ตอนที่แล้วChapter 1198 ความซวยที่กระหน่ำเซอคง.
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 1200 การแก้แค้นของสองพี่น้องเฟยเกอและจูกาน.

Chapter 1199 เซอคงที่น่ารังเกียจ.


ก่อนหน้านี้ มือซ้ายถืออุปกรณ์ปราชญ์เทพตำราชุนชิว มือขวาถืออุปกรณ์ปราชญ์เทพธวัชหยวนซือ ในอกเสื้อมีลูกแก้วตำหนักจื่อเซียวอีก และยังมีพลังของบุคคลอันดับหนึ่งของโลกหล้า กล่าวได้ว่านี่คือจุดสูงสุดของชีวิตเซอคงแล้ว เป็นจุดสูงสุดที่สมบูรณ์แบบ ไร้เทียมทาน.

แทบจะทันทีที่ สูญเสียตำราชุนชิว พลังของบุคคลอันดับหนึ่งไม่มี ร่างกายถูกตัด หลังจากนั้นโลหิตที่ไหลกระฉูดเสียหายไปไม่น้อย ทว่าในเวลานี้ธวัชหยวนซือยังไม่เชื่อฟังเขาอีก?

กับความเสียใจอย่างสุดซึ้งทันใดนั้นก็นึกถึงแสงสีน้ำเงินของจงซาน เป็นเพราะตัวเขาไปหาเรื่องจงซานอย่างงั้นรึ? ทักษะเทวะที่ได้เตือนเขาไว้แล้ว คาดไม่ถึงเลยว่าตัวเองจะไม่เชื่อ ทำให้ตัวเขาต้องได้รับความโชคร้ายเช่นนี้!

เซอคงทำได้แค่เสียใจอย่างสุดซึ้ง จ้องมองไปยังธวัชหยวนซือ.

"ปัง!"

ในเวลานั้นธวัชหยวนซือที่ปลดปล่อยปราณกระบี่ฮุ่นตุ้นออกมา พุ่งตรงไปมายังเซอคง.

เซอคงที่รับรู้ได้ในทันที ธวัชหยวนซือที่ตัดสัมพันธ์กับเขาไปในทันที.

"อ๊ากก!"

เซอคงที่ร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด เขาที่ใช้เวลาหลอมประสานมาหลายร้อยปี จิตใจเขาและธวัชหยวนซือเชื่อมต่อกัน ทว่าในพริบตาเดียวเท่านั้น ธวัชหยวนซือกลับปลดปล่อยปราณกระบี่ออกมา ตัดสัมพันธ์กับเขาทันที.

ด้วยการเชื่อมต่อกับจิตใจ ทำให้เขาได้รับแรงสะท้อนอย่างหนักหน่วง จนต้องรองออกมา ใบหน้าขาวซีด.

"เป็นไปไม่ได้ เป็นไปไม่ได้!"เซอคงที่คำรามออกมาเสียงดัง.

เกิดเรื่องแปลกประหลาดเช่นนี้ได้อย่างไร เขาจะซวยเกินไปแล้ว นี่ข้าทำอะไรผิดพลาดกัน.

เซอคงที่พยายามที่จะกุมธวัชหยวนซือเอาไว้.

"วูซซซซ ~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~!”

กลิ่นอายของธวัชหยวนซือที่รุนแรงราวกับจะกัดกร่อนจิตใจ ราวกับว่าที่ด้านในนั้นมีอสุรกายไร้คู่เปรียบอยู่ ปราณที่น่าสะพรึงกลัวนี้ ราวกับพายุทอร์นาโดที่ระเบิดออกมาในทันที.

แรงกดดันวิญญาณที่ทรงพลังหนักหน่วงรุนแรงนี้ กำลังสั่นคลอนหัวใจของเซอคง จนทำให้เขาแทบไม่สามารถขยับร่างได้.

เขาที่ได้รับบาดเจ็บอยู่แล้ว เวลานี้ไม่สามารถขยับได้ และจิตใจยังได้รับความเสียหายอีก แรงกดดันนี้ยิ่งทำให้เซอคงได้รับบาดเจ็บเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ.

เซอคงไม่สามารถขยับได้ ภายในใจที่เต็มไปด้วยความโศกเศร้า "สวรรค์ มันบัดซบอันใดกัน ทำไมถึงเป็นเช่นนี้?"

