ตอนที่แล้วChapter 1199 เซอคงที่น่ารังเกียจ.
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 1201 ความอับอายขั้นสุด.

Chapter 1200 การแก้แค้นของสองพี่น้องเฟยเกอและจูกาน.


ทวีปจื่อลู่ทางเหนือ.

ที่ด้านนอกตำหนักไป่โหยว ชายในชุดสีน้ำเงิน ซา ที่ยืนอยู่บนลาน ทว่าใบหน้าที่ดูมืดมนปกปิด กำลังจ้องมองไปยังทิศใต้ จดจ้องมองอาณาเขตหนานจานปู่.

ซาที่ดูไร้อารมณ์ความรู้สึก ยืนไขว้แขวนไว้ด้านหลัง จ้องมองราวกับไม่กระพริบตา สายตาของเขาที่ราวกับว่าพบอะไรบางอย่างภายในอาณาเขตหนานจานปู่.

ท้ายที่สุดแล้ว ซาก็สูดหายใจลึก ถอนหายใจเบา ๆ  ราวกับว่ามีเรื่องที่ไม่น่ายินดีเกิดขึ้น.

ซาเงยหน้าพร้อมกับจ้องมองท้องฟ้า.

ท้องฟ้าบนตำหนักไป๋โหยว ปรากฎหมอกเมฆมากมายปกคลุม ที่ด้านในนั้นมีภาพเงาของดวงตาซ่อนอยู่.

ดวงตาที่จ้องมองซา ซาที่จ้องมองดวงตา ท้ายที่สุดซาก็ส่ายหน้าไปมา ก่อนที่จะหันหลังกลับเข้าไปในตำหนักไป่โหยว.

"ปัง!"

ประตูตำหนักไป่โหยวที่ปิดลง บนท้องฟ้าภาพเงาดวงตาก็หายไปในทันทีเช่นกัน.

ราวกับว่าไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้นมาก่อน.

-------------------------------------------------------------

อาณาเขตหนานจานปู่.

"หยวนซือ!"กุยเช่อที่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.

แม้นว่าจะอยู่ไกลออกมา อย่างไรก็ตามคำพูดของกุยเช่อนั้นก็มาถึงหูของหยวนซือ.

หยวนซือที่ก้าวออกไป จดจ้องมองกุยเช่อ.

"กุยเช่อ ดูเหมือนว่านี่จะเป็นค่ายกลสุสานที่ไท่อี้ได้ใช้ยอดฝีมือค่ายกลแปดล้านคนร่วมกันศึกษาในอดีต."หยวนซือเอ่ย

เหริ่นชุนที่ไม่ได้ตอบกลับ แม้นว่าในค่ายของไท่อี้นั้นสถานะของเขาจะไม่ได้ด้อยกว่ากุยเช่อ ทว่าเขาไม่รู้จักหยวนซือ ในเวลานี้ควรจะปล่อยให้กุยเช่อจัดการ.

สายตาของเหริ่นชุนที่จ้องมองไปยังฝ่ามือของหยวนซือ ตำหนักจื่อเซียว ดวงตาที่หรี่เล็กลง ใบหน้าของเหริ่นชุนที่กลายเป็นจริงจังขึ้นมา.

"เจ้าควรจะรู้ ตำหนักจื่อเซียวนั้นเป็นของราชันย์เทวะเทพ ทิ้งตำหนักจื่อเซียวเอาไว้ ข้าและพรรคพวกจะถือว่าไม่เคยเห็นเจ้า!"กุยเช่อกล่าวออกมาอย่างนุ่มนวล.

หยวนซือที่เผยยิ้มออกมเล็กน้อย รอยยิ้มนั้นราวกับว่า หาได้สนใจในคำพูดดังกล่าว.

ต่อหน้ากุยเช่อและเหริ่นชุน หยวนซือที่เก็บตำหนักจื่อเซียวช้า ๆ และนุ่มนวล ราวกับว่า การใช้ไท่อี้มาข่มขู่นั้น ไม่คู่ควร!

กุยเช่อและเหริ่นชุนที่เข้าใจในความหมายของหยวนซือได้ในทันที.

"ชิ!"เหริ่นชุนที่แค่นเสียงเย็นชา.

"มีปัญหารึ? นั่นศิษย์ของเจ้าอย่างงั้นรึ?"หยวนซือเอ่ย.

"นี่คือเหริ่นชุน ไม่ใช่ศิษย์ของข้า!"กุยเช่อตอบ.

