Chapter 1191 ระฆังราชันย์เทพตะวันออก เปิดประตูศักดิ์สิทธิ์.
"ราชันย์เทพตะวันออกไท่อี้ ข้าและเจ้าไม่เคยมีความแค้นกันมาก่อน ทำไมเจ้าถึงได้วางแผนต้องการทำร้ายข้า?"เจียงยวีที่เอ่ยออกมาด้วยความโกรธ.
"เพื่อล่าเจ้า ก่อตั้งศาลสวรรค์เผ่าอสูรขึ้นนะสิ!"ราชันย์เทพตะวันออกที่เผยยิ้มที่ชั่วร้ายออกมา.
"เปรี้ยง!"เจียงยวีราวกับถูกสายฟ้าฟาดลงที่กลางกบาล.
หากเปลี่ยนเป็นคนอื่น เจียงยวีก็ไม่ได้จริงจังนัก แม้แต่หากต้องต่อสู้กับราชันย์เทพตะวันออกไท่อี้ เจียงยวีก็มั่นใจว่าจะชนะ ราชันย์เทพตะวันออกและเขาที่มีสถานะแตกต่าง ทว่าเวลานี้เขากลับกล่าวออกมาด้วยความมั่นใจ.
อย่างไรก็ตามราชันย์เทพตะวันออกไท่อี้นั้นแตกต่างจากคนอื่น ๆ หลายคน.
เพราะว่าในอดีตนั้นเขาเคยเป็นเทียนตี้ และได้ล่าปราชญ์เทพมาก่อนด้วย
ในยุคของราชันย์เทพตะวันออกไท่อี้ ศาลสวรรค์เผ่าอสูร ในเวลานั้นน่าเกรงขามมาก ในยุคของพวกเขาเวลานั้นยังไม่มีปราชญ์เทพหงจวินด้วยซ้ำ ในยุคนั้นอาจถูกเรียกได้ว่ายุคแห่งราชันย์เทพตะวันออกไท่อี้ก็ว่าได้.
[***(ไท่อี้คือรากแยกกับราชันย์เทพโจวซินของต้าซ่าง เป็นเซียนอสูร เหมือบกับเซิ่งหวังไท่ชูและกงจูจิวเหว่ย ใช้วิชาลับแบ่งวิญญาณ สร้างร่างมนุษย์เพื่อก่อตั้งราชวงศ์ชื่อเสียงวาสนา)***]
ล่าปราชญ์เทพ? เจียงยวีที่กำลังคิด เป็นไปไม่ได้ ล่าข้า ช่างน่าขันนัก.
"ทำไมเป็นข้า?"เจียงยวีที่ตกใจเล็กน้อย.
"เพราะว่าข้าต้องการสังหารเจ้า!"ไท่อี้ที่กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.
เพียงเท่านี้นะรึ?
เจียงยวีนั้นที่ค่อย ๆ นึกอะไรได้ หลาย ๆ อย่างที่เกี่ยวข้องกันนับตั้งแต่ก่อนหน้านี้แล้ว.
ไท่อี้ที่จ้องมองด้วยสายตาลึกล้ำ ก่อนที่จะสูดหายใจลึก "ข้ารู้แล้ว เจ้า เป็นเจ้านั่นเอง ตำหนักจื่อเซียวไม่ได้มีเชาว์ปัญญาตั้งแต่แรกแล้ว เจ้าจงใจสร้างข่าวนี้ขึ้นมาอย่างงั้นรึ? แม้แต่วิหารหงจวินก็ตาม เป็นเจ้าที่สร้างขึ้นมาทั้งหมด แม้แต่ศิษย์ของข้าก็เป็นคนของเจ้านานแล้ว พวกเขาที่ยุยงให้ข้าสร้างวิหารหงจวินทางเหนือ เจ้ากำลังหลอกใช้ข้า?"
