Chapter 1188 การปรากฎของตำหนักจื่อเซียว.
เหริ่นชุนและกุยเชอที่มาถึงทางตะวันของของทวีปนานจานปู่ตั้งแต่เมื่อวานแล้ว ทว่าตำแหน่งที่ชี้มาในแผนที่นั้นใหญ่จนเกินไป.
บนยอดเขาแห่งหนึ่ง คนสองคนที่รอคอยอย่างอดทน กวาดตามองรอบ ๆ รอคอยปรากฎการณ์ที่แปลกประหลาด.
เพราะว่าทั้งคู่นั้นเชื่อมั่นในราชันย์เทพตะวันออกไท่อี้เป็นอย่างมาก อีกห้าวันตำหนักจื่อเซียวจะปรากฎขึ้น? แววตาของทั้งสองคนที่เต็มไปด้วยความคาดหวัง.
ตำหนักจื่อเซียว นับเป็นสุดยอดของวิเศษ ไม่ว่าจะเป็นใครต่างก็ปรารถนา และยิ่งเป็นสมบัติของหงจวินด้วยแล้ว! ใครที่ได้รับ จะกลายเป็นยอดคนในทันที ช่างน่าเสียดายที่ไม่ว่าจะเป็นใครก็ไม่สามารถหามันได้ แต่ท้ายที่สุดก็อยู่ในการจับตาของราชันย์เทพตะวันออกไท่อี้.
ทั้งคู่นั้นรู้เกี่ยวกับแผนการของราชันย์เทพตะวันออกเป็นอย่างดี เป็นแผนการที่ทะเยอทะยานเป็นอย่างมาก.
ทั้งคู่ที่รอคอยอย่างตื่นเต้น พรุ่งนี้ ก็จะครบห้าวันแล้ว.
และวันดังกล่าวนั้นก็คือวันที่สองพี่น้องเฟยเกอและจูกานออกมาจากเมืองหลังจากกินอาหารเสร็จจากภายในเมืองปุถุชนแห่งหนึ่งนั่นเอง.
ขณะที่ทั้งคู่กำลังพูดคุยกันเรื่องอาหาร พร้อมกับมุ่งหน้าเข้าไปในป่าแห่งหนึ่ง.
ระหว่างเดินทางนั้น ที่เอวของเฟยเกอ จู่ ๆ ก็เกิดเป็นแสงสีทองมากมายโผล่ออกมาทันที.
"อะไรนี้ เกิดอะไรขึ้น?"เฟยเกอที่ลูบคลำไปที่เอวตัวเอง คว้าไปยังสิ่งของสิ่งหนึ่งที่กำลังเปล่งแสง.
สิ่งของดังกล่าวนั้น ทำให้ดวงตาของทั้งคู่เบิกกว้างขณะจ้องมอง.
เฟยเกอที่นำลูกแก้วลูกหนึ่งออกมา ที่ด้านในนั้นมีดวงดาวขนาดใหญ่ดวงหนึ่ง รอบ ๆ ดวงดาวนั้นมีดาวเคราะห์เก้าดวงกำลังโคจรรอบ ๆ ดวงดาราดังกล่าวช้า ๆ เป็นเหมือนกับที่เจี่ยหยินเคยอธิบายให้กับจงซานฟัง ตำหนักจื่อเซียว.
ทว่าเวลานี้ลูกแก้วดังกล่าวนั้น จู่ ๆ ก็เปล่งแสงสีทองออกมา มีอักษรรูนขนาดใหญ่ที่เปล่งแสงสีทองออกมา.
"อะไร เกิดอะไรขึ้น?"จูกานที่เผยท่าทางประหลาดใจเป็นอย่างมาก.
"หมายความว่าอย่างไร? มันเปล่งแสงได้อย่างไร?"เฟยเกอที่กลายเป็นงงงวยเช่นกัน.