"หยวนซือ ข้าขอเตือนเจ้าไม่ควรจะเอาตัวเองเข้ามาเสี่ยง ทิ้งตำหนักจื่อเซียวและชุนชิวไว้ ข้าจะปล่อยเจ้าไปอย่างปลอดภัย!"เหริ่นชุนที่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.

ตำราชุนชิวรึ? หยวนซือเผยใบหน้าที่เย็นชา ตำราชุนชิวอยู่ในมือจงซานแล้ว ทว่าหยวนซือก็ไม่มีอะไรต้องอธิบายด้วยความภาคภูมิของเขา จำเป็นต้องอธิบายอย่างงั้นรึ?

"จากไปอย่างปลอดภัย? เจ้าสามารถขวางทางข้าได้อย่างงั้นรึ?"หยวนซือแค่นเสียงดูแคลน.

"ต้องการจะลองอย่างงั้นรึ?"เหริ่นชุนที่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.

กุยเช่อและหยวนซือที่ต่อรองกัน หากแต่เหริ่นชุนที่เอ่ยออกมาไม่ได้สนใจกุยเช่อจะออกความเห็นใด แม้นว่าพลังฝึกตนของเหริ่นชุนจะน้อยกว่า ทว่าในค่ายของไท่อี้แล้ว ดูเหมือนกุยเช่อจะมีสถานะที่เหนือกว่า.

กับท่าทางของเหริ่นชุนทำให้หยวนซือประหลาดใจเล็กน้อย เซียนโบราณ คาดไม่ถึงเลยว่าจะอหังการถึงขนาดนี้.

ในเมื่อเหริ่นชุนไม่ใช่ศิษย์ของกุยเช่อ หยวนซือย่อมไม่ประเมินเขาต่ำ นอกจากนี้ ทั้งสองคนดูเหมือนว่าจะเป็นเหริ่นชุนเป็นผู้นำ เซียนโบราณ? ไม่คิดเหมือนกันว่าเซียนโบราณจะกล้าพูดเช่นนี้กับเซียนบรรพชน.

"ลองดู? ก็ลองดูสิ ลำพังเจ้านะรึ?"หยวนซือแค่นเสียงดูแคลน.

แม้นว่าหยวนซือจะยังไม่กลับมาอยู่ในจุดสูงสุด ทว่าด้วยความภาคภูมิของเขาไม่มีทางที่จะยอมจำนนต่อเซียนโบราณแน่นอน.

"กุยเช่อ ผสาน!"ดวงตาของเหริ่นชุนที่เบิกกว้าง.

ระหว่างที่กล่าวนั้น เหริ่นชุนที่นำธวัชสีแดงออกมา พร้อมกับสะบัดออกไป ปรากฎพายุที่รุนแรงขึ้น พร้อมกันนี้ปรากฎเสียงมังกรคำรามดังขึ้นจากทั่วทุกสารทิศ.

"โฮกก ~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~!”

"โฮกก ~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~!”

....................................

..................

......

หนึ่งร้อยมังกรคำราม พื้นที่รอบ ๆ ที่ราวกับหลอมละลายและรวมตัวกันขึ้นมา.

บนพื้นดิน ภูเขาที่กลายเป็นมังกร ล้อมรอบหยวนซือ เสียงมังกรที่ดังสนั่นหวั่นไหว.

ในเวลานั้น พื้นที่รอบ ๆ หยวนซือมีพลังงานสีเหลือง ที่ผนึกรอบทิศ พลังที่แข็งแกร่งที่ระเบิดออกมา.

ใบหน้าของหยวนซือเปลี่ยนไปเล็กน้อย ในเวลานั้นเขานำธวัชหยวนซือออกมาพร้อมกับปลดปล่อยปราณกระบี่ฮุ่นตุ้นต้านทานพลังดังกล่าวเอาไว้.

ภูเขามากมายที่กลายเป็นมังกร มากขึ้นและก็มากขึ้น พริบตาเดียวก็กลายเป็นมังกรปฐพีนับร้อยแล้ว.

"ใช้พลังของเส้นโลหิตปฐพี เจ้าเป็นคนวางค่ายกลอย่างงั้นรึ?"แววตาของหยวนซือที่สั่นไหว.