"ไม่ใช่ทั้งหมด ทว่าก็มีบางคนที่เป็นคนที่ข้าส่งไปเพื่อภัคดีต่อเจ้า ใต้สวรรค์แห่งนี้มีปราชญ์เทพเพียงเก้าคน ข้าได้วางเป้าไปยังทุกคน ทว่ากลับไม่มีใครติดกับ ช่างน่าเสียดายคนที่ทนยั่วยวนตำหนักจื่อเซียวไม่ไหวมากที่สุดกับเป็นเจ้า ดูเหมือนว่าเจ้าจะมีแค่พลังแต่สมองนั้นยังมีไม่เพียงพอ?"ไท่อี้ที่กล่าวออกมาอย่างนุ่มนวล.
มีพลังแต่ไม่มีสมอง? ทันใดนั้นเจียงยวีที่ได้แต่ฝืนยิ้มออกมา.
ใช่มีพลังแต่ไร้สมอง!!เพียงแค่ตำหนักจื่อเซียว ไม่ได้ทำให้หงจวินยิ่งใหญ่ นี่เป็นเพราะตัวเขาโลภมากจนเกินไปรึ? น่าขำยิ่งนัก.
เจียงยวีที่สูดหายใจลึก พยายามระงับความเศร้าในใจ ก่อนที่จะกลับมาเป็นปรกติ เขาที่กลับมาครุ่นคิดอย่างระวัง พร้อมกับเริ่มคาดคะเนความแข็งแกร่งของศัตรู ในเวลานี้ก็ทำให้เจียงยวีรู้สึกผ่อนคลายขึ้น.
ราชันย์เทพตะวันออกไท่อี้! เจียงยวีที่พอจะรู้จัก เขามีระดับเซียนบรรพชน เซียนบรรพชนก็มีขีดจำกัดของมันอยู่ ที่นี่ไม่ใช่ราชวงศ์ชื่อเสียงวาสนา ถึงไท่อี้จะแข็งแกร่ง ก็เป็นเพียงเซียนบรรพชนที่แข็งแกร่งกว่าคนทั่วไปเท่านั้น.
ทว่าตัวเขา ที่เป็นปราชญ์เทพ และยังสามารถเคลื่อนย้ายอำนาจฟ้าดินด้วย.
ด้วยเงื่อนเหลานี้ ความแข็งแกร่งของปราชญ์เทพย่อมเหนือกว่าราวกับสวรรค์และปฐพี.
ในอดีต ไท่อี้เคยล่าปราชญ์เทพ และสร้างศาลสวรรค์ขึ้นมาแล้ว ทว่าเวลานี้ต้องการสร้างราชวงศ์ชื่อเสียงวาสนา สร้างศาลสวรรค์ของเผ่าอสูรขึ้นอีกอย่างงั้นรึ?
เจียงยวีที่ค่อย ๆ สงบลงเรื่อย ๆ จากนั้นก็จ้องมองลงไปยังตำหนักจื่อเซียวด้านล่าง.
ตำหนักจื่อเซียวที่ลอยขึ้นมาจากลูกแก้วที่กำลังลอยบนอากาศ ภาพเงาของตำหนักสีม่วงที่ส่องประกายแสงวับวาว ดูเหมือนว่ามันจะไม่มีรอยขีดข่วนแม้แต่น้อยก่อนหน้านี้.
มีความแตกต่าง ประกายแสงสีม่วงนั่นเกิดขึ้นมาจากบัวสีขาวนั่น แสงของมันที่หักเหกับแสงของตำหนักจื่อเซียว.
ในเวลาเดียวกันนั้น ปรากฎผู้ฝึกตนคนหนึ่งที่บินมา ขณะที่เขาพุ่งตรงไปยังตำหนักจื่อเซียวทันที.
"ตูมมมมม!"
ดอกบัวสีขาวที่ปล่อยแสงสีขาวทะลวงผู้ฝึกตนคนนั้นทันที.