ด้วยพลังฝึกตนของทั้งสองคน แน่นอนว่าไม่สามารถมองเห็นอักษรรูนได้ รู้เพียงแค่ว่ามีแสงสีทองสว่างจ้าส่องออกมา.
"เฟยเกอ หรือพวกเราจะได้กลับบ้านแล้ว?"จูกานที่ดวงตาเป็นประกาย.
"ไม่รู้ อาจจะเป็นเช่นนั้นก็ได้!"เฟยเกอที่เผยท่าทางตื่นเต้นดีใจขึ้นมาเช่นกัน.
"ครืนนนน ~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~!”
แสงสีทองที่ยังคงเปล่งแสงออกมาไม่หยุด จากนั้นมันได้ดิ้นไปมาจนหลุดออกจากมือของเฟยเกอ พุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้า.
"ไม่ได้การแล้ว!"เฟยเกอที่ตะโกนออกมาเสียงดัง.
ทั้งคู่ที่นำกระบี่เหินเตรียมบินขึ้นไปบนอากาทันที ทว่าลูกแก้วที่ลอยขึ้นบนกลับไปอยู่บนอากาศก่อนที่จะหยุดนิ่งไม่เคลื่อนไหว.
"เอ๊ะ?"
บนลูกแก้วดังกล่าว ปลดปล่อยควันสีฟ้ามากมายออกมาในทันที ควันสีฟ้าที่ลามขยายออกไปทั่ว ๆ จากนั้นก็ปรากฎตำหนักขนาดใหญ่โตผุดขึ้นมาบนอากาศที่ว่างเปล่า.
ตำหนักที่มีขนาดใหญ่มาก เพียงแค่รูปร่างของมันเมื่อปรากฎแล้วแรงกดดันที่หนักหน่วงรุนแรงก็แผ่ออกมากดทับทั่วทุกสารทิศ จนทำให้จิตใจพวกเขาสั่นสะท้าน.
แรงกดดันที่หนักหน่วงนั่น กดทับจนพวกเขาฟุบลงกับพื้น.
"วีดดดดดดด ~~~~~~~~~~~~~~~~!”
ห้วงมิติรอบ ๆ ที่สั่นไหวไปมาในทันที.
"แผ่นดินไหว?"จูกานที่ตื่นตะหนกตกใจใบหน้าเปลี่ยนสี.
บนอากาศเวลานี้ ปรากฎภาพเงาตำหนักขนาดใหญ่ขึ้นมา เมฆมากมายบนท้องฟ้าที่ถูกกวาดออกไป ถูกแทนที่ด้วยตำหนักขนาดใหญ่ ในรัศมีหนึ่งหมื่นลี้กลายเป็นท้องฟ้าโปร่งใสไปในทันที.
ไม่ไกลออกไป จากตำแหน่งของเหริ่นชุนและกุยเชอที่ดวงตาเบิกกว้างกลมโต.
ทั้งคู่ที่รอคอยมานานแล้ว ในเวลานี้ภาพเงาของตำหนักจื่อเซียวปรากฎขึ้นไม่ไกลจากพวกเขา.
"ออกมาแล้ว เหริ่นชุน ไป!"กุยเช่อเอ่ย.
จากนั้น ทั้งคู่ที่พุ่งตรงไปยังทิศทางของภาพเงาตำหนักจื่อเซียว.
อาณาเขตหนานจานปู่ วิหารเต๋าทางเหนือ.
ปราชญ์เทพเจียงยวีที่กำลังพูดคุยกับกลุ่มเซียนบรรพชน ทว่าในเวลานั้นเจียงยวีที่จ้องมองไปยังทิศตะวันออกเฉียงใต้.
"อาจารย์!"ชายในชุดสีแดงที่ใบหน้าเปลี่ยนเป็นซับซ้อน.
"ตำหนักจื่อเซียวออกมาแล้ว ไป!"เจียงยวีที่ก้าวออกไปร่างกายของเขาที่หายไปในทันที.