ธวัชหยวนซือ สามารถทำงานได้ด้วยตัวเองอย่างงั้นรึ? ทำไมข้าไม่เคยเห็นมาก่อน? เซอคงไม่อยากเชื่อจดจ้องมองไปยังธวัชหยวนซือ.

ธวัชหยวนซือที่ค่อย ๆ ลอยขึ้นไปบนอากาศ พื้นที่รอบ ๆ  ปราณหยวนฟ้าดินที่มารวมตัวกัน.

ปราณหยวนฟ้าดินที่มากขึ้นและก็มากขึ้น ถูกรวมดูดซับมาโดยธวัชหยวนซือทำให้พื้นที่รอบ ๆ ถึงกับมืดลง.

สายลมและเมฆที่บิดเบี้ยว สวรรค์ที่ดังกระหึ่ม พายุทรายที่พัดโบก ปราณกระบี่ฮุ่นตุ้นที่กำลังรวมตัวกันมากขึ้นและก็มากขึ้น.

หลังจากที่ธวัชหยวนซือดูดซับปราณหยวนฟ้าดิน มากมาย จนกลายเป็นลูกบอลแสงสีขาวที่หมุนวนครอบมันอยู่ด้านใน.

บอลแสงสีขาวที่กำลังดูดซับปราณหยวนฟ้าดินอย่างบ้าคลั่ง.

มากขึ้นและก็มากขึ้น บอลแสงสีขาวเองก็ใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ  จากนั้น ก็ขยายใหญ่ จากขนาดเล็กก็ใหญ่โตขึ้นเรื่อย ๆ .

ในเวลานี้ แรงกดดันวิญญาณที่มากขึ้นเรื่อย ๆ  เซอคงที่ต้องการหนีไป ทว่าถูกกดติดพื้น ไม่สามารถขยับได้ ทำได้แค่จ้องมองธวัชหยวนซือ.

ธวัชจิตวิญญาณ? เรื่องนี้มัน เป็นไปไม่ได้?

"ตูมมม ~~~~~~~~~~~~~~~~~~!”

การดูดซับที่บ้าคลั่ง ทำให้หวงมิติเวลานี้มืดลงไป พื้นดินรอบ ๆ กลายเป็นทะเลทราย พืชพรรณต้นไม้ใบหน้าแห้งเหี่ยวตายไปหมด ปราณหยวนฟ้าดินที่ถูกดูดซับไปจนหมด.

ท้ายที่สุดก็หยุดดูดซับไปในที่สุด.

ธวัชหยวนซือที่หยุดอยู่กลางอากาศ ปรากฎร่าง ๆ หนึ่งที่อยู่ในบอลแสงสีขาว คนผู้หนึ่งที่สวมชุดสีขาว.

แสงสีขาวที่ดูดซับมาทั้งหมดถูกส่งเข้าไปในร่างกายของเขา

บุรุษผู้หนึ่งในชุดสีขาว.

ชายในชุดสีขาวที่หลับตาแน่น ราวกับว่ากำลังดื่มด่ำกับพลังฟ้าดิน กลิ่นอายที่น่าเกรงขามถูกส่งออกมาจากร่างกายของเขา.

ร่างบุรุษที่ดูยอดเยี่ยม ใบหน้าที่มีมงกุฎหยก สวมชุดพรตเต๋าสีขาว ดูสะอาดผุดผ่อง แขนทั้งสองข้างที่ดูประณีต ราวกับหยกสลัก รูปร่างที่สมส่วนสมบูรณ์ราวกับงานศิลปะ.

ทว่า ทันทีที่เห็นคนผู้นี้ ร่างกายของเซอคงที่สั่นไหวไปมา ขนทั่วร่างทีลุกตั้งชัน หนังหัวที่ชาหนึบ.

บุรุษชุดชาวที่ค่อย ๆ ลืมตาขึ้นช้า ๆ  เซอคงที่สัมผัสได้ถึงปราณที่สูงศักดิ์ ลำแสงที่แผ่ออกมา ราวกับว่าจะชำระล้างโลก.

มือของเขาที่ยื่นออกไป ชายชุดสีขาวที่กุมธวัชหยวนซือมาไว้ในมือ.

แววตาที่นุ่มนวลจับจ้องมองไปยังเซอคง ใบหน้าที่ไม่ได้เศร้าใจหรือดีใจ ราวกับรับรู้ตัวตนของเซอคงอยู่แล้ว.