บัวสีขาวนั่นปกป้องตำหนักจื่อเซียวอยู่อย่างงั้นรึ?
"ฟู่!"เจียงยวีที่พ่นลมหายใจยาว.
เพราะว่าบัวสีขาวที่กำลังปกป้องตำหนักจื่อเซียวอยู่ ทำให้เขาไม่จำเป็นต้องกังวล.
ในเวลานั้นเหล่าผู้ฝึกตนที่มากขึ้นและก็มากขึ้น หากแต่ไม่มีใครที่สามารถนำมันไปได้ เหล่าผู้ฝึกตนทั่วทั้งอาณาเขตหนานจานปู่นั้นมีอยู่เป็นจำนวนมาก ผู้ฝึกตนที่กระจายไปทั่ว มีปราชญ์เทพด้วย แต่ก็ไม่กล้าเข้ามาใกล้ ๆ .
ตำหนักจื่อเซียวที่พร้อมจะเป็นของใครก็ได้ ที่สามารถคว้ามันเอาไว้คนสุดท้าย.
"เอ๊ะ?"ทันใดนั้นใบหน้าของเจียงยวีที่เปลี่ยนไปอีกครั้ง.
ที่ด้านล่างบนพื้นปฐพี ทั่วทุกแห่งที่ถูกปกคลุมเอาไว้ด้วยหมอกสีน้ำตาล.
หมอกสีน้ำตายที่มากขึ้นและก็มากขึ้น หนาขึ้นเรื่อย ๆ ด้วยเนตรปราชญ์เทพ สามารถมองเห็นความกว้างของมันได้.
ค่ายกลตะวันกลืนนภา ค่ายกลที่ปกคลุมทั่วอาณาเขตหนานจานปู่.
ค่ายกลที่ปกคลุมดินแดนทั้งทวีป ค่ายกลนี้ใหญ่โตมโหฬารขนาดใหนกัน? น่าสะพรึงกลัวยิ่งนัก?
"ปกคลุมเกือบทั่วทั้งอาณาเขตหนานจานปู่? เจ้าต้องการทำอะไร?"ใบหน้าของเจียงยวีที่เปลี่ยนเป็นซับซ้อนในทันที.
"อะไร? เจ้าไม่รู้รึ ว่าวันนี้เป็นวันอะไร?"ไท่อี้ที่แค่นเสียงดูแคลน.
ในเวลานั้น เจียงยวีที่ราวกับคิดอะไรบางอย่าง ส่วนไท่อี้ที่ราวกับว่ารอคอยให้เขาคิดออก ด้วยความสงสัยในท่าทางของเจียงยวีที่จะแสดงออกมา จะทำให้เขาพึงพอใจ.
"สวรรค์? วันเต๋าหยาง?"ใบหน้าของเจียงยวีที่เงยหน้าขึ้นมองดวงตะวัน.
"ใช่แล้ว วันนี้คือวันเต๋าหยาง ท้องฟ้าวันนี้ ฟ้าดินจะร้อนระอุ ดวงตะวันจะแผดเผาทุกอย่าง ข้านั้นมีพลังดวงตะวัน วันนี้ดวงตะวันอยู่ข้างข้า สวรรค์และปฐพีจะอาบไปด้วยแสงตะวัน ส่วนเจ้า เจียงยวี สายน้ำ? ฝน? อำนาจน้ำท่วม ในวันนี้ พลังของเจ้ามีขีดจำกัด!"ไท่อี้ที่กล่าวออกมาด้วยความตื่นเต้น.
"แก๊ก!"เจียงยวีที่กำหมัดแน่น.
ดี เป็นแผนการที่ชั่วร้าย เป็นแผนการที่ยอดเยี่ยมนัก.