กลุ่มเซียนบรรพชนมากมายที่เร่งรีบเดินทางไปอย่างรวดเร็ว.
วิหารเต๋าตะวันตก.
"เซิ่งหวัง กลิ่นอายนี้ ตำหนักจื่อเซียว?"หวังคูที่อุทานออกมาด้วยความประหลาดใจ.
เหล่าเซียนบรรพชนคนอื่น ๆ ใบหน้าเปลี่ยนเป็นซับซ้อน ชัดเจนว่าพวกเขาสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายที่แปลกประหลาดนี้ด้วย.
"ไกลขนาดใหน?"จงซานที่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.
"ตะวันออก ค่อนข้างไกล!"หวังคูเอ่ย.
คนอื่น ๆ ต่างก็พยักหน้ารับ.
"ในเมื่อสามารถสัมผัสกลิ่นอายได้ คงมียอดฝีมือมากมายที่เดินทางไป พวกเราไม่จำเป็นต้องไป!"จงซานที่ส่ายหน้าไปมา.
"รับทราบ!"ทุกคนที่พยักหน้ารับ.
ภายในหุบเขาแห่งหนึ่ง ชายชราที่นั่งบำเพ็ญอยู่ด้านในค่ายกล ทันใดนั้นดวงตาของชายชราที่ลืมขึ้น ก่อนที่ร่างกายของเขาจะหายไปอย่างรวดเร็ว.
ใต้แม่น้ำขนาดใหญ่ สตรีผู้หนึ่งที่นั่งบำเพ็ญอยู่ลืมตาขึ้น ก่อนที่ร่างกายของนางจะหายไปในทันที.
ภายในตำหนักที่ฝั่งอยู่ใต้ดิน ชายในชุดสีเขียว ทันใดนั้นก็ลืมตาขึ้น ก่อนที่ร่างกายของเขาจะเคลื่อนไหวพุ่งออกไปอย่างรวดเร็ว.
..................
............
......
ทั่วทุกสารทิศของเขตแดนหนานจานปู่ที่กลายเป็นวุ่นวายในทันที เหล่าเซียนบรรพชนทุกคนที่สัมผัสได้ ทุกคนเข้าใจได้ในทันที ก่อนที่จะเร่งรีบพุ่งตรงไปยังเป้าหมาย.
เหริ่นชุนและกุยเช่อปกปิดกลิ่นอายเอไว้ พร้อมกับเร่งรีบใช้พลังพุ่งเข้าไปเต็มกำลัง เพราะทั้งคู่รู้ดีว่าตำหนักจื่อเซียวที่เกิดขึ้นมานั้น ยอดฝีมือมากมายย่อมรู้ตัว พวกเขาไม่สามารถอยู่นานได้ ไม่เช่นนั้นพื้นที่รอบ ๆ จะกลายเป็นที่ชุมนุมของยอดฝีมือ.
ทั้งคู่ที่มาถึง ใช้สัมผัสเทวะกวาดตามองไปยังรอบ ๆ เวลานี้ไม่มียอดฝีมือที่ร้ายกาจ เพราะปรกติแล้วพื้นที่แห่งนี้แม้แต่เซียนธรรมดาก็ไม่มี.
ส่วนสองพี่น้องอ้วนผม พวกเขาเป็นเพียงปุถุชนที่อ่อนแออย่างที่สุด จึงไม่อยู่ในสายตาของพวกเขาตั้งแต่แรกแล้ว.
สองพี่น้องอ้วนผอมเวลานี้ ร่างกายขยับไม่ได้เพียงแค่กลิ่นอายที่กดทับลงมา พวกเขาก็หายใจได้อย่างยากลำบากแล้ว.
นับตั้งแต่ตำหนักจื่อเซียวปล่อยกลิ่นอายจนพวกเขาถูกสะกดเอาไว้ พวกเขาไม่ได้รู้สึกหวาดกลัว ทว่าก็ไม่มีความแข็งแกร่งจะต้านเอาไว้ได้เช่นกัน.