มือของเขาที่ยื่นออกไปทำท่าคล้ายคว้าจับ ลูกแก้วในอกเสื้อเซอคง ตำหนักจื่อเซียวก็ลอยออกมาไปอยู่ในมือของชายชุดขาว ราวกับว่ารับรู้ทุกอย่างที่เกิดขึ้น.

ทว่าในเวลานั้น แรงกดดันวิญญาณที่ค่อย ๆ หายไป เพราะชายในชุดสีขาวได้เก็บมันคืนไปแล้ว.

"เสี่ยวเหรินเซอคง คารวะ หยวนซือเทียนจุ้น!"เซอคงที่กล่าวออกมาเสียงสั่นด้วยความหวาดกลัว.

พริบตาเดียวที่เห็นชายในชุดสีขาว เซอคงก็เข้าใจทุกอย่าง.

หยวนซือเทียนจุ้น เขาคือเจ้าของธวัชหยวนซือ? ในอดีตได้ร่วงหล่นจากสวรรค์ไปแล้ว ทว่าเขากลับฝังร่างเอาไว้ในธวัชหยวนซือ รอคอยโอกาสคืนชีพ นอกจากนี้ ดูเหมือนว่าหยวนซือเทียนจุ้นจะฟื้นคืนชีพออกมาจากธวัชหยวนซือ ไม่รู้ว่าใช้ความสามารถใด.

เกี่ยวข้องกับพลังของหงจวินหรือไม่ ที่ทำให้หยวนซือเทียนจุ้นฟื้นคืนชีพในคราวนี้.

อดีตปราชญ์เทพรุ่นเก่า หยวนซือเทียนจุ้น?

ได้ยินข่าวลือมาว่า ปราชญ์เทพหงจวินที่เป็นบุคคลอันดับหนึ่ง ทว่านอกเหนือจากหงจวินแล้ว ปราชญ์เทพคนอื่น ๆ ที่วางแผนกลายเป็นลำดับหนึ่งด้วยเช่นกัน หนึ่งในนั้นก็คือหยวนซือเทียนจุ้น.

เซอคงที่ตัวสั่นคลานไปกับพื้น ใบหน้าที่แดงท่าทางเคารพ แต่ภายในใจได้แต่โอดครวญห่อเหี่ยว "ทำไมข้าถึงได้ซวยขนาดนี้!"

ชายในชุดสีขาวที่ได้ยินเซอคงเรียกตัวเองว่า หยวนซือเทียนจุ้น ก็คิดอะไรบางอย่างเล็กน้อย และจ้องมองไปยังตำหนักจื่อเซียวในมือ เห็นชัดเจนว่าเขายอมรับนามดังกล่าว เขาก็คืออดีตปราชญ์เทพรุ่นก่อน หยวนซือเทียนจุ้น.

"เทียนจุ้น ตั้งแต่เด็กผู้น้อยก็ได้ยินชื่อเสียงที่เกรียงไกรนี้ เสี่ยวเหรินเต็มไปด้วยความเคารพอย่างที่สุด หวังว่าจะได้มีโอกาสพบตั้งแต่เมื่อแปดแสนปีที่แล้ว วันนี้ได้เห็นเทียนจุ้นตัวจริง เสี่ยวเหรินดีใจยิ่งนัก ธวัชดังกล่าวนั้นอยู่กับเสี่ยวเหรินมาตั้งนาน ด้วยพลังของเสี่ยวเหริน ไม่สามารถใช้พลังที่แท้จริงออกมาได้ เสี่ยวเหรินไม่แม้แต่ใช้งานมันได้ ภายในใจรู้สึกละอายใจนัก ตอนนี้ยอดเยี่ยมยิ่งนัก มันได้กลับคืนสู่เจ้าของอันชอบธรรมแล้ว มีเพียงแค่เทียนจุ้นเท่านั้นที่เหมาะสม เสี่ยวเหรินยินดีเป็นอย่างยิ่ง."เซอคงที่กล่าวยกยออย่างที่สุด.

หยวนซือเทียนจุ้นที่ไม่สนใจเขาแม้แต่น้อย ทำให้เซอคงไม่กล้าเคลื่อนไหว หยวนซือเทียนจุ้นที่จ้องมองแต่ตำหนักจื่อเซียว เซอคงที่รับรู้ดี หากเขาเคลื่อนไหวล่ะก็ เพียงแค่สะบัดฝ่ามือ ตัวเขาคงตกตายอย่างแน่นอน.