ที่ด้านล่าง ภายใต้การจับจ้องของเจียงยวี ในเวลานี้แม้แต่เมฆยังกลายเป็นสีน้ำตาล พื้นที่ขนาดใหญ่ทั่วทุกหนแห่งถูกปกคลุมไปด้วยเมฆสีน้ำตาลทั่วทั้งทวีป พื้นที่ใหญ่โตมโหฬารถูกค่ายกลยักษ์ปิดกั้นโดยสมบูรณ์ จนไม่สามารถมองเห็นพื้นที่ด้านในได้อย่างชัดเจน.
เมื่อไม่สามารถมองเห็นอะไรได้แล้ว เจียงยวีที่หันหน้ากลับมามองไท่อี้ด้วยความระมัดระวัง.
"วันเต๋าหยาง แล้วอย่างไร? เจ้าเพียงแค่เซียนบรรพชน ไม่ได้อยู่ในราชวงศ์ชื่อเสียงวาสนาของเจ้า คิดว่าจะเป็นคู่มือข้าได้อย่างงั้นรึ?"เจียงยวีที่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.
เจียงยวีที่ค่อย ๆ สุขุม.
คำพูดของเขาที่ไม่ได้เผยเจตนานัก ทว่าก็ต้องการลองเชิง เจียงยวีที่ไม่สามารถถามออกมาตรง ๆ ได้ ในเวลานี้ เขาจำเป็นต้องหาข้อมูลเพื่อที่จะเผชิญหน้ากับราชันย์เทพตะวันออกเพิ่ม.
ราชันย์เทพตะวันออกไท่อี้ ชื่อนี้มีชื่อเสียงไม่น้อย เรื่องนี้จึงทำให้เจียงยวีต้องกลายมาเป็นระวัง.
การถามออกมาตรง ๆ ไท่อี้ไม่ตอบแน่นอน ทว่า ตราบเท่าที่เขาพูดอะไรออกมาบ้าง เขาก็จะสามารถนำมาใช้ในการประเมินในการรับมือได้.
แววตาของราชันย์เทพตะวันออกที่จ้องมองเจียงยวีด้วยความเย็นชา มือทั้งสองข้างของเขาที่ขยับเล็กน้อย.
"นอกจากนี้ พวกเรายังถูกนำมายังสถานที่พิเศษ ผู้ใต้บังคับบัญชาเผ่าอสูรของเจ้า ไม่สามารถใช้แม่น้ำโหยวหมิงได้ เจ้าคิดว่าจะชนะข้าได้อย่างงั้นรึ?"เจียงยวีที่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.
"เซียนเซิงโหยวหมิงนะรึ? เขาไม่จำเป็นต้องลงมือ ข้าคนเดียวก็พอแล้ว!"ไท่อี้กล่าวออกมาอย่างจริงจัง.
ความร้อนที่ดูเหมือนว่าจะค่อย ๆ เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ พื้นที่รอบ ๆ ที่กำลังเปลี่ยนไป ส่วนเซียนเซิงโหยวหมิงเวลานี้ได้บินออกไป ไกลมากแล้ว.
ใบหน้าของเจียงยวีที่เปลี่ยนไปอีกครั้ง เจียงยวีที่สัมผัสได้ถึงความร้อน ไม่ใช่แค่นั้นฟ้าดินรอบ ๆ เวลานั้นเริ่มเปลี่ยนไปอีกด้วย.
อย่างไรก็ตาม พื้นที่รอบ ๆ พวกเขาเวลานี้มีดวงดารา 361 ดวง.
ดวงดารา 361 ดวงแม้ว่าจะกระจายอยู่ค่อนข้างไกล ทว่ากลับดูเหมือนว่าปกคลุมพวกเขาเอาไว้.
เจียงยวีที่เริ่มเป็นกังวลขึ้นมา มือของเขาที่กำแน่น เจียงยวีที่มองเห็นการเตรียมการของไท่อี้เอาไว้อย่างดี ส่วนตัวเขาล่ะมีอะไร? ดวงดาราทั้ง 361 รึ? หากเขายังอยู่ในโลกใบใหญ่สามารถที่จะเคลื่อนย้ายอำนาจฟ้าดิน แม้แต่พลังจากดวงดาราทั้ง 361 ดวงนี้ได้ด้วย.
"เจ้าต้องการจำกัดพลังของข้าด้วยค่ายกลอย่างงั้นรึ?"เจียงยวีที่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.
ภายในฝ่ามือของไท่อี้ที่กำลังบดอะไรบางอย่าง.
"ปัง~~ ~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~!”
ในเวลานั้นดวงดาราทั้ง 361 ดวงก็ระเบิดออกมาอย่างพร้อมเพียง เสียงของมันดังสนั่นหวั่นไหวก้องไปทั่วสวรรค์และปฐพี.
ทว่าดวงดาราทั้ง 361 ดวงนั้น ทันใดนั้นก็เปล่งแสงสีทองออกมาแทน ก่อนที่จะร่วมตัวสานกันไปมาเป็นม่านปกคลุมพื้นที่รอบ ๆ ขนาดใหญ่โต กักขังไท่อี้และเจียงยวีเอาไว้ด้านใน.
รวมตัวกันเหมือนกับดวงตะวันสีทอง.
ทันใดนั้นทั่วทวีปตะวันออก อาณาเขตซือหนิวเหอ อาณาเขตจื่อลู่ ผู้ฝึกตนทั้งหมดสามารถมองเห็นดวงตะวันดวงที่สองได้?
บนท้องฟ้ามีสวรรค์สองแห่งอย่างงั้นรึ?
ในเวลานั้นเจียงยวีที่ดวงตาหดเกร็ง.
"นี่ไม่ใช่ดวงดารา ทว่าข้าได้สร้างระบบสุริยะของข้าขึ้นมาเอง ข้าได้ใช้เวลาหลายแสนปีในการหลอมมันขึ้นมา มันถูกรียกว่าระฆังจักรพรรดิตะวันออก มันมีอยู่ด้วยกัน 361 ชีพจร เสียงของระฆังราชันย์เทพตะวันออกนั้น สามารถที่จะเปิดประตูศักดิ์สิทธิได้ เจ้ารู้หรือไม่ว่ามันหมายความว่าอย่างไร?"ราชันย์เทพไท่อี้ที่แค่นเสียงดูแคลน.
"ประตูศักดิ์สิทธิ์อย่างงั้นรึ? เจ้าเพียงคนเดียวเปิดได้งั้นรึ? หรือเจ้าต้องการจะต่อสู้เป็นตายกับข้า? มีเพียงคนที่รอดชีวิตที่จะได้ออกไปอย่างงั้นรึ?"เจียงยวีที่กล่าวออกมาด้วยความลึกล้ำ.
"ถูกแล้ว มีเพียงแค่คนที่มีชีวิตเท่านั้นที่จะออกไปได้ ประตูศักดิ์สิทธิ์ จะไม่จำกัดทักษะความสามารถของเจ้า เจ้าสามารถเคลื่อนย้ายอำนาจฟ้าดินของเจ้าได้อย่างไม่จำกัด วิธีที่จะออกไปนั้นมีอยู่ด้วยกันสองวิธี คือหนึ่ง เหลือหนึ่งชีวิตถึงจะเปิดมันออกไป อย่างที่สอง เจ้าเคลื่อนย้ายอำนาจฟ้าดินเพื่อโจมตีสุดกำลัง ทว่าหากข้าไม่ตาย ข้าไม่ยอมให้เจ้าใช้พลังทะลวงออกไปได้อย่างแน่นอน!"ราชันย์เทพตะวันออกไท่อี้กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.
"เสียสติ เจ้ามันเสียสติไปแล้ว!"ภายในใจของเจียงยวีที่เริ่มเต้นไปมา.
เป็นความจริงหากต้องการทะลวงประตูศักดิ์สิทธิ์ล่ะก็ เจียงยวีต้องใช้พลังเต็มกำลัง เต็มกำลังอย่างงั้นรึ? หากเป็นเช่นนั้นไม่มีทางที่ไท่อี้จะไม่ลอบโจมตีเขา!
เช่นนั้นก็เหมือนว่ามีเพียงแค่วิธีเดียว วิธีแรก.
ตายหนึ่งคน?
ต่อสู้จนตกตายไปข้างหนึ่งอย่างงั้นรึ?
ไท่อี้ต้องการต่อสู้เป็นตายจริง ๆ รึ?
เสียสติ ไม่ใช่ว่าเขาเสียสติแล้วรึ? ล่าปราชญ์เทพ ทั้งที่ไม่ได้อยู่ในเมืองหลวงของตัวเอง เขาเป็นเพียงเซียนบรรพชน คิดว่าจะมีพลังพอที่จะสังหารเขาอย่างงั้นรึ?
"ไม่ใช่ว่าเจ้าต้องการฆ่าตัวตายหรอกนะ ข้าจะช่วยเจ้าเอง!"เจียงยวีที่กล่าวออกมาด้วยเสียงเย็นชา.
"ครืนนนน ~~~~~~~~~~~~~~~~!”
ประตูศักดิ์สิทธิ ราชันย์เทพตะวันออกไท่อี้ต่อสู้กับปราชญ์เทพเจียงยวี! การต่อสู้ด้วยชีวิต มีเพียงคนที่รอดเท่านั้นถึงจะออกไปได้.
-------------------------------------------------------------------------------
อาณาเขตหนานจานปู่ วิหารหงจวินตะวันตก.
จงซานที่นำผู้ฝึกตนมากมายออกมาจากวิหาร พร้อมกับจ้องมองสวรรค์และปฐพีที่เปลี่ยนไป.
"ท้องฟ้าเปลี่ยน นี่มัน หมายความว่าอย่างไร? พริบตาเดียว กลับเป็นมืดไปหมด!"จินเผิงที่กล่าวออกมาด้วยท่าทางตกใจ.
"เซิ่งหวัง สถานการณ์เวลานี้ไม่ดีแล้ว!"เซิ่งกงเป้าที่สูดหายใจลึก.
ฟ้าดินที่เปลี่ยนเป็นมืดครึ้ม ทุกคนรับรู้ได้ในทันทีว่าต้องเกิดเรื่องสำคัญขึ้นอย่างแน่นอน.
การปรากฎขึ้นของตำหนักจื่อเซียว วิหารเต๋าตะวันตก มีผู้ฝึกตนมากมายที่พุ่งตรงไปยังตำแหน่งดังกล่าว ทว่าจงซานนั้นได้ห้ามคนของเขาเอาไว้.
การรับคนเข้าร่วมราชวงศ์ชื่อเสียงวาสนาในครั้งนี้ เซิ่งกงเป้าได้แสดงทักษะที่น่าเกรงขามเป็นอย่างมาก สามารถรับเซียนโบราณหนึ่งร้อย มหาเซียนอีกหนึ่งพันคน เป็นจำนวนที่น่าสะพรึงเป็นอย่างมาก ศาลเทพต้าเจิ้งในทวีปทิศเหนือที่มีอายุไม่กี่ร้อยปี กับสามารถรับคนได้มากมายขนาดนี้.
ทว่าหลังจากเหตุการณ์ที่เปลี่ยนไปในทันที ทำให้ไม่สามารถรับคนได้เพิ่มอีก.
ก่อนหน้านี้ ตำหนักจื่อเซียวที่ปรากฎขึ้น ผู้ฝึกตนมากมายที่เดินทางไปยังทิศตะวันออก ทว่าจงซานไม่ไป หงจวินไม่ไป ผู้ฝึกตนมากมายก็ไม่ไปเช่นกัน.
สาเหตุหลัก ๆ นั้นประการแรก ทิศทางที่ปรากฎนั้นอยู่ไกลมาก ๆ อย่างที่สองมีผู้ฝึกตนมากมายที่เดินทางไป สำหรับมหาเซียนแล้วไม่ไปอย่างแน่นอน ส่วนเซียนโบราณมีหลายคนที่ลังเลใจ และสิ่งสำคัญที่สุด หงจวิน ที่ไม่ไป ทุกคนก็ไม่ต้องการไปเช่นกัน อีกทั้งจงซานก็ยังไม่เคลื่อนไหวด้วย.
ดูเหมือนว่าจะเป็นปฏิกิริยาลูกโซ่ เมื่อคนจำนวนมากไม่เคลื่อนไหว เหล่าคนที่ลังเลก็หยุดนิ่งรอคอยเฝ้ามองอยู่เช่นกัน.
"ครืนนน ~~~~~~~~~~~~~~~!”
ที่ด้านนอกวิหารหงจวิน ม่านพลังคุ้มภัยของโหลวซิงเฉินที่สร้างขึ้นมาด้วยทักษะเทวะเวลา ในเวลานี้ กำแพงหนาสิบเมตร กำลังสั่นไหวไปมา กลายเป็นเรื่องที่แปลกประหลาดเป็นอย่างมาก ดูเหมือนว่าจะมีพลังที่แข็งแกร่งด้านนอกกำลังโจมตีเข้ามา.
"ท้องฟ้าเปลี่ยนแปลง ค่ายกล เป็นค่ายกลที่ใหญ่โตมโหฬาร?"ใบหน้าของเซิ่งกงเป้าที่เปลี่ยนเป็นซับซ้อน.
"ดูเหมือนว่านับตั้งแต่ต้นจนจบแล้ว ดูเหมือนว่าเหล่ายอดฝีมือมากมายจะถูกล่อเข้ามาด้วยการปรากฎตัวของตำหนักจื่อเซียว เป็นไปได้ว่ามันปกคลุมทั้งอาณาเขตหนานจานปู่อย่างงั้นรึ?"จินเผิงที่ขมวดคิ้วไปมา.
การคาดเดาของจินเผิงทำให้ทุกคนที่ได้ยินถึงกับสูดหายใจลึก ส่วนจงซานที่จ้องมองออกไปเงียบ ๆ .
ค่ายกลที่ปกคลุมไปทั่วอาณาเขตหนานจานปู่?
หากเทียบกับสวรรค์สวรรค์ลอยฟ้าหลิงเซียวเท่ากับขนาดของโลก แดนศักดิ์สิทธิ์ของโลกใบเล็ก ก็คือจักรวาล ส่วนดินแดนเฟิงจงเทียบเท่ากับ 20 จักรวาล ส่วนดินแดนซือต้าปู่นั้นใหญ่กว่าอาณาเขตเฟิงจงสี่เท่า.
อาณาเขตหนานจานปู่เองก็มีขนาดเท่ากับ 20 จักรวาล.
ค่ายกลฮวงจุ้ยนี้ปกคลุมพื้นที่ 20 จักรวาล(เปรียบเทียบกับแดนเทวะของโลกใบเล็กเท่ากับหนึ่งจักรวาล) ค่ายกลนี้กินพื้นที่ขนาดนั้นเลยรึ?
จงซาน เซียนเซิงซือและอีกหลายคนที่เคยมีประสบการเกี่ยวกับค่ายกลที่เส้นทางหยินหยางในทวีปตะวันตกมาแล้ว บอกได้ว่าค่ายกลขนาดใหญ่นั้นทรงพลังขนาดไหน กลับประสบการณ์ที่เคยได้รับ แน่นอนว่าเรื่องนี้ทำให้พวกเขาต้องตกใจ เวลานี้กำลังเกิดเรื่องไม่ดีขึ้นแล้ว.