"เหริ่นชุน รีบนำสิ่งของดังกล่าวไปเร็วเข้า!"กุยเชอเอ่ย.
"อืม!"เหริ่นชุนที่พยักหน้ารับ.
ภาพเงาตำหนักจื่อเซียวยังคงปรากฎขึ้นมา เหริ่นชุนที่เร่งรีบยื่นมือออกไปคว้าไปยังลูกแก้วที่ลอยอยู่บนท้องฟ้า.
บนพื้น สองพี่น้องอ้วนผมที่ยากจะเงยหน้าขึ้น ได้แต่มองเหริ่นชุนกำลังนำลูกแก้วตำหนักจื่อเซียวไป.
"ไม่ได้การแล้ว จูกาน มีบางคนกำลังขโมยของพวกเราไป!"เฟยเกอที่ตะโกนออกมาด้วยความโกรธ.
"?"ใบหน้าของจูกานบิดเบี้ยว ยากที่จะเงยหน้าขึ้นได้.
ทั้งสองคนที่ทำได้ตอนนี้คือจดจำใบหน้าของคนทั้งสอง.
ส่วนเหริ่นชุนและกุยเชอนั้นแทบไม่สนใจกับการคงอยู่ของคนทั้งสองแม้แต่น้อย.
เหริ่นชุนที่คว้าไปยังลูกแก้ว ในเวลานั้นภาพเงาตำหนักจื่อเซียวที่หายไปทันที.
เหริ่นชุนและกุยเชอทันทีที่ได้ตำหนักจื่อเซียว ก็เร่งรีบบินหนีไป ไม่กล้าช้าแม้แต่น้อย.
"หยุด!"
เฟยเกอที่เร่งรีบขี่กระบี่เหินพุ่งตามไปทันที.
"บัดซบ หยุดเดี๋ยวนี้!"จูกานที่ตะโกนพร้อมกับขี่กระบี่เหินตามไปด้วยเช่นกัน.
ทั้งสองที่หายใจหอบ ภายในลูกแก้วนั่น มันคือครอบครัวของพวกเขา พวกเขาจะยอมให้คนอื่นขโมยครอบครัวของตัวเองไปได้อย่างไร?
ทั้งคู่ที่มีพลังฝึกตนเพียงก่อตั้งวิญญาณและยังใช้กระบี่เหินในการบิน ด้วยความเร็วของพวกเขาทั้งวันยังบินไม่ข้ามเทือกเขาแห่งหนึ่งด้วยซ้ำ ทว่าความเร็วของเหริ่นชุนและกุยเชอนั้นพริบตาเดียวก็เคลื่อนที่ไปหลายแสนลี้แล้ว.
"บัดซบ หยุดเดี๋ยวนี้ นำของ ๆ ข้าคืนมา!"จูกานที่คำรามดัง.
"เจ้าพวกสารเลว ขโมยสมบัติของข้า!"เฟยเกอที่คำรามด้วยความโกรธ.
ทว่า ร่างสองร่างที่หายไปอย่างรวดเร็ว ภายในใจของคนทั้งสองที่เย็นยะเยือบเจ็บปวดแทบขาดใจ.
"เหมย(น้องสาว)!"
"เหมย!"
"เหมยของข้า!"
"เจี่ยของข้า!"
เสียงโหยหวนเจ็บปวดดังขึ้น หากแต่พลังของทั้งสองฝ่ายนั้นแตกต่างกันมากมายนัก พวกเขาไม่สามารถไล่ตามคนทั้งสองได้.
ผ่านไปเพียงครึ่งวันหลังจากนั้น.
"ครืนนน!”
เซียนบรรพชนที่เริ่มเดินทางมาถึงสถานที่ภาพเงาตำหนักจื่อเซียนปรากฎขึ้นก่อนหน้านี้.
คนแล้วคนเล่าที่มาถึง เหล่าเซียนบรรพชนที่แข็งแกร่งน่าเกรงขามได้มาถึงติด ๆ กัน.