"ตำหนักจื่อเซียว แม้นว่าเสี่ยวเหรินจะได้มาอย่างยากลำบาก ทว่าก็ไม่สามารถใช้มันได้เช่นกัน มีเพียงแค่เทียนจุ้นเท่านั้นที่เหมาะสม เสียวเหรินขอมอบให้เป็นมิตรภาพ คนที่มีคุณสมบัติเช่นเทียนจุ้น เสี่ยวเหรินยินดียิ่งนัก โปรดรับไว้ ไม่เช่นนั้นเสี่ยวเหรินจะขอคุกเข่าไม่ยอมลุก!"เซอคงที่กล่าวออกมาด้วยความเคารพ.

เซอคงที่ยังคงนอนราบอยู่บนพื้น กล่าวยกยอฝ่ายตรงขามอย่างที่สุด.

หยวนซือเทียนจุ้นที่ค่อย ๆ จ้องมองเซอคงด้วยความรังเกียจ พร้อมกับเบ้ปากเล็กน้อย "นิสัยของเจ้าไม่ต่างจากปุถุชน ข้ารับรู้ถึงความแค้นของเจ้าและจงซาน ข้ารับรู้แล้ว โปรดวางใจ ข้าจะส่งจงซานไปอยู่ร่วมกับเจ้าเอง!"

ได้ยินคำพูดของหยวนซือเทียนจุ้น ร่างกายของเซอคงที่สั่นไหวด้วยความกลัวขึ้นมาทันที.

"เทียนจุ้น เสี่ยวเหรินไม่ต่างจากโคลนตม ไม่คู่ควรแม้แต่ให้ถูกสังหารด้วยซ้ำ อย่าให้สิ่งสกปรกชิ้นนี้เปื้อนมือท่านเลย ชื่อเสียงของท่านช่างเจิดจรัสยิ่งใหญ่ เพิ่งจุติกลับมา วันนี้ควรจะเป็นวันดี อย่าทำให้วันนี้มีแต่เรื่องอัปมงคลให้แปดเปื้อนเทียนจุ้นเลย.... ไม่ ๆ  เสียวเหรินไม่อยากตาย จะให้เสี่ยวเหรินเป็นวัวเป็นม้าให้กับเทียนจุ้น......!"เซอคงที่ร้องขอความเมตตาอย่างไม่ละอายแม้แต่น้อย.

หยวนจื่อเทียนจุ้นที่จ้องมองเซอคง ใบหน้าที่ไม่ขยับ แต่กับกระตุกสองทีกับคำพูดของเซอคง.

น่ารังเกียจ ช่างเป็นคนที่น่ารังเกียจยิ่งนัก ก่อนหน้านี้ไม่คิดเลยว่าจะเป็นคนที่น่ารังเกียจมากมายขนาดนี้ เซอคงผู้นี้ ไม่ต่างจากตัวเสนียดจัญไร.

ในเวลานี้ หยวนซือรู้สึกรังเกียจยิ่งนัก ความเย็นชาที่สาดกระจาย หยวนซือที่ไม่คิดว่าคนผู้นี้จะน่ารังเกียจขนาดนี้ เพื่อที่จะให้ตัวเองมีชีวิตรอด ถึงกับร้องขอความเมตตาอย่างไร้ซึ่งศักดิ์ศรีออกมารึ?

ทว่าขณะที่หยวนซือเทียนจุ้นกำลังจะลงมือ ที่ไกลออกไป ปรากฎกลิ่นอายที่ทรงพลังกวาดม้วนมาทันที.

กลิ่นอายที่ทรงพลังน่าเกรงขามที่มาจากที่ไกลออกไป หยวนซือเทียนจุ้นที่ดวงตาหรี่เล็กลง.

สายตาที่อาบไปด้วยความเย็นชาที่จ้องมองไปยังพื้นที่ไกลออกไป.

"วูซซซซ!"

ยอดฝีมือที่ราวกับสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของหยวนซือ จึงได้หยุดลงที่ยอดเขาแห่งหนึ่ง.

"ตำหนักจื่อเซียว อยู่ที่นั่น!"

ยอดฝีมือสองคน หนึ่งคนที่สวมชุดสีเหลืองยืนอยู่บนร่างวิหคสิบหัวขาดหนึ่งหัว ตอนนี้เหลือแค่เก้าหัวก่อนที่จะค่อย ๆ กลายเป็นร่างมนุษย์ ร่อนลงอยู่ข้าง ๆ ชายในชุดสีเหลืองหยุดอยู่ที่ยอดเขา ขณะที่พูดคุยกัน.

