ตัวปัญหาอย่างงั้นรึ? ไม่คิดเลยว่าตี้เซียนเซียนจะมีปู่ที่น่าสะพรึงกลัวเช่นนี้ ไม่ใช่ว่านางเป็นตัวปัญหา ถึงนางจะล่วงเกินใคร ถึงจะเป็นปราชญ์เทพที่แข็งแกร่ง แล้วอย่างไร กับปู่ที่หวงแหน ถึงปราชญ์เทพก็ยังต้องเกรงใจ.
ใครจะคิดว่านางจะมีเบื้องหลังที่น่าเกรงขามถึงเพียงนี้!
ตี้เสวียนชา? สามารถที่จะเคลื่อนย้ายพลังของดวงจันทรา ปลดปล่อยพลังที่น่าสะพรึงกลัว แม้แต่ปราชญ์เทพยังต้องหลบ ตี้เสวียนชาที่จ้องมองไปยังยูไล.
"แขนข้างหนึ่ง คือใบมีดแรก เหลืออีก 71 ใบมีด!"ตี้เสวียนชาที่กล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นชาจ้องมองยูไล.
"ม่อจื่อ ทำไมเจ้าทำเช่นนี้!"ยูไลที่ตะโกนออกมาเสียงดัง.
"ข้าไม่สามารถช่วยเจ้าได้ พิธีใต้หว่านฝูผ่าน ข้าไม่ต้องการเข้าร่วมอีกครั้งแล้ว ขอให้เจ้าโชคดี!"ม่อจื่อที่ส่ายหน้าไปมา.
ทว่า ม่อจื่อก้าวบินจากไป.
"ม่อจื่อ!"ยูไลที่ตะโกนออกมาเสียงดัง.
ทว่าม่อจื่อที่ไม่อยู่แล้วเวลานี้.
"ใบมีดที่สองสะบั้นโลกา!"
"ตูมมมมม ~~~~~~~~~~~~~~~~~~~!”
ตี้เสวียนชาที่เต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยว รอบ ๆ ที่มีผู้ฝึกตนมากมาย ทว่าไม่มีใครกล้าเข้าไปยุ่ง แม้แต่ม่อจื่อยังไม่กล้า ใครล่ะจะแส่หาความตาย.
"ใบมีดที่สาม สะบั้นโลกา!"
"ตูมมม ~~~~~~~~~~~~~~~~~~~!”
"ใบมีดที่สี่ สะบั้นโลกา!"
..............................
..................
............
"ใบมีดที่70 สะบั้นโลกา!"
ในวันนี้ เหล่าผู้ฝึกตนมากมายต่างหวาดผวา หัวใจสั่น ตื่นตะลึงกับความดุร้ายของตี้เสวียนชา.
จิตสังหารที่คละคลุ้ง 72 ใบมีดที่เปี่ยมไปด้วยจิตสังหาร เปี่ยมไปด้วยความดุร้ายเย็นชา.
ท้ายที่สุด ใบมีดที่ 72 ก็ตัดเศียรของยูไล ตี้เซียนชาที่ราวกับเทพปิศาจที่น่าสะพรึง สายตาของเขาที่กวาดตามองไปรอบ ๆ ทำให้ผู้ฝึกตนที่มาเฝ้ามองตื่นตะหนักตกใจ.
โหยวหลานแทบไม่รู้ว่าจะติดต่อกับตี้เสวียนชาอย่างไร.
โหยวหลานที่ต้องการนำตี้เสวียนชาไปยังที่พักของจงซาน แววตาของเขาที่เปลี่ยนเป็นวิญญาณกระจก พร้อมกับปล่อยกระจกออกมา ภายในใจของโหยวหลานที่ยากจะจัดการสถานการณ์ได้.
"ที่นี่!"โหยวหลานทีเอ่ยออกมาราวกับเสียงเครื่องจักร.
ตี้เสวียนชาที่กุมเศียรของยูไล ก่อนที่จะบินด้วยใบหน้ามืดครึ้มตามไป โดยที่ไม่กล่าวสิ่งใด.
หลังจากผ่านไปไม่กี่ชั่วยาม ทั้งคู่ก็มาถึงหุบเขาแห่งหนึ่ง.
จงซานที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ยอดเขารอคอยตี้เสวียนชา.
จงซานที่จ้องมองไปยังฝ่ามือของตี้เสวียนชาที่มีเศียรของยูไล จงซานที่ขมวดคิ้วไปมา.
"เซิ่งหวัง เฉินได้นำคนที่เซิ่งหวังสั่งมาแล้ว!"โหยวหลานที่เอ่ยออกมาด้วยความเคารพ.
"อืม ออกไปได้แล้ว!"จงซานที่พยักหน้ารับ.
โหยวหลานที่พยักหน้าและถอยออกไป.
อยู่ไม่ไกลห่างจากันนัก จงซานและตี้เสวียนชาที่จ้องมองกันและกัน ใบหน้าที่เต็มไปด้วยความเย็นชาจ้องกัน เงียบไปชั่วครู่ จงซานที่เป็นคนเอ่ยปากออกมาคนแรก.
"เศียรของยูไลอย่างงั้นรึ?"จงซานที่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.
"เขาทำให้เซียนเซียนบาดเจ็บ ข้าต้องสับมัน!"ตี้เสวียนชาที่กล่าวออกมาเบา ๆ .
จงซานที่ขมวดคิ้วไปมา ส่ายหน้าไปมา "เจ้าต้องการส่งเศียรนั่นให้กับเซียนเซียนอย่างงั้นรึ? ตี้เสวียนชา ก่อนหน้านี้เจ้าเคยมอบเศียรให้กับหลานสาวมาก่อนอย่างงั้นรึ?"
ดวงตาของตี้เสวียนชาหดเกร็ง ใบหน้าเปลี่ยนเป็นซับซ้อน ก่อนที่จะสูดหายใจลึก ขณะจ้องมองไปยังเศียรในมือ ใบหน้าก็เปลี่ยนไปเผยท่าทางเจ็บปวดออกมา.
"วูซซซ!"ตี้เสวียนชาที่โยนศีรษะของยูไลขึ้นไป.
"ตูมมมม!”
ฝ่ามือของตี้เสวียนชาที่สะบัดออกไป เศียรนั่นระเบิดออกมาเสียงดังแตกสลาย หายไปไม่มีเหลือ.
ตี้เสวียนชาที่ขมวดคิ้วใบหน้าเปลี่ยนสีครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง.
"ดูเหมือนว่าตี้ซือเทียนจะมีอิทธิพลลึกเข้าไปในใจเจ้าจริง ๆ ทว่าโชคดี เจ้าเพียงแค่รู้ว่าเซียนเซียนโชคดีก็เพียงพอแล้ว ตราบเท่าที่เจ้าจดจำหลานสาวเจ้าได้ อะไรก็ไม่ใช่สิ่งสำคัญ ไปเถอะ ไปพบกับเซียนเซียนพร้อมกับข้า!"จงซานพยักหน้ารับ.
"อืม!"ตี้เสวียนชาพยักหน้ารับ.
จงซานที่นำตี้เสวียนชาไป ตี้เสวียนชาที่ขมวดคิ้วแน่น ความรู้สึกที่ค่อนข้างขัดแย้งกันไปมา.
เกี่ยวกับสังหารยูไลนั้น ตี้เสวียนชาต้องการทำ ตี้ซือเทียนก็ต้องการทำ ตื้ซือเทียนนั้นไม่หวังที่จะให้ตี้เซียนเซียนถูกคนอื่นสังหารด้วยนั่นเอง.
ดังนั้นเป้าหมายแรกของพวกเขาที่เกิดร่วมกัน คือสังหารทุกคนในวิหารใต้เหล่ยหยิน ตี้เสวียนชาเข้าใจเป้าหมายแรกนั้นเป็นความต้องการของตัวเอง หากแต่เป้าหมายสองการนำเศียรของยูไลมานั้น ไม่ใช่ความต้องการของตัวเองแน่ ในโลกนี้มีใครที่ใหนที่ปู่จะนำเศียรคนตายมามอบให้กับหลานสาวกัน?
ก่อนหน้านี้ ตี้เสวียนชาที่หวั่นเกรงในใจเช่นกัน เขาที่พยายามสะกดข่ม เขานำศีรษะมาได้อย่างไร?
ตี้เสวียนชาต้องการเห็นเซียนเซียน แต่อีกใจหนึ่งก็หวาดกลัวตัวเอง กลัวว่าจะไม่สามารถควบคุมตัวเองได้.
เหล่าข้าราชบริพารของต้าเจิ้งที่รอคอยอยู่ด้านนอก โหยวหลานที่ลอบมองตี้เสวียนชาด้วยความระมัดระวัง จินเผิงและคนอื่น ๆ ได้ยินคำพูดของโหยวหลานที่อธิบายเรื่องที่เกิดขึ้น จินเผิงและคนอื่นก็จ้องมองตี้เสวียนชาด้วยท่าทางหวาดหวั่นไปด้วย ผิดปรกติเกินไปแล้ว! สับร่างยูไลอย่างงั้นรึ? แม้แต่ม่อจื่อยังหนี? คนผู้นี้น่าหวาดกลัวขนาดนี้เลยรึ?
จงซานและตี้เสวียนชาที่ก้าวเข้าไปในห้องโถงพร้อม ๆ กัน.
ในห้องโถง เป่าเอ๋อที่กำลังควบคุมโคจรพลังหม้อปรุงยาขนาดใหญ่อยู่.
ภายในเตาปรุงยาขนาดใหญ่นั้น มีแสงสีแดงที่ปกคลุมร่างของตี้เซียนเซียนอยู่ ใบหน้าของนางที่ขาวซีด ไม่มีสีโลหิต ไม่รู้เป็นหรือตาย แทบไม่มีลมหายใจ.
ขณะที่ตี้เสวียนชาจ้องมองเซียนเซียนไม่ได้สตินั้น จิตวิญญาณของเขาที่สั่นสะท้าน เขาสั่น ตื่นตกใจมากกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา.
หลานสาวของเขาใกล้ตายแล้วรึ? ไม่ใช่ว่าต้องปกป้องหลานสาวตัวเองรึ? เกือบตายรึ?
ร่างของตี้เสวียนชาที่กำลังสั่นไปมาอย่างรุนแรง ความโศกเศร้าที่มากมายกำลังแผ่ออกมาไม่สิ้นสุด เจตจำนงของเขาที่กำลังเคลื่อนไหว เจตจำนงของตี้เสวียนชากำลังสั่นอย่างรุนแรง.
"ก่อนหน้านี้เจ้ายังจำท่าทางของตัวเองเมื่อครั้งเห็นเซียนเซียนได้หรือไม่? ยินดี หากแต่ตอนนี้เจ้ากลับโศกเศร้าอย่างรุนแรง ตี้เสวียนชา เจ้ามองดูหลานสาวของเจ้า เพราะว่าเจ้าไม่สามารถปกป้องนางได้ นางถึงต้องเป็นเช่นนี้!"จงซานที่จ้องมองไปยังตี้เสวียนชา.
จงซานที่จงใช้ที่จะผลักความรับผิดชอบไปให้ตี้เสวียนชาอย่างจงใจ แน่นอนว่าแท้จริงแล้วคือการช่วยขับตี้เซือเทียนนั่นเอง.
"ท่านปู่!"
ในจิตใจ ตี้เสวียนชาที่จดจำเสียงของเซียนเซียนที่แสดงท่าทางเหมือนกับเด็กเอาแต่ใจในอดีต ร่างของเขาที่สั่นเทิ้ม อารมณ์ความรู้สึกที่มากล้น ความสุขความยินดีที่เคยมีในอดีต ร่างของตี้เสวียนชาที่สั่นไหวมากขึ้นและก็มากขึ้น.
เส้นเลือดฝอยบนดวงตาของตี้เสวียนชาที่ลุกลามกระจายไปทั่ว ภายในห้องโถงที่กลายเป็นเย็นยะเยือบในทันที.
ในเวลานี้ จงซานที่รอคอยสิ่งนี้ น้ำตาของตี้เสวียนชาที่กำลังอาบแก้ม ดูเหมือนว่ามันจะดีขึ้น จงซานที่รับรู้ว่าตี้เสวียนชาเริ่มกำราบเจตจำนงของตี้ซือเทียนกลับมาได้บ้างแล้ว.
ภายในใจของจงซานที่ลอบถอนหายใจเบา ๆ .
"บัววิญญาณโลหิตหมื่นปีล่ะ?"จงซานสอบถาม.
ตี้เสวียนชาที่ยื่นมือออกมา บัววิญญาณโลหิตหมื่นปีปรากฎขึ้นที่ฝ่ามือ.
"ดวงวิญญาณได้รับบาดเจ็บ ข้าจะรักษาเซียนเซียนเอง!"ตี้เสวียนชาที่ก้าวออกไปด้านหน้าในทันที.
"ไม่ได้!"จงซานที่เอ่ยออกมาในทันที.
"เจ้าพูดอะไร?"แววตาของตี้เสวียนชาที่เบิกกว้าง เผยท่าทางโกรธเกรี้ยวจงซานที่ขัดขวางเขาในทันที.
เป่าเอ๋อข้าง ๆ ไม่ได้เอ่ยอะไร.
"เจ้ารับประกันได้หรือไม่ว่าจะไม่ทำร้ายเซียนเซียน? เจ้ารับประกันได้หรือไม่ว่านี่เป็นความคิดของเจ้าเอง?"จงซานที่กล่าวออกมาเสียงดังไม่ยินยอมเช่นกัน.
"ข้า ข้า............!”
ใบหน้าของตี้เสวียนชาที่เผยท่าทางเจ็บปวด เอ่ยข้าถึงสามครั้ง แต่ก็ยากจะบอกว่าเขาคือตัวเขา บางที กับเหตุการณ์ทีเกิดขึ้นที่ทวีปปฐพี น้ำตาสามสิบสองหยดที่ร่วงหล่นลงพื้น ที่จริงนั้นเป็นตี้ซือเทียนได้ทำลายมันจริง ๆ .
ในเวลานี้เขาจะประมาทได้อย่างไร หากเขาลงมือด้วยตัวเอง จะรับประกันได้อย่างไรว่าควบคุมความคิดของตัวเองได้.
หลานสาวตัวเอง หากแต่เขาไม่สามารถปกป้อง ตอนนี้ยังไม่มีคุณสมบัติที่จะรักษานางอย่างงั้นรึ?
จิตใจของตี้เสวียนชาที่เผยท่าทางเจ็บปวดอีกครั้ง เป็นความเจ็บปวดอย่างที่สุด ในเวลานี้ ตี้เสวียนชารู้สึกโกรธเกลียดเจตจำนงของตี้ซือเทียนในทันที.
ก่อนหน้านี้ ทั้งสองรวมเป็นหนึ่งเดียว ข้าเป็นเจ้า เจ้าเป็นข้า ไม่ได้มีความรู้สึกเกลียดชัง ทว่าในเวลานี้ ตี้เสวียนชาที่ราวกับว่ากลายเป็นเพียงเปลือก ที่รู้สึกเกลียดชังเจตจำนงของตี้ซือเทียนเป็นอย่างมาก.
จงซานที่นำบัวโลหิตหมื่นปีมาจากมือของตี้ซือเทียนเบา ๆ .
ตี้เสวียนชาที่ไม่ขัดขืน ทว่ามือของเขาอีกข้างที่กำแน่น เผยท่าทางเจ็บปวด.
ทว่าในเวลานี้ ใบหน้าของตี้เสวียนชาที่รู้สึกว่า มีน้ำตาไหลออกมาอีกครั้ง.
ใบหน้าที่ซีดขาดพร้อมกับน้ำตาที่อาบแก้ม ตี้เสวียนชาถอนหายใจก่อนที่จะกระโดดออกมาจากห้องโถง.
จากนั้นเขาก็บินออกไปยังพื้นที่ไกลออกไปพร้อมกับคำรามออกมาเสียงดังด้วยความเจ็บปวด!
"โฮกกกก ~~~~~~~~~~~~~~~~~~~!”
จงซานที่ไม่ได้หยุดเขา ทว่าส่งบัวโลหิตหมื่นปีให้กับเป่าเอ๋อ.
"ช่วยเซียนเซียน!"จงซานกล่าวออก.
"อืม!"
เป่าเอ๋อที่เริ่มช่วยเหลือเซียนเซียน ส่วนจงซานที่จ้องมองไปยังเซียนเซียนที่กำลังหลับและเอ่ยออกมาว่า "โปรดวางใจ วันหนึ่ง ข้าจะพาเจ้าไปพบกับปู่เจ้าแน่!"
จากนั้น จงซานก็ก้าวออกมาช้า ๆ .
ที่ด้านนอกห้องโถง เหล่าเสนาธิการที่จ้องมองไปยังท้องฟ้าที่ไกลออกไปด้วยท่าทางอัศจรรย์ใจ.
ได้ยินคำพูดดังกล่าวจากโหยวหลานมาก่อนแล้ว กับพลังของตี้เสวียนชา ในเวลานี้มาเห็นตี้เสวียนชาที่คำรามออกมา ห้วงมิติที่บิดเบี้ยว จะไม่ให้พวกเขาตกใจได้อย่างไร?
"ไม่ต้องทำอะไร ปกป้องที่นี่ให้ดี!"จงซานที่กล่าวกับทุกคน.
"รับทราบ!"
จงซานที่พยักหน้ารับ จากนั้นก็บินตรงไปยังยังพื้นที่ไกลออกไป ยังทิศทางของตี้เสวียนชาที่เผยท่าทางเจ็บปวด.
ตี้เสวียนชาที่บินไปยืนอยู่บนผืนทะเลพลางคำรามออกมาเสียงดัง เสียงคำรามที่เต็มไปด้วยความโกรธ ทำให้เกิดคลื่นใหญ่ยักษ์ พร้อมกับระเหยกลายเป็นไอ น้ำทะเลหายไปกว่าครึ่ง.
จงซานไม่ได้ตามไปใกล้ ทว่าเขาไปหยุดที่ยอดเขาแห่งหนึ่ง ก่อนที่จะนำซุ้มไม้ออกมา.
ภายในซ้อมไม้นั้นมีโต๊ะหินตั้งอยู่ จงซานที่นั่งอยู่บนเก้าอี้หิน พร้อมกับนำกาสุราออกมา ก่อนที่จะเริ่มรินออกมาใส่ถ้วยสุราสองใบ พร้อมกับรอคอยตี้เสวียนชา.
ตี้เสวียนชาที่คำรามลั่น ยืนอยู่บนผืนทะเล หมอกที่ฟุ้งกระจายไปทั่ว เขาที่หยุดนิ่งไม่เคลื่อนไหว.
"รู้สึกดีหรือยัง? หากรู้สึกดีแล้วก็เข้ามา!"จงซานที่เอ่ยออกมาเบา ๆ .
ตี้เสวียนชาที่ยืนนิ่งบนผืนทะเล ใบหน้าไร้ซึ่งอารมณ์ ก่อนที่จะหันหน้ากลับมามองจงซานที่ยอดเขา สูดหายใจลึก ก่อนที่จะก้าวเคลื่อนย้ายร่างมาปรากฎในซุ้มไม้ในชั่วพริบตา.
"สินค้าพิเศษของต้าเจิ้ง เสี่ยวหลางเหนียง เป็นสุราที่เซียนเซียนหมักด้วยตัวเอง ลองชิมดู!"จงซานที่ยื่นแก้วสุราให้ตี้เสวียนชา.