ทว่าทุกคนที่จ้องมองไปรอบ ๆ แต่ไม่สามารถมองเห็นตำหนักจื่อเซียวได้.
หลายคนที่เร่งรีบตรวจสอบพื้นที่รอบ ๆ พวกเขาที่ตรวจสอบพื้นที่ทุกแห่ง ทุกคนรู้ดีว่าตำหนักจื่อเซียวนั้นไม่สามารถเก็บเข้าไปในกำไลเก็บของได้ พวกเขาจะต้องหาเจออย่างแน่นอน.
ทว่ายอดฝีมือมากมายที่มาชุมนุมในที่แห่งนี้ ทว่าไม่มีใครได้ร่องรอยตำหนักจื่อเซียวเลย.
เหล่ายอดฝีมือที่ตื่นตระหนกพร้อมกับเผยท่าทางเป็นกังวล.
เพียงแค่ครึ่งวันเท่านั้น พวกเขาก็ไม่พบอะไรแล้ว พื้นที่รอบ ๆ เต็มไปด้วยสัมผัสเทวะของเซียนบรรพชน ทว่าก็ไม่มีใครพบอะไร.
ทว่าหากจะกล่าวล่ะก็ บนเชิงเขาแห่งหนึ่งที่อยู่ไกลออกไป.
"เหมย เกอไม่ยุติธรรมต่อเจ้า เจ้าสองตัวบัดซบนั้นแข็งแกร่งเกินไป เกอไม่สามารถช่วยเจ้าได้! ฮัว เสี่ยวฮัว ฮืออออ............”
"บัดซับ เจี่ยของเจ้า ปัง ปัง ข้าจะแต่งกับเจ้าได้อย่างไร......!”
....................................
........................
............
ราวกับฟ้าถล่ม แผ่นดินทลาย ทั้งคู่ที่ร้องให้ฟูมฟาย เสียงร้องไห้ที่เต็มไปด้วยความเจ็บทรมาน ความเศร้าที่อัดอั้นจนต้องร้องไห้ออกมาไม่หยุด.
เหล่าเซียนบรรพชนที่ได้ยินเสียงของทั้งสอง ถึงกับทำให้จิตใจของพวกเขาสั่นไหวเช่นกัน.
"ครืนนน!"
ชายในชุดสีน้ำเงินคนหนึ่งที่ปรากฎขึ้นในทันที.
"คารวะปราชญ์เทพเจียงยวี!"เหล่าเซียนบรรพชนที่แสดงความเคารพ.
ปราชญ์เทพเจียงยวีพยักหน้า จากนั้นก็กวาดตามองพื้นที่รอบ ๆ เหล่าเซียนบรรพชนเองก็กวาดตาจ้องมองเช่นกัน.
ช่างน่าเสียดาย แม้แต่เจียงยวีก็ไม่สามารถค้นหาตำหนักจื่อเซียวได้แล้ว เหริ่นชุนและกุยเช่อที่เดินทางมานั้น พวกเขาที่ปกปิดร่างกายตัวเองเอาไว้ด้วยวิถีลี้ลับ และลบร่องรอยของตัวเองเอาไว้อีกด้วย.
"เจียงยวีที่กวาดตามองสำรวจเรียบร้อยแล้วก็ถอนหายใจเบา ๆ .
เสียงถอนหายใจที่เหมือนกับคนอื่น ๆ ตำหนักจื่อเซียวที่ปรากฎขึ้นมาพริบตาเดียวเท่านั้น จากนั้นก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย.
เหล่าเซียนบรรพชนที่มาถึงก่อน แน่นอนว่าพวกเขาไม่ได้สงสัยเหล่าปุถุชนรอบ ๆ ที่ห่างไกลออกไปนั้นมีเมืองปุถุชนเช่นกัน เจียงยวีได้สำรวจดีแล้ว หากแต่ไม่พบอะไร เวลานี้มีเพียงแค่ชายสองคนที่อยู่ไกลออกไปที่กำลังร้องให้ฟูมฟาย.
"เฟยเกอ พี่สาวของข้า น้องสาวของท่าน ถูกเจ้าสองคนบัดซบนั่นแย่งไปแล้ว พวกเราจะทำอย่างไร ข้าไม่สามารถซื้อรถแทรกเตอร์ให้กับพวกเขาได้แล้ว!"จูกานที่ร้องไห้โหยหวน.
"เจ้าสารเลวสองตัว ขโมยภรรยาของบิดา ขโมยน้องสาวของบิดา ขอให้พวกมันเป็นหมันไร้ทายาท!"เฟยเกอที่สาปแช่ง.
"ใช่ ขอให้มันไม่มีทวารหนัก ให้ลูกสาวมันไม่มีรูตูด!"จูกานที่สาปแช่งเพิ่มเต็มทันที.
เหล่าเซียนบรรพชนถึงกับใบหน้ากระตุก อันธพาลเหล่านี้ช่างสาปแช่งได้อย่างแสบสัน เจ็บแสบนัก.
"อาจารย์ ดูเหมือนว่าคู่บำเพ็ญพวกเขาจะถูกแย่งไป ถึงได้ร้องไห้ฟูมฟายเช่นนั้น!"คนผู้หนึ่งที่เอ่ยออกมา.
"ภายในโลกนี้ มีเรื่องราวมากมาย อย่าสนใจ ไป."ปราชญ์เทพเจียงยวีที่ถอนหายใจ ก่อนที่จะพาคนของเขาหายไปในทันที.
ทว่าเหล่าเซียนบรรพชนคนอื่น ๆ ที่จ้องมองคนทั้งสองที่กำลังร้องไห้ฟูมฟายเผยท่าทางแปลก ๆ เช่นกัน.
เหล่าผู้ฝึกตนนั้น จำเป็นต้องฝึกฝนจิตใจให้เข้มแข็งเหมือนศิลา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องใดก็สามารถผ่านไปได้ เรื่องที่ต้องร้องไห้นั้น ไม่มีอย่างแน่นอน.
เหล่าเซียนบรรพชนที่ได้แต่ส่ายหน้าไปมา ก่อนที่ทุกคนจะจากไป.
มีหลายคนที่รอคอยอยู่รอบ ๆ พื้นที่แห่งนี้สองวันสองคืน ทว่าก็ไม่ได้ร่องรอยอะไรก่อนที่จะจากไปในที่สุด.
เฟยเกอและจูกาน พวกเขาที่เป็นเพียงปุถุชน สิ่งที่พวกเขาแสดงออกมานั้นตรงไปตรงมา มันคือความรู้สึกที่แท้จริงที่ถูกเหริ่นชุนและกุยเชอแย่งชิงลูกแก้ว สถานที่พวกเขาออกมา ความเสียใจที่ทำให้พวกเขาร้องไห้สามวันสามคืน.
หลายร้อยปีที่พวกเขาดูแลลูกแก้ว ซึ่งมีโลกที่พวกเขาจากมา จู่ ๆ ก็มีคนแย่งชิงมันไป ทั้งสองจะไม่เสียใจได้อย่างไร?
"เฟยเกอ พวกเราจะทำอย่างไร?"จูกานที่ค่อย ๆ หยุดร้องไห้และกล่าวออกมา.
"บัดซบ ข้าจำหน้าพวกมันได้ เพื่อฮัว น้องสาวของข้า ข้าจะต้องนำลูกแก้วนั้นกลับมา!"เฟยเกอที่กล่าวออกมาอย่างมุ่งมั่น.
"เพื่อ ปัง พี่สาวของข้า ข้าจะต้องหาเจ้าตัวบัดซบทั้งสองให้เจอ!"จูกานที่เอ่ยออกมาอย่างหนักแน่นเช่นกัน.