ที่ไกลออกไปนั้น ร่างกายของเหริ่นชุนที่ปรากฎเป็นควันสีเหลืองปกคลุม กุยเชอที่วางมือไปที่บนไหล่ของเหริ่นชุน พร้อมกับแผ่พลังมากมายมหาศาลที่แผ่กระจายไปทั่วร่างของอีกฝ่าย ด้วยพลังของคนทั้งสองพลังมากมายที่ระเบิดออกมาอย่างรุนแรงแม้แต่เศษหินดินทรายต่างก็ลอยละล่องขณะที่พวกเขาทั้งสองจดจ้องมองไปยังหยวนซือเทียนจุ้น.

"ย๊ากก!"

หยวนซือที่คำรามลั่น ปลดปล่อยพลังมหาศาลออกมา จนทำให้พื้นที่รอบ ๆ สั่นไปมาเล็กน้อย.

"ไร้ประโยชน์หยวนซือ เพียงแค่กุยเช่อออกไปต่อสู้กับเจ้า เจ้าก็ไปใหนไม่ได้แล้ว ทว่ายิ่งมีค่ายกลอีกด้วยก็ยิ่งไม่มีทาง ข้าจะถามเจ้าอีกครั้ง ส่งตำหนักจื่อเซียวและตำราชุนชิวคืนมา ไม่เช่นนั้นแล้ววันนี้เจ้าได้ร่วงหล่นจากสวรรค์แน่นอน!"เหริ่นชุนที่กล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นชา.

"ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!"หยวนซือหัวเราะเสียงดัง แววตาที่มีเส้นสีแดงผุดขึ้นมาด้วย.

หยวนซือต้องรู้สึกหวาดกลัวเซียนโบราณอย่างงั้นรึ? ข่มขู่รึ? ใต้สวรรค์แห่งนี้ยกเว้นหงจวินแล้ว ไม่เคยมีใครสามารถข่มขู่เขาได้.

"ตูมมมมม!"

พลังมากมายที่เพิ่มขึ้นในทันที.

ร่างของหยวนซือที่ราวกับถูกจุดระเบิด ดวงตาที่มีเพลิงแห่งการต่อสู้ที่ลุกโชน จดจ้องมองไปยังเหริ่นชุนและกุยเช่อที่อยู่ไกลออกไป.

พลังของค่ายกลแล้วอย่างไร? หยวนซือหาได้หวาดกลัว!

"เข้ามา!"หยวนซือแค่นเสียงเย็นชา.

แรงกดดันที่มหาศาลที่แผ่ออกไป หยวนซือที่ไม่มีแววว่าจะยินยอมแม้แต่น้อย จดจ้องมองเหริ่นชุนและกุยเช่อ.

"พลังอะไรของเจ้าก็ไร้ประโยชน์ เรื่องนี้ แม้แต่ปราชญ์เทพยังไม่สามารถต้านได้ เพียงแค่เจ้ามีรอยแผลหรือบาดเจ็บ จะถูกค่ายกลดูดซับ ข้าจะคอยดูว่าเจ้าจะต้านได้นานเท่าใด!"เหริ่นชุนที่แค่นเสียงเย็นชา.

"วูซซซ!"

ร่างกุยเช่อ เหริ่นชุนที่เพิ่มพลังขึ้นเรื่อย ๆ .

ทันใดนั้น พื้นที่รอบ ๆ ที่เหมือนกับเกิดพายุขึ้น มังกรภูเขา 300 เข้าล้อมหน้าล้อมหลังหยวนซือ พลังอำนาจของค่ายกลนั้นทรงพลังไม่ธรรมดา ปิดกั้นคลุมร่างของหยวนซือเอาไว้ตรงกลาง กลายเป็นม่านพลังที่แข็งแกร่งยากที่จะทะลวงออกมาได้.

ร่างของหยวนซือ ในเวลานี้ผิวกายทั้งหมดได้กลายเป็นสีแดง ทว่าหยวนซือยังคงดื้อรั้นกล่าวออกมาเสียงแข็ง "เข้ามา!"

ที่ไกลออกไป เหริ่นชุนและกุยเชอใบหน้าเปลี่ยนเป็นซับซ้อน.

"เหริ่นชุน หยวนซือต้องการทำอะไร?"กุยเช่อที่เอ่ยออกมาด้วยท่าทางไม่เข้าใจ.

"ชิ ทำอะไร? เขาต้องการจะเผาค่ายกลของเรา ฝันไปเถอะ!"เหริ่นชุนที่แค่นเสียงเย็นชา.