เป็นอสุรเทวะกุยเชอและเหริ่นชุนที่เร่งรีบเดินทางมานั่นเอง.

กลิ่นอายที่ทรงพลังของหยวนซือ กุยเช่อย่อมสัมผัสได้.

กุยเช่อนั้นเป็นอสูรเทวะในยุคของไท่อี้ ถือเป็นหนึ่งในบุคคลที่มีชื่อเสียงที่ไม่ได้ด้อยไปกว่าอีกฝ่าย แน่นอนว่าเขาย่อมรับรู้เรื่องราวหยวนซือเทียนจุ้นอย่างแน่นอน อย่างไรก็ตามหากมีตำแหน่งปราชญ์เทพอยู่ กุยเชอย่อมไม่กล้าท้าทายหยวนซือแน่ ทว่าเวลานี้เขาเป็นเพียงเซียนบรรพชน ส่วนเขาที่เป็นเซียนบรรพชนที่แข็งแกร่งกว่า การจะต่อกรกับหยวนซือก็ไม่ใช่เรื่องที่ยากนัก.

"ตูมมม ~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~!”

เซอคงที่ราวกับว่ารอคอยโอกาสอยู่ ร่างกายของเขาที่เปลี่ยนไปในทันที กลายเป็นใส้เดือนยักษ์ พร้อมกับหนี มุดลงพื้นดินทันที.

"ชิ!”

หยวนซือแค่นเสียงเย็นชา ก่อนที่จะสะบัดฝ่ามือออกไป.

"ซี่!"

ใส้เดือนยักษ์ที่ถูกตัดออกเป็นสองท่อน หากแต่ครึ่งหนึ่งที่สามารถมุดจมลงไปใต้พื้นได้ เขาที่ไม่กล้าหันกลับมาแม้แต่น้อย เร่งรีบดำดินอย่างบ้าคลั่ง.

เซอคงที่พาร่างครึ่งหนึ่ง หนีตายอย่างบ้าคลั่ง วันนี้ทำไมถึงได้ซวยมากมายขนาดนี้กัน!

ตำราชุนชิวถูกแย่งชิง ธวัชหยวนซือก็ถูกแย่ง ตำหนักจื่อเซียวอีกอัน พลังของหงจวินก็เป็นของปลอม ร่างกายของเขาถูกจงซานตัดไปครึ่งหนึ่ง ยังไม่หายดีด้วยซ้ำ เวลานี้ถูกหยวนซือตัดอีกครึ่งหนึ่ง เขากำลังหนีตายด้วยร่างครึ่งหนึ่งดำลงมาใต้ดิน ช่างโชคร้ายยิ่งนัก!

อย่างไรก็ตาม หยวนซือที่ไม่สนใจไล่ตามเซอคง  ทำให้เซอคงหนีไปได้.

กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด อารมณ์ของเซอคงที่ยุ่งเหยิงเต็มไปหมด แม้แต่เต็มไปด้วยความเศร้า เสียใจ หัวใจเจ็บปวดโลหิตแทบไหลออกมาไม่หยุด.

บนพื้น อีกร่างของเซอคงที่กำลังส่ายไปมา จนเรี่ยวแรงค่อย ๆ สลายหายไป.

หยวนซือที่ไม่สนใจใส้เดือนดินที่น่ารังเกียจอีกต่อไป สายตาของเขาที่จ้องมองไปยังยอดฝีมือบนยอดเขา กุยเช่อ.

กุยเชอและเหริ่นชุนที่จ้องมองไปยังหยวนซือ.

"หยวนซือเทียนจุ้น? เขา จุติกลับมาแล้วอย่างงั้นรึ?"กุยเชอที่ขมวดคิ้วไปมาเผยท่าทางประหลาดใจ.

หยวนซือรู้จักกุยเช่อ กุยเช่อแน่นอนก็รู้จักหยวนซือ.

"หยวนซือ? เขาก็คืออดีตปราชญ์เทพอีกคนอย่างงั้นรึ?"เหริ่นชุนที่ใบหน้าบิดเบี้ยวซับซ้อน.

อดีตปราชญ์เทพรุ่นก่อน สถานะของเขาย่อมเป็นคนที่มีชื่อเสียงสั่นคลอนโลกหล้า กล่าวได้ว่าเหล่าอดีตปราชญ์เทพต่างก็เป็นคนที่ยอดเยี่ยมด้วยกันทั้งนั้น.

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด