Chapter 1192 สุสาน
ค่ายกลที่ปกคลุมไปทั่วอาณาเขตหนานจานปู่อย่างงั้นรึ?
เพียงแค่คาดเดา แทบทุกคนต้องเผยท่าทางหวาดผวา สำหรับจงซานและคนอื่น ๆ เรื่องนี้ไม่ใช่ว่าจะไม่เคยเห็น ต้องไม่ลืมถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่เขตแดนน้ำพุเหลืองของทวีปตะวันตก ดูคล้าย ๆ กัน ในครั้งนั้นค่ายกลดังกล่าวก็เป็นค่ายกลที่ทรงพลังเป็นอย่างมาก.
ถึงแม้นว่าจะมีสามเซียนบรรพชน ทว่าก็ไม่สามารถที่จะเห็นแม้แต่ร่องรอยค่ายกล.
"เซิ่งหวังจง ดูเหมือนว่าค่ายกลนี้ จะไม่ใช่ค่ายกลฮวงจุ้ยธรรมดาแล้ว!"ชายชุดดำที่อยู่ด้านข้างที่เอ่ยปากออกมา.
ชายในชุดดำเอ่ย ทำให้ทุกคนหันหน้ามาจ้องมอง.
ไม่ใช่ค่ายกลฮวงจุ้ย? สวรรค์และปฐพีปั่นป่วน เป็นค่ายกลที่กว้างใหญ่ไพศาล มีเพียงแค่ค่ายกลฮวงจุ้ยเท่านั้นที่จะสามารถทำได้.
"เซียนเซิงจิงหง คิดว่าอย่างไร?"จงซานเอ่ยถาม.
"รูปแบบทั้งหมด ข้าไม่สามารถเข้าใจได้ ที่ด้านในนั้นเป็นค่ายกลฮวงจุ้ยไม่ผิดแน่ ทว่ามันไม่ได้มีเพียงแค่ค่ายกลฮวงจุ้ยเท่านั้น แต่ด้านในนั้นมีกลิ่นอายของค่ายกล ช่วงชิงชะตาด้วย!"จื่อหยางจิงหงที่กล่าวออกมาอย่างจริงจัง.
"ค่ายกลช่วงชิงชะตา?"จงซานที่สายตาขยับไปมาเล็กน้อย.
ค่ายกลช่วงชิงชะตา นี่เป็นครั้งที่สองที่จงซานได้ยิน นี่คือค่ายกลที่แปลกประหลาดที่ผู้ฝึกตนช่วงชิงชะตาสามารถใช้ได้ ในอดีตในโลกใบเล็ก บุตรคนที่สามจงเสวียนของจงซาน ได้ออกมาต่อสู้กับกงเชียนคนเดียว ด้วยการใช้วิชาช่วงชิงชะตาต้าเหยี่ยน ค่ายกลดังกล่าวนั้นเป็นค่ายกลช่วงชิงชะตาที่ทำลายลิขิตมาตรฐานของกงเชียน ช่วยให้เขาสามารถล้มกงเชียนได้ในครั้งนั้น.
แม้นว่าจะมีจิงหงอยู่ที่นี่ ทว่าจงซานรู้ดีว่ามันทรงพลังน่าเกรงขามขนาดใหน.
ผู้ฝึกตนช่วงชิงชะตา คือผู้ฝึกตนที่อยู่ใกล้เคียงการบำเพ็ญชีวิตมากที่สุด ทว่าจงซานที่รับรู้มาจากตำหนักฟู่ซี การเข้าใกล้เคียง ก็ทำได้แค่ใกล้เคียง ผู้บำเพ็ญช่วงชิงชะตาที่บำเพ็ญโชค นับเป็นหนึ่งในการฝึกตนที่น่าเกรงขามที่สุด.
เส้นทางการบำเพ็ญ ลำดับหนึ่งบำเพ็ญชีวิต ลำดับสองโชค ลำดับสามฮวงจุ้ย ลำดับสี่บำเพ็ญกรรม ลำดับห้าบำเพ็ญชื่อเสียง.
ห้าวิธีคือห้าเส้นทางแห่งการบำเพ็ญ ทว่าวิชาที่แปลกประหลาดที่มีทักษะค่ายกลที่ทรงพลัง คือผู้บำเพ็ญโชคที่ใช้ค่ายกลช่วงชิงชะตา และผู้บำเพ็ญฮวงจุ้ย ที่ใช้ค่ายกลฮวงจุ้ย.
ในเวลานี้ ค่ายกลที่ปกคลุมทั่วทั้งอาณาเขตหนานจานปู่ คาดไม่ถึงเลยว่าไม่เพียงแต่ค่ายกลฮวงจุ้ย และยังมีค่ายกลช่วงชิงชะตาด้วย?
"ค่ายกลช่วงชิงชะตา?"หลาย ๆ คนที่เผยท่าทางประหลาดใจ.
บางคนที่เคยได้ยินเกี่ยวกับค่ายกลช่วงชิงชะตา ทว่าบางคนก็ไม่เคยได้ยิน หลาย ๆ คนที่จ้องมองไปยังจื่อหยางจิงหงด้วยความอยากรู้อยากเห็น.
ทว่าในเวลานี้ ด้านนอกม่านป้องกัน ปรากฎเหตุการณ์ที่แปลกประหลาด.
ที่ด้านนอกนั้น เหล่าผู้ฝึกตนที่มารวมตัวกันมากมาย ในเวลานี้พวกเขาทั้งหมดเริ่มแสดงท่าทางแปลกประหลาดออกไป.
มีผู้ฝึกตนบางคน ที่ดวงตาเปลี่ยนเป็นสีแดงแล้ว พร้อมกับปลดปล่อยจิตสังหารที่รุนแรงระเบิดออกมา.
บางคน ที่หันหน้าก่อนที่จะพุ่งตรงไปยังทิศทางตำหนักจื่อเซียว ทว่าบางคนที่ดวงตาสีแดง ทันใดนั้นก็ชักกระบี่ออกมา.
"ปัง ~~~~~~~~ ปัง~~~~~~~~ ปัง~~~~~~~~~!”
ปรากฎเหตุการณ์ที่แปลกประหลาดขึ้น ผู้ฝึกตนที่กลายเป็นบ้าคลั่งไล่ล่าสังหาร ราวกับว่าสูญสิ้นซึ่งเหตุผล สู้ ต่อสู้ เริ่มสังหารอีกฝ่ายในทันที!
ฆ่า ฆ่า ฆ่า!
การต่อสู้ที่ไร้เหตุผลบ้าคลั่งปะทุขึ้นมาในทันที.
“!” “!” ............
ผู้ฝึกตนหลายคนที่ยังคงสติอยู่ได้เร่งรีบพุ่งตรงมายังม่านพลังป้องกันทันที.
เมื่อเข้ามายังม่านพลัง ทันใดนั้นก็เป็นปรปักษ์กับคนข้างในทันที.
"คารวะบรรพชนชราหงจวิน(ร่างอุปโลกน์โหลวซิงเฉิน) คารวะเซิ่งหวังจง!"ผู้ฝึกตนที่เข้ามาข้างในได้กล่าวออกมาในทันที.
ที่ด้านนอกที่เปลี่ยนไปในทันที แน่นอนย่อมทำให้คนที่อยู่ด้านในต้องระมัดระวัง ทว่าในเวลานี้ผู้คนที่อยู่ในในม่านพลังรู้สึกดีใจขึ้นมาในทันที เพราะว่าม่านพลังดังกล่าวนี้สามารถต้านผลจากค่ายกลด้านนอกได้.
ในเวลานี้ ทุก ๆ คนที่เริ่มรู้สึกขอบคุณหงจวินเป็นอย่างมาก.
เกี่ยวกับผู้คนที่สูญเสียตัวตนนั้น แน่นอนว่ากลายเป็นศัตรูของผู้คน เหล่าผู้ฝึกตนมากมายที่หลบเลี่ยงคนเหล่านั้น พวกเขาที่เข้ามาหลบภัยทำให้ทุกคนเผยท่าทางซาบซึ้งไม่น้อย.
"อืม!"จงซานที่พยักหน้ารับ.
"ขอบคุณเซิ่งหวังจง!"ทุกคนที่เอ่ยออกมาด้วยความเคารพ.
เพราะว่าจงซานพยักหน้ายอมรับให้พวกเขาเข้ามาอยู่ด้านในได้นั่นเอง.
ในเวลานี้ทุกคนที่หันหน้าจ้องมองไปยังด้านนอก.
ที่ด้านนอกนั้น การต่อสู้ที่รุนแรงกำลังเริ่มขึ้น การต่อสู้ที่บ้าคลั่งทวีความรุนแรง การต่อสู้ที่ไร้ระบบระเบียบ ทุกคนที่กลายเป็นบ้าคลั่งเสียสติพุ่งเข้าห้ำหั่นกัน ฆ่า ฆ่า ฆ่า!
พริบตาเดียว เหล่าผู้ฝึกตนจำนวนมากตกตายไปในทันที.
ทว่าดูแปลกประหลาดเป็นอย่างมาก เหล่าผู้ฝึกตนที่บาดเจ็บล้มตายนั้นมีบางอย่างเกิดขึ้น.
เหล่าศพที่ร่วงหล่นล้มลง ร่างกายที่กำลังบิดเบี้ยวหลุดร่อนในทันที.
ศพที่นอนตายเนื้อหนังเลือดเนื้อที่สลายกลายเป็นหมอกโลหิต ราวกับว่ามีอะไรบางอย่างกำลังสูบออกไป พริบตาเดียวร่างเหล่านั้นที่แห้งเหี่ยวเหลือเพียงกระดูก เลือดเนื้อที่หายไปทั้งหมด แม้แต่ดวงวิญญาณก็ถูกสูบไปด้วย พุ่งไปยังค่ายกล.
แต่กระนั้นผู้คนก็ยังบ้าคลั่งไม่ยอมหยุด ยังคงฆ่ากันและกัน ต่อสู้จนตัวตาย ไร้ซึ่งเหตุผลในการต่อสู้.
ในกลุ่มดังกล่าว ทุกคนที่เห็นแม้แต่เซียนบรรพชน แม้นว่าจะเป็นเซียนบรรพชนขั้นต้น ทว่าก็ยังนับว่าเป็นเซียนบรรพชน และมีเซียนโบราณหลายคนที่ล้อมสังหารเขา ทุกคนที่บ้าคลั่งไปหมด แม้แต่เซียนบรรพชนยังค่อย ๆ กลายเป็นบ้าคลั่งไปด้วยเช่นกัน.
"แฮกก ๆ ~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~!”
ภายในม่านพลังป้องกัน เหล่าผู้ฝึกตนมากมายที่กำลังสูดหายใจอันเย็นเยือบเข้ามา นี่เป็นค่ายกลที่ไม่ธรรมดาเป็นอย่างมาก แม้แต่เซียนบรรพชน ยังสูญเสียจิตสำนึกไปด้วยอย่างงั้นรึ?
"บางอย่างค่ายกลนี้ ข้ารู้จัก!"เซิ่งกงเป้าที่อยู่ข้าง ๆ เอ่ยออกมาในทันที ใบหน้าที่เปลี่ยนเป็นซับซ้อนอัปลักษณ์.
"รู้จักอย่างงั้นรึ?"จงซานที่สอบถามออกไป.
หลาย ๆ คนที่จ้องมองไปยังเซิ่งกงเป้า.
ด้วยชื่อเสียงของเซิ่งกงเป้าไม่จำเป็นต้องเอ่ย คำพูดของเขาย่อมสามารถเชื่อถือได้.
"ขอรับ ผลของมันที่เฉินเห็น ทำให้รับรู้ แต่ก็ไม่สามารถยืนยันได้อย่างมั่นใจนัก!"เซิ่งกงเป้าที่เอ่ยออกมาด้วยท่าทางลังเล.
"กล่าว!"จงซานที่กล่าวออกมาอย่างจริงจัง.
"ใช่ เนื่องจากมันไม่ได้ปรากฎขึ้นในโลกใบใหญ่นานแล้ว ตามข้อมูลของต้าซ่างนั่น เคยเกิดขึ้นในยุคของราชันย์เทพจวิน ยุคของไท่อี้ ราชันย์เทพตะวันออกไท่อี้ เขานับว่าเป็นผู้ฝึกตนค่ายกลอันดับหนึ่งเลยก็ว่าได้ ด้วยการใช้ค่ายกลที่หลากหลาย สามารถผสานทำให้มันทำงานร่วมกันได้ อย่างไรก็ตาม ค่ายกลนี้ไม่เคยนำมาใช้เลย แม้แต่เมื่อครั้งก่อสงครามกับเผ่าอสูรเผ่าอู่ก็ตาม ไท่อี้แทบจะไม่เคยได้ใช้มันออกมา ทว่าหากใช้ออกมาแล้วมันจะกลายเป็นค่ายกลทรงพลังสุดยอด สามารถสังหารทุกคนที่อยู่ด้านในได้ไม่มีเหลือ!"
"ข้าคิดว่ามันอาจจะเป็นเพียงแค่ตำนาน คาดไม่ถึงเลยว่ามันจะมีจริง ถ้าจะให้เรียนล่ะก็ มันน่าจะมีชื่อว่า สุสาน."เซิ่งกงเป้าที่สูดหายใจลึก.
"สุสาน?"ใบหน้าของทุกคนที่เปลี่ยนเป็นซับซ้อน.
เพียงแค่คำเดียว สุสาน! ทว่านามของมัน ก็ทำให้ทุกคนกลายเป็นจริงจังขึ้นมาในทันที.
สุสาน ความหมายที่เหมือนกับหลุมฝั่งศพ เพียงแค่นามของมัน ก็ทำให้ทุกคนรู้ว่ามันหนักหนาน่าหวาดหวั่นขึ้นมาแล้ว นอกจากนี้ ค่ายกลนี้ยังถูกสร้างขึ้นโดยราชันย์เทพตะวันออกไท่อี้ในยุครุ่งเรื่องสูงสุด ยอดฝีมือค่ายกลอันดับหนึ่ง มีใครบ้างที่จะไม่หวาดกลัว?
"แล้วอย่างไรต่อ!"จงซานที่สอบถาม.
"ค่ายกลนี้น่าเกรงขามนัก เฉินไม่รู้อะไรชัดเจนนัก รู้เพียงว่ามันสามารถเคลื่อนย้ายปราณวิญญาณที่จัดเตรียมขึ้นด้วยเส้นโลหิตมังกรของผืนปฐพี ด้วยเส้นโลหิตมังกรแล้ว จะทำให้พลังแห่งกฎฟ้าดินปั่นป่วน ส่งผลต่อปราชญ์เทพโดยตรง!"เซิ่งกงเป้าที่กล่าวออกมาอย่างจริงจัง.
"ปราชญ์เทพ?"ทุกคนที่ใบหน้าบิดเบี้ยวเปลี่ยนเป็นซับซ้อน.
"สถานที่เรียกว่าโลกใบใหญ่นี้ ภายในค่ายกลจะเปลี่ยนไป ทำให้ผู้ฝึกตนทุกคนไร้ซึ่งข้อจำกัด ทว่าวิถีสวรรค์จะไม่สามารถใช้ออกมาได้."เซิ่งกงเป้าเอ่ย.
"ไม่ใช่แค่วิถีสวรรค์อย่างงั้นรึ? มหาวิถีที่มีการสร้างขึ้นมาด้วยรากฐานของวิถีสวรรค์ด้วย มหาวิถีก็ไม่สามารถใช้ได้ บางที พื้นที่แห่งนี้คงเหมือนกับ ปมกาลอากาศ ที่สูญเสียการใช้พลังรากฐานของโลกใบใหญ่ไป?"เซียนเซิงซือกล่าวสอบถามออกมา.
"ใช่ เหมือนกับปมกาลอากาศ ที่นี่ ปราชญ์เทพไม่สามารถใช้วิถีสวรรค์ได้ อย่างไรก็ตาม ปราชญ์เทพยังสามารถรักษาสติของตัวเองได้ ทำให้สามารถทะลวงหนีออกจากค่ายกลได้ ทว่าต่ำกว่าปราชญ์เทพจะไม่สามารถรักษาสติได้! จะไล่ล่าสังหารกันและกัน จนตายไปด้วยกันทั้งหมด."เซิ่งกงเป้าเอ่ย.
"ไล่ล่าสังหารกันและกัน?"จินเผิงที่จ้องมองการต่อสู้ด้านนอกแล้ว ใบหน้าถึงกับบิดเบี้ยวกลายเป็นอัปลักษณ์ไปในทันทีเช่นกัน.
"ไล่ล่ากันและกัน ก่อนหน้านี้มีเพียงไม่กี่คนที่สูญเสียสติ ทว่าตอนนี้ทุกคนได้เสียสติไปหมดแล้ว ผู้ฝึกตนที่สูญเสียสติที่เดินทางมาที่นี่ เพื่อตามหาตำหนักจื่อเซียวมากมาย พวกเขาคงจะต่อสู้จนตัวตาย ตกตายไปเป็นจำนวนมากมายแน่นอน."เซิ่งกงเป้าที่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.
"ไม่แปลกใจเลยเรียกค่ายกลนี้ว่า สุสาน ทุกคนที่อยู่ในค่ายกลจะเริ่มไล่ล่าสังหารกันและกัน แม้ว่าจะไม่ต้องการ ทว่าทุกคนที่อยู่ด้านในจะต้องตาย ทั่วทั้งอาณาเขตหนานจานปู่ จะต้องตายทุกคนอย่างงั้นรึ? ถึงกับใช้คนทั้งทวีปในการสังเวยเลยรึ?"เต้าเหรินถูที่ใบหน้าเปลี่ยนเป็นซับซ้อน.
เต้าเหรินถูที่ใช้ชีวิตด้วยการสังหารผู้คนมากมาย ทว่าก็ไม่มีทางที่จะสังหารคนได้มากมายมหาศาลได้ขนาดนั้น.
ภายในอาณาเขตหนานจานปู่ อย่างน้อย ๆ จะต้องมีคนกว่าร้อยล้านคน มีราชวงศ์อยู่ไม่น้อยต้องถูกกำจัดไปทั้งหมดอย่างงั้นรึ?
ภายในม่านพลัง ผู้ฝึกตนมากมายถึงกับสั่นสะท้าน นี่มัน น่าหวาดกลัวเกินไปแล้ว.
"แล้วเกี่ยวกับคนที่ตกตายไปล่ะ? แก่นเลือดเนื้อและโลหิต แม้แต่ดวงวิญญาณก็ถูกสูบไปทั้งหมดเลยอย่างงั้นรึ?"จงซานที่สอบถามออกไป.
"เรื่องนี้เฉินเองก็ไม่รู้!"
"ทว่า มีบางคนที่ได้รับการการยกเว้น ด้วยการที่มีหลายคนที่ไม่ได้ผลกระทบ ทำให้เฉินเองก็ไม่เข้าใจ!"เซิ่งกงเป้าเอ่ย.
"ยกเว้น?"ทุกคนที่จ้องมองไปยังเซิ่งกงเป้า.
"ใช่ บางคน ดังเช่นปราชญ์เทพ ที่ไม่เสียสติ แม้นว่าจะไม่สามารถใช้วิถีสวรรค์ได้ ทว่าก็ได้รับการยกเว้น ทว่าด้วยม่านป้องกันอำนาจเวลา บางทีก็ได้รับการยกเว้นเช่นกัน!"เซิ่งกงเป้าเอ่ย.
ยกเว้น?
ทุก ๆ คนที่เผยท่าทางดีใจขึ้นมาในทันที ก่อนที่จะหันหน้าพร้อมกับแสดงความเคารพต่อบรรพชนหงจวิน.
หงจวินที่จ้องมองไปยังจงซาน เห็นจงซานที่พยักหน้ารับ ร่างกายของเขาที่เปลี่ยนไปทันที เปลี่ยนเป็นร่างของโหลวซิงเฉินในทันที.
"เอ๊ะ?"ผู้ฝึกตนมากมายที่เผยท่าทางประหลาดใจ.
"ทุก ๆ ท่าน ข้าเป็นคนของต้าเจิ้ง มีนามว่าโหลวซิงเฉิน ก่อนหน้านี้เป็นหงจวิน เพื่อผลประโยชน์ของต้าเจิ้ง ขอทุกท่านอย่างได้ตำหนิ!"โหลวซิงเฉินที่เอ่ยออกมาในทันที.
ในเวลานี้ โหลวซิงเฉินและจงซานไม่รู้สึกหวาดกลัวที่คนอื่น ๆ จะโกรธเกรี้ยวกับการหลอกลวง.
ด้วยม่านพลังเวลาของโหลวซิงเฉิน ทำให้ต้าเจิ้งสามารถกุมความได้เปรียบมากมาย หากว่าไม่พอใจ ตอนนี้ก็ให้ออกไป.
ทันใดนั้น ผู้ฝึกตนมากมายที่อ้าปากค้าง จ้องมองไปยังโหลวซิงเฉิน ไม่รู้เช่นกันว่าจะทำอย่างไรดี.
หากพวกเขาโกรธเกรี้ยวไม่ยอมรับ ก็ต้องบินออกไป ซึ่งแน่นอนว่าจะต้องสูญเสียสติไปในทันที และพวกเขาก็จะไล่ล่าสังหารกันและกันจนตาย.
ในเวลานี้ ก็เหมือนตกกระไดพลอยโจน ได้แต่พยักหน้ายอมรับ.
นี่เป็นแผนการที่จงซานกระทำให้พวกเขายอมรับไม่สามารถปฏิเสธได้.
โหลวซิงเฉินที่ได้ทำการกล่าวปลอบประโลมเหล่าผู้ฝึกตนที่เขาได้ใช้แผนการล่อลวงมา.
ส่วนจงซาน ได้เหล่าคนสำคัญของต้าเจิ้งไปยังขอบของม่านพลังเวลา หลาย ๆ คนที่ลองพยายามออกไปด้านนอกเพื่อทดสอบ.
ช่างน่าเสียดาย ทั้งจินเผิง หวังคูก็ไม่สามารถทำได้สำเร็จ ด้วยความรู้สึกที่ยากจะควบคุม ทำให้ได้แต่เร่งรีบกลับเข้ามาในม่านพลัง.
เซียนเซิงซือไม่ได้ทดสอบ จงซานไม่ได้ให้เขาลองทดสอบ.
ท้ายที่สุด ดูเหมือนมีเพียงคนเดียวที่ไม่ได้รับผลกระทบ หวนจี!
ไม่มีผลอะไรกับหวนจี ทุกคนที่เต็มไปด้วยความประหลาดใจ หวนจี นางเป็นใครกัน?
"ข้าจะลองดู!"จงซานที่ก้าวออกไป.
เพราะว่าสามารถกลับเข้ามาได้ในทันที จึงไม่มีใครกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของจงซานแต่อย่างใด.
ทันทีที่จงซานก้าวออกไปนั้น.
"ปัง ปัง ปัง ..................!”
จงซานที่รู้สึกราวกับว่ามีเสียงบางอย่างราวกับสายฟ้าฟาดลงมา ราวกับว่ามีพลังบางอย่างก่อเกิดขึ้นภายในร่างของตัวเอง.
ตัวเขาก็ได้รับผลกระทบอย่างงั้นรึ?
จากนั้นจงซานก็พบว่าทุกอย่างกลับมาเป็นปกรติ ดูเหมือนว่ามันจะไม่มีผลกับเขา ดูเหมือนว่าพลังดังกล่าวนั้นจะมีผลต่อรากฐานของร่างกาย พลังดังกล่าวนั้นจะกัดกร่อนชะตามาตรฐาน.
ทว่า เหมือนกับสายฟ้าที่ฟาดลงมาเรื่อย ๆ และตลอดเวลา แต่ด้วยรากของพรสวรรค์ร่างกายของจงซานที่ไม่ธรรมดา ทำให้พลังดังกล่าวไม่ได้ส่งผลต่อเขาแต่อย่างใด.
"เซิ่งหวัง!"ทุกคนที่อยู่ด้านหลังที่เอ่ยออกมาด้วยความร้อนใจ.
"ข้าไม่เป็นไร!"จงซานที่โบกมือไปมา.
เหมือนดั่งคลื่นทะเลที่สาดซัด ทว่าพรสวรรค์ร่างกายของจงซานที่เหมือนกับเทือกเขาเทวะที่ใหญ่โต ทำให้คลื่นทะเลไม่สามารถสั่นคลอนได้.
ไม่สามารถสั่นคลอนรากพรสวรรค์ร่างกาย ไม่สามารถที่จะสั่นคลอนชะตาวิถี? รากพรสวรรค์ทางร่างกายที่แข็งแกร่งดั่งหินผา จงซานรับรู้ได้ในทันที ค่ายกลนี้ ไม่ส่งผลต่อเขา.