"เผาค่ายกลอย่างงั้นรึ?"ใบหน้าของกุยเช่อที่เผยท่าทางแปลกประหลาด.

"ชิ ค่ายกลที่ปกคลุมอาณาเขตหนานจานปู่ เพราะก่อนหน้านี้ราชันย์เทวะเทพได้นำพลังไปใช้จึงเหลือพลังไม่มาก  ทว่าการจะจัดการหยวนซือแค่นี้ก็เพียงพอ ใช้พลัง? ใช้พลังของเจ้า กุยเช่อช่วยข้า ช่วยข้าสังหารหยวนซือ!"เหริ่นชุนกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นชา.

"ตกลง!"กุยเช่อที่พยักหน้ารับพร้อมกับกระตุ้นค่ายกลในทันที.

คนทั้งสองที่ยื่นนิ่งเป็นเหมือนกับไม้แกะสลักในทันทีไม่สามารถขยับได้แม้แต่น้อย พวกเขากระตุ้นค่ายกลเต็มกำลังเพื่อจัดการหยวนซือ.

ที่ไกลออกไป หยวนซือที่เป็นเหมือนกับหุ่นไม้เช่นกัน ทว่าร่างกายของเขาที่บิดเบี้ยวขยายออกมา ผิวที่มีสีแดงไปทั่วร่าง.

"เข้ามา!"หยวนซือที่กล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นชา.

"โฮกกก ~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~!”

พลังของค่ายกลที่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ  พร้อมกับบดขยี้อัดไปยังร่างของหยวนซือ.

หยวนซือที่ต้องการเผาค่ายกล เหริ่นชุนเองก็ต้องการใช้ค่ายกลสังหารหยวนซือ ทั้งสองฝ่ายที่ไม่จำเป็นต้องเข้าปะทะกัน ทว่าในเวลานี้ก็ถือว่าอยู่ในภาวะที่เสี่ยงอันตรายเป็นอย่างมาก.

อีกฝั่งหนึ่ง คงจะไม่มีใครคาดคิด ร่างสองร่างที่มาจากแดนไกล.

"เฟยเกอ ข้าบินต่อไปไม่ไหวแล้ว!"ชายร่างผอมจูกานที่เอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงอ่อนแรง.

"บินต่อไป เจ้าไม่ต้องการเห็นน้องสาวข้าแล้วรึ?"เฟยเกอที่กล่าวออกมาเสียงดัง.

"แต่ว่าข้าบินไม่ไหวจริง ๆ  สัมผัสลูกแก้วก็หายไปแล้ว ข้าไม่สามารถสัมผัสมันได้แล้ว ไม่สามารถหามันเจอได้แล้ว บางทีคงมีคนอื่นนำมันไปแล้ว!"จูกานที่เอ่ยออกมาด้วยความเหนื่อยล้า.

ทั้งสองที่ยืนอยู่บนกระบี่เหิน เดินทางมาไม่หยุดจนใกล้หมดแรงแล้ว แม้แต่ความเร็วกลายเป็นช้ายิ่งกว่าช้า.

"ไม่ได้ ข้าต้องไปดู ในท้องของพี่สาวเจ้ามีลูกชายของข้า เจ้าไม่ต้องการไปดูอย่างงั้นรึ? เจ้าไม่ต้องการจะพบกับพี่สาวของเจ้าตลอดชีวิตอย่างงั้นรึ?"เฟยเกอที่กัดฟันขณะกล่าว.

จูกานที่ดวงตาแดงซาน กัดฟันแน่น "เห็น ข้าต้องเห็น พี่สาวของข้ากำลังรออยู่ ข้าสาบานแล้วจะให้นางได้อยู่ดีกินดี ข้าต้องการ!"

คิดถึงวันที่ยากลำบากที่เคยเผชิญกับพี่สาม จูกานที่แรงหมดไปไม่มีเหลือ ทว่าด้วยความต้องการช่วยพี่สาว ต้องการทำให้นางอยู่ดีกินดี.

"ต้องเห็น เร็วเข้า พวกเราจะต้องไปหาเจ้าบัดซบสองคนนั้น แย่งลูกแก้วกลับมา!"จูกานที่กล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงดุร้าย.

"ดี!"

ทั้งสองที่เร่งรีบเพิ่มความเร็วขึ้นในทันที.

พวกเขาที่บินตรงไปยังทิศทางที่เกิดพายุ สถานที่มีมังกรกำลังคำราม.

ทั้งคู่ที่ตกใจเล็กน้อย แม้นว่าจะรู้สึกหวาดกลัว สัญชาตญาณต้องการหลบหนี หากแต่คิดถึงครอบครัวของตัวเอง พวกเขาที่กัดฟันก่อนที่จะพุ่งเข้าไปในพายุ.

พวกเขาที่พุ่งเข้าไปด้านใน บุกฝ่าเข้าไปไม่กล้าเปลี่ยนทิศทาง.

"เฟยเกอ นั่นมัน พวกมัน เจ้าสารเลวทั้งสองคน!"จูกานที่เผยท่าทางดีใจประหลาดใจออกมา.

"จริง ๆ  เป็นเจ้าคนสารเลวจริง ๆ !"เฟยเกอที่เอ่ยออกมาอย่างไม่อยากเชื่อ.

"เฟยเกอ ท่านตบหน้าข้าสิ ตอบหน้าข้ามันคือเรื่องจริง!"เฟยเกอเอ่ยออกมา เห็นชัดเจนว่าเรื่องนี้น่าเหลือเชื่อมาก.

"เพลี๊ยะ!”

"เฟยเกอ ทำไมถึงได้ลงมือหนักนักเล่า!"จูกานที่พ่นโลหิต.

หากแต่ไม่ได้โกรธเกรี้ยวแต่อย่างใด ซ้ำยังเผยความตื่นเต้นด้วยซ้ำ เพราะความตื่นเต้นนี้ แปลว่าสวรรค์ไม่ได้ทิ้งพวกเขา.

"จริง เป็นความจริง!"เฟยเกอที่จ้องมองฝ่ามือของตัวเองที่รู้สึกเจ็บเผยท่าทางตื่นเต้นออกมา.

"เฟยเกอ พวกเรารีบไป!"จูกานเอ่ยออกมาเสียงดัง.

"ไม่ได้ ก่อนหน้านี้เจ้าก็เห็น พวกมันแข็งแกร่งมาก พวกเราเอาชนะพวกมันไม่ได้!"เฟยเกอส่ายหน้าไปมา.

"แล้วพวกเราจะทำอย่างไร?"

"เจ้าเห็นพวกมันทั้งสอง อยู่ในพายุ ผู้ชายสองคนกอดกันอยู่ในที่เดียวกัน พวกมันจะต้องมีปัญหาบางอยู่อย่างแน่นอน!"เฟยเกอเอ่ย.

"ปัญหาอะไร?"

"เจ้าไม่เห็นรึ?"

"เฟยเกอ ท่านจะบอกกว่าพวกมันกำลังทำเรื่องอะไรบางอย่างอยู่อย่างงั้นรึ? แต่ว่า พวกมันเป็นผู้ชายทั้งสองคน!"จูกานที่เผยท่าทางระมัดระวัง.

"จะจัดการพวกมัน ตอนนี้จะต้องมั่นใจก่อนว่าพวกมันไม่สนพวกเรา พวกเราจะต้องระมัดระวังพวกมันเอาไว้."เฟยเกอกล่าว.

"ดี! ข้าฟังท่าน เฟยเกอ!"จูกานเอ่ย.

จากนั้น จูกานที่นำพลั่วขนาดเล็กออกมา.

พลั่วที่ขยายขนาดออกมา ดวงตาของทั้งคู่ที่เผยท่าทางตื่นเต้น บินไปยังเชิงเขาที่คนทั้งสองอยู่ เคลื่อนเข้าไปช้า ๆ .

เหริ่นชุนและกุยเช่อที่กำลังติดพันกับหยวนซืออยู่ จึงไม่รู้ว่าคนทั้งสองได้มาถึงแล้ว.

ร่างของหยวนซือที่ขยายใหญ่ขึ้น แม้แต่ผิวกายของตัวเองเริ่มแตกเป็นลาย หยวนซือที่จดจ้องมองไปยังยอดเขาที่อยู่ไกลออกไป.

ในทันที หยวนซือที่เผยท่าทางแปลกประหลาด.

เหริ่นชุนและกุยเชอ ทั้งคู่ที่กระตุ้นค่ายกลเต็มกำลัง ทำให้พวกเขาเวลานี้ไม่รู้ว่ามีคนสองคนที่ปรากฎขึ้น คนทั้งสองที่จ้องมองกุยเช่อ หนึ่งในนั้นกำลังถืออะไรบางอย่าง? มันคืออะไร?

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด